เรื่องวุ่นวายยังไม่จบ อีก 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีเสียงรถพยาบาล วิ่งเข้ามาที่หอนอน และเสียงประกาศสั่ง จากมาสเตอร์ ว่าให้ทุกคนอยู่แต่ในห้องห้ามออกมาวุ่นวาย และเมื่อเช้าถัดมาเสียงเล่าลือซุบซิบไปทั่วว่า พี่โบว์อกหัก กินยาเกินขนาด ตอนนี้โคม่าอยู่โรงพยาบาล
เอดักพบบอส ก่อนทางเข้าโรงอาหาร
"บอสเรามีอะไรจะคุยด้วย"
ได้สิ แต่เรายังไม่ว่างนะ แม่เรา อยากให้เราไปช่วยก่อน
แม่ของบอส ประมูลร้านอาหารในโรงอาหารของโรงเรียน ได้ทุกปี ร้านของแม่บอสก็จะเป็นอาหาร แบบพวกข้าวแกงตามสั่ง และถ้าเพื่อนคนไหนสนิทสนมกันก็จะแอบเอาอาหารที่พ่อกับแม่ให้จากบ้านมาฝากในตู้เย็นของร้านนี้ อย่างเช่นไอ้โจที่ชอบเอาเป็ดไก่มาฝากไว้เป็นประจำ
ช่วง ประมาณ11.45 หน้าที่ของบอสก็คือ ช่วยหยิบนั่นจับนี่ส่งแม่ในครัวจนกว่าจะถึงเวลา 12:45 น ซึ่งเขาจะต้องไปกินอาหารและเตรียมตัวเข้าชั้นเรียนต่อไป
เอรอ 45 นาทีนั้นอย่างกระวนกระวาย จนกระทั่งบอสยิ้มแผล่ออกมาจากครัวพร้อมข้าวผัด 2 จาน
"มีอะไรลับนักหนาอะไรด่วนถึงขนาดรอที่โต๊ะนางฟ้าไม่ได้..ฮึอีเอ " จีบปากจีบคอกะแหนะกะแหนเพื่อน
บอสไม่ได้เป็นสาวสองเขาเป็นชายหนุ่มเจ้าเนื้อตัวกำยำผิวเข้มผมหยักศกดำสนิท เจ้าของแววตาวับวาว
ถ้าใครไม่รู้ว่าเอไปเรียนสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิกับเพื่อนคนนี้ เขาก็คงคิดว่านี่คือแฟนเบอร์ 2 ในลิสต์ของหนุ่มของเรา
"เราว่าวันก่อนเราเจอ... เอหันหน้าหันหลังมองซ้ายขวา ก่อนจะพูดเบาๆว่า แต่นายห้ามบอกใครนะ"
หลังจาก สาธยายเรื่องราวยาวเหยียด บอสตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ย พยักหน้ารับฟังและ ถามแทรกขึ้นเป็นระยะระยะ
"แต่งตัวยังไงนะ"
แปลกๆอ่ะว่าลิเกก็ไม่ใช่ เป็นผ้านุ่งนะ ผืนยาว ไม่ใส่เสื้อด้วย กล้ามแน่นมาก เครื่องประดับมาเต็ม มีสังวาลย์สะพายเฉียงด้วยนะ
"อืม.... ใส่เครื่องประดับด้วยเหรอ งั้นคงไม่ใช่เลเวลชั้น ธรรมดา"
"หือ...คืออะไรล่ะแกร"
"เขาเดินตามคนในข่าวเมื่อเช้าที่เขาซุบซิบกันทั้งโรงเรียนใช่ไหม" บอสถามย้อน
"อือ...ใช่แปลกนะ ปกติน่ะ เขาจะมารับเฉพาะคนพิเศษคนมีบุญมาก ไม่งั้นก็จะให้ลูกน้องมา"
"โอ๊ยเลิกอมพะนำได้แล้วบอกมาเดี๋ยวนี้ นี่เครียดจะตายอยู่แล้ว ยิ่งตอนเขาหันมามองนะ ฉันนี่ขนลุกทั้งตัวเลย"
คือฉันไม่ได้ตามแกรไปเห็นเองอ่ะนะ ฉันก็แค่ประมาณการ คือปกติถ้าเราไปโรงพยาบาลน่ะ จะเจอพวกตัวสูงใหญ่ผิวดำทมึน นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง เดินขวักไขว่กันบ่อยๆนะ พวกนี้หน้าตา โกรธอยู่ตลอดเวลาเลย ส่วนที่จะเห็นแต่งตัวหล่อ ใส่เครื่องประดับหรูหรา ฉันก็เห็นแค่ครั้งเดียว ตอนป๊ากำลังจะจากไป ป๊าฉันน่ะ เขาป่วยติดเตียง อยู่ตั้งสองสามปี เขาคิดว่าตัวเองจะตายอยู่ตลอดเวลาเลย เขาก็เลยเตรียมพาน แล้วก็พระนาคปรก พระประจำ วันเกิด ของเขา วันเสาร์ ตั้งไว้บนหัวนอนตลอด ตอนป๊ามีชีวิตอยู่หน้าที่ฉันก็คือ ยกพานบนหัวนอนลงมาให้ป๊าจบ ก่อนนอนทุกวัน ป๊าก็จะสมาทานศีล 5 แกกลัวว่าจะ ตอนเช้าจะไม่ตื่น ขึ้นมาอีกน่ะ ตอนนั้นฉันก็อายุซัก10ขวบได้มั้งยังไม่มาเรียนที่นี่เลย
วันนั้นฉันหลับ ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ลืมไปยกพระให้ป๊า รู้สึกตัวอีกทีสัก 4-5 ทุ่มได้มั้ง ก็เลยรีบวิ่งไปหาป๊าที่ห้อง ปกติป๊าจะเปิดทีวีไว้ปลายเท้า แล้วก็นอนดูอะไรเล่นทั้งวัน ทีวียังเปิดอยู่แสดงว่าป๊ายังไม่นอน ฉันก็เลยจะเข้าไปทำหน้าที่ยกพระเหมือนเดิม แต่เห็นป๊ามีแขกมาหา ฉันก็ไม่กล้าเข้าไปได้แต่แอบมองอยู่ตรงหน้าประตู
ผมพร้อมแล้วครับท่าน รอท่านอยู่นานทีเดียว ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้วครับ ประกันชีวิตก็ทำแล้ว ลูกก็เริ่มโตแล้ว เมียก็มีงานทำ ขอบคุณท่านมากครับเราไปกันเลยเถอะ อยากอัพเกรดร่างกายไม่อยากนอนติดเตียงแล้วครับ
เสียงป๊าแว่วออกมา สำหรับฉันก็คือ เห็นป๊าลงจากเตียง กระปรี้กระเป่า ป๊าเดินได้!!! ใบหน้าอิ่มเอิบมีรอยยิ้มเหมือนไม่เคยป่วย
แขกของป๊าเดินนำหน้า ใส่ผ้านุ่งแดง เครื่องประดับจัดเต็มเหมือนในละคร หล่อเหลากำยำ ผมยาวมุ่นเป็นมวย หันมาสบตาบอสซึ่งยืนนิ่งอยู่ข้างประตูแป๊บนึง ก่อนยิ้มอ่อนอ่อนให้แล้วหายแว๊บไป
ตอน 10 ขวบไม่ทันได้รู้อะไรหรอก เล่าให้แม่ฟัง แม่โกรธเอาอีกด้วย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้นะว่าป๊าตาย ก็เห็นหลับ เลยกลับไปนอนต่อ มารู้ตอนเช้า
สันนิษฐานจากการที่พี่โบว์ป่วยหนักโคม่า ฉันคิดว่าคนที่แกรน่าจะเจอน่าจะเป็น "พญายมราช" สิ้นคำเล่ายาวเหยียด
"หา!!!! " เอแทบกรี๊ด ออกมาเสียงดังต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองไว้ใครรู้เรื่องนี้ต้องว่าเราบ้า
อย่าคิดมากน่ะคนดีเท่านั้นนะถึงจะเห็นเทวดา ผีน่ะคนหลาบคนก็เห็นได้ แต่เทวดาน่ะเห็นได้ยากมากเลยนะ
ชัชเทวบุตรจ้องมองลงไปในบันทึกความทรงจำของนายทวี มันสนุกมาก มันคือทีวี หรือ netflix ของ ชาว เทวดา นี่ เอง เมื่อก้มหน้าลงอ่านในบันทึก ก็ถูกดูดลงไปในเวลานั้นทันที ได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เหมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นด้วย เพียงแต่สัมผัสแตะต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขไม่ได้ และไม่มีใครเห็นว่ามีตัวตนยืนอยู่ มองอยู่ ทุกอย่างมันฉายชัดยิ่งกว่าหนัง3Dแว๊บเดียวพยายมราชคนใหม่ล่าสุดก็ไปยืนอยู่ท่ามกลางพิธีจบการศึกษาชั้นม.6ซะแล้ววันฉลองจบการศึกษารับประกาศนียบัตร ฉันจำได้ดี เป็นวันที่มีความสุข ที่สุดในชีวิตนักเรียนนายทวี บุญอารักษ์ ชั้นม. 6 เกรด 3.97เสียงมาสเตอร์ประกาศดังลั่นไมโครโฟน ชั้นลุกขึ้น เพื่อเดินขึ้นไปรับประกาศ เอามือจับกลีบกางเกงเล็กน้อย ลูบผมให้เรียบแปล้ วันนี้ห้ามติดกิ๊บ ครูเขาขอไว้ ทำตัวให้ ดูธรรมดา ที่สุด ก็จะมีผู้ปกครองคนอื่นมาจำนวนมาก แม่ก็ไม่มาเหมือนเคยแต่ก็ใครสนกันล่ะ ชินแล้ว ครูไม่ประสงค์จะให้ใครรู้ว่าที่นี่มีแก๊งค์นางฟ้า ทำตัวให้แมนที่สุด เพื่อที่จะได้ถ่ายรูป ปี 2552 มันก็แบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าอีก 10 ปีต่อมาเขาจะมีสมรสเท่าเทียม และไม่มีใครรังเกียจชายใจหญิงอย่างพวกเราแล้วใจหายเหมือนกันน
500 บาทแรก หมดไป กับ ค่าข้าวเย็นค่ารถทัวร์ ค่ามอเตอร์ไซค์ เดินทางตะลอนหาที่พัก ห้องเช่าที่แตกต่างจากหอนอน ที่โรงเรียนราวฟ้ากับเหว เป็นห้องเล็กๆที่มี โต๊ะ 1 ตัวอยู่ปลายเท้า เตียงนอนขนาด 3.5 ไม่มีแอร์ พัดลม เพดาน หมุนติ้ว เหมือนกำลังจะหล่นใส่หัว ห้องน้ำรวม แต่พออยู่ได้. ราคารวมน้ำไฟแล้วเดือนละ 1,200 บาท เหลือ 300 บาท กับเศษเหรียญและแบงค์ 20 ตังค์ทอน รวมๆแล้วไม่เกิน 400คนที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่ ก็คือ คนขายของหาบเร่ ผู้หญิงหากิน สาวเชียร์เบียร์ แม่ค้าส้มตำ สาวเสิร์ฟ และนักเต้น คาบาเร่ กลุ่มเป้าหมายในใจของเอ ที่มาพัทยาคราวนี้ก็ตั้งใจมาก ที่จะมาหากินในทางที่ตัวเองถนัด ก็คือเขาชอบเต้นแล้วก็อยากเป็นหลังจากได้ห้องเก็บกระเป๋าแล้ว ก็ไม่รู้จะหันไปทางไหนต่อ ไม่รู้จักใครเลย ได้แต่ส่งยิ้มจางๆ ให้กับคนรอบตัวที่หันมาสบตา ลงนึกภาพตามนะกระเทยหัวโปก หมายถึง ผมสั้นเกรียน แบบเด็กนักเรียนจบใหม่ หน้าขาวแก้มนิ่ม ขนตางอนยาว อ่อนไหวและอ่อนวัย ไร้ประสบการณ์ นี่มันคือ เจ้าหมูตัวขาวที่รอ หมาจิ้งจอกมาจับเหยื่อชัดๆเอ เดินออก มานั่งหน้าห้อง ยามนี้โพล้เพล้แล้วพระอาทิตย์กำลังจะตกดินท้องฟ้าเป็นสีวนิลา ห้องเช่าทำ แผงสั
เมื่อทั้ง 3 คนมาถึงหน้าอภิมหาอาคารหรู มันไม่ใช่คฤหาสน์แต่มันเป็นอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีที่จอดรถด้านหน้า พร้อมทั้งวงเวียนน้ำพุรูปม้ากำลัง กระโจนโผเผ่นทะยาน ชัชเทวบุตรก็มากับเขาด้วย อารมณ์เหมือน นั่งมาบนหลังคารถ ตอนที่เขายังมีชีวิต เป็นมนุษย์อยู่ เขาก็ไม่ได้ท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ นี่คือการเปิดหูเปิดตาแท้ๆทั้ง 3 คนลงจากแท็กซี่ พี่แป๊ดกรีดนิ้วโชว์เล็บปลอมขนาดยาว ราวกับว่าจะไปฟ้อนเล็บหลังเลิกงาน ส่งสัญญาณ บอกให้รปภ.เปิดประตูให้ เหมือนแกมาหลายครั้งแล้วพนักงานรักษาความปลอดภัยยิ้มมุมปากแล้วกดเปิดประตู อัตโนมัติ สีดำติดฟิล์มหนา ให้ทันที ทั้งสามคนเดินผ่านซุ้มประตูโค้งส่งโรมัน ที่ ข้างเสาคู่ด้านหน้ามีคิวปิดคู่นึงสีขาวประดับอยู่เป็นคิวปิดที่ไม่ใช่ เด็กผู้ชาย มีปีก ผมลอน ถือลูกศรแล้วแก้ผ้า แต่เป็น รูปปั้น คิวปิด ปูนปลาสเตอร์ ชายหนุ่ม กล้ามโต มีปีกผมลอน ขนาดเท่าคนจริงใช้มือปิดอวัยวะส่วนลับ ที่ใหญ่ราวกับ ห่อข้าวมันไก่ ท่าทางเหนียมอาย เหมือนว่าศิลปินผู้ปั้นจะประสบความสำเร็จเพราะไม่มีใครเลย เดินผ่าน โดยไม่มอง แถมยังอยากจะมองให้ทะลุมือผ่านไปอีกด้วยซ้ำผ่านประตูเข้าไปแล้ว ที่นี่ก็คือฮอลล์ขนาดใหญ่ ได
เมื่อเปิดประตูเข้าไปมีเสียงผู้ชายกรีดร้อง แบบสาวแตกในขณะที่พี่แป๊ดก็ร้องเหมือนกันโอ๊ย...อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกใน แกโวยเสร็จก็หุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันใดนั้นเอง ยังไม่ทันที่อีก 2 คนจะโผล่หน้าตามเข้าไปในห้อง รวมทั้งชัดเทวบุตรที่ต่อคิวเป็นคนที่ 4 ด้วย ทั้ง 3 ก็ต้องผงะออกมา เพราะประตูถูกเปิดสวนทาง สาวผมบลอนด์ยาว จะใส่ชุดแซกสั้นที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่ เอามือขวาปิดปาก มือซ้ายดึงชายกระโปรง แล้ววิ่งพรวดพราดสวนไปทันที. เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อพี่เรียมแทรกตัวเข้าไปได้ เอก็ตามไปติดๆ สิ่งที่เห็นคือ ผู้จัดการ นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ด้านหลังโต๊ะทำงาน เป็นกระจกสูง มองเห็นวิวของเมืองพัทยาทั้งเมืองรวมทั้งโค้งชายหาดแสนสวย ผู้จัดการ เป็นชายไหล่กว้างตัวสูงเกือบ 2 เมตร ในชุดสูทหันหลัง และ มองเห็นภาพสะท้อนออกมาจากกระจกใส ทำท่าเหมือนกำลังใส่เข็มขัด ทั้ง 3 คนพี่แป๊ดเรียมและเอ ยืนเรียงกันหน้าโต๊ะเหมือนนักเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกมาทำโทษ พี่แป๊ดแก้มแดงไปจนถึงหู ส่วนพี่เรียมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เอก็เก้ๆกังๆ ชัชเทวบุตรลอยเลื่อนขึ้นไปนั่งบนโซฟา รอดูการแสดงอย่างใจจดใจจ่อ"เอาเงินมาส่
คืนนั้นพระจันทร์สว่างมาก น่าจะเป็นวันเพ็ญ แสง แสงจันทร์ส่องทาง สว่างกว่าแสงไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือ ชายหญิงคู่นึงประคองกันวิ่งกึ่งเดินอย่างรีบร้อนผ่านตรอก ผู้หญิงหิ้วกระเป๋าผ้าท่าทางมีน้ำหนัก ฝ่ายชายมือข้างนึงจับแขนหญิงสาวอีกมือกุมด้ามปืนไว้แนบขา"พี่ชัชฉันไม่ไหวแล้ว พักหน่อยได้ไหม""ไม่ได้ทนหน่อย อีกนิดเดียวก็จะเจอรถแล้ว เดี๋ยวพี่อุ้มณาไปชายหนุ่มเสียบปืนเข้าที่เข็มขัด สองมือช้อนเอาหญิงสาวอุ้มแนบอก อุณากอดกระเป๋าแน่นที่หวงนักหนาไม่ใช่เสื้อผ้าแต่คือเงินอัดแน่น พร้อมจะเอาไปสร้างอนาคตด้วยกัน ศีรษะซบลงบนอกชายหนุ่มคนรัก หัวใจของเขาเต้นดังมันดังมากเปรี้ยง.....ดังเหมือนฟ้าผ่าเสียงสุดท้าย ก่อนทุกอย่างมืดดำสนิทชัช เจ็บมาก. ก้มลงมองเห็น เลือดและเศษสมองกระจาย เต็มอก เค้ารู้สึกว่าโดนยิงจากทางด้านหลังแล้วก็ควบคุมร่างกายไม่ได้อีก อุณาเมียรัก ร่วงลงจากอ้อมกอดแล้วทุกอย่างก็มืดลงเสียงหวอดังสนั่น เสียงในวิทยุเจ้าหน้าที่ดังเป็นระยะ"เกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตสองศพ ชายหนึ่งหญิงหนึ่งคนร้ายหนีไปได้ครับท่าน" เสียงดังฟังชัดร้อยเวรรายงานผู้บังคับบัญชา"แล้วเหตุการณ์มันเป็นยังงัยหมวด"ชายวัยกลางคนใ
ชัช ไชนานนท์ ลืมตาอีกครั้งเขาอยู่บนบัลลังก์สีทอง บนตักของชายคนนึง ทั้งร่างคนผู้นั้นเปล่งประกายสีทอง ผิวกายดำแดง กำยำ สวมมงกุฎ ถอดเสื้อพาดเพียงสายสังวาลสีทองประดับอัญมณีสุดอลังการ นุ่งผ้าแดงทอสอดดิ้นละเอียดนุ่มเขาตื่นขึ้นสำรวจตัวเองมองเห็นเป็นในร่างผู้ชายโตเต็มวัย ผมยาว ผิวพรรณ ละเอียด เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เพียงก้มมองร่างก็พบว่าตนเองก็อยู่ในชุดละม้ายคล้ายชายผู้นั้น เพียงแต่แสงรอบกายไม่ได้มีประกายสว่างไสว ด้วยความตกใจจึงกระโดดลงจากตักชายผู้นั้นเทวบุตรอุบัติแล้ว เสียงดังก้องไปทั่วบริเวณเขากวาดตามองไปโดยรอบก็พบว่า คล้ายอยู่ในท้องพระโรง รอบตัว นอกจากตักชายบนบัลลังก์ที่เขาเพิ่งกระโดดลงมาแล้ว ทุกสิ่งก็ยังปูลาดไปด้วยพรมสีทองสลับแดง สัมผัสอ่อนนุ่มอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ลวดลายบนต้นเสาและผนัง วิจิตรบรรจงยิ่งนักที่แปลกกว่าคือคนรอบตัวล้วนจ้องมองมาที่เขาทั้งสิ้น ด้านซ้ายและด้านขวา มีตั่งที่นั่งขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีสมุดปกหนังเล่มใหญ่หนาหนักกางออก คนที่นั่งอยู่บนฝั่งนั้น ก็มีรูปร่างใหญ่โต ถอดเสื้อ ประดับกายด้วย เครื่องประดับอัญมณี งดงาม มองผิวเผินนึกว่าเป็นฝาแฝดกันทั้งซ้ายและขวา คน
ลูกเอ๋ย เมื่อเจ้ากำเนิดบนตักพ่อเจ้าจึงมียศเป็นเทวบุตร และเมื่อเจ้ากำเนิดก็แปลว่าพ่อจะพ้นจากกรรมและไปบังเกิด ในภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้นกว่านี้อย่ามึนงงไปเลย จงดมดอกไม้นี้แล้วจะเข้าใจความเองดอกปาริชาติดอกนึง ปรากฏขึ้นบนมือของชัชทันที ดอกปาริชาติหอมยิ่งสักเพียงไหน ดลจิตดลใจให้ระลึกถึงอดีตชาติปางก่อนความทรงจำหลั่งไหล หลายร้อยหลายพันชาติประเดประดัง จนนิ่งอึ้งกว่าจะประมวลผลได้เขาก็นิ่งอยู่นาน ทีเดียวในท้องพระโรงแห่งนี้ นอกจากเทวบิดาไกรสรเทพบุตรซึ่งดำรงตำแหน่ง พระยายมราชที่กำลังจะหมดวาระจากไป ส่วน ที่เห็นใกล้ตัว สุวรรณและสุวานด้านซ้ายขวาก็เป็นมือซ้ายและมือขวา ก็เป็นเทวดา ที่ช่วยเขาทำงาน นายทหารชายหญิงทั้งหลายที่มองเห็นก็ล้วนแต่เป็นดวงวิญญาณที่มา ชดใช้กรรม มีตำแหน่งและหน้าที่เป็นนายนิรยบาล ควบคุมลงทัณฑ์สัตว์นรก ทุกดวงวิญญาณต้องมาชดใช้ สิ่งที่ตนทำไป ทั้งนั้น และที่มองเห็น สีดำ พรีดไปจนสุดสายตานั่นก็คือเหล่าดวงวิญญาณที่มารอผลการตัดสิน พญายมราชเป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้นสามารถเปลี่ยนมือและส่งผ่านไปยังผู้มีบุญ ได้ และการที่เขาเกิดกำเนิดขึ้นนี้ ทำให้พระยายมราชองค์เดิมส่งผ่านอำนาจ และเปลี่ยนภพภูมิ
พาดหัวข่าววันนี้ สาวคาบาเรต์ โดนบุกบ้านทำร้ายสาหัส ตำรวจแจ้งเรื่องนี้อาจมีชู้สาวเกี่ยวข้อง เพื่อนบ้านเผยอาจเป็นฆาตกรรมมากว่าชิงทรัพย์ วันที่14 กุมภา ร.ต.อ. ชัยวุธ รัตนชัย รองสารวัตรสอบสวน สน.ห้วยขวาง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้บาดเจ็บสาหัส หน้าอาคารพาณิชย์หลังหนึ่ง ที่เกิดเหตุ พบสาวประเภทสอง ชื่อนายเอ(นามสมมุติ)อายุ30ปี ถูกตีด้วยเหล็กเกี่ยวประตูม้วน อาการสาหัส ข้าวของในบ้านกระจุยกระจาย และในบ้านพบนางเกรซและนายแป้ง(นามสมมุติ)มารดาและพี่ชาย โดนมัดและปิดตาอยู่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และ แก้ไขมารดาและพี่ชาย ซึ่งอยู่ในอาการตกใจ พอให้การเบื้องต้นได้ส่วนนายเอ (นามสมมุติ)หลังจากนำส่งโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตห้วยขวางกรุงเทพฯ ประเทศไทยไร้เสียง เหมือนโลกโดนดูด เสียง ออกไปทั้งหมด การเต้นของหัวใจช้าและเงียบงัน ปากและคอแน่นเต็มไปด้วยท่อ หัวปวดจนแทบระเบิด ตาลืมได้แค่ครึ่งข้าง แขนและขาไม่ต้องพูดถึง กระดิกกระดิกปลายนิ้วได้ก็บุญแล้ว มองเห็นชายผ้าม่าน ขยับไหว อยากจะส่งเสี