Share

ตอนที่ 10 : หงส์เฒ่า

last update Last Updated: 2025-03-14 04:33:54

เสียงกุกกักหน้าประตู ทำให้หยางหมิงอวี้ตัวแข็งเกร็ง หมุนตัวลงจากเตียง คว้าผ้าห่มมาคลุมร่างหญิงสาวไว้

อินทุภาซึ่งนอนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก็รีบก้มลงหยิบมีดสั้นที่ซ่อนไว้เตรียมพร้อมในทันที หยางหมิงอวี้ยกนิ้วชี้แนบที่ปากของเขา ทำสัญญาณให้เธออยู่นิ่งๆ ห้ามส่งเสียงใดๆ

“ใครอยู่ข้างนอก!?” เขาถามด้วยเสียงแข็งกร้าว พร้อมตั้งท่าตั้งรับสถานการณ์

“เอ่อ... หม่อมฉันเองเพคะ เสียว... เสียวหมี่” เสียงจากด้านนอกสั่นเครือเล็กน้อย ราวกับทั้งกลัวและเกรงใจ

หยางหมิงอวี้เหลือบมองอินทุภาแล้วเลิกคิ้ว เธอพยักหน้าให้เขาเปิดประตู เขารอให้อินทุภาใส่เสื้อให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงเดินไปเปิด

“เอ่อ... หม่อมฉันเห็นว่าท่านอ๋องไม่ได้เสด็จไปที่ห้อง ก็เลย... ลองมาดูที่นี่ เผื่อว่าท่านเยว่จะเป็นอะไรไหม” เสียงของเสียวมี่ตะกุกตะกัก ราวกับไม่ใช่ความตั้งใจที่อยากทำเช่นนี้

“เข้ามาก่อนเถอะ” หยางหมิงอวี้ถอยห่างจากประตู พร้อมเปิดทางให้เธอเข้ามา

เสียวมี่ทำตาโตเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง เมื่อเห็นคนเมาเมื่อตอนหัวค่ำ กำลังนั่งพิงพนักหัวเตียงอย่างสงบ ไม่มีอาการเมามาย เหมือนตอนที่เธอมาส่งก่อนหน้านี้เลยสักนิด

“ไฮ! เบบี้เกิร์ล เจอกันอีกแล้วนะ!” อินทุภายิ้มหวาน ยกมือกระดิกนิ้วทักทายแบบสบายๆ

“นั่งสิ” หยางหมิงอวี้ขยับเก้าอี้ตัวเองมาให้เสียวมี่นั่ง 

“มีอะไรที่พวกเราควรจะรู้หรือไม่ ช่วยบอกด้วย และขอยืนยันว่า เราจะช่วยกันขจัดภัยร้ายที่คุกคามชุมชนแห่งนี้ให้หมดสิ้น” หยางหมิงอวี้นั่งลงข้างเตียงที่อินทุภานั่งพิงอยู่ มือของเขาจับมือเธอไว้แน่นขณะที่พูดคำว่า “เรา”

เสียวมี่มองมือที่เกาะกุมกันอยู่นิ่งๆ เป็นครู่ ก่อนจะค่อยๆ พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก

“พวกเรา... อยู่กันอย่างยากลำบากเหลือเกินเพคะ โดนกดขี่ข่มเหง บังคับขู่เข็ญ...” เสียวมี่พูดได้เพียงเท่านั้นก็หยุดลง เพราะหยางหมิงอวี้ทำสัญญาณมือให้เธอหยุดพูด

ในขณะนั้น อินทุภาได้ยินเสียงนกฮูกดังขึ้นสามครั้ง หยางหมิงอวี้บีบมือเธอเบาๆ แล้วทำสัญญาณให้ทุกคนนิ่งเงียบ เขาค่อยๆ เดินไปที่หน้าต่าง เคาะสามครั้ง แล้วแง้มเปิดเพียงเล็กน้อย แต่หน้าต่างกลับถูกดันจากด้านนอกให้เปิดกว้างขึ้น

ชายคนหนึ่งในชุดดำ ผ้าคาดปากสีดำ ถือกระบี่สีดำเช่นเดียวกัน ก้าวข้ามหน้าต่างเข้ามาในห้อง แล้วทำความเคารพหยางหมิงอวี้อย่างนอบน้อม

“คารวะ ท่านอ๋อง”

“มีข่าวคืบหน้าหรือไม่?” หยางหมิงอวี้ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พ่ะย่ะค่ะ เอ่อ...” เขาหยุดชะงักเมื่อหันมาเห็นหญิงสาวที่นั่งพิงพนักเตียง

“คารวะท่านเยว่! ข้าน้อยหยางติง ท่านยังจำข้าได้หรือไม่?” เขาดึงผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สดใสและแววตาที่เต็มไปด้วยความยินดี

“ฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อนานมาแล้ว จำอะไรไม่ได้เลย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” อินทุภายิ้มจืดๆ พร้อมกับขอโทษอย่างสุภาพ

“พี่ติง! พี่ก็เป็นพวกเดียวกับท่านอ๋องหรือ?” เสียวมี่ลุกขึ้นเข้ามาจับแขนหยางติง ด้วยท่าทางที่ใสซื่อและเป็นกันเอง

“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงกับเจ้าเรื่องนี้” หยางติงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้ววางมือซ้อนทับมือเสียวมี่ที่จับแขนเขาอยู่

เสียวมี่ถอนใจเบาๆ ก่อนจะนั่งลง ก้มหน้านิ่งไปชั่วครู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมองอินทุภาด้วยแววตาที่หนักแน่น

“งั้นข้าน้อยจะบอกทุกอย่างให้เจ้าฟังค่ะ ทุกเรื่องที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นตอนนี้!” เสียวมี่ตัดสินใจได้ในที่สุด 

“ตั้งแต่ท่านอ๋องสร้างชุมชนนี้ขึ้นมา และอนุญาตให้พวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ พวกเราก็อยู่ดีกินดีมากกว่าแต่ก่อน แต่ไม่นานมานี้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ท่านหงส์หัวหน้าหมู่บ้าน จากที่เคยเป็นสุภาพชน กลับกลายเป็นนักบุญใจบาป จิตใจโหดร้าย ใช้อำนาจป่าเถื่อน โลภมาก!” 

เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธแค้น

“เขาออกกฎห้ามทุกบ้านทำมาหากินกันเอง ให้ไปรอรับอาหารที่ศาลากลาง ซึ่งก็มีแค่หมั่นโถวกับซุปผัก พวกผู้ชายที่ไม่ใช่ช่าง ต้องออกทำงานเหมือง พวกผู้หญิงที่อายุสิบแปดขึ้นไปจนถึงสี่สิบ ผลัดเวรกันไปปรนนิบัติหรือทำงานรับใช้ ส่วนผู้ที่อายุมากกว่าสี่สิบ ต้องไปช่วยงานในเหมือง ใครต่อต้านก็จะถูกเฆี่ยนด้วยแส้ บางครอบครัวพยายามจะหนีออกไป ถ้าถูกจับได้ ผู้ชายจะถูกซ้อมจนตาย ส่วนผู้หญิงจะถูกลงโทษโดยการรุมโทรมข่มขืน จนไม่มีใครกล้าที่จะคิดหนีอีก เขาบอกว่าเป็นกฎของหมู่บ้าน และเป็นคำสั่งของท่านอ๋อง ที่ให้พวกเราอยู่อย่างทาส เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องปฏิบัติตาม!” 

น้ำเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือ ยกหลังมือปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น

“ความจริงแล้ว..คืนนี้ข้าน้อยจะต้องถูกส่งไปปรนนิบัติบนเตียง เพราะอายุครบสิบแปดพอดี นับว่าสวรรค์ยังเมตตา ทำให้ท่านอ๋องเรียกข้าน้อยไว้ก่อน” เสียวมี่พูดจบก็ร้องไห้โฮออกมา

หยางติงนั่งลงคุกเข่าข้างเดียว ถือกระบี่ยันพื้นไว้ ส่วนอีกมือลูบผมและลูบหลังหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม

“ชายฉกรรจ์พวกนั้น ไม่ใช่นักเลงธรรมดา ที่อาวุธของพวกเขามีตราสัญลักษณ์ของทหารหลวง” หยางติงหันไปรายงานข้อมูลกับหยางหมิงอวี้

“เจ้าเจอหลักฐานอื่นอีกหรือไม่ ว่าเป็นของฝ่ายไหน?” หยางหมิงอวี้ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“กระหม่อมวางยาสลบคนเฝ้ายามหน้าประตู แล้วค้นเจอป้ายประจำตัว เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลเซียว ส่วนอีกป้ายเป็นตราอนุญาตผ่านทาง ประจำพระองค์ขององค์ชายสองพ่ะย่ะค่ะ” หยางติงตอบอย่างละเอียด

“ตระกูลเซียวรึ? พวกเขายื่นมือมาไกลถึงที่นี่เลยหรือ? ถ้าอย่างนั้น..เจ้าลอบออกไปส่งข่าวให้ในวัง สืบให้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของใครกันแน่ ข้าไม่เชื่อว่าเสด็จพี่จะอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ จากนั้นไปที่ค่าย นำกำลังมาซุ่มไว้โดยรอบหมู่บ้านและที่เหมือง รอสัญญาณจากข้าค่อยลงมือ”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หยางติงรับคำสั่งแล้วค่อยๆ ออกไปทางเดิมที่เข้ามา

“หยางติง แซ่เดียวกับพระองค์เลยนะเพคะ” อินทุภาถามด้วยความสงสัย

“เสี่ยวติงเป็นญาติผู้น้องข้าเอง ตำแหน่งองครักษ์ซ้าย”

“มีมือซ้าย แล้วมีมือขวาไหมเพคะ?” เธอถามด้วยความอยากรู้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจกวน

“มี! อยู่ในวัง ส่งไปสืบความบางอย่าง คงได้เจอกันเร็วๆ นี้แหละ” หยางหมิงอวี้ตอบพลางอมยิ้ม

“งั้น..สิ่งที่เราควรจะทำต่อจากนี้ เราคงต้องเล่นละครกันสักฉากสองฉากแล้วล่ะเพคะ” อินทุภายิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาส่องประกายราวกับจอมแผนการ

“ยิ้มแบบนี้ คงต้องมีเรื่องวุ่นวายแน่นอน ถ้าไม่ใช่ข้าก็คงจะเป็นพวกนั้น ที่ต้องอ่วมจนกระอัก!”

“แหม! หม่อมฉันเป็นกุลสตรีนะเพคะ ผู้ยิ้งผู้หญิงตั้งแต่หัวจรดเท้า สงบเงียบ เรียบร้อย ราวกับผ้าพับไว้” เธอทำท่าปลายนิ้วดันคาง สะบัดหน้าเชิดขึ้นอย่างสง่างาม

“เสียงสูงเชียว เชื่อก็บ้าแล้ว!” เขาพูดพลางหัวเราะ เสียวมี่พลอยอมยิ้มไปด้วย

“มาเปิดโหมดจริงจังกันเถอะเพคะ หม่อมฉันมีแผน!”

หงส์จิ่ว เพ่งสายตามองชายหนุ่ม ที่กำลังตระกองกอดเอวหญิงสาวสองคน ขณะพาเดินตรงมายังศาลารับรอง ภาพตรงหน้าเรียกความริษยาให้ก่อขึ้นในใจเขาไม่น้อย โดยเฉพาะ เสียวมี่..สาวน้อยที่เขาหมายตาไว้ตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว ยิ่งนานวันก็ยิ่งงดงามสะดุดตา  

เขาเฝ้ารอให้ถึงวัยปักปิ่นด้วยความกระหยิ่มใจ เพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ไม่ช้าก็เร็ว นางต้องเป็นของเขาแน่ แต่กลับกลายเป็นว่า… นางถูกสุนัขคาบไปกินเสียแล้ว ความขุ่นแค้นจึงตีตื้นขึ้นมาในอก  

ขณะกำลังเดินมุ่งหน้าเข้ามานั้นเอง เสียวมี่ก็สะดุดล้ม หยางหมิงอวี้รีบคว้าตัวไว้ได้ทัน ร่างบอบบางจึงตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา หน้าอกแนบชิดกันอย่างแนบแน่น ราวกับถูกโอบกอดโดยสมบูรณ์ และไม่เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มยังอุ้มเธอขึ้นทั้งตัว แล้วพาเดินตรงมาหาหัวหน้าเฒ่า ผู้เฝ้ามองด้วยใบหน้าแดงก่ำ จากความริษยาที่กลั้นไว้แทบไม่ไหว  

“เชิญเสด็จกระหม่อม บรรทมสบายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หงส์จิ่วเอ่ยถาม

“หายเพลียจากการเดินทางเป็นปลิดทิ้งเลย” หยางหมิงอวี้ตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หันไปส่งสายตาหยอกเย้ากับสาวน้อยในอ้อมแขน แล้วค่อยๆ วางนางลงให้นั่งอย่างเรียบร้อย จากนั้นโอบไหล่กลมกลึงของสองสาว ดึงเข้ามาชิดกาย 

สองนางได้แต่ก้มหน้าด้วยรอยยิ้มเขินอาย ขณะที่หงส์จิ่วกำมือแน่น… ความอดทนของเขากำลังจะถึงขีดสุด!

หงส์จิ่วหันหน้าหนีภาพบาดตา ทำสัญญาณมือให้ยกอาหารเข้ามาได้

“เชิญประทับกระหม่อม อาหารเช้าพร้อมแล้ว” 

ระหว่างที่อาหารทยอยเข้ามาวางเรียง หงส์จิ่วแอบลอบมองชายหนุ่มไปด้วย กัดกรามแน่นที่เห็นสองสาวผลัดกันปรนนิบัติทั้งซ้ายและขวา สาวน้อยที่ติดตามมาด้วยเมื่อวาน เขาเพิ่งจะได้สังเกตเห็นชัดๆ ถนัดตาก็ตอนนี้เอง

หงส์เฒ่ามองหญิงสาวอย่างพินิจพิเคราะห์ เริ่มจากนัยน์ตาคมหวาน จมูกโด่งปลายเชิดเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่อ ช่างเข้ากันได้ดีกับรูปหน้าเรียวของเธอเสียเหลือเกิน ริมฝีปากอิ่มที่แดงระเรื่อนั้น เวลาเธอยิ้มช่างหวานละมุนราวกับหยดน้ำผึ้ง ผมยาวตรงดำเป็นมันพลิ้วสลวยยามเคลื่อนไหว ผิวที่โผล่พ้นขอบผ้านั้นก็นวลเนียน ขาวผ่องละมุนละไมราวกับแพรเนื้อดี หากเขาได้ลูบไล้สัมผัสทั้งตัวจรดเท้าโดยไม่มีผ้าคลุมกีดขวาง คงรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์มากกว่าเจ็ดชั้นเป็นแน่แท้

สตรีที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทั้งเนื้อทั้งตัวเช่นนี้ หากเป็นเขา คงไม่เหลียวมองหญิงอื่นอีกเลย และคงไม่ยอมให้เธอลงจากเตียงแม้แต่ก้าวเดียว หากได้มือเรียวงามคู่นั้นมาจับกุมแก่นกายของเขา คงจะรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งตัว เขามองไปที่หน้าอกของหญิงสาว แล้วถอนหายใจแรง มันอวบอัดเต่งตึงจนน่าฟัด หากได้อยู่ด้วยกันสักคืน เขาคงจะซุกซบกัดไม่ยอมปล่อยแน่นอน

หงส์จิ่วกำมือแน่นไว้ใต้โต๊ะ ยิ่งคิดยิ่งเพิ่มความแค้นเคืองให้พลุ่งขึ้นในใจ องค์ชายหน้าสำอางผู้นี้ มีของดีอยู่กับตัวอยู่แล้ว ยังมาขวางหน้า แย่งหญิงสาวที่เขาหมายมั่นปั้นมือไปเชยชมก่อนเขาเสียอีก

ซึ่งหากหยางหมิงอวี้ได้ยินความคิดของชายเฒ่าผู้นี้ เขาคงทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาอาจฆ่าได้ทุกคนที่คิดจะแตะต้องของรักของเขาจริงๆ

“ข้าคิดว่าจะไปดูที่เหมืองสักหน่อย เจ้าว่าจะไปด้วยกันหรือไม่?” หยางหมิงอวี้หันไปถามอินทุภา  

“ฝ่าบาทเสด็จเพียงลำพังเถิดเพคะ อากาศร้อนเหลือเกิน ถนนหนทางก็คงลำบากไม่น้อย ถ้าผู้หญิงอย่างพวกหม่อมฉันไปตรากตรำอย่างนั้น คงไม่ไหวเป็นแน่" อินทุภายิ้มหวาน เอ่ยเสียงใสพลางส่งสายตาออดอ้อน "ผู้หญิงเป็นเพศที่บอบบางนะเพคะ โดนลมพัดเพียงนิดก็อาจล้มป่วยไปหลายวัน ให้เสียวมี่พาหม่อมฉันดูของสวยๆ งามๆ ที่นี่ดีกว่านะเพคะ”  

ขณะพูด เธอก็กอดแขนคนข้างๆ อย่างออดอ้อน แสร้งทำตาหวานระยับราวกับจงใจหว่านเสน่ห์ และดูเหมือนมันจะได้ผล...  

หยางหมิงอวี้ชะงักไปชั่วครู่ รู้สึกตาพร่าไปกับรอยยิ้มหยาดเยิ้มแบบนั้น ก่อนที่จะจับมือนุ่มนิ่มของหญิงสาวโดยไม่รู้ตัว หัวแม่โป้งไล้วนบนหลังมือเบาๆ คล้ายกับคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว  

อินทุภากลั้นยิ้ม พอใจที่สามารถแกล้งเขาได้ นึกหมั่นไส้ไม่หายกับฉากเมื่อครู่ ที่เขาอุ้มเสียวมี่ขึ้นมาอย่างแนบเนียน เสียจนแยกไม่ออกว่าเล่นละครหรือของจริง

ดูจะสมบทบาทเกินไปหน่อยแล้ว!!  

หยางหมิงอวี้ขมวดคิ้ว หงุดหงิดใส่ตัวเองที่เผลอเคลิบเคลิ้มไปกับมารยาของหมาป่า ที่เอาหนังแกะมาห่ม จนเกือบทำให้ลืมตัว 

ได้ทีแสดงใหญ่ ถ้าเผลอไปจูบเข้า มีหวังได้โวยวายใหญ่โต หาว่าเราเอาเปรียบแน่ๆ!

“ท่านหงส์เล่า จะเป็นการรบกวนหรือไม่ หากข้าจะขอชมโรงงานเครื่องประดับ?” อินทุภาถามขึ้นกึ่งบังคับ ส่งยิ้มหวานเชื่อมให้หงส์จิ่วอีกคน  

ชายเฒ่าเหลือบมองหญิงสาว ก่อนจะหันไปมองหยางหมิงอวี้ ลังเลว่าจะเลือกทางไหนดี... จะร่วมทางไปเหมืองกับองค์ชาย หรือจะอยู่คุมสองสาวนี่ดี  

แต่ก่อนที่เขาจะตัดสินใจได้ หยางหมิงอวี้ก็เป็นฝ่ายตัดบทให้  

“ท่านหงส์ไปเหมืองกับข้าเถอะ เผื่อมีข้อสงสัยจะได้ขอคำชี้แนะ”

หงส์จิ่วได้แต่มองสองสาว ที่ส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างจนใจ 

ไอ้หมอนี่มันตัวขัดลาภชัดๆ!

“อ่า.. ได้ๆ กระหม่อม” เขาตอบแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผาก

“กระหม่อมจะไปสั่งให้คนเตรียมรถม้า พ่ะย่ะค่ะ”

“อย่าเลย ขี่ม้าไปจะสะดวกกว่า” หยางหมิงอวี้ตัดบท

“งั้นกระหม่อมขอตัวสักครู่” เขาทำความเคารพแล้วถอยหลังออกไป

“ฝ่าบาท ระวังพระองค์นะเพคะ เขาต้องมีอะไรตุกติกแน่ๆเลย” อินทุภาสอดมือเข้าหามือแข็งแรง ซึ่งเขาก็กุมไว้กระชับ แล้วบีบเบาๆ

“ไม่ต้องห่วง เสี่ยวติงคงดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ข้าห่วงเพียงเจ้า” หยางหมิงอวี้บีบมือหนักหน่วงขึ้น สายตาห่วงหาอาทร

เขารู้สึกเป็นห่วงสาวน้อยตัวเล็กผู้นี้ยิ่งนัก ตัวเท่าเมี่ยง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น จะสู้แรงผู้ชายเป็นสิบได้อย่างไร แต่ละคนอาวุธครบมือ เขาคงแทบคลั่งถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมา แล้วเขาไม่สามารถปกป้องได้เลย

อินทุภาสบตา มุมปากโค้งนิดๆ ส่งสายตาแววหวานปลอบใจ บีบมือตอบมือแข็งแรง เป็นการให้สัญญาว่าจะดูแลตัวเองโดยที่ไม่ต้องเอ่ยเป็นคำพูดใดๆ

อินทุภา เสียวมี่ และชายฉกรรจ์ทั้งสี่ เดินทางมาถึงโรงเครื่องประดับ ซึ่งมีสภาพภายในดูไม่ต่างจากอู่ซ่อมรถยนต์ ที่พื้นเต็มไปด้วยรอยคราบดำคล้ำ อุปกรณ์ทำงานวางกระจัดกระจาย มีโต๊ะทำงานที่ไม่สูงจากพื้นมากนัก แสงสว่างจากเชิงเทียนบนโต๊ะเป็นเพียงแหล่งสว่างในพื้นที่จำกัด คนทำงานสิบคนกำลังยุ่งอยู่กับการขึ้นรูปเครื่องประดับจากทองคำ

“ขอดูชิ้นงานที่ทำสำเร็จแล้วได้หรือไม่?” 

อินทุภาถามช่างคนหนึ่งที่ว่างอยู่ เขาพาตรงไปยังอีกมุมหนึ่งของห้อง ที่มีกล่องโปร่งวางเครื่องประดับ ที่ขัดเงาเรียบร้อยแล้ว วางเรียงรายอยู่ ทั้งหมดเป็นเครื่องประดับทองคำ รูปแบบและลวดลายเป็นแบบโบราณ ตามที่อินทุภาเคยเห็นบนอินเทอร์เน็ต บางชิ้นดูหนาจนเทอะทะ ไม่สัมพันธ์กับอัญมณีที่ประดับเลยแม้น้อย

“เครื่องประดับพวกนี้ จะส่งไปขายที่ใด?” เธอถามนายช่างคนเดิมที่ยืนคุมอยู่ข้างๆ

“ส่งไปวังหลวงทั้งหมดขอรับ” เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“แล้วมีค่าตอบแทน มีค่าแรงให้หรือไม่?”

“เอ่อ...คือ” เขาหันไปมองชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง "พวกเราอยู่ภายใต้การดูแลของท่านหงส์ขอรับ" เขาตอบอย่างนอบน้อม ก่อนโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเดินห่างออกไป

อินทุภาเดินไปดูช่างทองคนหนึ่งที่กำลังสกัดทองด้วยมือ วิธีสกัดทองแบบนี้ เธอเคยทำในห้องทดลอง ตอนเรียนฟิสิกส์สมัยมหาวิทยาลัย และได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ขณะฝึกงานที่โรงงานเครื่องประดับของแม่ คุณแม่ของเธอมีธุรกิจเครื่องประดับและอัญมณีภายใต้ชื่อ ‘ดินาร์ เจ็มส์’ มาจากคำว่า ‘ดินาริอุส’ ซึ่งหมายถึงเหรียญทองในภาษาละติน

เงินเดือนของช่างทอง และช่างอัญมณีที่บริษัทของแม่สูงมาก ทำให้พวกเขาพอใจ และทุ่มเทในการทำงาน คนเหล่านี้รักการสร้างสรรค์ความสวยงาม เมื่อเห็นอินทุภาออกแบบได้สวยแปลกตา ก็ยิ่งทึ่ง และอยากแสดงฝีมือให้สวยงามตามแบบ

อินทุภาย่นจมูก เธอคิดในใจ ก่อนจะปฏิรูปทั้งหมดนี้ คงต้องปฏิวัติอีตาแก่หงส์นั่นเสียก่อน! 

เมื่อท่านอ๋องกลับมา ต้องหารือวางแผนกันจริงจังเสียที!

เธอไม่ทราบว่าใช้เวลา อยู่ที่โรงเครื่องประดับนี้นานเท่าไหร่ แต่พอออกมายืนกลางแจ้ง ตาก็พร่าไปเหมือนกัน คำนวณจากการเคลื่อนตัวของดวงอาทิตย์ คงจะประมาณยามโฉ่วหรือยามอิ๋น ราวๆ บ่ายสองหรือบ่ายสาม เธอจึงให้ชายฉกรรจ์นำทางมาส่งที่ห้องพัก

หลังจากชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นจากไป อินทุภาขอให้เสียวมี่คอยสังเกตการณ์ภายนอก และดูว่าท่านอ๋องกลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 11 : ฆ่าคนตายครั้งแรก!! (1)

    ขณะนี้ดึกมากแล้ว อินทุภากำลังรอฟังข่าวจากเสียวมี่ จึงยังไม่ได้เข้านอน สักพักเธอก็ได้ยินเสียงนกฮูกร้องแว่วๆ สามครั้ง เธอรีบเดินไปเคาะหน้าต่าง เพื่อส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรับรู้ ตามที่เคยเห็นท่านอ๋องทำ ไม่นานคนด้านนอกก็ค่อยๆ แง้มบานหน้าต่างและสอดตัวลอดเข้ามา“ข้าน้อยเองขอรับ” หยางติงเข้ามายืนเต็มตัว ทำความเคารพอินทุภาแล้วดึงผ้าปิดปากออก“มีข่าวของท่านอ๋องไหม?” อินทุภารีบถามด้วยความกังวล“ท่านอ๋องถูกลอบทำร้าย ระหว่างทางที่จะไปเหมืองขอรับ พวกมันวางระเบิดหน้าผาทำให้หินถล่มลงมา หินพลาดจากท่านอ๋องไปถูกม้าทรงทรุดทั้งยืน เลยทำให้ฝ่าบาทพระเศียรกระแทกพื้นสลบ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลยขอรับ!”“ตายจริง! แล้วตอนนี้พระองค์อยู่ที่ไหน?”“ซ่อนอยู่ในถ้ำขอรับ มีทหารรักษาการณ์คอยดูแลความปลอดภัยเอาไว้”“น้ำ อาหารและยาล่ะ? มีพอสำหรับทุกคนหรือเปล่า?”“ข้าน้อยเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วขอรับ ก่อนจะมาส่งข่าวที่นี่”“ฉันจะไปกับนายด้วย คืนนี้พวกมันคงออกตามล่าแน่ ในขณะที่พวกนายคอยระวังป้องกัน ฉันจะดูแลท่านอ๋องเอง!” อินทุภาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด หยางติงพยักหน้ารับอินทุภารีบเก็บของ โกยขนมอบแห้งลงห่อกระดาษ แล้วยัดใส่กระเป๋าผ้าใบเ

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 12 : ฆ่าคนตายครั้งแรก!! (2)

    หยางติงหอบหญ้าแห้งกอใหญ่เข้ามาพอดี ตามด้วยทหารที่หอบหญ้ามาอีกกอหนึ่ง“ช่วยกันจับหญ้าพันให้เป็นรูปคนเร็วเข้า!” อินทุภาสั่ง แล้วลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่นานก็ได้รูปโครงคล้ายหุ่นไล่กาเธอจัดแจงสวมเสื้อผ้าให้หุ่น ตามด้วยผ้าคลุมที่คลุมตั้งแต่ศีรษะ แล้วผูกตรงคอให้ดูเหมือนศีรษะคนหญิงสาวสั่งการให้ทหารแปดคนรออยู่ที่นี่ โดยให้เอาหุ่นปลอมของท่านอ๋องขึ้นม้าและผูกไว้ด้านหลัง เมื่อศัตรูเข้ามาใกล้ ให้ทหารลาดตระเวนทำเสียงโวยวาย แล้ววิ่งออกไปล่อให้พวกมันไล่ตามส่วนกลุ่มของอินทุภาจะมีทหารสองนายที่เหลือ หยางติง เสียวมี่ และท่านอ๋อง ซึ่งจะออกเดินทางทันทีที่ท่านอ๋องพอจะทรงตัวได้“ไปเถอะ! ข้าพอไหว” หยางหมิงอวี้พูด พร้อมพยุงตัวพยายามลุกขึ้นอินทุภาพยักหน้าให้หยางติงช่วยพยุง แล้วพาท่านอ๋องเดินออกไปด้านนอก เพื่อเตรียมออกเดินทาง""ฝ่าบาท... ไปกับหม่อมฉัน!" อินทุภากระซิบเสียงหนัก รีบพยักหน้าให้หยางติงและนายทหารช่วยกันพยุงท่านอ๋องขึ้นหลังม้า เธอกระโดดขึ้นตามไปนั่งซ้อนหน้า ดึงชายผ้าคลุมมาผูกรัดตัวเองกับหยางหมิงอวี้ไว้แน่น ตอนนี้ไม่มีที่ว่างให้ความลังเล มีแต่ทางรอดเท่านั้น! "เราต้องรีบพาท่านอ๋องกลับค่าย ที่นั่นปล

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 13 :  ยั่วเก่งนักนะ! จะให้ลืมตัวให้ได้เลยใช่ไหม! (18+)

    อินทุภาทายาที่แผลบนศีรษะเสร็จแล้ว ก็ถอยมานั่งอยู่ข้างเตียง มองคนป่วยที่กำลังหลับใหลด้วยฤทธิ์ยานอนหลับ หลังจากที่หมอเข้ามาดูอาการ ได้เขียนเทียบยาไว้หลายอย่าง ทั้งยากินและยาทา พวกยาสมุนไพรทั้งก่อนและหลังอาหาร เธอเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ที่ต้องทายาพวกแผลเล็กแผลน้อยที่อยู่ภายใต้เสื้อผ้าเท่านั้น ซึ่งก็คงต้องรอให้หยางติงมาจัดการ “ฝ่าบาท!!” หยางติงวิ่งเข้ามาในกระโจมอย่างกระหืดกระหอบ“ท่านเยว่! ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”“กระดูกไม่หัก ไม่มีบาดเจ็บภายใน มีแต่แผลที่ศีรษะ กับอาการปวดระบมตามเนื้อตัว และมีแผลภายนอกนิดหน่อย พักฟื้นสักระยะก็ดีขึ้น แต่นายต้องคอยดูแลทายาให้พระองค์ด้วย” เธอพูดเสร็จก็หยิบกระปุกยาส่งให้หยางติงไม่ได้รับยาไป แต่ยกมือประสานคำนับและคุกเข่าลงข้างหนึ่งกับพื้น“อภัยให้ข้าน้อยด้วย! ที่ดูแลท่านเยว่กับท่านอ๋องได้ไม่ดี”“ไม่เป็นไร มันเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วท่านอ๋องก็ปลอดภัยแล้ว” เธอพูดพร้อมดึงตัวให้เขาลุกขึ้น“พวกเราพยายามช่วยกันออกตามหา เจอดักซุ่มโจมตีหลายแห่ง จนมาพบกันจนได้” เขายิ้มจนตาหยี “ข้าน้อยมาทันได้เห็นธนูดอกสุดท้ายปักอกพวกมันร่วงจากหลังม้า ยังมีอีกสองสามคน

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 14 :  คำบอกรักในอารมณ์พิศวาส..จะมีความหมายสักแค่ไหนกัน?

    อินทุภาตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขนของเขา หยางหมิงอวี้เองก็ยังไม่อยากเคลื่อนไหว หัวใจเขาเต้นแรง หายใจแรงจนหอบ สักพักก็พลิกตัวนอนหงาย รั้งร่างโปร่งบางให้พลิกตามลงมานอนตะแคงก่ายเกยอยู่ครึ่งๆ บนร่างของเขา ขาของเธอเบียดชิดจนเขารู้สึกอบอุ่นและชุ่มชื้นในซอกลี้ลับ เขาลูบหลัง เลยมาถึงต้นขา ลูบไปมาเป็นจังหวะ ปลอบโยนให้เธอหายอ่อนเพลีย“เป่าเป้ย์” เขาพึมพำ “น่ารักไปทั้งเนื้อทั้งตัว ตั้งแต่หัวจดเท้า เนื้อนุ่มหอม แล้วก็หวาน” หยางหมิงอวี้จูบเบาๆ ที่หน้าผาก ระเรื่อยมาที่ขมับ แล้วขยับผ้าห่มมาคลี่คลุมตัว ถ้าเหงื่อแห้งอาจตัวเย็น สะท้านและไม่สบายได้หญิงสาวซุกตัวเข้าแอบอกเขา สักครู่ก็ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอเป็นจังหวะ แสดงว่าหลับไปแล้ว เขายิ้มคนเดียวในความมืด ตัวนิดเดียวแค่นี้ แต่ให้ความสุขแก่เขาได้อย่างมากมายเหลือเกิน สะโพกของเธอเพรียวและตึง ดูว่าเล็กกะทัดรัดแต่ก็รับน้ำหนักของเขาไว้ได้อย่างมั่นคง ความกระชับแน่นของกล้ามเนื้อทำให้เขารู้สึกเสียวซ่านอยู่ตลอดเวลามือของเขาลูบไล้แผ่นหลังอยู่ไปมานั้น เลยไปถึงสะโพกกลมมน รู้สึกรักทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นตัวเธอ เขาไม่มีวันปล่อยให้หนีหายไปจากเขาอีกแล้ว อินทุภาจะเป็นผู้

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 15 : มะ..แมวพูดได้!!

    “อินทุภา!”“หือ?”“เยว่อิง!” “ใครเรียกเนี่ย? จะเล่นซ่อนแอบกับฉันเหรอ?” อินทุภาพยายามชะเง้อมองรอบตัว แต่ก็เห็นแค่หมอกหนาทึบเต็มไปหมด“ยัยจอมลวงโลก! ทำผิดสัญญา!”“เฮ้! นายเป็นใคร? จู่ๆ ก็มากล่าวหาว่าโกหกเลยเหรอ? ฉันไปสัญญาอะไรกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”“ก็บอกว่าจะช่วยฉันกลับบ้านไง! ลืมอีกแล้วเหรอ? ยัยคนเบี้ยวสัญญา! จอมโกหก!”“ฉันเนี่ยนะ? ไปสัญญาตอนไหน? หลักฐานไม่มีอย่ามาใส่ร้ายกันนะ! แน่จริงก็ออกมาคุยกันซึ่งๆ หน้าสิ!” อินทุภาเริ่มหงุดหงิด หมุนตัวไปมาแต่ก็ยังไม่เห็นใคร “โอเคๆ ยอมแล้วจ้า... สรุปต้องทำไง เธอถึงจะออกมา? มีอะไรให้ช่วยก็บอกมาดีๆ เถอะน่า” อินทุภาถอนหายใจ หมุนมองไปรอบตัวอีกครั้ง หมอกเริ่มจางลง แต่ก็ยังไร้เงาของเสียงประหลาดนั่น“อยู่ตรงนี้ไง ยัยทึ่ม!” อินทุภาสะดุ้ง หันขวับไปมอง แต่ก็ยังว่างเปล่า ได้ยินแต่เสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายดังชัดเจน“ตรงนี้! มองลงมาข้างล่าง!” อินทุภาเลยก้มลงมอง แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง แมวดำตัวจิ๋วตาโตเหมือนใส่บิ๊กอายส์สีเหลืองทองกำลังจ้องเธออยู่“มะ... แมวพูดได้!” อินทุภาชี้หน้าแมวน้อยอย่างตกใจ“แหม! ข้ามเวลายังทำได้เลย กะอีแค่แมวพูดได้ต้องตกใจขนาด

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 16 : ชายผู้มากับฟ้าฝน (1)

    เปรี้ยงงง!! เปรี้ยงงง!! ครืนนน!!"กรี๊ดดด!!" หญิงสาวกำลังอยู่ในภวังค์ความคิด จู่ๆ ฟ้าก็ฟาดลงมาอีก เสียงดังสนั่นกว่าเดิม ราวกับว่าอยู่ใกล้ๆ รถม้านี่เองเอ๊ะ! เสียงหายไปไหน?หญิงสาวร้องจนสุดเสียง แต่กลับไม่ได้ยินเสียงตัวเอง เธอลองตะโกนอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงออกมาเช่นเดิมอะไรกันนี่!?! น่ากลัวกว่าฟ้าอีกตอนนี้! เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่!?! ตั้งแต่ถูกวางยา ถูกจับมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วนี่เสียงก็หายไปอีก!!ผ้าม่านที่บังไว้ครึ่งๆ ถูกตวัดให้เปิดออกโดยมือของคนผู้หนึ่ง เขาชะโงกหน้าเข้ามามองใกล้ๆ แล้วก็ทำหน้าตื่นตะลึง ดวงตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นคนด้านในชัดเจน จากนั้นก็ถอยหลังออกไป เสียงสั่งการปนเปกับเสียงฝน ฟังไม่ออกว่ากำลังพูดอะไรกันสักพักใหญ่ๆ รถม้าก็มีความเคลื่อนไหว เหมือนมีคนกำลังพยายามช่วยกันจับพลิกให้รถม้าตั้งขึ้นจากภายนอก แต่พอตั้งตรงได้เพียงชั่วครู่ ก็โยกโคลงเคลงพร้อมกับเลื่อนตัวลงเอียงไปข้างหนึ่งเสียงผู้คนภายนอกเอะอะ ตะโกนกันวุ่นวาย แล้วผ้าม่านก็เปิดออกอีกครั้งหนึ่ง“ไม่ไหว! รถม้าคันนี้ใช้งานไม่ได้แล้ว เจ้าคงต้องเปียกเสียแล้วล่ะ ออกมาเถอะ! พวกเราจะไปกันแล้ว!” เขาพูดแล้วออกไปเธอพยายามจะบอก

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 17 : ชายผู้มากับฟ้าฝน (2)

    ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเฉียดใกล้หัวใจเขามาก่อน ตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่มมา เขาไม่เคยหลงใหลคลั่งไคล้ผู้หญิงคนไหน ถึงขนาดอยากได้จวนเจียนจะคลั่งขนาดนี้มาก่อนเลยชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องชั้นใน กลับออกมาพร้อมผ้านุ่มผืนหนึ่ง โยนโปะลงบนศีรษะของหญิงสาว วางเสื้อคลุมสีขาวพาดไว้ใกล้ๆ ขานวล แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องเดิมอีกอินทุภารีบเดินไปหลังผ้าม่าน ถอดชุดเปียกอย่างว่องไว แล้วรีบสวมเสื้อคลุมทับผูกเอวไว้แน่น เหลือบราลูกไม้กับกางเกงชั้นในไว้ ช่างมันเถอะ! ใส่เปียกๆ แบบนั้นไว้แหละ อย่างน้อยก็อุ่นใจ ดีกว่าปล่อยให้มันโล่ง!เขากำลังเปลี่ยนชุดเป็นผ้าแห้ง แต่ความคิดก็ยังวนเวียนเกี่ยวกับสาวน้อยที่อยู่นอกห้อง เขาเคยเจอประเภทที่เล่นตัว ออกฤทธิ์มากเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่พอลงเตียงแล้ว จากเสือกลายเป็นนางแมวสวาทเชื่องๆ ทำให้เขาหมดความสนใจไปเลย ราวกับว่าไอ้ฤทธิ์ที่แสดงออกมาก่อนหน้านั้น ทำไปแค่พอเป็นพิธีแต่กับสาวน้อยตัวเล็กคนนี้ เหมือนว่าเขาจะถูกปราบเสียเองแล้ว เขาอยากตามใจเธอทุกอย่าง อยากได้อะไรก็จะประเคนให้ทั้งหมด ขอแค่เธออยู่กับเขา อยู่รักเขา และให้เขาได้รักหญิงสาวทำให้เขารู้สึกว่า เดินก้มหน้าบนทางเด

    Last Updated : 2025-03-14
  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 18 : ฟ้าเหลืองก็ยอมล่ะวะ! (18+)

    เสวี่ยเจี้ยนพาสองสาวมาที่ตลาดตะวันตก ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีชื่อเสียงในเมืองหยางซื่อ อินทุภาเดินอยู่ตรงกลางระหว่างสองพี่น้อง มีสาวใช้เดินตามสามคน ยังมีคนงานผู้ชายที่ขับรถม้าตามมาด้วยอีกสองคนที่ด้านหลังระหว่างที่นั่งรถม้ามาด้วยกัน จือซาบอกว่า เสวี่ยเจี้ยนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังแล้ว เธอเคยศึกษาวิชาแพทย์มาบ้าง มาในตัวเมืองหนนี้ จะซื้อสมุนไพรไปปรุงยาแก้พิษให้จือซา เป็นลูกครึ่งชาวตังกุส บิดาเป็นชาวแคว้นฉิน ส่วนมารดาเป็นชาวแคว้นฉิวซี และมารดาของหญิงสาวกับบิดาของเสวี่ยเจี้ยนก็เป็นพี่น้องกันในตัวเมืองหยางซื่อผู้คนพลุกพล่านมากมาย เพราะเป็นเมืองหน้าด่าน และเป็นทางผ่านเส้นทางสายไหม เลยมีทั้งคนพื้นเมืองและชาวต่างประเทศ และชนเผ่าน้อยใหญ่ที่อยู่นอกด่าน อีกทั้งเมืองนี้ เป็นเมืองปลอดภาษี จึงมีสินค้าที่มาจากหลายวัฒนธรรมหลายเชื้อชาติอยู่มากกมาย และเรียกขานย่านนี้ว่า..’ตลาดตะวันตก’อินทุภาสะดุดตาร้านขายเครื่องประดับ ซึ่งเป็นแผงเล็กๆ อยู่ด้านหน้าภัตตาคารขนาดใหญ่ จึงชวนจือซาเข้าไปดู แต่แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้าง ชาวาบในอกอยู่ชั่วขณะ เพราะภัตคารแห่งนี้ คือร้านอาหารเฟินเยว่ที่หยางหมิงอวี้เคยกล่าวถึง ซึ่งก

    Last Updated : 2025-03-14

Latest chapter

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 60 : กองทะลวงฟัน-ดาบสองมือ (2)

    “ท่านอ๋อง! ท่านเยว่! มีสาส์นด่วนจากวังหลวงขอรับ!” อินทุภาหยิบมาให้หยางหมิงอวี้ แล้วพยักหน้าให้ทหารส่งสาส์นออกไปได้“ฝ่าบาทมีคำสั่ง ให้นำทัพฉิวซีหนึ่งแสน ไปช่วยแคว้นฉินต้านกองทัพเชี่ย!” หยางหมิงอวี้อ่านสาร์นให้ฟัง“โอ้ว มาย!! อุบายตีใกล้แสร้งไกลสินะ!” มุมปากอินทุภาเชิดเล็กน้อย‘กลยุทธ์ตีใกล้แสร้งไกล’ คือ การทำให้ศัตรูเข้าใจผิดว่าเป้าหมายของเราคือที่ไกล แต่แท้จริงแล้วเป้าหมายที่แท้จริงคือมุ่งโจมตีจุดที่อยู่ใกล้ โดยใช้กลลวงหรือเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อให้ศัตรูตัดสินใจผิดพลาด และเปิดช่องโหว่ให้เราจู่โจมได้สำเร็จ“ใช่! ทำลวงประชิดแคว้นซ่ง แต่ตั้งใจโจมตีแคว้นฉิน! ด้วยทหารหนึ่งแสนห้าหมื่น แต่ดูจากข้อมูลล่าสุด แคว้นเชี่ยมีทหารประมาณสี่แสนกว่า แต่แบ่งกำลังไปเพียงแสนห้า เกรงว่าจะมีแผนซ้อนแผนแน่แล้ว!”"เหมือนกับกลยุทธ์ล้อมเวยช่วยจ้าวใช่ไหมเพคะ?"“คิดเหมือนกัน! เขาวางแผนยิงธนูดอกเดียวได้เหยี่ยวสองตัว ลวงว่าจะตีแคว้นฉินแต่จริงๆ แล้วจะอ้อมหลังบุกต้าฉิวซี และเพื่อให้ฉิวซีส่งกำลังไปช่วย ซึ่งแน่นอนว่าข้าต้องเป็นผู้บัญชาการทัพ หยางซื่อก็จะร้างผู้นำ พอเหมาะพอดีสำหรับทัพอีกสองแสนที่เหลือจะบุกโจมตี!”‘ล้อมเ

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   บทนำ : ลิขิตแห่งดวงดารา

    ท่ามกลางม่านอวกาศอันมืดมิด ดวงดาวสุกสกาวแข่งกันส่องแสง สลับกับความว่างเปล่าของจักรวาล เบื้องหลังเสียงสะท้อนของกาลเวลา แสงสีดำหม่นค่อยๆ คืบคลานกลืนกินทุกสรรพสิ่ง ราชาดาวนิลได้ลงมือแล้วตูมมมมมม!!!เสียงระเบิดดังสนั่นจากท้ายยาน คลื่นพลังมหาศาลซัดกระแทกยาน จนสะเทือนรุนแรง แทบจะฉีกทุกสิ่งออกเป็นเสี่ยงๆ ควันและเปลวเพลิงพวยพุ่งผ่านกระจกห้องควบคุม ภายในห้อง ทุกอย่างอยู่ในสภาพเละเทะ ไฟลุกไหม้ตามแผงควบคุม ตัวเลขสีแดงกะพริบแจ้งเตือนระดับพลังงานที่ลดฮวบ “เรากำลังจะตกแล้ว!” เอกิลตะโกนลั่น พยายามกดแป้นควบคุม เพื่อรักษาสมดุลของยาน แต่มันไม่ตอบสนอง “ถ้ายานชนพื้นโลกในสภาพนี้ พวกเราคงไม่มีใครรอดแน่ๆ!” มูลาหันไปมองลูน่า ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ลูน่ากัดฟันแน่น ขณะเอื้อมมือที่สั่นระริก กดปุ่มปลดล็อกกลไกฉุกเฉิน กริ๊ก!แคปซูลหลบหนีสี่ลูกค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาจากพื้น ม่านพลังสีทองเริ่มก่อตัวรอบแคปซูล เรกิที่แม้จะบาดเจ็บ แต่ก็ยังพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นมา“ลูน่า! อย่าคิดจะทำแบบนี้นะ!” เรกิรู้ดีว่า ลูน่ากำลังตัดสินใจจะทำอะไร “มีคนหนึ่งต้องอยู่คุมยาน” ลูน่ากล่าวเสียงแข็ง “ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเราต้องตายไปพร้อม

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 58 : วันมงคลสมรส (2) 

    จือซาลืมตาตื่นก็เห็นร่างของบุรุษนอนอยู่เคียงกัน เธอขยับตัวไม่ได้เพราะถูกแขนของเขาพาดทับตัวไว้ หญิงสาวรีบสำรวจตนเอง แล้วก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกที่ยังอยู่ในสภาพเสื้อผ้าปกปิดมิดชิด จึงค่อยๆ ยกแขนเขาขึ้นแล้วขยับตัวออก พยายามดึงชายกระโปรงออกจากร่างของเขา ที่นอนทับอยู่แต่ไม่สำเร็จ เขายังนอนนิ่งไม่ไหวติง ราวกับอดหลับอดนอนมาหลายวันเอ.. หรือที่หนิวกงกงเล่าจะเป็นเรื่องจริง!หนิวกงกงบอกว่าตั้งแต่ฮองเฮาสิ้นพระชนม์ ฝ่าบาทก็เป็นโรคนอนไม่หลับ เคยบรรทมนานสุดแค่สองชั่วยามต่อวันเท่านั้นแต่ดูตอนนี้สิ!..นัยน์ตาแววหวานอ่อนโยนลง เธอขยับตัวเล็กน้อย เพื่อให้นอนมองหน้าอีกคนได้ชัดเจนขึ้น พร้อมอมยิ้มบางๆ กับท่าทางการนอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กน้อยของเขา มือเรียวบางลูบกลุ่มผมเด็กน้อยตรงหน้าเบาๆ พลางสงสัยว่าเขานอนคว่ำแบบนี้จะหลับสบายหรือเปล่า"ฝ่าบาท!" หนิวกงกงเรียกตรงหน้าประตูด้านในจือซารีบหันไปมองที่ประตูห้อง ส่งสายตาดุไปให้หนิวกงกง พร้อมทำท่านิ้วชี้ปิดปากเป็นสัญญาณว่าห้ามส่งเสียงดัง หนิวกงกงพยักหน้าว่าเข้าใจ ค่อยๆ ละจากหน้าประตูมาหยุดอยู่ใกล้ที่บรรทม "แม่นางจือซา! ได้เวลาเสวยพระกระยาหารเย็นแล้ว ไม่ทราบว่าจะปล

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 57 : วันมงคลสมรส (1) (18+)

    อินทุภาก้าวเข้าสู่ห้องคุมขังอย่างสง่างาม ใบหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยอำนาจ ชุดสีเงินปักลายนกหลวนเฟิ่งสีน้ำเงินสะท้อนแสงไฟอ่อนๆ คล้ายหงส์ฟีนิกซ์ที่แผ่รัศมีเหนือผู้อื่น สนมเซียวที่นั่งอยู่ภายในมุมมืดเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและแววอริที่ไม่คิดปิดบังอีกต่อไป "มาทำไม? จะมาเยาะเย้ยข้ารึ?" นางแค่นเสียงถามด้วยความชิงชัง อินทุภาเพียงแค่ยิ้มบางเบา "ได้ข่าวว่าท่านตั้งครรภ์" สนมเซียวแค่นหัวเราะ มุมปากยกขึ้นในลักษณะเยาะเย้ย "เรื่องของข้าไม่เกี่ยวกับเจ้า!!" เสียงของนางแหลมขึ้น พยายามใช้ตำแหน่งเหนือกว่ากดอีกฝ่ายให้ต่ำลง แต่ท่วงท่ายืนของอินทุภายังคงสง่างาม มือแตะกันไว้ที่ระดับเอว แผ่นหลังตรงราวกับไม่มีสิ่งใดมากดทับ ดวงตาเรียบนิ่ง รัศมีนางพญาแผ่ซ่านโดยธรรมชาติ "แน่นอนว่าข้าเองก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับท่านนัก แต่ข้ารับพระบัญชาจากฝ่าบาทให้มาพูดกับท่าน จึงเห็นว่าลองเจรจากันดีๆ สักครั้งก็คงจะดีกว่า" สนมเซียวกำหมัดแน่น ดวงตาแดงก่ำด้วยความเคียดแค้น "ผู้ชนะย่อมได้ทุกสิ่ง! ตอนนี้เจ้าคงสุขใจมากสินะ? ไม่ต้องมาทำเสแสร้งต่อหน้าข้า! ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะซ้ำเติมให้สาสม!" "นั่นเป็นสิ่ง

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 56 :  เป็นฮองเฮาไหม?

    "เยว่อิง!..มาแล้วรึ หมิงอวี้เล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟัง ลำบากเจ้าแล้วจริงๆ!” ฮ่องเต้ถอนพระทัย"ความลำบากนี้ เทียบกันไม่ได้เลย กับสิ่งที่ฝ่าบาทออกหน้าเพื่อปกป้องหม่อมฉัน มิหนำซ้ำยังเสียสละองค์เอง เป็นเหยื่อล่อคนที่คิดร้ายต่อบ้านเมือง ทำให้ชาวประชาพ้นภัย พวกเราซึ้งในพระมหากรุณายิ่งนัก ต่อให้ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องฝ่าบาท หม่อมฉันก็ยินดีเพคะ""ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา!" หยางหมิงอวี้ประสานมือคำนับ ฮ่องเต้ยิ้มอย่างอ่อนโยน“ข้าอาจไม่ใช่ฮ่องเต้ที่แข็งแกร่ง แต่จะพยายามเป็นฮ่องเต้ที่ดี! เอาล่ะ!..หยางหมิงอ๋อง..หยางเยว่อิงรับราชโองการ!” ฮ่องเต้หยางอี้ยิ้มนิดหนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวต่อ "แม่ทัพหยางอารักขาข้า รบอย่างกล้าหาญ ทำให้กองทัพแคว้นฉิวซียิ่งใหญ่ วันนี้เรามีราชโองการแต่งตั้งให้หยางหมิงอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแทน พระราชทานป้ายทองเว้นโทษตาย!”ฮ่องเต้หันมองมาทางอินทุภา“หยางเยว่อิง! ปราชเปรื่องกล้าหาญ เป็นนักวางกลยุทธ์ที่เยี่ยมยอด เปี่ยมด้วยเมตตา สนับสนุนหยางหมิงอ๋องให้ได้ชัยชนะ บัดนี้ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระชายา และรั้งตำแหน่งเป็นไท่เว่ย (ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดดูแลราชการฝ่ายทหาร เทียบเท่าส

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 55 : ขอทานเปิดหมวก!!

    "ก่อนอื่นเราต้องหาอุปกรณ์ทำมาหากินเสียก่อน!" หญิงสาวเชิดยิ้มมุมปากข้างหนึ่งเล็กน้อย ยืนกอดอกเก็กท่าเป็นกูรู อยู่หน้าร้านขายเครื่องดนตรี"กะลา?" ขอทานน้อยสงสัย"เฮ่ย! นั่นมันอุปกรณ์เก็บเงินตะหากเล่า! วันนี้เราจะเป็นขอทานเปิดหมวกกัน ตามข้ามา!!" หญิงสาวกอดคอขอทานน้อย พาเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องดนตรีอย่างมั่นใจ แต่ยังไม่ทันที่เท้าจะเหยียบผ่านธรณีประตู ก็ถูกเถ้าแก่ไล่เสียแล้ว"ไป! ไป! ออกไป! ไปขอทานที่อื่น! ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะมาเดินเข้าออกได้อย่างสบายใจได้นะ!!""เถ้าแก่! ข้าไม่ได้มาเดินเล่น ข้ามาซื้อของ!""น้ำหน้าอย่างพวกเจ้า! จะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาซื้อ เก็บไม่กี่อีแปะเอาไว้กินข้าวเถอะ!! ไปๆ! ออกไป!" หน้าตาท่าทางเกรี้ยวกราด ดุดัน แบบไม่มีทีท่าว่าจะประนีประนอมเฮอะ!! ขอทานก็มีต่อมดนตรีนะลุง!!อินทุภาหันหลังเดินออก แต่พอก้าวออกมาได้เพียงสามก้าว สายตาก็ปะทะเข้ากับร้านขลุ่ยแผงลอยฟากตรงข้าม หญิงสาวดีใจวิ่งตรงดิ่งไปทันที แล้วหยิบขลุ่ยขึ้นมาเลือกรูปแบบ เลือกความถนัดมือ และกำลังจะยกขลุ่ยขึ้นแตะขอบปาก เพื่อจะทดสอบเสียง พลันนึกขึ้นได้ จึงหันไปมองลุงพ่อค้าที่มองมายิ้มๆ อย่างใจดี"ท่านลุง!

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 54 : พิธีแต่งงานที่แคว้นเชี่ย (2)

    เสียงเอี๊ยดอ๊าดของประตูดังขึ้นอีกครั้ง หญิงสาวหันไปมอง แล้วก็เบิกตาโตกว้างอย่างประหลาดใจ เพราะคนที่เดินเข้ามาคือองค์หญิงหยางหราน "หึ! ใครๆ เขาก็ว่าเจ้าฉลาดนักฉลาดหนา แล้วทำไมถึงได้โง่ให้เขาจับมาได้ซะล่ะ!" นางเปิดฉากถากถาง"แคว้นฉินเกิดเรื่องใหญ่แล้วเพคะ! ราชเลขาก่อกบฏ ฝ่าบาทเกิดประชวรกะทันหัน ประชาชนถูกสังหาร หม่อมฉันกำลังต่อสู้กับกองโจรที่ดักซุ่มโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส! แล้วก็ถูกเขาพาตัวมาที่นี่!" องค์หญิงหยางหรานชะงัก"แล้วฮ่องเต้เป็นอย่างไรบ้าง?" องค์หญิงถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก เบื้องหลังความหยิ่งพยองเย็นชา คือสายใยของความเป็นพี่น้อง และรักในเกียรติภูมิของชาวแคว้นฉิน"หม่อมฉันไม่ทราบ! จำได้แต่เพียงว่า พอสังหารศัตรูสิ้นหม่อมฉันก็หมดแรง คงเพราะสลบไป จึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วฝ่าบาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?" "เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องรู้!" เธอถอนใจ นั่งลงปลายเตียง "อีกสามวันเขาจะแต่งงานกับเจ้า ประกาศงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ไปทั่วทั้งแคว้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป?""เขาวางยาในอาหารให้หม่อมฉันอ่อนแรง แต่ถึงจะมีแรง หม่อมฉันก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปได้อย่างไร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 53 : พิธีแต่งงานที่แคว้นเชี่ย (1)

    "ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?" หยางหมิงอวี้เอ่ยถามเสียงเครียด ขณะก้าวเข้ามาในห้องบรรทม จือซาเงยหน้าขึ้นจากตำรับยา ก่อนประสานมือคารวะแล้วตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง "พระวรกายของฝ่าบาทอ่อนแออยู่แล้ว เมื่อธาตุเย็นแทรกซึม จึงทำให้ปอดติดเชื้อ ยังนับว่าโชคดีที่สามารถรักษาได้ทันท่วงที ตอนนี้หม่อมฉันกำลังฝังเข็มล้างเลือดในอวัยวะตันทั้งห้า และขจัดพิษออกจากอวัยวะกลวงทั้งหก เพื่อถอนพิษของยาหยินหยางออกมา" "แต่เจ้าก็เคยบอกมิใช่หรือว่า... หากจะถอนพิษของยานี้ ร่างกายฝ่าบาทต้องทนทรมานอย่างแสนสาหัส?" หยางหมิงอวี้ขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งเครียดยิ่งขึ้น จือซาพยักหน้า"เพคะ แต่ขณะนี้ฝ่าบาททรงพระประชวร ไม่ค่อยได้สติ นับเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรักษา หากไร้สิ่งรบกวน หม่อมฉันน่าจะสามารถล้างพิษได้ถึงเจ็ดหรือแปดส่วน เมื่อพระอาการทุเลา เสวยยาตามตำรับที่หม่อมฉันจัดเตรียมไว้ให้เป็นประจำ พระองค์ก็จะทรงฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ มิหนำซ้ำยังแข็งแรงขึ้นกว่าที่เคยเป็นเสียอีก!" ถ้อยคำของนางมั่นคงฉะฉาน สมกับเป็นผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แห่งการแพทย์โดยแท้"ขอบใจเจ้ามาก""ไม่เป็นไรเพคะ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของหม่อมฉันอยู่แล้ว!""รายงาน!! ท

  • พระจันทร์หวามรักข้ามมิติ   ตอนที่ 52 : ความวุ่นวายทั่วบ้านทั่วเมือง!

    ขณะที่หยางหมิงอวี้ กำลังปรึกษาแผนการกับแม่ทัพอยู่นั้น ทหารก็เข้ามารายงานว่า มีกลุ่มทหารของฉิวซีมุ่งหน้ามาที่ค่าย เขาจึงรีบออกไปนอกกระโจมทันที เห็นเหลียงอินชงกำลังกระโดดลงจากหลังม้า"เหลียงอินชง! คารวะท่านแม่ทัพ!"หยางหมิงอี้มองอย่างไม่เชื่อตา จับแขนให้เหลียงอินชงที่คุกเข่าทำความเคารพให้ลุกขึ้น แล้วมองอีกคน"หยางเยว่อิง! คารวะท่านแม่ทัพ!" หญิงสาวคุกเข่าคำนับแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มหวาน เขาเข้ามากอดไว้หลวมๆ"พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่! เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามอย่างสงสัย"พอพระองค์ออกเดินทาง..เรือนป่าสนก็โดนลอบโจมตี พวกเราได้ข่าวว่าพระองค์ได้รับบาดเจ็บและสูญหาย เลยรวบรวมกำลังพลจะมาช่วย แต่เจอองครักษ์เงาเสียก่อน จึงได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นอุบายลวงของฝ่าบาทกับฮ่องเต้มาตั้งแต่ต้น พวกเราจึงตามมาที่นี่พ่ะย่ะค่ะ!" หยางหมิงอวี้พยักหน้าเข้าใจ อินทุภารีบสั่งการเหลียงอินชงทันที"อินชง! ทนเหนื่อยอีกหน่อยเถอะ! ท่านรีบเร่งกลับไปคุ้มครองบ้านตระกูลหวาง ไปรับจือซาด้วย ข้าเชื่อว่าเร็วๆ นี้ เมืองหลวงต้องวุ่นวายแน่ๆ!" อินทุภาวิเคราะห์สถานการณ์"ขอรับ!" เหลียงอินชงรับคำสั่ง แล้วขึ้นม้าควบออกไป"หมอซุนมาเปิดเผยตัวตนกับข้าแล้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status