แชร์

บทที่ 3

“น้องกวินท์เป็นไงบ้าง” คำถามที่ได้ยินทำให้     ขวัญชีวากลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้อีกต่อไป เธอปล่อยโฮออกมาเพราะความอัดอั้นและความกลัว กลัวว่าจะเสียลูกชายไป

ปิยะดาเองก็พลอยตกใจที่จู่ๆ ขวัญชีวาร้องไห้ออกมาแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อนอกจากนั่งปลอบใจกันอยู่แบบนั้น กระทั่งขวัญชีวาหยุดร้องไห้เธอก็ยื่นบางอย่างใส่มือเพื่อนสนิท

“อะไรนะเบล”

“เงินเก็บเราเอามาช่วยค่ารักษาน้องกวินท์” 

“แต่เรา…”

“รับไปเถอะ มันไม่ได้มากมายอะไรหรอก มีเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาคืน” ปิยะดาแทบจะเทหมดกระเป๋าเหมือนกันนั่นเพราะอยากช่วยจริงๆ หลังจากนี้ค่อยเก็บออมกันใหม่  

“ขอบใจนะเบล ขอบใจเธอมาก” จากที่หยุดร้องไปแล้วตอนนี้ขวัญชีวาก็กลับมาร้องไห้อีกแถมยังหนักไม่แพ้เมื่อครู่แม้แต่น้อย ปิยะดานั่งปลอบให้ขวัญชีวาหายเศร้าแต่ถึงจะหยุดร้องแล้วอาการสะอื้นก็ยังมีให้เห็น

ปิยะดาอยู่เป็นเพื่อนกระทั่งต้องกลับไปไลฟ์ขายของต่อนั่นทำให้ขวัญชีวาอยู่คนเดียวอีกครั้ง เธอเปิดดูเงินในซองที่มีอยู่จำนวนหนึ่งพอนำมารวมกับเงินของตัวเองก็ยังคงเครียดเพราะยังขาดอยู่อีกมาก 

ถ้าวันนี้รอยส์เซ็นอนุมัติเรื่องลาออกทันทีเธอก็จะได้เงินกองทุนคืนมาเร็วขึ้น เงินเดือนบวกกับเงินที่เก็บสะสมมาก็พอจะเป็นค่ารักษาได้ส่วนหนึ่ง แต่มองยังไงก็ยังไม่พออยู่ดี ทุกอย่างมันบีบคั้นจนทำให้ขวัญชีวาอยากร้องไห้แต่ร้องไปก็เท่านั้นเพราะเวลานี้น้ำตาไม่อาจช่วยอะไรเธอได้ 

“ไม่ว่ายังไง เกี๊ยวจะหาเงินมารักษาน้องกวินท์ให้ได้” ขวัญชีวายังคงนั่งบีบมือพร้อมก้มหน้าอย่างอับจนหนทางอยู่ที่เดิม จู่ๆ ก็มีเท้าคู่หนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า เพราะคิดว่าเป็นหมอน่านหมอประจำตัวของลูกชายเธอจึงเงยหน้าขึ้นมองแต่แล้วคนที่เธอสบตาด้วยกลับไม่ใช่คนที่คิด

“คุณรอยส์” สีหน้าของขวัญชีวาบ่งบอกว่าเธอทั้งตกใจและแปลกใจที่เห็นเจ้านายหนุ่มที่นี่ 

“ลูกชายคุณเป็นยังไงบ้าง”

“ปลอดภัยแล้วค่ะ โชคดีที่คราวนี้หมอพาแกกลับมาได้” 

“แต่ถ้าไม่ผ่าตัดก็คงไม่โชคดีแบบนี้ทุกครั้ง” คำพูดของรอยส์ทำให้ขวัญชีวาไม่พอใจแต่ก็ต้องเก็บเหล่านั้นอารมณ์ไว้  

“ขอบคุณนะคะที่แวะมา แต่ถ้าไม่เป็นการรบกวน ฉันอยากอยู่คนเดียว” ขวัญชีวาไล่เจ้านายหนุ่มกลายๆ แต่ดูเหมือนรอยส์จะตีมึนต่อคำพูดของเธอ

เขาสอบถามอาการป่วยของลูกชายเธอมาคร่าวๆ แต่แค่นั้นมันก็เพียงพอที่ทำให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของเธอได้หลายๆ อย่าง    

“ผมมีบางอย่างจะเสนอ”

“อะไรคะ”

“คุยกันตรงนี้เลยเหรอ ไปหาที่เงียบๆ เป็นส่วนตัวหน่อยดีไหม” รอยส์หันมองรอบๆ ตัว เพราะดูจากสถานที่แล้วมันไม่ค่อยสะดวกที่จะคุยเรื่องสำคัญเสียเท่าไหร่ 

“ฉันสะดวกตรงนี้”

“โอเค ตรงนี้ก็ตรงนี้” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อย คงต้องตัดเรื่องความเหมาะสมของสถานที่ออกไปก่อนชั่วคราว เขาเดินไปหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวข้างๆ กับขวัญชีวา 

“ผมจะเร่งการผ่าตัดลูกชายคุณให้เร็วขึ้น รวมถึงย้ายโรงพยาบาลด้วยเพราะที่นี่เครื่องไม้เครื่องมือเฉพาะทางคงไม่ทันสมัยเท่าโรงพยาบาลครอบครัวผม อีกอย่างที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องเกี่ยวกับผ่าตัดทางสมองเป็นพิเศษ คุณก็น่าจะรู้ดีว่ายิ่งมีปัจจัยดีๆ หลายๆ อย่างการผ่าตัดที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสมองก็ยิ่งมีโอกาสสำเร็จมากตามไปด้วย”

“ข้อแลกเปลี่ยนละคะ” ขวัญชีวาเอ่ยแทรกขึ้น เธอถามอย่างตรงไปตรงมานั่นเพราะข้อเสนอดีๆ แบบนี้รอยส์คงไม่ให้เธอฟรีๆ แน่นอน ดีไม่ดีเขาอาจขอให้เธออยู่ทำงานด้วยไปจนแก่ตาย

“คุณนี่ ทำไมถึงรีบถามทั้งๆ ที่ผมยังพูดไม่จบ”

“ก็คุณเสนอให้ฉันมากขนาดนั้นมันย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนไม่ใช่เหรอ ว่าไงคะข้อแลกเปลี่ยนของคุณคืออะไร” 

“นอนกับผม”

“อะไรนะ!” ขวัญชีวาอุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินข้อแลกเปลี่ยนจากอีกฝ่าย สิ่งนี้มันไม่ได้อยู่ในหัวเธอด้วยซ้ำ 

“แค่คืนเดียวปัญหาที่คุณเจออยู่ตอนนี้ผมจะปลดล็อคให้ทุกอย่าง อ้อ…รวมถึงเงินจำนวนเจ็ดหลักจะถูกโอนเข้าบัญชีคุณอีกด้วย” รอยส์พูดเหมือนทุกอย่างแค่เรื่องปกติง่ายๆ สบายๆ สำหรับเขา ทว่ามันกลับหนักอึ้งในหัวใจของขวัญชีวา 

“ฉันไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้” แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังนั่นเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดทุกอย่างได้อย่างไม่รู้สึกละอายใจเลย เขาพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ  

“ผมก็ไม่ได้บอกนี่ว่าเป็นคนดี อีกอย่างผมเป็นนักธุรกิจถ้าทำอะไรแล้วขาดทุนผมจะเสียเวลาทำไปทำไม” ยิ่งได้ยินคำเปรียบเทียบที่ออกมาจากปากของรอยส์   ขวัญชีวาก็ยิ่งพูดไม่ออก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status