แชร์

บทที่ 4

ใช่…เขาเป็นนักธุรกิจที่ทำอะไรแล้วต้องหวังกำไร 

แต่…ทำไมต้องเป็นเธอ ทำไมสถานการณ์ของเธอถึงได้เลวร้ายลงเรื่อยๆ เช่นนี้ ทำไมต้องได้ยินข้อเสนอแบบนี้ด้วย ทำไมกัน 

“คุณไม่กลัวฉันเอาเรื่องนี้ไปแบล็คเมล์เลยหรือคะ”

“ไม่นี่หรือถ้าคุณต้องการทำแบบนั้นก็ตามสบายเพราะคนแบบผมจัดการคุณก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายได้แน่นอน” รอยส์ชิงพูดออกไปก่อนราวกับชายหนุ่มเข้ามานั่งอยู่ในความคิดของขวัญชีวา 

“ฉันต้องให้คำตอบคุณเมื่อไหร่” แม้จะอยากปฏิเสธเสียเดี๋ยวนี้แต่ชีวิตลูกชายคนเดียวของเธอคือประตูเหล็กที่สามารถปิดกั้นคำพูดเหล่านั้นของเธอได้

“ผมรู้ว่าคุณมีเวลาในใจอยู่แล้ว เอาเป็นว่าผมจะกลับไปรอฟังคำตอบจากคุณ” เอ่ยจบรอยส์ก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปทันที ขณะที่ขวัญชีวายังคงอึ้งและพูดอะไรไม่ออกอีกเลย สิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้นอกจากลมหายใจเบาๆ แล้วก็คือน้ำตา

แม้กำลังร้องไห้แต่สมองกลับคิดถึงข้อเสนอของเจ้านายหนุ่ม นอนกับเขาแค่คืนเดียวแต่ช่วยชีวิตลูกชายได้ ลูกที่เป็นเหมือนแก้วตาดวงใจ ลูกที่เธอสัญญาไว้ว่าต่อให้ลำบากแค่ไหนก็จะเลี้ยงแกให้ดี เพราะถ้ากวินท์เป็นอะไรไปทั้งๆ ที่เธอมีโอกาสหาเงินมารักษาได้ นั่นคงเป็นตราบาปที่ทำให้เธอรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต

แม้จะคิดแบบนั้นทว่าขวัญชีวาก็อดไม่ได้ที่จะสมเพชและสงสารตัวเองจนน้ำตาเอ่ออีกครั้ง  

รอยส์กลับมารอรับสายโทรศัพท์ของขวัญชีวาที่บ้าน ชายหนุ่มปรับอารมณ์ที่ค่อนข้างกระวนกระวายด้วยการจิบไวน์นำเข้ารสเลิสไปด้วยขณะที่สายตามองตรงมาที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ยังคงไม่ได้รับการติดต่อจากขวัญชีวาแต่อย่างใด

ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ปริมาณไวน์ในขวดก็เหมือนจะหายไปเรื่อยๆ รอยส์มองหน้าจอโทรศัพท์สลับกับนาฬิกาบนข้อมือที่เวลาตอนนี้เกือบสี่ทุ่ม

“หรือให้ข้อเสนอเธอน้อยเกินไป” เสียงทุ้มพึมพำออกมาเบาๆ นี่คือครั้งแรกที่เขายื่นข้อเสนอทั้งเงินทั้งออฟชั่นอื่นให้ผู้หญิงเพียงเพราะต้องการให้เธอนอนด้วยแค่คืนเดียว หนำซ้ำยังเป็นผู้หญิงที่ผ่านการมีครอบครัวมาแล้วและตอนนี้อยู่ในสถานะคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

แต่ให้ทำยังไงในเมื่อเขาชอบเธอ ชอบตั้งแต่แรกเห็นด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่พยายามหยุดความคิดพวกนั้นทว่าความรู้สึกชอบกลับไม่เคยน้อยลง เขาชอบในความเก่งและความแกร่งของเธอ เขารู้ว่าเธอทำงานหนักเพื่อลูกชายแต่ก็ยังฉวยโอกาสเอาข้ออ้างเหล่านั้นมาตะล่อมให้เธอรับข้อเสนอที่เขาได้ผลประโยชน์

เขามั่นใจว่าต้องมีบริษัทบางแห่งซื้อตัวขวัญชีวาไปแน่นอน ยิ่งเธอร้อนเงินแบบนี้ด้วยแล้วการตกลงก็ยิ่งง่ายเพราะแบบนั้นเธอจึงลาออกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ในเมื่อ   ขวัญชีวาจะไปจริงๆ ทางเดียวที่จะรั้งไม่ให้เธอไปคือเขาต้องเอาตัวเข้าแลกแล้วทำทุกอย่างเพื่อให้เธอตกเป็นทาสสวาท

ซีอีโอหนุ่มยิ้มกริ่มกับแผนบ้าๆ ของตัวเองที่จู่ๆ มันก็ผุดเข้ามาในหัวตอนกำลังเครียดแล้วที่บ้าไปกว่านั้นคือเขาดันหยิบเอาแผนที่ว่ามาใช้กับขวัญชีวาจริงๆ และก่อนที่สมองของรอยส์จะฟุ้งซ่านไปไกลคนที่ชายหนุ่มกำลังรอสายก็โทรเข้ามาพอดี

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า” รอยส์ตั้งใจยื้อเวลาเพราะไม่อยากรีบรับสายแล้วทำให้ขวัญชีวาเข้าใจผิดว่าเขานั้นกำลังรอเธออย่างใจจดใจจ่อ เขาทำแบบนั้นกระทั่งสายเกือบตัดจึงกดรับสายด้วยเสียงทุ้มต่ำทว่าน่าฟัง 

“รอยส์ครับ”

“ฉัน…ขวัญชีวาค่ะ” แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นใครทว่าขวัญชีวาก็ยังคงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเหมือนทุกครั้งที่ได้คุยสายกับเขา ทว่าครั้งนี้จุดประสงค์มันต่างออกไปจากครั้งที่ผ่านมา 

“ครับ ผมฟังคุณอยู่”

“ฉันตกลงรับข้อเสนอของคุณ” 

“โอเค” รอยส์เอ่ยรับอย่างยินดีแต่ก็ไม่ได้แสดงออกผ่านน้ำเสียงจนทำให้ขวัญชีวาจับสังเกตได้  

“แต่ฉันมีข้อแม้”

“ว่ามาได้เลย”

“กรุณาเซ็นใบลาออกให้ฉัน” 

“ทำไมถึงยังคิดอยากลาออกหรือว่าที่ใหม่จูงใจคุณด้วยเงินเดือนที่สูงขึ้น บอกผมว่าที่นั่นให้คุณเท่าไหร่ผมจะให้มากกว่า” 

“เปล่าค่ะ”

“งั้นช่วยบอกเหตุผลของคุณให้ผมฟังหน่อย”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status