Share

ทำมาค้าขาย 4

Penulis: LiHong
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-04 21:04:01

ยามนี้เสี่ยเฟิงและซานซานประหนึ่งกำลังเล่นงิ้วฉากใหญ่ พวกเขาวิ่งไล่วิ่งหนีอยู่ในวงล้อมของผู้คน

เสี่ยเฟิงไล่ต้อนซานซานอย่างหื่นกระหาย อีกฝ่ายทำท่าหนีตายระส่ำระส่ายเนื้อตัวสั่นเทา น่าสงสารเหลือเกิน

เมื่อสบจังหวะ หญิงสาวผู้ถูกรุกรานก็ดึงปิ่นออกมาจากมวยผม ปิ่นเงินอันเล็กเมื่อถูกดึงกระชากพลันยาวยื่นสะท้อนแสงวูบวาบ พร้อมจ้วงแทงให้ทะลุเนื้อหนัง ยังมีกำไลที่ข้อแขนเมื่อดึงสลักยังกลายเป็นมีดสั้นเหมาะมือยิ่ง

สร้อยคอเมื่อถูกกระชากยังกลายร่างเป็นเชือกมีหนาม ทั้งเหนียวทั้งแข็ง สะบัดส่งไปไม่ต่างจากแส้พิฆาตฟาดกระหน่ำ

สายรัดเอวเมื่อถูกกระตุกจนหลุดออก ยังกลายเป็นดาบอ่อนซ่อนความคมกริบ ทั้งพลิ้วทั้งสะดวกใช้งาน

กระพรวนตรงข้อเท้าเมื่อซานซานเตะส่งออกไป พลันมีลูกกระพรวนอันเล็กๆ นับสิบหลุดจากกระพรวนอันใหญ่พุ่งทะลักสาดกระจายใส่เบ้าตา

ในถุงหอมยังมีสมุนไพรเม็ดละเอียด เมื่อเปิดปากถุงผ้าแล้วสะบัดออกให้สัมผัสกับอากาศภายนอกก็พลันเกิดระเบิดไฟ

เสี่ยเฟิงหลบหลีกทุกอาวุธลับด้วยกระบวนท่าที่ได้ฝึกฝน แต่กระนั้นเพื่อความสมจริงยังต้องยอมให้เกิดบาดแผลมีเลือดไหลรินออกมาบ้าง แล้วค่อยกลับไปรักษาทายาที่บ้าน

ยามนี้รอบด้านของซานซานและเสี่ยเฟิงเต็มไปด้วยผู้คน  มีทั้งหญิงสาว ทั้งหญิงแก่ ทั้งชายหนุ่ม ชายแก่เต็มไปหมด พวกเขามองสองชายหญิงตรงหน้าด้วยความคิดหลากหลาย

ในความคิดบรรดาหญิงสาววัยสะพรั่ง พวกนางคิดได้ว่า แม้จะไม่ต้องไปเผชิญกับโจรผู้ร้ายหรือไปออกศึกรบราฆ่าฟัน  แต่ในชีวิตประจำวันล้วนได้เจอกับพวกหนุ่มเจ้าสำราญที่คิดจะลวนลามสาวงามอยู่บ่อยๆ ยังไม่นับรวมพวกอันธพาลที่เป็นลูกหลานขุนนางซึ่งไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ใช้อำนาจกดข่มพวกนางอย่างไม่ไยดีต่อศีลธรรม

ในขณะที่บรรดาบุรุษที่แต่งงานแล้วก็คิดว่าควรซื้อไปฝากภรรยาเพราะว่ามันสวยดี ส่วนบุรุษที่ยังไม่แต่งภรรยาก็คิดว่าควรนำไปเป็นของกำนัลเพื่อมัดใจสาวงาม

ยังมีอีกหลายคนที่คิดจะซื้อไปฝากบุตรสาวที่เฝ้าถนอม ยามต้องจำยอมปล่อยพวกนางให้ห่างไกลตา

หลังจากนั้นความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อผู้คนต่างกรูเข้ามาซื้ออาวุธงดงามกันอย่างล้นหลาม เรียกว่าเก็บเงินแทบไม่ทัน

เพียงครึ่งชั่วยาม ตรงหน้าของเสี่ยเฟิงก็เหลือแค่เสื่อไม้ไผ่ ปราศจากอาวุธใดให้เห็นอีกต่อไป แต่มีเงินวางอยู่กองหนึ่ง

ชายหนุ่มยิ้มจนตาหยีปากแทบฉีกถึงใบหู หันมาบอกกับเจ้าก้อนแป้งที่นั่งบนตั่งตั้งแต่ต้นจนจบว่า

“พี่เฟิงจะพาหลิ่งเอ๋อร์ไปเที่ยวให้ทั่วเมืองหลวงเลย”

พวงแก้มกลมป่องของสาวน้อยแดงระเรื่อ ปากจิ้มลิ้มขบเม้มน้อยๆ นางเบิกตากลมโตจ้องมองอย่างรอคอยมาตั้งนานแล้ว

เมืองหลวงหมิงเวยกว้างใหญ่จริงๆ

หากบอกว่าทำเลก่อนหน้าถือว่าดีแล้ว ยิ่งเดินเข้ามาตรงใจกลางของความรุ่งเรืองก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ความเจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงมีมากกว่าชนบทหลายเท่าตัว น่าอยู่อาศัยเป็นที่สุด

สองฝั่งข้างทาง มีแต่โรงเตี๊ยมหลายชั้น ร้านผ้าขนาดใหญ่ โรงเหล้าหลายคูหา เหลาอาหารโออ่า ร้านค้าเครื่องประดับงดงาม   

อย่าว่าแต่ร้านค้าแผงลอยเลย กระทั่งร้านค้าที่เป็นเพิงไม้ก็ยังไม่มี

ซานซานซื้อชุดใหม่ เปลี่ยนมาใส่ชุดสีเขียวสดไร้ลวดลายแลดูเรียบง่ายเพราะไม่เน้นความโดดเด่นดึงดูดสายเช่นเมื่อครู่อีก เส้นผมม้วนขึ้นครึ่งศีรษะปักปิ่นเงินธรรมดา ปล่อยอีกครึ่งสยายเคลียไหล่ แลดูอ่อนหวานผสานความทะมัดทะแมงได้อย่างลงตัว

เจ้าก้อนแป้งน้อยได้ชุดใหม่เช่นกัน นางใส่ชุดสีชมพูสดใส บนศีรษะหวีเกล้าเป็นมวยสองข้าง ผมหน้าม้าตัดตรงเผยดวงตากลมโตอ่อนหวานไร้เดียงสา แก้มอมชมพูอวบอิ่มเคี้ยวขนมจนกลมพองตลอดเวลา สองเท้าเล็กทั้งขาวทั้งบอบบางใส่รองเท้าสีขาวสะอาดตา ไม่มีฝุ่นดินเปรอะเปื้อนสักนิด

เพราะผู้คนพลุ่งพล่านเกินไป ซานซานจึงอุ้มลูกน้อยแนบอกไว้แน่น ไม่ปล่อยให้ลู่หลิ่งได้วิ่งเล่นเลยสักครา

“วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนหนาตาเหลือเกิน ไม่แน่ว่ากำลังจะมีขบวนราชนิกุลเสด็จ หรือไม่ก็ท่านแม่ทัพกำลังเคลื่อนกองพลเดินขบวนผ่านทาง”

เสี่ยเฟิงเอ่ยปากอธิบายให้สองแม่ลูกฟังมาตามทาง

เพราะชุดเดิมเปื้อนเลือดไปแล้วเสี่ยเฟิงจึงอยู่ในชุดใหม่เช่นกัน เพียงแต่ยังคงเป็นชุดขาวดุจเดิมสวมหน้ากากเงินอันเดิม

ชายหนุ่มทำท่าองอาจสง่างามยามประเมินรอบด้านอย่างเรียบง่ายตามประสบการณ์เกี่ยวกับเมืองแห่งนี้  

ยามนี้รอบทิศมีแต่ชาวบ้านชาวเมืองออกมาชะเง้อคอคล้ายรอคอยบางสิ่งอยู่นอกเรือนเต็มไปหมด

หญิงสาวชุดสีฟ้าครามผู้หนึ่งที่ยืนเบียดเสียดอยู่ใกล้ๆ ได้ยินคำพูดของเสี่ยเฟิงจึงมีน้ำใจช่วยแถลงไข

“วันนี้องค์รัชทายาทจะเสด็จผ่านทางนี้ พระองค์กำลังเดินทางไปปราบศึกชายแดนเจ้าค่ะ”

เมื่อได้รับคำตอบ เสี่ยเฟิงจึงหันหน้าไปมองหญิงคนนั้นด้วยสายตาลุ่มลึก พยักหน้าเบาๆ ยกยิ้มน้อยๆ เอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม

“ขอบคุณแม่นาง”

แม่นางพลันหน้าแดงก่ำ ยืนบิดตัวเอียงอาย ชายผ้าแทบขาด

ส่วนเสี่ยเฟิงให้รู้สึกภูมิใจยิ่งนัก ดวงตาที่บอดไปหนึ่งข้าง มิใช่อุปสรรคในการหาสตรีมาเคียงคู่เลยสักนิด

ชั่วอึดใจต่อมา ...จุดที่สามารถยืนมองขบวนเสด็จพร้อมกับผู้คนย่อมเป็นจุดนี้เท่านั้น เสี่ยเฟิงปักหลักยืนกับแม่นางชุดสีฟ้า ไม่ไปไหนทั้งสิ้น

ซานซานกับลู่หลิ่งมองชายหญิงตรงหน้าตาปริบๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 1

    เวลาผ่านไปช้าๆ ผู้คนยิ่งนานยิ่งหนาตา เบียดเสียดหนาแน่นวุ่นวายในที่สุด ...ขบวนเสด็จที่รอคอยก็ปรากฏ เสียงแซ่ซ้องดังกระหึ่มกึกก้อง ชาวเมืองหมิงเวยพากันคุกเข่าลง ร้องสรรเสริญองค์รัชทาทยาทต้าถัง ผู้เปรียบประดุจเทพบนฟากฟ้าแต่เลือกย่ำพสุธาบนแดนมนุษย์ เพื่อบรรเทาทุกข์ทั่วสารทิศหากกล่าวตามจริง การที่ชาวประชาราษฎร์ต่างชื่นชมเพียงจ้าวเหว่ย ทั้งยังกล่าวถึงความเปี่ยมบารมีแผ่ไพศาลของเขายิ่งกว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเช่นนี้ นับว่าไม่เหมาะสมอยู่มาก บุตรไม่อาจเหนือกว่าบิดาจ้าวเหว่ยย่อมรู้ดีว่าการใดควรไม่ควร คำสั่งเคลื่อนทัพแม้เป็นเขาเสนอตัว ทว่าความจริงย่อมเป็นเพราะอำนาจแห่งพระราชดํารัสของพระบิดา เขาจึงให้หัวหน้าขบวนกล่าวคำนำแซ่ซ้องต่อพระองค์ไปจนสุดทาง ความหมายว่าอำนาจบารมีของจักรพรรดิอยู่สูงที่สุด แผ่ไพศาลยิ่งกว่าใคร ชาวบ้านจึงพร้อมใจเปลี่ยนมากล่าวคำสรรเสริญดังกึกก้องว่า ‘ต้าถังจงเจริญ ขอฮ่องเต้ทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี ขอบุญบารมีแห่งพระองค์ส่งให้จอมทัพชนะศึกครานี้’การกระทำของจ้าวเหว่ยล้วนอยู่ในพระเนตรของฮ่องเต้ทั้งสิ้น และพระองค์ก็ทรงเห็นชอบอย่างยิ่ง ทั้งยังมีพระประสงค์สละบั

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-05
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 2

    จากที่ได้ฟังเรื่องราวที่กล่าวถึงวีรกรรมความกล้าหาญและการเสียสละความสุขส่วนตัว แล้วเลือกเดินทางออกมาดูแลชาวประชาด้วยตนเองเสมอมา ทำให้ซานซานปลื้มรัชทายาทหนุ่มผู้นี้เหลือเกิน ในใจนางคิดว่า บุรุษผู้นี้ช่างเหมาะสมยิ่งนักที่จักเป็นโอรสสวรรค์ เป็นองค์จักรพรรดิผู้ปกปักษ์พิทักษ์แคว้น ไม่อาจมีใครอื่นแทนที่เขาได้ ราชันแห่งต้าถังต้องเป็นคนผู้นี้เท่านั้นส่วนลู่หลิ่งมองตามมารดาด้วยดวงตากลมโตไร้เดียงสา ทว่าสุกสกาวพราวระยับยากสงบ ผ่านไปซักพักสองมือเล็กก็ยกขึ้น แขนกางออก สาวน้อยร้องไห้กระซิกเบาๆ ร้องว่าจะเอาๆ ไม่หยุด ทว่ารอบด้านยามนี้ เสียงของชาวบ้านดังเกินไปจึงไม่มีใครได้ยิน แม้แต่ซานซานรัชทายาทหนุ่มรูปงามสูงศักดิ์ เป็นที่หมายปองของอิสตรี ทั้งสูงส่งและห่างไกลปานนั้น ไม่มีสิทธิ์แม้คิดฝันที่จะได้เฉียดใกล้ขบวนเสด็จอันเกรียงไกรค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านหน้าไป ซานซานอุ้มลูกน้อยเอาไว้แนบอกอุ่น พวกนางแม่ลูกคุกเข่าปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงชนจนแทบจะถูกกลืนหายจ้าวเหว่ยบนหลังม้ารู้สึกชาวาบในอกอย่างประหลาดเบื้องล่างของชายหนุ่มบนหลังม้าเต็มไปด้วยฝูงชนที่คุกเข่าคลาคล่ำเบียดเสียดแน่นขนัด มองไม่ออกว่าใครเป็นใครภายใต้ใบห

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-05
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 3

    ซานซานจึงหลุดหัวเราะออกมาสตรีที่ชวนนางคุยยังคงเอ่ยต่อ “องค์รัชทายาทยังไม่แต่งพระชายา ไม่แปลกที่ผู้คนจะพากันหลงใหลถึงขั้นใฝ่ฝันหาอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ บุตรสาวของข้าก็ชอบเช่นกัน เพียงแต่วันนี้นางหลับกลางวันอยู่กับแม่นม จึงมิได้พามาชมด้วยกัน”ซานซานเลิกคิ้วเล็กน้อย สนทนาด้วยดี “เกรงว่าบุตรสาวของท่านคงอายุใกล้เคียงบุตรสาวของข้ากระมัง”“ไม่ผิดๆ เห็นเป็นเด็กเล็กก็อย่าได้ดูเบาเชียว อายุแค่นี้ก็รู้จักชมชอบบุรุษแล้ว”ทั้งสองพากันหัวเราะชอบใจ คุยกันถูกคอไม่น้อยภายหลังซานซานจึงได้รู้ว่าสตรีนางนี้เป็นเจ้าของเหลาอาหารหาวชืออยู่อีกตรอกถนน นางจึงพาลู่หลิ่งมาอุดหนุนกินอาหารเสียเลย“ข้ามีนามว่าจางเหริน เรียกอาเหรินได้เลย” จางเหรินเอ่ยกับซานซานอย่างเป็นกันเองพลางดูแลอาหารจนเต็มโต๊ะหญิงสาวยิ้มรับไมตรีไม่มีปฏิเสธ “เรียกข้าว่าซานซาน ส่วนลูกข้า ลู่หลิ่ง นี่น้องชายข้า เสี่ยเฟิง” นางแนะนำจนไปถึงสตรีแปลกหน้าผู้หนึ่งที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย หัวคิ้วจึงเลิกขึ้น นึกแปลกใจนักเสี่ยเฟิงรีบแนะนำต่อทันที “นางมีนามว่าเว่ยลี่ขอรับ เรียกลี่เอ๋อร์ก็ได้” จบคำก็ยกยิ้มเก้อเขิน แม่นางเว่ยลี่ก็ก้มหน้าเอียงอายซานซานจึงเข้าใจได้

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-06
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 4

    เมื่อลู่หลิ่งกินอิ่มก็เริ่มซุกซน แม่นางน้อยจึงวิ่งเล่นกับบุตรสาวของจางเหรินที่มีอายุไล่เลี่ยกันซานซานเห็นลูกมีเพื่อนเล่นจึงปล่อยไปเช่นนั้น สั่งอาหารเพิ่มแล้วนั่งกินอย่างใจเย็นจางเหรินยิ่งยินดีเพราะได้ค้าขายเสี่ยเฟิงยิ่งปรีดาเพราะได้นั่งสนทนากับคนงาม“ท่านแม่”ลู่หลิ่งวิ่งตึกๆ กลับมาหาซานซาน มือเล็กยกกระดาษที่มีหมึกวาดอักษรขึ้นสูง โอ้อวดเต็มที่“หลิ่งเอ๋อร์เขียนเอง ได้พี่สาวสอน งามหรือไม่?” ซานซานยังไม่ทันได้ชื่นชม เสียงสดใสของแม่นางน้อยอีกคนก็ดังขึ้น “น้องหลิ่งฉลาดมากๆ เลย ข้าสอนแค่ครั้งเดียว เขียนได้ตั้งหลายตัวเจ้าค่ะ”หลิ่งเอ๋อร์หัวเราะร่าเริง “ข้าชอบเขียนที่สุด”บุตรสาวจางเหรินตบไหล่ “ชอบเขียนแสดงว่าชอบเรียน”“อื้ม...ข้าชอบเรียนที่สุด”“ชอบเรียนก็ต้องได้เรียน”“อื้ม...เรียนที่ใด?”“ก็สำนักศึกษาอย่างไรเล่า”“สำนักศึกษารึ?”“ใช่!”“คือที่ใด?”“โอ...เจ้าไม่รู้ได้อย่างไร?”“ข้าไม่รู้”“เฮ้อ! ช่างเถอะๆ มานี่”เด็กหญิงทั้งสองคุยกันเสร็จก็จับมือวิ่งตึงๆ จากไปซานซานได้แต่มองตาม ไม่ทันได้เอ่ยปากสักคำทว่าโดยที่ไม่มีใครรู้ นางได้จดจำคำพูดเล็กๆ น้อยๆ นี้กลับไปคิดเสียมากมายหลังจากหาเงินร

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-06
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 5

    ทางฝั่งหนึ่งในถ้ำใต้แท่นหิน ลู่หลิ่งกำลังขี่หลังอาหู่เล่นซนไปทั่วบัดนี้อาหู่มิใช่ลูกเสือดาวหิมะตัวเล็กๆ อีกแล้ว เพราะว่าซานซานไปอยู่ในเมืองเสียเนิ่นนาน มันที่เป็นสัตว์โตเร็วอยู่แล้วจึงตัวใหญ่ผิดหูผิดตา พละกำลังก็มีเพิ่มขึ้นมากทว่ายังคงจดจำกลิ่นของสองแม่ลูกได้ดี โดยเฉพาะกลิ่นของลู่หลิ่งขณะกำลังขี่หลังเสือ สาวน้อยลู่หลิ่งก็มองซ้ายมองขวา เห็นมารดายังไม่กลับมา จึงกระซิบกับสหาย“อาหู่ ข้าอยากออกไปเล่นข้างนอก”ถึงแม้อาหู่จะฟังภาษามนุษย์ไม่เข้าใจ แต่เท้าเล็กๆ ที่ตีตะปบตรงก้นผสานกับมือน้อยๆ ที่บิดหูไปมา เพื่อสั่งให้มันเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตามทิศทางที่ต้องการ ไม่นาน ...มันก็พาลู่หลิ่งออกมายืนนิ่งอยู่นอกถ้ำแล้วเด็กน้อยหัวเราะชอบใจ เปล่งเสียงกังวานใสเบิกบานยิ่ง อาหู่เห็นเช่นนั้นก็พานางกระโจนวิ่งเล่นไปทั่วแท้จริงแล้วอาหู่คือเสือตัวผู้ น่าเกรงขามเป็นที่สุดและระหว่างที่มันอยู่ตามลำพัง มันยังท่องเที่ยวไปทั่วป่า สร้างอาณาเขตของตนเองได้กว้างขวางนักทั้งสองคือสัตว์ป่ากับเด็กน้อยช่างกระตือรือร้นกับการหนีเที่ยวยิ่งนัก พริบตาเดียวก็ออกมาไกลโขสัญชาตญาณของพยัคฆ์คือการปกป้อง ลู่หลิ่งย่อมปลอดภัยไร้กังวล

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-07
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   จอมยุทธ์น้อย 6

    การต่อสู้เบื้องหน้ายังคงดำเนินไป ยิ่งนานชายในชุดทหารยิ่งปราชัย คนชุดดำยิ่งขยับเข้ามาใกล้ เสียงดาบแกว่งไกว ทั้งว่องไวและคุกคาม ยิ่งนานยิ่งเสียดแทงแก้วหูอาหู่หมอบตัวกับพื้นดินให้ลู่หลิ่งลงจากหลังเด็กน้อยจึงยืนเบื้องหน้าสาวงาม โดยมีเสือดาวหิมะยืนตระหง่านอีกชั้นหนึ่ง กางกั้นเภทภัยที่กำลังกล้ำกรายเหล่าสตรีเจ้าก้อนแป้งในชุดสีชมพูอ่อนหวาน บนศีรษะหวีเกล้าเป็นมวยสองข้าง ผมดำขลับทรงหน้าม้าน่ารัก แก้มชมพูอวบอิ่ม ผิวขาวผ่องนุ่มนิ่ม สองเท้าเล็กยืนนิ่ง สองแขนกางออกผงาดกล้า ในมือน้อยๆ มีมีดพับข้างละเล่ม สะบัดเบาๆ ก็ยาวยื่น ขยายการปกป้องออกไปราวหนึ่งฉื่อ[1]สตรีทั้งสองผู้กำลังถูกปองร้ายจึงได้รับการคุ้มครองเช่นนี้ พวกนางเบิกตากว้างแทบถลน คนสองคนที่เป็นผู้ใหญ่ถึงกับลืมกรีดร้องกันเลยทีเดียวอาหู่ค่อยๆ ย่ำเท้าทั้งสี่ขึ้นหน้า รอจังหวะเข้าขย้ำศัตรูให้จมเขี้ยว ในขณะที่ลู่หลิ่งค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลัง เมื่อถึงตัวของหญิงงามทั้งสอง นางจึงยื่นมีดสั้นในมือให้“พวกท่านถือเอาไว้ก่อน”คล้ายกับถูกฝากของ หญิงทั้งสองรับเอาไว้อย่างลังเล เห็นเด็กน้อยตัวเล็กหันมามองด้วยดวงตากลมโตบริสุทธิ์สัตย์ซื่อ นางยกยิ้มน่ารัก กำชับ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-07
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   นักฆ่า 1

    เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในถ้ำพร้อมอาหารเต็มอ้อมแขนซานซานพลันขมวดคิ้วแน่น มองกวาดจนทั่วบริเวณถ้ำอยู่สองรอบก็ยังไม่พบตัวบุตรสาว กระทั่งเสือดาวหิมะก็ยังหายตัวไปแม้นางจะคิดว่าลู่หลิ่งคงให้อาหู่พาไปเที่ยวเล่นซุกซนด้านนอกไม่ไกล แต่สัญชาตญาณแห่งมารดาไม่เคยธรรมดา พริบตาต่อมาซานซานก็พลิกกายพุ่งทะยานด้วยหัวใจที่เต้นระรัววิชาตัวเบาเลิศล้ำทำให้ใช้เวลาแค่หนึ่งเค่อ หญิงสาวก็พบร่องรอยอันน่าสงสัย เบื้องหน้าในระยะสายตามีซากศพคนตาย ทั้งทหารอาภรณ์แดงและคนชุดดำนอนสิ้นชีพกระจายเกลื่อนไม่ไกลกันจึงได้เห็นขลุ่ยหยกหักสองท่อน ยังมีมีดสั้นของลู่หลิ่งตกอยู่ทั้งสองเล่ม และเสือดาวนอนจมกองเลือดสีแดงฉาน“อาหู่!”ซานซานตระหนกวูบ คล้ายหัวใจดิ่งลงเหวทันใดเสือดาวหิมะเห็นเจ้านายมาแล้วก็ส่งเสียงครางอย่างยินดี“หลิ่งเอ๋อร์เล่า?” ซานซานถามพลางโรยยาห้ามเลือดสมานแผลให้อาหู่กำลังวังชาของอาหู่คล้ายถูกเพิ่มฉับพลัน มันลุกขึ้นยืน ฝืนความเจ็บจนขาสั่น ก่อนจะพยายามกระโจนตัวตามกลิ่นไป ...กลางป่าอีกฝั่งหนึ่งห่างจากจุดเข่นฆ่าออกมาราวครึ่งลี้นักฆ่าเหลือพวกพ้องทั้งสิ้นแปดคน สี่คนถูกพิษจนไม่อาจเดินทางต่อแม้ครึ่งก้าว ได้แต่นอนครวญครา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-08
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   นักฆ่า 2

    ลู่หลิ่งถูกกระชากคอเสื้ออย่างแรง มิอาจหลบได้ทัน ทั้งตกใจและเจ็บแปลบ จึงร้องไห้จ้าทว่าพริบตาตรงคอเสื้อของเด็กน้อยคงเหลือแต่ฝ่ามือหยาบหนากับเลือดกระฉูดแดงฉานติดเสื้อ ส่วนลำตัวกลับหายไปเจ้าของฝ่ามือผู้นี้ถูกดึงกระชากขึ้นไปบนต้นไม้ ดิ้นพล่านขลุกขลักค้างเติ่งอยู่บนนั้น ที่ลำคอมันมีเชือกเถาวัลย์รั้งเอาไว้จนลิ้นจุกปากตาเหลือกแทบถลนออกนอกเบ้า รอความตายกลืนกินอย่างทรมานไม่นานก็ได้ยินเสียงลำคอของมันหักดังกร๊อบ เพราะขยับเหวี่ยงแขนที่ถูกตัดขาดด้วยความเจ็บปวดรุนแรงเกินไป ยังผลให้ตายเร็วอย่างที่สุดชายอีกสองคนยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกกระชากจากฝ่ามือปริศนาจนกระเด็นออกห่างจากลู่หลิ่งไปไกลหลายจั้ง ประหนึ่งถูกปีศาจรั้งกระตุกตรงจุดที่มันทั้งสองตกกระแทกพื้นดิน มีร่างระหงของซานซานรอรับอยู่แล้ว ด้วยดาบโค้งเงาจันทร์ที่เสี่ยเฟิงตีขึ้นมานางสะบัดดาบในมือทั้งสองข้างเพียงพรึบเดียว หัวของชายชุดดำทั้งด้านซ้ายและด้านขวาพลันสะบั้นในพริบตา พวกมันยังไม่ทันได้อ้าปากร้องด้วยซ้ำ“ท่านแม่!”ลู่หลิ่งร้องเรียกมารดา น้ำตาไหลนองเต็มสองแก้มอาหู่ที่ติดตามซานซานมารีบกระโจนเข้าหาเด็กน้อยทันทีคนชุดดำที่เหลืออีกห้าคนเบิกตาโพลงอย

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-09

Bab terbaru

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   คำรายงาน 3

    ถึงแม้ว่าผิวเนื้อกระดาษจะต่างกัน เพราะแผ่นหนึ่งเป็นกระดาษตำหนักใน แผ่นหนึ่งเป็นกระดาษส่งสาร หากแต่ลายมือเหมือนกันยิ่ง “ไม่ผิด! ลายมือเดียวกัน”หลี่กุ้ยเฟยกับยี่ซินเอ่ยปากพร้อมเพรียง ยามนี้ไม่มีใครสนใจคำรายงานบนกระดาษเรื่องรัชทายาทเลยซานซานเอ่ยพึมพำ แววตาคมกริบ สาดประกายข่มขวัญ “ที่แท้ เหย่หนิวของข้า ก็คือองครักษ์ของรัชทายาทรึ?” “เขาคงปลอมตัวไปทำภารกิจลับกระมัง” ยี่ซินช่วยพินิจ“เป็นไปได้...” หลี่กุ้ยเฟยยังร่วมวิเคราะห์ซานซานได้ข้อสรุปทันที“เป็นถึงคนสนิทของรัชทายาท สกุลย่อมใหญ่โตไม่ธรรมดา เบี้ยหวัดยิ่งได้มากโข จะเลี้ยงดูภรรยาสักคนมิได้เชียวรึ? จำต้องทิ้งลูกเลยหรือไร? ข้าขอไปดูหน้าสักหน่อยเถิด”จบคำก็ลุกขึ้นทันใด ยังไม่ลืมทำความเคารพหลี่กุ้ยเฟย แล้วเดินออกจากห้องไปเลยเพราะที่ผิงเหยียน สามีใช้วิชาแปลงโฉม ซานซานจึงไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ครานี้นับเป็นโอกาสอันดีได้เห็นหน้าชายชั่วเต็มสองตา!ท่าทางตรงไปตรงมาและไร้จริตมารยาของซานซาน แม้จะแตกต่างจากมารยาทอันพึงปฏิบัติของข้าหลวงในวังไปบ้าง ทว่าหลี่กุ้ยเฟยไม่เคยถือสา ทั้งยังชมชอบที่นางเป็นเช่นนี้หากเปรียบเทียบระหว่างสนมของฮ่อง

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   คำรายงาน 2

    ภายในห้องพักผ่อนของหลี่กุ้ยเฟย ซานซานตั้งใจจัดดอกไม้ใส่แจกันหยกอย่างสวยงามที่สุดเพื่อมอบให้หลี่กุ้ยเฟย หวังประจบเอาใจ หมายมาดขึ้นแสดงเพลงพิณในงานเลี้ยงวันนี้“เจ้าดีดพิณเป็นด้วยหรือ?”หลี่กุ้ยเฟยถามเสียงเบามาก เพราะนั่งอยู่ที่โต๊ะทรงเตี้ยริมหน้าต่าง โดยมีเด็กน้อยลู่หลิ่งเล่นจนเหนื่อยฟุบหลับเป็นก้อนกลมอยู่ข้างๆ ใบหน้านุ่มนิ่มแดงเรื่อมีดวงตาที่กำลังหลับพริ้ม ปากจิ้มลิ้มสีชมพูคล้ายเคี้ยวขนมตุ้ยๆ อยู่ในฝันอย่างมีความสุข พระนางจึงไม่ประสงค์พูดคุยเสียงดังซานซานตอบกลับเสียงเบาเช่นกัน “หม่อมฉันพอมีฝีมืออยู่บ้างเพคะ” นางนั่งปักดอกไม้ใส่แจกันอยู่เยื้องไปทางด้านหลังของหลี่กุ้ยเฟยยี่ซินที่คอยปรนนิบัติรับใช้หลี่กุ้ยเฟยอยู่อีกฝั่งถามอย่างตรงไปตรงมา “สตรีที่ขึ้นแสดงล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์เดียวกัน ตัวเจ้ามีลูกแล้ว ผ่านการมีสามีแล้ว จักขึ้นแสดงทำไม?”ซานซานตอบกลับเสียงนุ่ม ซ่อนแววเจ้าเล่ห์มิดชิด“ใบหน้าของข้าอาจไม่งามเท่าใครเขา ไม่สูงส่ง ไม่ยั่วยวน แต่ขอแค่ได้ขึ้นแสดงเถิด เงินรางวัลย่อมไม่พลาด ข้าจะนำมาแบ่งปันให้พี่ซินด้วย”ยี่ซินขมวดคิ้วมุ่น “มั่นใจปานนั้น”“แน่นอน”หลี่กุ้ยเฟยอดมิได้ต้องคลี่ยิ้ม

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   คำรายงาน 1

    ฤดูร้อนผ่านพ้นจนล่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วงอีกไม่นานย่อมเยียบย่างฤดูใบไม้ผลิหลายเดือนมาแล้วที่ซานซานตัดสินใจพาลู่หลิ่งออกจากถ้ำแล้วติดตามหลี่กุ้ยเฟยโดยเลือกเป็นเพียงนางกำนัลคนสนิทนางปล่อยอาหู่อยู่ในถ้ำ ไม่คิดพรากสัตว์ร้ายจากป่าใหญ่ ข่าวที่พระสนมคนโปรดถูกลอบทำร้าย ได้รับการสืบสาวไปตามขั้นตอนของวังหลวง ความจริงเป็นเช่นใดซานซานไม่รู้แม้แต่น้อยนางรู้แค่ว่าลู่หลิ่งเป็นเด็กฉลาด เรียนรู้เร็ว คุ้นชินกับชีวิตพระราชวัง ในเวลาอันสั้นก็พูดจากับคนชั้นสูงได้คล่องแคล่วน่าฟัง ได้ร่ำเรียนในสำนักศึกษาของพระราชวัง ได้กินอิ่มนอนหลับ ได้รับของมีค่า มีเสื้อผ้าดีๆ สวมใส่ ได้เล่นสนุกซุกซนสมวัยและที่สำคัญ ตัวนางมียังเบี้ยหวัดเอาไว้ใช้จ่าย ชีวิตดูมีความหมายไม่น้อยซานซานในชาตินี้ทำตัวดีมีคุณค่ายิ่งนัก เพราะมีลูกแล้ว จะกระทำการใด ย่อมต้องคิดให้มาก รอบคอบเข้าไว้หากมารดาทำตัวไม่ดี ชีวิตบุตรสาวย่อมยากจะสงบสุขอีกอย่าง ชีวิตในวังหลวงแห่งนี้นับว่าดีมาก หลี่กุ้ยเฟยเอ็นดูลู่หลิ่งไม่น้อย ตัวนางเองก็มีสหายหลายคนที่พูดจาถูกคอ หนึ่งในนั้นมีนางกำนัลคนหนึ่ง นามว่าซูเหยา อายุราวสิบเก้าปี นิสัยสัตย์ซื่อ วาจานุ่มละมุน รับหน้าที่

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตัดสินใจ 4

    เจ้าของวาจาน่าฟังนี้ทำท่าทางเอียงอาย “ขอพระองค์ทรงเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ เพราะนี่คือครั้งแรก”ยิ่งเอ่ยใบหน้างดงามนวลผ่องยิ่งแดงปลั่งดั่งผลอิงเถา“เจ้าเป็นใคร?”จ้าวเหว่ยถามเสียงขรึม หรี่ตาลงมองฝ่ามือที่บังอาจมาแตะต้องตัวเขาเจ้าของฝ่ามือเห็นสายตาปานมีดคมจับจ้องประหนึ่งกำลังกรีดเฉือนข้อมือตน จึงชะงักค้างนิ่งงัน ค่อยๆ ดึงมือกลับ แล้วถอยหลังมายืนสำรวมอยู่ห่างจากเตียงนอนราวห้าก้าว กล่าวพึมพำว่า “หม่อมฉันจิ่วเมย บุตรสาวคนเล็กของเจ้าเมืองจิ่ว ได้รับมอบหมายให้มาดูแลองค์รัชทายาทจนกว่าจะหายดีเพคะ”จ้าวเหว่ยโบกมือให้อีกฝ่ายหยุดพล่าม พลางเอ่ยเสียงต่ำ“ข้าหายดีแล้ว กลับไปเรียนบิดาเจ้าตามนั้น ไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีก”แม่นางจิ่วเมยได้ฟังพลันแข็งค้างไปทั้งร่าง ความหวังที่จะได้ติดตามเข้าวังพังทลายไปสิ้น“แต่...แต่ท่านพ่อบอกว่า หากหม่อมฉันดูแลพระองค์จนหายดี หม่อมฉันจะได้...” นางละล่ำละลักทวงความดีความชอบจ้าวเหว่ยลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง เขาตัวโตมากกว่าเมื่อห้าปีก่อนยิ่งนัก เส้นเสียงที่เคยแหบพร่าเพราะลำคอถูกทำลายก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง เมื่อเปล่งวาจายามอารมณ์ดีจึงทุ้มต่ำน่าฟัง ทว่าหากอารมณ์ไม่ดีกลับทรงอำ

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตัดสินใจ 3

    ยี่ซินคลี่ยิ้มเต็มวงหน้า เย้าอีกประโยคว่า “เจ้าช่างไร้ใจ”ซานซานตอบรับอย่างอารมณ์ดี “ผิดแล้วๆ ข้ามีหลายใจต่างหากเล่า สามีเก่าไม่ดี ข้าก็กำลังจะหาสามีใหม่ เพียงแต่ยังหาที่ถูกใจไม่เจอเท่านั้น ด้วยเหตุผลนี้ อย่าว่าแต่องค์รัชทายาทเลย เกรงว่าชายใดก็คงไม่คิดเข้าใกล้ข้าให้ต้องแปดเปื้อนแล้ว”ถ้อยวาจานี้เรียกเสียงหัวเราะให้บังเกิดได้ไม่ยาก ทั้งยี่ซินและซานซานสนทนาต่อคำกันได้ถูกคอยิ่งและนี่คือการผ่านบททดสอบขั้นพื้นฐานอย่างเรียบร้อย…เมื่อได้เห็นท่าทางเปิดเผยจริงใจ มิได้เสแสร้งแม้เพียงนิด ไม่ปรากฏความมักใหญ่ใฝ่สูงอันใดให้เห็น ทั้งแววตายังปราศจากความหลงใหลได้ปลื้มเช่นชู้สาวต่อบุตรชายของตน หลี่กุ้ยเฟยจึงรู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ท้ายที่สุดพระนางก็เอ่ยเสียงนุ่มน่าฟังว่า“หากเจ้าไม่รังเกียจ ในฐานะผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกัน ข้าต้องการตอบแทนเจ้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง”เสียงนี้ทำเอาซานซานกับยี่ซินต้องหยุดหัวเราะเพื่อรับฟังหลี่กุ้ยเฟยนิ่งเงียบชั่วครู่ ปรายตามองไปทางลู่หลิ่งแม่นางน้อยปล่อยผมสยายยามหลับฝัน พวงแก้มที่เคยนวลเนียนอมชมพูระเรื่อบัดนี้มีรอยแดงเพราะถูกคนร้ายตีหลายที ริมฝีปากจิ้มลิ้มสีแดงสดที่ยกยิ้มได

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตัดสินใจ 2

    ซานซานได้ฟังวาจาเชิญชวนยาวเหยียด เพียงเลิกคิ้ว เอ่ยเสียงเรียบ“แม้ว่าข้าจะเป็นชาวยุทธ ทว่าระบบเมืองหลวงมิใช่ไม่รู้ การเข้าเป็นองครักษ์หญิงในวังหลวง เงินเบี้ยหวัดได้มากกว่านางกำนัลเล็กๆ ก็จริง แต่ต้องผ่านการทดสอบอันหนักหน่วง”ซึ่งการทดสอบหาใช่ปัญหาสำหรับนางไม่ ที่เป็นปัญหาคือประวัติความเป็นมาต่างหาก นางมิใคร่ให้ใครล่วงรู้ตัวตนว่ามาจากไหนลูกใครสกุลใด เพราะนั่นอาจนำอันตรายที่มองไม่เห็นไปสู่ครอบครัวหาน ทั้งอาจมีปัญหายิบย่อยอันน่ารำคาญใจเพราะที่ผ่านมา ระหว่างทางที่ท่องยุทธ์ไปทั่ว นางบังเอิญได้ 'ฆ่าคน' ปะไร!หลังจากใคร่ครวญลึกซึ้งจึงโบกมือปฏิเสธ “ช่างเถิด...พวกท่านจ่ายเงินรางวัลที่ช่วยเหลือกันก็พอ ข้าไม่เข้าวังหรอก”ยี่ซินจับกระแสความคิดที่อีกฝ่ายแสดงออกว่าไม่ชอบเรื่องยิบย่อยอันน่ารำคาญ จึงรีบกล่าวอย่างเอาใจ หวังหยั่งเชิง“เอาอย่างนี้ดีหรือไม่? เจ้าช่วยเหลือพระสนมซึ่งเป็นถึงพระมารดาขององค์รัชทายาท สามารถใช้เส้นสายตรงนี้โดยไม่ต้องเข้ารับการทดสอบ เพราะอำนาจรับคนเป็นสิทธิ์ของพระองค์อยู่แล้ว แค่เจ้าเข้าหาองค์รัชทายาทเท่านั้น”ยี่ซินขยับเข้าใกล้ซานซานเล็กน้อย พลางกระซิบอย่างกระตือรือร้นว่า “ไม่

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ตัดสินใจ 1

    ในถ้ำใต้แท่นหินได้ยินเสียงน้ำตกดังซู่ เย็นฉ่ำไปทั่วลู่หลิ่งถูกผลัดผ้าทายาป้อนเนื้อย่างจนอิ่มหนำแล้วปล่อยให้หลับใหลบนผ้าป่านไปนานแล้ว โดยมีอาหู่หมอบอยู่ข้างๆ คอยเลียแก้มเลียมือกล่อมนอนไม่ห่างไฟกองหนึ่งกำลังลุกโชนมอบความอบอุ่นให้ทุกคนในถ้ำ แสงเพลิงสีทองสาดส่องเสี้ยวใบหน้าของสตรีทั้งสามยามสนทนา เผยให้เห็นความจริงใจไร้กังขา ปราศจากการเสแสร้งใด“ที่แท้ท่านก็คือพระสนมหลี่กุ้ยเฟย”ซานซานอุทานอย่างตกใจไปทางสตรีงดงามตรงหน้านางจำได้ที่จางเหริน เสี่ยเฟิง และเว่ยลี่เคยเล่าเรื่องราวให้ฟังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในแคว้นหรือเรื่องในรั้วในวังทุกเรื่องที่ทั้งสามคนนั้นเล่าให้ฟังนั้น พวกเขายังทำท่าทางประกอบประหนึ่งเล่นงิ้ว เสมือนเป็นผู้ร่วมทุกเหตุการณ์ที่เล่ามา สมจริงยิ่ง เชื่อถือได้มารดาขององค์รัชทายาทแห่งต้าถังมีนามหลี่ฮุ่ยเยี่ยน หรือก็คือหลี่กุ้ยเฟยแน่นอนว่าสามัญชนไม่อาจเอ่ยพระนามของราชนิกุล ซานซานเพียงคิดในใจอย่างรู้กาลเทศะ นางเอ่ยต่อ“ในขณะที่รัชทายาททรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ทรงตรากตรำทำเพื่อบ้านเมือง แต่คนชั่วกลับลอบแทงข้างหลัง บั่นทอนกำลังด้วยการลอบทำร้ายพระมารดากระนั้นหรือ?”เรื่องราว

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   นักฆ่า 4

    “ท่านแม่”ลู่หลิ่งเห็นคนชั่วตายหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ จึงลุกวิ่งตึกๆ โผหามารดา อ้าแขนออก กระโดดโถมทั้งตัวใส่ แล้วร้องไห้จ้าหญิงสาวเห็นลูกบาดเจ็บมีบาดแผลมีเลือดออก สองแก้มบวมแดง ร่ำไห้ฮักๆ จนตัวสั่น จึงใจอ่อนยวบ ความคิดจะตำหนิความซุกซนของลูกก่อนหน้าจึงตกไป นางดุไม่ออกแม้ครึ่งคำ“หลิ่งเอ๋อร์ ไม่เป็นไรแล้ว”ซานซานเอ่ยเสียงนุ่ม แววตาอ่อนโยน กอดลูกแนบอก ลูบหลังปลอบประโลมด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ ภาพของสตรีอำมหิตโหดร้ายที่ฆ่าคนตายอย่างเลือดเย็นเมื่อครู่คล้ายไม่เคยเกิดขึ้นเดิมทีสตรีสองคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากลู่หลิ่งยังคงรู้สึกหวาดเกรงต่อซานซานอยู่มาก ความอำมหิตชนิดดาบเดียวปลิดชีพนับสิบชีวิต ทำพวกนางผวาเยือกไม่กล้ากระทั่งร้องอุทาน ทว่าเมื่อเห็นอีกฝ่ายปลอบลูกอย่างอ่อนโยนเช่นนั้น ความหวาดหวั่นพลันตกไปสิ้น พวกนางค่อยๆ พยุงตัวกันยืนขึ้น แล้วเดินเข้ามาร่วมปลอบเด็กน้อยลู่หลิ่งด้วยมีเพียงอาหู่ที่หมอบอยู่ไม่ยอมขยับเพราะเจ็บแผลมากหนึ่งในสองสตรีแย้มยิ้มแล้วเอ่ยกับซานซาน “แม่นาง ขอบคุณเจ้ามาก บุญคุณช่วยชีวิตใหญ่หลวงนัก”ซานซานเหลือบตามองสตรีทั้งสอง เห็นคนหนึ่งใส่อาภรณ์หรูหรา ใบหน้าหมดจดงดงาม กิริยา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   นักฆ่า 3

    ชั่วอึดใจซานซานพลันดีดตัวขึ้นสูง ดึงร่มคันเล็กจากเอวด้านหลัง แล้วเหวี่ยงไปทางกลุ่มของบุตรสาวร่มคันนี้คือหนึ่งในอาวุธสังหารที่ซานซานออกแบบคร่าวๆ แล้วให้เสี่ยเฟิงเค้นสมองปรับเปลี่ยนเพิ่มประโยชน์จากกันแดดฝนร่มกางออกแล้วหมุนอยู่กลางอากาศ สาดกระจายเข็มพิษออกรอบทิศเป็นวงกว้าง เพื่อปกป้องสตรีสามคนและเสือดาว มิให้ใครย่างเท้าเข้ากล้ำกรายคนชุดดำที่ไม่ทันตั้งตัวย่อมหลบไม่ทัน ถูกพิษจากร่มไปอย่างช่วยไม่ได้ส่วนพวกที่เหลือ ซานซานเพียงพุ่งตัวอ้อมมาตลบหลังรอบในมีเข็มพิษพุ่งกระจายปลิดชีพผู้คนในพริบตา รอบนอกของเหล่าชายชุดดำมีซานซานลอบสังหารครอบคลุม เรียกได้ว่าหนึ่งล้อมสิบ นางพลิกกายปราดเปรียว สองแขนไขว้กัน สองมือกำดาบเสี้ยวจันทร์ดาบโค้งสองอันประกบเข้าด้วยกันกลับผสานเป็นหนึ่ง ร่างระหงหมุนตัวด้วยกระบวนท่าวายุคลั่ง แล้วสะบัดออกสุดแขน ตวัดดาบอย่างแรง ใบไม้แห้งรอบด้านยังกลายเป็นใบมีดคมกริบปลิวว่อน สังหารผู้คนจนทั่ว ดาบแยก กายแยก เลือดสาดกระจายซ่านเซ็นหญิงสาวทำเช่นนั้นฝ่ากลุ่มคนชุดดำตั้งแต่คนแรกจนถึงคนสุดท้าย คนร้ายทั้งหลายออกกระบวนท่าแรกยังไม่ทันครบถ้วนก็ถูกกระบวนท่าเดียวของซานซานกลืนกินไปสิ้นร่มยังไ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status