[BET LOVE VEILBETHEART]
{เกลียดยิ่งกว่าอะไร}
หลังจากที่ฉันมาถึงบริษัทได้สักพักพ่อของฉันก็ตามมาพร้อมกับยัยสองแม่ลูกนั้นที่ไม่รู้จะมาทำไมงานการก็ไม่เห็นจะทำแถมยังจะมานั่งปั้นหน้าใส่ให้ฉันได้หมั่นไส้อีก
“คุณโรสจะรับกาแฟมั้ยคะเดี๋ยวดิฉันไปชงให้ค่ะ” เลขาของฉันเข้ามาถามทันทีที่ฉันเข้ามาในห้องทำงาน
“ไม่ต้องฉันกินอะไรไม่ลงหรอก” จะให้กินอะไรลงได้ไงในเมื่อยัยสองแม่ลูกนั้นมันมาประจบคุณพ่อขนาดนั้น
“ค่ะงั้นดิฉันขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะคะ” เธอก้มหัวให้ฉันเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป แล้วกลับเข้ามาใหม่
“มีอะไรไหนว่าจะไปทำงาน”
“เอ้อ…คือท่านประธานเรียกคุณโรสเข้าพบด่วนค่ะ”
“อืมเดี๋ยวฉันไป” พ่อจะเรียกฉันเข้าไปหาทำไมหรือว่ายังไม่จบกับเรื่องเมื่อเช้าฉันเก็บเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะให้เข้าที่ก่อนที่จะออกไปหาท่านที่ห้องทำงานใหญ่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” เสียงคนข้างในบอกหลังจากที่ฉันเคาะประตู
“เรียกโรสมาทำไมหรอคะ” ทันทีที่เข้าไปสายตาของฉันก็ไปปะทะกับยัยสองแม่ลูกที่นั่งตรงโซฟาในห้องนั้นพอดี
“นั่งก่อนสิโรสพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
“ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญขนาดนั้นพ่อก็ไม่ควรเอาคนนอกมายุ่งด้วย” ฉันพูดพร้อมกับแลตาไปยังสองแม่ลูกนั้น
“ไม่เอาน่าโรสคุณแมรี่กับหนูเมลินเขาก็เป็นครอบครัวเดียวกับเรา”
“ครอบครัวคุณพ่อคนเดียวเถอะค่ะโรสไม่นับญาติด้วย”
“ยัยโรสนับวันยิ่งทำตัวไม่น่ารักแล้วนะ” พ่อตะคอกใส่ฉันเสียงดังจนสองแม่ลูกนั้นยิ้มเยาะฉันถ้าฉันรู้ว่าต้องมาเจอแบบนี้ฉันไม่เข้ามาเด็ดขาด
“ก็ไม่ได้ยากให้มารักนี้คะ” หลังจากที่คุณแม่เสียงไปพ่อก็ไม่เคยที่จะชมอะไรฉันไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนก็ไม่เคยดีในสายตาของพ่อ ต่างกับยัยลูกติดนั้นแค่นั่งหายใจก็ดูน่ารักน่าถนุถนอมขึ้นมาทันที
“โรเซ็ทต้า!!!!” พ่อเรียกฉันเสียงดังจนทุกคนตกใจ
“มีอะไรอีกคะเรียกซะตกใจหมดเลย” ปากบอกว่าตกใจแต่สีหน้าฉันมันไม่ใช่แบบนั้นนะสิ
“ฉันจะคุยเรื่องงานกับแกกลับมานั่ง” พ่อชี้หน้าฉันก่อนที่จะบอกให้ฉันไปนั่งเก้าอี้ข้างหน้าท่าน
“ถ้าพ่อจะคุยให้กาฝากสองตัวนี้ออกไปสิคะ” ฉันชี้หน้าสองคนแม่ลูกนั้น
“โรสพ่อขอเถอะ”
“อย่าเสียเวลาขอโรสเลยค่ะเพราะโรสไม่ให้!!...ออกไป!!!” ในเมื่อพ่อไม่ยอมไล่สองคนนั้นออกไปฉันก็จะเป็นคนไล่ไปเอง
“คุณพาลูกออกไปก่อนป่ะเดี๋ยวผมคุยงานเสร็จผมจะไปหา” พ่อบอกสองคนแม่ลูกนั้นให้ออกไปแต่มันกลับเป็นประโยคที่ฉันฟังแล้วรู้สึกเกลียดสองคนนั้นเข้าไปอีกเป็นทวีคูณ
“เขาสองคนออกไปแล้วทีนี้โรสจะคุยกับพ่อได้ยัง” หลังจากที่สองคนนั้นออกไปพ่อก็หันมาถามฉัน
“มีอะไรคะโรสมีเอกสารที่ต้องเคลียร์” ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เหอะ อาทิตย์หน้าพ่อต้องไปเซ็นสัญญากับโรงบาลคาซานตร้า”
“โรงพยาบาลคาซานตร้าหรอคะ”
“ใช่มีอะไรหรือเปล่า”
“เปลาค่ะ” มันแค่เป็นโรงพยาบาลที่แม่ขอฉันเคยเป็นหมออยู่และยังเป็นโรงพยาบาลที่รักษาชีวิตแม่ฉันไว้จนวินาทีสุดท้ายและโรงบาลแห่งนี้ก็ยังอยู่ในเครือของมหาลัยแพทย์ที่ฉันเคยเรียนมันเลยทำให้ฉันคิดถึงคุณแม่ขึ้นมาแต่ก็ต้องเก็บมันเอาไว้เพราะฉันไม่อยากแสดงมันต่อหน้าพ่อ
“โรส โรส”
“ค่ะฟังอยู่ค่ะ” คุณพ่อเรียกฉันหลังจากที่เห็นว่าฉันเงียบไปนาน
“สัญญาที่พ่อจะไปเซ็นมันเป็นสัญญาเกี่ยวกับตัวยาที่จะส่งให้กับโรงพยาบาล”
“ค่ะแค่นี้ใช่มั้ยคะโรสจะได้ไปเตรียมเอกสารให้พร้อมค่ะ”
“แต่ไปเซ็นสัญญาครั้งนี้พ่อจะเอาเมลินไปด้วย” ฉันมองหน้าพ่อทันที
“เอาไปทำไมคะมีหน้าที่อะไรต้องไป”
“โรสใจเย็นๆ สิยังไงเมลินก็เป็นครอบครัวเดี๋ยวกับเราแล้วนะ”
“แค่ให้ใช้นามสกุลเดียวกับโรสมันก็น่าขยะแขยงพอแล้วค่ะ” ฉันมองหน้าพ่อด้วยความโกรธจนถึงขีดสุด
ปัง!!!
“ยัยโรสมันจะมากเกินไปแล้วนะใครสั่งใครสอนให้แกพูดจาแบบนี้” พ่อตบโต๊ะใส่ฉันแล้วตะคอกว่าให้ฉัน
“โรสขอตัวนะคะพรุ่งนี้ถ้าพ่อจะให้มันไปก็แล้วแต่ค่ะ แต่โรสจะเอารถไปเอง” พูดจบฉันเดินมาเปิดประตูเตรียมออกจากห้องทำงานพ่อ
“ว๊ายยยยย!!!”
“อุ๊ย! โทษทีลืมไปว่าประตูห้องนี้มันผลักออกนึกว่าห้องฉัน ฉันก็เลยดึงซะเต็มแรงเลย” ฉันดึงประตูห้องเปิดออกที่จริงมันต้องผลักออก ไปแต่พอดีฉันเห็นเงาเหมือนมีคนแอบฟังหน้าประตูฉันก็เลยดึงเข้ามาเต็มแรงจนสองแม่ลูกที่แอบฟังล้มหน้าคะมำ
“อ้าว! แล้วนี้มาแอบฟังฉันคุยกับพ่อหรอกหรอ” ฉันย่อตัวลงไปคุยกับสองแม่ลูกที่ล้มกองอยู่พื้น ยัยกาฝากเมลินทำท่าเหมือนจะลุกแต่ อย่าหวังเลยว่าฉันจะให้ลุกขึ้นมาฉันกดหัวยัยนั้นลงไปทันที
“ทีหลังถ้าจะแอบฟังก็บอกกันก่อนฉันจะได้เคาะประตูก่อนออกห้อง” ฉันส่งสายตาและยิ้มนางมารไปให้สองคนนั้นก่อนจะหันไปมองคุณพ่อที่ตอนนี้เอาแต่สายหน้ากับการกระทำของฉัน ลองห้ามฉันดูสิฉันจะอาลาวาดให้บริษัทแตกเลยคอยดู
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะจ๊ะเมลินดาและคุณแม่เลี้ยง” ฉันเยียดยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเดินข้ามสองคนนั้นออกห้องไปพอฉันออกมาจากห้องพนักงานทุกคนที่กำลังมองเหตุการ์ณเมื่อกี้อยู่ถึงกับหลบสายตาฉันทันทีแล้วหันหน้าไปทำงานเหมือนกับว่ากลัวไม่ได้รางวัลพนักงานดีเด่นอย่างงั้นล่ะ แต่ฉันก็ไม่คิดจะสนใจพวกนั้นอยู่แล้วก็เดินเข้าห้องทำงานตัวเองไป
[ห้องทำงานของโรส]
ฉันเอารูปถ่ายที่วางอยู่ยนโต๊ะขึ้นมาดูมันเป็นรูปของฉันกับแม่ฉันจำได้ว่ารูปนี้ถ่ายตอนวันเกิดของฉันและก็เป็นวันเกิดปีสุดท้ายที่ฉันได้ถ่ายรูปคู่กับแม่ฉันกอดรูปนั้นไว้เหมือนกับว่ามันจะหายไป
“แม่คะทำไมแม่ต้องทิ้งโรสไปไหนแม่บอกว่าจะอยู่กับโรสตลอดไปไงคะ” ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องฉันเลยปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา
“พ่อเขาไม่รักโรสเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะแม่ พ่อเขามีลูกคนใหม่ไปแล้ว”
“แม่คะโรสอยากกอดแม่เหลือเกินโรสเหนื่อยเหลือเกินค่ะแม่ แม่คะ แม่อยู่ไหนทำไมแม่ไม่มาหาโรสคะแม่!!!” ฉันร้องจนไม่มีแรงจะร้องออกมาอีกแล้วตอนเด็กฉันคิดว่าการที่เราหกล้มมันเป็นอะไรที่เจ็บที่สุดแล้วแต่เปล่าเลยฉันคิดผิด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ฉันต้องรีบเช็ดน้ำตาออกทันที
“เห้ยตาบวม” ฉันเอากระจกขึ้นมาดูอะไรกันร้องไห้แค่นี้ตาบวมเลยหรอแล้วฉันจะทำยังไงเนี๊ยะใครมาเห็นเข้าต้องเอาไปล่อแน่เลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“โอ๊ยนี้ก็เคาะจัง…รอเดี๋ยว”
“คุณโรสคะมีแขกจะขอพบค่ะ” จะแขกหรือฝรั่งอะไรก็ช่างอย่าพึ่งเข้ามาฉันหาทางที่จะทำให้ตาฉันหายบวมก่อน
“นี้ไง!!! เจอแล้ว” และแล้วฉันก็หาสิ่งปกปิดตาได้สำเร็จ
“เข้ามาได้” ฉันบอกเลขาหน้าห้องให้แขกที่มาเยือนไม่รู้เวล้ำเวลานั้นเข้ามา
“เห้ย!!! โรส”
“โถนิน่าฉันก็นึกว่าใคร” นิน่าเพื่อนสาวคนสนิดของฉันเองพอเห็นหน้าฉันมันก็ตกใจทันทีไม่รู้ทำไม
“เดี๋ยวนะนี้ในห้องแกมีพระอาทิตย์จำลองหรอ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ดูแกทำสิใส่แว่นกันแดดในที่ร่มเนี๊ยะนะ” แหมใครจะไปคิดล่ะว่าไอ่แขกที่ว่าคือเพื่อนรักของฉันไม่งั้นฉันไม่เอาแว่นกันแดดมาใส่ให้อายฟ้าดินหรอก
“ก็ตาฉันมันบวม”
“แอบร้องไห้อีกแล้วหรอ” ไม่แปลกหรอกที่นิน่าจะรู้เพราะทุกครั้งเวลาที่ฉันร้องไห้ก็จะมีนิน่านี้แหละคอยปลอบใจ
“ฉันคิดถึงแม่อ่ะ”
“โถยัยโรสไม่เป็นไรนะยังไงฉันก็ไม่ทิ้งแกไปไหนหรอก” นิน่าดึงฉันเข้ามากอด
“พอๆ เลิกดราม่าได้แล้ว ว่าแต่แกมาหาฉันถึงที่นี่มีอะไรหรือปล่าว”
“ไม่มีอ่ะแค่อยากมาพอดีเรียนเสร็จแล้วมันเบื่อ”
“นี้เห็นที่ทำงานฉันเป็นสวนสนุกแก่เบื่อหรือไงว่าแต่แกเรียนแพทย์ไม่ใช่หรอแล้วทำไมถึงเบื่อ” นิน่ากับฉันเราเรียนที่เดียวกันแถมยังเรียนหมอเหมือนกันแต่ฉันกลับลาออกมาสะก่อนเลยปล่อยให้เพื่อนสุดที่รักเรียนไปคนเดียว
“ไม่ให้เบื่อได้ไงพวกนักศึกษาแพทย์ผู้หญิงเอาแต่พูดถึงหมอคงหมอคริสอะไรก็ไม่รู้แล้วฉันจะมีสมาธิเรียนได้ไง”
“แล้วหมอที่ว่านั้นดียังไงทำไมถึงมีแต่คนพูดถึง” แค่หมอคนเดียวถึงกับพูดถึงกันขนาดนี้สงสัยไม่ธรรมดา
“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกรู้แค่ว่าหมอคริสเขาเป็นศัลย์แพทย์ทรวงอกมือหนึ่งของโรงบาลเห็นเขาว่ากันว่าน่าตานี้แบบหล่อโครดๆ เลยนะที่สำคัญ..โสด”
“อายุเท่าไหร่อ่ะแกรู่มั้ย”
“ฉันก็ไม่ค่อยรู้หรอกเห็นเขาบอกว่ายี่สิบห้าอยู่เลยเป็นหมอที่ทั้งเก่งและหนุ่มแถมรวยมาก”
“อ่อนี้คือแกไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยใช่มั้ยแต่ที่ฟังมาข้อมูลแน่นอย่างกับไปสืบมาเลยนะ” ฉันอดที่แซวมันไม่ได้ปากบอกไม่ค่อยรู้เรื่องแต่ข้อมูลแน่นยิ่งกว่าอะไร
“โรสแกก้ว่าฉันเกินไป แต่หมอคนนี้เขาโสด” ยัง ยังไม่หยุด
“โสดแล้วมาบอกฉันทำไม”
“ก็เผื่อว่าแกจะอยากมีสามีเป็นหมอขึ้นมา”
“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบคนสายอาชีพนี่”
“แต่แกก็เคยเรียนหมอ…” ฉันมองนิน่าทันที
“ฉันขอโทษฉันลืมไปว่าแกเรียนเพราะอะไร” นิน่ารีบทำหน้าสำนึกผิดทันที
“ช่างมันเถอะแกจะนอนจะเล่นอะไรในห้องทำงานฉันก็ตามสบายฉันจะเตรียมเอกสารก่อน”
“เตรียมเอกสารไปไหนอ่ะ”
“อาทิตย์หน้าบริษัทฉันมีเซ็นสัญญากับโรงพยาบาลคาซานดร้านะ” พอฉันพูดชื่อโรงบาลเท่านั้นแหละยัยนิน่าถึงกับเด่งตัวจากโซฟามาหาฉันทันที
“โรงบาลไหนนะ”
“คาซานดร้า” ฉันทำหน้างงใส่มันทันที “ทำไมมีอะไรงั้นหรอ”
“ก็โรงบาลนี้มันเป็นโรงบาลในเครือมหาลัยฉัน”
“เอา!!! ความจริง” ฉันกดเสียงต่ำถามมันทันที
“เอ้อๆ ก็ได้ฉันแค่จะบอกแกว่านั้นมันเป็นโรงบาลของหมอคริสที่ฉันเล่าให้แกฟังอ่ะ”
“แล้ว…”
“แล้วถ้าแกเจอถ่ายรูปให้ฉันทีนะฉันอยากเห็น” นึกว่าอะไรที่แท้ก็เรื่องผู้ชายยัยแม่พระเอ้ย
“โรงบาลใหญ่ขนาดนั้นฉันคงเจออยู่หรอก” นั้นมันเป็นโรงบาลที่ใหญ่ที่สุดแถมยังเป็นโรงบาลที่ติดอันดับหนึ่งของอังกฤษเลยนะ
“ค่อยว่ากันทีหลังแต่ตอนนี้…ขอเข้าห้องน้ำก่อน” แล้วยัยนิน่าก็วิ่งเข้าห้องน้ำไป
’โรงพยาบาลคาซานดร้า’
พอคิดถึงชื่อนี้ทีไรฉันก็คิดถึงแม่ฉันทุกทีเพราะมันเป็นโรงพยาบาลที่แม่ฉันอยากให้ฉันเข้าทำงานเพราะฉันจะได้อยู่ใกล้ๆ กับแม่ตลอดเวลาแต่ตอนนี้ไม่มีที่ไหนเลยที่ฉันจะได้อยู่ใกล้กับแม่เหมือนแต่ก่อน
{แรกพบสบตา}อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะว่างแบบคนอื่นๆเขาตอนแรกลาออกจากมหาลัยมาก็เพื่อที่จะมาช่วยงานที่บริษัทเพราะกลัวว่าจะถูกคนอื่นแย่งไปโดยไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเหนื่อยจนหัวหมุนได้แบบนี้ และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันต้องทำงานหนักกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะวันนี้มันเป็นวันเซ็นสัญญาระหว่าบริษัทของฉันกับโรงพยาบาลอะไรนั้น“คุณโรสคะเอกสารที่ให้เตรียมเสร็จแล้วนะคะ” เลขาที่อยู่หน้าห้องช่วยเตรียมเอกสารให้ฉันทั้งคืนขอย้ำว่าทั้งคืนเพราะมันมีเยอะมาก“มาวางให้ฉันที่โต๊ะเลยส่วนเธอวันนี้ไปพักซะไม่ต้องเข้าทำงาน” ฉันบอกเธอก่อนที่ฉันจะหยิบซองสีน้ำตาลที่ใส่เอกสารขึ้นมาถือไว้แล้วเดินออกจากห้องไป“เดี๋ยวค่ะคุณโรส!!!”“มีอะไร” ฉันหันไปถามเลขาที่วิ่งตามฉันออกมา“คุณโรสจะไปยังไงคะ พอดีเมื่อเช้าดิฉันเห็นท่านประทานออกไปแล้วนะคะ”“ฉันรู้แล้วเดี๋ยวฉันเอารถไปเอง เธอยังไม่ชินอีกหรอที่ฉันไม่ไปรถกับคุณพ่อ” หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็จะไม่มีวันไปนั่งรถคันเดียวกับยัย กาฝากนั้นแน่ ฉันเดินตรงมาเอารถลัมโบคู่ใจของฉันขับออกจากบริษัทแล้วมุ่งหน้ามายังโรงพยาบาลคาซานดร้าทันที[โรงพยาบาลคาซานดร้า]“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าห้
[หาทางเข้าใกล้]หลังจากที่ฉันถูกเมลินดาว่าให้เมื่อวานมันทำให้ฉันโกรธเธอมากจนฉันไม่อยากจะกลับบ้านไม่ใช่ว่าฉันกลัวที่จะต้องเจอเมลินดาแต่ที่ฉันไม่อยากกลับบ้านก็เพราะฉันไม่อยากเจอหน้าพ่อเพราะคำพูดของเมลินที่บอกว่าแม้แต่พ่อยังไม่สนใจฉันมันดังกล้องอยู่ในหูฉันตลอดเวลา แต่มันก็คงจะจริงอย่างที่เธอพูดฉันไม่ใช่ลูกรักของพ่ออีกต่อไปแล้วนี้นา“ไงหงอยอะไรมาอีกถึงไม่ยอมกลับบ้าน” นิน่าถามฉันที่เอาแต่นั่งทำหน้าหงิงอยู่บนเตียงของเธอ“เปล่าไม่มีอะไร”“จะให้ฉันเชื่อแกดีมั้ยหน้าแกมันฟ้องขนาดนั้นว่ามีเรื่องมา สรุปจะเล่าหรือไม่เล่า” มันจะคาดคั้นจากฉันให้ได้ใช่มั้ย“เอ้อๆ เล่าก็เล่าแต่แกต้องสัญญาก่อนว่าคืนนี้จะให้ฉันอยู่ที่คอนโดแก” ทุกอย่างบนโลกนี้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน“นั่งบนเตียงฉันขนาดนี้ไม่ต้องมาถามแล้วมั้งว่าจะให้อยู่มั้ย”“แฮ่ๆ ก็แหมฉันทำงานมาทั้งวันก็ขอนั่งเตียงนุ่มๆ ขอแกหน่อยจะเป็นไรไป”“ไม่ต้องมาชวนเปลี่ยนเรื่องเล่ามาว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมแกไม่ยอมกลับบ้าน” อุส่าพยายามหาประเด็นอื่นมาพูดแล้วมันยังมีหน้าวกเข้าเรื่องนี้อีกต่อมเผือกของนิน่านี้น่าเคารพจริงๆ“ก็วันนี้อ่ะดิพ่อฉันเอายัยกาฝากเมลินนั้นไปด้วย”“แค่เน
“วันนี้แกรีบแต่งตัวไปไหนแต่เช้า” นิน่าที่กำลังจะไปเรียนถามฉันทันทีที่เห็นว่าฉันลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่เช้า“ไปโรงบาล” ตอบออกไปโดยไม่ได้มองหน้านิน่าเพราะมัวแต่วุ่นกับซิปด้านหลังที่มันรูดไม่ขึ้น“ไปโรงบาล!!! แต่งแบบนี้เนี๊ยะนะ”“อือก็ฉันไม่ได้ป่วยนิทำไมจะแต่งแบบนี้ไม่ได้” ชุดที่ฉันใส่มันเป็นชุดเดรตสั้นสีดำเกาะอกแต่ฉันก็มีเสื้อคลุมไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะโป้“ไม่ได้ป่วยแล้วไปทำ เห้ย!!!อย่าบอกนะ” มันชี้หน้าฉันทันทีที่มันนึกออกว่าฉันไปทำไม“อืมฉันจะไปหาหมอคริสเตียน” เหวอเลยทีนี้เพื่อนฉัน“เอาจริงดิ”“แต่งขนาดนี้คิดว่าโรสมาเล่นๆ หรอคะคุณนิน่า” นี้ฉันทำให้มันตกใจขนาดนั้นเลยหรอ“แล้วแกรู้แล้วหรอว่าจะเข้าใกล้เขาได้ยังไงถ้าแกจะอ้างว่าป่วยโรคเดียวที่แกเป็นได้คือโรคหัวใจเพราะเขาเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก” อันนั้นน่ะฉันตัดทิ้งไปนานแล้วคนอย่างโรเซ็ทต้าถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่เคยมีพลาด“ช่างฉันเถอะแกไปเรียนได้แล้วไป๊” ฉันไล่ให้มันไปเรียนก่อนที่จะเดินตามมันไปเอารถก่อนจะขับออกไป[โรงพยาบาลโรเซ็ทต้า]“สวัสดีค่ะติดต่อสอบถามอะไรหรอคะ” ทันทีที่ฉันเดินไปที่หน้าประชาสัมพันธ์พยาบาลที่ทำหน้าที่ก็ถามฉันอย่างกับอัดเทปไว้“เอ้อคื
Ep05… [เริ่มรุก][คฤหาสน์ลีโอน่า]“จะไปไหนแต่เช้าห๊ะยัยโรส” พ่อถามขณะที่ฉันกำลังสวมรองเท้าส้นสูงสีดำ“ไปทำงานค่ะ”“งานอะไรวันนี้แกไม่ต้องเข้าบริษัทไม่ใช่หรือไง”“ค่ะ แต่โรสมีงานอย่างอื่นต้องทำค่ะ” ฉันตอบพ่อโดยที่ไม่ชายตา.มองสองคนแม่ลูกนั้นแม้แต่น้อย“หนูโรส…”“สมองเสื่อมหรือไงฉันเคยบอกเธอว่ายังไง...ห้ามเรียกฉันแบบนั้น” ฉันเหลียวไปเอ็ดเสียงใส่แมรี่แม่เลี้ยงที่ไม่ต้องการของฉัน“เอ้อ ขอโทษค่ะคุณโรส” ปากบอกขอโทษแต่สายตาเครียดแค้นยิ่งกว่าอะไร“สรุปจะไปไหน” พ่อยังไม่ลดความพยายามที่จะถามฉัน“สนใจทำไมคะปกติไม่เคยเห็นจะถาม” ตอนแรกก็ว่าจะตอบดีๆ แล้วนะแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเถียง“โรสพ่อถามดีๆนะ”“โรสก็ตอบดีแล้วนี้คะ” ฉันยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป“คงออกไปหาผู้ชายสินะถึงไม่ยอมบอก” ยัยเมลินดาหันมาว่าให้ฉันต่อหน้าทุกคน แต่คุณพ่อของฉันกลับไม่ว่าอะไรยัยนั้นสักคำ เหอะ! นี้เขากำลังว่าให้ลูกตัวเองอยู่นะ อ่อ! ฉันลืมไปว่าไม่มีใครสนใจฉันอยู่แล้ว“ค่ะโรสออกไปหาผู้ชายคุณพ่อมีอะไรมั้ยคะ” ฉันตอบด้วยความประชดประฉัน“ยัยโรส!!!”“หึ! พ่อไม่ต้องขึ้นเสียงใส่โรสหรอกค่ะเพราะผู้ชายที่โรสจะไปหา…เขาเป็นถึงนายแพทย์เลยนะคะ
ตอนที่6… [คู่แข่ง]12:30น.รู้งี้ฉันทานข้าวเช้ามาก่อนก็ดีใครจะไปคิดละว่าเขาจะออกมาทานข้าวตอนเที่ยงครึ่งตอนแรกก็คิดว่ามาทานเที่ยงตรงฉันก็คงไม่ต้องมาเจ็บท้องหิวข้าวอยู่แบบนี้ ฉันเอามือกุมท้องตัวเองไว้เหมือนว่าโรคกระเพาะจะเริ่มเล่นงานฉันซะแล้ว จากที่เริ่มเจ็บน้อยๆตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับในท้องพร้อมกับบีบเข้ามา“เป็นอะไร” คนที่เดินนำหน้าฉันออกมาเหลียวกลับมาถามพร้อมกับสายตาที่มองตำแหน่งมือที่ฉันจับท้องเอาไว้“ไม่มีอะไร""เจ็บท้องหรอ""......" ทำไมอยู่ๆถึงใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้กับฉัน"โกหกใครก็โหกไปแต่อย่ามาโกหกหมอสิคุณ""ก็แค่ปวดท้องนิดหน่อยเอง พอดีเมื่อเช้าฉันรีบออกมาเลยไม่ทันได้กินข้าว" กับเขาคนนี้ชีวิตนี้ฉันโกหกอะไรไม่ได้เลยสินะ“ก็บอกกแล้วไงว่าถ้าหิวก็ให้มากินก่อนเลยไม่ต้องรอฉัน”“ได้ไง…ถ้าฉันมาก่อนก็ไม่ได้กินข้าวกับนายนะสิ” ฉันฉลาดพอถ้าฉันมาก่อนมีหวังเขาคงไม่มากับฉันหรอก“ดื้อจริงๆ งั้นกินที่ร้านในโรงบาลนี้แหละไม่ต้องไปไหนไกล”นี่ห่วงฉันหรือขี้เกียจออกไปกับฉันกันแน่ แล้วดูในโรงบาลสิมีอะไรให้น่ากินฉันอุส่านั่งอดทนรอตั้งแต่เพื่อที่จะออกมากินโรงอาหารใน โรงบาลเนี๊ยะนะ“ห่วงฉั
ตอนที่ 7 ความอ่อนแอวันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ฉันต้องมาโรงพยาบาลทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ที่มาก็เพราะคุณหมอที่นี่น่าจับทำสามีฉันเลยต้องมาบ่อย ๆ แม้ว่าเวลาของฉันมันเป็นเงินเป็นทองแต่เผื่อเขาฉันยอมเสียเงินเสียทองไปเลยก็ได้ ฉันล่อเล่นอย่าคิดจริงจังไปได้ที่มาวันนี้มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นต่อให้ฉันจะต้องเสียอะไรไปฉันไม่มีทางในเมลินสมหวังหรอก แต่ที่แน่ๆ วันนี้เขาไม่ว่างมานั่งเล่นกับฉันเพราะเขาต้องรีบไปรักษาคนไข้ที่รอการช่วยเหลือจากเขาอยู่ ฉันก็เลยต้องมานั่งรอเขาในห้องไม่อยากเชื่อเลยว่าการผ่าตัดมันจะนานปานนี้ถ้ารู้จักฉันจริงเขาจะต้องรู้ว่านิสัยของฉันเกลียดการต้องรอโดยเฉพาะรอในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเอง ยกเว้นคุณหมอคนนี้เพราะเขาสามารถทำประโยชน์ให้ฉันได้แม้ว่าจะต้องนั่งรอจนเกือบจะสามชั่วโมงก็เถอะจะว่าไปเขาก็เป็นคนแรกเลยนะที่ทำให้ฉันอดทนตั้งตารอจนแทบจะหลับคาห้องเขาฉันก็เบื่อเป็นเหมือนกันเกิดมาฉันยังไม่เคยต้องมานั่งรอใครนานเท่านี้มาก่อนเขาคนแรก ไหนๆ ก็ไหนๆฉันก็เลยขอถือโอกาสครั้งนี้เดินสำรวจห้องพักเขาสักหน่อยก็ แล้วกันฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายแบบเขาทำไมถึงชอบตกแต่งห้องเป็นโทนสีดำแต่
ตอนที่8... [รู้เมื่อสายไป][คริสเตียน]วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ผมต้องเข้ามาดูแลคนไข้ตามนัดผมมาทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติแต่ที่ไม่ปกติสำหรับผมตั้งแต่เช้าผมยังไม่เห็นหน้าใครบางคนที่มาได้ทุกวันเหมือนคนไม่มีการไม่มีงานทำไม่รู้ว่าตั้งแต้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ผมรู้สึกว่าการได้เจอโรเซ็ทต้าทุกเช้ามันคือกิจวัตรประจำวันไปแล้วพอไม่ได้เจอกลับรู้เหมือนมีบางอย่างหายไป แล้วทำไมผมต้องไปสนใจด้วยละจะมา หรือจะไปไม่มันก็เรื่องของเธอ“วันนี้แฟนคุณหมอไม่มาหรอคะ” พยาบาลที่เอากาแฟเข้ามาให้ถามผมขึ้นมาจนผมต้องเงยมองหน้าเธอ“แฟนผม?” ผมชี้นิ้วมาใส่ตัวเองอย่างงงๆ ผมไปมีแฟนตอนไหน“ก็คุณผู้หญิงคนที่สวยๆที่มาหาคุณหมอทุกวันยังไงละคะ”“เธอไม่ใช่แฟนผมครับ”นอกจากโรเซ็ตต้าที่พักนี้จะเข้าออกห้องทำงานผมก็ไม่มีใครแล้วหากไม่นับรวมคนในโรงพยาบาลเธอนี่แหละที่เป็นต้นตอขอคำถามเมื่อกี้ แล้วการที่ผมตอบไปแบบนั้นก็ทำเอาพยาบาลตรงหน้าดูงงไม่น้อยทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่โรเซ็ทต้ากลับทำให้คนอื่นที่มองมาเข้าใจผิดไปไม่น้อย หึ! ผู้หญิงแบบเธอมันน่ากลัวจริงๆ“อ้าวหรอคะพี่ก็นึกว่าเป็นแฟนหมอคริสซะอีกเมื่อวานเห็นร้องไห้ออกไปคิดว่าทะเลาะกัน”“ร้อง
ตอนที่9… [ไม่เนียน]วันนี้ถือเป็นการขึ้นต้นเดือนใหม่ที่ดีเลยทีเดียวเพราะตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพนักงานทุกคนในบริษัทจะไม่มีใครมาว่ารองผู้บริหารแบบฉันว่ามาสายได้อีกแล้วเพราะหลังจากนี้เป็นต้นไป ฉัน! โรเซ็ทต้า ลีโอน่า จะไม่ไปเสียเวลาตามตื้อ ตามจีบ ตามรังขวานไอ้หมอบ้านั้นอีกพอกันทีเสียทั้งงาน เสียทั้งสุขภาพจิตนอกจากไม่ได้อะไรกลับมาแล้วฉันยังถูกมองเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเพราะฉะนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเรื่องเดียวที่จะไม่แย่งชินกับกาฝากนั้นก็คือหมอนี่แหละ"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณโรส” ตายยากตายเย็นจริง ๆ อุส่าคิดว่าเป็นวันที่ดีพอมาเจอสองคนแม่ลูกในห้องทำงานของฉันวันดี ๆ วันนี้หมดไปโดยไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง“ใครให้เธอสองคนแม่ลูกเข้ามาในห้องฉันห๊ะ!!!”“ไม่มีใครใช้หรอกค่ะเราสองคนแม่ลูกเข้ามาเอง” ยัยแม่เลี้ยงนั้นยืนขึ้นก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่“ไม่มีใครอยากมาเข้ามาในห้องคนใจแคบแบบเธอหรอก” เมลินพูดใส่หน้าฉัน“ถึงเธออยากฉันก็คงไม่ให้กาฝากอย่างพวกเธอเข้ามาหรอกเดี๋ยวห้องฉันมันจะหมองไปด้วยความหน้าด้านไร้ยางอายของพวกเธอ!!!” คิดหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมให้ว่าฝ่ายเดียว"หน้าด้าน!!!ไร้ยางอาย หือ ว่า
ตอนที่12… [ชัดเจนพอมั้ย]“ไม่อยากรู้หรอเมลินว่าเมื่อวานฉันกับพี่หมอของเธอ…ทำอะไรกัน”ฉันเดินลงบันไดมาเจอเข้ากับยัยนี้พอดีฉันก็เลยอดไม่ได้ที่จะยั่วโมโหเธอแต่เช้า หึ! ถือซะว่าวันนี้เป็นวันดีของฉันแต่วันซวย! สำหรับเธอก็แล้วกัน ฉันมองหน้าเธออย่างผู้ชนะและเหนือกว่าแน่นอนว่าฉันต้องอยู่เหนือกว่ายัยนี้ทุกเรื่อง! ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องหัวใจ“เธอมันไม่แฟร์”“ไม่แฟร์ยังไง ไหนลองบอกฉันมาสิยัยกาฝาก!” ฉันเดินเข้าไปใกล้เธอเพื่อเรียกความกลัวให้กับคนปากดีแบบนั้น“เธอก็รู้ว่าฉันชอบพี่หมอ แต่เธอก็ยังมาแย่ง…”“แย่งงั้นหรอเขาไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!” ฉันพูดสวนยัยนี้ไปทันที คนอย่างฉันไม่เคยคิดแย่งของใครให้เสียศักดิ์ศรีหรอก อีกอย่างถึงยัยนี้จะชอบเขาก่อนแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเธอแบบนี้เรียกว่าแยกได้หรอ คนที่แยกของคนอื่นคือเธอกับแม่ของเธอต่างหากที่แยกของฉันไปทุกอย่าง!“โรส เธอทำแบบนี้เพื่อต้องการเอาชนะฉันใช่มั้ย!” เธอมองฉันเหมือนกับว่ากำลังจะฆ่าฉันทางสายตา ฉันเชื่อเลยว่าถ้ายัยนี้ไปมีเรื่องกับฉันข้างนอกที่ไม่ใช่บ้านฟังธงได้เลยว่าเธอไม่เก็บอาการเหมือนตอนนี้แน่นอน“ฉลาดนี้แต่ก็คงฉลาดน้อยกว่าฉัน เหอะ! แย่จัง”
ตอนที่11… [ทางเลือก]หลังจากวันที่เขาและฉันปรับความเข้าใจ เอ๊ะ! ไม่สิ ต้องบอกว่าทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการจนมาถึงตอนนี้ถ้าลองนับดูแล้วก็ครบหนึ่งเดือนพอดีที่เราสองคนต่างก็ได้รู้จักกันมากขึ้น และฉันยังได้ใกล้ชิดเขามากกว่าเดิม ...มากจนฉันเริ่มกลัวว่าสักวันฉันอาจจะต้องเป็นคนแพ้ในเกมที่ตัวเองสร้างขึ้นมา และถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ฉันคงต้องยอมรับกรรมที่ตัวเองก่อRrrrrrrrrrก่อนจะได้คิดอะไรที่มันไปไกลกว่านี้เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เวลานี้อีกแล้วหรอ?12.00 น.เที่ยงตรงเป๊ะ! นี้อาจจะเป็นเวลาพักเที่ยงของใครหลายคนแต่กับฉันทุกวันไม่เว้นเสาร์อาทิตย์มันคือเวลารับสายจากคุณหมอสุดหล่อ ฉันเองพอรู้มาบ้างว่าคริสเตียนเขาเป็นตรงต่อเวลาแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะตรงดิ่งขนาดนี้“ว่า…”“พูดยาวไปมั้ย ฟังแทบไม่ทัน” ประชดแหละ“มีอะไร ว่างหรือไง แล้วทำไมต้องโทรมาเวลานี้ตลอด"“พอได้พูดก็พูดซะจนตอบไม่ทันเลย”“จะตอบไม่ตอบ ถ้าไม่ตอบฉันจะว่างละนะ" นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในนิสัยเสียของฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาว่าแต่ถ้ากลับกันฉันไม่สนหรอก“ถ้าถามว่าว่างมั้ยก็ว่าง…แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องโทรมาเวลานี้ตอบได้เลยว่าเป็นห่วง” เป็นห่วงฉัน???“ห่วง
ตอนที่10… [สรรพนามของเราสองคน]ถ้านับรวมแล้ววันนี้ก็ปาเข้ามาเกือบสองเดือนที่ฉันนั่งตาม ยืนตาม เดินตามเขาจนกลายเป็นกิจวัตรอีกอย่างในชีวิตไปแล้วถ้าวันไหนที่ไม่ได้เจอชีวิตฉันในวันนั้นก็เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ทว่าจะสองเดือนแล้วเถอะมีแค่ฉันที่รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปแต่กับเขาฉันยังมองไม่ออกเลยว่าความพยายามของฉันมันไปตกผลึกอะไรในใจเขาบ้างหรือยังแต่ก็ดีกว่าครั้งแรกที่เจอหน่อยอย่างน้อยคริสเตียนก็ยังเห็นฉันมีตัวตนขึ้นมาบ้าง“นี้!!!วันนี้นายไม่ไปทำงานหรือไงห๊ะ”วันนี้กิจวัตรประจำวันฉันก็เหมือนเดิมคือไปรอเขาที่โรงพยาบาลแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นเขาที่ชิงโทรมาหาฉันซะก่อนพร้อมกับเอาหน้าหล่อ ๆ มายืนฉีกยิ้มที่บริษัทฉันถ้าจำไม่ผิดฉันเองก็ไม่เคยให้เบอร์เขาแล้วทำไมคริสเตียนถึงมีเบอร์ส่วนตัวฉันได้ละ“ไม่ไป…วันนี้ผมว่าง” ดูเหมือนเขาจะเป็นหมอที่ว่างที่สุดในสายอาชีพนี่แล้วละ“แล้วจะพาฉันไปไหน หรือว่าไป…” ฉันแกล้วเอานิ้วชี้มาชนกันพร้อมส่งสายตาที่ผู้หญิงคนอื่นชอบทำใส่เขา“ไปกินข้าวไม่ต้องคิดไปไกล”"ดับฝันที่สุด!"[ร้านอาหาร]ไม่อยากเชื่อสายตาว่าคุณหมอที่รักสุขภาพอย่างเขาจะสั่งอาหารที่คอเลสเตอรอลสูงแบบนี้เป็นกับเขา
ตอนที่9… [ไม่เนียน]วันนี้ถือเป็นการขึ้นต้นเดือนใหม่ที่ดีเลยทีเดียวเพราะตั้งแต่นี้เป็นต้นไปพนักงานทุกคนในบริษัทจะไม่มีใครมาว่ารองผู้บริหารแบบฉันว่ามาสายได้อีกแล้วเพราะหลังจากนี้เป็นต้นไป ฉัน! โรเซ็ทต้า ลีโอน่า จะไม่ไปเสียเวลาตามตื้อ ตามจีบ ตามรังขวานไอ้หมอบ้านั้นอีกพอกันทีเสียทั้งงาน เสียทั้งสุขภาพจิตนอกจากไม่ได้อะไรกลับมาแล้วฉันยังถูกมองเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเพราะฉะนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเรื่องเดียวที่จะไม่แย่งชินกับกาฝากนั้นก็คือหมอนี่แหละ"อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณโรส” ตายยากตายเย็นจริง ๆ อุส่าคิดว่าเป็นวันที่ดีพอมาเจอสองคนแม่ลูกในห้องทำงานของฉันวันดี ๆ วันนี้หมดไปโดยไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง“ใครให้เธอสองคนแม่ลูกเข้ามาในห้องฉันห๊ะ!!!”“ไม่มีใครใช้หรอกค่ะเราสองคนแม่ลูกเข้ามาเอง” ยัยแม่เลี้ยงนั้นยืนขึ้นก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่“ไม่มีใครอยากมาเข้ามาในห้องคนใจแคบแบบเธอหรอก” เมลินพูดใส่หน้าฉัน“ถึงเธออยากฉันก็คงไม่ให้กาฝากอย่างพวกเธอเข้ามาหรอกเดี๋ยวห้องฉันมันจะหมองไปด้วยความหน้าด้านไร้ยางอายของพวกเธอ!!!” คิดหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมให้ว่าฝ่ายเดียว"หน้าด้าน!!!ไร้ยางอาย หือ ว่า
ตอนที่8... [รู้เมื่อสายไป][คริสเตียน]วันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ผมต้องเข้ามาดูแลคนไข้ตามนัดผมมาทำงานที่โรงพยาบาลตามปกติแต่ที่ไม่ปกติสำหรับผมตั้งแต่เช้าผมยังไม่เห็นหน้าใครบางคนที่มาได้ทุกวันเหมือนคนไม่มีการไม่มีงานทำไม่รู้ว่าตั้งแต้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ผมรู้สึกว่าการได้เจอโรเซ็ทต้าทุกเช้ามันคือกิจวัตรประจำวันไปแล้วพอไม่ได้เจอกลับรู้เหมือนมีบางอย่างหายไป แล้วทำไมผมต้องไปสนใจด้วยละจะมา หรือจะไปไม่มันก็เรื่องของเธอ“วันนี้แฟนคุณหมอไม่มาหรอคะ” พยาบาลที่เอากาแฟเข้ามาให้ถามผมขึ้นมาจนผมต้องเงยมองหน้าเธอ“แฟนผม?” ผมชี้นิ้วมาใส่ตัวเองอย่างงงๆ ผมไปมีแฟนตอนไหน“ก็คุณผู้หญิงคนที่สวยๆที่มาหาคุณหมอทุกวันยังไงละคะ”“เธอไม่ใช่แฟนผมครับ”นอกจากโรเซ็ตต้าที่พักนี้จะเข้าออกห้องทำงานผมก็ไม่มีใครแล้วหากไม่นับรวมคนในโรงพยาบาลเธอนี่แหละที่เป็นต้นตอขอคำถามเมื่อกี้ แล้วการที่ผมตอบไปแบบนั้นก็ทำเอาพยาบาลตรงหน้าดูงงไม่น้อยทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่โรเซ็ทต้ากลับทำให้คนอื่นที่มองมาเข้าใจผิดไปไม่น้อย หึ! ผู้หญิงแบบเธอมันน่ากลัวจริงๆ“อ้าวหรอคะพี่ก็นึกว่าเป็นแฟนหมอคริสซะอีกเมื่อวานเห็นร้องไห้ออกไปคิดว่าทะเลาะกัน”“ร้อง
ตอนที่ 7 ความอ่อนแอวันนี้ก็เหมือนทุกวันที่ฉันต้องมาโรงพยาบาลทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ที่มาก็เพราะคุณหมอที่นี่น่าจับทำสามีฉันเลยต้องมาบ่อย ๆ แม้ว่าเวลาของฉันมันเป็นเงินเป็นทองแต่เผื่อเขาฉันยอมเสียเงินเสียทองไปเลยก็ได้ ฉันล่อเล่นอย่าคิดจริงจังไปได้ที่มาวันนี้มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้นต่อให้ฉันจะต้องเสียอะไรไปฉันไม่มีทางในเมลินสมหวังหรอก แต่ที่แน่ๆ วันนี้เขาไม่ว่างมานั่งเล่นกับฉันเพราะเขาต้องรีบไปรักษาคนไข้ที่รอการช่วยเหลือจากเขาอยู่ ฉันก็เลยต้องมานั่งรอเขาในห้องไม่อยากเชื่อเลยว่าการผ่าตัดมันจะนานปานนี้ถ้ารู้จักฉันจริงเขาจะต้องรู้ว่านิสัยของฉันเกลียดการต้องรอโดยเฉพาะรอในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับตัวเอง ยกเว้นคุณหมอคนนี้เพราะเขาสามารถทำประโยชน์ให้ฉันได้แม้ว่าจะต้องนั่งรอจนเกือบจะสามชั่วโมงก็เถอะจะว่าไปเขาก็เป็นคนแรกเลยนะที่ทำให้ฉันอดทนตั้งตารอจนแทบจะหลับคาห้องเขาฉันก็เบื่อเป็นเหมือนกันเกิดมาฉันยังไม่เคยต้องมานั่งรอใครนานเท่านี้มาก่อนเขาคนแรก ไหนๆ ก็ไหนๆฉันก็เลยขอถือโอกาสครั้งนี้เดินสำรวจห้องพักเขาสักหน่อยก็ แล้วกันฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายแบบเขาทำไมถึงชอบตกแต่งห้องเป็นโทนสีดำแต่
ตอนที่6… [คู่แข่ง]12:30น.รู้งี้ฉันทานข้าวเช้ามาก่อนก็ดีใครจะไปคิดละว่าเขาจะออกมาทานข้าวตอนเที่ยงครึ่งตอนแรกก็คิดว่ามาทานเที่ยงตรงฉันก็คงไม่ต้องมาเจ็บท้องหิวข้าวอยู่แบบนี้ ฉันเอามือกุมท้องตัวเองไว้เหมือนว่าโรคกระเพาะจะเริ่มเล่นงานฉันซะแล้ว จากที่เริ่มเจ็บน้อยๆตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับในท้องพร้อมกับบีบเข้ามา“เป็นอะไร” คนที่เดินนำหน้าฉันออกมาเหลียวกลับมาถามพร้อมกับสายตาที่มองตำแหน่งมือที่ฉันจับท้องเอาไว้“ไม่มีอะไร""เจ็บท้องหรอ""......" ทำไมอยู่ๆถึงใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้กับฉัน"โกหกใครก็โหกไปแต่อย่ามาโกหกหมอสิคุณ""ก็แค่ปวดท้องนิดหน่อยเอง พอดีเมื่อเช้าฉันรีบออกมาเลยไม่ทันได้กินข้าว" กับเขาคนนี้ชีวิตนี้ฉันโกหกอะไรไม่ได้เลยสินะ“ก็บอกกแล้วไงว่าถ้าหิวก็ให้มากินก่อนเลยไม่ต้องรอฉัน”“ได้ไง…ถ้าฉันมาก่อนก็ไม่ได้กินข้าวกับนายนะสิ” ฉันฉลาดพอถ้าฉันมาก่อนมีหวังเขาคงไม่มากับฉันหรอก“ดื้อจริงๆ งั้นกินที่ร้านในโรงบาลนี้แหละไม่ต้องไปไหนไกล”นี่ห่วงฉันหรือขี้เกียจออกไปกับฉันกันแน่ แล้วดูในโรงบาลสิมีอะไรให้น่ากินฉันอุส่านั่งอดทนรอตั้งแต่เพื่อที่จะออกมากินโรงอาหารใน โรงบาลเนี๊ยะนะ“ห่วงฉั
Ep05… [เริ่มรุก][คฤหาสน์ลีโอน่า]“จะไปไหนแต่เช้าห๊ะยัยโรส” พ่อถามขณะที่ฉันกำลังสวมรองเท้าส้นสูงสีดำ“ไปทำงานค่ะ”“งานอะไรวันนี้แกไม่ต้องเข้าบริษัทไม่ใช่หรือไง”“ค่ะ แต่โรสมีงานอย่างอื่นต้องทำค่ะ” ฉันตอบพ่อโดยที่ไม่ชายตา.มองสองคนแม่ลูกนั้นแม้แต่น้อย“หนูโรส…”“สมองเสื่อมหรือไงฉันเคยบอกเธอว่ายังไง...ห้ามเรียกฉันแบบนั้น” ฉันเหลียวไปเอ็ดเสียงใส่แมรี่แม่เลี้ยงที่ไม่ต้องการของฉัน“เอ้อ ขอโทษค่ะคุณโรส” ปากบอกขอโทษแต่สายตาเครียดแค้นยิ่งกว่าอะไร“สรุปจะไปไหน” พ่อยังไม่ลดความพยายามที่จะถามฉัน“สนใจทำไมคะปกติไม่เคยเห็นจะถาม” ตอนแรกก็ว่าจะตอบดีๆ แล้วนะแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเถียง“โรสพ่อถามดีๆนะ”“โรสก็ตอบดีแล้วนี้คะ” ฉันยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป“คงออกไปหาผู้ชายสินะถึงไม่ยอมบอก” ยัยเมลินดาหันมาว่าให้ฉันต่อหน้าทุกคน แต่คุณพ่อของฉันกลับไม่ว่าอะไรยัยนั้นสักคำ เหอะ! นี้เขากำลังว่าให้ลูกตัวเองอยู่นะ อ่อ! ฉันลืมไปว่าไม่มีใครสนใจฉันอยู่แล้ว“ค่ะโรสออกไปหาผู้ชายคุณพ่อมีอะไรมั้ยคะ” ฉันตอบด้วยความประชดประฉัน“ยัยโรส!!!”“หึ! พ่อไม่ต้องขึ้นเสียงใส่โรสหรอกค่ะเพราะผู้ชายที่โรสจะไปหา…เขาเป็นถึงนายแพทย์เลยนะคะ
“วันนี้แกรีบแต่งตัวไปไหนแต่เช้า” นิน่าที่กำลังจะไปเรียนถามฉันทันทีที่เห็นว่าฉันลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่เช้า“ไปโรงบาล” ตอบออกไปโดยไม่ได้มองหน้านิน่าเพราะมัวแต่วุ่นกับซิปด้านหลังที่มันรูดไม่ขึ้น“ไปโรงบาล!!! แต่งแบบนี้เนี๊ยะนะ”“อือก็ฉันไม่ได้ป่วยนิทำไมจะแต่งแบบนี้ไม่ได้” ชุดที่ฉันใส่มันเป็นชุดเดรตสั้นสีดำเกาะอกแต่ฉันก็มีเสื้อคลุมไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะโป้“ไม่ได้ป่วยแล้วไปทำ เห้ย!!!อย่าบอกนะ” มันชี้หน้าฉันทันทีที่มันนึกออกว่าฉันไปทำไม“อืมฉันจะไปหาหมอคริสเตียน” เหวอเลยทีนี้เพื่อนฉัน“เอาจริงดิ”“แต่งขนาดนี้คิดว่าโรสมาเล่นๆ หรอคะคุณนิน่า” นี้ฉันทำให้มันตกใจขนาดนั้นเลยหรอ“แล้วแกรู้แล้วหรอว่าจะเข้าใกล้เขาได้ยังไงถ้าแกจะอ้างว่าป่วยโรคเดียวที่แกเป็นได้คือโรคหัวใจเพราะเขาเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก” อันนั้นน่ะฉันตัดทิ้งไปนานแล้วคนอย่างโรเซ็ทต้าถ้าคิดจะทำอะไรแล้วไม่เคยมีพลาด“ช่างฉันเถอะแกไปเรียนได้แล้วไป๊” ฉันไล่ให้มันไปเรียนก่อนที่จะเดินตามมันไปเอารถก่อนจะขับออกไป[โรงพยาบาลโรเซ็ทต้า]“สวัสดีค่ะติดต่อสอบถามอะไรหรอคะ” ทันทีที่ฉันเดินไปที่หน้าประชาสัมพันธ์พยาบาลที่ทำหน้าที่ก็ถามฉันอย่างกับอัดเทปไว้“เอ้อคื