แชร์

บทที่ 347

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
“พวกเจ้าแต่ละคน คิดจะขบถกันใช่หรือไม่!”

“ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ วันนี้ข้าจะกินซาลาเปาไส้เนื้อให้ได้”

“หากพวกเจ้าไม่แย่งมา ข้าจะฟาดพวกเจ้าให้เป็นซาลาเปาไส้เนื้อแล้วเอาไปนึ่งกิน”

เฉียนซื่อว่าจบก็เหวี่ยงไม้เท้าใส่แผ่นหลังของเจียงหว่านเอ๋อร์อีกรอบ

เสิ่นจืออวี้รู้ว่าสองคนนี้ถูกตีเพราะตัวเขา

เขารีบก้าวออกไปคว้าไม้เท้าที่เหวี่ยงเข้ามา

“ท่านย่ารอง ท่านอย่าทำเกินไปนัก” เสิ่นจืออวี้ทนเฉียนซื่อมาตลอดทาง

ตอนนี้พี่ใหญ่ยังคงหมดสติ ผู้เดียวที่จะช่วยพี่ใหญ่ได้ก็มีแต่ท่านย่ารอง

ทว่าตลอดทางมานี้ อย่าว่าแต่การรักษาพี่ใหญ่เลย ท่านย่ารองไม่แม้แต่จะมองพี่ใหญ่แม้แต่ปราดเดียวด้วยซ้ำ

และตอนนี้ ท่านย่ารองก็ยังคิดจะตีพี่สะใภ้ใหญ่กับเสิ่นคังให้ตายเพียงเพราะอยากได้ซาลาเปาไส้เนื้อ

ในฐานะทหารคนหนึ่ง เสิ่นจืออวี้นั้นเหลืออดเหลือทนมานานแล้ว

เขาออกแรงแย่งไม้เท้ามาจากมือเฉียนซื่อ

“ท่านย่ารอง เมื่อครู่นี้ท่านกินหมั่นโถวไปแล้วและมีเรี่ยวแรง

คงจะถึงเวลาต้องรักษาให้พี่ใหญ่ของข้าแล้วกระมัง”

เฉียนซื่อคิดไม่ถึงว่าไม้เท้าของตัวเองจะถูกเสิ่นจืออวี้แย่งไป

นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ชี้นิ้วใส่พวกเสิ่นจืออวี้ทั้งสามคนอย่างสั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 348

    ครอบครัวของพวกเขาเป็นแม่ทัพมาหลายชั่วคน ตอนนั้นแม่ทัพผู้เฒ่าเสียชีวิตในสนามรบแล้วได้มอบป้ายคำสั่งแม่ทัพให้กับเสิ่นจือเจิ้งและเสิ่นจือเจิ้งก็ไม่ได้ทำให้ผู้เป็นบิดาต้องผิดหวังแต่อย่างใด เขาสร้างคุณูปการให้กับเมืองซินเหอเยอะมากฉู่จวินสิงเคยพบเสิ่นจือเจิ้งที่วังหลวง ถือว่าเป็นสหายที่เคยพยักหน้าทักทายกันเพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใดเสิ่นจือเจิ้งจึงถูกเนรเทศเช่นกันเวลานี้เสิ่นจืออวี้กำไม้เท้าแน่น ครั้นเห็นว่าย่ารองไม่มีทีท่าจะรักษาให้พี่ใหญ่ เขาก็เริ่มนึกย้อนเสียใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองบุ่มบ่ามเกินไปหรือไม่หากว่าเขาอดทนอีกสักหน่อย ไม่แน่ว่าย่ารองจะช่วยรักษาให้พี่ใหญ่อากาศที่นี่ร้อนอบอ้าวมาก ถ้าหากพี่ใหญ่ยังไม่ได้รับการรักษาอีก บาดแผลตามร่างกายเขาก็จะเริ่มอักเสบเมื่อผ่านไปนานวัน เกรงว่าพี่ใหญ่คงไม่ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกแต่เขาได้ล่วงเกินย่ารองไปแล้ว ส่วนตอนนี้ก็รักศักดิ์ศรีเกินกว่าจะขอร้องอีกฝ่ายเขาทำได้เพียงยืนอยู่ที่นี่ มองพี่ใหญ่ที่อยู่บนรถม้าด้วยใจร้อนรนเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีที่ตนใช้เมื่อครู่ไม่อาจทำให้เฉียนซื่อโมโหจนเสียสติเห็นทีว่านางคงต้องเพิ่มเชื้อเพลิงให้มากก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 349

    “ท่านแม่ ซาลาเปาไส้เนื้อนี่อร่อยมากจริงๆ ขอรับ ท่านเองก็กินสักลูกเถอะ”เจียงหว่านเอ๋อร์เห็นว่าตัวเองห้ามไม่ทันจึงได้แต่ปล่อยให้เสิ่นคังกินอย่างไรนางก็เห็นมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้วว่าซาลาเปานี้ไม่มีพิษเสิ่นจืออวี้สืบเท้ายาวๆ เดินไปหาเจี่ยนอันอัน“แม่นางท่านนี้ ท่านบอกว่าตัวเองสามารถช่วยพี่ใหญ่ของข้าได้งั้นหรือ?”เสิ่นจืออวี้ไม่ได้สนใจการมองตาขวางของเฉียนซื่ออาการของพี่ใหญ่ไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าผู้ใดที่ช่วยรักษาได้ เขาก็จะไม่ขัดขวางทั้งนั้นเจี่ยนอันอันยิ้มบางๆ “จะช่วยได้หรือไม่ก็ต้องดูอาการก่อน”“แต่ที่นี่มีคนขัดขวางไม่ให้ข้าตรวจดูอาการ ข้าเองก็จนปัญญาเช่นกัน”เจี่ยนอันอันพูดแล้วยักไหล่ตอนนี้เสิ่นจืออวี้ร้อนใจเหมือนมดบนกระทะร้อนพี่ใหญ่ของเขาจะตายไม่ได้เด็ดขาด หากผู้ใดกล้าขัดขวางการรักษาของพี่ใหญ่ เช่นนั้นเขาจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกต่อไปถึงอย่างไรเขากับเฉียนซื่อก็ไม่ได้มีความข้องเกี่ยวทางสายเลือดต่อกัน ตลอดทางถูกอีกฝ่ายก่นด่ามาไม่น้อยนอกจากนี้ เขาก็มองออกว่าเฉียนซื่อไม่มีทีท่าจะช่วยพี่ใหญ่หากเฉียนซื่อยังกล้าขัดขวางอีก เช่นนั้นเขาจะใช้ไม้เท้าในมือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 350

    “นังแพศยา กล้าดีอย่างไรมาตบหน้าข้า สงสัยจะอยากตายสินะ!”เฉียนซื่อสลัดมือของบ่าวรับใช้ทิ้งแล้วง้างมือเตรียมตบใส่เจี่ยนอันอันฉู่จวินสิงเอาตัวไปบังเบื้องหน้าเจี่ยนอันอัน จับมือที่ตบเข้ามาของเฉียนซื่อเอาไว้“กล้าทำร้ายแม้แต่ผู้หญิงของข้า คนที่อยากตายคงเป็นเจ้ามากกว่ากระมัง”ฉู่จวินสิงว่าพลางออกแรงบีบที่มือเฉียนซื่อถูกบีบแรงจนรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือ เจ็บจนเหงื่อเย็นไหลออกมา“ปล่อยนะ ข้อมือข้าจะหักอยู่แล้ว!”เฉียนซื่อเจ็บจนไม่มีกะจิตกะใจมากคิดมาก ร่างกายของนางขดเป็นก้อนเดียวกันฉู่จวินสิงแค่นเสียงเย็นก่อนจะเหวี่ยงเฉียนซื่อลงพื้นเฉียนซื่อกุมข้อมือที่ถูกบีบเจ็บของตัวเองและกัดฟันกรามหลังด้วยความโมโหนางไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อนในชีวิตตอนนี้นางไม่ได้ลุกไปตบเจี่ยนอันอัน แต่ก้มศีรษะลง รอยยิ้มแปลกประหลาดปรากฏบนใบหน้าอีกครั้งปากเริ่มสวดคาถา ไอดำกลุ่มหนึ่งลอยออกมาจากปากของนางเจี่ยนอันอันรู้ว่ายายมารเฒ่ากำลังจะจัดการนางด้วยวิชาไสยศาสตร์แล้วนางรีบท่องคาถาในใจสามรอบเมื่อไอดำกลุ่มนั้นลอยมาถึงตัวเจี่ยนอันอันก็สลายไปในทันทีเฉียนซื่อนึกไม่ถึงว่าวิชาไสยศาสตร์ของตัวเองจะไม่ได้ผลกั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 351

    เฉียนซื่อรู้สึกเพียงว่าอวัยวะภายในตันทั้งห้าและอวัยวะภายในกลวงทั้งหกราวกับถูกหนอนนับหมื่นตัวกัดกินนางเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลออกมา เสื้อผ้าเนื้อหยาบเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นในที่สุดเฉียนซื่อก็เข้าใจแล้วว่าวันนี้ตัวเองได้พบกับคนที่ต่อกรยากเข้าแล้วนางไม่กล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงนั่งหอบหายใจบนพื้นหมายจะทำแบบนี้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในร่างกายเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจเฉียนซื่ออีก นางสืบเท้ายาวๆ เดินไปที่รถม้าแสงจันทร์ช่วยส่องให้เห็นว่าเสิ่นจือเจิ้งที่อยู่บนรถม้ากำลังลืมตาอยู่ทว่าดวงตาของเขาว่างเปล่าไร้ประกาย นอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นเหมือนขอนไม้เจี่ยนอันอันยื่นมือไปส่ายเบื้องหน้าเสิ่นจือเจิ้ง พบว่าดวงตาของอีกฝ่ายยังคงไม่ไหวติงนางจับข้อมือของเขาขึ้นมาจับชีพจรดูจากชีพจรแล้ว ภายในร่างกายของเสิ่นจือเจิ้งไม่มีพิษร้ายใดๆที่เขามีอาการเช่นนี้ เป็นไปได้สูงมากว่าจะเกิดจากวิชาไสยศาสตร์เจี่ยนอันอันหันไปมองเฉียนซื่อ พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาทางนี้เช่นกันภาพนี้ทำให้เจี่ยนอันอันยิ่งมั่นใจว่าเป็นฝีมือของเฉียนซื่อตอนนี้เสิ่นจืออวี้หายเป็นปกติในที่สุด เขาลุกขึ้นเดินมาอยู่ข้างเจี่ยนอันอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 352

    แต่แล้วตอนนี้ท่านพ่อกลับไม่แม้แต่จะสนใจเขา ราวกับว่าได้ตายไปแล้วเมื่อคิดว่าท่านพ่ออาจจะตายแล้ว เสิ่นคังก็ยิ่งร้องไห้เสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ“ท่านพ่อ ท่านอย่าตายนะขอรับ อย่าทิ้งคังเอ๋อร์ไป!”เสียงร้องไห้ของเสิ่นคังดังขึ้นเรื่อยๆ จนเฉียนซื่ออดที่จะด่าไม่ได้ “ร้องอะไรนักหนา ขืนยังร้องอีก ข้าจะให้เจ้าเป็นเหมือนเขา”ถ้อยคำของเฉียนซื่อทำให้เสิ่นคังต้องรีบปิดปากด้วยความหวาดกลัวเขาไม่กล้าร้องไห้เสียงดังอีก กระนั้นก็ยังคงมีเสียงร้องไห้ฮือๆ ดังออกมาจากปากเฉียนซื่อแค่นเสียงเย็น ไม่ได้สนใจเสิ่นคังอีกตอนนี้นางกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการเจี่ยนอันอันด้วยวิธีอะไรดีวิชาไสยศาสตร์ของนางไม่เคยพลาดมาก่อน ทว่ามันกลับใช้ไม่ได้ผลกับเจี่ยนอันอันเรื่องนี้ทำให้เฉียนซื่อไม่พอใจมากเดิมทีเจี่ยนอันอันก็มีจรรยาบรรณของความเป็นแพทย์ อีกทั้งฉู่จวินสิงก็รู้จักกับเสิ่นจือเจิ้งนางกระโดดขึ้นรถม้าไปเลิกเสื้อของเสิ่นจือเจิ้งขึ้นบาดแผลบนร่างเขาเน่าพุพองมานานแล้วการเลิกเสื้อขึ้นเมื่อครู่ของเจี่ยนอันอันทำให้แผลถูกกระตุ้นอีกครั้งโลหิตไหลออกมาทางปากแผลทันทีที่นี่มืดมาก มองเห็นแผลได้ไม่ค่อยชัดเจี่ยนอันอันนำ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 353

    เจียงหว่านเอ๋อร์ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางมองออกว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนมีเหตุผลสิ่งใดที่นางไม่ควรทำ นางก็จะไม่ฝืนทำเรื่องนี้ทำให้ความคิดที่เจียงหว่านเอ๋อร์มีต่อเจี่ยนอันอันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเสิ่นจืออวี้เห็นเจียงหว่านเอ๋อร์ถอดกางเกงให้เสิ่นจืออวี้ด้วยความระมัดระวังเขารู้สึกว่าตัวเองจะเอาแต่นิ่งดูดายไม่ได้ เขากระโดดขึ้นรถม้าทันที ช่วยเจียงหว่านเอ๋อร์ถอดกางเกงให้เสิ่นจือเจิ้งบาดแผลที่น่าสยดสยองทำให้ทั้งสองคนอดที่จะหายใจดังเฮือกไม่ได้แผลที่ขาของเสิ่นจือเจิ้งสาหัสกว่าแผลตามร่างกายมากบวกกับช่วงที่ผ่านมานี้ไม่ได้รับการรักษามาโดยตลอด ทำให้เนื้อหนังที่เน่าเปื่อยหลุดออกมาพร้อมกับกางเกงบางจุดเนื้อหลุดจนเห็นถึงกระดูกเจียงหว่านเอ๋อร์รีบยกมือปิดตาเสิ่นคังเพราะกลัวว่าเขาจะกลัว“ท่านแม่ ข้าไม่กลัวขอรับ ข้าอยากเห็นพวกท่านทายาให้ท่านพ่อ”เสิ่นคังค่อนข้างสงบนิ่ง เขาแกะมือของเจียงหว่านเอ๋อร์ออก ไม่ว่าอย่างไรก็จะดูให้ได้เจี่ยนอันอันได้ยินเสียงพูดของเสิ่นคัง นางหันกลับไปมองทางรถม้าปราดหนึ่งสีหน้าของทั้งสามคนทำให้นางพอจะเดาได้ว่าบาดแผลบริเวณขาของเสิ่นจือเจิ้งต้องสาหัสมากเป็นแน่ทันใด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 354

    เมื่อเห็นเสิ่นจืออวี้นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เฉียนซื่อก็แค่นเสียงเย็น“เหอะ หากไม่ใช่เพราะพี่ชายของเจ้าล่วงเกินฮ่องเต้ ข้ามีหรือจะถูกเนรเทศมาอยู่ที่นี่พร้อมกับพวกเจ้า”“ครานี้ดีล่ะ แม้แต่ที่ให้อยู่ก็ยังไม่มี เจ้ายังมีหน้ามาซักถามข้าอีก”“หากพ่อของเจ้ารู้ว่าเจ้าอกตัญญูขนาดนี้ เกรงว่าเขาที่อยู่ในปรโลกคงได้โมโหจนฟื้นกลับมามีชีวิต”เสิ่นจืออวี้ซึ่งเดิมทีก็โมโหอยู่แล้วถูกเฉียนซื่อพูดแบบนี้ใส่ก็ยิ่งโมโหเลือดขึ้นหน้าเขากำไม้เท้าแน่นและชี้ไปที่หน้าเฉียนซื่อด้วยความโมโห “ที่พวกข้าถูกเนรเทศมาที่นี่เป็นเพราะท่านต่างหาก”“แม้แต่พี่ใหญ่ของข้าท่านก็ยังไม่ยอมปล่อยไป ตอนนี้ยังจะด่าว่าข้าอกตัญญูอีก”“ไหนลองบอกข้ามาว่าตัวเองช่วยอะไรหรือ?”เฉียนซื่อเห็นเสิ่นจืออวี้ใช้ไม้เท้าชี้หน้าตัวเองก็ลุกขึ้นด้วยความโมโหเพื่อแย่งไม้เท้าคืนมา“หากไม่ใช่เพราะมีข้าอยู่ พวกเราจะถูกเนรเทศไปอยู่ที่ใดก็ยังไม่รู้”“เจ้าหลานอกตัญญู เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฟาดเจ้าให้ตาย!”เฉียนซื่อว่าแล้วจับปลายอีกด้านของไม้เท้านางรู้สึกว่าที่ก่อนหน้านี้วิชาไสยศาสตร์ของตัวเองใช้ไม่ได้ผลเป็นเพราะไม้เท้าด้ามนี้ตกไปอยู่ในมือเสิ่นจืออวี้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 355

    เจี่ยนอันอันมองเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วยสีหน้าเย็นชา “อยากให้สามีมีชีวิตรอดหรือไม่?”“แน่นอนอยู่แล้ว” เจียงหว่านเอ๋อร์ตอบทันทีนางไม่เข้าใจว่าเจี่ยนอันอันถามเช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร นั่นคือสามีของนางนะ นางต้องหวังว่าเขาจะดีขึ้นโดยไวอยู่แล้วสิ“ในเมื่ออยากให้เขามีชีวิต เช่นนั้นก็อย่าสงสัยในวิชาแพทย์ของข้า”เจี่ยนอันอันไม่ชอบให้คนอื่นสงสัยในความหวังดีของตัวเองที่สุดแล้วหากไม่ใช่เพราะทุกคนถูกเนรเทศเหมือนกันและมาอยู่หมู่บ้านชิงสุ่ยด้วยกันนางก็คร้านจะสนใจความเป็นความตายของเสิ่นจือเจิ้งเจียงหว่านเอ๋อร์ได้ยินดังนี้ก็ผงะ แต่นางก็เข้าใจอย่างรวดเร็วนางรู้ว่าตัวเองอ่อนไหวเกินไปหากว่าเจี่ยนอันอันไม่คิดที่ช่วยสามีของนาง เกรงว่าตอนนี้อาการของเขาคงทรุดหนักขึ้นเรื่อยๆ“ขออภัย ข้าอ่อนไหวเกินไปเอง”เจี่ยนอันอันเห็นเจียงหว่านเอ๋อร์ก้มหน้ายอมรับผิดก็ไม่อยากถือสาหาความมากนักเพื่อคลายความกังวลของเจียงหว่านเอ๋อร์ เจี่ยนอันอันก็พูดว่า “เมื่อครู่นี้ข้าให้เขากินโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“เขาไม่ได้มีแค่บาดแผลภายนอก แต่ยังมีบาดแผลภายในที่สาหัสมากด้วย”“นอกจากนี้ยังถูกวิชาไสยศาสตร์ ต่อให้ตอนนี้ทุบ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 661

    แม้แต่บุตรชายโง่งมของเขาก็ยังไม่กลับบ้านมาแต่เสียงนี้กลับได้ยินแจ่มชัด จนเขามั่นใจว่าในห้องยังมีผู้อื่นอยู่อีกพลันรีบลุกขึ้นยืน มองไปยังห้องว่างเปล่าแล้วตะคอกเสียงดัง “เป็นผู้ใดกัน รีบออกมาเดี๋ยวนี้!”ถึงขั้นนี้แลว ทั้งเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงจึงไม่คิดหลบซ่อนตัวอีกทั้งคู่จึงปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเจ้าเมืองข่งการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคนทั้งคู่ ยิ่งทำให้เจ้าเมืองข่งตกใจเสียจนนั่งทับลงบนร่างสะใภ้รองโดยไม่รู้ตัวส่วนทางสะใภ้รองจู่ๆ ถูกคนมานั่งทับ ก็ทำเอานางเจ็บจนร้องโอย พลันรีบลืมตาขึ้นเจ้าเมืองข่งเพิ่งรู้ตัวว่าตนได้นั่งทับร่างสะใภ้รองอยู่ จึงรีบกระโดดผึงขึ้นมาในบัดดลเขาชี้หน้าเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง พลางกล่าวตวาด “พวกเจ้าเป็นใครกัน ไฉนมาอยู่ในบ้านข้าได้?”เจี่ยนอันอันยิ้มหยันขณะมองหน้าเจ้าเมืองข่ง นางไม่ได้พูดจา แต่ในมือถือเข็มเงินเล่มหนึ่งอยู่นานแล้วนางดีดนิ้วหนึ่งที เข็มเงินรีบพุ่งไปยังเด็กชายที่นอนอยู่บนเตียงเข็มนั้นไปปักที่ศีรษะของเด็กชาย พลันได้ยินเสียงเด็กร้อง “อึ่ก” แล้วกระอักโลหิตสดออกมาคำหนึ่งเจ้าเมืองข่งรีบหันไปดูด้วยความตกใจ จึงเห็นบนศีรษะของหลานตัวน้อย มี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 660

    เจ้าเมืองข่งลุกพรวดขึ้น เขารีบประสานมือให้กับบรรดาพ่อค้า “ขออภัยด้วยทุกท่าน ที่บ้านข้ามีธุระ ต้องรีบไปจัดการ”“ขอให้ทุกท่านกลับไปก่อน รอให้ถึงเวลาสอบจอหงวนในอีกหนึ่งปี ข้าจะช่วยให้ลูกๆ ของพวกเจ้าสอบผ่านโดยราบรื่น”เจ้าเมืองข่งว่าจบก็ให้พ่อบ้านส่งแขกส่วนตัวเขารีบเดินไปทางห้องนอนของหลานชายเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากันก่อนจะตามไปทันทีหลังจากที่ทั้งสองคนเดินตามเจ้าเมืองข่งอยู่นานมาก พวกเขาก็มาถึงหน้าห้องนอนในที่สุดเจ้าเมืองข่งรีบเดินเข้าไป เห็นลูกชายคนรองยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่หน้าเตียงหลานชายวัยหกขวบที่อยู่บนเตียงกำลังกลอกตา ปากพ่นฟองขาวฟอด ร่างกายชักเกร็งส่วนลูกสะใภ้รองของเขากำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นลูกชายคนรองยืนซื่ออยู่หน้าเตียงไม่ต่างจากท่อนไม้ แน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน“ปัดโธ่ เจ้าลูกโง่ เจ้ามาทำอะไรที่นี่”เจ้าเมืองข่งตบเข่าฉาดด้วยความร้อนอกร้อนใจเมื่อเห็นลูกชายคนรองเขาสั่งให้บ่าวรับใช้เขามาลากนายน้อยรองออกไปทันทีในตอนนี้เอง จู่ๆ คุณชายรองก็ปรบมือร้องอย่างมีความสุข“สนุกมาก คนหนึ่งแกล้งชัก ส่วนอีกคนจะแกล้งตาย ข้าเองก็อยากเล่นกับพวกเจ้าด้วย”คุณชายรองว่าจบก็ไปนอนทับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 659

    บัดนี้ลูกของพวกเขาต่างสอบได้ตำแหน่งซิ่วไฉขอเพียงต่อไปมอบสมบัติให้เจ้าเมืองข่งมากขึ้น วันหน้าก็จะสอบได้ตำแหน่งที่ดียิ่งกว่านี้เจี่ยนอันอันมองเห็นว่าเจ้าเมืองข่งมีใบหน้าเหลี่ยม ความละโมบแผ่ออกมาทางดวงตาเรียวเล็กเป็นระยะๆนางลอบถากถางในใจว่า “หน้าตาของเจ้าเมืองผู้นี้สะท้อนให้เห็นถึงตัวจริงๆ”พ่อค้าคนหนึ่งพูดว่า “ใต้เท้าข่ง ไม่ทราบว่าหลานชายของท่านป่วยเป็นอะไรกันแน่หรือ?”เจ้าเมืองข่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งในตำแหน่งประธานเขาส่งสัญญาณให้ทุกคนนั่งลงได้ มีสาวใช้ยกน้ำชาเข้ามาให้ทุกคน“เดิมทีแล้วหลานชายของข้าก็ร่าเริงแจ่มใสดี แต่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร ช่วงนี้ล้มป่วยอยู่ตลอด ตอนนี้แค่จะพูดยังยากเลย”เจ้าเมืองข่งขมวดคิ้วแน่นด้วยความกลัดกลุ้มเมื่อพูดถึงตรงนี้“ไม่มีหมอที่จะรักษาได้หรือ?” พ่อค้าอีกคนเอ่ยถามเจ้าเมืองข่งถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง เขาส่ายหน้าว่า “ข้าตามหมอมาทั่วเมืองหลี่จงแล้ว แต่ไม่มีคนใดที่จะรักษาได้”พ่อค้าที่นำผนึกหัวใจพระพุทธมาให้ฟังถึงตรงนี้ก็หยิบมันออกมาจากอกเสื้อทันทีผนึกหัวใจพระพุทธถูกแสงส่องกระทบเป็นสีรุ้งระยิบระยับเขาลุกขึ้นประสานมือพูดกับเจ้าเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 658

    ทั้งสองคนลงจากหลังม้า นำม้าไปผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ แต่ในจังหวะที่กำลังจะไปจวนเป่าเซวียน พวกเขาก็เห็นรถม้าหลายคันทยอยกันมาหยุดจอดหน้าจวนเป่าเซวียนผู้คนที่ลงมาจากรถม้าล้วนแล้วแต่แต่งกายด้วยอาภรณ์หรูหราดูจากการแต่งกายของพวกเขาแล้วน่าจะไม่ใช้ข้าราชการ ดูคล้ายพ่อค้ามากกว่าไม่รู้เหมือนกันว่าที่จวนเจ้าเมืองกำลังมีงานอะไร ถึงได้มีคนมาเยอะขนาดนี้คนเหล่านั้นเดินไปที่ประตูแล้วนำเทียบเชิญออกมาจากอกเสื้อพ่อบ้านยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเทียบเชิญเขาประสานมือพูดว่า “รีบเชิญด้านใน ใต้เท้ารออยู่นานแล้ว”พ่อค้าเหล่านั้นประสานมือตอบก่อนจะสืบเท้าเข้าไปดูเหมือนว่า หากพวกเจี่ยนอันอันจะเข้าไปในจวนเป่าเซวียนก็จำเป็นต้องมีเทียบเชิญเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน ทั้งสองท่องในใจทันทีว่าล่องหนครานี้ก็จะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นหรือมองเห็นพวกเขาแล้ว เลือนหายไปในอากาศภายในเสี้ยวพริบตาทั้งสองเดินวางมาดกรีดกรายเข้าไปต่อหน้าต่อตาพ่อบ้านจังหวะที่ทั้งสองคนเดินผ่านพ่อบ้าน พ่อบ้านก็ได้กลิ่นหอมของอะไรบางอย่างนั่นเป็นกลิ่นที่มีเพียงสตรีเท่านั้นที่จะแผ่ออกมาได้เขามองรอบทิศ นอกจากพ่อค้าไม่กี่คนที่เพิ่งเข้าไปแ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status