Share

บทที่ 290

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วแน่น นางมองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงมา

มองเห็นเพียงว่ามีเงาดำร่างหนึ่งกะพริบผ่านไป จากนั้นหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

“บ้าเอ๊ย!” เจี่ยนอันอันสบถด้วยความโมโห

นางหันไปถีบว่านจื้อหมิงที่สิ้นใจไปแล้วอย่างแรง

คนผู้นั้นราวกับต้องการเพียงปลิดชีพว่านจื้อหมิง ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้แต่อย่างใด

เจี่ยนอันอันอยากไล่ตามไป แต่นางไม่รู้ว่าคนผู้นั้นหายไปที่ใดแล้ว

ไม่นาน พวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนก็จัดการทหารที่เหลือจนหมด

เมื่อพวกเขามาถึงตัวเจี่ยนอันอันก็พบกับว่านจื้อหมิงที่ตายไปแล้ว

นอกจากนี้บริเวณอกยังมีลูกธนูดอกหนึ่งปักอยู่

“เกิดอะไรขึ้น? ข้ายังไม่ทันได้ชำระแค้นที่เขาใส่ร้ายข้ามาตลอดหลายปีเลย เหตุใดจึงตายเสียแล้ว?”

เซิ่งฟางถือกระบี่เปื้อนโลหิตไว้ในมือพร้อมกับถลึงตามองว่านจื้อหมิงที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด

เจี่ยนอันอันโมโหเดือดดาลมากเช่นกัน อีกแค่ก้าวเดียวแท้ๆ นางก็จะได้รู้อยู่แล้วว่าผู้ใดส่งสาส์นลับให้ว่านจื้อหมิง

ทว่าตอนนี้ เบาะแสกลับขาดหายไปหมดแล้ว

เจี่ยนอันอันมองไปยังทิศที่คนผู้นั้นหายไปด้วยสายตาเย็นชา

เงาร่างร่างนั้นทำให้เจี่ยนอันอันรู้สึกคุ้นอยู่ในท
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 291

    เมื่อหันไปมองก็พบว่าหญิงสาวซึ่งเดิมทียืนอยู่เบื้องหน้าว่านจื้อหมิงได้มายืนอยู่ด้านหลังตัวเองตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ฝูเซียงขนหัวลุกด้วยความตกใจ นางน้ำตาไหลนองหน้าและขดตัวเป็นก้อน“พวกเจ้าจะทำอะไร อย่าฆ่าข้า!”พวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนไม่รู้ว่าฝูเซียงเป็นผู้ใด แต่เจี่ยนอันอันรู้นางแสยะยิ้มมองฝูเซียง ในมือมีกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ นางพาดกระบี่บนคอฝูเซียงพร้อมกับยิ้มเยาะ “ว่านจื้อหมิงซึ่งเป็นคนรักของเจ้าได้ตายไปแล้ว ยังอยากแก้แค้นให้ญาติผู้พี่ของเจ้าอีกหรือไม่?”เดิมทีฝูเซียงก็กลัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งต้องส่ายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความกลัวหนักกว่าเดิม“อย่าฆ่าข้า เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”นางเพิ่งจะอายุยี่สิบ ยังไม่ทันได้เพลิดเพลินกับวัยสาว จะมาตายในเงื้อมมือของพวกเขาแบบนี้ไม่ได้ เจี่ยนอันอันกำลังรีบร้อนอยากตามหากู้มั่วหลี ส่วนฝูเซียงก็เป็นคนรักของว่านจื้อหมิงนางต้องรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกู้มั่วหลีแน่นอน“จะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องบอกที่อยู่ของกู้มั่วหลี”ฝูเซียงไม่ได้รู้จักกู้มั่วหลี นางลืมตามองเจี่ยนอันอันอย่างหวาดกลัว“ข้าไม่รู้จักคนผู้นี้ด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 292

    ฝูเซียงรู้สึกเพียงว่าแขนขาของตัวเองชาไปหมด นางเผยอปากเพื่อขอร้องอ้อนวอนแต่แล้วกลับต้องค้นพบด้วยความตกใจว่าตัวเองไม่อาจเปล่งเสียงแม้เพียงคำเดียวฝูเซียงเบิกตาโพลงด้วยความตื่นกลัว ร่างกายส่ายโงนเงนไปมาอยู่สองสามครั้งก่อนจะล้มฟุบกับพื้นเจี่ยนอันอันคิดในใจว่าที่นี่เป็นย่านที่เจริญรุ่งเรืองของเมืองอินเป่ย มีคนสัญจรไปมามากมายพรุ่งนี้เช้าจะมีคนพบตัวฝูเซียงเองส่วนหลังจากนี้นางจะเป็นหรือตาย นั่นคงสุดแล้วแต่บุญแต่กรรมของตัวนางเองแล้วเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของฝูเซียงอีก นางเดินเข้าไปในที่ว่าการมณฑลจงโจวพร้อมกับสวมถุงมือพิเศษจากนั้นนำผงสลายศพกำหนึ่งจากห้วงมิติออกมาโปรยใส่ศพพวกนั้นศพทั้งหลายกลายเป็นน้ำหนองเป็นกองๆ อย่างรวดเร็วหลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เจี่ยนอันอันก็ค่อยเดินออกจากที่ว่าการมณฑลจงโจวเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าทำการปิดประตูหลักของที่ว่าการนอกจากสมาชิกครอบครัวของว่านจื้อหมิงแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ทั้งนั้นว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นที่นี่เจี่ยนอันอันไม่ได้สังหารสมาชิกครอบครัวพวกนั้น นางจงใจปล่อยให้พวกนางมีชีวิตนางอยากเห็นว่าพวกนางจะมีความเคลื่อนไหวอะไรหลังจากที่รู้ว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 293

    จงซิ่นคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมากันตั้งแต่เช้าแบบนี้ เขารีบให้ทั้งสี่คนเข้ามาในลานบ้านฉู่จวินสิงอยากให้เจี่ยนอันอันนอนได้สบายกว่านี้จึงถามจงซิ่นว่า “ผู้เฒ่าจง ที่บ้านท่านพอจะมีห้องว่างหรือไม่?”จงซิ่นมองเจี่ยนอันอันที่กำลังหลับสนิทปราดหนึ่งแล้วรีบตอบ “ที่ด้านหลังมีห้องว่างอยู่ แต่ห้องค่อนข้างโทรม”ฉู่จวินสิงไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเคยนอนในวัดร้างด้วยซ้ำ ห้องที่ทรุดโทรมจึงไม่นับว่าเป็นอะไรฉู่จวินสิงตอบอย่างไม่ยี่หระ “รบกวนผู้เฒ่าจงช่วยนำทางด้วย”จงซิ่นเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่รังเกียจก็รีบขานรับและพาฉู่จวินสิงไปยังห้องโทรมๆ ที่อยู่ด้านหลังฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันเข้าไปวางลงบนเตียง ตามด้วยห่มผ้าผืนบางให้กับนางเขาลูบแก้มนางอย่างแผ่วเบา พบว่านางยังคงหลับสนิท ใบหน้าดวงน้อยถูไปมากับฝ่ามือของเขารอยยิ้มรักใคร่เอ็นดูค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของฉู่จวินสิงเขาอยู่ที่นี่เพียงไม่นานก็สืบเท้ายาวๆ เดินออกไป ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของเจี่ยนอันอันฉู่จวินสิงกลับมาที่ลานด้านหน้าก็พบว่าจงซิ่นกำลังก่อไฟทำอาหารเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน เป็นความจริงที่พวกเขารู้สึกหิวเล็กน้อยฉู่จวินสิงคิดในใจว่ารอไว้ถึงเวลากินข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 294

    นางมั่นใจในพิษของตัวเองมาก ก่อนหน้านี้นางทิ่มกู้มั่วหลีไปหนึ่งเข็มพิษที่อาบบนเข็มเงินมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าพิษตัวอื่นต่อให้กู้มั่วหลีจะเชี่ยวชาญด้านการใช้พิษเช่นกัน แต่เกรงว่าเขาคงถอนพิษของนางได้ไม่ไวขนาดนั้นหากเขากล้าบอกวิธีถอนพิษของปลอมให้กับนาง เช่นนั้นนางก็จะทำให้เขาต้องตายเพราะยาพิษเจี่ยนอันอันดูแล้วเซิ่งฟางต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะทำอาหารเสร็จนางจึงลุกขึ้นเดินไปที่ห้องที่เวินอี๋พักอยู่ฉู่จวินสิงตามไปด้วยเพราะไม่วางใจเจี่ยนอันอันเลิกเสื้อของเวินอี๋ดู พบว่ารอยเส้นสีดำหยุดอยู่ห่างจากตำแหน่งของหัวใจไม่ไกลเคราะห์ดีที่รอยเส้นสีดำนี้ไม่ได้ขยายเพิ่ม ช่วยซื้อเวลาให้เจี่ยนอันอันได้ปรุงยาถอนพิษฉู่จวินสิงเอ่ยว่า “เทียบโอสถที่คนผู้นั้นให้มาสามารถถอนพิษให้เวินอี๋ได้จริงๆ หรือ?”เขาไม่ได้สงสัยในความสามารถของเจี่ยนอันอัน แต่เพราะไม่ไว้ใจในกู้มั่วหลีผู้นั้นคนที่กล้าวางยาพิษต่อผู้อื่นจะยอมบอกวิธีถอนพิษง่ายๆ ได้อย่างไรเจี่ยนอันอันรู้ว่าฉู่จวินสิงกังวลเรื่องอะไร นางยิ้มยิงฟันให้เขา“ท่านลองทายดูว่าพิษที่ข้าใช้กับเขามีฤทธิ์รุนแรงเพียงใด?”ฉู่จวินสิงได้ยินเจี่ยนอันอันพูดแบบนี้ก็เข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 295

    จงซิ่นพูดแล้วก็ใช้สองมือกดร่างเวินอี๋เอาไว้เพื่อให้เขาสงบลงเจี่ยนอันอันขมวดคิ้ว ตามหลักแล้ว เมื่อต้มสมุนไพรเหล่านี้ด้วยกันจะสามารถกลายเป็นยาถอนพิษได้จริงหรือว่านางจะทำผิดพลาดในบางขั้นตอน?ร่างกายของเวินอี๋สั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนจงซิ่นกดไว้ไม่อยู่อีกต่อไปฉู่จวินสิงเดินเข้าไปช่วยกดขาของเวินอี๋ผ่านไปครู่หนึ่ง เวินอี๋จึงค่อยๆ สงบลงจงซิ่นเช็ดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างแรงเจี่ยนอันอันเห็นว่าแม้เมื่อครู่นี้เวินอี๋จะตัวสั่นอย่างแรงเหมือนยามที่อาการกำเริบแต่สีของรอยเส้นสีดำบนร่างกายเขากลับเริ่มจางลงนางเข้าใจแล้ว กู้มั่วหลีไม่ได้หลอกนางสมุนไพรเหล่านี้ล้วนแต่เป็นยาถอนพิษให้เวินอี๋แต่เวินอี๋ถูกพิษมานานหลายปี ภายในร่างกายสะสมโอสถอย่างอื่นเป็นปริมาณมากเมื่อจู่ๆ ก็ใช้โอสถถอนพิษจึงเกิดการขัดแย้งกันเองภายในร่างกายส่งผลให้เขามีอาการแบบเมื่อครู่เพื่อไม่ให้จงซิ่นเป็นกังวล เจี่ยนอันอันบอกไปว่า “เมื่อครู่นี้ยาถอนพิษออกฤทธิ์แล้ว ประเดี๋ยวเขาก็ฟื้น”จงซิ่นจ้องเวินอี๋ เขาสังเกตเห็นเช่นกันว่าเส้นสีดำบนตัวเวินอี๋กำลังจางลงช้าๆเมื่อเวลาล่วงเลยไปหนึ่งก้านธูป รอยเส้นสีดำบนตั

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 296

    ในตอนนี้ฉู่จวินสิงกำลังมองไปยังเวินอี๋ด้วยความเป็นกังวล “ทำไมเขาถึงได้เป็นเช่นนี้ หรือว่าเขายังโดนพิษอื่นเข้าอีก?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นเข้าก็รีบเดินเข้ามา จับข้อมือของเวินอี๋ขึ้นมาตรวจชีพจรให้เขา“เขาไม่เป็นอะไร เลือดดำเมื่อครู่ที่เขาเพิ่งจะกระอักออกมานั้น พิษในร่างกายของเขาถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว”เจี่ยนอันอันวางข้อมือเวินอี๋ลง เสียงของนางดังลอยเข้าใบหูของทุกคนหลังจากที่ฉู่จวินสิงได้ยินแล้ว หัวใจที่ถูกแขวนอยู่ของเขาก็รู้สึกโล่งขึ้นมาจงซิ่นเมื่อเห็นว่าพิษของเวินอี๋ในที่สุดก็ถูกกำจัดออกไป เขาก็ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอกจงซิ่นพูดออกมาด้วยความสบายใจ “ท่านเวิน ในที่สุดท่านก็ถือว่าไม่เป็นอะไรแล้ว หลายปีมานี้ทำเอาข้ากังวลใจเป็นอย่างมาก”เวินอี๋ได้ยินเสียงของจงซิ่น เลื่อนสายตาจากใบหน้าของเจี่ยนอันอัน มองมายังจงซิ่นผ่านไปไม่นาน เขาถึงค่อยๆ ได้สติขึ้นมาเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้าจำได้ว่าเคยถูกชายสวมหน้ากากสีเงินตบไปครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกแล้ว”“ทำไมข้าถึงได้มานอนอยู่ที่นี่ แล้วคนที่มาทำการสังหารหมู่ไปกันหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?”หลังจากที่จงซิ่นได้ยินแล้ว ก็ถอนห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 297

    ตั๋วเงินทั้งห้านี้มูลค่ามากพอถึงห้าร้อยตำลึง ด้านบนนั้นยังเขียนตัวอักษรจวนกั๋วกงเอาไว้สามตัว“แม่นางเจี่ยน เงินนี้ข้าไม่อาจรับเอาไว้ได้” จงซิ่นไม่กล้ารับเงิน ขณะที่พูดออกมาก็จะนำตั๋วเงินคืนให้กับเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วผลักมือของจงซิ่นออกไป “ผู้เฒ่าจงลงแรงอย่างหนักไม่น้อยเพื่อเวินอี๋มาหลายปี ตั๋วเงินเหล่านี้ท่านรับไว้เถอะ”อย่างไรเสียนางยังมีทองคำและเครื่องประดับมากมายอยู่ในห้วงมิติ ตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงสำหรับนางแล้ว เป็นเพียงแค่จำนวนน้อยมากทว่าตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงนี้สำหรับจงซิ่นแล้ว กลับเป็นเงินที่ถึงสิบปีก็ไม่อาจหาได้“นี่...” จงซิ่นเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันใจกว้างมากเช่นนี้ เขากลับไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดีเขาเห็นว่าฉู่จวินสิงออกมาจากในห้อง จึงได้นำเงินนี้มอบให้ฉู่จวินสิง“คุณชายฉู่ เงินนี่ข้ารับไว้ไม่ได้ พวกท่านเอากลับไปเถอะ”ฉู่จวินสิงพูดปฏิเสธออกมาเช่นกัน “ผู้เฒ่าจงรับเอาไว้เสียเถอะ ท่านช่วยเวินอี๋เอาไว้มาก หลายปีมานี้ซื้อยาให้เขาก็ใช้เงินไปไม่น้อย”“ตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงนี้ ไม่ได้มากไปจริงๆ”จงซิ่นเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยืนกรานจะมอบเงินให้กับเขา เขาเอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 298

    เขากำหมัดโค้งคำนับให้เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิง “ขอบคุณสำหรับเสื้อผ้าและตั๋วเงินจากทั้งสองท่านมาก”“ข้าจงซิ่นภายหน้าข้าอยากจะติดตามทั้งสองท่าน ขอเพียงทั้งสองท่านรับตาเฒ่าอย่างข้าไว้” ฉู่จวินสิงเห็นถึงทักษะการต่อสู้และพละกำลังของจงซิ่น เขาเองก็เรียนรู้วิชาลูกเตะทลายเมฆามาแล้วเขาอยากจะรับจงซิ่นเข้ามาเป็นลูกน้องของตนมานานแล้ว ต่อไปหากว่าสามารถกลับไปยังเมืองจิงโจวได้จริงๆ ในมือของเขาก็ยังมีนายพลที่มีวรยุทธ์เพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งฉู่จวินสิงตอบรับออกมาโดยเร็ว “ความคิดของผู้เฒ่าจงตรงกับความตั้งใจของข้าพอดี ต่อไปผู้เฒ่าจงก็จะเป็นหนึ่งในลูกน้องของข้าฉู่จวินสิง”จงซิ่นเมื่อได้ยิน ก็รีบคุกเข่าลงต่อหน้าของฉู่จวินสิงทันที“ขอบคุณเยียนอ๋องที่รับจงซิ่นไว้เป็นลูกน้อง”ฉู่จวินสิงประคองจงซิ่นขึ้นมา สายตาเต็มไปด้วยความยินดีเจี่ยนอันอันยิ้มหรี่ตามองไปยังจงหลาน “ปู่ของเจ้ารับปากจะรับเสื้อผ้าเหล่านี้เอาไว้แล้ว รีบนำเข้าไปเปลี่ยนดูในห้องเร็ว”จงหลานเมื่อได้ยินคำนี้แล้ว ก็กอดชุดกระโปรงวิ่งเข้าไปในห้องด้วยความดีใจผ่านไปไม่นานนัก จงหลานก็วิ่งออกมาด้วยความดีใจ“ท่านปู่ ท่านดูว่าข้าดูดีหรือไม่?”จง

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 650

    จนกระทั่งม้าที่เจี่ยนอันอันขี่อยู่ได้กลิ่นควันของกระดาษเงินกระดาษทองที่กำลังเผา มันอดไม่ได้ที่จะจามออกมาเสียงดังชายหนุ่มพลันคว้ากระบี่ข้างกายขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นตัว หันมองไปยังเบื้องหลังทว่าไม่มีผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว ในศาลบรรพชนแห่งนี้ นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีแม้แต่เงาของผู้ใดชายหนุ่มลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่มีทหารที่ถูกส่งมาไล่ล่าทว่าในตอนที่เขาหันหน้ามานั้น เจี่ยนอันอันกลับต้องสะดุ้งในใจเมื่อได้เห็นใบหน้าของเขาครึ่งหนึ่งบนใบหน้าของชายหนุ่ม ผิวหนังส่วนหนึ่งหลอมละลายจนติดกันบางจุดยังมีน้ำหนองไหลออกมา ดูน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักเจี่ยนอันอันคิดในใจว่า ชายผู้นี้คงเคยถูกไฟคลอกมาก่อน และไม่ได้รับการรักษาอย่างทันทวงทีเขาคุกเข่าอยู่ในศาลบรรพชนด้วยใบหน้าเช่นนี้ เกรงว่าหากบิดามารดาในโลงศพของเขาได้เห็นเข้าก็คงจะตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นมาเป็นแน่เมื่อฉู่จวินสิงเห็นใบหน้าของชายผู้นี้ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นกว่าเดิมบัดนี้ ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจล่วงรู้ถึงการมาของพวกเขา“เหตุใดจึงเป็นเขา?” ฉู่จวินสิงเผลอพึมพำออกมาเจี่ยนอันอันมอง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 649

    ฉู่จวินสิงเอ่ยว่า “พวกเขามีนามว่าหม่าลู่ เฉินเช่อ เจียงหลิว ลู่ซาน และหลิ่วหยวน”เจี่ยนอันอันจดจำชื่อของทั้งห้าคนไว้ในใจนางให้ฉู่จวินสิงจับบังเหียนม้าให้แน่น เช่นนี้แล้วพวกเขาจะได้เคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาไปถึงจุดหมายพร้อมกับม้าที่ขี่อยู่ได้ทั้งสองตั้งจิตแน่วแน่ นึกถึงชื่อของเหล่าทหารใต้บัญชาพวกนั้น ในชั่วพริบตาพวกเขาก็อันตรธานหายไปจากที่เดิมเมื่อปรากฏกายขึ้นอีกครา ก็พบว่าตนมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบ้านเรือนโดยรอบล้วนปิดประตูสนิท ไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่พวกเขาตามหาจะอยู่ที่นี่หรือไม่เจี่ยนอันอันกระตุกมุมปากเล็กน้อย คิดในใจว่าคุณสมบัติของยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาว่ายังไม่สมบูรณ์พอเห็นทีว่าจะเป็นเพราะเมื่อตอนนางหลอมยา นางรีบร้อนเกินไป หากมีเวลาเพิ่มอีกสักหน่อย นางคงจะหลอมยาเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาที่สมบูรณ์แบบกว่านี้ได้บัดนี้ต้องหาทางพัฒนาประสิทธิภาพของยาให้มากขึ้น มิฉะนั้น หากต้องใช้การเคลื่อนย้ายในชั่วพริบตาอีกครั้ง ก็ไม่รู้เลยว่าจะถูกส่งไปยังที่ใดอีกแต่ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี หรือจะให้พวกเขาเดินเคาะประตูไปทีละบ้าน ถามชาวบ้านว่ามีผู้ใดพบเห็นคนที่พวกเขาตามหาบ้างหรือไม่กระนั้นหรือ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 648

    เจี่ยนอันอันไม่เคยบอกฉู่จวินสิงเกี่ยวกับภารกิจของมิตินางจึงแต่งเรื่องโกหกขึ้นมา “ข้าไม่เคยแปลงโฉมมาก่อน พอได้คิดว่ากลับไปถึงเมืองจิงโจวแล้วจะได้ลองดูแปลงโฉมดู ข้าก็ตื่นเต้นขึ้นมา”คิ้วของฉู่จวินสิงที่ขมวดมุ่นอยู่ก่อนหน้านี้ ค่อย ๆ คลายลงเล็กน้อยสำหรับเขาวิชาแปลงโฉมง่ายดายไม่ต่างจากการกินข้าวแต่สำหรับเจี่ยนอันอัน กลับเป็นสิ่งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้น“ในโลกของเจ้า ไม่มีผู้ใดที่รู้วิชาแปลงโฉมหรือ?”ฉู่จวินสิงพลันรู้สึกสงสัย โลกของเจี่ยนอันอันเป็นเช่นไรกันแน่?เจี่ยนอันอันส่ายศีรษะเบา ๆ “วิชาแปลงโฉมข้าเคยเห็นแค่ในละครเท่านั้น แต่ก็เป็นของปลอม”“ศาสตร์แปลงโฉมที่แท้จริง สูญหายไปนานแล้ว”เจี่ยนอันอันกล่าวถึงตรงนี้ ก็นึกถึงการแสดงเปลี่ยนหน้ากากเสฉวนขึ้นมาได้นางอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมขึ้นว่า “แต่ในโลกของข้าก็มีศาสตร์แปลกใหม่เช่นกัน เรียกว่าวิชาเปลี่ยนหน้า”ฉู่จวินสิงเกิดความสนใจขึ้นมาทันที เขาอยากรู้ว่าวิชาเปลี่ยนหน้าที่นางพูดถึง จะเหมือนกับวิชาแปลงโฉมของเขาหรือไม่เขาไม่ได้ถามออกมา เพียงรอให้เจี่ยนอันอันเล่าต่อไปเองเจี่ยนอันอันกล่าวต่อด้วยความตื่นเต้นว่า “วิชาเปลี่ยนหน้าของพวกเราก็

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 647

    ฉู่จวินสิงถือหน้ากากหนังมนุษย์สองผืนไว้ในมือ ก่อนยิ้มบาง ๆ “พวกเราปลอมตัวเป็นพวกมันแล้วกลับเข้าเมืองจิงโจวกันเถิด”เจี่ยนอันอันมองดูหน้ากากหนังมนุษย์ทั้งสองแผ่น แล้วเข้าใจถึงจุดประสงค์ของฉู่จวินสิงทันทีนางเคยเห็นในละครหรืออ่านในนิยายว่า มีคนในยุคโบราณไม่น้อยที่เชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉมนางไม่คาดคิดเลยว่าฉู่จวินสิงก็มีความสามารถด้านการแปลงโฉมนี่เป็นศาสตร์ที่นางหลงใหลมาโดยตลอดสายตาของเจี่ยนอันอันที่มองฉู่จวินสิง เปล่งประกายไปด้วยความชื่มชมฉู่จวินสิงจัดเก็บหน้ากากหนังมนุษย์อย่างระมัดระวัง แล้วส่งให้เจี่ยนอันอัน ให้นางช่วยเก็บไว้ในมิติก่อนเจี่ยนอันอันรับหน้ากากหนังมนุษย์มาเก็บเข้าไปในมิติ หลังล้างทำความสะอาดแล้วก็นำไปแช่ในน้ำพุวิญญาณ“แล้วจากนี้พวกเราควรทำเช่นไรต่อ?”“ในเมื่อจะปลอมตัวเป็นอิ่นเจียงกับหน่วยกล้าตายเพื่อแฝงตัวเข้าไปในเมืองจิงโจว ก็ไม่ควรกลับไปเร็วเกินไปนัก”“พวกเราจะขี่ม้าไปอย่างช้า ๆ เมื่อใกล้ถึงเมืองจิงโจว ข้าจะช่วยเจ้าแปลงโฉมเอง”ฉู่จวินสิงเอ่ยพลางเดินไปเลือกม้าที่ดีที่สุดสองตัวเขาถอดอานม้าที่เหลืออีกสี่ตัวออก ก่อนจะฟาดลงบนบั้นท้ายของพวกมันอย่างแรงม้าทั้งสี่ร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 646

    เขาพยายามเพ่งมองใบหน้าของเจี่ยนอันอันให้ชัดเจน ทว่าโลหิตทำให้ดวงตาพร่ามัวจนเขามองอะไรไม่ชัดเลยมองเห็นแค่ร่างหญิงสาวบอบบางผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขาเสียงของเจี่ยนอันอันไพเราะเสนาะหู ทว่าคำที่นางพูดออกมากลับทำให้ผู้คนขนลุกไปถึงปลายเท้า“ท่านพี่ ท่านลงมือถลกหนังหน้าเขาแล้ว ข้าว่าถลกหนังมันทั้งตัวไปเลยดีหรือไม่”“ข้าไม่เคยเห็นการถลกหนังคนทั้งเป็นมาก่อน คิดดูแล้วน่าตื่นเต้นไม่น้อย”หน่วยกล้าตายได้ยินก็รู้สึกขนลุกทันที สตรีผู้นี้เหตุใดจึงโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้นางยังเป็นสตรีอยู่หรือไม่?หน่วยกล้าตายกัดฟันแน่น ดวงตาสีเลือดซึ่งไร้เปลือกตาจ้องเขม็งไปที่เจี่ยนอันอันด้วยแรงอาฆาตฉู่จวินสิงกระชับวงแขนที่โอบรัดเอวของเจี่ยนอันอันแน่นขึ้น หญิงสาวผู้นี้ช่างกล้าพูดเสียจริงเจี่ยนอันอันหันมายิ้มกว้างให้ฉู่จวินสิงแล้วกล่าวว่า “ข้าพูดเล่นเท่านั้น การถลกหนังทั้งเป็นมันนองเลือดเกินไป ข้ากลัวว่าเห็นมากเกินไปแล้วจะฝันร้ายเอาได้”หน่วยกล้าตายที่ได้ยินเช่นนั้นแอบถอนหายใจโล่งอกบัดนี้เขาเพียงหวังให้ตนตายอย่างรวดเร็ว ไม่อยากทนรับความเจ็บปวดอันแสนทรมานนี้อีกต่อไปเจี่ยนอันอันมองดูสภาพของหน่วยกล้าตายที่ก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 645

    “เรื่องที่เจ้าพูดมาพวกนี้ ข้าคาดเดาได้แต่แรกแล้ว”คำพูดของฉู่จวินสิงทำให้หัวใจอิ่นเจียงพลันกระตุกวูบนี่หมายความว่าข้อมูลที่เขาให้ไปยังไม่สามารถทำให้ฉู่จวินสิงพอใจได้น่ะสิ?อิ่นเจียงเค้นสมองคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดแต่แม้เขาจะเป็นคนของฉู่ชางเหยียน แต่เรื่องที่รู้กลับมีไม่มากนักหากไม่ใช่เพราะฉู่ชางเหยียนส่งพวกเขามาสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงที่เมืองอินเป่ย เกรงว่าเขาก็คงไม่รู้เรื่องนี้ละเอียดเช่นนี้เหมือนกันฉู่จวินสิงมองอิ่นเจียงด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าเจ้าไม่มีข้อมูลอย่างอื่นอีก ข้าจะลงมือแล้วนะ”ฉู่จวินสิงว่าพลาง มีดสั้นในมือก็แทงมายังใบหน้าอิ่นเจียงอีกครั้งอิ่นเจียงตกใจจนหัวใจแทบกระดอนออกมาจากคอหอยในที่สุดเขาก็นึกถึงความลับที่สำคัญกว่านั้นขึ้นมาได้จึงโพล่งออกมาว่า “เยียนอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้ายังรู้อีกเรื่อง”ฉู่จวินสิงหยุดมือ มองอิ่นเจียงด้วยสายตาเย็นเฉียบ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อไปอิ่นเจียงรีบพูดออกมาว่า “หลังจากรัชทายาทถูกทำลายวรยุทธ์ก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง”“แต่ครึ่งเดือนก่อน อยู่ดีๆ รัชทายาทก็เสียสติ บัดเดี๋ยวร้องไห้บัดเดี๋ยวหัวเราะอยู่ในคุกหลวงทั้งวัน ทั้งยังใช้ศีรษะโขกกำแพง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 644

    มือฉู่จวินสิงหยุดชะงัก อิ่นเจียงเข้าใจว่าฉู่จวินสิงถูกเขาโน้มน้าวได้แล้วเขารีบคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่จวินสิง โขกศีรษะอย่างหนักหน่วงสามครั้งเลือดสดๆ ไหลลงมาตามปากแผล หยดลงบนสาบเสื้อ“ขอเพียงเยียนอ๋องยอมละเว้นข้า ข้าจะบอกความลับทุกอย่างต่อเยียนอ๋อง”อิ่นเจียงโขกศีรษะพลางพร่ำพูดอ้อนวอนฉู่จวินสิงไม่ได้คิดจะเถือหนังหน้าอิ่นเจียงเร็วปานนั้นเขารู้ว่าอิ่นเจียงอยู่ข้างกายฉู่ชางเหยียนมานานปีย่อมรู้ความลับเกี่ยวกับฉู่ชางเหยียนมากมายหลายเรื่องเขาจะรอจนอิ่นเจียงบอกความลับทั้งหมดออกมาแล้วค่อยเถือหนังหน้าของอีกฝ่ายฉู่จวินสิงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ทางที่ดีเจ้าจงบอกข้ามาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นเจ้าก็รู้ฝีมือข้าดี”คราวนี้อิ่นเจียงไม่กล้าปิดบังอีกแล้ว บอกแผนการของฉู่ชางเหยียนออกมาจนหมดเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทหารรักษาพระองค์ที่ควบคุมครอบครัวฉู่จวินสิงมาแดนเนรเทศกลับไปถึงเมืองจิงโจวฉู่ชางเหยียนรู้จากปากหานซื่อว่า ที่แท้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ถูกหมีดำกัดตายระหว่างทางส่งตัวนักโทษเนรเทศพวกเขายังได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเพราะเหตุนี้ ส่วนฉู่จวินสิงเสียชีวิตกะทันหันระหว่างทางฉู่ชางเหยียนพอใจอย่างมาก ตกร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 643

    อิ่นเจียงเบิกตามองหนังหน้าของหน่วยกล้าตายผู้นั้นถูกฉู่จวินสิงเถือออกมาหัวใจเขาเต้นกระหน่ำกล่าวกันว่าเยียนอ๋องโหดเหี้ยมอำมหิต ปฏิบัติต่อศัตรูโดยไม่เลือกวิธีการแต่การได้มาเห็นภาพนี้ด้วยตาตัวเองทำให้หนังศีรษะของอิ่นเจียงชาหนึบเจี่ยนอันอันที่ยืนอยู่บนต้นไม้เห็นภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องนึกเลื่อมใสฉู่จวินสิงในใจนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นด้านที่โหดร้ายเช่นนี้ของฉู่จวินสิงคิดไม่ถึงว่าพอฉู่จวินสิงจะโหดขึ้นมา เทียบกับนางแล้วยังโหดกว่าเสียอีกฉู่จวินสิงถือหนังหน้าที่สมบูรณ์ดีแผ่นนั้นพลางก้าวยาวๆ มาทางอิ่นเจียงอิ่นเจียงตกใจถอยหลังกรูด เขากล่าวอย่างลนลานว่า “เจ้าจะทำอะไร เจ้าอย่าเข้ามานะ”ฉู่จวินสิงไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงักฝีเท้าแม้แต่น้อย เขาเดินมาถึงตรงหน้าอิ่นเจียง ก้มตัวลงจ้องมองอีกฝ่าย“ถ้าเจ้ายังไม่พูดความจริงอีกก็จะมีจุดจบเหมือนเขา”อิ่นเจียงมองหน่วยกล้าตายที่ถูกถลกหนังหน้าพร้อมกับรู้สึกหนังศีรษะชาวาบลักษณะที่เลือดเนื้อเลอะเลือนแบบนั้น ถึงจะเป็นอิ่นเจียงที่โหดเหี้ยมอำมหิตก็ยังหวาดกลัวจนทำใจมองตรงๆ ไม่ลงหน่วยกล้าตายอีกสามคนเห็นอย่างนั้นก็ล้วนตกใจกลัวจนตัวสั่นความตายหาได้น่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 642

    ฉู่จวินสิงหยิบกระบี่บนพื้นขึ้นมาแล้วก้าวเท้ายาวๆ ตรงมาหาอิ่นเจียงอิ่นเจียงกัดฟันตวาดว่า “ฉู่จวินสิง เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าฝ่าบาททรงทราบจะต้องไม่ปล่อยเจ้ากับครอบครัวเจ้าไปแน่!”ฉู่จวินสิงหัวเราะเสียงเย็น กระบี่ในมือชี้ไปยังใบหน้าอิ่นเจียง“เจ้าคิดว่าฉู่ชางเหยียนจะรู้ว่าเจ้าถูกข้าสังหารงั้นรึ?”“อย่าลืมสิว่าตอนที่เจ้าทรมานข้า ในสายตาฉู่ชางเหยียน ข้าเป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว”อิ่นเจียงถูกคำพูดของฉู่จวินสิงทำให้โมโหจนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่งฉู่จวินสิงพูดถูก ตอนนั้นเขาถูกทรมานจนเหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายประกอบกับความลำบากตรากตรำจากการเดินทาง หากพิจารณาจากสภาพของฉู่จวินสิงในยามนั้น เกรงว่าคงตายไปตั้งแต่ระหว่างทางแล้วส่วนที่เขานำหน่วยกล้าตายมาเมืองอินเป่ยในครั้งนี้ก็เป็นคำสั่งของฉู่ชางเหยียนฉู่ชางเหยียนให้พวกเขามาที่เมืองอินเป่ยอย่างลับๆ เพื่อสังหารครอบครัวฉู่จวินสิงฉู่ชางเหยียนไม่คิดจะปล่อยให้ครอบครัวของฉู่จวินสิงรอดไปแม้แต่คนเดียวอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากถูกครหาว่าสังหารพี่น้องร่วมสายเลือดตั้งแต่เพิ่งขึ้นครองราชย์ครอบครัวฉู่จวินสิงถูกเนรเทศมาที่เมืองอินเป่ยนานปานนี้ ต่อให้พ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status