Share

บทที่ 140

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันยอมคุยกับตัวเองในที่สุด หัวใจที่ว่างเปล่าของเขาก็เปลี่ยนจากมืดมนมาเป็นสดใสในทันใด

เขานั่งลงข้างเตียงอุ่น กอดผ้าห่มไม่ยอมคืนให้เจี่ยนอันอัน

เจี่ยนอันอันแค่นเสียงฮึดฮัดแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากมองเขา

ฉู่จวินสิงพูดอีกครั้ง “เจ้าหายโกรธได้หรือไม่? จะทุบตีข้าก็ได้ ข้าทนไหว”

ที่ผ่านมาเขาเอาใจผู้ใดไม่เป็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดเอาใจหญิงสาวอย่างนอบน้อมเช่นนี้

จู่ๆ ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงัน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เจี่ยนอันอันถึงค่อยพูดว่า “ท่านมานี่หน่อย”

ฉู่จวินสิงไม่รู้ว่าเจี่ยนอันอันจะทำอะไร ได้แต่ทำตามที่นางบอก

เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เจี่ยนอัน จากนั้นพบว่านางหันมาจูบริมฝีปากเขาอย่างแรง

หลังจากที่จูบฉู่จวินสิง ใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็แดงก่ำ

“ครานี้พวกเราเสมอกันแล้ว ท่านกลับไปที่เตียงฝั่งของท่านได้แล้วล่ะ”

ฉู่จวินสิงยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง

เขาคิดไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะทำแบบนี้

ครั้นเห็นฉู่จวินสิงแน่นิ่งไม่ขยับ ดวงตาเมล็ดซิ่งของเจี่ยนอันอันก็เบิกโพลงขึ้น

“เหตุใดยังไม่กลับไปอีก หรือว่าต้องให้ข้าแทงท่านอีกเข็ม?”

ฉู่จวินสิงได้สติ มุมปากยกโค้งเป็นรอยยิ้มหล่อเหลา

Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 141

    “แม่นาง ท่านช่วยเหลือข้ามากขนาดนี้ ข้าไม่รู้ว่าควรพูดอะไรจริงๆ”เบ้าตาของซ่างชิวแดงพร่าเล็กน้อย ภายในใจรู้สึกผิดต่อเจี่ยนอันอันมากขึ้นไปอีกเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาพยายามขัดขวางไม่ให้เจี่ยนอันอันกับครอบครัวของนางมาอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสุดกำลังทว่าเจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่ถือสา แต่ยังรักษาอาการป่วยให้ลูกสาวของเขาด้วยเขาคิดว่าตัวเองคงไม่ได้รับค่าแรงใดๆ นึกไม่ถึงว่าจะได้มาห้าตำลึงต่อให้เขาเข้าไปทำงานในเมืองก็ไม่มีทางหาเงินได้มากขนาดนี้ภายในเวลาแค่สามวันเจี่ยนอันอันเห็นพวกซ่างชิวมีอาการตื้นตันก็พูด “ต่อไปพวกข้าต้องอยู่ที่นี่อีกนาน”“ถึงเวลาแล้วคงต้องรบกวนพวกท่าน”“ค่าแรงนี้เป็นค่าตอบแทนที่พวกท่านสร้างโรงเก็บของ พวกท่านก็รับไว้เถิด”พวกซ่างชิวไม่รู้จะพูดอะไรดี พวกเขาเก็บเงินแล้วโค้งตัวขอบคุณเจี่ยนอันอันหลังจากที่อีกสามคนจากไป มีเพียงซ่างชิวกับอวี๋ว่านที่อยู่ต่อเจี่ยนอันอันเห็นว่าซ่างชิวอยู่ต่อก็ถามด้วยความสงสัย “เหตุใดไม่กลับไปพร้อมกับพวกเขา?”ซ่างชิวเกาท้ายทอยพลางตอบด้วยสีหน้าซื่อๆ “แม่นาง ข้าอยากอยู่ต่อ เผื่อว่าจะมีอะไรให้ข้าช่วย”เจี่ยนอันอันคิดแล้วพยักหน้า “ถ้าเช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 142

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันซักไซ้เอาความก็ยักไหล่“ไม่ได้พูดอะไร แค่บอกว่าไม้พะยูงหอมชั้นดีพวกนั้นเป็นของที่เจ้าขนมาจากบ้านมารดา”เจี่ยนอันอันต้องไม่เชื่ออยู่แล้วว่าฉู่จวินสิงจะพูดแค่นี้นางซักไซ้ต่อ “ไม่มีทางที่ท่านจะพูดแค่นี้ รีบบอกความจริงข้ามา ท่านพูดเรื่องที่จะแต่งงานกับข้าให้ฮูหยินใหญ่ฟังด้วยใช่หรือไม่?”ฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเจี่ยนอันอันฉลาดเหนือคนธรรมดาจริงๆ เป็นความจริงที่เขาพูดเรื่องนี้กับฮูหยินใหญ่ฉู่จวินสิงกระแอมเบาๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ยินดีแต่งงานกับข้า แต่นี่เป็นการแต่งงานที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทาน”“ตอนนั้นเขาสั่งแล้วว่าเจ้ากับข้าต้องแต่งงานกันภายในหนึ่งเดือน”คำพูดของฉู่จวินสิงเป็นความจริง เจี่ยนอันอันเข้าใจถึงเส้นตายของการแต่งงานครั้งนี้จากความทรงจำของร่างเดิมวันที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงถูกยึดทรัพย์และเนรเทศก็คือวันสุดท้ายที่นางต้องแต่งงานกับฉู่จวินสิงพอดีหากวันนั้นไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นเสียก่อน ตอนนี้นางก็คงแต่งงานกับฉู่จวินสิงไปแล้วตอนนี้พวกนางเลยกำหนดเส้นตายที่ต้องแต่งงานมาหลายวันแล้วเคราะห์ดีที่สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล[1] แม้พวกนางจะยังไม่แต่งงานกัน แต่ฝั่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 143

    เจี่ยนอันอันเดินไปเปิดประตูก็เห็นว่าอวี๋ว่านมายืนอยู่หน้าห้องพร้อมกับถือแบบแปลนของรถเข็นไว้ในมืออวี๋ว่านพูดด้วยความเกรงใจเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันออกมา “แม่นาง ข้ารู้สึกว่าตำแหน่งของอาวุธลับไม่ค่อยเหมาะสมนัก”เจี่ยนอันอันมองแบบแปลน ไม่เข้าใจว่ามีอะไรไม่เหมาะสม?ฉู่จวินสิงได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เคลื่อนตัวลงจากเตียงอุ่นเขาเดินมาที่ด้านหลังเจี่ยนอันอันก่อนจะถามเสียงทุ้ม “แบบแปลนมีอันใดไม่เหมาะสมหรือ?”อวี๋ว่านชี้ไปยังพื้นที่บริเวณหนึ่งในแบบแปลน “เชิญพวกท่านดู นี่เป็นจุดที่จะติดตั้งอาวุธลับ”“หากใช้งานไม่เหมาะสมก็จะมีความเสี่ยงต่อการติดขัด”เจี่ยนอันอันไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ นางเพียงแต่วาดแบบแปลนรถเข็นออกมาตามจินตนาการของตัวเองนึกไม่ถึงว่าการออกแบบเช่นนี้จะมีความเสี่ยงต่อการติดขัดด้วยหากอาวุธลับเกิดการติดขัดภายใต้สถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับศัตรู เช่นนั้นการยิงอาวุธลับก็จะล่าช้าออกไปส่งผลให้ผู้ที่นั่งอยู่บนรถเข็นต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากเช่นกันเจี่ยนอันอันเงยหน้ามองอวี๋ว่าน “พี่อวี๋ ในความเห็นของท่านแล้ว ตำแหน่งอาวุธลับของรถเข็นคันนี้ควรอยู่ที่ใด?”อวี๋ว่านเกาท

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 144

    เคราะห์ดีที่การซ่อมแซมบ้านไม่ได้มีอะไรยาก ไม่จำเป็นต้องเรียกคนมาเพิ่มซ่างชิวกับอวี๋ว่านใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยามกว่าก็ซ่อมแซมห้องทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยเจี่ยนอันอันไม่ได้อยู่นิ่งภายในห้อง นางต้มยาให้ฉู่จวินสิงเสร็จแล้วต้มยาให้ตงเยว่ต่อ ครั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงดื่มยาเรียบร้อยค่อยไปที่บ้านซ่างชิวตอนนี้ซ่างตงเยว่สามารถลุกออกมาเดินเล่นที่ลานบ้านได้แล้วนางกำลังต้มน้ำข้าวอยู่ในครัว เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันมาหาก็รีบออกมาต้อนรับ“ท่านอามาแล้ว” ซ่างตงเยว่ส่งยิ้มมีความสุขให้เจี่ยนอันอันในช่วงสองสามวันมานี้ เจี่ยนอันอันจะให้ซ่างชิวส่งยามาให้ทุกวันตอนเที่ยงหลังจากได้ดื่มยา สุขภาพร่างกายของนางก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นนึกไม่ถึงว่าวันนี้เจี่ยนอันอันจะมาหาด้วยตัวเองเจี่ยนอันอันจับชีพจรให้ซ่างตงเยว่ พบว่าตอนนี้สุขภาพของนางดีขึ้นจากเดิมเกินครึ่งแล้วนางพูดกับซ่างตงเยว่ “อีกสองวันเจ้าก็หายดีแล้ว”ซ่างตงเยว่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่ตัวเองหายป่วยนางคุกเข่าเบื้องหน้าเจี่ยนอันอันดัง ‘ตุบ’ ด้วยความตื้นตันใจ“บุญคุณยิ่งใหญ่ของท่านอา ข้าจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต”เจี่ยนอันอันประคองซ่างตงเยว่ให้ล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 145

    อวี้เฟิ่งเห็นว่าตัวเองไปไม่ได้ก็รีบวิงวอน “น้องสาวผู้แสนดี ก่อนหน้านี้เป็นความผิดของข้าทั้งหมด”“เจ้าเองก็หักข้อมือของข้าไปแล้ว จนถึงบัดนี้ก็ยังเจ็บปวดแสนสาหัส”“ได้โปรดใจกว้างด้วยเถิด อย่าได้ถือสาหาความข้าอีกเลย”เจี่ยนอันอันไม่สนใจคำวิงวอนของอวี้เฟิ่ง นางหมุนตัวไปมองซ่างตงเยว่“พ่อเจ้าติดเงินบ้านนางจริงหรือ?”ซ่างตงเยว่เดินตามเข้ามามองอวี้เฟิ่งด้วยความหวาดกลัวอยู่ในที นางพูดเสียงแผ่วเบาว่า “เป็นความจริงที่ท่านพ่อติดเงินบ้านนาง แต่ท่านพ่อบอกแล้วว่าจะคืนให้ในอีกไม่กี่วันเจ้าค่ะ”อวี้เฟิงถลึงตาใส่ซ่างตงชิวแล้วบ่นพึมพำเสียงเบา “คำพูดของพ่อเจ้าไม่ต่างกับผายลม”“เขาพูดแบบนี้มาตั้งกี่วันแล้ว ไม่เห็นจะคืนให้สักที”เจี่ยนอันอันได้ยินดังนี้ก็คว้าข้อมืออวี้เฟิ่งและบีบแรงขึ้นอีกความเจ็บปวดส่งผ่านเข้ามาทางแขนของอวี้เฟิ่ง นางร้อง “โอ๊ย” แล้วงอตัวด้วยความเจ็บปวด“น้องสาวโปรดไว้ชีวิต!”เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น นางออกแรงมากขึ้นเล็กน้อย“ผู้ใดเป็นน้องหญิงของเจ้า น่าไม่อายจริงๆ กล้านับญาติไปทั่ว!”อวี้เฟิ่งสะอึกกับคำพูดของเจี่ยนอันอัน ความเจ็บปวดแสนสาหัสที่แขนทำให้นางเจ็บจนตัวสั่นเหง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 146

    ซ่างตงเยว่เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันช่วยจ่ายเงินคืนแทนพ่อของนาง นางก็คุกเข่าลงด้วยความตื่นเต้นอีกครั้งเจี่ยนอันอันรีบประคองซ่างตงเยว่ขึ้นมา แล้วพูดกับนาง “หากว่าภายหน้าอวี้เฟิ่งยังมารังควาญครอบครัวของพวกเจ้า เจ้าก็มาหาข้าได้ ข้ามีวิธีการจัดการกับนาง”ซ่างตงเยว่รู้สึกซาบซึ้งเสียจนจมูกแสบร้อน น้ำตาไหลรินลงมานางเงยหน้าเล็กๆ ขึ้น แล้วพูดอ้อนวอน “ท่านอา ท่านให้ข้าไปช่วยงานที่เรือนของท่านเถอะเจ้าค่ะ ไม่ว่าอะไรข้าก็ทำได้ทั้งหมด”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าซ่างตงเยว่คิดไปช่วยงานที่เรือนนางอีก นางก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธอีก“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็รอจนอาการป่วยของเจ้าดีขึ้นเสียก่อน เจ้าก็ไปทำงานที่จวนของข้าก็แล้วกัน”ซ่างตงเยว่เมื่อได้ยินเข้า ก็รีบใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้านางพยักหน้าให้เจี่ยนอันอันอย่างแรง ใบหน้าเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมา“ขอบคุณท่านอา ข้าจะตั้งใจทำงานให้ดีๆ แน่เจ้าค่ะ”ซ่างตงเยว่เดินเข้าไปในห้องครัว ก่อนจะยกโจ๊กออกมาชามหนึ่ง“ท่านอาคงจะหิวแล้ว ท่านกินโจ๊กเสียหน่อยเถอะ”เจี่ยนอันอันมองโจ๊กที่อยู่ในชาม มีข้าวอยู่เพียงไม่กี่เมล็ดเท่านั้นนางรับชามมา ก่อนจะวางลงบนโต๊ะกลา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 147

    ซ่างตงเยว่เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดีกับนางเช่นนี้ ในที่สุดนางก็ทนต่อไปไม่ได้อีก เริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งทุกคนมองไปยังซ่างตงเยว่ที่ร้องไห้ออกมา ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาเล็กน้อยเด็กคนนี้ร่างกายอ่อนแอผอมบางเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกโรคร้ายทรมานมาตลอดปีช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารเสียจริงเจี่ยนอันอันก็ตบหลังซ่างตงเยว่เบาๆ แล้วพูดปลอบโยนออกมา “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว หากว่าร้องไห้มากจนเกินไปก็จะเปลี่ยนเป็นไม่น่ารักแล้วนะ”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ซ่างตงเยว่หัวเราะออกมานางเช็ดน้ำตาบนใบหน้า แล้วเริ่มกินข้าวคำใหญ่ขึ้นมาซ่างตงเยว่ตัดสินใจแล้ว ว่าต่อให้ทั้งชาตินี้จะต้องเป็นวัวเป็นม้า ก็จะต้องติดตามเจี่ยนอันอันซ่างชิวเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดีต่อบุตรสาวเขาเช่นนี้ ในใจของเขาก็ค่อยๆ ซาบซึ้งในบุญคุณของเจี่ยนอันอันเงียบๆรอจนเมื่อทุกคนทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ซ่างชิวและอวี๋ว่านก็ไปทำรถเข็นต่อซ่างตงเยว่ย่อกายนั่งลงข้างกายของทั้งสองคน คอยมองพวกเขาทำงานนางพูดกับซ่างชิวออกมา “ท่านพ่อ วันนี้ป้าอวี้เฟิ่งมาเอาเงินที่บ้านของเรา”ซ่างชิวเมื่อได้ยินคำนี้ ก็รีบหยุดงานในมือลงเขาหันไปมองทางซ่างตงเยว่ “นางทำ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 148

    นอกจากนี้ ครอบครัวของเขาเองก็ไม่มีอะไรที่มีค่า เป็นเพียงแค่บ้านผุพังเท่านั้นและไม่ว่าจะอย่างไรครอบครัวของอวี้เฟิ่ง ก็ไม่มีทางทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาได้เจี่ยนอันอันถามซ่างตงเยว่ “ทำไมเรื่องนี้เจ้าถึงไม่ยอมบอกพ่อของเจ้า?”ซ่างตงเยว่เหลือบมองไปยังซ่างชิว ก้มหน้าแล้วพูดออกมา “ท่านพ่อไม่เชื่อคำของข้า ข้าก็เลยไม่กล้าพูดออกมา”เจี่ยนอันอันถามซ่างชิวออกมาอีกครั้ง “บ้านของท่านหากว่าเมื่อไม่มีคนอาศัยแล้ว ก็จะมีคนเข้าครอบครองได้แต่ตามใจชอบหรือ?”ซ่างชิวพยักหน้าออกมาเบาๆ “หมู่บ้านชิงสุ่ยเป็นเมืองที่ยากจนมากที่สุดของเมืองอินเป่ย” “ในปีนั้นหลังจากการสังหารหมู่แล้ว มีทั้งที่ตาย และจากที่นี่ไป” “บ้านที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นั้น ก็ถูกหัวหน้าหมู่บ้านจัดสรรปันส่วนบ้านว่างเหล่านี้ให้กับทุกคน” “ครอบครัวของข้าก็เหลือเพียงแค่พวกเราสองพ่อลูก ก็เลยไม่ได้ต้องการบ้านหลังอื่นอีก”เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เรื่องนี้จะต้องมีที่มา ล้วนแต่มีที่มาจากหัวหน้าหมู่บ้านหากว่าหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ออกหน้าจัดสรรบ้านแล้ว อวี้เฟิ่งก็คงไม่คิดครอบครองบ้านของซ่างชิวแต่เรื่องที่ดินของบ้านซ่างชิวไม่อาจทำการเพาะป

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status