ณ ไร่ภวิน
ร่างสูงโปร่งเดินจ้ำอ้าวไปยังโรงบ่มไวน์ซึ่งอยู่ใจกลางไร่องุ่นที่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ ไร่ภวินเป็นไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในแถบภาคเหนือ กว้างขวางสมกับเป็นเศรษฐีของเมืองเหนือ ซึ่งมีเจ้าของเป็นหนุ่มหล่ออายุอานามได้ 40 ปีแล้ว เป็นหนุ่มโสดที่หญิงสาวทั้งหลายต่างหมายปองอยากจะเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ทุกคนมองว่าเขาเป็นคนสุขุม ดูน่าค้นหา เป็นที่นับหน้าถือตาของทุกคน แท้จริงแล้ว...
"อย่าลืมเอาไวน์ไปส่งในเมืองด้วยนะ ร้านเขาเพิ่งโทรมาว่าอยากจะได้เพิ่ม"
"ได้ครับพ่อเลี้ยง เดี๋ยวผมจัดการให้ไม่เกิน 16:00 น."
"ดีมาก แล้วองุ่นที่จะต้องส่งที่ห้างล่ะ ทางนั้นโทรมาเร่งแล้วนะ"
"ออกไปส่งเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงแล้ว"
พ่อเลี้ยงภวินพยักหน้าออกมาอย่างพอใจ หันไปมองโดยรอบก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย วันนี้เขาทำงานแทบทั้งวันไม่ได้พัก สงสัยเย็นนี้จะต้องผ่อนคลายสักหน่อยแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปจัดการเรื่องส่งไวน์ในเมืองให้เรียบร้อย เจอกัน 5 โมงที่เดิม วันนี้จะเปิดไหดองเหล้าสุดพิเศษ ไม่เมาไม่กลับโว้ย"
"แต่นายแม่สั่งไว้ว่าไม่อยากให้พ่อเลี้ยงดื่มเยอะเกินไปนะครับ เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้วย"
"แล้วแกจะไปบอกแม่ฉันทำไมเล่า ทำงานเป็นผู้ช่วยก็อยู่เป็นหน่อย ไม่ใช่ใครถามอะไรก็บอกไปซะหมด เฮ้อ! ไม่รู้แหละฉันจะดื่ม เจอกันนะ"
"ได้ครับพ่อเลี้ยง"
กรโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะมองตามพ่อเลี้ยงที่เดินออกไปจากโรงบ่มไวน์จนลับสายตา เขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทที่ทำงานอยู่ไร่นี้มานานหลายปีแล้ว อยู่ตั้งแต่คุณภวินเริ่มที่จะทำโรงบ่มไวน์ใหม่ ๆ จนตอนนี้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ส่งออกทั้งในประเทศ และนอกประเทศ เรียกได้ว่าร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่ติดตรงที่ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที
"เฮ้อ! จะตอบคำถามนายแม่ยังไงเนี่ย"
ทางด้านของนายแม่ หรือคุณพุทรา คุณแม่ของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ท่านเป็นคนที่จิตใจดี พนักงานที่ไร่แห่งนี้รักท่านกันทุกคน แต่โดยส่วนใหญ่ท่านจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเสียมากกว่า เพราะว่านายท่านอยู่ดูแลคุณแม่อยู่ที่คฤหาสน์ในตัวเมือง นายแม่จึงจำเป็นต้องไปอยู่กับสามี ส่วนลูกชายทำไร่อยู่นอกเมือง จึงทำให้ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทว่าก็ไปมาหาสู่กันตลอด
"นายแม่คะ มีคนมาขอพบค่ะ"
"ใครกัน... ให้เข้ามาสิ"
คุณพุทราเอ่ยออกมาก่อนจะวางกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ที่โต๊ะ จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวโปรด เดินตามแม่บ้านออกไปข้างนอกเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือนยังไร่ภวินแห่งนี้
"เชิญเลยค่ะคุณมินนี่"
"มินนี่เหรอ..."
คุณพุทราได้ยินชื่ออันคุ้นเคยก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบเดินออกไปหาหญิงสาวที่ชื่อมินนี่ เธอเป็นลูกสาวของรุ่นน้องคนสนิท รู้จักกันมาตั้งแต่มินนี่ตัวเล็กนิดเดียว และเด็กคนนี้กับลูกชายของเธอก็คุ้นเคยกันดี แต่ทว่าไอ้ตัวดีบอกว่าไม่ชอบน้องสักเท่าไหร่ เพราะว่าน้องชอบตามติดแล้วก็ตื้อไม่หยุด ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้จะเปลี่ยนความคิดหรือยัง
"คุณป้าสวัสดีค่ะ"
มินนี่สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก เธอเป็นลูกสาวของรุ่นน้องคนสนิทคุณพุทรา เห็นกันมาตั้งแต่เด็กตัวเธอเองค่อนข้างจะสนิทสนมกับคนที่ไร่แห่งนี้ รวมถึงนายแม่ของไร่ภวินด้วย เมื่อสองปีก่อนครอบครัวของเธอส่งให้ไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก แต่ทว่าตอนนั้นหญิงสาวดื้อดึงไม่ยอมไป แต่ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจ ทำให้หญิงสาวยินยอมที่จะไปเรียนต่อเกือบสองปี ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ไม่มีใครรู้คำตอบทำไมอยู่ ๆ เธอถึงยอมไป
"หนูมินนี่ ไม่เจอกันตั้งสองปีเลยป้าคิดถึง"
คุณพุทรารีบเข้าไปสวมกอดหญิงสาวด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ โดยปกติถ้าเธอไม่ได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ก็จะมาวนเวียนอยู่ที่ไร่ไม่ไปไหนหรอก ทั้งสองคนสวมกอดกันด้วยความคิดถึงอยู่นานพอควร ก่อนจะผละออกจากกัน เอ่ยไถ่ถามด้วยความห่วงใยกัน และกันเสมอมา
"คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ"
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"มาถึงเมื่อเช้าเองค่ะ มินนี่ว่าจะแวะมาหาพ่อเลี้ยงก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยกลับไปพักผ่อนค่ะ"
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันซ้าย แลขวามองหาพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปทำงานอยู่มุมไหนของไร่ ก็แค่แวะมาทักทายอีกเดี๋ยวอาจจะต้องกลับไปนอนพักผ่อน เนื่องจากว่าเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมา นอนก็ไม่ค่อยหลับเพราะไม่คุ้นเคยกับการอยู่บนเครื่องบินนาน ๆ
"น่าจะอยู่โรงบ่มไวน์นะ ไปหาพี่เขาสิคงคิดถึงหนูจะแย่แล้วมั้ง"
คุณพุทรายิ้มกริ่มเพราะรู้ดีว่าสาวน้อยดีกรีนักเรียนนอกรู้สึกดีกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอขนาดไหน แต่ที่ผ่านมาเชียร์ไม่ขึ้นเพราะว่าลูกชายตัวดีตั้งแง่อคติกับมินนี่มาแต่ไหนแต่ไร ทว่ากลับมาคราวนี้หญิงสาวสวยสะพรั่งดูโตเป็นผู้ใหญ่ อาจจะสามารถมัดใจลูกชายตัวดีก็เป็นได้
"เกรงว่าจะโดนด่าเอาน่ะสิคะ"
"ถ้ามันด่าหนูขึ้นมา หนูก็ด่ามันคืนสิลูก กลัวอะไรป้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน ป้าพร้อมปกป้องหนูอยู่แล้ว"
"ถ้ามีคุณป้าให้ท้ายแบบนี้ มินนี่ก็ไม่กลัวอะไรแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวมินนี่ไปหาพ่อเลี้ยงก่อนนะคะ เดี๋ยวมาคุยด้วยค่ะ"
"จ้ะลูกรีบไปเถอะ"
คุณพุทรารีบเชียร์ให้มินนี่ไปหาลูกชายตัวดีที่ตอนนี้น่าจะอยู่บริเวณโรงบ่มไวน์ ชีวิตของชายหนุ่มในวัย 40 ปี วนเวียนอยู่แต่ในไร่ไม่ออกไปไหนหรอก เพื่อนสนิทก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เดือนไหนก็เจอกันสักทีหนึ่ง เรียกว่าชีวิตส่วนใหญ่ของพ่อเลี้ยงไร่องุ่นอยู่แต่กับงาน และก็ไหเหล้าดองสูตรพิเศษ
มินนี่ขับรถกอล์ฟตรงเข้ามาใจกลางไร่ ซึ่งเธอรู้ว่าโรงบ่มไวน์อยู่ส่วนไหนของพื้นที่ ไร่ภวินแห่งนี้มีพื้นที่ 100 ไร่ ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่มานานแบบเธอก็น่าจะหลงอยู่แหละ
"อยู่ตรงไหนนะ"
เธอจอดรถตรงหน้าโรงบ่มไวน์ ก่อนจะก้าวขาลงไปจากรถกอล์ฟ เดินเข้าไปข้างในก็เจอแต่พนักงาน ซึ่งพวกเขาบอกว่าพ่อเลี้ยงออกไปสักพักแล้ว หญิงสาวจึงเดินวนไปโดยรอบก่อนจะชะงักไป เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงหิ้วอะไรบางอย่างออกมาจากโกดัง
"คืนนี้แหละ กูจะได้กินเหล้าบ๊วยฉ่ำ ๆ ใส่วอดก้าราคาแพง พูดแล้วเปรี้ยวปากว่ะ..."
มินนี่ยืนอยู่ไม่ไกลกอดอกจ้องมองไปยังชายหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจสองปีที่ผ่านมาก็นึกว่าจะเลิกเหล้าแล้วซะอีก สรุปพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินก็ยังเป็นขี้เหล้าเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
"เฮ้อ! เมาอีกแล้วเหรอพ่อเลี้ยง"
ผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยงภวินยืนอยู่ไม่ห่าง เหลือบสายตาหันไปมองโดยรอบก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่คุ้นเคย มินนี่เป็นลูกสาวรุ่นน้องคนสนิทของนายแม่แห่งไร่ภวิน เธอชอบพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เดินตามต้อย ๆ แต่ทว่าฝ่ายชายกลับตั้งแง่ และแสดงท่าทีรำคาญอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งที่หญิงสาวใบหน้างดงามราวกับนางในวรรณคดี ผิวพรรณผ่องใส การศึกษาระดับปริญญาโท ดีกรีนักเรียนนอก"พ่อเลี้ยงครับผมว่าเย็นนี้เราพักผ่อนกันดีไหมครับ"เขาหันไปมองพ่อเลี้ยงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความหวังดี จำได้เลือนรางว่าเมื่อสองปีก่อนทั้งสองคนเคยมีสัญญาบางอย่างต่อกัน ซึ่งไม่รู้ว่าฝ่ายชายอาจจะพูดไปโดยไม่คิดหรือเปล่า แต่ทว่าฝ่ายหญิงมีความคาดหวังกับสิ่งนั้น ซึ่งเขาคิดว่าเธอน่าจะกลับมาทวงคำสัญญาด้วยตัวเอง"จะไปพักผ่อนทำไม อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ หาความสุขให้ตัวเองดิวะ และความสุขของฉันก็คือการได้แดกเหล้า เข้าใจป่ะ""เอ่อ... คือผมว่า...""ทำไม...มีอะไร"เขาเลิกคิ้วจ้องมองใบหน้าของผู้ช่วยคนสนิทด้วยความสงสัย ปฏิกิริยาบางอย่างของเขาทำให้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินรู้สึกเอะใจ เห็นสายตาของเขาที่มองไปข้างหลังก็ทำให้ชายห
ตอนนี้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินรู้สึกเลยว่ากำลังถูกเด็กเมื่อวานซืน และผู้ช่วยคนสนิทรุมอยู่ เขาเองก็แค่คิดว่าตอนนั้นอยากจะไล่มินนี่ให้ออกไปจากชีวิต ก็เลยรับปากส่ง ๆ ไปก่อน ใครจะคิดว่าจะกลับมาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้"มินนี่ให้โอกาสพ่อเลี้ยงพูดอีกทีนะคะ สรุปว่าจำได้หรือเปล่าว่าให้สัญญาอะไรมินนี่ไว้ เพราะถ้าพ่อเลี้ยงพูดออกมาไม่ถูกใจมินนี่ รู้ใช่ไหมคะว่าหนูจะทำยังไงกับพ่อเลี้ยง"หญิงสาวกอดอกจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยความกดดัน คนอย่างมินนี่ไม่เคยกลัวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน เธอรู้จุดอ่อนเขาทุกอย่าง และรู้ว่าต้องทำยังไงคนอย่างเขาถึงจะสยบอยู่แทบเท้าซึ่งตอนนี้ภวินรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกต้อนให้จนมุม โดนเด็กเมื่อวานซืนข่มขู่ ส่วนกรก็ไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเจ้านายเลย เพราะในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนสัญญากัน เขาก็อยู่เป็นพยานด้วย"แล้วสัญญาอะไรไว้ล่ะ มันก็หลายปีแล้วไงฉันก็จำไม่ได้หรอก""พี่กรจำได้ไหมคะ ว่ามินนี่กับพ่อเลี้ยงสัญญาอะไรกันไว้"เธอหันไปหาผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยง พี่กรเป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น และเขาจะไม่พูดปดเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร"ถ้าเกิดว่าคุณมินนี่ไปเรียนต่อปริญญาโทกลับมาเมื่อไหร่ พ่อเลี
ในตอนนี้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจนตรอกถูกต้อนจนมุมจากคุณแม่แล้วก็ยัยเด็กเมื่อวานซืน ไม่คิดเลยว่าคำพูดส่ง ๆ จะส่งผลในปัจจุบันนี้"แกนี่มันยังไงกัน อายุก็เข้าเลข 4 แล้ว จะมาหลอกเด็กแบบนี้ได้ยังไง ช่วยรักษาคำพูดหน่อยเถอะ""ผมหวังดีนะ เรียนจบกลับมาพ่อแม่ของมินนี่ก็ภูมิใจไม่ใช่หรือไง แล้วผมเกี่ยวอะไรล่ะ""เกี่ยวสิคะก็พ่อเลี้ยงเป็นคนทำให้มินนี่ต้องไปอยู่ต่างประเทศถึง 2 ปี เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของมินนี่ด้วยค่ะ ตกลงว่าเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีคะ"หญิงสาวเอียงคอจ้องมองชายหนุ่มตาใสแป๋ว ใครเห็นก็คงจะเอ่ยชมว่าน่ารักดูสดใส สำหรับเขายัยเด็กคนนี้มันร้ายที่สุด สรรหาทุกคำทุกประโยคมากดดันแล้วก็ต่อรองให้เขายอม ซึ่งทำแล้วได้ผลด้วยนะ เป็นคนเดียวละมั้งที่สามารถต้อนเขาจนมุมได้ทุกทาง ทั้งที่พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน เป็นบุคคลที่มีแต่คนนับหน้าถือตา ถ้าใครรู้ว่าเขาเป็นรองยัยเด็กเมื่อวานซืน อับอายไปยันลูกบวชแน่"ไม่อยากแต่งโว้ย""แกนี่มันยังไงเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีสัจจะเลย เอาเป็นว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา ไม่ต้องห่วงนะหนูมินนี่เดี๋ยวป้าจะจัดการเรื่องแต่งงานให้เร็วที่ส
นิยาย เซตผัวแก่ก็มีหัวใจ เรื่องที่ 1ต่อหน้าทุกคนทำเก่ง ปากแจ๋วไม่ไหวด่าเมียฉ่ำมากพออยู่กันสองต่อสองเท่านั้นแหละเมียจ๊ะ เมียจ๋า รักเมียที่สุดในโลกสรุปว่าเป็นเจ้าของไร่หรือเป็นไบโพล่า...?ภวิน ภาคภูมิ กนกกุลเกียรติ อายุ 40 ปีเจ้าของไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดของทางภาคเหนือนอกจากจะมีไร่องุ่นในพื้นที่เกือบร้อยไร่แล้วเขายังมีโรงบ่มไวน์ และมีแบรนด์เป็นของตัวเองไม่มีใครอยากจะเชื่อหรอกว่าอายุอานาม 40 ปีแล้วยังไม่ได้แต่งงานมีเมียเป็นตัวเป็นตนแม่ของเขาก็พยายามหาผู้หญิงมาให้หลายคนทว่าดูเหมือนจะไม่ถูกใจลูกชายเลย"อย่าบอกนะว่าเพราะลูกชายป้า ทำให้หนูยอมตัดสินใจไปเรียนที่เมืองนอก""ใช่ค่ะ พ่อเลี้ยงบอกว่าถ้ามินนี่ยอมไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก จบกลับมาเมื่อไหร่เขาจะยอมแต่งงานด้วยค่ะ แต่ว่าตอนนี้ตีมึนไม่รักษาสัญญาเลย มินนี่ไม่ยอมนะคะ คุณป้าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับหนู""ยัยเด็กบ้า! ทำไมเธอปากสว่างแบบนี้มีอะไรก็มาคุยกันดิวะ จะบอกแม่ทำไมเนี่ย"มินนี่ มาริสา อนันต์ชัยกุล อายุ 25 ปีลูกสาวน้องคนสนิทของคุณแม่ ไปเรียนปริญญาโทอยู่ที่เมืองนอกได้เกือบ 2 ปีแล้วและในที่สุดเธอก็กลับมาอยู่ที่ประเทศไทยอย่างถาว