ณ ไร่ภวิน
ร่างสูงโปร่งเดินจ้ำอ้าวไปยังโรงบ่มไวน์ซึ่งอยู่ใจกลางไร่องุ่นที่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ ไร่ภวินเป็นไร่องุ่นที่ใหญ่ที่สุดในแถบภาคเหนือ กว้างขวางสมกับเป็นเศรษฐีของเมืองเหนือ ซึ่งมีเจ้าของเป็นหนุ่มหล่ออายุอานามได้ 40 ปีแล้ว เป็นหนุ่มโสดที่หญิงสาวทั้งหลายต่างหมายปองอยากจะเป็นเจ้าของหัวใจ แต่ทว่าความเป็นจริงแล้ว ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ทุกคนมองว่าเขาเป็นคนสุขุม ดูน่าค้นหา เป็นที่นับหน้าถือตาของทุกคน แท้จริงแล้ว...
"อย่าลืมเอาไวน์ไปส่งในเมืองด้วยนะ ร้านเขาเพิ่งโทรมาว่าอยากจะได้เพิ่ม"
"ได้ครับพ่อเลี้ยง เดี๋ยวผมจัดการให้ไม่เกิน 16:00 น."
"ดีมาก แล้วองุ่นที่จะต้องส่งที่ห้างล่ะ ทางนั้นโทรมาเร่งแล้วนะ"
"ออกไปส่งเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงแล้ว"
พ่อเลี้ยงภวินพยักหน้าออกมาอย่างพอใจ หันไปมองโดยรอบก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย วันนี้เขาทำงานแทบทั้งวันไม่ได้พัก สงสัยเย็นนี้จะต้องผ่อนคลายสักหน่อยแล้ว
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปจัดการเรื่องส่งไวน์ในเมืองให้เรียบร้อย เจอกัน 5 โมงที่เดิม วันนี้จะเปิดไหดองเหล้าสุดพิเศษ ไม่เมาไม่กลับโว้ย"
"แต่นายแม่สั่งไว้ว่าไม่อยากให้พ่อเลี้ยงดื่มเยอะเกินไปนะครับ เกี่ยวข้องกับสุขภาพด้วย"
"แล้วแกจะไปบอกแม่ฉันทำไมเล่า ทำงานเป็นผู้ช่วยก็อยู่เป็นหน่อย ไม่ใช่ใครถามอะไรก็บอกไปซะหมด เฮ้อ! ไม่รู้แหละฉันจะดื่ม เจอกันนะ"
"ได้ครับพ่อเลี้ยง"
กรโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะมองตามพ่อเลี้ยงที่เดินออกไปจากโรงบ่มไวน์จนลับสายตา เขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทที่ทำงานอยู่ไร่นี้มานานหลายปีแล้ว อยู่ตั้งแต่คุณภวินเริ่มที่จะทำโรงบ่มไวน์ใหม่ ๆ จนตอนนี้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง ส่งออกทั้งในประเทศ และนอกประเทศ เรียกได้ว่าร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่ติดตรงที่ไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนสักที
"เฮ้อ! จะตอบคำถามนายแม่ยังไงเนี่ย"
ทางด้านของนายแม่ หรือคุณพุทรา คุณแม่ของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ท่านเป็นคนที่จิตใจดี พนักงานที่ไร่แห่งนี้รักท่านกันทุกคน แต่โดยส่วนใหญ่ท่านจะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเสียมากกว่า เพราะว่านายท่านอยู่ดูแลคุณแม่อยู่ที่คฤหาสน์ในตัวเมือง นายแม่จึงจำเป็นต้องไปอยู่กับสามี ส่วนลูกชายทำไร่อยู่นอกเมือง จึงทำให้ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทว่าก็ไปมาหาสู่กันตลอด
"นายแม่คะ มีคนมาขอพบค่ะ"
"ใครกัน... ให้เข้ามาสิ"
คุณพุทราเอ่ยออกมาก่อนจะวางกระดาษหนังสือพิมพ์ไว้ที่โต๊ะ จากนั้นก็ขยับตัวลุกขึ้นจากโซฟาตัวโปรด เดินตามแม่บ้านออกไปข้างนอกเพื่อต้อนรับแขกที่มาเยือนยังไร่ภวินแห่งนี้
"เชิญเลยค่ะคุณมินนี่"
"มินนี่เหรอ..."
คุณพุทราได้ยินชื่ออันคุ้นเคยก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะรีบเดินออกไปหาหญิงสาวที่ชื่อมินนี่ เธอเป็นลูกสาวของรุ่นน้องคนสนิท รู้จักกันมาตั้งแต่มินนี่ตัวเล็กนิดเดียว และเด็กคนนี้กับลูกชายของเธอก็คุ้นเคยกันดี แต่ทว่าไอ้ตัวดีบอกว่าไม่ชอบน้องสักเท่าไหร่ เพราะว่าน้องชอบตามติดแล้วก็ตื้อไม่หยุด ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้จะเปลี่ยนความคิดหรือยัง
"คุณป้าสวัสดีค่ะ"
มินนี่สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก เธอเป็นลูกสาวของรุ่นน้องคนสนิทคุณพุทรา เห็นกันมาตั้งแต่เด็กตัวเธอเองค่อนข้างจะสนิทสนมกับคนที่ไร่แห่งนี้ รวมถึงนายแม่ของไร่ภวินด้วย เมื่อสองปีก่อนครอบครัวของเธอส่งให้ไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอก แต่ทว่าตอนนั้นหญิงสาวดื้อดึงไม่ยอมไป แต่ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจ ทำให้หญิงสาวยินยอมที่จะไปเรียนต่อเกือบสองปี ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็ไม่มีใครรู้คำตอบทำไมอยู่ ๆ เธอถึงยอมไป
"หนูมินนี่ ไม่เจอกันตั้งสองปีเลยป้าคิดถึง"
คุณพุทรารีบเข้าไปสวมกอดหญิงสาวด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ โดยปกติถ้าเธอไม่ได้ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ก็จะมาวนเวียนอยู่ที่ไร่ไม่ไปไหนหรอก ทั้งสองคนสวมกอดกันด้วยความคิดถึงอยู่นานพอควร ก่อนจะผละออกจากกัน เอ่ยไถ่ถามด้วยความห่วงใยกัน และกันเสมอมา
"คิดถึงคุณป้าเหมือนกันค่ะ"
"กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
"มาถึงเมื่อเช้าเองค่ะ มินนี่ว่าจะแวะมาหาพ่อเลี้ยงก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยกลับไปพักผ่อนค่ะ"
หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันซ้าย แลขวามองหาพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปทำงานอยู่มุมไหนของไร่ ก็แค่แวะมาทักทายอีกเดี๋ยวอาจจะต้องกลับไปนอนพักผ่อน เนื่องจากว่าเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมา นอนก็ไม่ค่อยหลับเพราะไม่คุ้นเคยกับการอยู่บนเครื่องบินนาน ๆ
"น่าจะอยู่โรงบ่มไวน์นะ ไปหาพี่เขาสิคงคิดถึงหนูจะแย่แล้วมั้ง"
คุณพุทรายิ้มกริ่มเพราะรู้ดีว่าสาวน้อยดีกรีนักเรียนนอกรู้สึกดีกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอขนาดไหน แต่ที่ผ่านมาเชียร์ไม่ขึ้นเพราะว่าลูกชายตัวดีตั้งแง่อคติกับมินนี่มาแต่ไหนแต่ไร ทว่ากลับมาคราวนี้หญิงสาวสวยสะพรั่งดูโตเป็นผู้ใหญ่ อาจจะสามารถมัดใจลูกชายตัวดีก็เป็นได้
"เกรงว่าจะโดนด่าเอาน่ะสิคะ"
"ถ้ามันด่าหนูขึ้นมา หนูก็ด่ามันคืนสิลูก กลัวอะไรป้าอยู่ตรงนี้ทั้งคน ป้าพร้อมปกป้องหนูอยู่แล้ว"
"ถ้ามีคุณป้าให้ท้ายแบบนี้ มินนี่ก็ไม่กลัวอะไรแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวมินนี่ไปหาพ่อเลี้ยงก่อนนะคะ เดี๋ยวมาคุยด้วยค่ะ"
"จ้ะลูกรีบไปเถอะ"
คุณพุทรารีบเชียร์ให้มินนี่ไปหาลูกชายตัวดีที่ตอนนี้น่าจะอยู่บริเวณโรงบ่มไวน์ ชีวิตของชายหนุ่มในวัย 40 ปี วนเวียนอยู่แต่ในไร่ไม่ออกไปไหนหรอก เพื่อนสนิทก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง เดือนไหนก็เจอกันสักทีหนึ่ง เรียกว่าชีวิตส่วนใหญ่ของพ่อเลี้ยงไร่องุ่นอยู่แต่กับงาน และก็ไหเหล้าดองสูตรพิเศษ
มินนี่ขับรถกอล์ฟตรงเข้ามาใจกลางไร่ ซึ่งเธอรู้ว่าโรงบ่มไวน์อยู่ส่วนไหนของพื้นที่ ไร่ภวินแห่งนี้มีพื้นที่ 100 ไร่ ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่มานานแบบเธอก็น่าจะหลงอยู่แหละ
"อยู่ตรงไหนนะ"
เธอจอดรถตรงหน้าโรงบ่มไวน์ ก่อนจะก้าวขาลงไปจากรถกอล์ฟ เดินเข้าไปข้างในก็เจอแต่พนักงาน ซึ่งพวกเขาบอกว่าพ่อเลี้ยงออกไปสักพักแล้ว หญิงสาวจึงเดินวนไปโดยรอบก่อนจะชะงักไป เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงหิ้วอะไรบางอย่างออกมาจากโกดัง
"คืนนี้แหละ กูจะได้กินเหล้าบ๊วยฉ่ำ ๆ ใส่วอดก้าราคาแพง พูดแล้วเปรี้ยวปากว่ะ..."
มินนี่ยืนอยู่ไม่ไกลกอดอกจ้องมองไปยังชายหนุ่มก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจสองปีที่ผ่านมาก็นึกว่าจะเลิกเหล้าแล้วซะอีก สรุปพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินก็ยังเป็นขี้เหล้าเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
"เฮ้อ! เมาอีกแล้วเหรอพ่อเลี้ยง"
ผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยงภวินยืนอยู่ไม่ห่าง เหลือบสายตาหันไปมองโดยรอบก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่คุ้นเคย มินนี่เป็นลูกสาวรุ่นน้องคนสนิทของนายแม่แห่งไร่ภวิน เธอชอบพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เดินตามต้อย ๆ แต่ทว่าฝ่ายชายกลับตั้งแง่ และแสดงท่าทีรำคาญอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งที่หญิงสาวใบหน้างดงามราวกับนางในวรรณคดี ผิวพรรณผ่องใส การศึกษาระดับปริญญาโท ดีกรีนักเรียนนอก"พ่อเลี้ยงครับผมว่าเย็นนี้เราพักผ่อนกันดีไหมครับ"เขาหันไปมองพ่อเลี้ยงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความหวังดี จำได้เลือนรางว่าเมื่อสองปีก่อนทั้งสองคนเคยมีสัญญาบางอย่างต่อกัน ซึ่งไม่รู้ว่าฝ่ายชายอาจจะพูดไปโดยไม่คิดหรือเปล่า แต่ทว่าฝ่ายหญิงมีความคาดหวังกับสิ่งนั้น ซึ่งเขาคิดว่าเธอน่าจะกลับมาทวงคำสัญญาด้วยตัวเอง"จะไปพักผ่อนทำไม อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ หาความสุขให้ตัวเองดิวะ และความสุขของฉันก็คือการได้แดกเหล้า เข้าใจป่ะ""เอ่อ... คือผมว่า...""ทำไม...มีอะไร"เขาเลิกคิ้วจ้องมองใบหน้าของผู้ช่วยคนสนิทด้วยความสงสัย ปฏิกิริยาบางอย่างของเขาทำให้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินรู้สึกเอะใจ เห็นสายตาของเขาที่มองไปข้างหลังก็ทำให้ชายห
ตอนนี้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินรู้สึกเลยว่ากำลังถูกเด็กเมื่อวานซืน และผู้ช่วยคนสนิทรุมอยู่ เขาเองก็แค่คิดว่าตอนนั้นอยากจะไล่มินนี่ให้ออกไปจากชีวิต ก็เลยรับปากส่ง ๆ ไปก่อน ใครจะคิดว่าจะกลับมาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้"มินนี่ให้โอกาสพ่อเลี้ยงพูดอีกทีนะคะ สรุปว่าจำได้หรือเปล่าว่าให้สัญญาอะไรมินนี่ไว้ เพราะถ้าพ่อเลี้ยงพูดออกมาไม่ถูกใจมินนี่ รู้ใช่ไหมคะว่าหนูจะทำยังไงกับพ่อเลี้ยง"หญิงสาวกอดอกจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยความกดดัน คนอย่างมินนี่ไม่เคยกลัวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน เธอรู้จุดอ่อนเขาทุกอย่าง และรู้ว่าต้องทำยังไงคนอย่างเขาถึงจะสยบอยู่แทบเท้าซึ่งตอนนี้ภวินรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกต้อนให้จนมุม โดนเด็กเมื่อวานซืนข่มขู่ ส่วนกรก็ไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเจ้านายเลย เพราะในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนสัญญากัน เขาก็อยู่เป็นพยานด้วย"แล้วสัญญาอะไรไว้ล่ะ มันก็หลายปีแล้วไงฉันก็จำไม่ได้หรอก""พี่กรจำได้ไหมคะ ว่ามินนี่กับพ่อเลี้ยงสัญญาอะไรกันไว้"เธอหันไปหาผู้ช่วยคนสนิทของพ่อเลี้ยง พี่กรเป็นคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น และเขาจะไม่พูดปดเพราะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร"ถ้าเกิดว่าคุณมินนี่ไปเรียนต่อปริญญาโทกลับมาเมื่อไหร่ พ่อเลี
ในตอนนี้พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจนตรอกถูกต้อนจนมุมจากคุณแม่แล้วก็ยัยเด็กเมื่อวานซืน ไม่คิดเลยว่าคำพูดส่ง ๆ จะส่งผลในปัจจุบันนี้"แกนี่มันยังไงกัน อายุก็เข้าเลข 4 แล้ว จะมาหลอกเด็กแบบนี้ได้ยังไง ช่วยรักษาคำพูดหน่อยเถอะ""ผมหวังดีนะ เรียนจบกลับมาพ่อแม่ของมินนี่ก็ภูมิใจไม่ใช่หรือไง แล้วผมเกี่ยวอะไรล่ะ""เกี่ยวสิคะก็พ่อเลี้ยงเป็นคนทำให้มินนี่ต้องไปอยู่ต่างประเทศถึง 2 ปี เพราะฉะนั้นก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของมินนี่ด้วยค่ะ ตกลงว่าเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีคะ"หญิงสาวเอียงคอจ้องมองชายหนุ่มตาใสแป๋ว ใครเห็นก็คงจะเอ่ยชมว่าน่ารักดูสดใส สำหรับเขายัยเด็กคนนี้มันร้ายที่สุด สรรหาทุกคำทุกประโยคมากดดันแล้วก็ต่อรองให้เขายอม ซึ่งทำแล้วได้ผลด้วยนะ เป็นคนเดียวละมั้งที่สามารถต้อนเขาจนมุมได้ทุกทาง ทั้งที่พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินไม่เคยเกรงกลัวใครมาก่อน เป็นบุคคลที่มีแต่คนนับหน้าถือตา ถ้าใครรู้ว่าเขาเป็นรองยัยเด็กเมื่อวานซืน อับอายไปยันลูกบวชแน่"ไม่อยากแต่งโว้ย""แกนี่มันยังไงเป็นลูกผู้ชายซะเปล่าไม่มีสัจจะเลย เอาเป็นว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา ไม่ต้องห่วงนะหนูมินนี่เดี๋ยวป้าจะจัดการเรื่องแต่งงานให้เร็วที่ส
หลังจากที่พ่อเลี้ยงภวินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาอะไรกินในช่วงเย็น เนื่องจากว่าตอนเที่ยงที่ผ่านมาไม่มีอะไรตกถึงท้อง เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการส่งไวน์ให้ร้านคู่ค้า ไหนจะต้องส่งองุ่นให้ห้างสรรพสินค้าอีก ชีวิตในแต่ละวันวุ่นวายแทบจะไม่ได้มีเวลาทำอย่างอื่น"ป้าสมพิศมีอะไรให้ผมกินบ้างเย็นนี้"เขาตะโกนเรียกป้าสมพิศ เธอคือแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่แห่งนี้ เป็นคนเก่าแก่ที่อยู่กับเขามานาน และก็มีแม่บ้านคนอื่นอีกหลายคน ไร่ภวินแห่งนี้มีพนักงานโดยรวมหลายร้อยคน เขาต้องคอยดูแลให้ทั่วถึง ส่งเสียลูกหลานของพนักงานเรียนหนังสือ โชคดีที่ธุรกิจของเขาไปได้ดี จึงมีเงินเหลือมาคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของลูกน้อง รวมถึงอาหารการกิน ไหนจะที่พักอีก ไม่มีใครดูแลพนักงานได้ดีเท่าไร่ภวินแห่งนี้อีกแล้ว"ใจเย็นก่อนเจ้า ตอนนี้คุณหนูมินนี่กำลังเข้าครัวอยู่ พ่อเลี้ยงนั่งรออีกสักแป๊บได้ไหมเจ้า""เมื่อกี้ป้าสมพิศบอกว่าใครเป็นคนเข้าครัวนะ"ดูเหมือนว่าเขาจะหูฝาดไปชั่วขณะ จึงต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คนอย่างมินนี่นะเหรอจะเข้าครัวทำกับข้าว ตั้งแต่รู้จักกันมายัยเด็กคนนี้ไม่ชอบเข้า
ตาแก่คนไหนก็ไม่รู้ปากบอกว่าอาหารไม่อร่อยถูกปาก แต่ทว่าเมนูที่อยู่บนจานบัดนี้ลงท้องเขาไปหมดแล้วแทบไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว"โอ้โห นี่ขนาดไม่อร่อยนะคะเนี่ย ถ้าอร่อยไม่ต้องเลียจานกันเลยเหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยแซวว่าที่สามีในอนาคตพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความขำขัน ดูเอาเถอะคนที่ปากบอกว่ารสชาติแย่มาก เป็นคนเดียวกับที่กินทุกอย่างตรงหน้าจนหมดแทบไม่เหลือ"เสียดายของหรอก ผักเนี่ยก็คงจะเก็บที่แปลงมาสินะ รู้หรือเปล่าว่าฉันปลูกแบบออแกนิคอย่างดี ยาฆ่าแมลงไม่เคยได้เข้าใกล้ ใช้ปุ๋ยแบบธรรมชาติ เข้าใจป่ะว่าของมันมีราคา จะปล่อยให้เททิ้งก็เสียดายของ"ตาแก่ปากดีบ่นออกมาก่อนจะยกน้ำเย็นขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ลูบท้องตัวเองป้อย ๆ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น บิดขี้เกียจเล็กน้อยว่าจะออกไปเดินเล่นตรงหน้าบ้าน เพราะรู้สึกว่ามื้อนี้กินเยอะจนเกินไป ถ้าถามว่ารสชาติเป็นแบบไหนคือมันอร่อยเลยแหละ แต่ไม่อยากชมเดี๋ยวเด็กมันจะเหลิง"จะออกไปเดินเล่นข้างนอกนะ ถ้าจะกลับบ้านก็ให้คนขับรถไปส่งก็แล้วกัน"ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องอาหาร แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงของยัยเด็กเมื่อวานซืนเอ่ยออกมาเสียก่อน"คุณป้าบอกว่าตั้
มินนี่รู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก นึกว่าการที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังอาบน้ำเปลือยเปล่าทั้งตัว จะกระโจนเข้ามาจับเธอทำเมียซะอีก สรุปว่าเธอประเมินเขาต่ำไปหน่อย พ่อเลี้ยงภวินใจแข็งกว่าที่เธอคิด จึงทำให้แผนการอาบน้ำอ่อยเขาไร้ผล"ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ตรงนี้นะ แล้วนี่เสื้อผ้าของฉันให้ยืมใส่ก่อน ไม่ต้องมาแก้ผ้าอ่อยหรอกไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว เข้าใจ๋?"เขาเอ่ยออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำทันที เนื่องจากว่าปฏิกิริยาทางร่างกายสวนทางกับคำพูดอันปากดีของเขา"จะแข็งทำไมวะ สงสัยต้องทำสมาธิว่ะ"และเมื่อเขานึกได้แบบนั้นก็รีบเดินไปนั่งตรงโซฟา ขัดสมาธิแล้วเอามือซ้ายกับขวาวางไว้บนเข่าทั้งสองข้าง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท่องพุทโธในใจ เพื่อให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่านไปกับสิ่งเร้า"ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก"มินนี่ที่สวมใส่เสื้อผ้าของชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อย ก็ถือผ้าขนหนูเดินออกมาก่อนจะเลิกคิ้วจ้องมองไปยังโซฟาตรงใจกลางห้องนอน ซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงภวินกำลังนั่งขัดสมาธิ มือซ้าย และมือขวาวางอยู่เหนือเข่าทั้งสองข้าง หลับตาลงท่องลมหายใจเข้าออกเหมือนกำลังทำสมาธิอยู่"พ่อเล
ดูเหมือนว่าครั้งนี้มินนี่จะจริงจังกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะโดยปกติไม่ว่าชายหนุ่มจะปฏิเสธเสียงแข็งขนาดไหน เธอก็ยังคงตื้อเขาไม่เลิก แต่ทว่าครั้งนี้ดูหญิงสาวจะเด็ดขาดไม่น้อยเลย นั่นทำให้เขาต้องระวังคำพูดมากขึ้น เพราะถ้าพูดอะไรที่พลาดไปอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง"จะจริงจังทำไมเนี่ย ไปนอนได้แล้วไป๊... ดึกแล้ว""ยังไม่ดึกหรอกค่ะ แค่พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับมินนี่ ก็สามารถกลับบ้านได้เลยค่ะเวลานี้""อย่ากดดันดิวะ จะเอาอะไรกับฉันเนี่ย"เขาเริ่มแสดงสีท่าหงุดหงิดเหมือนอย่างที่เคยทำโดยปกติ แต่ทว่าครั้งนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ยอมอ่อนลงเหมือนอย่างที่เคย ใบหน้าสวยยังคงจ้องมองเขาด้วยความกดดันในคำตอบ"จะมาคาดคั้นเอาอะไรเนี่ย""แล้วพ่อเลี้ยงจะบ่ายเบี่ยงทำไมคะ ก็แค่ตอบมาคำเดียวเอง"ทั้งสองคนจ้องมองใบหน้ากัน และกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จ้องกันอยู่นานพอสมควรจนดูเหมือนว่าจะมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ขยับเข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าตอนนี้จะตกอยู่ในภวังค์ของกัน และกัน มือของมินนี่ทั้งสองข้างค่อย ๆ โอบรัดท้ายทอยของชายหนุ่ม และมือของพ่อเลี้ยงภวินเลื่อนขึ้นมาจับเอวเล็กเอาไว้ทั้งส
และกว่าที่เธอจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายนาที จนในที่สุดหญิงสาวก็เริ่มคุ้นชินกับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ แต่ทว่ามันทำให้ผู้ชายที่อยู่ใต้ร่างกลับรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย เพราะน้องสาวเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ท่อนเอ็นตอดรัดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ"ขยับเร็วกว่านี้ฉันเสียว""ใจเย็นสิคะ คุณไม่ให้หนูทำความคุ้นชินกับมันหน่อยหรือไง อ้าส์"เธอร้องครางออกมาเสียงกระเส่า ก่อนจะถูกชายหนุ่มจับถอดเสื้อแล้วก็ปาทิ้งไปติดกำแพง และเมื่อเห็นเนินปทุมถันที่เขาเล็งไว้ในช่วงเย็น ก็ใช้ริมฝีปากเข้าไปรัวลิ้นใส่เม็ดทับทิมสีชมพูอย่างหื่นกระหาย ดูดดึงอย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับกัดริมฝีปากด้วยความเสียว ท้องน้อยร้อนวูบวาบเมื่อท่อนเอ็นขนาดใหญ่กระแทกเข้ามาในแต่ละที"พ่อเลี้ยงขาาาา""ฉันเสียวไม่ไหวแล้ว เธอขยับแรงกว่านี้ อื้อ"และเมื่อชายหนุ่มร้องขอแบบนั้น หญิงสาวก็จัดให้โดยไม่มีบ่น สะโพกเล็กค่อย ๆ ขยับขึ้นลงด้วยความคุ้นชินกับขนาดของเขา เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตาลงก่อนจะขย่มใส่ท่อนเอ็นจนพ่อเลี้ยงภวินแทบลืมหายใจ เพราะตอนนี้มีแต่ค
หกปีต่อมา...บอกเลยว่าไร่ภวินแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวายของจริง เมื่อหกปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของบ้าน ชื่อหนูน้อยภูมินทร์แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในไร่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าคุณตา และคุณยายด้วย แต่ทว่า..."อย่าแย่งกันดิ! พี่บอกว่าอย่าแย่งกันไง!"เสียงตะโกนเสียงดังลั่นของภูมินทร์ดังขึ้น จนคนเป็นแม่ถึงกับต้องหันไปมอง เด็กแฝดจอมซนทั้งสามคนกำลังแย่งของเล่นกันอยู่ ทั้งที่คนเป็นพ่อซื้อมาให้เหมือนกันแล้ว เล่นเอาปวดหัวทั้งวันทั้งคืน จนรู้สึกท้อไปหมด"เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็ภูวดลมีแล้วไม่ใช่เหรอ อยู่ตรงนั้นไงทำไมไม่เล่น จะมาแย่งของเราทำไม""เอาให้น้องไปเถอะภูเวียง""ไม่ให้หรอก ทำไมต้องให้ด้วย""ภูพิงค์ก็ไม่ให้หรอก ของตัวเองก็มีเล่นสิ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่นะ"เด็กน้อยอายุอานามได้สี่ขวบกว่า ซึ่งคลอดออกมาเป็นเด็กแฝดสาม กำลังทำการเจรจาแย่งของเล่นกันอยู่ มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมใคร จะต้องให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง จนพี่น้องด้วยกันถึงกับเอือม"พี่ภูมินทร์ดูสิ พวกเขาไม่ให้ของเล่นผม""ของเราก็อยู่นี่ไง มันก็เหมือนกันแหละดูสิ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ทำไมเราถึงต้องอยากไปเล่นของคนอ
ใช้เวลาในการอยู่ในงานแต่งเกือบทั้งวัน จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มินนี่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนที่นอนโดยที่ชายหนุ่มสวมกอดเธออยู่ทางด้านหลัง จ้องมองของขวัญตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา"ทำไมของขวัญเยอะขนาดนี้เนี่ย คืนนี้เราจะแกะกันหมดไหมคะ""ก็ค่อย ๆ แกะก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก ของส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ถ้าหนูว่างก็ค่อยมานั่งแกะก็ได้""เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งแกะดูค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาแกะต่อ ว่าแต่มินนี่มีของขวัญวันแต่งงานให้พ่อเลี้ยงด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะอยากได้หรือเปล่า"เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับมึนงงในท่าทีของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขา"อยากได้สิ อะไรที่หนูให้พี่ก็อยากได้ทั้งนั้น แล้วทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น เริ่มระแวงแล้วนะ""เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย นี่ค่ะเอาไปแกะดู"เธอส่งกล่องบางอย่างไปให้เขาในมือ เป็นกล่องเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีราคาอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะมันมีความหมายกั
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฤกษ์งามยามดีในการแต่งงานของคู่บ่าวสาว ระหว่างพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน กับหนูมินนี่ สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก ทุกคนจะทราบดีว่าเธอแอบชอบพ่อเลี้ยงภวินมาแต่ไหนแต่ไร ตามติดตั้งแต่เด็กจนในที่สุดเธอก็สมหวัง ทั้งสองคนได้เข้าพิธีแต่งงานในเช้าอันสดใส ฤกษ์งามยามดีคือเวลา 9:09 น.ขบวนขันหมากเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่ โดยข้างในนั้นมีคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวรออยู่ ส่วนมินนี่เธออยู่ในชุดไทย ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทองดูสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย"พี่เขามาแล้วลูก""มาแล้วเหรอคะคุณแม่"หญิงสาวจ้องมองออกไปยังประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองสบตากับว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าของว่าที่ภรรยา ก็ยิ้มออกมาทันทีแถมยังมองตาแทบไม่กระพริบ จนคุณแม่ต้องสะกิด"มาเปิดประตูเงินประตูทองก่อน มองน้องตาค้างเชียวนะ รีบ ๆ เอาซองให้เขาไป จะได้เข้าไปหาน้องไง""ได้ครับแม่"เขารีบส่งซองไปให้เด็กที่ถือประตูเงินประตูทอง ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ และในที่สุดเขาก็ได้เข้าไปถึงในตัวบ้าน ซึ่งข้างในนั้นถูกตระเตรียมไว้สำหรับพิธีการในวันนี้"มินนี่... ทำไมหนูสวยจัง""พ่อเลี้ยงก็หล่อค่ะ"และเมื่อช
และในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี สองพี่น้องถูกพ่อกำนันส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกเป็นเวลาประมาณสามปี จะได้ดัดนิสัยให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง คงเลี้ยงแบบตามใจมานาน จนรู้ว่านิสัยเสียจนกู่ไม่กลับ ถึงได้ส่งไปดัดสันดานด้วยการให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักพัก"คนสวยของพี่ ไปเดินเล่นกันไหมคะ"วันนี้พ่อเลี้ยงภวินมีเวลาให้กับว่าที่ภรรยาทั้งวัน งานแต่งงานของเขาทั้งสองคนจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สถานที่ถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่เป็นคนจัดสรรให้ทุกอย่าง"ไปสิคะ"เธอยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับตรงหน้า พ่อเลี้ยงภวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือคนรักเอาไว้ พากันเดินออกจากตัวบ้าน ขับรถกอล์ฟวนเล่นในไร่พรางคุยกันไป"ไหนบอกว่าพาไปเดินเล่นไงคะ ขับรถวนเป็นรอบแล้วมั้ง""ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวพี่พาหนูไปเดินเยอะก็บ่นอีกว่าเหนื่อย ขับรถเที่ยวเล่นแบบนี้ก็ดีนี่ อากาศเย็นสบายหนูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย""ก็จริงนะคะ ช่วงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครมาตามก่อกวน ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก เป็นชีวิตที่สงบสุขดีนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะยื่น
พ่อเลี้ยงภวินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องนอน กะว่าจะหาอะไรให้มินนี่กิน เนื่องจากว่าเธอคงรู้สึกเหนื่อยจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะตื่นเลย แต่ทว่าก่อนที่จะได้ทำอะไร ก็ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน เขาเดินลงมาชั้นล่าง จ้องมองไปยังสามคนพ่อลูก ที่ตอนนี้ถือพานธูปเทียนเดินเข้ามาพร้อมกัน"กำนัน... มีอะไรหรือเปล่า""ฉันพาลูก ๆ มาขอขมาพ่อเลี้ยงภวินจ้ะ แล้วหนูมินนี่ล่ะไม่อยู่ด้วยกันเหรอ"ใบหน้าของพ่อเลี้ยงดูไม่ค่อยจะรับแขกสักเท่าไหร่ จ้องมองไปยังมังกรอย่างเคียดแค้น และรู้สึกโกรธที่เขาคิดร้ายต่อว่าที่ภรรยา"ยังไม่ตื่นหรอกเธอพักผ่อนอยู่ เอางี้ละกันกำนันกับลูกไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวผมจะไปตามมินนี่""ได้จ้ะ ตามสบายเลยนะจ๊ะ"สามคนพ่อลูกรีบพากันไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ส่วนพ่อเลี้ยงภวินเขาเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูสดใสขึ้นจากเมื่อคืน"คนสวยยิ้มได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ พ่อเลี้ยงตื่นไม่เรียกมินนี่เลย แล้วออกไปไหนมาคะ""ก็ว่าจะไปหาของอร่อยมาให้หนูกิน แต่ว่ากำนันกับลูกมานั่งรออยู่ข้างล่าง หนูจะออกไ
พ่อเลี้ยงภวินพาว่าที่ภรรยาเดินทางกลับมาที่ไร่ และโกรธตัวเองมากที่พาเธอไปพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนั้น ตลอดทางเขาโอบกอดเธอไว้ ทั้งรัก และห่วงกลัวว่าเธอจะคิดมาก แต่ดูจากความแสบซ่าก็น่าจะพอหายห่วงได้"พ่อเลี้ยงรู้ไหมคะว่าไอ้มังกรมันกระโจนเข้ามาหามินนี่ค่ะ มันจะปล้ำมินนี่ตรงกำแพง มินนี่ก็เลยเอาเท้าถีบท้องมันกระเด็นหงายหลังเลยค่ะ""...""แล้วจากนั้นมินนี่ก็เอาเท้ากระทืบ กระทืบ กระทืบ กระทืบมันเลยค่ะ""เรากรีดร้องอย่างกับคนโดนเชือดเพื่ออะไร พี่ก็พอรู้ว่ามินนี่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็เลยรอดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดจะทำอะไร"มินนี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของว่าที่สามีด้วยความสงสัยในประโยคคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง ที่เขาบอกว่าเราดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดที่จะทำอะไร"พ่อเลี้ยงหมายถึงอะไรคะ แสดงว่าเห็นแล้วใช่ไหมว่ามินนี่ถูกลากเข้าห้อง""ก็พี่รู้สึกเอะใจแล้วก็เป็นห่วงก็เลยตามออกไป พอเห็นมินนี่เดินออกห้องน้ำมากำลังจะเดินไปหา ใครจะคิดว่าจะถูกใครก็ไม่รู้ลากเข้าไปที่ห้อง พี่ให้กรถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะคนที่อยู่หน้าห้องตอนนั้นคือลิ้นจี่ เห็นว่ายังไม่มีใครเข้าไปในห้องนั้นก็เลยรอดูไปก่อน
เสียงโวยวายพี่อยู่ข้างในทำให้คนข้างนอกถึงกับยิ้มออกมาด้วยความสะใจ นางตัวดีไปเรียนเมืองนอกเมืองนาถ้าได้ผัวฝรั่งกลับมาก็จบแล้ว ยังคิดที่จะมายุ่งวุ่นวายกับพ่อเลี้ยงภวินอีก มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ"อยู่ในนั้นไปแหละนางตัวดี เดี๋ยวฉันจะทำให้แกขึ้นสวรรค์ จะได้เลิกยุ่งกับพ่อเลี้ยงภวินของฉันสักที แกจองมาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นเหรอ ฉันก็จองมาตั้งแต่เด็กเหมือนกันยะ! ชิ~"เธอบ่นออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้คนที่อยู่ภายในห้องร้องโวยวายออกมา แต่ทว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมานั้นไม่ได้ดังจนทำให้คนในงานแตกตื่น เนื่องจากว่าห้องที่ถูกขังไว้ค่อนข้างเก็บเสียงพอสมควรมินนี่ยังคงมีความพยายามในการเคาะประตูส่งเสียงเรียกให้คนข้างนอกผ่านมาได้ยิน จะได้ช่วยเธอออกไป ดูเหมือนว่ามันจะไร้ผล เธอทรุดลงนั่งอยู่ที่พื้น กอดขาของตัวเองเอาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้ออกมา"ฮืออออออ! ใครก็ได้ช่วยมินนี่ทีค่ะ"เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก็รู้สึกเหมือนมีใครเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีคนมาช่วยแล้ว แต่ทว่าก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะคนที่เข้ามาใหม่คือมังกร พี่ชายของลิ้นจี่ซึ่งเขาแอบชอบเธออยู่
พ่อเลี้ยงภวินกุมมือว่าที่ภรรยาเดินเข้ามาหากำนันที่ยืนรออยู่ตรงทางเข้า เขา และลูกสาวปั้นหน้ายิ้มทั้งที่ในใจมีคำถามอยู่เต็มไปหมด"สวัสดีครับกำนัน สุขสันต์วันเกิดนะครับขอให้มีความสุขมาก ๆ""สวัสดีค่ะพ่อกำนัน มีความสุขมาก ๆ นะคะสุขสันต์วันเกิดค่ะ""ขอบคุณมากเลยนะครับพ่อเลี้ยงภวินที่มาในวันนี้ เป็นเกียรติมากเลย ขอบคุณหนูมินนี่ด้วยนะ อย่างนั้นเดี๋ยวเรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเชิญด้านในเลย""ได้เลยครับ"พ่อเลี้ยงภวินหันไปยิ้มให้กับลิ้นจี่ ลูกสาวของกำนัลพุดตาน คนนี้ก็แอบชอบเขาอยู่เหมือนกัน และอายุอานามก็ไล่เลี่ยกับมินนี่ด้วย คนมันหล่อก็อย่างนี้แหละ มีแต่เด็กสาวมาชอบ แต่ทว่าตอนนี้เขามีว่าที่ภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เดือนหน้าก็จะแต่งงานกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเข้ามากี่คน เขาก็ไม่เหลียวมองทั้งนั้น"กำนันครับเดี๋ยวเดือนหน้าผมจะแต่งงานกับมินนี่แล้ว ยังไงจะส่งการ์ดเชิญมาให้อีกทีหนึ่งนะครับ แต่ผมจะแจ้งไว้ก่อน""แต่งงานเหรอครับ! เร็วจังเลยนะครับเดือนหน้าเลยเหรอ""ตะ...แต่งงาน!"ลิ้นจี่กับกำนันถึงกับอึ้งไปเลยเพราะไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงภวินจะประกาศแต่งงานเร็วขนาดนี้ แล้วยัยมินนี่เพิ่
หลังจากที่คุยกันถึงเรื่องราวความเป็นมา ได้ปรึกษาพูดคุยกันก็ทำให้เพื่อนทั้งสี่คนรู้สึกโล่งอกสบายใจขึ้นเยอะ ส่วนมินนี่เธอก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มให้กับทุกคน ปล่อยให้เพื่อนนั่งคุยกันไปไม่ได้วุ่นวายอะไร คอยบริการเทคแคร์อย่างดี จนทำให้เพื่อนของพ่อเลี้ยงภวินรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยคนนี้"มึงทำบุญด้วยอะไรวะ ถึงได้เมียเด็กแล้วก็เพอร์เฟคขนาดนี้เนี่ย""นั่นดิ ถ้ากูเป็นน้องมินนี่นะ ไปหาผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกันดีกว่า แก่แบบมึงกูไม่เอาหรอก""มึงเด็กอยู่มั้ง ไม่แก่เลยเนาะ อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเลี้ยงเด็กนะไอ้ชรัณ กูล้อมึงแน่""ไร้สาระน่า"ชรัณถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อถูกพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินจับผิด ดูเหมือนว่าทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเรื่องของใครของมัน ความเป็นเพื่อนจะไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน และกัน แล้วก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนด้วย"เอาเถอะมันเป็นเรื่องของใครของมัน จัดการปัญหาชีวิตกันเองก็แล้วกัน แล้วก็เดือนหน้าเตรียมตัวให้ว่างด้วยนะ มางานแต่งงานกูให้ได้ล่ะ""เออน่าไม่ลืมหรอก ยังไงฝากน้องมินนี่ดูแลเพื่อนรักพี่คนนี้ด้วยนะ ก็คนแก่มันจะขี้น้อยใจ เอาใจมันเยอะ ๆ ล่ะ""แหม่!