มินนี่รู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก นึกว่าการที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังอาบน้ำเปลือยเปล่าทั้งตัว จะกระโจนเข้ามาจับเธอทำเมียซะอีก สรุปว่าเธอประเมินเขาต่ำไปหน่อย พ่อเลี้ยงภวินใจแข็งกว่าที่เธอคิด จึงทำให้แผนการอาบน้ำอ่อยเขาไร้ผล
"ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ตรงนี้นะ แล้วนี่เสื้อผ้าของฉันให้ยืมใส่ก่อน ไม่ต้องมาแก้ผ้าอ่อยหรอกไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว เข้าใจ๋?"
เขาเอ่ยออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำทันที เนื่องจากว่าปฏิกิริยาทางร่างกายสวนทางกับคำพูดอันปากดีของเขา
"จะแข็งทำไมวะ สงสัยต้องทำสมาธิว่ะ"
และเมื่อเขานึกได้แบบนั้นก็รีบเดินไปนั่งตรงโซฟา ขัดสมาธิแล้วเอามือซ้ายกับขวาวางไว้บนเข่าทั้งสองข้าง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท่องพุทโธในใจ เพื่อให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่านไปกับสิ่งเร้า
"ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก"
มินนี่ที่สวมใส่เสื้อผ้าของชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อย ก็ถือผ้าขนหนูเดินออกมาก่อนจะเลิกคิ้วจ้องมองไปยังโซฟาตรงใจกลางห้องนอน ซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงภวินกำลังนั่งขัดสมาธิ มือซ้าย และมือขวาวางอยู่เหนือเข่าทั้งสองข้าง หลับตาลงท่องลมหายใจเข้าออกเหมือนกำลังทำสมาธิอยู่
"พ่อเลี้ยงทำอะไรคะ ทำสมาธิเหรอ"
หญิงสาวยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะกระโจนเข้าไปนั่งลงบนตักของเขา มือทั้งสองข้างโอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ จนเขาถึงกับสะดุ้งเพราะมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาด้วยความตกใจ
"มานั่งทำอะไรตรงนี้ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เห็นหรือเปล่าว่าฉันกำลังทำสมาธิอยู่"
"ทำสมาธิทำไมคะ นี่พ่อเลี้ยงแก่ถึงขั้นต้องนั่งสมาธิทุกคืนแล้วเหรอ"
หญิงสาวเอียงคอถามตาใสแป๋ว คนที่ติดเหล้าแบบพ่อเลี้ยงน่ะเหรอจะมีความคิดที่จะนั่งสมาธิ คนอย่างเขาไม่มีทางที่จะคิดทำอะไรดี ๆ แบบนี้หรอก เธอไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
"แล้วทำไมฉันถึงจะทำไม่ได้ แล้วเลิกเรียกว่าฉันเป็นคนแก่ได้ไหม เห็นแบบนี้แรงดีนะเว้ย"
"แรงดีจริงหรือเปล่าคะ พูดแบบนี้มินนี่อยากพิสูจน์เลย อร๊าย! รับมินนี่ไปเป็นเมียเลยได้ไหมคะ"
"ยัยเด็กแรด พูดจาไม่อายใครไปเรียนเมืองนอกเมืองนามา 2 ปี คงจะช่ำชองมากเลยสินะ"
"ก็ต้องลองดูสิคะว่ามินนี่ช่ำชองแบบที่พ่อเลี้ยงสันนิษฐานหรือเปล่า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทดลองกับผู้ชายคนไหนมาก่อน แต่มินนี่ก็ศึกษาจากพวกคลิปวีดีโอมานะคะ..."
ไม่พูดเปล่าเธอยังใช้นิ้วเรียวค่อย ๆ ไต่ตามตัวของชายหนุ่ม ลากไล่มาตั้งแต่เนินอกลงไปยังสะดือก่อนจะล้วงลูบไล้ตรงท้องน้อยของเขา จนชายหนุ่มรู้สึกเสียวซ่านแทบอดทนไม่ไหว รีบดึงมือของเธอออก
"หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ยัยเด็กแก่แดด ลงไปจากตัวของฉันเลย"
"ไม่ค่ะ! ถ้าคืนนี้มินนี่ไม่ได้พ่อเลี้ยงเป็นผัว มินนี่ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น"
เธอตั้งปณิธานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะต้องได้เขาเป็นผัวในคืนนี้ ถามว่าเธออายหรือเปล่าตอบเลยว่าแน่นอน แต่ถ้าไม่ใจกล้าหน้าด้านแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นเมียของพ่อเลี้ยงภวินสักที เธอตื้อเขามาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้อายุ 25 ปีแล้ว หลายสิบปีเขาจะไม่มีทีท่ารักเธอบ้างเลยหรือไง
"ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะทำไมจะต้องเป็นฉันด้วย ฉันรู้นะว่าตัวเองหล่อ รวย ผู้หญิงที่ไหนเห็นก็ต้องหลงรัก แต่คนอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมเธอไม่หาล่ะ ไปเรียนเมืองนอกตั้ง 2 ปีไม่มีที่ถูกใจเลยหรือไง"
เขาเอ่ยออกมาเป็นเชิงประโยคคำถามเสียมากกว่า ก็แค่อยากจะรู้ว่าทำไมเธอถึงรักมั่นคงกับเขาแค่คนเดียว ทั้งที่เราสองคนอายุห่างกันเกือบ 15 ปี เธอก็ยังสาวยังสวยมีโอกาสหาแฟนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่จำเป็นจะต้องมาเป็นเมียคนที่อายุห่างกันถึง 15 ปี
"พ่อเลี้ยงก็รู้นี่ว่ามินนี่รักพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก รักตั้งแต่ที่พ่อเลี้ยงช่วยจัดการไอ้พวกเด็กเกเรให้ มันทัชใจมินนี่มากเลยค่ะ"
"เธอรักฉันเพราะว่าฉันช่วยเธอถูกไอ้พวกเด็กเกเรรังแกเนี่ยนะ"
เขาพอจะรู้ว่าเหตุผลอะไรที่เธออยู่คลั่งไคล้เขามากขนาดนั้น เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก มินนี่ชอบมีไอ้พวกเด็กเกเรมากลั่นแกล้ง และเขาเนี่ยแหละที่เป็นคนไปจัดการให้ตลอด คอยปกป้องเธอจากคนนิสัยไม่ดี แต่ก็ทำเพราะว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าไง ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยสักหน่อย
"ก็ใช่น่ะสิคะ มันบ่งบอกให้รู้ว่าพ่อเลี้ยงเป็นคนที่ปกป้องมินนี่ได้ ไม่ว่าใครจะเข้ามารังแก พ่อเลี้ยงก็จะปกป้องมินนี่ได้เสมอ"
"ฉันทำเพราะว่าแค่ปกป้องเด็กคนหนึ่ง ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย"
สองสายตาประสานกันโดยที่ทั้งคู่ไม่มีใครพูดอะไรต่อกัน ดูท่าทางพ่อเลี้ยงภวินน่าจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอจริง ๆ ไม่ว่าเธอจะตื้อท่าไหนเขาก็ไม่เคยใจอ่อนต่อเธอแม้แต่ครั้งเดียว
"ไม่ได้คิดอะไร แล้วตอนที่มินนี่เรียนอยู่ต่างประเทศ ทำไมไปหาบ่อยจังเลยคะ"
"ไปหาบ่อยอะไรกัน ฉันไปดูงานที่โรงบ่มไวน์ต่างหาก แล้วมันไม่ได้ห่างกันมากก็เลยแวะไปหา ความจริงก็ไม่ได้อยากไปหาหรอก พ่อกับแม่ฝากของไปให้ แล้วก็ขอให้ช่วยแวะไปดูหน่อยก็เท่านั้น"
เป็นประโยคคำพูดที่ดูเจ็บปวดหัวใจเหลือเกิน ทุกสิ่งที่เขาทำให้เธอเพราะมันเป็นหน้าที่เท่านั้น บางครั้งก็ผู้ใหญ่ก็ขอร้องบ้าง คงไม่ได้มีครั้งไหนที่เต็มใจอยากจะปกป้อง และดูแลเธอเลย
"ที่พูดออกมาเป็นความในใจของพ่อเลี้ยงจริง ๆ ใช่ไหมคะ มินนี่จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้"
น้ำเสียงที่เคยหยอกเย้ากลับแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับพูดไม่ออก ทำไมจู่ ๆ เธอก็กลับเข้ามาอยู่ในโหมดจริงจังซะอย่างนั้น
"เธอจะมาดึงดรามาอะไรเนี่ย"
"ไม่ได้ดรามาค่ะ หนูแค่อยากจะรู้ว่าพ่อเลี้ยงพูดออกมาจากใจจริงหรือเปล่า เพราะถ้าทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ได้เต็มใจที่จะทำมันเป็นแค่หน้าที่ และมีคนขอร้องให้ทำ มินนี่ก็จะได้ขอบคุณกับสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด จะได้เดินออกไปจากชีวิตพ่อเลี้ยงค่ะ"
และเมื่อจบประโยคนั้นทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับนิ่งอึ้งไปอย่างพูดไม่ออก ตั้งแต่เกิดมาจนโตยังไม่เคยได้ยินคำว่าเดินออกไปจากชีวิตของเขาจากปากของยัยเด็กเมื่อวานซืนเลย
"เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ..."
"มินนี่แค่อยากจะรู้ ว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้คิดอะไรกับมินนี่แม้แต่นิดเดียว ขอแค่บอกมาว่าไม่ได้คิดอะไรแค่คำเดียว มินนี่จะเป็นคนเดินออกไปเองค่ะ"
ดูเหมือนว่าครั้งนี้มินนี่จะจริงจังกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะโดยปกติไม่ว่าชายหนุ่มจะปฏิเสธเสียงแข็งขนาดไหน เธอก็ยังคงตื้อเขาไม่เลิก แต่ทว่าครั้งนี้ดูหญิงสาวจะเด็ดขาดไม่น้อยเลย นั่นทำให้เขาต้องระวังคำพูดมากขึ้น เพราะถ้าพูดอะไรที่พลาดไปอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง"จะจริงจังทำไมเนี่ย ไปนอนได้แล้วไป๊... ดึกแล้ว""ยังไม่ดึกหรอกค่ะ แค่พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับมินนี่ ก็สามารถกลับบ้านได้เลยค่ะเวลานี้""อย่ากดดันดิวะ จะเอาอะไรกับฉันเนี่ย"เขาเริ่มแสดงสีท่าหงุดหงิดเหมือนอย่างที่เคยทำโดยปกติ แต่ทว่าครั้งนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ยอมอ่อนลงเหมือนอย่างที่เคย ใบหน้าสวยยังคงจ้องมองเขาด้วยความกดดันในคำตอบ"จะมาคาดคั้นเอาอะไรเนี่ย""แล้วพ่อเลี้ยงจะบ่ายเบี่ยงทำไมคะ ก็แค่ตอบมาคำเดียวเอง"ทั้งสองคนจ้องมองใบหน้ากัน และกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จ้องกันอยู่นานพอสมควรจนดูเหมือนว่าจะมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ขยับเข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าตอนนี้จะตกอยู่ในภวังค์ของกัน และกัน มือของมินนี่ทั้งสองข้างค่อย ๆ โอบรัดท้ายทอยของชายหนุ่ม และมือของพ่อเลี้ยงภวินเลื่อนขึ้นมาจับเอวเล็กเอาไว้ทั้งส
และกว่าที่เธอจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายนาที จนในที่สุดหญิงสาวก็เริ่มคุ้นชินกับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ แต่ทว่ามันทำให้ผู้ชายที่อยู่ใต้ร่างกลับรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย เพราะน้องสาวเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ท่อนเอ็นตอดรัดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ"ขยับเร็วกว่านี้ฉันเสียว""ใจเย็นสิคะ คุณไม่ให้หนูทำความคุ้นชินกับมันหน่อยหรือไง อ้าส์"เธอร้องครางออกมาเสียงกระเส่า ก่อนจะถูกชายหนุ่มจับถอดเสื้อแล้วก็ปาทิ้งไปติดกำแพง และเมื่อเห็นเนินปทุมถันที่เขาเล็งไว้ในช่วงเย็น ก็ใช้ริมฝีปากเข้าไปรัวลิ้นใส่เม็ดทับทิมสีชมพูอย่างหื่นกระหาย ดูดดึงอย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับกัดริมฝีปากด้วยความเสียว ท้องน้อยร้อนวูบวาบเมื่อท่อนเอ็นขนาดใหญ่กระแทกเข้ามาในแต่ละที"พ่อเลี้ยงขาาาา""ฉันเสียวไม่ไหวแล้ว เธอขยับแรงกว่านี้ อื้อ"และเมื่อชายหนุ่มร้องขอแบบนั้น หญิงสาวก็จัดให้โดยไม่มีบ่น สะโพกเล็กค่อย ๆ ขยับขึ้นลงด้วยความคุ้นชินกับขนาดของเขา เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตาลงก่อนจะขย่มใส่ท่อนเอ็นจนพ่อเลี้ยงภวินแทบลืมหายใจ เพราะตอนนี้มีแต่ค
หลังจากที่เคลียร์กันลงตัวทั้งสองคนก็พากันไปอาบน้ำ แช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่นมองบรรยากาศโดยรอบผ่านกระจกใส เนื่องจากว่าห้องน้ำของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน สามารถปรับให้มองเห็นบรรยากาศข้างนอกได้ด้วย เป็นกระจกอัจฉริยะเปลี่ยนจากทึบเป็นใสได้ผ่านระบบคำสั่งเสียง หรูหราสมฐานะเจ้าของไร่องุ่น 100 ไร่"แล้วแบบนี้คนอื่นเขาจะเห็นเราอาบตามด้วยกันไหมคะ"หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับตีฟองเล่นอยู่ในอ่าง โดยมีชายหนุ่มนั่งซ้อนอยู่ทางด้านหลัง มือหนาทั้งสองข้างบีบเคล้นเต้านมอวบอย่างรู้สึกเพลินมือ ไม่คิดที่จะละออกจากตัวเธอแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว"ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ที่นี่ชั้นสองสูงขนาดนี้ด้วย เดี๋ยวพี่จะต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้ว มินนี่จะไปไหนต่อล่ะ หรือว่าจะเข้าไปในไร่ด้วยกัน""ไปค่ะ อยากไปเดินเล่นเพราะว่าอยู่ที่บ้านก็เบื่อ""จำได้ใช่ไหมว่าเราสองคนตกลงอะไรกันไว้ ไหนลองทบทวนความจำหน่อย"เขาเอ่ยถามย้ำหญิงสาวอีกครั้ง เพราะยัยเด็กคนนี้มันร้ายกว่าที่คิด ความลับไม่มีจริงหรอกสำหรับมินนี่ เพราะฉะนั้นจะต้องตกลงกันให้ดีก่อน"รู้แล้วค่ะมินนี่ไม่บอกใครหรอกว่าเราสองคนมีอะไรกันแล้ว เอาเป็นว่าพ่อเลี้ยงมั่นใจได้เลยนะคะว่ามินนี่จะไม่พูดอะไร
หลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวด้วยกันเสร็จ ก็พากันนั่งรถกอล์ฟขับเข้าไปในไร่ ซึ่งวันนี้ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปประชุมกับพนักงานคนอื่น เพราะอีกสองวันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงประจำปีที่ไร่ภวิน และช่วงบ่ายเขาจะต้องไปซื้อของจับฉลากให้กับพนักงาน ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะต้องใช้เงินหลายแสนบาท ส่วนโบนัสทุกสิ้นปีเขามีให้ทุกคนอยู่แล้ว ของจับฉลากในงานเลี้ยงก็เป็นเพียงแค่โบนัสพิเศษเฉพาะผู้โชคดีก็เท่านั้น ก็มีรางวัลปลอบใจเพิ่มเติมสำหรับคนที่ไม่ได้รางวัลใหญ่"พ่อเลี้ยงจะไปไหนเหรอคะ""เข้าไปที่ไร่ก่อน จะต้องไปประชุมกับพนักงานคนอื่น อีกสองวันจะมีงานเลี้ยงประจำปีของไร่ จะมาหรือเปล่าล่ะ""ไม่รู้จะมาทำไมค่ะ มินนี่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับที่ไร่นี้สักหน่อย"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะหันไปมองโดยรอบ ร้องซี๊ดออกมาเพราะรู้สึกเจ็บตรงช่วงล่าง ถ้าเกิดว่าก้มลงไปดูได้คงจะเห็นว่ามันแดงฉ่ำเป็นลูกตำลึง คนใจร้ายก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก แต่จะโทษใครได้เธอแรดอยากจะได้เขามาเป็นผัวเอง ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้"เป็นอะไรเรา ทำหน้าแบบนั้นทำไม""เจ็บค่ะ""เจ็บตรงไหน... ไหนพี่ดูหน่อย"ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือไปจับเรียวขาของหญิงสาวไว้
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางออกมาจากไร่ภวินตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในตัวเมือง โดยมีกร และคนงานอีกหลายคนขับรถตามมาด้วยเพราะต้องช่วยกันขนของกลับและในระหว่างที่มินนี่กำลังกดโทรศัพท์เล่นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อมีมือปลาหมึกกำลังยุกยิกอยู่ตรงเรียวขาของเธอ หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย"วุ่นวายอะไรกับหนูอีกคะ""จับไม่ได้หรือไง""อะไรของพ่อเลี้ยงค่ะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พออยู่ด้วยกันสองคนสะกิดบ่อยนะคะ ทำไมล่ะอยากได้มินนี่อีกยังไง สงสัยจะติดใจล่ะมั้ง"เธอเอ่ยแซวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด มือหนาลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาต้องการเธอมาก ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องเจรจากับว่าที่ภรรยาใหม่อีกรอบ"เย็นนี้ไม่กลับได้ไหม อยู่กับพี่เดี๋ยวจะดูแลอย่างดี""แล้วใครที่มันบอกว่าได้คืนเดียวก็พอ หืม"มินนี่กอดอกเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความกดดัน ก็คิดไม่ผิดว่าถ้าเกิดพ่อเลี้ยงภวินได้กินเธอสักครั้ง ก็คงจะติดออกติดใจไปไหนไม่รอด แต่คนอย่างเธอไม่ยอมให้กินในที่ลับหรอก จะทำทุกวิธีเพื่อให้ชายหนุ่มคลั่งรักเธอต่อห
"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับพ่อเลี้ยง"ลูกน้องคนสนิทหันมาเอ่ยถามเจ้านายเมื่อเห็นใบหน้าของเขาขมวดคิ้วเป็นปม ดูท่าทางเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบางอย่าง แต่คิดว่าคงไม่เลวร้ายเพราะดูจากลักษณะก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร"บัตรฉันเงินออกหลายล้านเลย ยัยเด็กแสบมันเอาไปรูดซื้ออะไรนักหนาเนี่ย ซื้อของไปก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปจัดการยัยตัวดีแป๊บนึง"เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จากนั้นก็ตรงไปยังโซนขายของแบรนด์เนม ซึ่งพิกัดล่าสุดที่เธอใช้บัตรของเขารูดซื้อของก็คือร้านขายรองเท้าและดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเจอยัยตัวแสบแล้ว กำลังนั่งลองรองเท้าอยู่ในร้าน โดยที่ถุงหลายใบวางอยู่ข้างเธอ"คู่นี้เป็นสีพิเศษเหรอคะ""ใช่แล้วค่ะ หายากมากเลยนะคะเป็นรุ่นที่ทำออกมาไม่เยอะ ทางร้านเราก็ได้มาเพียงไม่กี่คู่เท่านั้นค่ะ""แบบนี้ต้องซื้อแล้วสิคะ งั้นเอาคู่นี้เลยค่ะเบอร์ 38"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของพ่อเลี้ยงภวินกำลังยืนกอดอกจ้องมองใบหน้าของเธออยู่"มีอะไรเหรอคะพ่อเลี้ยง ซื้อของเสร็จแล้วเหรอ""ยังไม่เสร็จ แต่มีข้อความจากโทรศัพท์ว่ามีใครบางคนรูดเงินออกไปเกือบ 5 ล้าน ซื้ออะไรนักหนา
หลังจากที่รับประทานอาหารด้วยกันเสร็จ มินนี่ก็กดกริ่งเรียกให้พนักงานมาคิดเงินที่โต๊ะของเธอ จากนั้นก็ใช้บัตร wisdom ของชายหนุ่มชำระค่าอาหารทั้งหมด รวมถึงกับข้าวที่สั่งแยกต่างหากเพื่อให้คนงานเอาไปแบ่งกับคนอื่น ๆ ที่ทำงานอยู่ในไร่ด้วย โดยที่พ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินทำอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากว่าโดนยัยตัวแสบยึดบัตรไปเรียบร้อยแล้ว"ใจปล้ำจริง ๆ เลยนะยัยเด็กคนนี้""แน่นอนสิคะ เพียงแค่ข้ามคืนมินนี่ก็กลายเป็นคนรวยเฉยเลย"เธอยิ้มเยาะใส่พ่อเลี้ยงภวินด้วยความสะใจ รับบัตรคืนมาจากพนักงาน ก่อนจะเดินออกไปจากร้านอาหารด้วยใบหน้าที่อารมณ์ดีสุดขีด ส่วนคนที่หน้าหงุดหงิดแต่ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เดินตามต้อย ๆ อย่างยอมรับชะตากรรม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเขาเป็นคนเลือกเองทั้งนั้น"ร้ายจริง ๆ"ชายหนุ่มเดินตามหญิงสาวไปเรื่อย ๆ จนมาถึงที่ลานจอดรถ จากนั้นเขาก็ดันตัวเธอเข้าไปชิดประตูข้างคนขับ เหลือบซ้ายแลขวาเมื่อไม่เห็นใครก็โน้มใบหน้าเข้าไปจูบหญิงสาวทันทีด้วยความหมั่นไส้"อื้อ!"เธอร้องครางออกมาแต่ก็ตอบรับริมฝีปากหนาด้วยความเต็มใจ มือเล็กค่อย ๆ เลื่อนโอบรอบคอชายหนุ่มเอาไว้ จูบตอบชายหนุ่มก่อนจะพาออกจากกันด้วยความอ้อยอิง"
ทั้งสองคนเดินทางมาถึงที่ไร่ภวินในเวลาต่อมา ซึ่งวันนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะไม่กลับไปบ้านของตัวเอง เพราะว่าติดใจคารมคมคายของตาแก่ที่บอกว่าถ้าเธอค้างที่นี่จะพาขึ้นสวรรค์ เอาจริงก็ติดใจลีลาของคนแก่แหละ ทำยังไงได้ก็รักเขาไง ยอมกลืนน้ำลายตัวเองสักครั้งก็แล้วกัน"อาบน้ำด้วยกันไหมคะ"ความบ้ากามเริ่มเข้ามาสิงอยู่ในตัวของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินอีกครั้ง ใบหน้าฉายแววอย่างมีความหวัง ซึ่งถ้าเกิดว่าหญิงสาวเล่นตัว และไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมแบบไหนทำให้เธอใจอ่อน ส่วนเรื่องที่เธอมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของเราสองคน ทำไมถึงไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง เขาขอไม่ตอบตอนนี้ก็แล้วกัน แต่มีเหตุผลแน่นอน"หนูยังเก็บของไม่เสร็จเลยค่ะ พ่อเลี้ยงไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้นะคะ"เธอเอ่ยออกมาพร้อมกับเหลือบสายตาหันไปมองพ่อเลี้ยงภวิน ที่ตอนนี้เข้ามาซ้อนอยู่ข้างหลังสวมกอดเอวเล็กเอาไว้แน่น มือหนาค่อย ๆ บีบเคล้นหน้าอกอย่างหื่นกระหาย"อยากอาบด้วยกันนี่นา ไปเถอะเดี๋ยวค่อยมาเก็บ"พูดจบเขาก็อุ้มหญิงสาวโดยที่ใช้มือหนาทั้งสองข้างโอบรอบเอวเอาไว้ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาทั้งอย่างนั้น มินนี่ถึงกับตาโตแต่ทว่าทำอะ
หกปีต่อมา...บอกเลยว่าไร่ภวินแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวายของจริง เมื่อหกปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของบ้าน ชื่อหนูน้อยภูมินทร์แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในไร่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าคุณตา และคุณยายด้วย แต่ทว่า..."อย่าแย่งกันดิ! พี่บอกว่าอย่าแย่งกันไง!"เสียงตะโกนเสียงดังลั่นของภูมินทร์ดังขึ้น จนคนเป็นแม่ถึงกับต้องหันไปมอง เด็กแฝดจอมซนทั้งสามคนกำลังแย่งของเล่นกันอยู่ ทั้งที่คนเป็นพ่อซื้อมาให้เหมือนกันแล้ว เล่นเอาปวดหัวทั้งวันทั้งคืน จนรู้สึกท้อไปหมด"เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็ภูวดลมีแล้วไม่ใช่เหรอ อยู่ตรงนั้นไงทำไมไม่เล่น จะมาแย่งของเราทำไม""เอาให้น้องไปเถอะภูเวียง""ไม่ให้หรอก ทำไมต้องให้ด้วย""ภูพิงค์ก็ไม่ให้หรอก ของตัวเองก็มีเล่นสิ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่นะ"เด็กน้อยอายุอานามได้สี่ขวบกว่า ซึ่งคลอดออกมาเป็นเด็กแฝดสาม กำลังทำการเจรจาแย่งของเล่นกันอยู่ มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมใคร จะต้องให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง จนพี่น้องด้วยกันถึงกับเอือม"พี่ภูมินทร์ดูสิ พวกเขาไม่ให้ของเล่นผม""ของเราก็อยู่นี่ไง มันก็เหมือนกันแหละดูสิ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ทำไมเราถึงต้องอยากไปเล่นของคนอ
ใช้เวลาในการอยู่ในงานแต่งเกือบทั้งวัน จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มินนี่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนที่นอนโดยที่ชายหนุ่มสวมกอดเธออยู่ทางด้านหลัง จ้องมองของขวัญตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา"ทำไมของขวัญเยอะขนาดนี้เนี่ย คืนนี้เราจะแกะกันหมดไหมคะ""ก็ค่อย ๆ แกะก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก ของส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ถ้าหนูว่างก็ค่อยมานั่งแกะก็ได้""เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งแกะดูค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาแกะต่อ ว่าแต่มินนี่มีของขวัญวันแต่งงานให้พ่อเลี้ยงด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะอยากได้หรือเปล่า"เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับมึนงงในท่าทีของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขา"อยากได้สิ อะไรที่หนูให้พี่ก็อยากได้ทั้งนั้น แล้วทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น เริ่มระแวงแล้วนะ""เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย นี่ค่ะเอาไปแกะดู"เธอส่งกล่องบางอย่างไปให้เขาในมือ เป็นกล่องเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีราคาอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะมันมีความหมายกั
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฤกษ์งามยามดีในการแต่งงานของคู่บ่าวสาว ระหว่างพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน กับหนูมินนี่ สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก ทุกคนจะทราบดีว่าเธอแอบชอบพ่อเลี้ยงภวินมาแต่ไหนแต่ไร ตามติดตั้งแต่เด็กจนในที่สุดเธอก็สมหวัง ทั้งสองคนได้เข้าพิธีแต่งงานในเช้าอันสดใส ฤกษ์งามยามดีคือเวลา 9:09 น.ขบวนขันหมากเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่ โดยข้างในนั้นมีคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวรออยู่ ส่วนมินนี่เธออยู่ในชุดไทย ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทองดูสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย"พี่เขามาแล้วลูก""มาแล้วเหรอคะคุณแม่"หญิงสาวจ้องมองออกไปยังประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองสบตากับว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าของว่าที่ภรรยา ก็ยิ้มออกมาทันทีแถมยังมองตาแทบไม่กระพริบ จนคุณแม่ต้องสะกิด"มาเปิดประตูเงินประตูทองก่อน มองน้องตาค้างเชียวนะ รีบ ๆ เอาซองให้เขาไป จะได้เข้าไปหาน้องไง""ได้ครับแม่"เขารีบส่งซองไปให้เด็กที่ถือประตูเงินประตูทอง ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ และในที่สุดเขาก็ได้เข้าไปถึงในตัวบ้าน ซึ่งข้างในนั้นถูกตระเตรียมไว้สำหรับพิธีการในวันนี้"มินนี่... ทำไมหนูสวยจัง""พ่อเลี้ยงก็หล่อค่ะ"และเมื่อช
และในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี สองพี่น้องถูกพ่อกำนันส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกเป็นเวลาประมาณสามปี จะได้ดัดนิสัยให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง คงเลี้ยงแบบตามใจมานาน จนรู้ว่านิสัยเสียจนกู่ไม่กลับ ถึงได้ส่งไปดัดสันดานด้วยการให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักพัก"คนสวยของพี่ ไปเดินเล่นกันไหมคะ"วันนี้พ่อเลี้ยงภวินมีเวลาให้กับว่าที่ภรรยาทั้งวัน งานแต่งงานของเขาทั้งสองคนจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สถานที่ถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่เป็นคนจัดสรรให้ทุกอย่าง"ไปสิคะ"เธอยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับตรงหน้า พ่อเลี้ยงภวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือคนรักเอาไว้ พากันเดินออกจากตัวบ้าน ขับรถกอล์ฟวนเล่นในไร่พรางคุยกันไป"ไหนบอกว่าพาไปเดินเล่นไงคะ ขับรถวนเป็นรอบแล้วมั้ง""ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวพี่พาหนูไปเดินเยอะก็บ่นอีกว่าเหนื่อย ขับรถเที่ยวเล่นแบบนี้ก็ดีนี่ อากาศเย็นสบายหนูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย""ก็จริงนะคะ ช่วงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครมาตามก่อกวน ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก เป็นชีวิตที่สงบสุขดีนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะยื่น
พ่อเลี้ยงภวินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องนอน กะว่าจะหาอะไรให้มินนี่กิน เนื่องจากว่าเธอคงรู้สึกเหนื่อยจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะตื่นเลย แต่ทว่าก่อนที่จะได้ทำอะไร ก็ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน เขาเดินลงมาชั้นล่าง จ้องมองไปยังสามคนพ่อลูก ที่ตอนนี้ถือพานธูปเทียนเดินเข้ามาพร้อมกัน"กำนัน... มีอะไรหรือเปล่า""ฉันพาลูก ๆ มาขอขมาพ่อเลี้ยงภวินจ้ะ แล้วหนูมินนี่ล่ะไม่อยู่ด้วยกันเหรอ"ใบหน้าของพ่อเลี้ยงดูไม่ค่อยจะรับแขกสักเท่าไหร่ จ้องมองไปยังมังกรอย่างเคียดแค้น และรู้สึกโกรธที่เขาคิดร้ายต่อว่าที่ภรรยา"ยังไม่ตื่นหรอกเธอพักผ่อนอยู่ เอางี้ละกันกำนันกับลูกไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวผมจะไปตามมินนี่""ได้จ้ะ ตามสบายเลยนะจ๊ะ"สามคนพ่อลูกรีบพากันไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ส่วนพ่อเลี้ยงภวินเขาเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูสดใสขึ้นจากเมื่อคืน"คนสวยยิ้มได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ พ่อเลี้ยงตื่นไม่เรียกมินนี่เลย แล้วออกไปไหนมาคะ""ก็ว่าจะไปหาของอร่อยมาให้หนูกิน แต่ว่ากำนันกับลูกมานั่งรออยู่ข้างล่าง หนูจะออกไ
พ่อเลี้ยงภวินพาว่าที่ภรรยาเดินทางกลับมาที่ไร่ และโกรธตัวเองมากที่พาเธอไปพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนั้น ตลอดทางเขาโอบกอดเธอไว้ ทั้งรัก และห่วงกลัวว่าเธอจะคิดมาก แต่ดูจากความแสบซ่าก็น่าจะพอหายห่วงได้"พ่อเลี้ยงรู้ไหมคะว่าไอ้มังกรมันกระโจนเข้ามาหามินนี่ค่ะ มันจะปล้ำมินนี่ตรงกำแพง มินนี่ก็เลยเอาเท้าถีบท้องมันกระเด็นหงายหลังเลยค่ะ""...""แล้วจากนั้นมินนี่ก็เอาเท้ากระทืบ กระทืบ กระทืบ กระทืบมันเลยค่ะ""เรากรีดร้องอย่างกับคนโดนเชือดเพื่ออะไร พี่ก็พอรู้ว่ามินนี่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็เลยรอดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดจะทำอะไร"มินนี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของว่าที่สามีด้วยความสงสัยในประโยคคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง ที่เขาบอกว่าเราดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดที่จะทำอะไร"พ่อเลี้ยงหมายถึงอะไรคะ แสดงว่าเห็นแล้วใช่ไหมว่ามินนี่ถูกลากเข้าห้อง""ก็พี่รู้สึกเอะใจแล้วก็เป็นห่วงก็เลยตามออกไป พอเห็นมินนี่เดินออกห้องน้ำมากำลังจะเดินไปหา ใครจะคิดว่าจะถูกใครก็ไม่รู้ลากเข้าไปที่ห้อง พี่ให้กรถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะคนที่อยู่หน้าห้องตอนนั้นคือลิ้นจี่ เห็นว่ายังไม่มีใครเข้าไปในห้องนั้นก็เลยรอดูไปก่อน
เสียงโวยวายพี่อยู่ข้างในทำให้คนข้างนอกถึงกับยิ้มออกมาด้วยความสะใจ นางตัวดีไปเรียนเมืองนอกเมืองนาถ้าได้ผัวฝรั่งกลับมาก็จบแล้ว ยังคิดที่จะมายุ่งวุ่นวายกับพ่อเลี้ยงภวินอีก มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ"อยู่ในนั้นไปแหละนางตัวดี เดี๋ยวฉันจะทำให้แกขึ้นสวรรค์ จะได้เลิกยุ่งกับพ่อเลี้ยงภวินของฉันสักที แกจองมาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นเหรอ ฉันก็จองมาตั้งแต่เด็กเหมือนกันยะ! ชิ~"เธอบ่นออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้คนที่อยู่ภายในห้องร้องโวยวายออกมา แต่ทว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมานั้นไม่ได้ดังจนทำให้คนในงานแตกตื่น เนื่องจากว่าห้องที่ถูกขังไว้ค่อนข้างเก็บเสียงพอสมควรมินนี่ยังคงมีความพยายามในการเคาะประตูส่งเสียงเรียกให้คนข้างนอกผ่านมาได้ยิน จะได้ช่วยเธอออกไป ดูเหมือนว่ามันจะไร้ผล เธอทรุดลงนั่งอยู่ที่พื้น กอดขาของตัวเองเอาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้ออกมา"ฮืออออออ! ใครก็ได้ช่วยมินนี่ทีค่ะ"เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก็รู้สึกเหมือนมีใครเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีคนมาช่วยแล้ว แต่ทว่าก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะคนที่เข้ามาใหม่คือมังกร พี่ชายของลิ้นจี่ซึ่งเขาแอบชอบเธออยู่
พ่อเลี้ยงภวินกุมมือว่าที่ภรรยาเดินเข้ามาหากำนันที่ยืนรออยู่ตรงทางเข้า เขา และลูกสาวปั้นหน้ายิ้มทั้งที่ในใจมีคำถามอยู่เต็มไปหมด"สวัสดีครับกำนัน สุขสันต์วันเกิดนะครับขอให้มีความสุขมาก ๆ""สวัสดีค่ะพ่อกำนัน มีความสุขมาก ๆ นะคะสุขสันต์วันเกิดค่ะ""ขอบคุณมากเลยนะครับพ่อเลี้ยงภวินที่มาในวันนี้ เป็นเกียรติมากเลย ขอบคุณหนูมินนี่ด้วยนะ อย่างนั้นเดี๋ยวเรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเชิญด้านในเลย""ได้เลยครับ"พ่อเลี้ยงภวินหันไปยิ้มให้กับลิ้นจี่ ลูกสาวของกำนัลพุดตาน คนนี้ก็แอบชอบเขาอยู่เหมือนกัน และอายุอานามก็ไล่เลี่ยกับมินนี่ด้วย คนมันหล่อก็อย่างนี้แหละ มีแต่เด็กสาวมาชอบ แต่ทว่าตอนนี้เขามีว่าที่ภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เดือนหน้าก็จะแต่งงานกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเข้ามากี่คน เขาก็ไม่เหลียวมองทั้งนั้น"กำนันครับเดี๋ยวเดือนหน้าผมจะแต่งงานกับมินนี่แล้ว ยังไงจะส่งการ์ดเชิญมาให้อีกทีหนึ่งนะครับ แต่ผมจะแจ้งไว้ก่อน""แต่งงานเหรอครับ! เร็วจังเลยนะครับเดือนหน้าเลยเหรอ""ตะ...แต่งงาน!"ลิ้นจี่กับกำนันถึงกับอึ้งไปเลยเพราะไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงภวินจะประกาศแต่งงานเร็วขนาดนี้ แล้วยัยมินนี่เพิ่
หลังจากที่คุยกันถึงเรื่องราวความเป็นมา ได้ปรึกษาพูดคุยกันก็ทำให้เพื่อนทั้งสี่คนรู้สึกโล่งอกสบายใจขึ้นเยอะ ส่วนมินนี่เธอก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มให้กับทุกคน ปล่อยให้เพื่อนนั่งคุยกันไปไม่ได้วุ่นวายอะไร คอยบริการเทคแคร์อย่างดี จนทำให้เพื่อนของพ่อเลี้ยงภวินรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยคนนี้"มึงทำบุญด้วยอะไรวะ ถึงได้เมียเด็กแล้วก็เพอร์เฟคขนาดนี้เนี่ย""นั่นดิ ถ้ากูเป็นน้องมินนี่นะ ไปหาผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกันดีกว่า แก่แบบมึงกูไม่เอาหรอก""มึงเด็กอยู่มั้ง ไม่แก่เลยเนาะ อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเลี้ยงเด็กนะไอ้ชรัณ กูล้อมึงแน่""ไร้สาระน่า"ชรัณถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อถูกพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินจับผิด ดูเหมือนว่าทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเรื่องของใครของมัน ความเป็นเพื่อนจะไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน และกัน แล้วก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนด้วย"เอาเถอะมันเป็นเรื่องของใครของมัน จัดการปัญหาชีวิตกันเองก็แล้วกัน แล้วก็เดือนหน้าเตรียมตัวให้ว่างด้วยนะ มางานแต่งงานกูให้ได้ล่ะ""เออน่าไม่ลืมหรอก ยังไงฝากน้องมินนี่ดูแลเพื่อนรักพี่คนนี้ด้วยนะ ก็คนแก่มันจะขี้น้อยใจ เอาใจมันเยอะ ๆ ล่ะ""แหม่!