หลังจากที่พ่อเลี้ยงภวินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาอะไรกินในช่วงเย็น เนื่องจากว่าตอนเที่ยงที่ผ่านมาไม่มีอะไรตกถึงท้อง เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการส่งไวน์ให้ร้านคู่ค้า ไหนจะต้องส่งองุ่นให้ห้างสรรพสินค้าอีก ชีวิตในแต่ละวันวุ่นวายแทบจะไม่ได้มีเวลาทำอย่างอื่น
"ป้าสมพิศมีอะไรให้ผมกินบ้างเย็นนี้"
เขาตะโกนเรียกป้าสมพิศ เธอคือแม่บ้านที่คอยดูแลบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่แห่งนี้ เป็นคนเก่าแก่ที่อยู่กับเขามานาน และก็มีแม่บ้านคนอื่นอีกหลายคน ไร่ภวินแห่งนี้มีพนักงานโดยรวมหลายร้อยคน เขาต้องคอยดูแลให้ทั่วถึง ส่งเสียลูกหลานของพนักงานเรียนหนังสือ โชคดีที่ธุรกิจของเขาไปได้ดี จึงมีเงินเหลือมาคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายของลูกน้อง รวมถึงอาหารการกิน ไหนจะที่พักอีก ไม่มีใครดูแลพนักงานได้ดีเท่าไร่ภวินแห่งนี้อีกแล้ว
"ใจเย็นก่อนเจ้า ตอนนี้คุณหนูมินนี่กำลังเข้าครัวอยู่ พ่อเลี้ยงนั่งรออีกสักแป๊บได้ไหมเจ้า"
"เมื่อกี้ป้าสมพิศบอกว่าใครเป็นคนเข้าครัวนะ"
ดูเหมือนว่าเขาจะหูฝาดไปชั่วขณะ จึงต้องเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คนอย่างมินนี่นะเหรอจะเข้าครัวทำกับข้าว ตั้งแต่รู้จักกันมายัยเด็กคนนี้ไม่ชอบเข้าครัวที่สุด
"ใช่แล้วเจ้า ไปเรียนเมืองนอกเมืองนามาเกือบสองปี กลับมาอีกทีทำกับข้าวเก่งมากเลยเจ้า สงสัยในระหว่างที่ว่างน่าจะไปเรียนทำอาหารมา กลิ่นหอมฉุยเลยเจ้าพ่อเลี้ยง"
"น่าจะหอมแค่กลิ่นแหละ สภาพน่าจะกินไม่ได้ ทำไมผมจะต้องฝากท้องของตัวเองกับยัยเด็กนั่นด้วย ถ้าเกิดว่าผมท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไง ผมว่าป้าสมพิศไปหาอะไรให้ผมกินดีกว่า ผมไม่อยากเสี่ยง"
เขาทำท่าขนลุกขนพองเมื่อนึกถึงว่าตัวเองจะต้องกินอาหารฝีมือของมินนี่ คนที่ไม่มีความคิดอยากจะเข้าครัวมาตั้งแต่เด็ก ผ่านไปแค่สองปีไม่มีทางหรอกที่จะทำให้มันอร่อยขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นเขาขอไม่เสี่ยงดีกว่า
"ป้าสมพิศคะอาหารเรียบร้อยแล้วค่ะ เรียกพ่อเลี้ยงออกมาได้เลยค่ะจะได้กินข้าวเย็นกัน"
น้ำเสียงเล็กดังขึ้นมาจากในห้องครัว ป้าสมพิศได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหันมามองเจ้านายที่ตอนนี้ทำท่าทางเหมือนไม่อยากจะกินมัน
"เปิดใจหน่อยสิเจ้าพ่อเลี้ยง ป้าว่าคุณหนูมินนี่ต้องทำมันออกมาดีแน่เลยเจ้า ถ้าอย่างนั้นพ่อเลี้ยงไปนั่งรอที่ห้องอาหารเลยนะ เดี๋ยวป้าสมพิศจะให้เด็กไปจัดโต๊ะให้เจ้า"
เมื่อป้าสมพิศพูดจบก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที รีบไปช่วยมินนี่จัดจาน จากนั้นก็ให้เด็กนำไปวางที่โต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ส่วนพ่อเลี้ยงภวินก็คิดว่าจะลองชิมอาหารฝีมือของมินนี่สักคำ ถ้าเกิดว่ากินไม่ได้เขาจะด่าให้ฉ่ำเลย
ทางด้านของมินนี่เธอเพิ่งทำซีซ่าสลัด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าของโปรดของพ่อเลี้ยงภวิน แล้วก็มียำรสจัดที่ชายหนุ่มชอบกินอีก สำหรับมินนี่ไม่มีอะไรที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับพ่อเลี้ยง เดินตามต้อย ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตรู้ทุกการเคลื่อนไหวของเขา จนแทบจะเป็นคนเดียวกันแล้ว
"เอาไปเสิร์ฟได้เลยค่ะ"
"คุณหนูจะกินข้าวกับพ่อเลี้ยงไหมเจ้า"
"กินค่ะเดี๋ยวหนูล้างมือแป๊บนึงแล้วเดี๋ยวตามเข้าไปในห้องอาหารนะคะ"
"ได้เลยเจ้า"
มินนี่ยิ้มกว้างออกมาภูมิใจในเมนูอาหารที่ทำในวันนี้ เธอเป็นคนที่เกลียดการเข้าครัวมากที่สุด แต่ทว่าตัดสินใจที่จะไปเรียนทำอาหาร เพราะพ่อเลี้ยงชอบกินข้าวที่บ้านเป็นหลัก นานทีปีหนชายหนุ่มถึงจะออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างนอก เธอรีบเดินไปล้างไม้ล้างมือจากนั้นก็รีบเข้าไปหาชายหนุ่มที่ห้องอาหารเพราะเกรงว่าอาจจะรอนาน
"มาแล้วค่ะ"
หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องอาหาร เจอชายหนุ่มกำลังจ้องมองอาหารตรงหน้า ทำท่าทีเหมือนกลืนไม่ลงยังไงอย่างนั้น
"ทำไมทำหน้าเหมือนว่าอาหารตรงหน้ามันกินไม่ได้คะ ไม่ต้องกลัวหรอกมินนี่ไม่ใส่ยาเสน่ห์เข้าไปหรอกค่ะ"
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะขยับตัวนั่งลงตรงข้ามกับเขา ดูจากใบหน้าของชายหนุ่มก็คงกำลังคิดว่าจะหาเรื่องว่าร้ายอะไรเธออีก และในความคิดของเขาในตอนนี้ก็คงมีแค่อยากจะคอมเม้นต์ว่าอาหารตรงหน้ามันกินไม่ได้
"มันจะกินได้หรือเปล่าเนี่ย คงได้ให้ป้าสมพิศไปทำมาใหม่ซะแล้วละมั้ง"
เขาทำหน้ากวนประสาทหญิงสาว ก่อนจะหยิบส้อมบนจานของตัวเอง ลองตักสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าที่เป็นของโปรด ถ้าเขาอยากจะกินอาหารสไตล์ยุโรปต้องออกไปกินที่ร้านอาหารข้างนอก เพราะแม่บ้านที่นี่ไม่มีความสามารถในการทำของอร่อยที่เขาต้องการได้ ทุกวันนี้ได้กินแค่อาหารไทยเพียงเท่านั้น
จากนั้นก็เอาอาหารใส่เข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ย ทว่ากัดเข้าไปคำแรกทำเอาพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินถึงกับอึ้งไป มันเป็นรสชาติอาหารยุโรปแบบแท้จริง ไม่ใช่สูตรฉบับปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย ซึ่งมันหากินยากมากในประเทศนี้
"อร่อยไหมคะ"
หญิงสาวเท้าคางจ้องมองว่าที่สามีในอนาคตด้วยรอยยิ้มกว้าง สองปีที่ผ่านมาเธอไม่ได้เรียนแค่ปริญญาโทเพียงอย่างเดียว แต่เธอไปเรียนทำอาหารยุโรปกับเชฟมิชลินสตาร์ เชื่อเถอะว่าพ่อเลี้ยงภวินจะต้องหลงเธอหัวปักหัวปำในอนาคตแน่ เพราะว่าเธอรู้ใจเขาแทบทุกอย่างยังไงล่ะ
"ก็งั้น ๆ แหละ ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหนเลย"
ปากบอกไม่อร่อยแต่ตักกินไม่หยุดเลย มินนี่เห็นแบบนั้นก็กลั้นยิ้มพยายามไม่แสดงออกเพื่อให้เขาเห็น เพราะถ้าเกิดเธอแสดงท่าทีออกไปเกินงาม เขาจะหยุดกินอาหารตรงหน้าทันที
"เอาไว้มินนี่จะพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นกว่านี้นะคะ จะทำให้พ่อเลี้ยงหลงหัวปักหัวปำไปไหนไม่รอดเลย"
หญิงสาวยิ้มออกมาก่อนจะยื่นมือไปเขี่ยหลังมือของชายหนุ่มอย่างหยอกล้อ พ่อเลี้ยงถึงกับสะดุ้งรีบดึงมือของตัวเองไปซ่อนไว้ข้างหลัง รู้สึกขนกายลุกซู่อย่างประหลาด เมื่อได้รับสัมผัสจากยัยเด็กเมื่อวานซืนตรงหน้า
"อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะเว้ย"
"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะคะ อีกหน่อยมินนี่ก็จะต้องเป็นเมียของพ่อเลี้ยง ตั้งแต่เด็กจนโตมาอายุ 25 ปี มินนี่รักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ให้พ่อเลี้ยงโดยเฉพาะเลยนะคะ ไม่อยากจะลองของสดใหม่เหรอ หืม..."
เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก จ้องมองสบตาของพ่อเลี้ยงด้วยแววตาหวานฉ่ำ แต่ทว่าคนตรงหน้าตั้งแง่รังเกียจเธอ แถมยังพูดจาไม่น่ารักต่อหน้าบรรดาแม่บ้านทั้งหลาย
"อยากเป็นเมียฉันนักก็เป็นไปเลย คอยดูเถอะจะปล่อยให้เหี่ยวเฉาน้องสาวไม่ได้ใช้การ กลายเป็นซากฟอสซิลที่มีแต่ฝุ่นเกาะ"
"อร๊าย! ทำไมพ่อเลี้ยงปากร้ายแบบนี้คะ"
หญิงสาวจิปากออกมาอย่างขัดใจ อุตส่าห์เอาความสาวความสวยเข้าอ่อย แต่ทว่าคนใจร้ายยังคงปากดีไม่เลิก มันน่าตีปากด้วยปากจริง ๆ เลย ให้ตายสิ
"หึ... ไม่เชื่อก็ลองดู"
"งั้นก็มาดูกันค่ะ ว่าพ่อเลี้ยงกับมินนี่ใครจะตบะแตกก่อนกัน"
ตาแก่คนไหนก็ไม่รู้ปากบอกว่าอาหารไม่อร่อยถูกปาก แต่ทว่าเมนูที่อยู่บนจานบัดนี้ลงท้องเขาไปหมดแล้วแทบไม่เหลือแม้แต่นิดเดียว"โอ้โห นี่ขนาดไม่อร่อยนะคะเนี่ย ถ้าอร่อยไม่ต้องเลียจานกันเลยเหรอคะ"หญิงสาวเอ่ยแซวว่าที่สามีในอนาคตพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยความขำขัน ดูเอาเถอะคนที่ปากบอกว่ารสชาติแย่มาก เป็นคนเดียวกับที่กินทุกอย่างตรงหน้าจนหมดแทบไม่เหลือ"เสียดายของหรอก ผักเนี่ยก็คงจะเก็บที่แปลงมาสินะ รู้หรือเปล่าว่าฉันปลูกแบบออแกนิคอย่างดี ยาฆ่าแมลงไม่เคยได้เข้าใกล้ ใช้ปุ๋ยแบบธรรมชาติ เข้าใจป่ะว่าของมันมีราคา จะปล่อยให้เททิ้งก็เสียดายของ"ตาแก่ปากดีบ่นออกมาก่อนจะยกน้ำเย็นขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ลูบท้องตัวเองป้อย ๆ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้น บิดขี้เกียจเล็กน้อยว่าจะออกไปเดินเล่นตรงหน้าบ้าน เพราะรู้สึกว่ามื้อนี้กินเยอะจนเกินไป ถ้าถามว่ารสชาติเป็นแบบไหนคือมันอร่อยเลยแหละ แต่ไม่อยากชมเดี๋ยวเด็กมันจะเหลิง"จะออกไปเดินเล่นข้างนอกนะ ถ้าจะกลับบ้านก็ให้คนขับรถไปส่งก็แล้วกัน"ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้องอาหาร แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงของยัยเด็กเมื่อวานซืนเอ่ยออกมาเสียก่อน"คุณป้าบอกว่าตั้
มินนี่รู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก นึกว่าการที่ชายหนุ่มเดินเข้ามาเห็นเธอกำลังอาบน้ำเปลือยเปล่าทั้งตัว จะกระโจนเข้ามาจับเธอทำเมียซะอีก สรุปว่าเธอประเมินเขาต่ำไปหน่อย พ่อเลี้ยงภวินใจแข็งกว่าที่เธอคิด จึงทำให้แผนการอาบน้ำอ่อยเขาไร้ผล"ผ้าเช็ดตัวพาดอยู่ตรงนี้นะ แล้วนี่เสื้อผ้าของฉันให้ยืมใส่ก่อน ไม่ต้องมาแก้ผ้าอ่อยหรอกไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว เข้าใจ๋?"เขาเอ่ยออกมาก่อนจะรีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำทันที เนื่องจากว่าปฏิกิริยาทางร่างกายสวนทางกับคำพูดอันปากดีของเขา"จะแข็งทำไมวะ สงสัยต้องทำสมาธิว่ะ"และเมื่อเขานึกได้แบบนั้นก็รีบเดินไปนั่งตรงโซฟา ขัดสมาธิแล้วเอามือซ้ายกับขวาวางไว้บนเข่าทั้งสองข้าง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ท่องพุทโธในใจ เพื่อให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่านไปกับสิ่งเร้า"ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก"มินนี่ที่สวมใส่เสื้อผ้าของชายหนุ่มเสร็จเรียบร้อย ก็ถือผ้าขนหนูเดินออกมาก่อนจะเลิกคิ้วจ้องมองไปยังโซฟาตรงใจกลางห้องนอน ซึ่งตอนนี้พ่อเลี้ยงภวินกำลังนั่งขัดสมาธิ มือซ้าย และมือขวาวางอยู่เหนือเข่าทั้งสองข้าง หลับตาลงท่องลมหายใจเข้าออกเหมือนกำลังทำสมาธิอยู่"พ่อเล
ดูเหมือนว่าครั้งนี้มินนี่จะจริงจังกว่าครั้งที่ผ่านมา เพราะโดยปกติไม่ว่าชายหนุ่มจะปฏิเสธเสียงแข็งขนาดไหน เธอก็ยังคงตื้อเขาไม่เลิก แต่ทว่าครั้งนี้ดูหญิงสาวจะเด็ดขาดไม่น้อยเลย นั่นทำให้เขาต้องระวังคำพูดมากขึ้น เพราะถ้าพูดอะไรที่พลาดไปอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง"จะจริงจังทำไมเนี่ย ไปนอนได้แล้วไป๊... ดึกแล้ว""ยังไม่ดึกหรอกค่ะ แค่พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับมินนี่ ก็สามารถกลับบ้านได้เลยค่ะเวลานี้""อย่ากดดันดิวะ จะเอาอะไรกับฉันเนี่ย"เขาเริ่มแสดงสีท่าหงุดหงิดเหมือนอย่างที่เคยทำโดยปกติ แต่ทว่าครั้งนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะไม่ยอมอ่อนลงเหมือนอย่างที่เคย ใบหน้าสวยยังคงจ้องมองเขาด้วยความกดดันในคำตอบ"จะมาคาดคั้นเอาอะไรเนี่ย""แล้วพ่อเลี้ยงจะบ่ายเบี่ยงทำไมคะ ก็แค่ตอบมาคำเดียวเอง"ทั้งสองคนจ้องมองใบหน้ากัน และกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จ้องกันอยู่นานพอสมควรจนดูเหมือนว่าจะมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ขยับเข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าตอนนี้จะตกอยู่ในภวังค์ของกัน และกัน มือของมินนี่ทั้งสองข้างค่อย ๆ โอบรัดท้ายทอยของชายหนุ่ม และมือของพ่อเลี้ยงภวินเลื่อนขึ้นมาจับเอวเล็กเอาไว้ทั้งส
และกว่าที่เธอจะปรับตัวได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายนาที จนในที่สุดหญิงสาวก็เริ่มคุ้นชินกับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมา ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบ แต่ทว่ามันทำให้ผู้ชายที่อยู่ใต้ร่างกลับรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย เพราะน้องสาวเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง ทำให้ท่อนเอ็นตอดรัดจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ"ขยับเร็วกว่านี้ฉันเสียว""ใจเย็นสิคะ คุณไม่ให้หนูทำความคุ้นชินกับมันหน่อยหรือไง อ้าส์"เธอร้องครางออกมาเสียงกระเส่า ก่อนจะถูกชายหนุ่มจับถอดเสื้อแล้วก็ปาทิ้งไปติดกำแพง และเมื่อเห็นเนินปทุมถันที่เขาเล็งไว้ในช่วงเย็น ก็ใช้ริมฝีปากเข้าไปรัวลิ้นใส่เม็ดทับทิมสีชมพูอย่างหื่นกระหาย ดูดดึงอย่างแรงจนหญิงสาวถึงกับกัดริมฝีปากด้วยความเสียว ท้องน้อยร้อนวูบวาบเมื่อท่อนเอ็นขนาดใหญ่กระแทกเข้ามาในแต่ละที"พ่อเลี้ยงขาาาา""ฉันเสียวไม่ไหวแล้ว เธอขยับแรงกว่านี้ อื้อ"และเมื่อชายหนุ่มร้องขอแบบนั้น หญิงสาวก็จัดให้โดยไม่มีบ่น สะโพกเล็กค่อย ๆ ขยับขึ้นลงด้วยความคุ้นชินกับขนาดของเขา เงยหน้าขึ้นพร้อมกับตาลงก่อนจะขย่มใส่ท่อนเอ็นจนพ่อเลี้ยงภวินแทบลืมหายใจ เพราะตอนนี้มีแต่ค
หลังจากที่เคลียร์กันลงตัวทั้งสองคนก็พากันไปอาบน้ำ แช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่นมองบรรยากาศโดยรอบผ่านกระจกใส เนื่องจากว่าห้องน้ำของพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน สามารถปรับให้มองเห็นบรรยากาศข้างนอกได้ด้วย เป็นกระจกอัจฉริยะเปลี่ยนจากทึบเป็นใสได้ผ่านระบบคำสั่งเสียง หรูหราสมฐานะเจ้าของไร่องุ่น 100 ไร่"แล้วแบบนี้คนอื่นเขาจะเห็นเราอาบตามด้วยกันไหมคะ"หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับตีฟองเล่นอยู่ในอ่าง โดยมีชายหนุ่มนั่งซ้อนอยู่ทางด้านหลัง มือหนาทั้งสองข้างบีบเคล้นเต้านมอวบอย่างรู้สึกเพลินมือ ไม่คิดที่จะละออกจากตัวเธอแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว"ไม่มีใครเห็นหรอกน่า ที่นี่ชั้นสองสูงขนาดนี้ด้วย เดี๋ยวพี่จะต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้ว มินนี่จะไปไหนต่อล่ะ หรือว่าจะเข้าไปในไร่ด้วยกัน""ไปค่ะ อยากไปเดินเล่นเพราะว่าอยู่ที่บ้านก็เบื่อ""จำได้ใช่ไหมว่าเราสองคนตกลงอะไรกันไว้ ไหนลองทบทวนความจำหน่อย"เขาเอ่ยถามย้ำหญิงสาวอีกครั้ง เพราะยัยเด็กคนนี้มันร้ายกว่าที่คิด ความลับไม่มีจริงหรอกสำหรับมินนี่ เพราะฉะนั้นจะต้องตกลงกันให้ดีก่อน"รู้แล้วค่ะมินนี่ไม่บอกใครหรอกว่าเราสองคนมีอะไรกันแล้ว เอาเป็นว่าพ่อเลี้ยงมั่นใจได้เลยนะคะว่ามินนี่จะไม่พูดอะไร
หลังจากที่ทั้งสองคนกินข้าวด้วยกันเสร็จ ก็พากันนั่งรถกอล์ฟขับเข้าไปในไร่ ซึ่งวันนี้ชายหนุ่มจะต้องเข้าไปประชุมกับพนักงานคนอื่น เพราะอีกสองวันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงประจำปีที่ไร่ภวิน และช่วงบ่ายเขาจะต้องไปซื้อของจับฉลากให้กับพนักงาน ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะต้องใช้เงินหลายแสนบาท ส่วนโบนัสทุกสิ้นปีเขามีให้ทุกคนอยู่แล้ว ของจับฉลากในงานเลี้ยงก็เป็นเพียงแค่โบนัสพิเศษเฉพาะผู้โชคดีก็เท่านั้น ก็มีรางวัลปลอบใจเพิ่มเติมสำหรับคนที่ไม่ได้รางวัลใหญ่"พ่อเลี้ยงจะไปไหนเหรอคะ""เข้าไปที่ไร่ก่อน จะต้องไปประชุมกับพนักงานคนอื่น อีกสองวันจะมีงานเลี้ยงประจำปีของไร่ จะมาหรือเปล่าล่ะ""ไม่รู้จะมาทำไมค่ะ มินนี่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับที่ไร่นี้สักหน่อย"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะหันไปมองโดยรอบ ร้องซี๊ดออกมาเพราะรู้สึกเจ็บตรงช่วงล่าง ถ้าเกิดว่าก้มลงไปดูได้คงจะเห็นว่ามันแดงฉ่ำเป็นลูกตำลึง คนใจร้ายก็คงไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก แต่จะโทษใครได้เธอแรดอยากจะได้เขามาเป็นผัวเอง ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้"เป็นอะไรเรา ทำหน้าแบบนั้นทำไม""เจ็บค่ะ""เจ็บตรงไหน... ไหนพี่ดูหน่อย"ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือไปจับเรียวขาของหญิงสาวไว้
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เดินทางออกมาจากไร่ภวินตรงไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ในตัวเมือง โดยมีกร และคนงานอีกหลายคนขับรถตามมาด้วยเพราะต้องช่วยกันขนของกลับและในระหว่างที่มินนี่กำลังกดโทรศัพท์เล่นก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อมีมือปลาหมึกกำลังยุกยิกอยู่ตรงเรียวขาของเธอ หญิงสาวเหลือบสายตาหันไปมองเขาก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย"วุ่นวายอะไรกับหนูอีกคะ""จับไม่ได้หรือไง""อะไรของพ่อเลี้ยงค่ะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พออยู่ด้วยกันสองคนสะกิดบ่อยนะคะ ทำไมล่ะอยากได้มินนี่อีกยังไง สงสัยจะติดใจล่ะมั้ง"เธอเอ่ยแซวพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน ดวงตากลมโตจ้องมองไปยังเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวแต่อย่างใด มือหนาลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาต้องการเธอมาก ก็เลยคิดว่าอาจจะต้องเจรจากับว่าที่ภรรยาใหม่อีกรอบ"เย็นนี้ไม่กลับได้ไหม อยู่กับพี่เดี๋ยวจะดูแลอย่างดี""แล้วใครที่มันบอกว่าได้คืนเดียวก็พอ หืม"มินนี่กอดอกเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยความกดดัน ก็คิดไม่ผิดว่าถ้าเกิดพ่อเลี้ยงภวินได้กินเธอสักครั้ง ก็คงจะติดออกติดใจไปไหนไม่รอด แต่คนอย่างเธอไม่ยอมให้กินในที่ลับหรอก จะทำทุกวิธีเพื่อให้ชายหนุ่มคลั่งรักเธอต่อห
"เกิดอะไรขึ้นเหรอครับพ่อเลี้ยง"ลูกน้องคนสนิทหันมาเอ่ยถามเจ้านายเมื่อเห็นใบหน้าของเขาขมวดคิ้วเป็นปม ดูท่าทางเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบางอย่าง แต่คิดว่าคงไม่เลวร้ายเพราะดูจากลักษณะก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร"บัตรฉันเงินออกหลายล้านเลย ยัยเด็กแสบมันเอาไปรูดซื้ออะไรนักหนาเนี่ย ซื้อของไปก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปจัดการยัยตัวดีแป๊บนึง"เขาเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกมาจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า จากนั้นก็ตรงไปยังโซนขายของแบรนด์เนม ซึ่งพิกัดล่าสุดที่เธอใช้บัตรของเขารูดซื้อของก็คือร้านขายรองเท้าและดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเจอยัยตัวแสบแล้ว กำลังนั่งลองรองเท้าอยู่ในร้าน โดยที่ถุงหลายใบวางอยู่ข้างเธอ"คู่นี้เป็นสีพิเศษเหรอคะ""ใช่แล้วค่ะ หายากมากเลยนะคะเป็นรุ่นที่ทำออกมาไม่เยอะ ทางร้านเราก็ได้มาเพียงไม่กี่คู่เท่านั้นค่ะ""แบบนี้ต้องซื้อแล้วสิคะ งั้นเอาคู่นี้เลยค่ะเบอร์ 38"หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของพ่อเลี้ยงภวินกำลังยืนกอดอกจ้องมองใบหน้าของเธออยู่"มีอะไรเหรอคะพ่อเลี้ยง ซื้อของเสร็จแล้วเหรอ""ยังไม่เสร็จ แต่มีข้อความจากโทรศัพท์ว่ามีใครบางคนรูดเงินออกไปเกือบ 5 ล้าน ซื้ออะไรนักหนา
หกปีต่อมา...บอกเลยว่าไร่ภวินแห่งนี้มีแต่ความวุ่นวายของจริง เมื่อหกปีที่แล้วเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของบ้าน ชื่อหนูน้อยภูมินทร์แข็งแรงสมบูรณ์ เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในไร่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าคุณตา และคุณยายด้วย แต่ทว่า..."อย่าแย่งกันดิ! พี่บอกว่าอย่าแย่งกันไง!"เสียงตะโกนเสียงดังลั่นของภูมินทร์ดังขึ้น จนคนเป็นแม่ถึงกับต้องหันไปมอง เด็กแฝดจอมซนทั้งสามคนกำลังแย่งของเล่นกันอยู่ ทั้งที่คนเป็นพ่อซื้อมาให้เหมือนกันแล้ว เล่นเอาปวดหัวทั้งวันทั้งคืน จนรู้สึกท้อไปหมด"เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็ภูวดลมีแล้วไม่ใช่เหรอ อยู่ตรงนั้นไงทำไมไม่เล่น จะมาแย่งของเราทำไม""เอาให้น้องไปเถอะภูเวียง""ไม่ให้หรอก ทำไมต้องให้ด้วย""ภูพิงค์ก็ไม่ให้หรอก ของตัวเองก็มีเล่นสิ ไม่อย่างนั้นจะฟ้องแม่นะ"เด็กน้อยอายุอานามได้สี่ขวบกว่า ซึ่งคลอดออกมาเป็นเด็กแฝดสาม กำลังทำการเจรจาแย่งของเล่นกันอยู่ มันจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ยอมใคร จะต้องให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง จนพี่น้องด้วยกันถึงกับเอือม"พี่ภูมินทร์ดูสิ พวกเขาไม่ให้ของเล่นผม""ของเราก็อยู่นี่ไง มันก็เหมือนกันแหละดูสิ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันเลยสักนิด ทำไมเราถึงต้องอยากไปเล่นของคนอ
ใช้เวลาในการอยู่ในงานแต่งเกือบทั้งวัน จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งตอนนี้มินนี่ได้อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่บนที่นอนโดยที่ชายหนุ่มสวมกอดเธออยู่ทางด้านหลัง จ้องมองของขวัญตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจออกมา"ทำไมของขวัญเยอะขนาดนี้เนี่ย คืนนี้เราจะแกะกันหมดไหมคะ""ก็ค่อย ๆ แกะก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก ของส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นสินค้าที่สามารถเก็บไว้ได้นาน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ถ้าหนูว่างก็ค่อยมานั่งแกะก็ได้""เดี๋ยวคืนนี้จะลองนั่งแกะดูค่ะ ถ้าเกิดว่าไม่ไหวพรุ่งนี้ค่อยตื่นมาแกะต่อ ว่าแต่มินนี่มีของขวัญวันแต่งงานให้พ่อเลี้ยงด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าจะอยากได้หรือเปล่า"เธอเงยหน้าขึ้นมองสบตากับชายคนรัก ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์ จนทำให้พ่อเลี้ยงภวินถึงกับมึนงงในท่าทีของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เขา"อยากได้สิ อะไรที่หนูให้พี่ก็อยากได้ทั้งนั้น แล้วทำไมยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้น เริ่มระแวงแล้วนะ""เห็นหนูเป็นคนยังไงเนี่ย นี่ค่ะเอาไปแกะดู"เธอส่งกล่องบางอย่างไปให้เขาในมือ เป็นกล่องเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีราคาอะไรหรอก แต่เชื่อเถอะมันมีความหมายกั
และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ฤกษ์งามยามดีในการแต่งงานของคู่บ่าวสาว ระหว่างพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวิน กับหนูมินนี่ สาวสวยดีกรีนักเรียนนอก ทุกคนจะทราบดีว่าเธอแอบชอบพ่อเลี้ยงภวินมาแต่ไหนแต่ไร ตามติดตั้งแต่เด็กจนในที่สุดเธอก็สมหวัง ทั้งสองคนได้เข้าพิธีแต่งงานในเช้าอันสดใส ฤกษ์งามยามดีคือเวลา 9:09 น.ขบวนขันหมากเคลื่อนที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ใจกลางไร่ โดยข้างในนั้นมีคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าสาวรออยู่ ส่วนมินนี่เธออยู่ในชุดไทย ประดับตกแต่งด้วยเครื่องทองดูสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย"พี่เขามาแล้วลูก""มาแล้วเหรอคะคุณแม่"หญิงสาวจ้องมองออกไปยังประตูด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองสบตากับว่าที่เจ้าบ่าว ซึ่งเมื่อชายหนุ่มเห็นใบหน้าของว่าที่ภรรยา ก็ยิ้มออกมาทันทีแถมยังมองตาแทบไม่กระพริบ จนคุณแม่ต้องสะกิด"มาเปิดประตูเงินประตูทองก่อน มองน้องตาค้างเชียวนะ รีบ ๆ เอาซองให้เขาไป จะได้เข้าไปหาน้องไง""ได้ครับแม่"เขารีบส่งซองไปให้เด็กที่ถือประตูเงินประตูทอง ต่อรองกันอยู่พักใหญ่ และในที่สุดเขาก็ได้เข้าไปถึงในตัวบ้าน ซึ่งข้างในนั้นถูกตระเตรียมไว้สำหรับพิธีการในวันนี้"มินนี่... ทำไมหนูสวยจัง""พ่อเลี้ยงก็หล่อค่ะ"และเมื่อช
และในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี สองพี่น้องถูกพ่อกำนันส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอกเป็นเวลาประมาณสามปี จะได้ดัดนิสัยให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง คงเลี้ยงแบบตามใจมานาน จนรู้ว่านิสัยเสียจนกู่ไม่กลับ ถึงได้ส่งไปดัดสันดานด้วยการให้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองสักพัก"คนสวยของพี่ ไปเดินเล่นกันไหมคะ"วันนี้พ่อเลี้ยงภวินมีเวลาให้กับว่าที่ภรรยาทั้งวัน งานแต่งงานของเขาทั้งสองคนจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สถานที่ถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้ใหญ่เป็นคนจัดสรรให้ทุกอย่าง"ไปสิคะ"เธอยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับตรงหน้า พ่อเลี้ยงภวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือคนรักเอาไว้ พากันเดินออกจากตัวบ้าน ขับรถกอล์ฟวนเล่นในไร่พรางคุยกันไป"ไหนบอกว่าพาไปเดินเล่นไงคะ ขับรถวนเป็นรอบแล้วมั้ง""ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวพี่พาหนูไปเดินเยอะก็บ่นอีกว่าเหนื่อย ขับรถเที่ยวเล่นแบบนี้ก็ดีนี่ อากาศเย็นสบายหนูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยด้วย""ก็จริงนะคะ ช่วงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครมาตามก่อกวน ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์ ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ได้อยู่กับผู้ชายที่รัก เป็นชีวิตที่สงบสุขดีนะคะ"เธอยิ้มออกมาก่อนจะยื่น
พ่อเลี้ยงภวินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องนอน กะว่าจะหาอะไรให้มินนี่กิน เนื่องจากว่าเธอคงรู้สึกเหนื่อยจนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะตื่นเลย แต่ทว่าก่อนที่จะได้ทำอะไร ก็ได้ยินเสียงโวยวายดังขึ้นจากหน้าประตูบ้าน เขาเดินลงมาชั้นล่าง จ้องมองไปยังสามคนพ่อลูก ที่ตอนนี้ถือพานธูปเทียนเดินเข้ามาพร้อมกัน"กำนัน... มีอะไรหรือเปล่า""ฉันพาลูก ๆ มาขอขมาพ่อเลี้ยงภวินจ้ะ แล้วหนูมินนี่ล่ะไม่อยู่ด้วยกันเหรอ"ใบหน้าของพ่อเลี้ยงดูไม่ค่อยจะรับแขกสักเท่าไหร่ จ้องมองไปยังมังกรอย่างเคียดแค้น และรู้สึกโกรธที่เขาคิดร้ายต่อว่าที่ภรรยา"ยังไม่ตื่นหรอกเธอพักผ่อนอยู่ เอางี้ละกันกำนันกับลูกไปรอที่ห้องรับแขก เดี๋ยวผมจะไปตามมินนี่""ได้จ้ะ ตามสบายเลยนะจ๊ะ"สามคนพ่อลูกรีบพากันไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ส่วนพ่อเลี้ยงภวินเขาเดินกลับขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูสดใสขึ้นจากเมื่อคืน"คนสวยยิ้มได้แล้วเหรอคะ""ค่ะ พ่อเลี้ยงตื่นไม่เรียกมินนี่เลย แล้วออกไปไหนมาคะ""ก็ว่าจะไปหาของอร่อยมาให้หนูกิน แต่ว่ากำนันกับลูกมานั่งรออยู่ข้างล่าง หนูจะออกไ
พ่อเลี้ยงภวินพาว่าที่ภรรยาเดินทางกลับมาที่ไร่ และโกรธตัวเองมากที่พาเธอไปพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนั้น ตลอดทางเขาโอบกอดเธอไว้ ทั้งรัก และห่วงกลัวว่าเธอจะคิดมาก แต่ดูจากความแสบซ่าก็น่าจะพอหายห่วงได้"พ่อเลี้ยงรู้ไหมคะว่าไอ้มังกรมันกระโจนเข้ามาหามินนี่ค่ะ มันจะปล้ำมินนี่ตรงกำแพง มินนี่ก็เลยเอาเท้าถีบท้องมันกระเด็นหงายหลังเลยค่ะ""...""แล้วจากนั้นมินนี่ก็เอาเท้ากระทืบ กระทืบ กระทืบ กระทืบมันเลยค่ะ""เรากรีดร้องอย่างกับคนโดนเชือดเพื่ออะไร พี่ก็พอรู้ว่ามินนี่สามารถเอาตัวรอดได้ ก็เลยรอดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดจะทำอะไร"มินนี่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองใบหน้าของว่าที่สามีด้วยความสงสัยในประโยคคำพูดของเขา หมายความว่ายังไง ที่เขาบอกว่าเราดูไปก่อนว่าสองพี่น้องคิดที่จะทำอะไร"พ่อเลี้ยงหมายถึงอะไรคะ แสดงว่าเห็นแล้วใช่ไหมว่ามินนี่ถูกลากเข้าห้อง""ก็พี่รู้สึกเอะใจแล้วก็เป็นห่วงก็เลยตามออกไป พอเห็นมินนี่เดินออกห้องน้ำมากำลังจะเดินไปหา ใครจะคิดว่าจะถูกใครก็ไม่รู้ลากเข้าไปที่ห้อง พี่ให้กรถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน เพราะคนที่อยู่หน้าห้องตอนนั้นคือลิ้นจี่ เห็นว่ายังไม่มีใครเข้าไปในห้องนั้นก็เลยรอดูไปก่อน
เสียงโวยวายพี่อยู่ข้างในทำให้คนข้างนอกถึงกับยิ้มออกมาด้วยความสะใจ นางตัวดีไปเรียนเมืองนอกเมืองนาถ้าได้ผัวฝรั่งกลับมาก็จบแล้ว ยังคิดที่จะมายุ่งวุ่นวายกับพ่อเลี้ยงภวินอีก มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ"อยู่ในนั้นไปแหละนางตัวดี เดี๋ยวฉันจะทำให้แกขึ้นสวรรค์ จะได้เลิกยุ่งกับพ่อเลี้ยงภวินของฉันสักที แกจองมาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นเหรอ ฉันก็จองมาตั้งแต่เด็กเหมือนกันยะ! ชิ~"เธอบ่นออกมาก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น ปล่อยให้คนที่อยู่ภายในห้องร้องโวยวายออกมา แต่ทว่าเสียงที่เล็ดลอดออกมานั้นไม่ได้ดังจนทำให้คนในงานแตกตื่น เนื่องจากว่าห้องที่ถูกขังไว้ค่อนข้างเก็บเสียงพอสมควรมินนี่ยังคงมีความพยายามในการเคาะประตูส่งเสียงเรียกให้คนข้างนอกผ่านมาได้ยิน จะได้ช่วยเธอออกไป ดูเหมือนว่ามันจะไร้ผล เธอทรุดลงนั่งอยู่ที่พื้น กอดขาของตัวเองเอาไว้แน่นก่อนจะร้องไห้ออกมา"ฮืออออออ! ใครก็ได้ช่วยมินนี่ทีค่ะ"เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ก็รู้สึกเหมือนมีใครเปิดประตูเข้ามา หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีคนมาช่วยแล้ว แต่ทว่าก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะคนที่เข้ามาใหม่คือมังกร พี่ชายของลิ้นจี่ซึ่งเขาแอบชอบเธออยู่
พ่อเลี้ยงภวินกุมมือว่าที่ภรรยาเดินเข้ามาหากำนันที่ยืนรออยู่ตรงทางเข้า เขา และลูกสาวปั้นหน้ายิ้มทั้งที่ในใจมีคำถามอยู่เต็มไปหมด"สวัสดีครับกำนัน สุขสันต์วันเกิดนะครับขอให้มีความสุขมาก ๆ""สวัสดีค่ะพ่อกำนัน มีความสุขมาก ๆ นะคะสุขสันต์วันเกิดค่ะ""ขอบคุณมากเลยนะครับพ่อเลี้ยงภวินที่มาในวันนี้ เป็นเกียรติมากเลย ขอบคุณหนูมินนี่ด้วยนะ อย่างนั้นเดี๋ยวเรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเชิญด้านในเลย""ได้เลยครับ"พ่อเลี้ยงภวินหันไปยิ้มให้กับลิ้นจี่ ลูกสาวของกำนัลพุดตาน คนนี้ก็แอบชอบเขาอยู่เหมือนกัน และอายุอานามก็ไล่เลี่ยกับมินนี่ด้วย คนมันหล่อก็อย่างนี้แหละ มีแต่เด็กสาวมาชอบ แต่ทว่าตอนนี้เขามีว่าที่ภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว เดือนหน้าก็จะแต่งงานกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนเข้ามากี่คน เขาก็ไม่เหลียวมองทั้งนั้น"กำนันครับเดี๋ยวเดือนหน้าผมจะแต่งงานกับมินนี่แล้ว ยังไงจะส่งการ์ดเชิญมาให้อีกทีหนึ่งนะครับ แต่ผมจะแจ้งไว้ก่อน""แต่งงานเหรอครับ! เร็วจังเลยนะครับเดือนหน้าเลยเหรอ""ตะ...แต่งงาน!"ลิ้นจี่กับกำนันถึงกับอึ้งไปเลยเพราะไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงภวินจะประกาศแต่งงานเร็วขนาดนี้ แล้วยัยมินนี่เพิ่
หลังจากที่คุยกันถึงเรื่องราวความเป็นมา ได้ปรึกษาพูดคุยกันก็ทำให้เพื่อนทั้งสี่คนรู้สึกโล่งอกสบายใจขึ้นเยอะ ส่วนมินนี่เธอก็ทำได้เพียงแค่ยิ้มให้กับทุกคน ปล่อยให้เพื่อนนั่งคุยกันไปไม่ได้วุ่นวายอะไร คอยบริการเทคแคร์อย่างดี จนทำให้เพื่อนของพ่อเลี้ยงภวินรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยคนนี้"มึงทำบุญด้วยอะไรวะ ถึงได้เมียเด็กแล้วก็เพอร์เฟคขนาดนี้เนี่ย""นั่นดิ ถ้ากูเป็นน้องมินนี่นะ ไปหาผู้ชายที่อายุไล่เลี่ยกันดีกว่า แก่แบบมึงกูไม่เอาหรอก""มึงเด็กอยู่มั้ง ไม่แก่เลยเนาะ อย่าให้กูรู้นะว่ามึงเลี้ยงเด็กนะไอ้ชรัณ กูล้อมึงแน่""ไร้สาระน่า"ชรัณถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อถูกพ่อเลี้ยงแห่งไร่ภวินจับผิด ดูเหมือนว่าทุกคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละมันเป็นเรื่องของใครของมัน ความเป็นเพื่อนจะไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของกัน และกัน แล้วก็เคารพการตัดสินใจของเพื่อนด้วย"เอาเถอะมันเป็นเรื่องของใครของมัน จัดการปัญหาชีวิตกันเองก็แล้วกัน แล้วก็เดือนหน้าเตรียมตัวให้ว่างด้วยนะ มางานแต่งงานกูให้ได้ล่ะ""เออน่าไม่ลืมหรอก ยังไงฝากน้องมินนี่ดูแลเพื่อนรักพี่คนนี้ด้วยนะ ก็คนแก่มันจะขี้น้อยใจ เอาใจมันเยอะ ๆ ล่ะ""แหม่!