ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’
EP.1
เราท้องกับปราณ
สิบนาทีต่อมา
แม้ไม่เหมาะจะรับแขกในเวลานี้ แต่ช่วยไม่ได้ที่เจ้าบ้านจำใจต้องพาหญิงสาวเข้าด้านในอย่างไม่มีทางเลือก
ผ้าขนหนูถูกส่งต่อให้ผู้มาเยือนซึ่งนั่งคางสั่นจนได้ยินเสียงฟันกระทบดัง ‘กึก’‘กึก’ ก่อนเจ้าตัวจะรีบคว้าเสื้อผ้าชุดใหม่จากกระเป๋าเดินทางใบโตผละเข้าห้องน้ำตามการชี้บอกทาง
เมื่อคนที่ว่าลับสายตา ปราณที่พยายามข่มความรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่นานก็ถึงกับเข่าอ่อนหย่อนกายนั่งลงบนเตียง ยิ่งได้เห็นกระเป๋าเดินทางราคาแพงเปิดอ้า ด้านในเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแน่นขนัดเขาก็ยิ่งรู้สึกประสาทเสีย
ระยะหลังพ่อแม่แทบย้ายสำมะโนครัวไปนอนที่บ้านสวน น้องสาวคนเดียวก็แต่งงานย้ายไปอยู่บ้านสามีได้หลายปี โชคยังดีที่ปัจจุบันเขาอยู่บ้านหลังนี้แค่คนเดียว มิเช่นนั้นเห็นทีคงได้แตกตื่นกันยกบ้านเป็นแน่
เวลาไม่นานคนตัวเล็กก็เดินกลับเข้ามาในสภาพสวมใส่ชุดนอน บนหัวมีผ้าขนหนูหุ้มเรือนผมเปียกหมาดราวกับให้การอนุญาตตัวเองนอนที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่สองสายตาประสานกัน เจ้าบ้านก็ต้องรู้สึกน้ำท่วมปาก
แม้รู้ดีว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแทบเป็นไปไม่ได้ ด้วยเขามีการป้องกันเสมอเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หากแต่เหตุการณ์ช่วงก่อนหน้าทำให้เกิดความสับสนไม่น้อย และปฏิเสธไม่ได้ว่าระหว่างคนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนจริง
นัยน์ตาคมยังคงจ้องนิ่ง พยายามไม่เผยอารมณ์ใดให้คู่สนทนาได้เห็นตอนเอ่ยถามย้ำเพื่อความชัวร์
“เธอตรวจดีแล้ว?”
“เราตรวจหลายรอบ” ดวงหน้าผ่องขาวพยักหน้ารับ ยืนยันด้วยการดึงหลักฐานบางอย่างออกจากกระเป๋าถือราคาแพง
“สัปดาห์ก่อนเรารู้สึกเหนื่อย เอาแต่นอนเพราะเพลีย ประจำเดือนก็ขาด แถมยังคลื่นไส้ตลอดเวลา… เลยลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ และมันขึ้นแบบนี้”
“…”
ไร้แววแห่งความตื่นตระหนกฉายบนดวงหน้าหล่อเหลา มีเพียงความเคร่งเครียดเท่านั้นที่แผ่กระจายไปทั่วทุกอณู ปราณรับเอาที่ตรวจครรภ์ซึ่งผ่านการตรวจเรียบร้อยแล้วมาดู ก่อนจะหลับตาถอนหายใจ
“พรุ่งนี้เราจะพาไปตรวจที่โรงพยาบาลในเมืองอีกรอบ”
“…”
“ถ้าท้องจริงจะได้ฝากครรภ์ให้เรียบร้อย”
“อืม” นรีพยักหน้ารับคำ ทว่าก็ยังไม่คิดขยายความเพิ่มเติม
แม้จะหงุดหงิดกับท่าทางเบื้อใบ้ที่ได้เห็นเต็มที แต่ปราณก็ทำได้เพียงข่มความรู้สึกอยากกระชากเสียงถามด้วยอารามรำคาญใจเอาไว้ การตั้งคำถามใหม่ยังรักษาความสงบนิ่งได้ดี
“เธอบอกพ่อแม่รึยัง?”
“เราอยากมาหาปราณก่อน”
“บินมาไกลถึงนี่เพราะแค่อยากเจอเราก่อน? แล้วดึกขนาดนี้จ้างใครมั่วซั่วให้มาส่งได้ไง?” เขาอดไม่ได้ที่จะตำหนิให้สักที นรีไม่รู้หรืออย่างไรว่ามันอันตรายกับการจ้างใครก็ไม่รู้ให้เข้ามาส่งกลางดึก “ถ้าเธอโดนข่มขืนขึ้นมาจะทำไง?”
“กว่าจะมาถึงก็ดึกแล้ว รถก็ไม่มี ปราณจะให้เราทำยังไง?”
นรีพูดความจริง เธอบินตรงมาจากกรุงเทพฯ กว่าเครื่องจะลงจอดก็ดึกดื่น ผู้โดยสารสายการบินส่วนใหญ่มีคนไปรอรับด้วยกันทั้งนั้น หากเธอไม่ใช้วิธีเหมารถจะเดินทางมาถึงบ้านเขาได้อย่างไร
อีกทั้งข้อมูลที่อยู่ซึ่งได้มาจากคนรู้จักไม่ได้บอกว่าจุดหมายปลายทางจะห่างไกลจากตัวเมืองขนาดนี้ หากได้คนซึ่งชำนาญเส้นทางขับมาส่งคงดีกว่าต้องนั่งคลำหาทางเอาเอง แต่อาจเป็นความผิดเธอด้วยส่วนหนึ่งที่ขาดความรอบคอบในการตรวจสอบให้ดีก่อนเดินทาง
กระนั้นเจ้าของบ้านก็ยังคงมีสีหน้าข้องใจ หัวคิ้วยังขมวดชิดเช่นเดิม “โทร. ให้เราไปรับก็จบ แค่นี้เธอคิดไม่ได้รึไง?”
“เราไม่มีเบอร์ปราณสักหน่อย”
“ไม่มีก็แค่ถามคนอื่น มันยากตรงไหน?” การที่นรีรู้ที่อยู่ของเขา แน่นอนว่าต้องหาข้อมูลจากเพื่อนหรือคนรู้จักสักคน แค่หาเบอร์โทรศัพท์ไม่น่าใช่เรื่องยากเย็น
แต่ตัวหญิงสาวเองก็มีเหตุผลในการกระทำ หากเธอโทร. จริงทำอย่างกับว่าเขาจะไปรับถึงสนามบิน อีกทั้งการโผล่มาแบบไม่ให้ตั้งตัว จะได้เห็นกับตาด้วยว่า จะได้รับการตอบสนองแบบใด
นรีรู้ดีว่าการปรากฏตัวของเธอในวันนี้สร้างความตื่นตระหนกให้อีกฝ่ายไม่น้อย แต่ในสถานการณ์ที่ต้องทำการตัดสินใจแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่มีทางเลือกใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว
“ปราณจะบ่นอะไรนัก อย่างน้อยเราก็มาถึงโดยสวัสดิภาพไม่ใช่รึไง?” ริมฝีปากอิ่มโค้งคว่ำก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“…”
คนฟังก็ถึงกับระบายลมหายใจเสียงดัง ตวัดตามองไปทางอื่นเช่นเดียวกัน นอกจากจะต้องเคร่งเครียดกับข่าวที่นรีนำมาบอกแล้ว นาทีนี้เขายังต้องฝืนข่มความรำคาญในท่าทางขัดหูขัดตาของเจ้าตัวด้วยอีกอย่าง
ปราณไม่กล้าตั้งคำถามตามตรงด้วยซ้ำว่า ‘แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าเป็นลูกของเขา?’ บรรยากาศตึงเครียดขนาดนี้คงไม่ต้องบอกว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกัน ให้บอกว่าเป็นเพื่อนยังกระดากปาก
แต่นรีไม่ใช่ผู้หญิงประเภทรักสนุก หลักฐานคือเขาได้พิสูจน์มาแล้วว่า เจ้าตัวยังบริสุทธิ์ตั้งแต่เมื่อสองเดือนก่อน อีกทั้งแน่ใจว่าเขาไม่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับเธอ ฉะนั้นไม่มีเหตุผลใดให้ต้องโกหก นรีอาจกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริง ๆ
ในระหว่างความเงียบมีเพียงเสียงเม็ดฝนยังคงสาดสายอยู่ที่ข้างนอก สองหนุ่มสาวไม่มีใครคิดหันมองหน้ากันนานกว่านาที กระทั่งเจ้าของบ้านจำต้องหยัดกายขึ้นยืนในที่สุด ก่อนเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบน่าอึดอัดใจ
“นี่ห้องนอนน้องสาวเรา เธอนอนนี่ไปก่อน”
“…”
“พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”เขาคิดว่าคุยพรุ่งนี้คงดีกว่า นั่งจับเข่าตอนนี้เห็นทีคงคุยกันไม่รู้เรื่อง อีกทั้งหากนรีท้องจริงเจ้าตัวก็ควรรีบเข้านอน ตาคมหลุบลงมองคนซึ่งยังนิ่งเงียบก่อนถามย้ำอีกที
“นอนได้รึเปล่า?”
“ได้สิ” นรีเองก็พยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย แม้ห้องหับจะไร้ความหรูหรามีระดับแบบเดียวกับบ้านหลังโตของเธอที่กรุงเทพฯ แต่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยรวมถึงการจัดตกแต่งด้วยโทนสีอ่อนสบายตาก็คิดว่าน่าจะนอนได้สบาย
“นอนได้ก็นอน” ปราณทิ้งสายตาที่กระเป๋าเดินทางใบโตอีกอึดใจก็ตั้งท่ายุติบทสนทนา ทว่าจังหวะกำลังจะก้าวพ้นประตู เสียงจากทางด้านหลังก็ทำให้ต้องชะงักอีกครั้ง
“ฝากครรภ์เรียบร้อยแล้ว เราอยากขออยู่ที่นี่สักพัก” จบคำ เจ้าของเสียงก็เบนหน้าหันหนี นรีรู้สึกกระดากอายไม่น้อย
เธอไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องมาขออยู่อาศัยบ้านคนอื่น ซ้ำยังเป็นบ้านของคนที่เหม็นหน้ากันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ผู้ชายห่าม ๆ แบบปราณที่เมื่อสิบปีก่อนนิสิตสาวรุ่นพี่รุ่นน้องกรี๊ดกร๊าดกันนักหนา กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังมองไม่เห็นว่า เจ้าตัวมีอะไรดีนอกจากหน้าตา แต่นาทีนี้คงไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
ไม่ใช่แค่นรีที่ทำการพิจารณาอีกฝ่ายอยู่ในใจ ชายหนุ่มก็ตกอยู่ในอาการเดียวกัน…
นอกจากหน้าตาแล้ว ‘นรีไม่มีอะไรดี’ นี่คือสิ่งที่ปราณท่องมาตั้งแต่เคยได้เห็นพิษสงของคนตัวเล็กเมื่อนานมาแล้ว ตัวเท่าลูกหมาแต่ปากยิ่งกว่ากรรไกรตัดหญ้า เจอหน้าทีไรเขาคันปากอยากจะปะทะคารมมันทุกที
ไม่รู้ผีห่าซาตานที่ไหนเข้าสิงเขาและเธอในคืนนั้นถึงได้มองอีกฝ่ายเป็นนางฟ้าเทวดาสวรรค์ไปได้ ที่เห็นตรงหน้าก็คนคนเดิม ยังไร้ความน่าพิศวาสเหมือนเดิม
“ว่าไง?” นรีจำต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกทีเมื่อคู่สนทนายังคงเงียบเสียง พลันสายตาไร้อารมณ์ของปราณก็เบนมองไปทางอื่นก่อนตอบกลับเสียงเรียบ
“ตรวจเสร็จจะพาไปหาพ่อแม่เรา คุยเสร็จจะบินไปกรุงเทพฯ ไปคุยกับพ่อแม่เธอ” แม้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ผู้หญิงหิ้วกระเป๋ามาถึงบ้านเขาขนาดนี้ก็ค่อนข้างชัดว่าต้องการอะไร
ทว่านรีกลับมีสีหน้าอึดอัดที่ได้ฟัง เธอไม่ต้องการให้บิดามารดารับรู้ถึงความผิดพลาดใหญ่หลวงในครั้งนี้ อย่างน้อยก็ตอนนี้…
“เรายังไม่อยากบอกคุณพ่อคุณแม่” น้ำเสียงที่แปรเปลี่ยนไปทำเอาคนฟังถึงกับหรี่ตามอง
“จะไม่บอกได้ไง?”
“เรายังไม่อยากบอก”
“เธอมาหาเราถึงนี่ มาบอกว่าท้อง มันก็ชัดว่าต้องการเก็บ… ลูกไว้…”
“ถ้ากระดากปากที่จะเรียกว่า ‘ลูก’ ไม่ต้องเรียกก็ได้ เราไม่ได้อยากให้ปราณมารับผิดชอบ แค่อยากหาที่ซ่อนตัวชั่วคราว”
คำถากถางไร้อารมณ์ของนรีทำเอาลมหายใจติดขัดเมื่อครู่ของปราณระอุร้อนขึ้นในฉับพลัน เขาเพิ่งรู้ตัวว่าจะต้องเป็นพ่อคนเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ขอเวลาให้ตกใจบ้างไม่ได้หรือไง?
“ทำไมจะไม่ต้องการเรียกว่าลูก? ถ้าเธอบอกว่านั่นลูกเรา เราก็ต้องรับผิดชอบ”
“ช่างเถอะ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เราแค่ขออยู่ด้วยจนกว่าจะคลอดก็พอ” นรีไม่ได้ประชดประชัน เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ แต่คนฟังก็ยังคงขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
“อะไรของเธอ?”
“เราอยากคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของปราณ ส่วนเรื่องที่บ้าน เราจะจัดการเอง ปราณไม่ต้องยุ่ง”
คนซึ่งสูงแค่ระดับอกของชายหนุ่มก้าวเดินไปพิงวงกบประตูคล้ายจะส่งสัญญาณไล่แขกทั้งที่นี่ก็บ้านเขาแท้ ๆ สายตาถือดี การวางท่าเป็นนางพญาเหมือนที่เคยได้เห็นเมื่อนานมาแล้วยังคงเดิม แม้ในท้องจะเป็นลูกเขาจริง แต่ไอ้ปราณคงได้อกแตกตายในเร็ววันแน่หากต้องมีเมียเป็นนรี
ร่างสูงยุติบทสนทนาด้วยการเดินออกจากห้องด้วยสภาวะอารมณ์หงุดหงิดไม่คิดปิดบัง และไม่กี่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงปิดกระแทกประตูโครมใหญ่ทำเอาอีกคนถึงกับสะดุ้งตกใจ
ริมฝีปากอิ่มขบเม้มเข้าหากัน ก่อนลมหายใจจะระบายออกในอีกวินาที เสียงทอดถอนใจของนรีฟังดูสิ้นหวังเกินกว่าจะบรรยาย ทั้งประกายตาก็พลันเปลี่ยนเป็นอีกแบบเมื่อไร้บุคคลอื่น
เพราะยังไม่อยากให้ใครล่วงรู้เรื่องลูก รวมถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากฝ่ายชายอย่างช่วยไม่ได้
แม้ไม่ได้ต้องการให้ปราณรับผิดชอบลูกในท้อง กระนั้นระหว่างที่เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากยาวนานหลายเดือนก็คิดว่าเขาควรต้องช่วยรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วยเหมือนกัน
นาทีนี้นรีไม่พร้อมตอบคำถาม ไม่พร้อมรับมือกับความกดดันทั้งจากทางครอบครัว หรือกระทั่งคำถามล้วงลึกของบรรดาเพื่อนฝูง ประกอบกับความดิ่งลึกในอารมณ์ ทำให้เธอต้องการปลีกวิเวกออกจากสังคมเดิมเพื่อจัดการกับตัวเอง
การตัดสินใจบินลัดฟ้ามาหาพ่อของลูกที่ระหว่างเขาและเธอพลาดท่าได้เสียกันเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงพอตัว นรีไม่รู้ว่าเขาจะปฏิบัติกับเธออย่างไร ไม่รู้กระทั่งเขาจะปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอหรือไม่
แต่แม้ปราณไม่ใช่ผู้ชายแบบที่เธอชอบ อย่างน้อยก็ยังดีที่เมื่อชั่วโมงก่อนอีกฝ่ายไม่คิดขับไล่ไสส่งกันเหมือนที่ได้เห็นในละครหลังข่าว แต่แน่อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้เต็มใจ
เราก็แค่ตกกระไดพลอยโจน…
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.2ไม่มีงานแต่งวันต่อมาโรงพยาบาลแม้เป็นโรงพยาบาลเอกชน แต่ด้วยจำนวนสถานพยาบาลในต่างจังหวัดมีไม่มากเหมือนอย่างในกรุงเทพฯ ส่งผลให้มีคนไข้เยอะพอสมควร บุคลากรทางการแพทย์ในชุดปฏิบัติการเดินกันขวักไขว่ คนไข้หลายช่วงวัยเดินกันว่อนเต็มรอบบริเวณปราณเริ่มเวียนหัว เขาไม่ชอบความวุ่นวายเท่าไรนัก ปกติก็อยู่แต่ในสวนทุเรียนของที่บ้าน ใช้ชีวิตไกลสุดแค่ละแวกตลาดแถวบ้าน ซึ่งเป็นศูนย์กลางรวบรวมสารพัดร้านรวงทุกรูปแบบตลอดจนสถานที่สำคัญต่าง ๆ แต่บ้านเขาเป็นเพียงอำเภอเล็ก ๆ ที่นั่นไม่มีโรงพยาบาลเอกชน มีเพียงอนามัยชุมชน กับโรงพยาบาลรัฐประจำอำเภอแห่งเดียวไม่ต้องพูดถึงจำนวนคนไข้มหาศาล และการรอคิวเป็นวัน ๆ แค่ขึ้นชื่อว่า เป็นโรงพยาบาลรัฐเขาก็ค่อนข้างแน่ใจว่า ‘คนบางคน’ คงไม่พอใจที่จะใช้บริการ สุดท้ายจึงขับรถพาคนที่ว่าเข้าเมืองตั้งแต่เช้าชายหนุ่มเงยหน้าหลับตา พักสองแขนเข้ากับพนักพิง อ้าปากหาวด้วยความง่วงงุนเหลือประมาณ ส่งผลให้คนซึ่งนั่งอยู่ข้างกันหันมองผ่านแว่นดำ สองสายตาประสานกันเพียงแค่ครู่นรีก็เป็นฝ่ายละกลับมาก็มาด้วยกันแท้ ๆ แต่ยังไม่มีคำใดหลุดลอดจากปากใครสักคนแม้แต่คำก็ดี ปราณไม่
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.3เก็บเป็นความลับกระบะรุ่นเก่าสภาพสมบุกสมบันเน้นใช้งานมากกว่าเน้นความสะดวกสบายแล่นลิ่วด้วยความเร็วพอประมาณไปตามถนนเส้นรอง บรรยากาศบนรถสงัดเงียบมีเพียงเสียงเครื่องยนต์รถกำลังทำงาน กับเสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าของคนนั่งตำแหน่งคนขับเท่านั้นไม่ใช่แค่ปราณที่ไม่อยากคุยกับนรี หญิงสาวเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน ตั้งแต่กลับออกมาจากสวน ต่างฝ่ายต่างก็ตกอยู่ในอาการปั้นปึ่งด้วยกันทั้งคู่ ในระหว่างความเงียบน่าอึดอัดใจ ตากลมโตก็บังเอิญสังเกตเห็นเข้ากับอะไรบางอย่างที่ข้างตัวมันคือกล่องถุงยางอนามัยชนิดยกโหลซึ่งถูกแกะใช้ไปแล้วบางส่วนวางไว้อย่างเปิดเผยในช่องเก็บของระหว่างเบาะที่ไม่มีฝาปิด ความเป็นชายแท้ของอีกฝ่ายทำเอานรีพูดไม่ออก แม้รู้ว่าเธอเห็น เขาก็ไม่คิดที่จะเก็บให้พ้นสายตานรีไม่แปลกใจในความเป็นบุรุษเพศที่ได้เห็น หากไม่นับเรื่องความไม่ลงรอยระหว่างคนทั้งคู่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปราณเป็นผู้ชายประเภทที่สาว ๆ ชื่นชอบ สมัยเรียนเขาเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจรุ่นพี่รุ่นน้องทุกชั้นปี เป็นนักกีฬาของมหา’ลัย เป็นนักกิจกรรมตัวยง ซ้ำยังได้เป็นประธานรุ่นอีกต่างหาก กระทั่งตอนนี้ผ่านมาร่วมสิบปี เธอก
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.4คนในใจบรรยากาศหน้าตลาดตอนเที่ยงวันไม่คึกคักเหมือนในตอนเช้าอาจเพราะไอแดดแผดแสงจ้าผู้คนจึงเลือกที่จะอยู่บ้านกันเสียมากกว่า ร้านค้าที่ตั้งร้านขายบริเวณอาคารด้านหน้าปากทางถนนตัดเข้าสู่ตลาดสดมองดูเงียบเหงาไม่น้อย ทว่าร้านหนึ่งยังคงมีลูกค้านั่งรับประทานมื้อกลางวันอย่างเนืองแน่นไม่ต่างไปจากทุกทียังไม่ทันที่ร่างสูงจะเดินถึงตัวคนที่มาด้วยกัน นรีก็ล่วงหน้าไปนั่งที่โต๊ะซึ่งยังว่างเว้นจากการจับจอง สายตาหลายคู่หันมองเจ้าตัวจนปราณลังเลที่จะเดินเข้าหา แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเลือกขณะที่หญิงสาวเอ่ยปากสั่งอาหารกับลูกจ้างร้านซึ่งกำลังยืนรอรับออร์เดอร์เขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม นอกจากสายตาสนอกสนใจในความสวยชวนมองของลูกค้าไม่คุ้นหน้าแล้ว ยังมีสายตาแปลกใจชำเลืองมองเขาด้วยอีกคน“อะไรพี่วีระ?” ชายหนุ่มโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะ ทำทีชวนคนรู้จักพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “ไอ้เหนือไม่เข้าร้าน?”วีระ เป็นลูกจ้างของเพื่อนสนิทเขาซึ่งเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่ชื่อดังประจำอำเภอที่มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจร รวมถึงลูกค้ารายใหญ่รายย่อยที่สั่งอาหารอื่น ๆ สำหรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ในทุกเทศกาล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.5ไม่ใช่เมียวันต่อมาเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ ปราณส่งนรีที่บ้านเรียบร้อยก็กลับออกไปในทันที กว่ากระบะคันเดิมจะจอดสนิทลงที่หน้าตัวบ้านก็ปาไปเกือบสี่ทุ่ม แน่นอนว่าทั้งสองไม่ได้เจอกันวันนี้เจ้าของบ้านเข้าสวนตั้งแต่หัวรุ่ง หญิงสาวตื่นมาไม่เจอใครจึงอดคิดไม่ได้ว่า หากเขาไม่ได้ไปทำงานเช้าเป็นปกติ ก็คงไม่พ้นเลี่ยงที่จะเจอหน้ากันตัวบ้านเงียบเชียบได้ยินเพียงเสียงแว่วมาจากที่ไกล ๆ ไอแดดยามสายสาดจ้าผ่านทางช่องแสงที่มีอยู่หลายจุดทั่วทั้งบ้าน มองผ่านหน้าต่างบานกระจกเห็นเพียงผืนนาขจีเขียวสดมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ใบหญ้าไหวลู่พลิ้วเอนตามกระแสลมนรีหยุดยืนนิ่งทอดสายตามองทัศนียภาพด้านนอกนานกว่านาทีโดยไม่รู้ตัว ทุกสิ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นชนบทของจริง ยิ่งย้ำเตือนในเรื่องที่ว่าเธอจะต้องใช้ชีวิตที่นี่ต่อไปอีกหลายเดือนนรีเกิดและโตที่กรุงเทพฯ อีกทั้งเป็นคนประเภทชื่นชอบการใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสีเสียง โปรดปรานความหรูหราสะดวกสบาย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเดินทางออกต่างจังหวัดครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไร รู้แค่ว่านานมากพอจะทำให้ความทรงจำครั้งที่ว่าเลือนหายไปกับกาลเวลา
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.6พยายามปรับตัว แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบช้า ก่อนเปลือกตาบางจะขยับเปิดในที่สุดหลังจากเป็นลมหมดสติไปครู่ใหญ่ นรีตั้งท่าจะลุกขึ้นในทันทีที่สติกลับคืน ทว่าคนซึ่งนั่งชันเข่าอยู่ที่พื้นข้างโซฟาก็ดันไหล่ให้ล้มลงนอนตามเดิม ทั้งอีกฝ่ายยังจ่อยาดมไว้ใต้จมูกของเธออีกครั้ง “เรามาอยู่บ้านได้ไง?”เสียงหวานพึมพำถามเจ้าของบ้าน ไม่ลืมที่จะดึงเอายาลมยาหอมมาถือไว้เอง นรีเพิ่งเห็นก็ตอนนี้ว่านอกจากพัดลมตั้งพื้นแล้ว คนตรงหน้ายังโบกพัดสานเป็นจังหวะช้า ๆ ให้เธออีกด้วย แต่การกระทำที่ว่ากลับหยุดลงเมื่อเขาเห็นเธอมองด้วยความพิศวงเหลือประมาณสองหนุ่มสาวประสานสายตากันเงียบเชียบ แม้ไร้แววแห่งความโรแมนติกใด ๆ แต่แค่ปราณไม่หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่นรีก็นับได้ว่าดีมากแล้ว นัยน์ตาสงบนิ่งไร้อารมณ์ยังคงทอดมอง เป็นหญิงสาวเองที่ละจากการจดจ้องทว่าผ่านไปกว่านาที บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ก็ยังคงเงียบจนน่าอึดอัดใจ นรีจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนคุยอีกครั้ง“ปราณพาเรากลับเหรอ?” เธอจำได้ว่าได้เห็นหน้าเขาก่อนสติจะดับวูบลง“เธอเดินออกไป?” ปราณตั้งคำถามแทนที่จะตอบกลับ แม้พอเดาสถานการณ์ออก แต่เขาอดคิดไม่ได
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.7เป็นห่วง“เราว่าอากาศกำลังดี อยากยืนต่ออีกหน่อย” นรีบอกจุดประสงค์ในตอนที่ร่างสูงก้าวเข้าใกล้ นัยน์ตาสีอ่อนกวาดมองไปรอบตัวที่มีเพียงความมืดมิด “ที่นี่เงียบสงบดี ดาวก็ชัด…”“เข้าบ้านไป เราจะปิดบ้าน” ปราณพยักพเยิดบอกอีกครั้ง ส่งผลให้คนฟังเริ่มขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ“ปราณก็เข้าไปสิ เดี๋ยวเราปิดให้เองก็ได้” แน่นอนว่านรีสามารถจัดการเองได้จริง อย่างไรก็ต้องล็อกประตูจากด้านใน แต่ปราณก็ยังคงเอ่ยย้ำในคำเดิม“เข้าบ้าน”“ก็เราบอกว่า…”“จะยืนล่อเสือล่อตะเข้เพื่ออะไร?” คิ้วหนากดต่ำทั้งสีหน้าคล้ายจะตำหนิ “กลางคืนมีเรา แต่กลางวันเธอต้องอยู่คนเดียว ไม่กลัว?”เพราะเหตุผลข้อนี้เองทำให้นรีถึงกับชะงัก หันมองซ้ายขวาด้วยแววตาหวั่นวิตก กระแสเสียงกรุ่นกังวลพึมพำแผ่วเบา รีบก้าวเข้าหาคนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว“อย่าพูดแบบนี้สิ” “คิดได้แล้วก็รีบเข้าไป”ปราณพูดจบก็เดินนำเข้าสู่ตัวบ้านในทันที หากเขาขู่ขนาดนี้แล้วยังดื้อด้านยืนต่อก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเหมือนกัน แน่นอนว่าในจังหวะถัดมาคนที่ว่าก็ยอมกลับเข้าด้านในแต่โดยดี ทว่าหลังจากต้องกลับเข้าบ้านตามคำสั่ง นรีก็ยังคงยืนกอดอกรออ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.8แขกไม่ได้รับเชิญวันต่อมาแม้คืนวานที่ผ่านมานรีจะเสนอตัวจัดการเรื่องผ้าห่มด้วยตนเอง แต่ปราณคิดว่าเขาทำเองน่าจะเหมาะกว่า ขืนปล่อยให้คนท้องทำอะไรที่ต้องใช้แรงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะลำบากวันนี้เขาไม่เข้าสวน อันที่จริงไม่จำเป็นต้องไปก็ย่อมได้ แต่เพราะความเคยชินจึงติดเป็นนิสัย อีกทั้งพ่อแม่อยู่ประจำที่นั่นทำให้บ้านหลังนั้นเปรียบได้ประหนึ่งบ้านหลังที่สองของครอบครัวฟ้ายังไม่ทันสว่างปราณก็ลุกจากเตียงไม่ต่างจากทุกวัน หลังออกไปหาซื้อข้าวเช้าเตรียมไว้ให้แม่ของลูกเรียบร้อย เขาก็หอบเอาผ้าห่มซึ่งหนากว่าผืนที่หญิงสาวใช้ห่มนอนออกจากตู้เก็บเพื่อนำไปซักทำความสะอาดอีกรอบระหว่างที่แสงแดดช่วงสายเริ่มสาดส่อง อาทิตย์เริ่มขยับเคลื่อนขึ้นสูงปราณก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยทันตามเวลาที่ประมาณการไว้ ก่อนจะเดินตรวจตรารอบบริเวณ รวมถึงให้อาหารไอ้ปีโป้หมาซึ่งเขาเลี้ยงไว้เป็นอย่างสุดท้าย และเดินกลับเข้าบ้านจังหวะที่ใครบางคนลงมาจากชั้นสองพอดี“วันนี้ไม่เข้าสวนเหรอ?” นรีเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อนด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นร่างสูงหย่อนกายนั่งที่โซฟาท่าทางไม่เร่งร้อนที่จะออกไปข้างนอก ซ้ำเขายังใส่เพีย
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.9มีคนสนใจเมียเขา“เจ็บรึเปล่า?”“ไม่”“ทีหลังจะเอาอะไรให้บอกเรา ถ้าล้มแรงกว่านี้จะทำไง?” ปราณเงยหน้ามองคนซึ่งนั่งบนเตียงด้วยสายตาตำหนิ“เราแค่จะหยิบผ้าห่มเตรียมไปซักตามที่คุยกันเมื่อคืนไง เห็นว่าเก้าอี้มันตัวเตี้ย ๆ ก็เลย…” นรีพยายามอธิบายการกระทำของตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับบอกปัด“ไม่ต้อง เราจัดการให้แล้ว เธออยู่เฉย ๆ”“ปราณทำอะไร?”“เราซักผ้าให้แล้ว ไหนลุก”“…”หญิงสาวขยับขึ้นยืนตามคำสั่งแม้ยังคงงุนงงในคำบอกเล่าที่ได้ยิน ปราณไม่ได้สนใจว่าเธอมีสีหน้าอย่างไร เขาจับตัวนรีให้หมุนหันหลัง จดจ้องบริเวณสะโพกผายด้วยสายตาตรง“มองอะไร?” คนตัวเล็กพยายามเบี่ยงตัวหนี สองข้างแก้มผ่าวร้อนเมื่อคู่สนทนาเอาแต่จดจ้องตาไม่กะพริบ“ถอดชุดออกดูว่ามีเลือดรึเปล่า” น้ำเสียงจริงจังทำให้นรีเข้าใจสิ่งที่เขากำลังคิด แม้เธอจะพยักหน้ารับแต่คนออกคำสั่งกลับยังคงนั่งนิ่ง“ปราณออกไปก่อนสิ” พ่อของลูกเงยหน้าขึ้นสบตา พบว่าบัดนี้พวงแก้มของคนตรงหน้าแดงปลั่ง นรีอึกอักต่อในระดับเสียงแผ่วเบา “เดี๋ยวเราดูเอง” “อืม” แม้อยากดูให้เห็นกับตาแต่ปราณไม่มีทางเลือก เขากับนรีไม่ใช่
ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวน้อยที่เรียกว่ารักหลายปีผ่านไปบรรยากาศในสวนยามบ่ายคล้อยของวันไม่ต่างไปจากทุกทีแสงอาทิตย์นวลตาสาดส่องลอดผ่านกิ่งก้านผอมบางของไม้ใหญ่จนเกิดเป็นร่มเงา สายลมพัดโชยผ่านไม่ขาดสายส่งผลให้ใบไม้ร่วงกราวจากด้านบน ลานดินละลานตาด้วยสีสันของใบไม้แห้งที่ยังไม่ได้รับการเก็บกวาด เสียงนกร้องดังคลอผสานไปกับเสียงเสียดสีของใบไม้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในแบบที่ควรจะเป็น…หากที่ต่างคงเป็นเพราะตอนนี้ปอป่านลูกชายตัวน้อยของนรีและปราณกำลังอยู่ในวัยเดินเตาะแตะ เสียงหัวเราะของเจ้าตัวน้อยดังผสานไปกับเสียงเด็กอีกคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน หากเด็กชายอีกคนตัวโตกว่าเพราะอายุอานามมากกว่าหลายปีนรีในชุดคลุมท้องตัวยาว ส่งเสียงเรียก จ๋อม ให้จูงมือน้องกลับมานั่งที่แคร่ไม้หน้าบ้าน พร้อมวางผลไม้ซึ่งได้รับการปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วรอให้เด็ก ๆ ได้กินตอนนี้หญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเดินเหินไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก จะลุกจะยืนก็ต้องระมัดระวัง โชคดีที่ช่วงนี้ได้จ๋อมหลานชายของเหนือเข้ามาช่วยเลี้ยงปอป่านในช่วงปิดภาคเรียน มิเช่นนั้นคงทำอะไรได้ไม่สะดวก“จ๋อมกินได้เลยนะ เดี๋ยวอาไปเอาของกินเล่นมาเพิ่มให้” นรีลูบหัว
ตอนพิเศษ 4คู่กัดสิบปีก่อน นรีเบื่อเต็มทีกับการต้องอดทนฟังเสียงเพื่อนสนิทร้องห่มร้องไห้เพราะเรื่องแฟน ลูกตาลสะอึกสะอื้นไม่หยุดมาร่วมชั่วโมงเข้าให้แล้วตลอดทั้งเช้าที่ผ่านมา “ถ้ามันไม่คุย วันนี้ฉันจะพาแกไปคุยให้รู้เรื่องเอง”เจ้าของเรือนร่างสะโอดสะองในชุดนิสิตขนาดพอดีตัวผุดกายขึ้นยืน คว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขน ตั้งท่าจะดึงลากเพื่อนซี้ให้เดินไปด้วยกัน แต่ลูกตาลกลับส่ายหน้าหวือ“คุยที่นี่เหรอ? ไม่เอาหรอกแก”“ไม่คุยที่นี่แล้วจะคุยที่ไหน? ในเมื่อแกไปหาที่ห้องมันก็ไม่ยอมคุย” ดวงหน้าอ่อนหวานเอ่ยทั้งเสียงหงุดหงิดเต็มทนมัน ที่นรีว่าคือ โชกุน เพื่อนร่วมคณะฯ ที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ยันตอนนี้ล่วงเข้าปีที่สาม นรีก็ไม่คิดว่าลูกตาลจะไปคบกับคนที่ว่าได้ลง นอกจากเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อแล้ว ยังเที่ยวกลางคืนเก่งยิ่งกว่าอะไร ลับหลังคนเป็นแฟนอาจนอกลู่นอกทางได้ไม่ยากเย็นหากมองจากนิสัยที่เคยได้เห็นนรีเบื่อหน่ายกับความเป็นนักรักของเพื่อนเต็มที สเปกที่ลูกตาลชื่นชอบนั้น กี่ที ๆ ก็ลงเอยด้วยการน้ำตานอง… “เดี๋ยววันนี้ฉันจะลองไปคุยอีกที” ลูกตาลยังคงดึงดันย้ำในคำเดิม พลางก็ปาดน้ำตาออกจา
ตอนพิเศษ 3ราหูอมจันทร์ 3นรีรู้สึกสั่นไหวอยู่ในอกกับภาพเครื่องเพศของอีกฝ่ายซึ่งขณะนี้ผงาดตั้งลำอวดโชว์ความเป็นชาย ใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นส่ำกับความใหญ่โตสมตัวของเจ้าของ อายุก็ตั้งขนาดนี้ แต่นรียังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นของจริง และของจริงที่ได้เห็นก็น่าประทับจิตประทับใจ ชวนให้รู้สึกหวามสั่นไปทั้งกาย…ขณะเดียวกันปราณกำลังใส่เครื่องป้องกันโดยไม่คิดถามความเห็นให้เสียเวลา หากนรีไม่ต้องการในสิ่งเดียวกับเขา เจ้าตัวคงร้องประท้วง ทว่าจากสายตาฉ่ำเยิ้มที่ทอดมอง ปราณสามารถตัดสินความรู้สึกหญิงสาวได้ด้วยตัวเองร่างสูงคลานขึ้นเตียงโดยมีของแข็งผงกหัวตามการเคลื่อนไหว ท่อนขาแข็งแรงเคลื่อนเข้าแทรกระหว่างสองขาเรียวงาม มือก็นวดเอ็นเนื้อไปพลางขณะที่คนเมาได้แต่หลุบตามองแท่งเนื้อลำโต ก่อนเมินหันหนีด้วยความเขินอาย นรีไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินมาถึงขั้นนี้ และแม้ใจจะอยากปฏิเสธ ทว่าอีกความรู้สึกดันมีมากกว่าปราณโน้มตัวเข้าหาเจ้าของกลิ่นกายหอมหวาน คลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอผ่องขาว เสียงพร่ากระซิบที่ข้างกกหูเล็กแผ่วเบา“เรื่องวันนี้ถ้าเธออาย สัญญาว่าเราจะไม่บอกใคร”คนฟังหันมอง ส่งเสียงอึกอักถามราวกับไม่เข้าใจในสิ่
ตอนพิเศษ 2ราหูอมจันทร์ 2 ยี่สิบนาทีต่อมา นรีหลับ หลับไปทั้งยังอยู่ในการประคองกอดของคนตัวโตปราณพยายามปลุกเรียกเท่าไรก็ไร้การตอบสนอง มีเพียงการส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอเท่านั้น และเพราะตอนนี้เขาเหนื่อย ร่างกายต้องการนอนพักเต็มที ประกอบกับดูเวลาแล้วจึงจำใจต้องพานรีกลับที่พักไปด้วยเตียงของโรงแรมตั้งกว้าง นอนสองคนไม่น่ามีปัญหา…อย่างไรก็คงไม่มีใครคิดอยากจะขึ้นคร่อมเหนือร่างของใคร… แต่เพียงแค่ประตูห้องปิดลง คนในอ้อมแขนกลับเปิดเปลือกตาขึ้นมอง แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบเพียงสองสามที กายอ่อนระทวยบนสองแขนของชายหนุ่มก็แข็งเกร็งขึ้นทั้งอย่างนั้น ตาคมหลุบมองดวงหน้าผุดผาดเรื่อแดงของคนที่สติเริ่มกลับมา พร้อมทั้งจำต้องรีบปล่อยอีกฝ่ายลงยืนบนพื้นทันที ก่อนใครจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนประเภทชอบลักหลับ “เธอหลับ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” ปราณขยายความการกระทำด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์“อือ” คู่สนทนาผงกหัวรับ สีหน้ายังคงมึนงงกับอาการของตนเองราวกับไม่คิดติดใจอะไร ทว่าเพียงต้องยืนบนรองเท้าส้นสูง ปลีน่องเรียวเล็กก็เซวูบแทบล้มลงกองในวินาทีนี้นรีทำได้เพียงสะบัดศีรษะไล่คว
ตอนพิเศษ 1ราหูอมจันทร์ 1เพนต์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตัวอาคารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงของประเทศเป็นสถานที่ที่หญิงสาวไม่อยากเหยียบย่างเข้าใกล้เท่าไรนัก หากไม่ใช่เพราะต้องมาร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทอย่าง ลูกตาล อย่างไรนรีก็คงไม่มา เพราะเจ้าของที่พักสุดหรูซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท เป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ ซ้ำยังชอบทำร้ายจิตใจคนเป็นแฟนอยู่บ่อยครั้ง ร่างผอมบางในชุดเดรสสีครีมสั้นเหนือเข่ายืนทอดอารมณ์กอดอกอยู่ทางมุมหนึ่งของระเบียงบนตึกสูงระฟ้ามาได้สักพักแล้ว เวลาล่วงผ่านเที่ยงคืน ค็อกเทลสีฟ้าสวยในมือหมดไปอีกแก้ว แต่เสียงเพลงรวมถึงแสงไฟจากด้านในก็ยังไม่มีทีท่าจะยุติลงนรีเริ่มรู้สึกมึนศีรษะ ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอใช้เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ชนิดนี้ฆ่าเวลาระหว่างรอเพื่อนทะเลาะกับแฟน แม้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจ้าตัวก็ตามที และหลังจากยืนทอดอารมณ์เพียงลำพังอยู่นาน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีชายสองคนมาหยุดยืนที่ข้าง ๆ “คุณนรีไม่เข้าไปด้านในเหรอครับ? หนาวนะ” “เข้าไปนั่งจอยกับพวกเราดีกว่านะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ปากอิ่มยิ้มให้คู่สนทนา ก่อนรอยยิ้มที่ว่าจะคลายล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.47ผลลัพธ์เท่ากับรัก ตอนเย็น บรรยากาศในสวนตาหมานไม่มีอะไรต่างไปจากเดิมกับที่เคยเป็น รอบบริเวณมีเด็ก ๆ ลูกของคนงานวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันเหมือนทุกวัน หลังจากติดต่อกับชิปปิงเรื่องการส่งออกผลิตผลลอตใหม่เรียบร้อยปราณก็เดินออกจากห้องทำงานในตอนเย็น วันนี้เขากับนรีมีนัดกินมื้อเย็นกับน้องสาวและคนเป็นสามีตาคมกวาดมองไปโดยรอบก็ทันได้เห็นร่างแบบบางคุ้นตายืนอุ้มลูกชายแนบไว้กับอก เสียงใจดีของนรีกำลังพูดคุยกับเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน หญิงสาวแอบควักเงินจากกระเป๋ากระโปรงส่งต่อให้เด็กคนที่ว่าเป็นค่าขนมไม่ต่างจากทุกที คนมองพลันผุดยิ้มกว้างกับภาพที่ได้เห็น ปัจจุบันไม่มีใครในสวนตาหมานไม่รู้จักเมียของปราณ และไม่ใช่แค่ที่สวน หากแต่ในตลาดต่างก็รู้กันถ้วนหน้าว่านรีเป็นใคร ด้วยความช่วยเหลือในการกระจายข่าวของมดและกระถินที่ประกาศบอกชาวบ้านให้รู้ทั่วกันว่าสองหนุ่มสาวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เมื่อปีกลาย และได้ร่วมงานมงคลสมรสหลังจากนรีคลอดลูกได้ไม่นานเพื่อยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ร่างสูงเดินเข้าหาคนเป็นเมี
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.46ประสาผัวเมีย หนึ่งปีต่อมา เก้าอี้ตัวโตส่งเสียง ‘เอี๊ยด’ ทุกจังหวะที่มีการขย่มโยก ไอแดดยามบ่ายสาดส่องผ่านชายขอบผ้าม่านได้เพียงเล็กน้อย แต่แม้ม่านรอบห้องทำงานจะปิดทึบ หากก็ไม่ได้มืดสนิทจนมองไม่เห็นความเป็นไปที่ด้านใน นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายของชายหนุ่มทอดมองเจ้าของเรือนร่างบอบบางผ่องขาวไปทั้งตัวกำลังทิ้งสะโพกขย่มโหนกเนินเล็กเข้าใส่แท่งกายลำยาวขัดแข็งตั้งตรงในจังหวะระรัวเร็วเรือนผมสยายยาวสะบัดไปด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่าเผยให้เห็นทรวงอกอวบใหญ่เต่งตึงเด่นชัดยิ่งกว่าส่วนอื่น ยอดบัวสีหวานมีน้ำนมผุดซึมหยดลงสู่กล้ามท้องของคนตัวโตในหลายจังหวะ ปราณในสภาพเปลือยท่อนบนเอนกายนอนบนเก้าอี้ไม่คิดละสายตาไปทางอื่น ใจจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของนรีที่ในปัจจุบันร่างกายกลับสู่ความเพรียวบางดังเดิมหากจะเปลี่ยนคงเป็นเต้านมคัดตึงที่ขยายใหญ่โตจากการให้นมลูกกับสะโพกผายที่ยิ่งทำให้ทรวดทรงคนเป็นเมียชัดไปทุกส่วนสัด เอวบางร่อนมาด้านหน้าทีไร คนมองก็ยิ่งรู้สึกลำคอแห้งผากขึ้นทุกทีสายตาของนรีก็หลุบลงมองกายกำยำของคนเป็นผัวเช่นกัน สองมือวางเหนือร่องกล้าม
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.45ฮีลใจ วันต่อมา กรุงเทพฯ แม้นรีอิดออดที่จะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปคุยกับพ่อแม่ให้เรียบร้อยถึงเรื่องที่ได้เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว แม้หญิงสาวจะบอกว่ารออีกหน่อยก็ได้เพราะเป็นกังวลต่อการตอบสนองของบิดามารดา หากแต่ปราณก็ไม่คิดฟัง ‘ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เราพร้อมรับผิดชอบเธอทุกอย่าง’นี่คือเหตุผลเดียวที่เขาบอกเธอ และหากพยายามต่อรองขอเลื่อนเวลาการไปเจอ ปราณก็จะยกเหตุผลเดิมมาพูดซ้ำ สุดท้ายนรีก็จำต้องเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับคนเป็นสามี รวมถึงตาหมานและยายใจที่ก็เห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวว่าควรจัดการให้เรียบร้อย จะได้สบายใจทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกผสานรวมกันอยู่ในที่เดียว ตาหมานและยายใจรู้ว่านรีนั้นร่ำรวยจากคำบอกเล่าของลูกชาย แต่ไม่คิดว่าบ้านของลูกสะใภ้จะใหญ่โตถึงเพียงนี้ แม้ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ซ้ำยังมีมากพอที่จะมาสู่ขออย่างแน่นอน หากแต่พ่อแม่ของชายหนุ่มก็อดเหงื่อตกอย่างเสียไม่ได้ ถึงกระนั้นก็ยังต้องพยายามคุมสีหน้าใ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.44ไม่ใช่แค่ลูก หลายวันต่อมา ปราณเพิ่งกลับจากสวน… ช่วงนี้เขาเปลี่ยนเวลาการทำงาน จากที่เคยถึงบ้านมืดค่ำก็กลับเร็วขึ้น รวมถึงแวะเข้าตลาดหาซื้อของกินที่นรีชอบกลับมาให้คล้ายจะเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว อีกทั้งจากไปทำงานทุกวันก็หยุดอยู่บ่อย ๆ เพราะต้องการอยู่ดูแลคนที่บ้าน แสงไฟในบ้านติดสว่างเพราะบรรยากาศด้านนอกเริ่มโพล้เพล้ใกล้ค่ำ ร่างสูงเดินเข้าตัวบ้านเงียบเชียบไร้สุ้มเสียงคนอยู่อาศัย ทว่าบนโต๊ะมีอาหารวางเตรียมรอไว้ไม่ต่างไปจากทุกวัน ชายหนุ่มเดินไปเปิดดูพบว่านรีทำอาหารที่เขาชอบอีกแล้ว แถมเจ้าตัวยังรสมือดีเลยทีเดียวหลังจากที่ได้ลองกินมาหลายวันแม้เขาจะบอกไม่ให้เธอทำก็ตาม แต่เพราะอีกฝ่ายคงว่างมาก ปราณก็ไม่อยากขัดศรัทธา เดินขึ้นถึงห้องนอนก็ได้เห็นคนเป็นเมียกำลังนอนตะแคงตัวอยู่บนเตียงทั้งสภาพหลับใหล ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินเข้าหา ก้มลงประทับจูบเหนือหน้าท้องโป่งพองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะกดจูบเข้าที่หน้าผากมน นรีขยับตัวตื่นขึ้นในตอนนี้เอง ปากอิ่มผุดยิ้มบางเมื่อได้เจอหน้าคนที่เฝ้ารอมาตลอดท