ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’
EP.7
เป็นห่วง
“เราว่าอากาศกำลังดี อยากยืนต่ออีกหน่อย” นรีบอกจุดประสงค์ในตอนที่ร่างสูงก้าวเข้าใกล้ นัยน์ตาสีอ่อนกวาดมองไปรอบตัวที่มีเพียงความมืดมิด “ที่นี่เงียบสงบดี ดาวก็ชัด…”
“เข้าบ้านไป เราจะปิดบ้าน” ปราณพยักพเยิดบอกอีกครั้ง ส่งผลให้คนฟังเริ่มขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ
“ปราณก็เข้าไปสิ เดี๋ยวเราปิดให้เองก็ได้” แน่นอนว่านรีสามารถจัดการเองได้จริง อย่างไรก็ต้องล็อกประตูจากด้านใน แต่ปราณก็ยังคงเอ่ยย้ำในคำเดิม
“เข้าบ้าน”
“ก็เราบอกว่า…”
“จะยืนล่อเสือล่อตะเข้เพื่ออะไร?” คิ้วหนากดต่ำทั้งสีหน้าคล้ายจะตำหนิ “กลางคืนมีเรา แต่กลางวันเธอต้องอยู่คนเดียว ไม่กลัว?”
เพราะเหตุผลข้อนี้เองทำให้นรีถึงกับชะงัก หันมองซ้ายขวาด้วยแววตาหวั่นวิตก กระแสเสียงกรุ่นกังวลพึมพำแผ่วเบา รีบก้าวเข้าหาคนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว
“อย่าพูดแบบนี้สิ”
“คิดได้แล้วก็รีบเข้าไป”
ปราณพูดจบก็เดินนำเข้าสู่ตัวบ้านในทันที หากเขาขู่ขนาดนี้แล้วยังดื้อด้านยืนต่อก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเหมือนกัน แน่นอนว่าในจังหวะถัดมาคนที่ว่าก็ยอมกลับเข้าด้านในแต่โดยดี
ทว่าหลังจากต้องกลับเข้าบ้านตามคำสั่ง นรีก็ยังคงยืนกอดอกรออีกฝ่ายปิดประตูลงกลอน เธอคิดจะชวนปราณคุยต่ออีกนิด แต่เมื่อเขาจัดการทุกอย่างเสร็จก็กลับออกคำสั่งเสียงเรียบ “ไปนอน”
หญิงสาวแอบทำเสียง ‘หึ’ ในใจ เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กประถมหรืออย่างไร?
“ที่ปราณว่าจะยืมรถเพื่อนมาให้ใช้ พูดจริงรึเปล่า?”
“พรุ่งนี้เราจะขับมาจอดไว้ให้เธอ”
“แล้วแถวนี้มีอะไรให้ทำบ้าง? อยู่บ้านคนเดียวแบบนี้น่าเบื่อจะตาย” นรีทำสีหน้าเบื่อหน่ายประกอบคำ หากต้องอยู่บ้านโดยไม่มีอะไรทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เห็นทีเธอคงได้เป็นเพื่อนกับพระอินทร์เป็นแน่
ชายหนุ่มเสยผมด้วยสีหน้ารำคาญใจเล็ก ๆ เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงประเภทนรีนั้นชอบทำอะไร
“ว่าไง?” ขณะเดียวกันคนที่ว่าก็ยังคงรอฟังคำแนะนำ
อันที่จริงหญิงสาวตัวเล็กกว่าปราณเกือบศอก เวลาคุยกันต้องเงยขึ้นมองเขาเสมอ หากเป็นเมื่อก่อนปราณคงได้เห็นสายตาอีกแบบของเธอ ทว่ายามนี้นัยน์ตาใสแลดูอ่อนหวานกว่าที่เคย แพขนตากะพริบอย่างช้า ๆ ยิ่งชวนให้คนมองรู้สึกประหลาดในอก
หากลดท่าทางเย่อหยิ่งลงได้ก็ถือว่านรีน่าคบหาขึ้นเป็นกอง อีกทั้งเครื่องหน้าหมดจดขาวเนียนก็สวยเป็นทุนเดิม เกือบทำเอาเขาเผลอใจคิดว่าเจ้าตัว น่ารัก ขึ้นมา
ทว่าก่อนจะได้หลงผิดคิดสั้น ตาคมก็รีบเบนมองไปทางอื่น เขาหย่อนกายนั่งบนพนักพักแขนของโซฟาตัวยาว แสร้งเอ่ยปากถามด้วยกลัวจะหลุดแสดงอากัปกิริยาผิดปกติไปจากที่เคย
“แล้วเธอชอบทำอะไร?”
“ปราณแนะนำก่อนสิ”
“…”
เขาเงียบเสียงอยู่ครู่ คิดไม่ออกว่าจะมีอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายสนใจ แต่แล้วใจกลับฉุกคิดได้หนึ่งอย่าง
“น้องสาวเราเปิดสอนวาดรูป”
“วาดรูปเหรอ?”
“เสาร์อาทิตย์คนเยอะ แต่วันธรรมดาไม่ค่อยมีคน” เจ้าของบ้านให้ข้อมูล ตอนแรกเขาคิดว่านรีคงไม่สนใจ ทว่าหญิงสาวกลับพยักหน้าช้า ๆ ไม่ถึงกับปฏิเสธเสียทีเดียว
“แล้วอยู่ไกลจากที่นี่รึเปล่า?”
“ขับรถไปไม่นานอยู่ข้างบ้านไอ้เหนือ รอปายกลับจากกรุงเทพฯ จะพาเธอไปรู้จักอีกที”
พูดจบปราณก็หยัดกายขึ้นยืน เขาคิดว่าคงเพียงพอแล้วกับการสนทนาครั้งนี้ แต่พอตั้งท่าจะเดินขึ้นด้านบน นรีกลับรีบขยับเข้าขวางทาง
กลิ่นหอมหวานของสตรีเพศในระยะประชิดทำเอาชายหนุ่มต้องสะกดกลั้นลมหายใจ อีกทั้งผิวพรรณผ่องขาวเนียนใสจนเห็นเส้นเลือดก็ทำเอาบุรุษเพศอย่างเขาต้องฝืนทนอย่างหนักที่จะไม่เสียอาการ
ทว่านรียังมองไม่เห็นความผิดปกติของคนตรงหน้า เธอลังเลใจอยู่ครู่ก็ลองถามต่อ “แล้วเราเข้าไปเที่ยวที่สวนบ้างได้ไหม?”
ปราณสั่นหัว เบี่ยงตัวเดินหนีแทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“ไม่ต้องไป”
“ทำไมล่ะ?” คนตัวเล็กยังคงเดินดักหน้าดักหลังไม่ยอมให้เขาผละจาก
“จะไปทำไม? ที่นั่นไม่มีอะไรให้เธอทำ”
“ทำไมจะไม่มี เราอยากลองทำอะไรตั้งหลายอย่าง”
อันที่จริงนรีแค่คิดว่าจะเป็นที่ไหนก็คงดีกว่าต้องอยู่บ้านคนเดียวตลอดวัน กระนั้นปราณก็ยังเท้าสะเอวมองด้วยสายตาไม่เห็นด้วย
“เธอชอบอากาศร้อน?”
แม้จะงุนงงกับการตั้งคำถาม แต่นรีก็สั่นหัวปฏิเสธ
“ไม่ชอบ”
“ชอบมด แมลง หนอน?”
“หนอนเนี่ยนะ?”
แค่เห็นสีหน้าของหญิงสาว ลูกชายเจ้าของสวนก็ตัดสินใจให้เองด้วยคร้านจะคุยให้เสียเวลา “สรุปคือไม่ต้องไป”
“เดี๋ยวสิ”“อะไร?”
“ดะ… เดี๋ยว”
นาทีนี้ถึงคราวนรีต้องตกเป็นฝ่ายใบ้กิน เมื่อจู่ ๆ เธอก็โดนกายหนาเบียดต้อนเข้าชิดกับผนังบ้าน ดวงหน้าอ่อนหวานกะพริบตาปริบเมื่อปราณก้มลงมองในระยะประชิด สายตารำคาญใจของเขาราวกับจะบอกให้เธอหยุดตั้งคำถามสักที
“อยากถามอะไรอีก?”
เสียงห้าวยังคงมั่นคงในระดับปกติ ขณะที่นรีกลับเป็นฝ่ายติดขัดเสียอาการ ได้แต่พยายามใช้ฝ่ามือดันแผ่นอกเปลือยให้ถอยออกห่าง “ปราณเข้ามาชิดขนาดนี้ทำไม?”
“ก็เห็นดักหน้าดักหลังไม่หยุด เราทำบ้างผิดตรงไหน?”
ปราณทำทีคล้ายจะข่มขวัญ หากจุดประสงค์ของเขาเพียงเพื่อต้องการหาทางยุติบทสนทนาก็เท่านั้น ไม่คิดว่าผิวแก้มขาว ๆ ของอีกฝ่ายจะฝาดแดงขึ้นมาดื้อ ๆ ทั้งยังอึกอักตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบาเช่นนี้
“เราก็แค่อยากหาเรื่องคุย”
“อยากคุยอะไรก็ว่ามา”
“ปราณถอยออกไปก่อนสิ”
“คุยแบบนี้ไม่เห็นเป็นไร” ยิ่งพูดก็ราวกับจะยิ่งยุ ไออุ่นจากเรือนกายกำยำยิ่งเบียดใกล้ขึ้นอีกจนด้านหน้าของทั้งคู่ประชิดชนกันทุกส่วนสัด
“ปราณถอยไปหน่อย”
มือบอบบางพยายามดันหน้าท้องแกร่งซึ่งอุดมด้วยมัดกล้ามเอาไว้ อีกทั้งเธอไม่สามารถฝืนทนสบตาจนต้องเป็นฝ่ายละจาก ทว่าการแสดงออกด้วยทีท่าแบบที่ว่า นรีคงไม่รู้ตัวว่ากำลังทำให้คู่สนทนาเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา
ตาคมกวาดมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวซึ่งบัดนี้ฝาดแดงทั้งสองข้างแก้ม ริมฝีปากอิ่มที่เขาเคยได้ลิ้มรสขยับเม้มเข้าหากัน เนินอกอวบที่มือสากเคยได้เคล้นคลึง อีกทั้งเรี่ยวแรงน้อยนิดเหมือนกับ ในคืนนั้น ที่เจ้าตัวไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้แม้แต่นิดเดียว ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลให้ภาพสมรภูมิบนเตียงในคืนที่ว่าฉายกลับเข้าสู่ห้วงคิดของเขา
น้ำลายหนืดเหนียวกลืนกลับลงคอ ปราณจำต้องละสายตาจากการจดจ้องเรือนร่างผอมบาง ก่อนเบี่ยงประเด็นด้วยหวังจะสลัดภาพที่ว่าออกจากหัว
“ที่นี่ดึก ๆ อากาศหนาว ในตู้เสื้อผ้าปายน่าจะมีเสื้อกันหนาวหลายตัวเธอเอามาใส่ได้ ว่างแล้วเราจะขนผ้าห่มมาซักใหม่ให้อีกที” เขาหมายความตามที่พูด หากคนตรงหน้ายังสวมใส่เพียงชุดบางเบา ไม่น่าเกินสามวันอาจเกิดอาการป่วยไข้ขึ้นได้
นรีได้ฟังคำที่ราวกับจะแสดงความห่วงใยก็อดไม่ได้ที่จะช้อนสายตาพิศวงขึ้นมอง “ปราณจะทำให้เราเหรอ?”
“แบบเธอ น่าจะทำเองไม่เป็น”
ที่เขาว่าก็ไม่ผิดนัก นรีทำอะไรแบบนั้นไม่เป็นจริง ๆ แต่เพราะความเกรงใจหญิงสาวจึงเลือกที่จะเสนอตัวจัดการเอง
“เราทำเองได้ ปราณแค่บอกว่าอยู่ตรงไหนก็พอ”
“ถ้าอยากทำก็ทำ พรุ่งนี้จะขนมาวางไว้ให้”
“อืม ขอบคุณ”
แม้จะเอ่ยได้ไม่เต็มเสียง นรีก็ยังพยายามปั้นยิ้มให้เขาอีกสักที ตอนนี้ปราณอาจยังไม่คุ้นชินกับรอยยิ้มของเธอ แต่หากเวลาผ่านไปก็คงเริ่มชินได้ในสักวัน และถึงตอนนั้นเป็นไปได้ว่าเขาและเธออาจเป็นพ่อแม่ของลูกร่วมกันได้โดยไม่กัดกันทุกสิบนาทีเหมือนที่ผ่านมา
แต่ยิ้มของนรีก็กลับค้างงันอยู่เช่นนั้น กระทั่งปราณเองก็ราวกับจะสติหลุดไปชั่วขณะ นัยน์ตาสงบนิ่งยังคงหลุบมอง ทั้งความชิดใกล้ก็ยังอยู่ในระยะเดิม
คนตัวเล็กพยายามสะกดเก็บอาการหวาดหวั่นไว้ที่ข้างใน ก่อนสองฝ่ามือที่วางเหนือหน้าท้องแกร่งจะทิ้งลงสู่ข้างลำตัว เธอได้แต่ภาวนาให้คนตรงหน้าถอยห่างไปสักนิดก็ยังดี ทว่าจนแล้วจนรอด ปราณก็ไม่คิดจะกระดิกตัวแม้แต่ขยับเดียว…
ไม่ใช่แค่นรีที่ไม่เข้าใจเขา ปราณก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน จากแค่จะตัดรำคาญในตอนแรก เหตุใดร่างกายจึงไม่เคลื่อนขยับออกห่างจากร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าสักที
“เราคิดว่าจะขับรถไปเที่ยวในเมืองบ้าง”
“…”
“บอกเผื่อเอาไว้ ปราณจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
และประโยคท้ายของนรีก็กระชากสติของปราณให้กลับคืน ร่างสูงผละออกห่างจากหญิงสาวในตอนนี้เอง…
“เธอจะไปไหนก็ไป ไม่ใช่เรื่องของเรา”
เจ้าของกระแสเสียงเฉยชาทิ้งสายตาหลุบมองเรือนร่างสะโอดสะองเพียงเสี้ยววินาทีก็หันกายกลับ ขายาวก้าวขึ้นชั้นบนทันทีไม่แม้แต่จะเหลียวสายตากลับมา ทิ้งให้คนด้านหลังขมวดคิ้วมองตามด้วยความงุนงง
ดูเหมือนบ้านนี้จะมีคนท้องถึงสองคนด้วยกัน…
ไม่ใช่แค่นรีคนเดียวที่อารมณ์แปรปรวนจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะการตั้งครรภ์ แต่น่าจะรวมถึงคนที่เมื่อครู่ยังแทบจะสิงร่างเธอ แต่ไม่กี่นาทีก็พลันมึนตึงขึ้นมาอีกหน…
นรีอดคิดไม่ได้ว่าอาจต้องมีคนแนะนำเขาให้ลองไปตรวจเช็กสุขภาพจิตอย่างเป็นจริงเป็นจังดูสักที…
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.8แขกไม่ได้รับเชิญวันต่อมาแม้คืนวานที่ผ่านมานรีจะเสนอตัวจัดการเรื่องผ้าห่มด้วยตนเอง แต่ปราณคิดว่าเขาทำเองน่าจะเหมาะกว่า ขืนปล่อยให้คนท้องทำอะไรที่ต้องใช้แรงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะลำบากวันนี้เขาไม่เข้าสวน อันที่จริงไม่จำเป็นต้องไปก็ย่อมได้ แต่เพราะความเคยชินจึงติดเป็นนิสัย อีกทั้งพ่อแม่อยู่ประจำที่นั่นทำให้บ้านหลังนั้นเปรียบได้ประหนึ่งบ้านหลังที่สองของครอบครัวฟ้ายังไม่ทันสว่างปราณก็ลุกจากเตียงไม่ต่างจากทุกวัน หลังออกไปหาซื้อข้าวเช้าเตรียมไว้ให้แม่ของลูกเรียบร้อย เขาก็หอบเอาผ้าห่มซึ่งหนากว่าผืนที่หญิงสาวใช้ห่มนอนออกจากตู้เก็บเพื่อนำไปซักทำความสะอาดอีกรอบระหว่างที่แสงแดดช่วงสายเริ่มสาดส่อง อาทิตย์เริ่มขยับเคลื่อนขึ้นสูงปราณก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยทันตามเวลาที่ประมาณการไว้ ก่อนจะเดินตรวจตรารอบบริเวณ รวมถึงให้อาหารไอ้ปีโป้หมาซึ่งเขาเลี้ยงไว้เป็นอย่างสุดท้าย และเดินกลับเข้าบ้านจังหวะที่ใครบางคนลงมาจากชั้นสองพอดี“วันนี้ไม่เข้าสวนเหรอ?” นรีเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อนด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นร่างสูงหย่อนกายนั่งที่โซฟาท่าทางไม่เร่งร้อนที่จะออกไปข้างนอก ซ้ำเขายังใส่เพีย
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.9มีคนสนใจเมียเขา“เจ็บรึเปล่า?”“ไม่”“ทีหลังจะเอาอะไรให้บอกเรา ถ้าล้มแรงกว่านี้จะทำไง?” ปราณเงยหน้ามองคนซึ่งนั่งบนเตียงด้วยสายตาตำหนิ“เราแค่จะหยิบผ้าห่มเตรียมไปซักตามที่คุยกันเมื่อคืนไง เห็นว่าเก้าอี้มันตัวเตี้ย ๆ ก็เลย…” นรีพยายามอธิบายการกระทำของตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับบอกปัด“ไม่ต้อง เราจัดการให้แล้ว เธออยู่เฉย ๆ”“ปราณทำอะไร?”“เราซักผ้าให้แล้ว ไหนลุก”“…”หญิงสาวขยับขึ้นยืนตามคำสั่งแม้ยังคงงุนงงในคำบอกเล่าที่ได้ยิน ปราณไม่ได้สนใจว่าเธอมีสีหน้าอย่างไร เขาจับตัวนรีให้หมุนหันหลัง จดจ้องบริเวณสะโพกผายด้วยสายตาตรง“มองอะไร?” คนตัวเล็กพยายามเบี่ยงตัวหนี สองข้างแก้มผ่าวร้อนเมื่อคู่สนทนาเอาแต่จดจ้องตาไม่กะพริบ“ถอดชุดออกดูว่ามีเลือดรึเปล่า” น้ำเสียงจริงจังทำให้นรีเข้าใจสิ่งที่เขากำลังคิด แม้เธอจะพยักหน้ารับแต่คนออกคำสั่งกลับยังคงนั่งนิ่ง“ปราณออกไปก่อนสิ” พ่อของลูกเงยหน้าขึ้นสบตา พบว่าบัดนี้พวงแก้มของคนตรงหน้าแดงปลั่ง นรีอึกอักต่อในระดับเสียงแผ่วเบา “เดี๋ยวเราดูเอง” “อืม” แม้อยากดูให้เห็นกับตาแต่ปราณไม่มีทางเลือก เขากับนรีไม่ใช่
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.10ใช้เวลาร่วมกันตอนเย็น นรีไม่เคยซื้อของด้วยความเร่งรีบขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แม้พยายามบริหารเวลาให้น้อยที่สุด แต่กว่าจะหาสิ่งที่ต้องการได้ครบก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงเต็ม คว้าของอย่างสุดท้ายใส่รถเข็นได้ก็เร่งร้อนมุ่งหน้าสู่เคาน์เตอร์ชำระเงินทันที ระหว่างหยุดรอคิวเธอก็รีบแชตบอกความคืบหน้าให้คนรอรับรู้ น่าประหลาดที่ปราณไม่คิดโทรเร่งแม้แต่สายเดียว แชตบอกว่าตอนนี้เธอกำลังรอคิดเงินก็ไร้คำตำหนิใดตอบกลับและในจังหวะที่เข็นรถเดินหน้าเมื่อถึงคิว ร่างสูงของใครบางคนก็เดินมาหยุดลงที่อีกฝั่ง เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของลูก ตาคมหลุบลงมองรถเข็นที่บรรจุของจนเต็มคันรถ ปราณไม่แปลกใจว่าเหตุใดหญิงสาวใช้เวลานานนักกับอีแค่ซื้อของใช้ที่จำเป็น หากเข็นรถพร้อมกันสองคันได้นรีก็คงทำ กระนั้นเขาไม่คิดปริปากบ่น ด้วยรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวคงต้องใช้เวลานานกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปยังไม่นับรวมเรื่องที่หากออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว อีกฝ่ายเปรยด้วยความคาดหวังว่าจะได้เดินเล่นโซนอื่นของศูนย์การค้าต่อก็ด้วย เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ทำการเผื่อเวลาล่วงหน้าหลายชั่วโมง คนตัวเ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.11ล่วงรู้ความลับ วันต่อมา วันนี้เป็นวันแรกที่นรีได้ลองขับรถสำรวจละแวกใกล้บ้านด้วยตัวเอง รวมถึงแวะเข้าตลาดเพื่อหาซื้ออาหารตระเตรียมสำหรับทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น หลังจากวนดูจนทั่วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจให้ทำหญิงสาวจำได้ว่ามีร้านทำผมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และนั่นคือจุดหมายปลายทางต่อไปสำหรับเธอ “คนที่ไหนคะเนี่ย? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”ช่างทำผมสาวเอ่ยปากชวนลูกค้าไม่คุ้นหน้าพูดคุยในที่สุด หลังจากทนจดจ้องด้วยสายตาฉงนสงสัยอยู่นานสองนาน มด ไม่เคยเห็นหน้านรี ทั้งแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนพื้นที่ ร้านทำผมเจ๊แดงที่เธอเป็นช่างประจำการมาหลายปีลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าประจำด้วยกันทั้งสิ้น และที่ทำให้อดสอดรู้ไม่ได้คงเพราะรถคันที่จอดอยู่หน้าร้านเป็นรถของพี่จุ้นซึ่งเธอเองก็รู้จัก “มาจากกรุงเทพฯ ค่ะ” “เป็นเพื่อนพี่จุ้นเหรอคะ?” มดสบโอกาสรีบซักถาม พยักพเยิดไปนอกร้านประกอบคำ “นั่นรถเก่าของพี่จุ้น มดจำได้” นรีมองตามสายตาพลางก็ยิ้มให้คู่สนทนาที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะ สีหน้ายิ้มแย้ม กระทั่งสีสันฉูดฉาดของชุดที่สวมใส่ราวกับจะ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.12หัวกระไดไม่แห้ง “มีอะไร?” “ไม่รู้เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอะไร ปราณมาดูให้หน่อยสิ?” นรีเกรงใจเจ้าของบ้านไม่น้อย แต่เธอไม่สามารถอาบน้ำเย็นได้จริง ๆ การเอ่ยขอความช่วยเหลือจากพ่อของลูกน่าจะไม่เหลือบ่ากว่าแรงเขา ขณะที่ร่างสูงก้าวผ่านเข้าไปตรวจสอบให้ หญิงสาวก็ทำได้เพียงกอดอกมอง “เป็นไง? ใช้ได้ไหม?” “น่าจะพัง” หลังจากตรวจเช็กอยู่ครู่ ทั้งเปิดปิดน้ำใหม่หลายรอบ สัญญาณไฟระบุอุณหภูมิก็ยังไม่ทำงานชายหนุ่มจึงตีความได้เช่นนั้น เดินไปหาเครื่องมือมางัดแงะดูอีกอีดใจก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิม หลังจากกระแทกฝาครอบปิดกลับเข้าที่ ตาคมก็เหลือบชำเลืองมองคนซึ่งยังอยู่ในสภาพล่อแหลม ผ้าเช็ดตัวที่นรีใช้ห่อหุ้มเรือนร่างดูจะสั้นเกินพอดี ระยะการมองของเขาจึงจำกัดอยู่แค่ใบหน้าผ่องขาว “เธออาบไม่ได้?” “ใช้ไม่ได้เลยเหรอ? แล้วห้องน้ำชั้นล่างล่ะ?” นรีอึกอักเสียงแผ่ว ก่อนจะสั่นหัวในอีกวินาที “ไม่เป็นไร เดี๋ยวลองอาบดูก่อนก็ได้” “ข้างล่างไม่มีใครใช้อาบน้ำ ไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น” “โอเค” คนตัวเล็กผงกหัวเ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.13ให้ความหวัง สองวันต่อมา เย็นวันนี้ปราณและนรีมีนัดกับเจ้าของรีสอร์ตเปิดใหม่อย่างจุ้น กว่าปราณจะจัดการธุระที่สวนเสร็จ กว่าจะขับรถถึงที่หมายก็เป็นเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ ลานจอดมีรถหลายคันจอดเรียงเป็นระเบียบ นรีเดาได้ว่าคงเป็นของบรรดาเพื่อนฝูงของเจ้าของ ตากลมโตกวาดมองไปรอบตัวด้วยความรู้สึกชอบอกชอบใจแม้ยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ทว่าจากสภาพแวดล้อม ประกอบกับตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่ซึ่งมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบพาโนรามา รวมถึงสภาพอากาศที่บ่งบอกว่าลมหนาวกำลังมาเยือน หญิงสาวก็คิดว่าในอนาคตอันใกล้ คนเป็นเจ้าของคงได้รับสายจองจากลูกค้าไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว และในขณะที่ปราณกำลังคว้ากระเป๋าลงจากท้ายรถ ใครบางคนก็เดินถึงตัวทั้งคู่พอดี เป็นจุ้นที่รีบเข้าช่วยเพื่อนเอาเป้ลงจากหลัง “มาทันหมูกระทะ มึงรีบพาคุณนรีไปกินก่อน เดี๋ยวกูเอากระเป๋าไปเก็บให้” “นอนกันยังไง?”ปราณกวาดตาไปรอบบริเวณซึ่งมองเห็นโดมพักอาศัยเรียงรายลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ตามการลาดเอียงของพื้นที่ เขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งตอนยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนั้นกับตอนนี้เรียกได้ว่าต
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.14ทำตามหน้าที่สองชั่วโมงต่อมาหลังจากสังสรรค์จนเต็มคราบและทุกคนแยกย้ายกลับเข้าที่พัก นรีก็เพิ่งมีโอกาสอยู่กับปราณแค่สองคน ร่างสูงกำลังเดินตามมาส่งเธอ แม้ปากจะบอกว่าแค่อยากเดินดูรอบบริเวณก็ตาม“ปราณคุยกับคุณดาวรึยัง?” นรีเป็นฝ่ายชวนคุย เธอรู้ว่าเมื่อชั่วโมงก่อนดุจดาวต่อสายหาชายหนุ่มโดยตรง หากก็อยากรู้คนที่ว่าจะให้เหตุผลกับเขาว่าอย่างไรตาคมหลุบลงมองคนตัวเล็กที่เงยหน้ารอฟังคำตอบ ปราณไม่เคยคิดว่านรีจะเป็นคนช่างสงสัยหรือช่างสอบซักถาม แต่กับเรื่องนี้เจ้าตัวดูเหมือนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ“ดาวมีธุระเลยต้องรีบกลับ”นรีได้ฟังก็ได้แต่พยักหน้ารับแม้จะแอบขมวดคิ้วในใจ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอไม่ควรทำตัวสอดรู้ให้มากเกินไป“งั้นเราเข้านอนก่อน” สุดท้ายก็ตัดฟุ้งซ่านเรื่องของชาวบ้านออกจากหัวด้วยการเดินเข้าห้อง ทว่าคนด้านหลังกลับใช้มือยันประตูเอาไว้จนต้องหันมองอีกครั้ง “ปราณมีอะไร?”“เธอนอนได้รึเปล่า?”“ทำไมเราจะนอนไม่ได้?” คิ้วบางขมวดงุนงงในคำถาม“บนนี้ดึก ๆ อากาศจะยิ่งหนาว” ปราณบอกเสียงเรียบ แต่นรีกลับไหวไหล่ไม่ยี่หระ ไม่ได้รู้สึกว่ามันหนาวขนาดนั้นสักหน่อย“ไม่เห็นหนาวเลย
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.15แพ้ท้องวันต่อมา “ทำไมเราถึงกลับกันก่อน?” “เรามีงานที่สวนต้องเข้าไปจัดการ” “งั้นปราณก็ไปสิ เรากลับกับคนอื่นก็ได้” “โทษทีที่ทำให้เธอไม่ได้กลับกับคนอื่น” ตากลมโตกลอกมองบนอย่างเบื่อหน่ายเมื่อได้ฟังคำที่ราวกับจะประชดประชัน ไม่รู้ว่าการที่จุ้นให้ความสนอกสนใจเธอ หรือกระทั่งเธอเองผูกมิตรกับเขา มันไปกระตุกกระตุ้นต่อมคำถากถางของคนบางคนให้อยากทำงานนักหรืออย่างไร “หรือถ้าเธออยากกลับพร้อมไอ้จุ้น เราจะวนขึ้นไปส่ง” เห็นไหม! นรีไม่ตอบ วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะต่อปากต่อคำ แค่ตื่นมาพร้อมกับน้ำมูกเต็มรูจมูกก็ทรมานมากพออยู่แล้ว ซ้ำยังอาเจียนหนักแต่เช้าตรู่จนทั้งเธอและเขาต้องตื่นคู่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางก็ด้วย สองหนุ่มสาวเงียบกันนานกว่านาที ปราณก็เปรยต่อ… “วันนี้งานยุ่ง” “อืม” “จะกลับดึก เธอไม่ต้องรอ” “…” “แต่คงไม่เกินเที่ยงคืน” “…” เมื่อไม่ได้รับคำตอบรับ คนนั่งตำแหน่งคนขับก็หันมอง…ดวงหน้าของหญิงสาวที่ปราณได้เห็นในขณะนี้ซีดเผือดแทบไร้สีเลื
ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวน้อยที่เรียกว่ารักหลายปีผ่านไปบรรยากาศในสวนยามบ่ายคล้อยของวันไม่ต่างไปจากทุกทีแสงอาทิตย์นวลตาสาดส่องลอดผ่านกิ่งก้านผอมบางของไม้ใหญ่จนเกิดเป็นร่มเงา สายลมพัดโชยผ่านไม่ขาดสายส่งผลให้ใบไม้ร่วงกราวจากด้านบน ลานดินละลานตาด้วยสีสันของใบไม้แห้งที่ยังไม่ได้รับการเก็บกวาด เสียงนกร้องดังคลอผสานไปกับเสียงเสียดสีของใบไม้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในแบบที่ควรจะเป็น…หากที่ต่างคงเป็นเพราะตอนนี้ปอป่านลูกชายตัวน้อยของนรีและปราณกำลังอยู่ในวัยเดินเตาะแตะ เสียงหัวเราะของเจ้าตัวน้อยดังผสานไปกับเสียงเด็กอีกคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน หากเด็กชายอีกคนตัวโตกว่าเพราะอายุอานามมากกว่าหลายปีนรีในชุดคลุมท้องตัวยาว ส่งเสียงเรียก จ๋อม ให้จูงมือน้องกลับมานั่งที่แคร่ไม้หน้าบ้าน พร้อมวางผลไม้ซึ่งได้รับการปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วรอให้เด็ก ๆ ได้กินตอนนี้หญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเดินเหินไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก จะลุกจะยืนก็ต้องระมัดระวัง โชคดีที่ช่วงนี้ได้จ๋อมหลานชายของเหนือเข้ามาช่วยเลี้ยงปอป่านในช่วงปิดภาคเรียน มิเช่นนั้นคงทำอะไรได้ไม่สะดวก“จ๋อมกินได้เลยนะ เดี๋ยวอาไปเอาของกินเล่นมาเพิ่มให้” นรีลูบหัว
ตอนพิเศษ 4คู่กัดสิบปีก่อน นรีเบื่อเต็มทีกับการต้องอดทนฟังเสียงเพื่อนสนิทร้องห่มร้องไห้เพราะเรื่องแฟน ลูกตาลสะอึกสะอื้นไม่หยุดมาร่วมชั่วโมงเข้าให้แล้วตลอดทั้งเช้าที่ผ่านมา “ถ้ามันไม่คุย วันนี้ฉันจะพาแกไปคุยให้รู้เรื่องเอง”เจ้าของเรือนร่างสะโอดสะองในชุดนิสิตขนาดพอดีตัวผุดกายขึ้นยืน คว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขน ตั้งท่าจะดึงลากเพื่อนซี้ให้เดินไปด้วยกัน แต่ลูกตาลกลับส่ายหน้าหวือ“คุยที่นี่เหรอ? ไม่เอาหรอกแก”“ไม่คุยที่นี่แล้วจะคุยที่ไหน? ในเมื่อแกไปหาที่ห้องมันก็ไม่ยอมคุย” ดวงหน้าอ่อนหวานเอ่ยทั้งเสียงหงุดหงิดเต็มทนมัน ที่นรีว่าคือ โชกุน เพื่อนร่วมคณะฯ ที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ยันตอนนี้ล่วงเข้าปีที่สาม นรีก็ไม่คิดว่าลูกตาลจะไปคบกับคนที่ว่าได้ลง นอกจากเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อแล้ว ยังเที่ยวกลางคืนเก่งยิ่งกว่าอะไร ลับหลังคนเป็นแฟนอาจนอกลู่นอกทางได้ไม่ยากเย็นหากมองจากนิสัยที่เคยได้เห็นนรีเบื่อหน่ายกับความเป็นนักรักของเพื่อนเต็มที สเปกที่ลูกตาลชื่นชอบนั้น กี่ที ๆ ก็ลงเอยด้วยการน้ำตานอง… “เดี๋ยววันนี้ฉันจะลองไปคุยอีกที” ลูกตาลยังคงดึงดันย้ำในคำเดิม พลางก็ปาดน้ำตาออกจา
ตอนพิเศษ 3ราหูอมจันทร์ 3นรีรู้สึกสั่นไหวอยู่ในอกกับภาพเครื่องเพศของอีกฝ่ายซึ่งขณะนี้ผงาดตั้งลำอวดโชว์ความเป็นชาย ใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นส่ำกับความใหญ่โตสมตัวของเจ้าของ อายุก็ตั้งขนาดนี้ แต่นรียังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นของจริง และของจริงที่ได้เห็นก็น่าประทับจิตประทับใจ ชวนให้รู้สึกหวามสั่นไปทั้งกาย…ขณะเดียวกันปราณกำลังใส่เครื่องป้องกันโดยไม่คิดถามความเห็นให้เสียเวลา หากนรีไม่ต้องการในสิ่งเดียวกับเขา เจ้าตัวคงร้องประท้วง ทว่าจากสายตาฉ่ำเยิ้มที่ทอดมอง ปราณสามารถตัดสินความรู้สึกหญิงสาวได้ด้วยตัวเองร่างสูงคลานขึ้นเตียงโดยมีของแข็งผงกหัวตามการเคลื่อนไหว ท่อนขาแข็งแรงเคลื่อนเข้าแทรกระหว่างสองขาเรียวงาม มือก็นวดเอ็นเนื้อไปพลางขณะที่คนเมาได้แต่หลุบตามองแท่งเนื้อลำโต ก่อนเมินหันหนีด้วยความเขินอาย นรีไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินมาถึงขั้นนี้ และแม้ใจจะอยากปฏิเสธ ทว่าอีกความรู้สึกดันมีมากกว่าปราณโน้มตัวเข้าหาเจ้าของกลิ่นกายหอมหวาน คลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอผ่องขาว เสียงพร่ากระซิบที่ข้างกกหูเล็กแผ่วเบา“เรื่องวันนี้ถ้าเธออาย สัญญาว่าเราจะไม่บอกใคร”คนฟังหันมอง ส่งเสียงอึกอักถามราวกับไม่เข้าใจในสิ่
ตอนพิเศษ 2ราหูอมจันทร์ 2 ยี่สิบนาทีต่อมา นรีหลับ หลับไปทั้งยังอยู่ในการประคองกอดของคนตัวโตปราณพยายามปลุกเรียกเท่าไรก็ไร้การตอบสนอง มีเพียงการส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอเท่านั้น และเพราะตอนนี้เขาเหนื่อย ร่างกายต้องการนอนพักเต็มที ประกอบกับดูเวลาแล้วจึงจำใจต้องพานรีกลับที่พักไปด้วยเตียงของโรงแรมตั้งกว้าง นอนสองคนไม่น่ามีปัญหา…อย่างไรก็คงไม่มีใครคิดอยากจะขึ้นคร่อมเหนือร่างของใคร… แต่เพียงแค่ประตูห้องปิดลง คนในอ้อมแขนกลับเปิดเปลือกตาขึ้นมอง แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบเพียงสองสามที กายอ่อนระทวยบนสองแขนของชายหนุ่มก็แข็งเกร็งขึ้นทั้งอย่างนั้น ตาคมหลุบมองดวงหน้าผุดผาดเรื่อแดงของคนที่สติเริ่มกลับมา พร้อมทั้งจำต้องรีบปล่อยอีกฝ่ายลงยืนบนพื้นทันที ก่อนใครจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนประเภทชอบลักหลับ “เธอหลับ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” ปราณขยายความการกระทำด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์“อือ” คู่สนทนาผงกหัวรับ สีหน้ายังคงมึนงงกับอาการของตนเองราวกับไม่คิดติดใจอะไร ทว่าเพียงต้องยืนบนรองเท้าส้นสูง ปลีน่องเรียวเล็กก็เซวูบแทบล้มลงกองในวินาทีนี้นรีทำได้เพียงสะบัดศีรษะไล่คว
ตอนพิเศษ 1ราหูอมจันทร์ 1เพนต์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตัวอาคารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงของประเทศเป็นสถานที่ที่หญิงสาวไม่อยากเหยียบย่างเข้าใกล้เท่าไรนัก หากไม่ใช่เพราะต้องมาร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทอย่าง ลูกตาล อย่างไรนรีก็คงไม่มา เพราะเจ้าของที่พักสุดหรูซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท เป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ ซ้ำยังชอบทำร้ายจิตใจคนเป็นแฟนอยู่บ่อยครั้ง ร่างผอมบางในชุดเดรสสีครีมสั้นเหนือเข่ายืนทอดอารมณ์กอดอกอยู่ทางมุมหนึ่งของระเบียงบนตึกสูงระฟ้ามาได้สักพักแล้ว เวลาล่วงผ่านเที่ยงคืน ค็อกเทลสีฟ้าสวยในมือหมดไปอีกแก้ว แต่เสียงเพลงรวมถึงแสงไฟจากด้านในก็ยังไม่มีทีท่าจะยุติลงนรีเริ่มรู้สึกมึนศีรษะ ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอใช้เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ชนิดนี้ฆ่าเวลาระหว่างรอเพื่อนทะเลาะกับแฟน แม้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจ้าตัวก็ตามที และหลังจากยืนทอดอารมณ์เพียงลำพังอยู่นาน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีชายสองคนมาหยุดยืนที่ข้าง ๆ “คุณนรีไม่เข้าไปด้านในเหรอครับ? หนาวนะ” “เข้าไปนั่งจอยกับพวกเราดีกว่านะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ปากอิ่มยิ้มให้คู่สนทนา ก่อนรอยยิ้มที่ว่าจะคลายล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.47ผลลัพธ์เท่ากับรัก ตอนเย็น บรรยากาศในสวนตาหมานไม่มีอะไรต่างไปจากเดิมกับที่เคยเป็น รอบบริเวณมีเด็ก ๆ ลูกของคนงานวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันเหมือนทุกวัน หลังจากติดต่อกับชิปปิงเรื่องการส่งออกผลิตผลลอตใหม่เรียบร้อยปราณก็เดินออกจากห้องทำงานในตอนเย็น วันนี้เขากับนรีมีนัดกินมื้อเย็นกับน้องสาวและคนเป็นสามีตาคมกวาดมองไปโดยรอบก็ทันได้เห็นร่างแบบบางคุ้นตายืนอุ้มลูกชายแนบไว้กับอก เสียงใจดีของนรีกำลังพูดคุยกับเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน หญิงสาวแอบควักเงินจากกระเป๋ากระโปรงส่งต่อให้เด็กคนที่ว่าเป็นค่าขนมไม่ต่างจากทุกที คนมองพลันผุดยิ้มกว้างกับภาพที่ได้เห็น ปัจจุบันไม่มีใครในสวนตาหมานไม่รู้จักเมียของปราณ และไม่ใช่แค่ที่สวน หากแต่ในตลาดต่างก็รู้กันถ้วนหน้าว่านรีเป็นใคร ด้วยความช่วยเหลือในการกระจายข่าวของมดและกระถินที่ประกาศบอกชาวบ้านให้รู้ทั่วกันว่าสองหนุ่มสาวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เมื่อปีกลาย และได้ร่วมงานมงคลสมรสหลังจากนรีคลอดลูกได้ไม่นานเพื่อยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ร่างสูงเดินเข้าหาคนเป็นเมี
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.46ประสาผัวเมีย หนึ่งปีต่อมา เก้าอี้ตัวโตส่งเสียง ‘เอี๊ยด’ ทุกจังหวะที่มีการขย่มโยก ไอแดดยามบ่ายสาดส่องผ่านชายขอบผ้าม่านได้เพียงเล็กน้อย แต่แม้ม่านรอบห้องทำงานจะปิดทึบ หากก็ไม่ได้มืดสนิทจนมองไม่เห็นความเป็นไปที่ด้านใน นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายของชายหนุ่มทอดมองเจ้าของเรือนร่างบอบบางผ่องขาวไปทั้งตัวกำลังทิ้งสะโพกขย่มโหนกเนินเล็กเข้าใส่แท่งกายลำยาวขัดแข็งตั้งตรงในจังหวะระรัวเร็วเรือนผมสยายยาวสะบัดไปด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่าเผยให้เห็นทรวงอกอวบใหญ่เต่งตึงเด่นชัดยิ่งกว่าส่วนอื่น ยอดบัวสีหวานมีน้ำนมผุดซึมหยดลงสู่กล้ามท้องของคนตัวโตในหลายจังหวะ ปราณในสภาพเปลือยท่อนบนเอนกายนอนบนเก้าอี้ไม่คิดละสายตาไปทางอื่น ใจจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของนรีที่ในปัจจุบันร่างกายกลับสู่ความเพรียวบางดังเดิมหากจะเปลี่ยนคงเป็นเต้านมคัดตึงที่ขยายใหญ่โตจากการให้นมลูกกับสะโพกผายที่ยิ่งทำให้ทรวดทรงคนเป็นเมียชัดไปทุกส่วนสัด เอวบางร่อนมาด้านหน้าทีไร คนมองก็ยิ่งรู้สึกลำคอแห้งผากขึ้นทุกทีสายตาของนรีก็หลุบลงมองกายกำยำของคนเป็นผัวเช่นกัน สองมือวางเหนือร่องกล้าม
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.45ฮีลใจ วันต่อมา กรุงเทพฯ แม้นรีอิดออดที่จะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปคุยกับพ่อแม่ให้เรียบร้อยถึงเรื่องที่ได้เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว แม้หญิงสาวจะบอกว่ารออีกหน่อยก็ได้เพราะเป็นกังวลต่อการตอบสนองของบิดามารดา หากแต่ปราณก็ไม่คิดฟัง ‘ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เราพร้อมรับผิดชอบเธอทุกอย่าง’นี่คือเหตุผลเดียวที่เขาบอกเธอ และหากพยายามต่อรองขอเลื่อนเวลาการไปเจอ ปราณก็จะยกเหตุผลเดิมมาพูดซ้ำ สุดท้ายนรีก็จำต้องเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับคนเป็นสามี รวมถึงตาหมานและยายใจที่ก็เห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวว่าควรจัดการให้เรียบร้อย จะได้สบายใจทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกผสานรวมกันอยู่ในที่เดียว ตาหมานและยายใจรู้ว่านรีนั้นร่ำรวยจากคำบอกเล่าของลูกชาย แต่ไม่คิดว่าบ้านของลูกสะใภ้จะใหญ่โตถึงเพียงนี้ แม้ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ซ้ำยังมีมากพอที่จะมาสู่ขออย่างแน่นอน หากแต่พ่อแม่ของชายหนุ่มก็อดเหงื่อตกอย่างเสียไม่ได้ ถึงกระนั้นก็ยังต้องพยายามคุมสีหน้าใ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.44ไม่ใช่แค่ลูก หลายวันต่อมา ปราณเพิ่งกลับจากสวน… ช่วงนี้เขาเปลี่ยนเวลาการทำงาน จากที่เคยถึงบ้านมืดค่ำก็กลับเร็วขึ้น รวมถึงแวะเข้าตลาดหาซื้อของกินที่นรีชอบกลับมาให้คล้ายจะเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว อีกทั้งจากไปทำงานทุกวันก็หยุดอยู่บ่อย ๆ เพราะต้องการอยู่ดูแลคนที่บ้าน แสงไฟในบ้านติดสว่างเพราะบรรยากาศด้านนอกเริ่มโพล้เพล้ใกล้ค่ำ ร่างสูงเดินเข้าตัวบ้านเงียบเชียบไร้สุ้มเสียงคนอยู่อาศัย ทว่าบนโต๊ะมีอาหารวางเตรียมรอไว้ไม่ต่างไปจากทุกวัน ชายหนุ่มเดินไปเปิดดูพบว่านรีทำอาหารที่เขาชอบอีกแล้ว แถมเจ้าตัวยังรสมือดีเลยทีเดียวหลังจากที่ได้ลองกินมาหลายวันแม้เขาจะบอกไม่ให้เธอทำก็ตาม แต่เพราะอีกฝ่ายคงว่างมาก ปราณก็ไม่อยากขัดศรัทธา เดินขึ้นถึงห้องนอนก็ได้เห็นคนเป็นเมียกำลังนอนตะแคงตัวอยู่บนเตียงทั้งสภาพหลับใหล ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินเข้าหา ก้มลงประทับจูบเหนือหน้าท้องโป่งพองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะกดจูบเข้าที่หน้าผากมน นรีขยับตัวตื่นขึ้นในตอนนี้เอง ปากอิ่มผุดยิ้มบางเมื่อได้เจอหน้าคนที่เฝ้ารอมาตลอดท