ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’
EP.3
เก็บเป็นความลับ
กระบะรุ่นเก่าสภาพสมบุกสมบันเน้นใช้งานมากกว่าเน้นความสะดวกสบายแล่นลิ่วด้วยความเร็วพอประมาณไปตามถนนเส้นรอง บรรยากาศบนรถสงัดเงียบมีเพียงเสียงเครื่องยนต์รถกำลังทำงาน กับเสียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าของคนนั่งตำแหน่งคนขับเท่านั้น
ไม่ใช่แค่ปราณที่ไม่อยากคุยกับนรี หญิงสาวเองก็รู้สึกแบบเดียวกัน ตั้งแต่กลับออกมาจากสวน ต่างฝ่ายต่างก็ตกอยู่ในอาการปั้นปึ่งด้วยกันทั้งคู่ ในระหว่างความเงียบน่าอึดอัดใจ ตากลมโตก็บังเอิญสังเกตเห็นเข้ากับอะไรบางอย่างที่ข้างตัว
มันคือกล่องถุงยางอนามัยชนิดยกโหลซึ่งถูกแกะใช้ไปแล้วบางส่วนวางไว้อย่างเปิดเผยในช่องเก็บของระหว่างเบาะที่ไม่มีฝาปิด ความเป็นชายแท้ของอีกฝ่ายทำเอานรีพูดไม่ออก แม้รู้ว่าเธอเห็น เขาก็ไม่คิดที่จะเก็บให้พ้นสายตา
นรีไม่แปลกใจในความเป็นบุรุษเพศที่ได้เห็น หากไม่นับเรื่องความไม่ลงรอยระหว่างคนทั้งคู่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปราณเป็นผู้ชายประเภทที่สาว ๆ ชื่นชอบ สมัยเรียนเขาเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจรุ่นพี่รุ่นน้องทุกชั้นปี เป็นนักกีฬาของมหา’ลัย เป็นนักกิจกรรมตัวยง ซ้ำยังได้เป็นประธานรุ่นอีกต่างหาก กระทั่งตอนนี้ผ่านมาร่วมสิบปี เธอก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคงมีคนหลงไปรูปลักษณ์ภายนอกของคนที่ว่าเหมือนครั้งวันวาน
ปราณมีรูปร่างสูงโปร่ง ท่าทางกระฉับกระเฉงคล่องตัว ซ้ำยังมีเครื่องหน้าคมชัดหล่อเหลา ยังไม่นับรวมเรือนร่างใต้ร่มผ้าที่เธอเคยได้สัมผัสมาแล้วก็ด้วย ยิ่งเวลาผ่านล่วงเลยไปไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขายิ่งดูดีขึ้นเป็นกอง
นรีคิดว่าคนเดียวบนโลกใบนี้ที่เหม็นขี้หน้าเขา คงมีแค่เธอ…
“ควรตกลงเรื่องระหว่างเราไหม?”
หญิงสาวเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นในจังหวะหนึ่ง ด้วยเล็งเห็นว่าการที่เธอโผล่มาแบบนี้ ซ้ำยังอุ้มท้องลูกเขามาด้วย อาจทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่สะดวกใจในบางเรื่อง
“เราคิดว่าควรเก็บเรื่องลูกเป็นความลับ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องบอกใคร ปราณจะได้ไม่ต้องลำบากใจเวลาจะทำอะไร” ประกอบคำพูดนัยน์ตาสีอ่อนก็หลุบลงมองเครื่องป้องกันทางเพศที่ข้างตัวเพื่อสื่อความนัย
“เธอจะบอกให้เราไปกินกับใครก็ได้?” เจ้าของเครื่องหน้าคมคายถามกลับอย่างตรงไปตรงมา จนสาวเจ้าถึงกับต้องเมินหันหนี
“เราไม่ได้แต่งงาน ไม่ใช่สามีภรรยา เป็นแค่พ่อแม่ของลูกร่วมกัน ปราณจะทำอะไรก็ทำไปสิ”
เพราะการปะทะคารมคือเรื่องปกติระหว่างทั้งคู่ ได้ยินฝ่ายหญิงเสนอมาแบบนั้น ปราณก็อดไม่ได้ที่จะประชดประชัน
“เธอก็เหมือนกัน ถ้าระหว่างนี้มีใครมาจีบก็เชิญได้ตามสบาย”
นรีบึนปากด้วยหมั่นไส้ในความเย่อหยิ่งที่ได้เห็น เธออุตส่าห์คุยด้วยดี ๆ แต่ในสายตาเขาคงคิดว่าเธอเป็นศัตรูคู่อาฆาตมากกว่าแม่ของลูกแบบนั้นกระมัง
“ปราณไม่บอกเราก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ได้ข่าวว่าคนต่างจังหวัดนี่เศรษฐีตัวจริง”
“ท้องจะโตอยู่ไม่กี่วัน ยังคิดจะหาผู้ชาย” เสียงไร้อารมณ์ถากถาง ปราณไม่แม้แต่จะหันมองหน้าเธอ เมื่อกี้ก็เขานั่นแหละที่บอกให้เธอคุยกับคนอื่นได้ตามสบาย
นรีนึกอยากจะหันไปเขย่าคนตัวโตแรง ๆ ให้พักยกคุยกันเหมือนคนปกติสักที แต่ก็ทำได้เพียงสะกดเก็บอารมณ์ขุ่นมัวเอาไว้ เมื่อคิดได้ว่าทั้งคู่ต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันไปอีกหลายเดือน ปรองดองกันไว้คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซ้ำเธอเองเป็นฝ่ายมาอยู่อาศัยบ้านเขาก็ด้วย สุดท้ายจึงพยายามเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“เราจะคุยกันดี ๆ สักครั้งไม่ได้รึไง?”
“…”
คู่สนทนาชะงักเล็กน้อย ก่อนจำต้องยอมเก็บหมากลับเข้าปากเป็นการชั่วคราว ปราณรู้ว่านรีต้องการคุยอย่างจริงจัง อีกทั้งสองคนไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะถกเถียงกันทุกครั้งที่เจอหน้าเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ชายหนุ่มมีสารพัดความคิดตบตีกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัว
จู่ ๆ เขาก็ต้องเป็นพ่อคนทั้งที่เมียก็ยังไม่มี ซ้ำร้ายแม่ของลูกยังเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายบนโลกที่เขาคิดจะใช้ชีวิตด้วย ไหนจะเสนอเรื่องงานแต่งแต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ ไหนจะเรื่องลูกที่หากเขาไม่จดทะเบียนสมรสกับเธอ การร้องขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูก็จะยุ่งยากไปกันใหญ่หากเกิดปัญหาในภายภาคหน้า นี่ยังไม่นับรวมเรื่องหัวใจที่เขามีคนที่หมายตาต้องใจอยู่ก่อนแล้ว
มีแต่เรื่องประสาทกินแบบนี้ จะให้ปลอดโปร่งโล่งสบายได้อย่างไร?
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มมีทีท่าอ่อนลง นรีก็ตั้งท่าเอ่ยอย่างเป็นงานเป็นการอีกครั้ง “เราพูดจริงนะ ปราณอยากทำอะไรก็ทำได้เลย ถ้ามีแฟนก็คบต่อได้ เราจะไม่ทำให้เกิดปัญหา”
ประโยคหลังแผ่วเบาจนน่าใจหาย นรีไม่คิดว่าจะต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อให้เขาขนาดนี้ แต่หากจะอยู่อย่างสงบสุข การยอมถอยคนละก้าวคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แม้ชั่วโมงที่ผ่านมาเธอและเขาเพิ่งผ่านการปะทะฝีปากกันมาก็ตามที
“เราก็พูดจริง เธออยากทำอะไรก็ทำ” ปราณตอบกลับด้วยประโยคเดียวกัน “ถ้าเธอยืนยันว่าไม่แต่งแน่”
“เราไม่แต่ง เราไม่ได้อยากแต่งกับปราณ” หญิงสาวตัดบทชนิดไม่จำเป็นต้องคิดให้เสียเวลา ทำเอาคู่สนทนาเริ่มรู้สึกเสียเซลฟ์เล็ก ๆ จนต้องแสร้งทำเสียงรำคาญใจ
“เออ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง”
“ใครถาม ก็บอกว่าเราเป็นเพื่อนปราณแค่นั้นพอ”
“อืม เพื่อนที่อีกไม่กี่เดือนก็คงจะเดินท้องโต”
“เรื่องไปหาหมอ เราก็คิดว่าน่าจะไปเองได้” นรีเมินคำถากถาง เธอคิดว่าคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะเดินทางเข้าตัวเมืองคนเดียว
แม้ปราณจะไม่เห็นด้วยเพราะต้องขับรถข้ามอำเภออย่างไรเขาคงต้องเป็นฝ่ายพาไป แต่หากเสนอ นรีคงดึงดันที่จะรับผิดชอบตัวเอง เอาไว้ถึงเวลาเขาค่อยบังคับให้ไปด้วยกันแค่นั้นพอ
“เราจะพาแวะเข้าไปที่หน้าตลาด เผื่อเธอจะออกมาหาซื้ออะไรตอนเราไม่อยู่บ้าน” พูดจบ คนขับก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าสู่ถนนเทศบาลโดยไม่เอ่ยเรื่องเดิมเพื่อเป็นการยุติบทสนทนาในเรื่องนั้น
“ปกติปราณไม่อยู่บ้านเหรอ?”
“คนเขามีงานมีการให้ทำ ไม่ได้ว่างไปวัน ๆ” ประโยคท้ายนั้นราวกับจะค่อนขอด แต่นรีก็ทำทีไม่ได้ยิน
“แล้วปราณทำงานอะไร?”
“เป็นคนงานในสวน”
“เป็นเจ้าของสวนไม่ใช่เหรอ?”
“เจ้าของสวนแล้วทำงานไม่ได้?”
“ก็เราเห็นคนงานเยอะแยะออก”
นรีไม่ได้เอ่ยเรื่องเกินจริง เธอรู้มาจากเพื่อนว่า ฐานะทางบ้านฝ่ายชายนั้นใช่ว่าจะไก่กา อีกทั้งชั่วโมงที่ผ่านมาก็พิสูจน์กับตาแล้วว่าจริง
สวนตาหมานมีอาณาบริเวณกว้างขวาง เต็มไปด้วยคนงาน ทั้งฝ่ายเก็บเกี่ยว ฝ่ายคัดแยก ฝ่ายขนขึ้นรถ อีกทั้งโกดังพักผลผลิตก็ใหญ่โตจนอดจินตนาการไม่ได้ว่าขนาดพื้นที่ของ สวนบ้าน ๆ ดังคำเอ่ยอ้างที่ปราณมักบอกกับเพื่อนเสมอนั้นกินพื้นที่กี่ไร่ และทั้งหมดทั้งมวลทำให้นรีคิดว่า ลูกชายเจ้าของสวนไม่น่ามีอะไรให้ทำ
และแม้ชายหนุ่มจะทำตัวติดดิน ไม่ได้สวมใส่แบรนด์เนมแม้แต่ชิ้นเหมือนอย่างคนที่เธอเคยคบหา แม้กระบะที่ขับล้อทั้งสี่จะเต็มไปด้วยดินลูกรังเกรอะกรัง ทว่าการที่เขาไม่อิดออดแม้แต่น้อยกับเรื่องลูกในท้องของเธอ ความพร้อมที่จะให้การรับผิดชอบนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า ระหว่างอยู่ที่นี่เธอคงไม่ถึงกับลำบากตรากตรำ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบ นรีก็ไหวไหล่
“เราจะไปรู้ได้ไงว่าที่สวนมีอะไรให้ปราณทำ”
ปราณคิดว่าถึงเขาจะอธิบายให้ฟังว่าในสวนนั้นมีงานให้ทำหลายอย่าง แต่คนซึ่งน่าจะไม่เคยทำงานอย่างนรีคงไม่มีวันเข้าใจ สุดท้ายจึงตัดจบด้วยคร้านจะแจกแจงรายละเอียดส่วนตัว
“เราเข้าสวนตั้งแต่เช้ากว่าจะกลับก็ค่ำ ๆ”
“เราต้องอยู่คนเดียวจนถึงค่ำเลยเหรอ?”
“…”
ตอนนี้เองที่คิ้วหนากระตุก นรีคงไม่ได้หมายความว่าจะให้เขาหยุดทำงานมาอยู่ด้วยใช่หรือไม่? หากเป็นเช่นนั้นจะทำอย่างไร? เขาไม่ใช่คนประเภทอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ยังชอบตะลอนไปนู่นมานี่ อีกทั้งไอ้คำว่า ‘ดูแล’ ที่พ่อเขากำชับนักหนามันมีขอบเขตประมาณไหนกันแน่?
นรีเห็นสีหน้าราวกับกำลังตบตีกับตัวเองอยู่ในใจ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดไปไกลหลายหมื่นโยชน์กับการตั้งคำถามของเธอ
“เราแค่ถาม ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ปราณวุ่นวายหรอก”
“ดี เราก็มีเรื่องส่วนตัวต้องทำเหมือนกัน”
สีหน้าโล่งใจชนิดไม่เก็บอาการของเขา ทำเอาหญิงสาวแอบทำเสียง ‘หึ’ ในใจ อดคิดไม่ได้ว่าในคืนนั้นเกิดปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ขึ้นหรืออย่างไรเธอกับเขาถึงได้ลงเอยกันบนเตียง ซ้ำร่างกายยังปะทะเข้าหากันจนถึงหัวรุ่งของอีกวัน
เพียงแค่ห้วงคำนึงคิดย้อน ภาพท่วงท่าเร่าร้อนของบุรุษเพศวัยฉกรรจ์ในคืนที่ว่าก็ฉายกลับเข้าหัวโดยพลัน มัดกล้ามขัดแข็งทั่วทั้งร่าง สัมผัสหนักหน่วงทว่ารัญจวนใจยังคงตราตรึง
นรีพลั้งเผลอชำเลืองมองอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ และดันมีคนสังเกตเห็นสายตาของเธอเข้าพอดี
“มองไร?”
“เปล่า”
“ถึงตลาดแล้วจะลงไหม? หรือแค่วนดูก็พอ?”
โชคดีที่ตอนนี้ถึงหน้าตลาดแล้วจริง ๆ กระบะจอดสนิทลงหน้าร้านข้าวมันไก่ที่คนเยอะเป็นพิเศษยิ่งกว่าร้านอื่นในบริเวณใกล้เคียงซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ในอาคารชั้นเดียวตรงหน้า
หญิงสาวปลดเข็มขัดนิรภัยแทนการให้คำตอบเพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีข้าวตกถึงท้องเลยสักเม็ด แต่ปราณกลับรู้สึกพลาดท่าที่เสนอไปเช่นนั้น
เขาลืมคิดไปว่าคนที่กำลังลงจากรถแต่งตัวโดดเด่นแค่ไหน และลืมคิดว่า อาจเกิดสารพัดคำถามประเดประดังเข้ามา ด้วยคนละแวกนี้รู้จักมักคุ้นกับเขาด้วยกันทั้งสิ้น
ทว่าก็ทำได้เพียงพรูลมหายใจเสียงดัง กระแทกศีรษะเข้ากับเบาะรถด้วยความรู้สึกหนักอกเกินกว่าจะบรรยาย ก่อนจำใจต้องดับเครื่องยนต์ลง
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.4คนในใจบรรยากาศหน้าตลาดตอนเที่ยงวันไม่คึกคักเหมือนในตอนเช้าอาจเพราะไอแดดแผดแสงจ้าผู้คนจึงเลือกที่จะอยู่บ้านกันเสียมากกว่า ร้านค้าที่ตั้งร้านขายบริเวณอาคารด้านหน้าปากทางถนนตัดเข้าสู่ตลาดสดมองดูเงียบเหงาไม่น้อย ทว่าร้านหนึ่งยังคงมีลูกค้านั่งรับประทานมื้อกลางวันอย่างเนืองแน่นไม่ต่างไปจากทุกทียังไม่ทันที่ร่างสูงจะเดินถึงตัวคนที่มาด้วยกัน นรีก็ล่วงหน้าไปนั่งที่โต๊ะซึ่งยังว่างเว้นจากการจับจอง สายตาหลายคู่หันมองเจ้าตัวจนปราณลังเลที่จะเดินเข้าหา แต่แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเลือกขณะที่หญิงสาวเอ่ยปากสั่งอาหารกับลูกจ้างร้านซึ่งกำลังยืนรอรับออร์เดอร์เขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม นอกจากสายตาสนอกสนใจในความสวยชวนมองของลูกค้าไม่คุ้นหน้าแล้ว ยังมีสายตาแปลกใจชำเลืองมองเขาด้วยอีกคน“อะไรพี่วีระ?” ชายหนุ่มโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะ ทำทีชวนคนรู้จักพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ “ไอ้เหนือไม่เข้าร้าน?”วีระ เป็นลูกจ้างของเพื่อนสนิทเขาซึ่งเป็นเจ้าของร้านข้าวมันไก่ชื่อดังประจำอำเภอที่มีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจร รวมถึงลูกค้ารายใหญ่รายย่อยที่สั่งอาหารอื่น ๆ สำหรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ในทุกเทศกาล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.5ไม่ใช่เมียวันต่อมาเมื่อวานไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษ ปราณส่งนรีที่บ้านเรียบร้อยก็กลับออกไปในทันที กว่ากระบะคันเดิมจะจอดสนิทลงที่หน้าตัวบ้านก็ปาไปเกือบสี่ทุ่ม แน่นอนว่าทั้งสองไม่ได้เจอกันวันนี้เจ้าของบ้านเข้าสวนตั้งแต่หัวรุ่ง หญิงสาวตื่นมาไม่เจอใครจึงอดคิดไม่ได้ว่า หากเขาไม่ได้ไปทำงานเช้าเป็นปกติ ก็คงไม่พ้นเลี่ยงที่จะเจอหน้ากันตัวบ้านเงียบเชียบได้ยินเพียงเสียงแว่วมาจากที่ไกล ๆ ไอแดดยามสายสาดจ้าผ่านทางช่องแสงที่มีอยู่หลายจุดทั่วทั้งบ้าน มองผ่านหน้าต่างบานกระจกเห็นเพียงผืนนาขจีเขียวสดมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ใบหญ้าไหวลู่พลิ้วเอนตามกระแสลมนรีหยุดยืนนิ่งทอดสายตามองทัศนียภาพด้านนอกนานกว่านาทีโดยไม่รู้ตัว ทุกสิ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นชนบทของจริง ยิ่งย้ำเตือนในเรื่องที่ว่าเธอจะต้องใช้ชีวิตที่นี่ต่อไปอีกหลายเดือนนรีเกิดและโตที่กรุงเทพฯ อีกทั้งเป็นคนประเภทชื่นชอบการใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสีเสียง โปรดปรานความหรูหราสะดวกสบาย จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเดินทางออกต่างจังหวัดครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไร รู้แค่ว่านานมากพอจะทำให้ความทรงจำครั้งที่ว่าเลือนหายไปกับกาลเวลา
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.6พยายามปรับตัว แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบช้า ก่อนเปลือกตาบางจะขยับเปิดในที่สุดหลังจากเป็นลมหมดสติไปครู่ใหญ่ นรีตั้งท่าจะลุกขึ้นในทันทีที่สติกลับคืน ทว่าคนซึ่งนั่งชันเข่าอยู่ที่พื้นข้างโซฟาก็ดันไหล่ให้ล้มลงนอนตามเดิม ทั้งอีกฝ่ายยังจ่อยาดมไว้ใต้จมูกของเธออีกครั้ง “เรามาอยู่บ้านได้ไง?”เสียงหวานพึมพำถามเจ้าของบ้าน ไม่ลืมที่จะดึงเอายาลมยาหอมมาถือไว้เอง นรีเพิ่งเห็นก็ตอนนี้ว่านอกจากพัดลมตั้งพื้นแล้ว คนตรงหน้ายังโบกพัดสานเป็นจังหวะช้า ๆ ให้เธออีกด้วย แต่การกระทำที่ว่ากลับหยุดลงเมื่อเขาเห็นเธอมองด้วยความพิศวงเหลือประมาณสองหนุ่มสาวประสานสายตากันเงียบเชียบ แม้ไร้แววแห่งความโรแมนติกใด ๆ แต่แค่ปราณไม่หน้านิ่วคิ้วขมวดใส่นรีก็นับได้ว่าดีมากแล้ว นัยน์ตาสงบนิ่งไร้อารมณ์ยังคงทอดมอง เป็นหญิงสาวเองที่ละจากการจดจ้องทว่าผ่านไปกว่านาที บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ก็ยังคงเงียบจนน่าอึดอัดใจ นรีจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากชวนคุยอีกครั้ง“ปราณพาเรากลับเหรอ?” เธอจำได้ว่าได้เห็นหน้าเขาก่อนสติจะดับวูบลง“เธอเดินออกไป?” ปราณตั้งคำถามแทนที่จะตอบกลับ แม้พอเดาสถานการณ์ออก แต่เขาอดคิดไม่ได
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.7เป็นห่วง“เราว่าอากาศกำลังดี อยากยืนต่ออีกหน่อย” นรีบอกจุดประสงค์ในตอนที่ร่างสูงก้าวเข้าใกล้ นัยน์ตาสีอ่อนกวาดมองไปรอบตัวที่มีเพียงความมืดมิด “ที่นี่เงียบสงบดี ดาวก็ชัด…”“เข้าบ้านไป เราจะปิดบ้าน” ปราณพยักพเยิดบอกอีกครั้ง ส่งผลให้คนฟังเริ่มขมวดคิ้วด้วยความข้องใจ“ปราณก็เข้าไปสิ เดี๋ยวเราปิดให้เองก็ได้” แน่นอนว่านรีสามารถจัดการเองได้จริง อย่างไรก็ต้องล็อกประตูจากด้านใน แต่ปราณก็ยังคงเอ่ยย้ำในคำเดิม“เข้าบ้าน”“ก็เราบอกว่า…”“จะยืนล่อเสือล่อตะเข้เพื่ออะไร?” คิ้วหนากดต่ำทั้งสีหน้าคล้ายจะตำหนิ “กลางคืนมีเรา แต่กลางวันเธอต้องอยู่คนเดียว ไม่กลัว?”เพราะเหตุผลข้อนี้เองทำให้นรีถึงกับชะงัก หันมองซ้ายขวาด้วยแววตาหวั่นวิตก กระแสเสียงกรุ่นกังวลพึมพำแผ่วเบา รีบก้าวเข้าหาคนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว“อย่าพูดแบบนี้สิ” “คิดได้แล้วก็รีบเข้าไป”ปราณพูดจบก็เดินนำเข้าสู่ตัวบ้านในทันที หากเขาขู่ขนาดนี้แล้วยังดื้อด้านยืนต่อก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเหมือนกัน แน่นอนว่าในจังหวะถัดมาคนที่ว่าก็ยอมกลับเข้าด้านในแต่โดยดี ทว่าหลังจากต้องกลับเข้าบ้านตามคำสั่ง นรีก็ยังคงยืนกอดอกรออ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.8แขกไม่ได้รับเชิญวันต่อมาแม้คืนวานที่ผ่านมานรีจะเสนอตัวจัดการเรื่องผ้าห่มด้วยตนเอง แต่ปราณคิดว่าเขาทำเองน่าจะเหมาะกว่า ขืนปล่อยให้คนท้องทำอะไรที่ต้องใช้แรงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะลำบากวันนี้เขาไม่เข้าสวน อันที่จริงไม่จำเป็นต้องไปก็ย่อมได้ แต่เพราะความเคยชินจึงติดเป็นนิสัย อีกทั้งพ่อแม่อยู่ประจำที่นั่นทำให้บ้านหลังนั้นเปรียบได้ประหนึ่งบ้านหลังที่สองของครอบครัวฟ้ายังไม่ทันสว่างปราณก็ลุกจากเตียงไม่ต่างจากทุกวัน หลังออกไปหาซื้อข้าวเช้าเตรียมไว้ให้แม่ของลูกเรียบร้อย เขาก็หอบเอาผ้าห่มซึ่งหนากว่าผืนที่หญิงสาวใช้ห่มนอนออกจากตู้เก็บเพื่อนำไปซักทำความสะอาดอีกรอบระหว่างที่แสงแดดช่วงสายเริ่มสาดส่อง อาทิตย์เริ่มขยับเคลื่อนขึ้นสูงปราณก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยทันตามเวลาที่ประมาณการไว้ ก่อนจะเดินตรวจตรารอบบริเวณ รวมถึงให้อาหารไอ้ปีโป้หมาซึ่งเขาเลี้ยงไว้เป็นอย่างสุดท้าย และเดินกลับเข้าบ้านจังหวะที่ใครบางคนลงมาจากชั้นสองพอดี“วันนี้ไม่เข้าสวนเหรอ?” นรีเป็นฝ่ายทักขึ้นก่อนด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นร่างสูงหย่อนกายนั่งที่โซฟาท่าทางไม่เร่งร้อนที่จะออกไปข้างนอก ซ้ำเขายังใส่เพีย
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.9มีคนสนใจเมียเขา“เจ็บรึเปล่า?”“ไม่”“ทีหลังจะเอาอะไรให้บอกเรา ถ้าล้มแรงกว่านี้จะทำไง?” ปราณเงยหน้ามองคนซึ่งนั่งบนเตียงด้วยสายตาตำหนิ“เราแค่จะหยิบผ้าห่มเตรียมไปซักตามที่คุยกันเมื่อคืนไง เห็นว่าเก้าอี้มันตัวเตี้ย ๆ ก็เลย…” นรีพยายามอธิบายการกระทำของตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับบอกปัด“ไม่ต้อง เราจัดการให้แล้ว เธออยู่เฉย ๆ”“ปราณทำอะไร?”“เราซักผ้าให้แล้ว ไหนลุก”“…”หญิงสาวขยับขึ้นยืนตามคำสั่งแม้ยังคงงุนงงในคำบอกเล่าที่ได้ยิน ปราณไม่ได้สนใจว่าเธอมีสีหน้าอย่างไร เขาจับตัวนรีให้หมุนหันหลัง จดจ้องบริเวณสะโพกผายด้วยสายตาตรง“มองอะไร?” คนตัวเล็กพยายามเบี่ยงตัวหนี สองข้างแก้มผ่าวร้อนเมื่อคู่สนทนาเอาแต่จดจ้องตาไม่กะพริบ“ถอดชุดออกดูว่ามีเลือดรึเปล่า” น้ำเสียงจริงจังทำให้นรีเข้าใจสิ่งที่เขากำลังคิด แม้เธอจะพยักหน้ารับแต่คนออกคำสั่งกลับยังคงนั่งนิ่ง“ปราณออกไปก่อนสิ” พ่อของลูกเงยหน้าขึ้นสบตา พบว่าบัดนี้พวงแก้มของคนตรงหน้าแดงปลั่ง นรีอึกอักต่อในระดับเสียงแผ่วเบา “เดี๋ยวเราดูเอง” “อืม” แม้อยากดูให้เห็นกับตาแต่ปราณไม่มีทางเลือก เขากับนรีไม่ใช่
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.10ใช้เวลาร่วมกันตอนเย็น นรีไม่เคยซื้อของด้วยความเร่งรีบขนาดนี้มาก่อนในชีวิต แม้พยายามบริหารเวลาให้น้อยที่สุด แต่กว่าจะหาสิ่งที่ต้องการได้ครบก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงเต็ม คว้าของอย่างสุดท้ายใส่รถเข็นได้ก็เร่งร้อนมุ่งหน้าสู่เคาน์เตอร์ชำระเงินทันที ระหว่างหยุดรอคิวเธอก็รีบแชตบอกความคืบหน้าให้คนรอรับรู้ น่าประหลาดที่ปราณไม่คิดโทรเร่งแม้แต่สายเดียว แชตบอกว่าตอนนี้เธอกำลังรอคิดเงินก็ไร้คำตำหนิใดตอบกลับและในจังหวะที่เข็นรถเดินหน้าเมื่อถึงคิว ร่างสูงของใครบางคนก็เดินมาหยุดลงที่อีกฝั่ง เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อของลูก ตาคมหลุบลงมองรถเข็นที่บรรจุของจนเต็มคันรถ ปราณไม่แปลกใจว่าเหตุใดหญิงสาวใช้เวลานานนักกับอีแค่ซื้อของใช้ที่จำเป็น หากเข็นรถพร้อมกันสองคันได้นรีก็คงทำ กระนั้นเขาไม่คิดปริปากบ่น ด้วยรู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวคงต้องใช้เวลานานกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปยังไม่นับรวมเรื่องที่หากออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว อีกฝ่ายเปรยด้วยความคาดหวังว่าจะได้เดินเล่นโซนอื่นของศูนย์การค้าต่อก็ด้วย เขาคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ทำการเผื่อเวลาล่วงหน้าหลายชั่วโมง คนตัวเ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.11ล่วงรู้ความลับ วันต่อมา วันนี้เป็นวันแรกที่นรีได้ลองขับรถสำรวจละแวกใกล้บ้านด้วยตัวเอง รวมถึงแวะเข้าตลาดเพื่อหาซื้ออาหารตระเตรียมสำหรับทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น หลังจากวนดูจนทั่วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจให้ทำหญิงสาวจำได้ว่ามีร้านทำผมอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และนั่นคือจุดหมายปลายทางต่อไปสำหรับเธอ “คนที่ไหนคะเนี่ย? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”ช่างทำผมสาวเอ่ยปากชวนลูกค้าไม่คุ้นหน้าพูดคุยในที่สุด หลังจากทนจดจ้องด้วยสายตาฉงนสงสัยอยู่นานสองนาน มด ไม่เคยเห็นหน้านรี ทั้งแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนพื้นที่ ร้านทำผมเจ๊แดงที่เธอเป็นช่างประจำการมาหลายปีลูกค้าส่วนมากเป็นลูกค้าประจำด้วยกันทั้งสิ้น และที่ทำให้อดสอดรู้ไม่ได้คงเพราะรถคันที่จอดอยู่หน้าร้านเป็นรถของพี่จุ้นซึ่งเธอเองก็รู้จัก “มาจากกรุงเทพฯ ค่ะ” “เป็นเพื่อนพี่จุ้นเหรอคะ?” มดสบโอกาสรีบซักถาม พยักพเยิดไปนอกร้านประกอบคำ “นั่นรถเก่าของพี่จุ้น มดจำได้” นรีมองตามสายตาพลางก็ยิ้มให้คู่สนทนาที่ดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เสียงหัวเราะ สีหน้ายิ้มแย้ม กระทั่งสีสันฉูดฉาดของชุดที่สวมใส่ราวกับจะ
ตอนพิเศษ 5เจ้าตัวน้อยที่เรียกว่ารักหลายปีผ่านไปบรรยากาศในสวนยามบ่ายคล้อยของวันไม่ต่างไปจากทุกทีแสงอาทิตย์นวลตาสาดส่องลอดผ่านกิ่งก้านผอมบางของไม้ใหญ่จนเกิดเป็นร่มเงา สายลมพัดโชยผ่านไม่ขาดสายส่งผลให้ใบไม้ร่วงกราวจากด้านบน ลานดินละลานตาด้วยสีสันของใบไม้แห้งที่ยังไม่ได้รับการเก็บกวาด เสียงนกร้องดังคลอผสานไปกับเสียงเสียดสีของใบไม้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในแบบที่ควรจะเป็น…หากที่ต่างคงเป็นเพราะตอนนี้ปอป่านลูกชายตัวน้อยของนรีและปราณกำลังอยู่ในวัยเดินเตาะแตะ เสียงหัวเราะของเจ้าตัวน้อยดังผสานไปกับเสียงเด็กอีกคนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ด้วยกัน หากเด็กชายอีกคนตัวโตกว่าเพราะอายุอานามมากกว่าหลายปีนรีในชุดคลุมท้องตัวยาว ส่งเสียงเรียก จ๋อม ให้จูงมือน้องกลับมานั่งที่แคร่ไม้หน้าบ้าน พร้อมวางผลไม้ซึ่งได้รับการปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วรอให้เด็ก ๆ ได้กินตอนนี้หญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทีเดินเหินไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก จะลุกจะยืนก็ต้องระมัดระวัง โชคดีที่ช่วงนี้ได้จ๋อมหลานชายของเหนือเข้ามาช่วยเลี้ยงปอป่านในช่วงปิดภาคเรียน มิเช่นนั้นคงทำอะไรได้ไม่สะดวก“จ๋อมกินได้เลยนะ เดี๋ยวอาไปเอาของกินเล่นมาเพิ่มให้” นรีลูบหัว
ตอนพิเศษ 4คู่กัดสิบปีก่อน นรีเบื่อเต็มทีกับการต้องอดทนฟังเสียงเพื่อนสนิทร้องห่มร้องไห้เพราะเรื่องแฟน ลูกตาลสะอึกสะอื้นไม่หยุดมาร่วมชั่วโมงเข้าให้แล้วตลอดทั้งเช้าที่ผ่านมา “ถ้ามันไม่คุย วันนี้ฉันจะพาแกไปคุยให้รู้เรื่องเอง”เจ้าของเรือนร่างสะโอดสะองในชุดนิสิตขนาดพอดีตัวผุดกายขึ้นยืน คว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขน ตั้งท่าจะดึงลากเพื่อนซี้ให้เดินไปด้วยกัน แต่ลูกตาลกลับส่ายหน้าหวือ“คุยที่นี่เหรอ? ไม่เอาหรอกแก”“ไม่คุยที่นี่แล้วจะคุยที่ไหน? ในเมื่อแกไปหาที่ห้องมันก็ไม่ยอมคุย” ดวงหน้าอ่อนหวานเอ่ยทั้งเสียงหงุดหงิดเต็มทนมัน ที่นรีว่าคือ โชกุน เพื่อนร่วมคณะฯ ที่เห็นหน้ากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ยันตอนนี้ล่วงเข้าปีที่สาม นรีก็ไม่คิดว่าลูกตาลจะไปคบกับคนที่ว่าได้ลง นอกจากเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อแล้ว ยังเที่ยวกลางคืนเก่งยิ่งกว่าอะไร ลับหลังคนเป็นแฟนอาจนอกลู่นอกทางได้ไม่ยากเย็นหากมองจากนิสัยที่เคยได้เห็นนรีเบื่อหน่ายกับความเป็นนักรักของเพื่อนเต็มที สเปกที่ลูกตาลชื่นชอบนั้น กี่ที ๆ ก็ลงเอยด้วยการน้ำตานอง… “เดี๋ยววันนี้ฉันจะลองไปคุยอีกที” ลูกตาลยังคงดึงดันย้ำในคำเดิม พลางก็ปาดน้ำตาออกจา
ตอนพิเศษ 3ราหูอมจันทร์ 3นรีรู้สึกสั่นไหวอยู่ในอกกับภาพเครื่องเพศของอีกฝ่ายซึ่งขณะนี้ผงาดตั้งลำอวดโชว์ความเป็นชาย ใจดวงน้อยเต้นรัวไม่เป็นส่ำกับความใหญ่โตสมตัวของเจ้าของ อายุก็ตั้งขนาดนี้ แต่นรียังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นของจริง และของจริงที่ได้เห็นก็น่าประทับจิตประทับใจ ชวนให้รู้สึกหวามสั่นไปทั้งกาย…ขณะเดียวกันปราณกำลังใส่เครื่องป้องกันโดยไม่คิดถามความเห็นให้เสียเวลา หากนรีไม่ต้องการในสิ่งเดียวกับเขา เจ้าตัวคงร้องประท้วง ทว่าจากสายตาฉ่ำเยิ้มที่ทอดมอง ปราณสามารถตัดสินความรู้สึกหญิงสาวได้ด้วยตัวเองร่างสูงคลานขึ้นเตียงโดยมีของแข็งผงกหัวตามการเคลื่อนไหว ท่อนขาแข็งแรงเคลื่อนเข้าแทรกระหว่างสองขาเรียวงาม มือก็นวดเอ็นเนื้อไปพลางขณะที่คนเมาได้แต่หลุบตามองแท่งเนื้อลำโต ก่อนเมินหันหนีด้วยความเขินอาย นรีไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์จะดำเนินมาถึงขั้นนี้ และแม้ใจจะอยากปฏิเสธ ทว่าอีกความรู้สึกดันมีมากกว่าปราณโน้มตัวเข้าหาเจ้าของกลิ่นกายหอมหวาน คลอเคลียจูบเข้าที่ซอกคอผ่องขาว เสียงพร่ากระซิบที่ข้างกกหูเล็กแผ่วเบา“เรื่องวันนี้ถ้าเธออาย สัญญาว่าเราจะไม่บอกใคร”คนฟังหันมอง ส่งเสียงอึกอักถามราวกับไม่เข้าใจในสิ่
ตอนพิเศษ 2ราหูอมจันทร์ 2 ยี่สิบนาทีต่อมา นรีหลับ หลับไปทั้งยังอยู่ในการประคองกอดของคนตัวโตปราณพยายามปลุกเรียกเท่าไรก็ไร้การตอบสนอง มีเพียงการส่งเสียง ‘อืม’ ในลำคอเท่านั้น และเพราะตอนนี้เขาเหนื่อย ร่างกายต้องการนอนพักเต็มที ประกอบกับดูเวลาแล้วจึงจำใจต้องพานรีกลับที่พักไปด้วยเตียงของโรงแรมตั้งกว้าง นอนสองคนไม่น่ามีปัญหา…อย่างไรก็คงไม่มีใครคิดอยากจะขึ้นคร่อมเหนือร่างของใคร… แต่เพียงแค่ประตูห้องปิดลง คนในอ้อมแขนกลับเปิดเปลือกตาขึ้นมอง แพขนตาเรียงตัวสวยกะพริบเพียงสองสามที กายอ่อนระทวยบนสองแขนของชายหนุ่มก็แข็งเกร็งขึ้นทั้งอย่างนั้น ตาคมหลุบมองดวงหน้าผุดผาดเรื่อแดงของคนที่สติเริ่มกลับมา พร้อมทั้งจำต้องรีบปล่อยอีกฝ่ายลงยืนบนพื้นทันที ก่อนใครจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนประเภทชอบลักหลับ “เธอหลับ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” ปราณขยายความการกระทำด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์“อือ” คู่สนทนาผงกหัวรับ สีหน้ายังคงมึนงงกับอาการของตนเองราวกับไม่คิดติดใจอะไร ทว่าเพียงต้องยืนบนรองเท้าส้นสูง ปลีน่องเรียวเล็กก็เซวูบแทบล้มลงกองในวินาทีนี้นรีทำได้เพียงสะบัดศีรษะไล่คว
ตอนพิเศษ 1ราหูอมจันทร์ 1เพนต์เฮาส์หรูบนชั้นสูงสุดของตัวอาคารแห่งหนึ่งใจกลางเมืองหลวงของประเทศเป็นสถานที่ที่หญิงสาวไม่อยากเหยียบย่างเข้าใกล้เท่าไรนัก หากไม่ใช่เพราะต้องมาร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทอย่าง ลูกตาล อย่างไรนรีก็คงไม่มา เพราะเจ้าของที่พักสุดหรูซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท เป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ ซ้ำยังชอบทำร้ายจิตใจคนเป็นแฟนอยู่บ่อยครั้ง ร่างผอมบางในชุดเดรสสีครีมสั้นเหนือเข่ายืนทอดอารมณ์กอดอกอยู่ทางมุมหนึ่งของระเบียงบนตึกสูงระฟ้ามาได้สักพักแล้ว เวลาล่วงผ่านเที่ยงคืน ค็อกเทลสีฟ้าสวยในมือหมดไปอีกแก้ว แต่เสียงเพลงรวมถึงแสงไฟจากด้านในก็ยังไม่มีทีท่าจะยุติลงนรีเริ่มรู้สึกมึนศีรษะ ตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเธอใช้เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ชนิดนี้ฆ่าเวลาระหว่างรอเพื่อนทะเลาะกับแฟน แม้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเจ้าตัวก็ตามที และหลังจากยืนทอดอารมณ์เพียงลำพังอยู่นาน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีชายสองคนมาหยุดยืนที่ข้าง ๆ “คุณนรีไม่เข้าไปด้านในเหรอครับ? หนาวนะ” “เข้าไปนั่งจอยกับพวกเราดีกว่านะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ปากอิ่มยิ้มให้คู่สนทนา ก่อนรอยยิ้มที่ว่าจะคลายล
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.47ผลลัพธ์เท่ากับรัก ตอนเย็น บรรยากาศในสวนตาหมานไม่มีอะไรต่างไปจากเดิมกับที่เคยเป็น รอบบริเวณมีเด็ก ๆ ลูกของคนงานวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันเหมือนทุกวัน หลังจากติดต่อกับชิปปิงเรื่องการส่งออกผลิตผลลอตใหม่เรียบร้อยปราณก็เดินออกจากห้องทำงานในตอนเย็น วันนี้เขากับนรีมีนัดกินมื้อเย็นกับน้องสาวและคนเป็นสามีตาคมกวาดมองไปโดยรอบก็ทันได้เห็นร่างแบบบางคุ้นตายืนอุ้มลูกชายแนบไว้กับอก เสียงใจดีของนรีกำลังพูดคุยกับเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งที่วิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน หญิงสาวแอบควักเงินจากกระเป๋ากระโปรงส่งต่อให้เด็กคนที่ว่าเป็นค่าขนมไม่ต่างจากทุกที คนมองพลันผุดยิ้มกว้างกับภาพที่ได้เห็น ปัจจุบันไม่มีใครในสวนตาหมานไม่รู้จักเมียของปราณ และไม่ใช่แค่ที่สวน หากแต่ในตลาดต่างก็รู้กันถ้วนหน้าว่านรีเป็นใคร ด้วยความช่วยเหลือในการกระจายข่าวของมดและกระถินที่ประกาศบอกชาวบ้านให้รู้ทั่วกันว่าสองหนุ่มสาวเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่เมื่อปีกลาย และได้ร่วมงานมงคลสมรสหลังจากนรีคลอดลูกได้ไม่นานเพื่อยืนยันว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ร่างสูงเดินเข้าหาคนเป็นเมี
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.46ประสาผัวเมีย หนึ่งปีต่อมา เก้าอี้ตัวโตส่งเสียง ‘เอี๊ยด’ ทุกจังหวะที่มีการขย่มโยก ไอแดดยามบ่ายสาดส่องผ่านชายขอบผ้าม่านได้เพียงเล็กน้อย แต่แม้ม่านรอบห้องทำงานจะปิดทึบ หากก็ไม่ได้มืดสนิทจนมองไม่เห็นความเป็นไปที่ด้านใน นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกายของชายหนุ่มทอดมองเจ้าของเรือนร่างบอบบางผ่องขาวไปทั้งตัวกำลังทิ้งสะโพกขย่มโหนกเนินเล็กเข้าใส่แท่งกายลำยาวขัดแข็งตั้งตรงในจังหวะระรัวเร็วเรือนผมสยายยาวสะบัดไปด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่าเผยให้เห็นทรวงอกอวบใหญ่เต่งตึงเด่นชัดยิ่งกว่าส่วนอื่น ยอดบัวสีหวานมีน้ำนมผุดซึมหยดลงสู่กล้ามท้องของคนตัวโตในหลายจังหวะ ปราณในสภาพเปลือยท่อนบนเอนกายนอนบนเก้าอี้ไม่คิดละสายตาไปทางอื่น ใจจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของนรีที่ในปัจจุบันร่างกายกลับสู่ความเพรียวบางดังเดิมหากจะเปลี่ยนคงเป็นเต้านมคัดตึงที่ขยายใหญ่โตจากการให้นมลูกกับสะโพกผายที่ยิ่งทำให้ทรวดทรงคนเป็นเมียชัดไปทุกส่วนสัด เอวบางร่อนมาด้านหน้าทีไร คนมองก็ยิ่งรู้สึกลำคอแห้งผากขึ้นทุกทีสายตาของนรีก็หลุบลงมองกายกำยำของคนเป็นผัวเช่นกัน สองมือวางเหนือร่องกล้าม
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.45ฮีลใจ วันต่อมา กรุงเทพฯ แม้นรีอิดออดที่จะเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปคุยกับพ่อแม่ให้เรียบร้อยถึงเรื่องที่ได้เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว แม้หญิงสาวจะบอกว่ารออีกหน่อยก็ได้เพราะเป็นกังวลต่อการตอบสนองของบิดามารดา หากแต่ปราณก็ไม่คิดฟัง ‘ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เราพร้อมรับผิดชอบเธอทุกอย่าง’นี่คือเหตุผลเดียวที่เขาบอกเธอ และหากพยายามต่อรองขอเลื่อนเวลาการไปเจอ ปราณก็จะยกเหตุผลเดิมมาพูดซ้ำ สุดท้ายนรีก็จำต้องเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับคนเป็นสามี รวมถึงตาหมานและยายใจที่ก็เห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวว่าควรจัดการให้เรียบร้อย จะได้สบายใจทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง มีหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกผสานรวมกันอยู่ในที่เดียว ตาหมานและยายใจรู้ว่านรีนั้นร่ำรวยจากคำบอกเล่าของลูกชาย แต่ไม่คิดว่าบ้านของลูกสะใภ้จะใหญ่โตถึงเพียงนี้ แม้ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ซ้ำยังมีมากพอที่จะมาสู่ขออย่างแน่นอน หากแต่พ่อแม่ของชายหนุ่มก็อดเหงื่อตกอย่างเสียไม่ได้ ถึงกระนั้นก็ยังต้องพยายามคุมสีหน้าใ
ผลลัพธ์เท่ากับ ‘รัก’EP.44ไม่ใช่แค่ลูก หลายวันต่อมา ปราณเพิ่งกลับจากสวน… ช่วงนี้เขาเปลี่ยนเวลาการทำงาน จากที่เคยถึงบ้านมืดค่ำก็กลับเร็วขึ้น รวมถึงแวะเข้าตลาดหาซื้อของกินที่นรีชอบกลับมาให้คล้ายจะเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว อีกทั้งจากไปทำงานทุกวันก็หยุดอยู่บ่อย ๆ เพราะต้องการอยู่ดูแลคนที่บ้าน แสงไฟในบ้านติดสว่างเพราะบรรยากาศด้านนอกเริ่มโพล้เพล้ใกล้ค่ำ ร่างสูงเดินเข้าตัวบ้านเงียบเชียบไร้สุ้มเสียงคนอยู่อาศัย ทว่าบนโต๊ะมีอาหารวางเตรียมรอไว้ไม่ต่างไปจากทุกวัน ชายหนุ่มเดินไปเปิดดูพบว่านรีทำอาหารที่เขาชอบอีกแล้ว แถมเจ้าตัวยังรสมือดีเลยทีเดียวหลังจากที่ได้ลองกินมาหลายวันแม้เขาจะบอกไม่ให้เธอทำก็ตาม แต่เพราะอีกฝ่ายคงว่างมาก ปราณก็ไม่อยากขัดศรัทธา เดินขึ้นถึงห้องนอนก็ได้เห็นคนเป็นเมียกำลังนอนตะแคงตัวอยู่บนเตียงทั้งสภาพหลับใหล ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินเข้าหา ก้มลงประทับจูบเหนือหน้าท้องโป่งพองก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะกดจูบเข้าที่หน้าผากมน นรีขยับตัวตื่นขึ้นในตอนนี้เอง ปากอิ่มผุดยิ้มบางเมื่อได้เจอหน้าคนที่เฝ้ารอมาตลอดท