“งั้นก็ยิ่งไม่มีปัญหา!” หม่าอวิ๋นหลงยิ้มยินดีมากขึ้นหม่าอวี่เฟยถาม “พี่คะ ดวงชะตาจักรพรรดิโดยกำเนิดคืออะไรเหรอ?”หม่าอวิ๋นหลงยิ้มแต่ไม่พูด จางอวิ๋นมู่ตอบว่า “มันคือพรสวรรค์พิเศษที่หาได้ยากยิ่ง”“ในประวัติศาสตร์ ผู้ที่มีดวงชะตานี้ล้วนเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ การประสบความสำเร็จถือเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขา”เนื่องจากพรสวรรค์นี้ของหม่าอวิ๋นหลง จางอวิ๋นมู่จึงเลือกเขาเป็นแฟนถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ ด้วยสถานะคุณหนูใหญ่ตระกูลจาง เธอคงไม่มีทางสนใจหม่าอวิ๋นหลงที่มาจากตระกูลเศรษฐีบ้านนอกหรอกที่หม่าอวิ๋นหลงสามารถได้รับความสำคัญจากสำนักกระบี่เหล็ก ก็เพราะเหตุผลนี้แหละ“โอ้โห ไม่นึกเลยว่าลูกชายฉันจะยอดเยี่ยมขนาดนี้!”หม่าเฉียนคุนดีใจจนน้ำมูกโป่ง สวรรค์ช่างเมตตา ช่างเป็นเกียรติของตระกูลเราจริงๆ”มีลูกชายที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ แถมยังมีลูกสะใภ้ที่มาจากตระกูลสูงส่ง ตระกูลหม่าจะไม่รุ่งเรืองก็คงยาก“ถ้าเป็นอย่างนี้ เจ้าเด็กแซ่ลั่วนั่นคงต้องตายสถานเดียว!”หม่าเฉียนคุนตื่นเต้นมาก ดูมีความมั่นใจอย่างมาก “ในเมื่อผลลัพธ์ถูกกำหนดมาแล้ว งั้นเราก็ไม่ต้องรีบร้อน”“เราหาโรงแรมดีๆ สักแห่ง เพื่อเลี้ยงต้อนรับพี่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคน ร่างกายปลิวกระเด็นไปข้างหลัง เหมือนถูกรถบรรทุกชน“เพล้ง!”กระแทกประตูกระจกแตก แล้วล้มลงกับพื้นอย่างแรงร่างกายของทั้งคู่ถูกกระจกแตกบาดจนเลือดไหลไม่หยุดปากยังกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง จากอาการบาดเจ็บสาหัสคนอื่นๆ ทั้งหมดต่างตกใจจนตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาเลยคนกลุ่มนั้นเดินเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับเป็นที่ของตนชายหนุ่มที่เป็นผู้นำกลุ่มคือ หม่าอวิ๋นหลงหม่าเฉียนคุนจัดงานเลี้ยงสุดหรูให้เขาและแฟนสาวในห้องจัดเลี้ยง หม่าอวิ๋นหลงเสนอแผนการที่เรียกได้ว่าไร้ที่ติออกมานั่นก็คือ การลักพาตัว!เมื่อมีตัวประกันอยู่ในมือ ลั่วอู๋ฉางก็ย่อมไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจ ต้องยอมประนีประนอมหม่าเฉียนคุนนึกว่าลูกชายจะเสนอแผนที่น่าตกใจสักแค่ไหนออกมาแผนนี้เหมือนกับความคิดของเหลียนหมิงเจิ้ง หัวหน้าสำนักเหลยถิงคนใหม่ในตอนนั้นไม่มีผิดดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลยแต่เพราะจางอวิ๋นมู่ก็อยู่ด้วย หม่าเฉียนคุนจึงต้องยกนิ้วโป้งชมลูกชายหม่าอวิ๋นหลงว่าเป็นแผนที่ดีมากหม่าอวิ๋นหลงรู้สึกตัวลอยขึ้นมาทันที หลังจากดื่มกินอย่างอิ่มหนำแล้ว จึงนำทีมมาปฏิบัติภารก
การที่จะตั้งหลักที่นี่ให้ได้ แค่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างเดียวคงไม่พอตัวเองก็ต้องแข็งแกร่งด้วย!ดังนั้นเธอจึงเรียกบอดี้การ์ดจำนวนมากมาเพื่อรับผิดชอบงานรักษาความปลอดภัยของอาคารสำนักงานเดิมทีคิดแค่จะใช้ข่มขู่คนไม่ดี แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้งานจริงเร็วขนาดนี้“หม่าอวิ๋นหลง คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลหม่า ก็จะสามารถมาทำตัวอวดดีที่นี่ได้ตามใจชอบเหรอ?”หลิ่วซือหยินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตระกูลหลิวของเราไม่ใช่จะมารังแกกันง่ายๆ ได้หรอก!”ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด ด้านนอกก็เกิดการต่อสู้ขึ้นทันทีแต่หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของหลิ่วซือหยินก็เริ่มดูไม่ดีนักเพราะคนที่ถูกซ้อมจนล้มลงบนพื้น กลับกลายเป็นบอดี้การ์ดของเธอทั้งหมด!หม่าอวิ๋นหลงไม่ได้แสดงฝีมือเลย ท่าทางสบายๆ ลูกน้องที่เขาพามานั้นดูน่ากลัวราวกับปีศาจจนบอดี้การ์ดของตระกูลหลิ่ว ไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้เลยในเวลาไม่นาน พวกเขาก็ถูกซ้อมจนล้มลงทั้งหมดกลุ่มทั้งกลุ่มล้มลงกับพื้น ร้องโอดโอยอย่างน่าสังเวช“แค่พวกหนอนแมลง ยังกล้ามาอวดดีต่อหน้าฉัน ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”หม่าอวิ๋นหลงยิ้มเยาะแล้วพูด “นี่แค่เป็นการให้บทเรียนเล็กๆ น้
“อะไรนะ? เสี่ยวหยินถูกลักพาตัวไป!”ที่ตระกูลหลิ่วในเมืองหลวง หลิ่วเจิ้นเจียงเมื่อได้ยินข่าวก็รีบกลับมา ใบหน้ามีแต่ความโกรธขึงหลิ่วเจิ้นไห่หน้าขรึมนิ่งสนิท พูดว่า “เพิ่งได้รับข่าวว่า หม่าอวิ๋นหลงจากตระกูลหม่าในเมืองอันพาคนมาลักพาตัวเสี่ยวหยินไป”หลิ่วซือหยินถูกลักพาตัว เลขาของเธอด้วยความที่ตื่นตระหนก จึงรีบโทรกลับไปที่ตระกูลหลิ่วก่อนหลิ่วเจิ้นเจียงโกรธจนถึงขั้นเดือดดาลทันที “กล้าขนาดนี้ ตระกูลหม่านี่ต้องการหาที่ตายใช่ไหม!”“ก่อนหน้านี้ตอนตระกูลหลิ่วก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมยา ก็มีตระกูลหม่าเป็นหัวหอกในเมืองอัน คอยขัดขวางเราตลอดเวลา ใช้วิธีสกปรกหลากหลายวิธี”“แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง นั่นก็เป็นวิธีการทางธุรกิจปกติ แต่ตอนนี้ถึงกับกล้าใช้วิธีลักพาตัวที่สกปรกเช่นนี้”“มันจะทำเกินไปแล้ว พวกเขาไม่กลัวว่าตระกูลหลิ่วจะจัดการพวกเขาหรือไง?”หลิ่วเจิ้นไห่ขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันตรวจสอบแล้ว หม่าอวิ๋นหลงเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่เหล็ก เป็นศิษย์เอกที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาโดยตรงจากเจ้าสำนัก”“อะไรนะ ศิษย์ของสำนักกระบี่เหล็ก?” หลิ่วเจิ้นเจียงตกใจหากเป็นเพียงตระกูลหม่า ด้วยฐานะและอำนาจของตระกูลหลิ่ว ก็ไม่จำเ
ลั่วอู๋ฉางเพิ่งจะออกเดินทาง ก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมาทางนี้ และเริ่มลดระดับความสูงยังไม่ทันที่เฮลิคอปเตอร์จะจอดสนิท หลิ่วเจิ้นเจียงก็รีบเปิดประตูห้องโดยสารและกระโดดลงมา“พวกคุณควรบอกเรื่องเสี่ยวหยินให้ผมทราบเร็วกว่านี้!”ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าแสดงความไม่พอใจแค่ครึ่งชั่วโมงก็เพียงพอที่จะช่วยคนออกมาแล้ว“บอกคุณแล้วจะมีประโยชน์อะไร!”หลิ่วเจิ้นเจียงพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “เป้าหมายของพวกเขาในการลักพาตัวเสี่ยวหยินก็เพื่อให้คุณไปติดกับ คุณไปจะมีประโยชน์อะไร?”“การช่วยเสี่ยวหยิน สำหรับตระกูลหลิ่วของพวกเรา เป็นเรื่องง่ายๆ อยู่แล้ว”ความหมายในคำพูดของเขาชัดเจน คุณเป็นคนนอก ไม่มีสิทธิเข้ามานยุ่งในเรื่องนี้“คุณหลิ่ว คุณพูดอย่างนี้ไม่ถูกนะ”ซูเทียนคั่วพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น "ในเมื่อฝ่ายนั้นระบุชื่อให้คุณลั่วไป แน่นอนว่าจะขาดเขาไม่ได้?”พวกคุณไม่รู้เลยว่า “ราชันมังกรลั่วเทียน” หกคำนี้มีความหมายอย่างไร!เมื่อมีเขาอยู่ ถึงแม้จะเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ ก็ต้องอยู่อย่างเงียบสงบเท่านั้น!ยิ่งไปกว่านั้น เพียงแค่หม่าอวิ๋นหลงตัวเล็กๆ คนเดียวอีกหลิ่วเจิ้นเจียงขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก
“แคว๊ก!”ชายคนนั้นกระชากถุงน่องสีดำของผู้หญิงออก เผยให้เห็นขาเรียวสองข้างที่ขาวเรียบเนียนหญิงสาวดิ้นสุดกำลัง แต่จะสู้แรงชายคนหนึ่งได้อย่างไรคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่นอกลูกกรงเริ่มโห่ร้อง“ช่างเป็นสุดยอดสาวงามจริงๆ มาไม่เสียเที่ยวเลย!”“ลูกสาวตระกูลหลิ่วจากเมืองหลวงจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกหรือหน้าตาก็ไร้ที่ติจริงๆ”“ได้ตายใต้คาดอกโบตั๋นของหญิงสาว ต่อให้จะเป็นผีก็ยังสำราญ! ได้ขึ้นขี่คุณหนูตระกูลใหญ่ระดับท็อปสักครั้ง ฉันเอาไปโม้ได้ทั้งชีวิตเลย!”“ศิษย์พี่รีบหน่อยสิ พวกน้องๆ ยังรอแห้งเหี่ยวอยู่ข้างนอกอีกนะ!”ชายในลูกกรงยิ้มอย่างชั่วร้าย “รีบไปไหน ศิษย์พี่ขึ้นสวรรค์เสร็จแล้วก็ถึงตาพวกนายเองแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า!”เขาใช้มือข้างหนึ่งกดผู้หญิงไว้แน่น กำลังจะใช้ทำการข่มขืน“ฉวัะ!”แสงสีเงินเย็นเยียบสายหนึ่งพุ่งผ่านอย่างรวดเร็วตรงกลางหว่างคิ้วของชายคนนั้นพอดี ทะลุเข้าไปข้างในภาพดูเหมือนถูกหยุดชะงักไป เขาเบิกตาโต มือหยุดชะงักหญิงสาวกำลังจะดิ้น ชายคนนั้นก็ล้มหน้าคว่ำลงอย่างควบคุมไม่ได้จากนั้นเขาก็ล้มทับบนตัวหญิงสาว ไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย!“อะไรกัน แค่นี้เขาก็หมดแรงแล้วเหรอ?”“ปกติศิษย์พี
คนกลุ่มหนึ่งพากันตะโกนเสียงดัง แล้วกรูกันเข้าไปหาลั่วอู๋ฉางในตอนนี้เอง คนชุดดำอีกกลุ่มก็โผล่เข้ามาจากด้านข้าง พวกเขาถืออาวุธแหลมคมและพุ่งเข้าโจมตีคนในกลุ่มแม้จำนวนคนจะไม่มาก แต่ก็ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ประสานงานกันอย่างเข้าขาลูกศิษย์สำนักกระบี่เหล็กถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ถูกฟันล้มลงไปเจ็ดแปดคนในชั่วพริบตาภายในเวลาไม่กี่อึดใจ พวกเขาก็ทำลายรูปแบบการยืนของฝ่ายศิษย์สำนักกระบี่เหล็กที่ไม่ได้แน่นหนานักได้สำเร็จ!พอพวกเขาตั้งสติได้ สถานการณ์ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามควบคุมไว้หมดแล้วคนกลุ่มนี้ก็คือทหารเงาของตระกูลหลิ่ว ภายใต้การนำของหลิงซวงหลิ่วเจิ้นเจียงยืนอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่งที่ไม่ไกลนัก มองทหารเงาที่เก่งกาจของเขา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มพอใจเป็นอย่างที่เขาคาดไว้จริงๆ ตระกูลหม่าเล็กๆ ไม่มีทางสู้ทหารเงาได้เลยสำนักกระบี่เหล็กอะไรกัน!ก็แค่เก่งกาจในถิ่นของตัวเองเท่านั้น พอออกจากการคุ้มครองของสำนัก ก็ถูกทำร้ายได้เหมือนคนอื่นๆที่ตระกูลหลิ่วสามารถทำธุรกิจใหญ่โตและยืนหยัดได้ไม่ล้มมาตลอดหลายปี ย่อมมีรากฐานที่ไม่ธรรมดาทหารเงาคือยอดฝีมือที่ตระกูลหลิ่วลงทุนอย่างหนักและฝึกฝนมาอย่างดีแต่ละคนล้ว
“ฉึก!”มีดสั้นคมกริบเล่มหนึ่งเสียบเข้าไปที่ท้องของหลิงซวงแต่เพราะเธอรีบหลบอย่างทันท่วงทีเลยสามารถเลี่ยงจุดสำคัญ ก็เลยรอดมาได้ไม่อย่างนั้น มีดเล่มนี้คงได้เสียบเข้าไปในหัวใจของเธอแล้วแต่ถึงกระนั้น ท้องของหลิงซวงก็ยังโดนแทงทะลุ เลือดไหลนองออกมาหญิงสาวใบหน้าบิดเบี้ยว ยิ้มอย่างประหลาด “ดันปล่อยให้เธอหลบไปได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเธอก็ไม่รอดแน่!”ทันทีที่สิ้นเสียง หล่อนก็ยกมือโบกทีหนึ่ง“ปึง!”ประตูเหล็กหล่นลงมาเอง และปิดล็อกแน่นหนาในทันทีคราวนี้หลิงซวงก็ได้ติดอยู่ข้างในเดิมกรงเหล็กนั้นก็แคบอยู่แล้ว มีดเล่มยาวในมือเธอจึงใช้งานได้ไม่สะดวก แถมแผลที่ท้องก็ยังคงมีเลือดไหล ทำให้หลิงซวงเริ่มรู้สึกหน้ามืดตาลายหญิงสาวใช้มือจัดผมเล็กน้อย แล้วพุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดสั้นในมือท่าทางตอนเคลื่อนตัวหลบดูคล่องแคล่วอยู่ประหลาดเพียงแค่สองกระบวนท่า หลิงซวงก็ตกเป็นรอง โดนฟันที่แขนจนเป็นรอยแผลลึก“หัวหน้า!”สมาชิกในทีมด้านนอกรีบใช้มีดฟันแต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจที่พบว่า กรงเหล็กนี้ที่ดูกิ๊กก๊อกกลับแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อฟันไปหนึ่งครั้ง นอกจากจะมีประกายไฟแลบออกมา ก็มีแค่รอยแผลตื้นๆ เท่าน