“ฉึก!”มีดสั้นคมกริบเล่มหนึ่งเสียบเข้าไปที่ท้องของหลิงซวงแต่เพราะเธอรีบหลบอย่างทันท่วงทีเลยสามารถเลี่ยงจุดสำคัญ ก็เลยรอดมาได้ไม่อย่างนั้น มีดเล่มนี้คงได้เสียบเข้าไปในหัวใจของเธอแล้วแต่ถึงกระนั้น ท้องของหลิงซวงก็ยังโดนแทงทะลุ เลือดไหลนองออกมาหญิงสาวใบหน้าบิดเบี้ยว ยิ้มอย่างประหลาด “ดันปล่อยให้เธอหลบไปได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเธอก็ไม่รอดแน่!”ทันทีที่สิ้นเสียง หล่อนก็ยกมือโบกทีหนึ่ง“ปึง!”ประตูเหล็กหล่นลงมาเอง และปิดล็อกแน่นหนาในทันทีคราวนี้หลิงซวงก็ได้ติดอยู่ข้างในเดิมกรงเหล็กนั้นก็แคบอยู่แล้ว มีดเล่มยาวในมือเธอจึงใช้งานได้ไม่สะดวก แถมแผลที่ท้องก็ยังคงมีเลือดไหล ทำให้หลิงซวงเริ่มรู้สึกหน้ามืดตาลายหญิงสาวใช้มือจัดผมเล็กน้อย แล้วพุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดสั้นในมือท่าทางตอนเคลื่อนตัวหลบดูคล่องแคล่วอยู่ประหลาดเพียงแค่สองกระบวนท่า หลิงซวงก็ตกเป็นรอง โดนฟันที่แขนจนเป็นรอยแผลลึก“หัวหน้า!”สมาชิกในทีมด้านนอกรีบใช้มีดฟันแต่แล้วพวกเขาก็ต้องตกใจที่พบว่า กรงเหล็กนี้ที่ดูกิ๊กก๊อกกลับแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อฟันไปหนึ่งครั้ง นอกจากจะมีประกายไฟแลบออกมา ก็มีแค่รอยแผลตื้นๆ เท่าน
“คุณไม่ได้ชอบบ่นกับฉันเสมอเหรอว่า ของฉันใหญ่เกินไป เอากันทุกคน คุณรับไม่ไหวน่ะ?”“วางใจเถอะ ฉันใช้เธอแค่เป็นเครื่องมือเท่านั้น รับรองว่าจะไม่ให้ใจเด็ดขาด”ทั้งสองพูดอย่างโจ่งแจ้ง ไม่สนใจเลยว่าข้างๆ มีคนมากมายขนาดไหนหลิงซวงโกรธจัด ทั้งอายทั้งโมโห!แต่กรงตรงหน้านี้ทำให้เธอหมดหนทาง“หัวหน้า ผมมาช่วยแล้ว!”ทหารเงาที่เหลืออยู่สองคนกะจะฟันกรงเหล็กต่อแต่กลับโดนพี่น้องเหยาอู่หยางเหวยซุ่มโจมตี แทงทะลุหน้าอกตายพร้อมกันเฉินเหยาอู่ดึงมีดออกมา ส่วนเฉินหยางเหวยดึงปืนยาวออกมาเลือดของทั้งสองคนพุ่งออกมา กระเซ็นเข้าไปในกรงพร้อมกันหลิงซวงเจ็บปวดใจอย่างมาก คนของเธอล้มตายกันจนหมด!เธอและลูกทีมมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก พวกเขาอยู่ด้วยกัน ฝึกด้วยกัน และทำภารกิจร่วมกันm6d;yoไม่ใช่ญาติพี่น้อง แต่กลับเป็นยิ่งกว่าญาติพี่น้องลูกทีมมักจะตามใจเธอเสมอ เอาใจเธอเป็นอย่างดีไม่อย่างนั้น เธอที่เป็นแค่เด็กผู้หญิง จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าได้ยังไงหญิงสาวที่ถือมีดสั้น ใช้มือปาดเลือดบนใบหน้า แลบลิ้นออกมาเลีย ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข“เลือดสดใหม่ของมนุษย์ รสชาติดีที่สุดจริงๆ!”ซินจื่ออันขมวดคิ้ว แล้วพ
“แกพูดว่าอะไรนะ?”อาวุโสเปียนหัวเราะเยาะ “ไอ้หนุ่ม แกกล้าพูดคำพูดเมื่อกี้นี้อีกครั้งไหม?”แม้แต่หลิงซวงยังทนฟังไม่ไหว ตะโกนว่า “นายบ้าไปแล้วหรือเปล่า รู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา?”“เป็นแค่แมลงตัวจ้อย ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเลย ไม่พูดคำโตจะตายหรือไง!”“นายคิดว่าการยั่วโทสะพวกเขาจะมีประโยชน์อะไรกับนาย นอกจากตายเร็วขึ้นน่ะ! นายไม่มีทางสู้พวกเขาได้ ฉันไม่เคยเห็นใครโง่เท่านายมาก่อนเลย”อาวุโสเปียนยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ “เจ้าหนุ่ม ได้ยินคำพูดของคนฝั่งแกเองหรือยัง?”“ถ้าเมื่อครู่แกฉวยโอกาสหนีไป บางทีอาจมีโอกาสรอดสักเล็กน้อย แต่แกมันโง่เกินไป เลือกที่จะตายแทน"ซินจื่ออันและพี่น้องเหยาอู่หยางเวยต่างก็เผยสีหน้าเยาะเย้ยลั่วอู๋ฉางสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นเยียบ “ฉันจะถามแค่ครั้งเดียว หลิ่วซือหยินอยู่ที่ไหน?”เรื่องครั้งนี้ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะลั่วอู๋ฉางโดยตรงหลิ่วซือหยินแค่ถูกลูกหลงไปด้วย ดังนั้นลั่วอู๋ฉางจึงมีความรับผิดชอบที่จะช่วยเธอกลับมา“บอกที่อยู่ของเธอมา ฉันอาจพิจารณาไว้ชีวิตแกไป ไม่งั้น ก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว!”เมื่อคำนี้ถูกเอ่ยออกมา ทุกคนต่างตกตะลึงเจ้าหนุ่มคนนี้ มันกล้าพูดออกมาได้
“พรวด!”เสิ่นหงเซิงไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ตัวเขาเองก็กระเด็นลอยไปข้างหลัง มือทั้งสองไม่สามารถจับกระบี่กว้างไว้ได้อีก ปล่อยให้มันลอยกระเด็นออกไปซินจื่ออันเองก็เช่นกัน ร่างกายถอยครูดไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว เท้าครูดไปกับพื้นอย่างไม่สามารถต้านได้ลั่วอู๋ซางยกมือทั้งสองขึ้นอย่างไม่รีบร้อน จับคว้าไปในอากาศกระบี่กว้างสองเล่มที่กำลังหมุนคว้างในอากาศ พลันหยุดลงพร้อมกันต่อมา กระบี่เล่มหนึ่งฟันตรงไปที่กระหม่อมของเสิ่นหงเซิง อีกเล่มฟันตามไปที่เอวของซินจื่ออัน“ฉั๊วะ!”แสงดาบวาบผ่านบนหน้าผากของเสิ่นหงเซิง ปรากฏรอยเลือดเป็นเส้นบางๆ ต่อเนื่องลงไปด้านล่างผ่านลำคอ เสื้อที่หน้าอกก็ขาดผ่าครึ่ง รอยตัดเรียบเนียนอย่างยิ่งรอยเลือดเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็กลายเป็นรอยแตกแล้วท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของหลายคน ร่างกายของเสิ่นหงเซิงก็ถูกแบ่งแยกออกในแนวตั้งราวกับเนื้อหมูในโรงเชือดที่ถูกแบ่งออกเป็นสองชิ้นส่วนอีกด้าน ซินจื่ออันถูกฟันขาดครึ่งตัวที่เอวทั้งสองคนกลายเป็นเนื้อสี่ส่วน ร่วงลงสู่พื้นทลายภูผาหัวซัน กวาดทัพนับพัน!เป็นท่าไม้ตายที่ทั้งสองถนัดที่สุด และต่า
“ดื้อด้าน!”ลั่วอู๋ฉางได้ให้โอกาสพวกเขาแล้วแท้การฆ่าจะไม่ใช่เป้าหมาย แต่ในเมื่อพวกเขายื่นคอมาให้จัดการเองไม่ฟันก็คงรู้สึกผิดกับสวรรค์แล้ว!พี่น้องสองคน คนหนึ่งถือดาบ อีกคนแกว่งปืนเพราะเป็นฝาแฝดที่เติบโตมาด้วยกัน จึงสอดประสานงานกันอย่างลงตัวคนหนึ่งซ้าย คนหนึ่งขวา รุกถอยเป็นระเบียบหลิงซวงเห็นภาพนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำ ราวกับจะพ่นไฟออกมาหลิงซวงจำได้แม่นว่าพี่น้องเหยาอู่หยางเวยสองคนนี้ ใช้รูปแบบการต่อสู้นี้จัดการสังหารทหารเงาไปหกคนภาพเหตุการณ์ที่สมาชิกในทีมตายอย่างน่าสลดหดหู่ แวบเข้ามาในหัวของหลิงซวงครั้งแล้วครั้งเล่าเฉินเหยาอู่และเฉินหยางเวยออกท่าไม้ตายทันที!ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่กังวลเลยว่าจะทำให้ลั่วอู๋ฉางบาดเจ็บถึงตายหรือไม่“พวกแกลงมือได้เต็มที่ แม้เขาจะเหลือเพียงลมหายใจเดียว ฉันก็สามารถทำให้เขามีชีวิตต่อไปได้”อาวุโสเปียนหัวเราะเยาะเย้ยด้วยท่าทางโอหัง “ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากฉัน จะตายก็ไม่มีสิทธิ์คิด!”หญิงสาวในกรงรีบพูดประจบ “แน่นอนอยู่แล้ว ก็ท่านเป็นผู้ตัดสินชีวิตและความตายนี่น่า”หลิงซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะนึกอะไรออกแต่ในขณะนั้น เธอก็ยังจับปร
คิดไม่ถึง กลับมาตายในมือของเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักหลิงซวงรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!เมื่อนึกถึงการกระทำและคำพูดที่ดูถูกลั่วอู๋ฉางก่อนหน้านี้ของตัวเอง ความรู้สึกของเธอก็ซับซ้อนอย่างยิ่ง“ถึงตาแกแล้ว!”สายตาคมกริบของลั่วอู๋ฉางจับจ้องไปที่อาวุโสเปียนนี่ก็คือเหตุผลที่เขาลงมือสังหารซิน เสิ่น และพี่น้องเหยาอู่หยางเวยอย่างไร้เมตตาอย่างต่อเนื่องเพราะฆ่าพวกเขาแล้ว ยังมีคนอื่นอีกไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รู้ที่อยู่ของหลิ่วซือหยิน“ไอ้หนุ่ม ความสามารถของแกเกินความคาดหมายของฉันไปมาก ฉันยอมรับว่าประเมินแกต่ำไป”หลังจากตกใจเล็กน้อย อาวุโสเปียนก็ตั้งสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้ากลับมาเป็นดุร้ายอีกครั้ง“แต่ถ้าแกคิดว่าฆ่าพวกเขาทั้งสี่ แล้วจะควบคุมสถานการณ์ได้ ก็เป็นการคิดเพ้อฝันเกินไป!”อาวุโสเปียนหัวเราะเยาะเบาๆ ยื่นมือขวาออกมาอย่างไม่รีบร้อนเมื่อเขาหมุนข้อมือ ในมือก็ปรากฏพู่กันที่ทำจากสำริดขึ้นมากลางอากาศ“พู่กันพิจารณาคดี?!”หลิงซวงเบิกตากว้าง พูดอย่างตกใจว่า “คุณมีอาวุธพิเศษชิ้นนี้ได้ยังไง?”พู่กันยาวหนึ่งฟุต ส่วนห
เสียงเยือกเย็นและสีหน้าที่โหดเหี้ยมของอาวุโสเปียนราวกับว่าเขาได้กลายร่างเป็นผู้พิพากษาจากนรกจริงๆ ไปแล้ว ควบคุมชีวิตและความตายของทุกคนในกรงเหล็ก ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นสีหน้าสิ้นหวังของหลิงซวง ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา“อย่างแกเนี่ยนะ?”แค่ลั่วอู๋ฉางกวาดมองอาวุโสเปียนด้วยสายตาเย็นชาครั้งหนึ่งก็ทำให้อาวุโสเปียนโมโหจัด “ไอ้หนุ่มที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง รนหาที่ตายนัก!”ตัวเองก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแล้ว ลั่วอู๋ฉางน่าจะเลือกคุกเข่าลงเพื่อขอร้องในทันทีสิถึงจะถูก!แต่ไอ้หนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำตาม แต่ยังกล้าพูดต่อปากต่อคำช่างไม่รู้จักที่ตายเลยจริงๆ!ในเมื่อเป็นแบบนี้ อาวุโสเปียนก็จะไม่เกรงใจแล้วเขาสะบัดพู่กันพิจารณาคดีในมือ ทันใดนั้นก็เกิดเป็นดาวตก พุ่งตรงไปยังอกของลั่วอู๋ฉางนี่คือท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของเขา!ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากลงมือด้วยความเคียดแค้น แรงที่ใช้จึงเพิ่มเป็นสิบเท่าโดยไม่มีการออมแรงเลยเขาต้องการที่จะฆ่าไอ้หนุ่มโอหังคนนี้ให้ตายๆ ไปซะ!ยังย้ำคำเดิม ขอแค่มีลมหายใจเหลืออยู่ก็พอ!หลังจากเอาสูตรยามาจากปากของลั่วอู๋ฉางได้ ไม่ว่าตระกูลหม่าหรือตระก
ต้องรู้ว่า เขาคือผู้พิพากษาแผ่นดิน!ตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อน เขาก็มีชื่อเสียงในยุทธภพแล้วเมื่อได้ยินชื่อผู้พิพากษาลู่ ใครบ้างจะไม่กลัวจนตัวสั่น?ขนาดเด็กเล็กๆ ที่ร้องไห้ตอนกลางคืนยังต้องหยุดร้องเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่า ยี่สิบปีให้หลังตัวเองที่เคยทำให้แม้แต่เทพเจ้าและปีศาจยังต้องอับอาย จะถูกเด็กหนุ่มคนหนึ่งขู่จนหวาดกลัวเช่นในวันนี้คนๆ นี้โผล่มาจากที่ไหนกัน?ช่างเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้!อายุยังน้อย แต่กลับมีพลังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ตัวเขาที่เป็นผู้พิพากษาแผ่นดิน ต่อหน้าชายคนนี้กลับไม่สามารถรับมือได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว!เมื่อครู่ เขายังหัวเราะเยาะเหยาหวู่หยางเวยและซินจื่ออันอยู่เลย คิดว่าเจ้าพวกนี้ไร้ค่า สู้เด็กหนุ่มคนหนึ่งไม่ได้แต่ตอนนี้ พอเป็นตัวเอง ก็ยังสู้ไม่ได้เช่นกัน!ประเมินศัตรูต่ำไป!น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะมาคิดได้ในตอนนี้ซึ่งมันก็สายไปแล้ว!“ขอถามแกเป็นครั้งสุดท้าย หลิ่วซือหยินอยู่ที่ไหน?”อาวุโสเปียนรู้ดีว่า ปราณกระบี่ระหว่างนิ้วทั้งสองของลั่วอู๋ซาง สามารถเจาะผ่านกระหม่อมของตัวเองได้ในพริบตาในตอนนี้ ทั้งความภูมิใจความมั่นใจทั้งหมดของเขาพังทลายลงไปหมดแล้วอา
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค