“พรวด!”เสิ่นหงเซิงไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ตัวเขาเองก็กระเด็นลอยไปข้างหลัง มือทั้งสองไม่สามารถจับกระบี่กว้างไว้ได้อีก ปล่อยให้มันลอยกระเด็นออกไปซินจื่ออันเองก็เช่นกัน ร่างกายถอยครูดไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว เท้าครูดไปกับพื้นอย่างไม่สามารถต้านได้ลั่วอู๋ซางยกมือทั้งสองขึ้นอย่างไม่รีบร้อน จับคว้าไปในอากาศกระบี่กว้างสองเล่มที่กำลังหมุนคว้างในอากาศ พลันหยุดลงพร้อมกันต่อมา กระบี่เล่มหนึ่งฟันตรงไปที่กระหม่อมของเสิ่นหงเซิง อีกเล่มฟันตามไปที่เอวของซินจื่ออัน“ฉั๊วะ!”แสงดาบวาบผ่านบนหน้าผากของเสิ่นหงเซิง ปรากฏรอยเลือดเป็นเส้นบางๆ ต่อเนื่องลงไปด้านล่างผ่านลำคอ เสื้อที่หน้าอกก็ขาดผ่าครึ่ง รอยตัดเรียบเนียนอย่างยิ่งรอยเลือดเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็กลายเป็นรอยแตกแล้วท่ามกลางสายตาตื่นตกใจของหลายคน ร่างกายของเสิ่นหงเซิงก็ถูกแบ่งแยกออกในแนวตั้งราวกับเนื้อหมูในโรงเชือดที่ถูกแบ่งออกเป็นสองชิ้นส่วนอีกด้าน ซินจื่ออันถูกฟันขาดครึ่งตัวที่เอวทั้งสองคนกลายเป็นเนื้อสี่ส่วน ร่วงลงสู่พื้นทลายภูผาหัวซัน กวาดทัพนับพัน!เป็นท่าไม้ตายที่ทั้งสองถนัดที่สุด และต่า
“ดื้อด้าน!”ลั่วอู๋ฉางได้ให้โอกาสพวกเขาแล้วแท้การฆ่าจะไม่ใช่เป้าหมาย แต่ในเมื่อพวกเขายื่นคอมาให้จัดการเองไม่ฟันก็คงรู้สึกผิดกับสวรรค์แล้ว!พี่น้องสองคน คนหนึ่งถือดาบ อีกคนแกว่งปืนเพราะเป็นฝาแฝดที่เติบโตมาด้วยกัน จึงสอดประสานงานกันอย่างลงตัวคนหนึ่งซ้าย คนหนึ่งขวา รุกถอยเป็นระเบียบหลิงซวงเห็นภาพนี้แล้ว ดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำ ราวกับจะพ่นไฟออกมาหลิงซวงจำได้แม่นว่าพี่น้องเหยาอู่หยางเวยสองคนนี้ ใช้รูปแบบการต่อสู้นี้จัดการสังหารทหารเงาไปหกคนภาพเหตุการณ์ที่สมาชิกในทีมตายอย่างน่าสลดหดหู่ แวบเข้ามาในหัวของหลิงซวงครั้งแล้วครั้งเล่าเฉินเหยาอู่และเฉินหยางเวยออกท่าไม้ตายทันที!ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่กังวลเลยว่าจะทำให้ลั่วอู๋ฉางบาดเจ็บถึงตายหรือไม่“พวกแกลงมือได้เต็มที่ แม้เขาจะเหลือเพียงลมหายใจเดียว ฉันก็สามารถทำให้เขามีชีวิตต่อไปได้”อาวุโสเปียนหัวเราะเยาะเย้ยด้วยท่าทางโอหัง “ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากฉัน จะตายก็ไม่มีสิทธิ์คิด!”หญิงสาวในกรงรีบพูดประจบ “แน่นอนอยู่แล้ว ก็ท่านเป็นผู้ตัดสินชีวิตและความตายนี่น่า”หลิงซวงขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะนึกอะไรออกแต่ในขณะนั้น เธอก็ยังจับปร
คิดไม่ถึง กลับมาตายในมือของเด็กหนุ่มที่ไม่มีใครรู้จักหลิงซวงรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!เมื่อนึกถึงการกระทำและคำพูดที่ดูถูกลั่วอู๋ฉางก่อนหน้านี้ของตัวเอง ความรู้สึกของเธอก็ซับซ้อนอย่างยิ่ง“ถึงตาแกแล้ว!”สายตาคมกริบของลั่วอู๋ฉางจับจ้องไปที่อาวุโสเปียนนี่ก็คือเหตุผลที่เขาลงมือสังหารซิน เสิ่น และพี่น้องเหยาอู่หยางเวยอย่างไร้เมตตาอย่างต่อเนื่องเพราะฆ่าพวกเขาแล้ว ยังมีคนอื่นอีกไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รู้ที่อยู่ของหลิ่วซือหยิน“ไอ้หนุ่ม ความสามารถของแกเกินความคาดหมายของฉันไปมาก ฉันยอมรับว่าประเมินแกต่ำไป”หลังจากตกใจเล็กน้อย อาวุโสเปียนก็ตั้งสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้ากลับมาเป็นดุร้ายอีกครั้ง“แต่ถ้าแกคิดว่าฆ่าพวกเขาทั้งสี่ แล้วจะควบคุมสถานการณ์ได้ ก็เป็นการคิดเพ้อฝันเกินไป!”อาวุโสเปียนหัวเราะเยาะเบาๆ ยื่นมือขวาออกมาอย่างไม่รีบร้อนเมื่อเขาหมุนข้อมือ ในมือก็ปรากฏพู่กันที่ทำจากสำริดขึ้นมากลางอากาศ“พู่กันพิจารณาคดี?!”หลิงซวงเบิกตากว้าง พูดอย่างตกใจว่า “คุณมีอาวุธพิเศษชิ้นนี้ได้ยังไง?”พู่กันยาวหนึ่งฟุต ส่วนห
"หมอเทวดา ได้โปรดคิดใหม่อีกครั้ง!""เพื่อผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ท่านยอมทอดทิ้งตำแหน่งที่สูงศักดิ์จริง ๆ เหรอ?""ด้วยสถานะของท่าน เพียงท่านพยักหน้า นางแบบระดับโลก นักแสดงหญิงยอดนิยม หรือต่อให้เป็นเจ้าหญิงของประเทศ ก็จะต่อแถวมาปรนนิบัติท่านถึงเตียงนะครับ"เรือนจำเมืองจิงไห่แห่งที่ 1 เป็นเรือนจำระดับสุดยอดที่กักขังเหล่าวายร้ายระดับโลกและคนชั่วในวงการธุรกิจในตอนนี้ที่หน้าประตูเหล็ก ชายชราในชุดเสื้อคอจีนกำลังขอร้องอ้อนวอนชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าชายชราผู้นี้คือเหลยเทียนสงหัวหน้าแก๊งนักธุรกิจในประเทศหัวเซี่ย ควบคุมเส้นทางเศรษฐกิจหลายช่องทาง เพียงแค่ประโยคเดียวก็สามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศล่มสลายได้ในทันที และมีชื่อเสียงในเรื่องความโหดเหี้ยมไม่ไว้หน้าใครเพื่อที่จะตามหาลั่วอู๋ฉางให้รักษาโรคและช่วยชีวิต เหลยเทียนสงเป็นฝ่ายยอมเข้ามารับโทษที่หลงตัน ในที่แห่งนี้ สถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยมากและด้านหลังชายชรา ผู้คุมและนักโทษทั้งหมดในเรือนจำ คุกเข่าข้างเดียว เรียงตัวกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส แสดงสีหน้ามีความหวัง ไม่อยากให้เขาจากไปเพียงเพราะว่าชายหนุ่มคนนี้ ลั่วอู๋ฉางนอกจากสถานะนักโทษแ
"มาสายเหรอ?"ลั่วอู๋ฉางประหลาดใจเล็กน้อย มองทอดสายตาไปก็ว่างเปล่าภาพที่เขาคาดคิดไม่ได้ปรากฏขึ้น หยางหว่านอวี่ไม่ได้ทำเหมือนกับตอนก่อนที่จะเข้าคุก ที่มอบอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดให้เขา ในช่วงเวลาแรกที่เขาออกจากคุกแต่เขาไม่ได้ใส่ใจ ขับรถช้าหน่อยปลอดภัยกว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น รอคอยอยู่เงียบ ๆจนกระทั่งพระอาทิตย์ตก ฝนโปรยลงมาเป็นระยะรถคันหนึ่ง ถึงได้ขับมาจากปลายถนนช้า ๆรถจอดลงด้านข้าง ลั่วอู๋ฉางรีบเดินเข้าไปหาแต่ทว่า คนที่ลงจากรถกลับไม่ใช่หยางหว่านอวี่ภรรยาของเขา แต่เป็นจ้าวเหม่ยอวิ๋นเพื่อนสนิทของเธอ“เหม่ยอวิ๋น ทำไมถึงเป็นเธอ หว่านอวี่ล่ะ?” ลั่วอู๋ฉางรู้สึกแปลกใจจ้าวเหม่ยอวิ๋นกางร่ม เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยเมย “ประธานหยางไม่มา ฉันเป็นเลขาของเธอ นี่คือสิ่งที่ประธานหยางให้ฉันเอามาให้นาย”เธอเปิดแฟ้มเอกสารออก แสดงไปตรงหน้าลั่วอู๋ฉางสัญญาหย่าร้าง!ตัวอักษรใหญ่ ๆ สี่ตัว ทิ่มแทงดวงตาอย่างมากลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง จากนั้นยิ้มกริ่ม “อย่าล้อเล่นแบบนี้ รีบให้หว่านอวี่ออกมาเถอะ!”ใบหน้าที่เย็นชาของจ้าวเหม่ยอวิ๋นเผยความดูถูกออกมาแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแส “ไม่มีคนล้อเล่นกับนาย! ลั่วอู๋ฉาง
หยางหว่านอวี่กลับจะคบกับมัน นี่มันเป็นการเหยียดหยามกันอย่างมากในตอนนี้รถเบนซ์คันหนึ่งขับมา ร่างงามลงมาจากรถ ใบหน้าประณีตสวยงามสุด ๆ ชุดทำงานแบรนด์เนมเข้ารูปจนเห็นรูปร่างที่งดงาม ขาเรียวยาวตรงดิ่งทั้งสองข้างที่ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษออร่าที่เหนือกว่าคนทั่วไปของเธอ เหมือนกับราชินี ทำให้ผู้คนตกตะลึงช่วงเวลาสี่ปี ไม่เพียงไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการเวลาใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกด้วย“เสี่ยวอวี่……”ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเผยความดีใจอย่างอดไม่ได้ สาวเท้าเดินเข้าไปหาหยางหว่านอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ และหลบสายตา “ขออภัย ธุรกิจรัดตัวมาช้าไปหน่อย เลขาจ้าว จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”ท่าทางเย็นชา กีดกันผู้คนออกไปไกลเป็นหลายพันไมล์จ้าวเหม่ยอวิ๋นสีหน้าประหม่า รีบกางร่มเดินเข้าไป “ฉันกำลังดำเนินการอยู่……อ่อใช่ ประธานหยาง คุณมีนัดกับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาที่นี่?”“ไม่กระทบหรอก จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก็จะไปตามนัด”สายตาของหยางหว่านอวี่ถึงได้มองไป เห็นลั่วอู๋ฉางที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอเผยสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาก่อน แ
หย่าร้างสำเร็จ!แต่หยางหว่านอวี่สังเกตเห็น ตัวเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่เธอยังต้องรักษาท่าทางแข็งกร้าวเอาไว้ พูดว่า "มีแต่คนอ่อนแอถึงจะเห็นศักดิ์ศรี และเกียรติที่ไม่มีค่าสำคัญขนาดนั้น ตอนนี้นายปฏิเสธ จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน"“ของพวกนี้ฉันเก็บเอาไว้ให้นาย คิดได้เมื่อไหร่ ก็มาหาเลขาจ้าวได้ทุกเมื่อ”ลั่วอู๋ฉางผิดหวังอย่างถึงที่สุด หันหลังเดินจากไปมองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจที่เย็นชาของหยางหว่านอวี่เหมือนกับถูกทิ่มแทง พูดด้วยความสับสน “เหม่ยอวิ๋น ฉันทำแบบนี้……ถูกหรือผิดนะ?”“ถูกอยู่แล้ว เพียงแค่เตะสิ่งกีดขวางออกไป คุณถึงจะแสดงความมุ่งมาดปรารถนาออกมาได้ตามอำเภอใจ กลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่อยู่จุดสูงสุด ส่วนลั่วอู๋ฉางก็แค่คนต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เงยหน้ามองคุณด้วยซ้ำ เก็บเอาไว้มีแต่จะเป็นตัวถ่วงคุณ” จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างมั่นใจหยางหว่านอวี่ไม่พูดจา แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป เธอเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจ้าวเหม่ยอวิ๋นเห็นแบบนี้ รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันสืบถามถึงคุณเกาของเกาซื่อกรุ๊ปได้ เธออยู่ที่กลางเมือง คุณติดที่ไม่ได้เจอตัวจริงของเธอ
เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคันมีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปทีเกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนจนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันทีผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องป