ภายในห้อง กลิ่นยาแรงฉุนลอยฟุ้งไปทั่วหม่าอวี่เฟยนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอไร้สีเลือด ขาวซีดจนน่ากลัวแขนขาทั้งสี่ข้างของเธอถูกใส่เฝือกไว้ ทำให้ไม่สามารถขยับตัวได้ตอนนี้เธอแสดงสีหน้าเจ็บปวด คล้ายกับกำลังทนรับการทรมานที่เหนือมนุษย์ เสียงร้องครวญครางอย่างน่าเวทนาดังออกมาจากปากเธอ“เจ็บ...หนูเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”หม่าเฉียนคุนรีบพุ่งไปที่เตียงด้วยความเป็นห่วง ถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปวดใจว่า “ลูกเป็นยังไงบ้าง?”“พ่อคะ...หนูเจ็บจะตายอยู่แล้ว ทรมานเหลือเกิน หนูรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใกล้ตายแล้วจริงๆ!”เสียงของหม่าอวี่เฟยอ่อนแรงมาก ราวกับเธอเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย และพร้อมจะจากไปในทุกเมื่อ“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”หม่าเฉียนคุนจ้องมองพวกหมอที่ทำอะไรไม่ถูก แล้วตะคอกใส่พวกเขาว่า “พวกคนไร้ประโยชน์! ฉันจ่ายเงินก้อนโตเพื่อจ้างพวกแกมา แต่พวกแกกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย?”“ถ้าลูกสาวฉันเป็นอะไรไป พวกแกทุกคนจะต้องถูกฝังไปพร้อมกับเธอด้วย!”ทุกคนต่างตกใจกลัวอย่างมากหม่าเฉียนคุนเป็นที่รู้จักในเมืองอันเฉิงในฐานะผู้โหดเหี้ยมและไร้ความปรานีเมื่อเขาพูดว่าจะฆ่าใคร นั่นหมายความว่าคนๆ นั้นไม่
หม่าเฉียนคุนตอบเลี่ยงว่า “เหตุผลมันไม่สำคัญแล้ว!”“ตอนนี้เราเข้าใจสถานการณ์แล้ว เรื่องนี้ก็จัดการง่ายขึ้น รีบหาตัวไอ้หมอนั่นให้เจอเดี๋ยวนี้!”ทันใดนั้นก็มีคนบอกว่า “ไอ้คนแซ่ลั่วอยู่กับซูเฉี่ยนเฉี่ยนครับ พวกเขาเพิ่งไปที่บ้านตระกูลซู”“หาเบอร์ซูเฉี่ยนเฉี่ยน แล้วโทรไปหาเธอเดี๋ยวนี้!”คนหลายคนยุ่งวุ่นวายกันอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็โทรติดบ้านตระกูลซู ในห้องอาหารอาหารในมื้อนั้นเยอะมาก ไม่นานพวกเขาทั้งสามคนทานก็ทานกันจนอิ่มโทรศัพท์ของซูเฉี่ยนเฉี่ยนดังขึ้น เธอจึงรับสาย“สวัสดีค่ะ...”จากนั้น เธอก็ยื่นโทรศัพท์ให้ลั่วอู๋ฉาง “ศิษย์พี่ มีคนขอคุยด้วยค่ะ บอกว่าเป็นหม่าเฉียนคุนจากตระกูลหม่า”ลั่วอู๋ฉางจึงบอกให้เธอเปิดลำโพง“ลั่วอู๋ฉาง แกเป็นคนลงมือทำอะไรบางอย่างกับลูกสาวฉันใช่ไหม?”เสียงของหม่าเฉียนคุนที่ถามด้วยความโกรธดังออกมาจากลำโพงแค่คิดก็จินตนาการได้ว่า ตอนนี้เขาคงกำลังขบฟันด้วยความโกรธจนตาทั้งสองข้างแทบลุกเป็นไฟแล้วแน่ๆ“ใช่” ลั่วอู๋ฉางตอบอย่างเรียบง่ายหม่าเฉียนคุนโกรธและตะคอกว่า “ไอ้หนู แกกล้ามากนะที่มาทำร้ายลูกสาวฉัน แกอยากตายนักหรือไง?”ลั่วอู๋ฉางพูดอย่างเยือกเย็น “เธอสมควรโ
ในที่สุด หม่าเฉียนคุนก็เลือกที่จะยอมอ่อนข้อแม้ศักดิ์ศรีจะสำคัญก็จริง แต่ชีวิตของลูกสาวเขาสำคัญยิ่งกว่าถ้าหากเขายึดติดแต่เรื่องศักดิ์ศรีจนปล่อยให้ลูกสาวต้องตาย มันคงจะไม่เป็นชื่อเสียงที่ดีนักญาติที่อยู่ข้างๆ รวบรวมความกล้าพูดเตือนสติว่า “ท่านหม่า ในเมื่อจะไปขอโทษ ก็ควรมีความจริงใจในการขอโทษด้วย...”“นายหมายความว่ายังไง?” หม่าเฉียนคุนถลึงตามองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว ราวกับจะกินเขาเป็นๆ อย่างนั้นในสายตาของหม่าเฉียนคุน การที่ตัวเขายอมไปขอโทษ นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับอีกฝ่ายแล้วญาตินั้นตกใจจนขาสั่น เขาพูดด้วยเสียงสั่นว่า “ถ้าท่านแสดงออกถึงความแข็งกร้าวเกินไป อาจจะทำให้ฝ่ายโกรธได้ ท่านควรมีความจริงใจ”"ท่านอย่าลืมสิ ชีวิตของคุณหนูอยู่ในมือของเขานะ!"“อย่าให้ท่าทีของท่านทำให้การเจรจาพังไป สุดท้ายถ้าทั้งศักดิ์ศรีและชีวิตของคุณหนูต่างก็รักษาไว้ แบบนั้นมันไม่คุ้มกันหรอก”หม่าเฉียนคุนพูดด้วยความไม่พอใจว่า “นายฉลาดคนเดียวหรือไง ฉันต้องให้นายมาสอนด้วยเหรอ?”แม้ภายนอกเขาจะทำท่าไม่ใส่ใจ แต่ในใจกลับคิดอีกอย่างต่อหน้าคนของตัวเอง เขาต้องรักษาท่าทีที่แข็งกร้าวไว้เสมอไม่ยอมทำตามใครทั
“คนทำคนเดียวก็ต้องรับผิดชอบคนเดียว ถ้าส่งตัวเขาออกไป พวกเราก็จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน!”คนกลุ่มนั้นเดินมายังเรือนใหญ่พร้อมกับส่งเสียงอื้ออึงซูเทียนคั่วโกรธจนหน้าง้ำ เดินออกมาพร้อมตะโกนดุด่า “ดูพวกแกสิ ทำตัวเหมือนกับหนูขี้ขลาด ช่างขายหน้าตระกูลซูจริงๆ!”“พ่อครับ พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ!”ซูหมิงอวี๋ที่ยืนอยู่ในกลุ่มก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “เดิมทีเรื่องนี้มันก็ไม่เกี่ยวกับตระกูลซูของเราแต่แรก ทำไมเราต้องมาแบกรับผลเสียด้วย?”“ฟังจากที่แกพูด นอกจากจะส่งตัวคุณลั่วแล้ว ยังจะส่งเฉี่ยนเฉี่ยนให้ตระกูลหม่าอีกด้วยสินะ?” ซูเทียนคั่วถามเสียงเย็นชาซูหมิงอวี๋พูดโดยไม่คิดว่า “ตราบใดที่สามารถรักษาตระกูลซูไว้ได้ ไม่ว่าจะต้องเสียสละอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”ซูเทียนคั่วโกรธจนหน้าอกกระเพื่อม “แก แกมันไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อคนเลย!”“ฉันขอประกาศในฐานะผู้นำตระกูลอย่างเป็นทางการว่า จะขอยึดสิทธิ์ของซูหมิงอวี๋ในฐานะทายาทผู้สืบทอดคืน และขับมันออกจากตระกูลนับตั้งแต่วันนี้ไป!”ซูหมิงอวี๋ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย เขาตอบกลับอย่างท้าทายว่า “พ่อครับ ในเมื่อพ่อไม่เมตตา ก็อย่าหาว่าลูกอกตัญญูเลย”“หลังจากที่ซูเทียนคั่วถูกวางยา
คนในตระกูลซูต่างตกตะลึงกับอาการบาดเจ็บของหม่าอวี่เฟยก่อนที่จะได้เห็นตัวจริงของเธอ พวกเขาคิดว่าอาการบาดเจ็บร้ายแรงอาจจะไม่ได้หนักหนาอย่างที่คิด แต่ความจริงกลับแตกต่างอย่างมากหลายคนคิดไปโดยอัตโนมัติว่าการพูดถึงการบาดเจ็บสาหัสอาจจะเกินจริงไปเพราะถึงยังไง หม่าอวี่เฟยก็ถูกทำร้ายในงานเลี้ยงวันเกิดของตัวเธอเองรอบตัวเธอเต็มไปด้วยบอดี้การ์ดและเพื่อนฝูง เป็นงานที่ถูกจัดขึ้นในพื้นที่ของตัวเองถึงจะบาดเจ็บ แต่มันจะหนักได้สักแค่ไหนกัน?พวกเขาคิดว่าตระกูลหม่าน่าจะแค่ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่พวกเขาจงใจพูดให้เรื่องนี้ดูร้ายแรง เพื่อจะใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีตระกูลซูแต่ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าอาการบาดเจ็บของหม่าอวี่เฟยไม่เพียงแค่ร้ายแรง แต่ถึงขั้นใช้คำว่าสาหัสได้แขนขาทั้งหมดของเธอถูกใส่เฝือก เพราะไม่สามารถขยับตัวได้ แถมยังต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ทำให้เธออยู่ในท่วงท่าที่แปลกประหลาดสุดๆทั้งหัวของเธอถูกพันด้วยผ้ากอซ เหลือเพียงดวงตา ปากและจมูกที่โผล่ออกมาเมื่อมองดูผ่านๆ แล้ว เธอดูเหมือนมัมมี่รูปร่างประหลาดดวงตาของเธอดูอ่อนล้า ลมหายใจรวยรินราวกับจะสิ้นชีวิตได้ทุกเมื่อไม่แปลกใจเล
ในเมืองอันเฉิงนี้ ใครเคยเห็นตระกูลหม่าคุกเข่าขอโทษใครบ้าง?เนื่องจากไม่เข้าใจเหตุผล พวกเขาจึงยิ่งรู้สึกหวั่นใจเข้าไปใหญ่หลายคนถึงกับเตรียมตัวพร้อมที่จะเผ่นหนีทันทีเมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มผิดปกติหม่าเฉียนคุนหน้าตางอง้ำ กัดฟันพูดว่า “คุณหนูซูเฉี่ยนเฉี่ยน ผมขอโทษ”“เป็นความผิดของผมเองที่สั่งสอนลูกสาวไม่ดี เมื่อคืนเธอจึงลงมือทำร้ายคุณ วันนี้ผมพาลูกสาวมาขอโทษคุณหนูซูถึงที่บ้านด้วยตัวเองแล้ว”“หวังว่าคุณหนูซูจะมีเมตตา ให้อภัยพวกเราด้วยเถอะครับ!”ทุกคนในตระกูลหม่าพูดขึ้นพร้อมกัน “ขอคุณหนูซูให้อภัยด้วย!”เสียงดังสนั่น ทำให้ทุกคนในที่นั้นถึงกับสะดุ้ง“อะไรนะ?!”ซูหมิงอวี๋ตกตะลึงไปทันที!ทุกคน รวมทั้งซูเทียนคั่ว ต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจที่ตระกูลหม่ายกโขยงกันมาใหญ่โตขนาดนี้ เพื่อที่จะมาขอโทษอย่างนั้นเหรอ!เป็นไปได้ยังไง?เมื่อไม่นานนี้ ตระกูลหม่ายังโจมตีธุรกิจของตระกูลซูอย่างหนักอยู่เลยเมื่อต้องเจอกับการโจมตีรุนแรงแบบนี้ ตระกูลซูไม่มีทางต่อกรได้เลยทุกคนในตระกูลซูต่างกังวลว่าพวกเขาอาจจะต้องล้มละลายในที่สุดแต่ใครจะไปคิดว่า เพียงแค่ชั่วพริบตา หม่าเฉียนคุนกลับพาคนในตระกูลมาคุกเ
หม่าเฉียนคุนก้มศีรษะลง ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกละอายยิ่งไม่ใช่เพราะเขาไม่กล้าสบตากับลั่วอู๋ฉางและซูเฉี่ยนเฉี่ยน แต่กลัวว่าถ้าเงยหน้าขึ้น อาจแสดงความโกรธออกมาโดยไม่ตั้งใจในเมื่อมาถึงแล้ว แถมยังคุกเข่าไปแล้วถ้าเพราะรายละเอียดเล็กน้อยที่ทำได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้ความพยายามทั้งหมดต้องสูญเปล่า และถ้าลูกสาวต้องมาตายเพราะเรื่องนี้ หม่าเฉียนคุนคงจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตตอนนี้เขารู้ซึ้งถึงความหมายของสำนวนว่าลูบหน้าปะจมูกอย่างแท้จริงแล้วพร้อมกันนี้เขาก็คิดอะไรได้บางอย่างนั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมทั้งๆ ที่เหลียนหมิงเจิ้งมีคนมีฝีมือมากมายอยู่ทั้งสามโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ ถึงไม่ลงมือสังหารโดยตรง แต่กลับส่งคนไปลักพาตัวซูเฉี่ยนเฉี่ยนแทนเพราะหากได้ตัวประกันมาแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็มีเพียงทางเลือกเดียว คือยอมจำนนโดยไม่มีทางสู้น่าเสียดายที่เหลียนหมิงเจิ้งล้มเหลว!ไม่อย่างนั้น คนที่คุกเข่าร้องขออยู่ตอนนี้ก็คงเป็นลั่วอู๋ฉางผู้ชนะคือเจ้า ผู้แพ้คือข้า คิดเสียใจก็สายไปแล้ว!“คุณลั่ว ผมขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อคืน” หม่าเฉียนคุนพูดด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจการขอโทษคนหนุ่มสาวสองคนติดกันเช่นนี้ ถือเป็นควา
ตอนนี้หม่าอวี่เฟยอ่อนแอมาก เธออ้าปากพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ“เสี่ยวเสวี่ย!” ซูเฉี่ยนเฉี่ยนส่งสายตาให้เพื่อนสนิทเสี่ยวเสวี่ยเข้าใจในทันที เธอหยิบมือถือแล้วเดินไปวางใกล้ปากของหม่าอวี่เฟยหม่าอวี่เฟยพูดออกมาประโยคสองสามประโยคอย่างยากลำบาก จากนั้นก็หอบหายใจอย่างหนักเสี่ยวเสวี่ยถือโทรศัพท์และปรับระดับเสียงให้ดังสุด“ซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ได้ขโมยของฉัน ฉันแค่ไม่ชอบเธอ เลยจงใจหาเรื่องและจัดฉากใส่ร้ายเธอ...”แม้เสียงจะขาดหายเป็นช่วงๆ แต่ก็ชัดเจนมากพอที่ทุกคนจะได้ยินแม่ของซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่ยืนอยู่ข้างนอก ทันทีที่ได้ยิน น้ำตาแห่งความดีใจก็ไหลออกมาลูกสาวของฉัน ถูกใส่ร้ายจริงๆ!ตอนนี้ ข้อกล่าวหาก็ถูกลบล้างออกไปแล้ว!“ฉันบอกแล้วว่า เฉี่ยนเฉี่ยนไม่มีทางขโมยของได้ ข้อกล่าวหาโง่ๆ แบบนี้ยังมีคนเชื่ออีก!”ซูเทียนคั่วพูดเสียงดัง “ความจริงพิสูจน์แล้วว่า หลานสาวของฉันถูกใส่ร้ายจริงๆ!”สีหน้าของซูหมิงอวี๋แย่มากเพื่อนสนิทเชื่อ แม่เชื่อ ศิษย์พี่เชื่อ คุณปู่ก็เชื่อ!แถมพวกเขายังเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข!มีเพียงซูหมิงอวี๋ พ่อแท้ๆ ของเธอคนนี้เท่านั้นที่ไม่เชื่อลูกสาวของตัวเองช่างน่าเศร้าจริงๆ!ตอนน