ณ โรงแรมไฮแอท ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เป็นฉากที่มีชีวิตชีวาเรื่องสะดุดเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานเลี้ยงเลยในฐานะตัวเอกของงาน หม่าอวี่เฟยก็เหมือนกับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ เธอถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนกลุ่มหนึ่ง เพลิดเพลินกับการสรรเสริญทุกอย่างที่เป็นของเธอ และได้ยินแต่คำพูดที่สวยงามทุกชนิดหม่าอวี่เฟยอารมณ์ดี และเสียงหัวเราะของเธอก็ไม่หยุดลงเลย“คุณหม่าน่าจะเหนื่อยแล้ว ทุกคนให้คุณหม่าได้พักเสียหน่อย กิจกรรมหลักจะมาในภายหลัง”แม่บ้านของตระกูลหม่ามีรอยยิ้มบนใบหน้าและดูเป็นมิตรตลอดเวลา แต่กลับมีน้ำเสียงเด็ดขาดแม้ว่าทุกคนจะไม่เต็มใจ แต่พวกเขาก็ยังคงแยกย้ายกันไปชั่วคราวทันทีที่หม่าอวี่เฟยนั่งลงในบริเวณพักผ่อน เย่ซิงหยุนและถังเจียเจียก็เข้ามาอย่างไร้ยางอายเมื่อสักครู่นี้ หม่าอวี่เฟยถูกรายล้อมไปด้วยคนกลุ่มหนึ่ง และพวกเขาไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เลยไม่ใช่เพราะพวกเขาหน้าหนาไม่พอ แต่คนกลุ่มนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากในแง่ของชาติตระกูลและสถานะครอบครัวพวกเขาไม่มีทางที่จะแทรกเข้าไปได้เลย!“คุณหม่า เรื่องเมื่อครู่นี่ช่างระบายความเคียดแค้นได้ดีจริง ๆ”ถังเจียเจียพูดต่อ “คุณหม่
“ต่างหูเพชรมูลค่าเป็นสิบล้าน ฉันไม่กล้ารับของมีค่าขนาดนี้ไว้หรอกค่ะ เกรงว่าใครจะคิดว่าฉัน หม่าอวี่เฟยคนนี้ เป็นคนประเภทที่เห็นแก่เงิน”หม่าอวี่เฟยกล่าวด้วยท่าทางไม่แยแสเธอรู้สึกไม่อยากเสียหน้าให้คนคนนี้!ถ้ารับของขวัญที่จริง ๆ แล้วราคาแค่สี่ถึงห้าล้าน ราวกับว่ามันมีค่ามากกว่าสิบล้าน มันจะไม่ทำให้ทุกคนคิดว่าหม่าอวี่เฟยคนนี้โง่เขลาและถูกหลอกได้ง่ายหรือ?เย่ซิงหยุนนิ่งอึ้งไป ตอนนี้เขาเพิ่งรู้สึกตัว ว่าสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด กลับกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองเมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าพ่อ เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรงเย่ซิงหยุนทำได้เพียงหยิบของขวัญขึ้นมาและจากไปอย่างหดหู่ใจหม่าอวี่เฟยส่งเสียง ‘เฮอะ’ ออกมาเบา ๆ เป็นการเหยียดหยามถิ่นของฉัน ฉันก็ต้องเป็นคนควบคุมอยู่แล้ว!ไม่ถูกใจใครก็แค่ไล่ออกไปแค่นั้น!“คุณหนูคะ คุณชายซุนกับคุณชายอู๋มาถึงแล้วค่ะ” แม่บ้านเข้ามารายงานเธอเห็นชายหนุ่มรูปงามสองคน แต่งกายดูดีมีรสนิยม ท่าทางสง่าผ่าเผยกำลังเดินมาทางนี้หม่าอวี่เฟยดูมีความสุขและลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ “ศิษย์พี่ซุน ศิษย์พี่อู๋ พวกคุณมากันแล้ว!”“คุณหม
“เพล้ง...”ร่างสองร่างถูกโยนพุ่งเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง พร้อมกับเสียงกระจกแตกที่ดังขึ้น“โครม!”โต๊ะไวน์ถูกถูกกระแทกด้วยร่างของบอดี้การ์ดทั้งสองจนหัก และทั้งสองก็นอนคร่ำครวญอยู่บนพื้นด้วยเศษแก้วและคราบไวน์ทั่วร่างกายเหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจ!แล้วห้องโถงที่คึกคักก็เงียบลงเกิดอะไรขึ้น?หลังจากนั้นไม่นาน ชายร่างโปร่งก็เดินเข้ามาโดยไร้ซึ่งคนขวางดวงตาที่เฉียบคมคู่นั้นมองกวาดไปทั่วสถานที่“ใครคือหม่าอวี่เฟย?” ลั่วอู๋ฉางตะโกนถามเสียงของเขาทำให้ทุกคนตกใจ เสียงทุ้มลึกของเขาราวกับฟ้าร้องและความโกรธดังก้องไปทั่วทั้งพื้นที่!ทุกคนหันหลังกลับมามองด้วยความโกรธบนใบหน้าไอ้หมอนี่เป็นใคร?กล้ามากที่เรียกชื่อของคุณหม่าห้วน ๆ!เกรงว่าบอดี้การ์ดที่กระเด็นเข้ามาเมื่อครู่นี้อาจเป็นฝึมือของเขาเขามารนหาที่ตายหรือ?หม่าอวี่เฟยที่กำลังสนทนากับศิษย์พี่ทั้งสองอย่างกระตือรือร้นทั้งสอง จู่ ๆ ก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เธอลุกขึ้นยืนและพูด “ใครเรียกฉัน?”สายตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารจ้องไปยังหม่าอวี่เฟยร่างกายของหม่าอวี่เฟยสั่นไหวราวกับว่าเธออยู่ในถ้ำน้ำแข็งครู่หนึ่ง และความหนาวเย็นท
“ฉันไม่มีวันปล่อยแกไปง่าย ๆ แน่ แกตายแน่...”“เพียะ!”ฝ่ามือกระทบลงบนใบหน้าอีกข้างของหม่าอวี่เฟยอีกครั้งหม่าอวี่เฟยโดนตบจนจมูกเบี้ยว ทั้งยังเผยให้เห็นซิลิโคนเสริมจมูกที่อยู่ข้างใน เมื่อเธออ้าปากก็มีฟันร่วงลงมาห้าหกซี่ ปากของเธอเต็มไปด้วยเลือด ดูน่าอนาถนักตู้ม!ดูเหมือนว่าทั่วทั้งห้องโถงจะระเบิด!การตบครั้งแรกเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จึงไม่มีใครได้เตรียมรับมือเลยแต่จากนั้นก็ตบครั้งที่สองต่อทันที ชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใครกันแน่?เขาบ้าไปแล้วหรือ!ต่อให้ใจกล้ามากขนาดไหน แต่ก็ไม่ควรไปท้าทายตระกูลหม่าพฤติกรรมของลั่วอู๋ฉางทำให้เกิดความโกลาหลทุกคนต่างตกตะลึงในภาพจำของทุกคน มีแต่หม่าอวี่เฟยที่ข่มเหงรังแกผู้อื่นอย่างเช่นเมื่อครู่นี้ เธอตีหัวหญิงสาวอีกคนด้วยขวดไวน์จนเป็นแผลเหวอะหวะและสลบไป!ไม่มีใครกล้าห้าม และไม่มีใครกล้าออกโรงปกป้องคนบาดเจ็บด้วยซ้ำนี่คือสาเหตุที่ทำให้หม่าอวี่เฟยเย่อหยิ่ง!แต่ตอนนี้เธอกลับถูกทุบตีอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน“ครั้งแรกสำหรับจิตใจโหดเหี้ยมของเธอ ครั้งที่สองสำหรับความโอหังของเธอ!”ลั่วอู๋ฉางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “นี่แค่
คุณชายซุนและคุณชายอู๋ลุกขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธพวกเขาเป็นตัวแทนของสำนักกระบี่เหล็กและศิษย์พี่หม่าหยุนหลงที่มาเพื่อฉลองวันเกิดให้หม่าอวี่เฟยโดยเฉพาะหม่าอวี่เฟยถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าพวกเขา แล้วจะกลับไปอธิบายกับศิษย์พี่หม่าอย่างไร?“ใจกล้าดีนี่ กล้าตบตีคุณหม่าถึงขนาดนี้ ไม่เคารพกฏเกณฑ์เอาซะเลย!”พวกเขาทั้งสองจ้องมองด้วยความโกรธและพุ่งไปข้างหน้าเพื่อปกป้องหม่าอวี่เฟยที่อยู่ข้างหลังพวกเขาหม่าอวี่เฟยพูดเสียงดังราวกับกำลังจับฟางช่วยชีวิต “ศิษย์พี่ทั้งสอง รีบแก้แค้นให้ฉันที จบเรื่องแล้วฉันจะบอกให้พี่ชายฉันขอบคุณพวกพี่ดี ๆ แน่นอน!”พวกเขาทั้งสองมีความรับผิดชอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว และหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ พวกเขาก็จะไม่หลบเลี่ยงอีกต่อไป“คุณหม่าวางใจเถอะครับ มีเราสองคนอยู่ จะไม่มีใครแตะต้องคุณได้อีก แม้กระทั่งปลายเล็บ!” ศิษย์พี่อู๋รับประกันศิษย์พี่ซุนพูดเสริม “ใช่แล้ว! มารังแกครอบครัวของสำนักกระบี่เหล็ก ช่างไม่รู้จักที่ตายเสียจริง!”หม่าอวี่เฟยพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ขอบคุณศิษย์พี่ทั้งสองมากนะคะ ดีจริง ๆ ที่มีพวกพี่อยู่...”“เพียะ!”มีเสียง
“พวกคุณว่าเขาจะถูกสับเป็นกี่ชิ้น?”กระบี่ในมือของศิษย์พี่ทั้งสองนั้นเป็นกระบี่แบบสองคม ตัวกระบี่ส่วนบนแคบกว่าส่วนล่าง มีสันตรงกลางแต่ไม่ว่ารูปร่างหรือน้ำหนักจะเป็นอย่างไร มันก็แตกต่างจากดาบหรือกระบี่ธรรมดา ๆ โดยสิ้นเชิงกระบวนท่าของสำนักกระบี่เหล็กจะให้ความสำคัญกับความคล่องแคล่ว ว่ากันว่าลูกศิษย์ที่มีความสามารถโดดเด่นสามารถผ่าครึ่งคนได้เพียงการตวัดดาบแค่ครั้งเดียว“ศิษย์พี่ซุน ใครจะลงมือก่อน?” คุณชายอู๋ดูกระตือรือร้นคุณชายซุนก็อยากลงมือเองเช่นกัน นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะแสดงความแข็งแกร่งของเขาต่อหน้าคนทั้งโลกยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากตระกูลหม่าอีกด้วยแต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่าเขาเข้าสำนักเร็วกว่า คุณชายซุนจึงต้องแสดงความใจกว้างในฐานะผู้อาวุโส ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นมีน้ำใจและพูดว่า “ศิษย์น้องอู๋ เริ่มก่อนเลย!”“ขอบคุณศิษย์พี่มาก ถ้าอย่างนั้นผมจะไม่เกรงใจแล้วนะ” ใบหน้าของคุณชายอู๋เปี่ยมไปด้วยความดีใจลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้ว “ขอเตือนนะ อย่าแส่เรื่องคนอื่น”“ไอ้นี่ ทำเป็นพูดดี ที่แท้ก็กลัวล่ะสิ!”คุณชายอู๋ตวัดกระบี่ในมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม
“เกิดอะไรขึ้น?”ทุกคนตกตะลึงและมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาในแง่ของอายุ ลั่วอู๋ฉางนั้นดูจะอายุพอ ๆ กันกับคุณชายซุนและคุณชายอู๋ในแง่ของภูมิหลัง พวกเขาทั้งสองเป็นศิษย์สำหนักกระบี่เหล็ก ในขณะที่ลั่วอู๋ฉางเป็นเพียงหนุ่มต่างถิ่นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งคุณชายซุนและคุณชายอู๋ประสานกระบวนท่าต่อสู้ด้วยกันแล้ว แถมยังชิงลงมือก่อนอีกด้วยดังนั้นไม่ว่าจะคิดอย่างไร ลั่วอู๋ฉางก็น่าจะตายคาที่แต่ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างแตกต่างออกไปสิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือลั่วอู๋ฉางไม่ได้เคลื่อนไหวเลยในระหว่างการโจมตี คุณชายซุนและคุณชายอู๋ถูกโจมตีด้วยพลังงานที่มองไม่เห็นพวกเขาทั้งสองไม่มีการป้องกันล่วงหน้าและถูกกระแทกออกไป!กระบี่กว้างสองเล่มที่เป็นเอกลักษณ์ของสำนักกระบี่เหล็กถูกทำลายกลายเป็นเศษโลหะในทันทีขณะนี้ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่เงียบสนิท เงียบจนได้ยินเสียงเข็มนาฬิกา!ทุกคนตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น“โครม!”“ปัง...”ศิษย์พี่ซุนและศิษย์น้องอู๋กระแทกพื้นทำให้เกิดเสียงดังมากทั้งสองยังคงกระอักเลือดต่อไปคนหนึ่งกุมหน้าอก และอีกคนกำลังกุมหน้าท้อง พวกเขาดูได้รับบาดเจ็บสาหัสแ
“ผมยอมบอกแล้ว คุณหม่าสั่งให้คนมาล็อคตัวซูเฉี่ยนเฉี่ยนไว้ แล้วคุณหม่าก็ฟาดหัวเธอด้วยขวดไวน์แปด... ไม่สิ เก้าขวดครับ!”ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วแล้วถามอีกครั้ง “แน่ใจนะว่าเก้าขวด?”เขารู้แค่ว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากขวดไวน์ แต่เขาไม่รู้รายละเอียดเนื่องจากเขาต้องการแก้แค้น แน่นอนว่าเขาจึงต้องถามให้ชัดเจนเพื่อจะได้ลงโทษคนลงมือด้วยวิธีเดียวกัน“ไม่ผิดแน่ครับ ผมได้นับเอง”ลั่วอู๋ฉางปล่อยมือ และชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังกึกก้องจากนั้นเขาก็รู้สึกถึงความร้อนจากเป้ากางเกงของเขา และเขาก็ฉี่รดตรงนั้น!ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกลัวหรือเจ็บลั่วอู๋ฉางเดินไปหาหม่าอวี่เฟย ยกมือขึ้นขึ้นไปในอากาศ จากนั้นไวน์แดงขวดหนึ่งก็ลอยไปที่ฝ่ามือของเขา“แก... แกอย่าเข้ามานะ!”“ฉันเป็นลูกสาวของหม่าเฉียนคุน ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน พ่อฉันฆ่าแกตายแน่! ฆ่าทั้งตระกูลเลยด้วย!”ในขณะนี้ หม่าอวี่เฟยไม่กล้าที่จะเย่อหยิ่งเหมือนเดิม ใบหน้าของเธอซีดเผือด และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความกลัว“โครม!”เนื่องจากความกลัว หม่าอวี่เฟยจึงสูญเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้นขณะถอยหลัง“ไม่ต้องรีบ พวกเรามาเริ่มกันทีละขวด!”ลั่