ตกบ่ายอันธิยาจัดแจงยัดคุณสามีขึ้นรถ..เพื่อเตรียมไปช็อปปิ้งที่ห้าง..เดิมรามิลเองก็คร้านจะไปไหน..เขายังไม่อยากไปเจอผู้คน..แต่คนตัวเล็กแต่แรงเยอะขู่ว่า
'ถ้าพี่มิลไม่ไป..อัญเลือกเสื้อกับกางเกงมาไม่ถูกใจ..จะมาบ่นกันไม่ได้นะ'
นั่นแหละคือเหตุผลที่คนตัวโตยอมขึ้นรถมากับยัยกระเปี๊ยก..ส่วนลูกสาวคนสวยกลับส่งสายตาเห็นใจมาให้..ทำให้เริ่มตะหงิดใจว่า...ที่ตามมาด้วยนะ..คิดถูกใช่มั้ย
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังประจำจังหวัด..ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่..ถูกจูงโดยหญิงสาวตัวเล็กที่พลังงานไม่เล็กตาม..รามิลเริ่มเข้าใจแล้วทำไมลูกสาวคนสวยถึงส่งสายตาเห็นใจมาให้
เพราะแม่คุณเล่นลากเขาเข้าทุกร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายที่เจอ
"ตัวนี้ก็สวยนะ..พี่ชอบมั้ย?"
เสื้อที่เธอยื่นมาให้เป็นเสื้อกล้ามลายม้าลายสุดเฉียบ..ที่ทำเอาเขาพูดไม่ออก..ไอ้แสบโยนใส่ตะกร้าโดยไม่รอคำตอบ..ทั้งยังไปคว้าเสื้อยืดสีเขียวสะท้อนแสง..แล้วก็โยนลงตะกร้าไปอีกตัว ตามด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียวหม่น..กางเกงขาเดฟ
"..."
'ดูๆไปสไตล์มันชักยังไงไม่รู้'
"พี่ช่วยถือตะกร้านะ"น้ำเสียงคนพูดประจบ..พร้อมรอยยิ้มหล่อเหลา..ทำคนเป็นเมียใจละลาย พอแม่คุณแม่ทูนหัวเผลอ..เขาจัดแจงนำเสื้อผ้าในตะกร้ากลับคืนที่เดิม
อันธิยาเตรียมจะยัดเสื้อสีชมพูเรืองแสงลงตะกร้าอีกตัว..ก่อนที่จะพบว่าของในนั้นว่างเปล่า
"อ้าว..เสื้อผ้าหายไปไหนหมดแล้วอะ"น้ำเสียงคนพูดงงงวย ก่อนที่เขาจะดึงเสื้อในมือเธอไปไว้ที่ราวเดิม..แล้วลากยัยตัวเล็กออกจากร้าน
"ไปร้านอื่นกันเถอะแบน..เดี๋ยวพี่เลือกเอง"น้ำเสียงเข้มแหบพร่า..น้องสาวข้างบ้านมุ่ยหน้าทันที..เธออุตส่าห์เลือกตั้งนาน
"โหยย..มีแต่ตัวสวยทั้งนั้นเลยเสียดาย"แต่ไอ้ต้าวตัวเล็กก็ยังยอมตามใจ..ดวงตาคมมีความลังเล..แท้จริงแล้วการที่ต้องมาใช้เงินผู้หญิงมันให้ความรู้สึก..เสียศักดิ์ศรีชะมัด
"หนูมีงบให้พี่เท่าไร"
"สำหรับลูกกับผัวได้หมดจ๊ะพี่"น้ำเสียงคนพูดสบายๆ ทั้งส่งยิ้มสดใสมาให้ รามิลได้แต่มองสำรวจไอ้ตัวแสบตั้งแต่หัวจรดเท้า
ใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางใดๆ มากสุดคงครีมบำรุงเล็กน้อย และครีมกันแดด..เสื้อยืดตัวโคร่งใหญ่กับกางเกงขาสั้น ดูยังไงก็ใช้มาหลายปี..ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวไม่มีของมี 'ราคา' สักชิ้น
ดวงตาคมหลุบลง..เขารู้ทันใด..สำหรับตัวเธอ..เธอประหยัดทุกทาง..แต่กับครอบครัวเธอยอม 'จ่าย' เต็มที่..และ 'เขา' คงถูกนับเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว..ความอบอุ่นวาบขึ้นในใจ..การที่โดนโอบกอดด้วยความรัก..มันดีแบบนี้นี่เอง
แต่..คนตัวโตยังคงอดถอนหายใจไม่ได้
"พี่ไม่ต้องซีเรียสนะ อยากได้อะไรก็บอก..บ้านเราจริงๆพอมีเงิน..พี่ชอบตัวไหนซื้อเลย"น้ำเสียงคนพูดกระตือรือร้น มันถูกส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลกระจ่างใส..เขาลูบหัวคนตัวเล็กข้างหน้า..ยัยตัวแสบสูงแค่อกเขาเอง
"ถือว่าพี่ยืมเงินเราแล้วกันละนะ..ไว้วันนึงพี่จะคืนให้ และจะเป็นคนพาเธอมาเดินช็อปแทน..พี่สัญญา"น้ำเสียงคนพูดหนักแน่นกว่าทุกครั้งที่เธอเคยฟังมา
อันธิยาได้แต่ก้มหน้าเขินๆ คุณสามี..เวอร์ชันที่เติบโตมากขึ้น..ทำไมมันน่ารักแบบนี้นะ
แม้คนตัวเล็กจะไม่คาดหวังสัญญาครั้งนี้เลยก็ตาม
รามิลเปลี่ยนมากุมมือหญิงสาวแทน..ก่อนจะลากเข้าร้านเสื้อผ้าแบรนด์กลางๆ ที่ราคาหลักร้อย..เขาเลือกเสื้อยืดใส่สบายโทนสีเป็นกลาง เช่นสีเทา..สีดำ..สีขาว
"มีแต่สีเข้มๆทั้งนั้นเลยอะพี่"ยัยตัวแสบเริ่มบ่น..คนตัวโตเลยหยิบเสื้อสีม่วงอ่อน..กับสีฟ้าใส่ลงตะกร้าเพิ่ม
"เสื้อผ้าไม่ต้องซื้อเยอะหรอก..เพียงแต่เพิ่มเงินอีกนิดก็ได้ตัวที่พอใส่ได้..ใช้ทนแล้ว"เสียงเข้มอธิบาย..คนหลงผัวได้แต่พยักหงึกงักเป็นเชิงว่าตามใจ..สามีว่าอะไรเธอเชื่อหมด
แล้วเขาก็หยิบกางเกงยีนขายาวพอดีตัวสองตัว กับกางเกงสามส่วนเพิ่มอีกสองตัว..ลงตะกร้า..ก่อนจะยื่นให้คนตัวเล็กไปจ่ายเงินให้
"เห้ย ไอ้มิลจริงๆด้วย!!!"เสียตกใจปนดีใจมาจากผู้ชายร่างท้วม ใบหน้าหล่อเหลามองกลับไปอย่างว่างเปล่า..ยัยตัวเล็กข้างๆโบกมือหย็อยๆ
"อ้าว..พี่วินมาได้ยังไง"
"พาเมียกับลูกมาเที่ยวนะ"น้ำเสียงคนพูดตื่นเต้น..ดวงตาสองชั้นหลบในเต็มไปด้วยความดีใจ
"กูตาฝาดป่ะเนี่ย..มะ..มึง..รอดมาได้ไงวะ!!"
"..."
"คืองี้พี่มิล..พี่วินเป็นแก๊งหนุ่มหล่อประจำคณะเกษตร..ระหว่างที่พี่ไม่อยู่พี่วินคอยมาช่วยที่บ้านตลอดเลยค่ะ"
คำอธิบายของยัยตัวเล็กแทบไม่เข้าหัวเขา..ดวงตาคมคู่สวยยังคงว่างเปล่า..วิญญูเองก็ไม่ทันสังเกต..เขาเพียงแต่เข้ามาตบบ่า..เพื่อนที่คิดว่าตายไปสิบปีกลับมาแล้ว
"กูไง..วิญญูผู้หล่อเหลา..ถึงแม้ตอนนี้กูจะอ้วนไปหน่อยก็เถอะ"ชายร่างอวบยิ้มตาหยี
รามิลขยับตัวห่างเล็กน้อยอย่างถือตัว..ใบหน้ายังคงเย็นชา ทำคนเป็นเพื่อนชะงัก..เมียเพื่อนเลยหันมาอธิบาย
"พี่วินคะ..พี่มิลป่วยอยู่ค่ะ..เอ่อ..จะว่ายังไงดี..ความทรงจำพี่เขาหายไป..พี่มิลจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ"น้ำเสียงคนพูดแผ่วเบา..ดวงตากลมโตที่ปกติมีประกายหมองลงเล็กน้อย..เพื่อนสามีได้แต่ส่งสายตาแปลกใจปนเห็นใจมาให้
"พี่เข้าใจละ..ถึงว่าทำไมไอ้มิลทำหน้าบอกบุญไม่รับ..มึงไม่ต้องคิดมากนะ..อยู่ๆไปเดี๋ยวก็จำได้เอง..สมัยก่อนมึงกับเมียรักกันจะตาย"คำท้าย..วิญญูหันมาปลอบคนเป็นเพื่อน ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของคนเป็นเมียจะโทรตามให้ไปหา..อดีตเพื่อนรักสามีรับคำ..ทั้งยังหันมาลาคนทั้งคู่
"พี่ไปก่อนนะอัญ..พอดีต้องไปรับแก้วกับน้องขวัญที่บ้านบอลก่อน"
"จ้าพี่"
"ส่วนมึงไอ้มิล..ไว้กูว่างจะไปหาที่บ้าน..เดี๋ยวพาไปกินเหล้ารื้อฟื้นความหลังกัน"
ไม่ทันที่ไอ้ต้าวพี่ข้างบ้านจะทันตอบอะไร ชายร่างอวบก็เดินจ้ำอ้าวไปหาลูกหาเมียแล้ว
"นั่นเพื่อนพี่เหรอ"น้ำเสียงคนพูดติดระอา ยัยตัวเล็กพยักหน้าเป็นเชิงว่าใช่ เขาถอนหายใจหนึ่งที
"มีอะไรหรือเปล่าพี่"
"อื่อ..ช่างมันเหอะ"
รามิลยังคงถอนหายใจซ้ำ..ตัวเขาในอดีตดูจะคบแต่เพื่อนกินเหล้าเมายาโดยแท้..ดูจากผิวพรรณอวบอ้วนหน้าบวมก็รู้..ไอ้วินของเพื่อนคงตั้งวงดื่มทุกวัน
"แบน?"
"หืม..เมื่อไรพี่จะเลิกเรียกหนูว่าแบนซะที"ยัยตัวกระเปี๊ยกบ่นอุบ ผมเปียสองข้างสีน้ำตาลกวัดแกว่งไปมา
"แบนก็น่ารักดีออก"ไอ้ต้าวพี่ชายข้างบ้านยังคงตีหน้าตาย..ดวงตาคมคู่สวยแฝงแววลังเล..ก่อนจะกลั้นใจถามคำถามบางอย่างออกไป
"สมัยก่อนพี่ดื่มเหล้าบ่อยมั้ย"
"อื่อ..ก็ทุกเย็นอะ..ถามทำไมเหรอ"
"ทุกเย็น?"ใบหน้าหล่อเหลาซีดลงเล็กน้อย
"แล้ว..เมามีอาละวาดทุบตีหนูกับลูกมั้ย"คนตัวโตกลืนน้ำลายดังเฮือกโดยไม่รู้ตัว..ถ้าทำเขาก็ใกล้เคียงหน้าตัวเมียเต็มทนละ
เข้าสโลแกน..จน..เครียด..กินเหล้า..เพิ่มเติมคือ..ซ้อมเมีย
อันธิยาเงียบไป รามิลเต็มไปด้วยความเครียด.. ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตของคนเป็นเมียครุ่นคิด..ทั้งยังคงพยายามเรียบเรียงคำพูด
"สมัยเรียน พี่มิลได้เป็นเดือนคณะ คบกลุ่มแก๊งพี่วิน..แล้วตั้งวงกินเหล้าทุกวัน..ตอนนั้นอัญเรียนมัธยม..เมื่อไรเลิกเรียนพิเศษก็มาตามพี่กลับบ้าน..ดีอย่างตอนนั้น..พี่มิลไม่ค่อยดื้อ..อัญหมายถึง..ถ้าอัญมาตาม..พี่ก็ตามกลับบ้านทุกรอบจ๊ะ"
"..."
"ส่วนเรื่องทุบตีไม่มีจ๊ะ..พี่คออ่อน กินไม่กี่แก้วก็หลับละ"
"เห้อ แล้วไป"คนตัวโตถอนหายใจ..เหมือนยกภูเขาออกจากอก
"ตอนหลัง..พอมีน้องอาย..พี่ก็แทบไม่ไปดื่มกับเพื่อนแล้วจ๊ะ"คนตัวเล็กส่งรอยยิ้มรอยกับตะวันมาให้..พร้อมแกว่งมือใหญ่ไปมา..ดวงตาคมยังมีความลังเล..ก่อนจะส่งคำถามที่ค้างคาใจออกไป..ใบหูแดงเล็กน้อย
"แล้ว..สมัยก่อนพี่มีข้อดีอะไรบ้างละ..เธอถึงตามจีบพี่"
"ข้อดีเหรอ?.. แทบไม่มีเลยพี่"
"...."
"แต่มีข้อสำคัญสุดคือ..พี่มิลหล่อที่สุดในโลกเลย"คำตอบที่เต็มไปด้วยความจริงใจ..ทำให้ต้าวตัวโตปล่อยมือ แล้วเดินหนีทันที..ไม่พ้น..ตามมาด้วยเสียงเถียงกันดังลั่น
"ยัยแบนเอ้ยย..เธอไม่รู้จักเลือกผู้ชายหรือไง"
"อ้าว..หนูชอบผู้ชายหล่อมันผิดตรงไหนอะ"ยัยตัวเล็กยังยืนกรานเถียงหน้าตาย..ผู้ชายหล่อสำหรับเธอคือ the best
"ตั้งวงกินเหล้า..งานการไม่รู้จักทำ..ก็ไม่ควรเลือกแล้วมะ..เทสเธอมันผิดปกติละ"
"แล้วพี่มิลจะว่าตัวเองทำไมอะ"
"..."
"อ้าว..นั้นจะเดินหนีหนูไปไหนนนน..รอก๊อนนน"
เช้าวันจันทร์อันแสนสดใสเสียงนาฬิกาจากมือถือเครื่องใหม่ที่คุณภรรยาตัวแสบซื้อให้ก็ดังลั่น..เขางัวเงียลุกขึ้นนั่ง..พลางคิดถึงหญิงสาวที่ซื้อโทรศัพท์ให้เขา'อ๊ะ..ของขวัญฉันให้พี่'เมื่อวานในรถยัยตัวแสบยัดกล่องมือถือเครื่องใหม่มาให้..เขารับมันมาอย่างลังเล..ดวงตากลมโตสีน้ำตาลพราวระยับ..เต็มไปด้วยความตื่นเต้นคาดหวังว่าพี่เขาจะชอบ'พี่แกะดูซิชอบมั้ย''อื่อ..ขอบคุณนะ''พี่ชอบมั้ย''อื่ม' เขารับคำอย่างหดหู่..มือถือเครื่องเดียวยังต้องให้สาวซื้อให้..ช่างเป็นผู้ชายไร้ค่าโดยแท้..ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความกลุ้มใจตอนที่เขาเหลือบตาขึ้น..กับเห็นลูกสาวจอมแสบซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง..ดวงตาที่เหมือนเขาเป๊ะมองกลับมาที่คนเป็นพ่ออย่างแปลกใจ..เขาหรี่ตา..ทั้งยังเอียงคอมองฟ็อกกี้ที่โผล่แวบๆ"คิดจะทำอะไรหื้อ""ปะ...เปล่า...คุณตื่นก็ดีแล้วนี้"ใบหน้าสวยหวานเต็มไปด้วยความเซ็ง..ที่อดแกล้ง..รามิลส่ายหน้าอย่างปลงๆ..ร่างสูงใหญ่ลุกเตรียมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"เดี๋ยวก่อน""....""คุณลืมพับผ้าห่ม..เก็บที่นอน"เสียงคนเป็นลูกดุเสียงเข้มคนเป็นพ่อถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย..ตั้งแต่มาอยู่บ้านหลังนี้..รู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจไม่น้อย.
"แต่อัญบอกก่อนนะ..หนูไม่ให้พี่ไปทำงานเป็นไกด์แล้ว" น้ำเสียงคนพูดจริงจังกว่า..ใบหน้าเล็กๆนั้นเต็มไปด้วยความไม่สบายใจรามิลรับคำ..ให้เขาไปเทคแคร์พวกนักท่องเที่ยว..เขาก็นึกสภาพตัวเอง..ที่ทำงานแบบนั้นไม่ออกเหมือนกัน..แต่จะให้ทำอะไรเขาก็ยังนึกไม่ออก..ได้แต่พักเรื่องหาเงินไว้ก่อนวันนี้ชีวิตประจำวันแทบไม่ต่างจากทุกวันจวบจนช่วงราวหนึ่งทุ่ม..สมาชิกในบ้านต่างแยกย้ายเข้าห้องอันธิยาเองก็พยายามหาข้อมูล 'เลี้ยงลูกวัยรุ่น' ตามอ่านเพจต่างๆ ที่เกี่ยวกับแม่และเด็ก รวมถึงเพจคุณหมอ ไอ้ต้าวตัวเล็กสรุปกับตัวเองได้ความว่า'ฉันจะเข้าไปอยู่ในโลกของลูก'แต่วันๆลูกสาวตัวน้อยก็เอาแต่อ่านหนังสือเตรียมสอบ..พอเธอเปิดหนังสือพวกนั้นดู..เจอทั้งสูตรคณิตศาสตร์ที่เธอนึกเครียด..ทั้งบทความภาษาอังกฤษ..พอมาเปิดวิทยาศาสตร์เจอวงจรไฟฟ้า สสารและสาร..เธอแทบจะปิดหนังสือไม่ทันคนเป็นแม่เลยหาวิธีใหม่..ถ้าเธอเข้าไปในโลกของลูกไม่ได้..ก็สร้างมันขึ้นมาซิ!!คิดได้ดังนั้น..ร่างบอบบางในเสื้อนอนตัวโคร่งลายตุ๊กตาน่ารักกับกางเกงนอนลายเดียวกัน..ดูราวกับหญิงสาววัย20ต้นๆ เธอขอมือถือจากคนเป็นสามีรามิลยื่นให้..ไม่แปลกใจเท่าไร..ถ้าคนเป็นเมียจะเ
แล้วเครื่องหมาย'DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT''DEFEEAT'ยังขึ้นไม่หยุด..มันผ่านไปเกือบสามชั่วโมงแล้ว..ที่แพ้สิบกว่าเกมติดต่อกัน...ริมฝีปากรูปกระจับของคนเป็นลูกสั่นด้วยความโกรธเธอไม่เข้าใจทำไมถึงแพ้...ส่วนคนเป็นพ่อขมวดคิ้วยุ่ง..จริงๆเขาไม่ชอบเล่นเกม..แต่..เขาแค่ไม่ชอบแพ้!!!บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความมาคุ..เว้นก็แต่...'ไอ้คนชวนชาวบ้านเขาเล่น' ยังอารมณ์ดีไม่ผิดจากตอนเริ่มเล่นคนเป็นเมียและแม่มองนาฬิกาข้างผนัง..มันบอกเวลาสี่ทุ่ม ตาโตสีน้ำตาลเริ่มหรี่ด้วยความง่วง..ตามมาด้วยเสียงหาว"อื่อ...แค่นี้ก่อนนะ...ม๊ะม๊าง่วงแล้ว"ไม่พูดเปล่ายัยตัวแสบปิดมือถือ..แล้วทิ้งหัวลงหมอน..หลับไปดื้อๆซะงั้น..ทิ้งให้อารมณ์คนในห้องยังคงคุกรุ่นพ่อลูกมองหน้ากันอย่างจนใจ"ฉันว่า..วันนี้..เราพอก่อนมั้ย?"เสียงคนตัวโตแหบพร่า..คนเป็นลูกรับคำอย่างจำใจร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นไปปิดไฟ..ก่อนจะมานอนพลิกไปพลิกมาบนฟูกด้วยอารมณ์หงุดหงิด..แทบไม่ต่างจากคนเป็นลูกที่ปกติเป็นคนนอนง่าย..พ่อกับลูกถอนหายใจพร้อมกัน"คุณนอนไม่หลับเหรอ?"เด็กน้อยวัยประถมปลายถาม"อื่อ""อีกเกมดีมั้ย?"น้ำเสียงคนเป็นลูกลังเล..แต่ถ้าให้นอนทั
ตกเย็นภรรยาตัวน้อย..พาคุณสามีตัวโตไปฝึกขี่รถมอเตอร์ไซต์ ขาไปให้เขาซ้อนท้ายเช่นเดิม..มือหนาหยาบโอบเอวแน่งน้อย..ลมทะเลตีหน้าเขาและเธอ..เป้าหมายคือลานเปล่าในโรงเรียนประถมบรรยากาศช่วงเย็นค่อนข้างอบอ้าว..ตอนไปถึงโรงเรียนเหลือเพียงคุณลุงยาม เช่นเคยพอคุณลุงเห็นว่าเป็นเด็กเก่าก็อนุญาตให้เข้าไปใช้สถานที่ชั่วคราวได้อันธิยาจอดรถไม่ไกลจากร่มไม้ ร่างบอบบางพยายามช่วยทบทวนความทรงจำ..พร้อมอธิบายให้พี่ชายข้างบ้านฟัง..ถึงตำแหน่งต่างๆบนรถมอเตอร์ไซต์รามิลพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจอาจเพราะเคยขี่มาก่อน..รอบเดียวคนตัวโตก็ทำได้เลย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลสุกใส..รอยยิ้มน่ารักถูกส่งมาให้"สงสัยคนสอนจะเก่ง"ไอ้ต้าวตัวเล็กเริ่มชมตัวเองอุบอิบ เมื่อเห็นคุณสามีขับวนไปวนมาได้หลายรอบ..สักพักก็มาจอดตรงหน้าเธอ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเปื้อนรอยยิ้ม'ผัวฉันหล่อเกินกว่าใคร'สายตาที่ยัยตัวแสบส่งมาให้..ทำรามิลขนลุกซู่ ใบหูคนตัวโตขึ้นสีอย่างอดไม่ได้ เขามั่นใจว่าตัวเขาในอดีตไม่ใช่คน 'ขี้อาย' แต่..พอโดนสาวจีบทุกวันก็พาเขินไม่น้อย..เขาเสมองทางอื่น"พี่ว่า..พี่น่าจะเคยขี่มาก่อนนะ"เสียงเข้มแหบพร่า ร่างบอบบางนั่งบนเก้าอี้หิน เท้าแกว่งไปมา..ว
ร่างสูงใหญ่ของคนเป็นพ่อส่งยิ้มเขินๆ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเด็กหญิงตัวน้อย..มือหนาหยาบยื่นถุงใส่พวงมาลัยสำหรับใช้ไหว้พ่อมาให้..ดวงตาคู่สวยของคนเป็นลูกเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย.. ดีใจ..ประหลาดใจ..สงสัย..ก่อนจะส่งคำถามแผ่วเบา"คะ...คุณมาได้ไง""นั่งรถมากับม๊ะม๊าหนูนั่นแหละ"ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเปื้อนยิ้ม..ช่างผิดจากวันแรกที่เธอเจอที่โรงพยาบาล"แล้วม๊ะม๊าละคะ""วนหาที่จอดรถอยู่ ม๊ะม๊ากลัวจะสาย..เลยให้ฉันมาหาหนูก่อน"ก่อนที่คนเป็นลูกจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม ร่างอวบอ้วนในชุดข้าราชการครูก็เดินเข้ามาหา"คุณพ่อ ของคุณหญิงดารินเหรอคะ"น้ำเสียงคนเป็นคุณครูประจำชั้นตั้งคำถามตื่นเต้นแล้วเมื่อชายหนุ่มหันมายิ้มละไมให้..ใบหน้าวัยสี่สิบกว่าของคนเป็นครูประจำชั้นขึ้นสี..ถ้าเธอจำไม่ผิด พ่อของเด็กน้อยเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว"ใช่ครับ..ผมเป็นพ่อที่หายตัวไปของดารินครับ"ชายหนุ่มรับคำทันที เรียกเสียงฮือฮารอบข้างไม่น้อยเด็กหญิงปรายพันแสงหน้าซีดทันที..ปมที่เคยใช้ล้อคู่แข่งคนสวยมาตลอดสิบปี..จบกันวันนี้..แถมคุณพ่อของเพื่อนทั้งหล่อเหลา หุ่นดีราวกับดารานักแสดงไม่มีผิด..ช่างต่างจากพ่อของเธอที่อ้วนราวกับหมู..เด็กน้อยนึกเหย
แม่คุณแม่ทูลหัวที่สนับสนุนให้เขาตั้งวง..จัดแจงทอดหมูแดดเดียว หาถั่วลิสง ตั้งเตาหน้าบ้านให้พร้อม..เขาควรดีใจใช่มั้ยที่มีเมียสปอยขนาดนี้?"เบียร์หมดบอกได้นะพี่ เดี๋ยวอัญออกไปซื้อให้""..."ใบหน้าจิ้มลิ้มเปื้อนยิ้ม..ทั้งยังเอาหมูที่หมักพึ่งเสร็จ กับถาดอาหารทะเลพวกปลาหมึก กุ้ง ปู มาให้อีก..ส่วนเจ้าตัวทยอยขนเอาผ้าที่รีดเรียบร้อยแล้ว..จัดแจงไปส่งลูกค้า..ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดคอกลมพอดีตัวรีบลุกทันที"เดี๋ยวพี่ช่วย""ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้เองพี่นั่งดื่มไปเถอะ..ฟังเรื่องสมัยก่อนเยอะๆ เพื่อพี่จะจำได้ไง"เสียงใสส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนที่รามิลจะทันได้ตอบอะไร..ร่างบอบบางตัวเล็กก็ขับรถหนีเขาไปแล้ว..ทิ้งให้ไอ้พี่ข้างบ้านจมอยู่บรรยากาศชวนอึดอัด"ดื่มดิมึง ชน!!!"น้ำเสียงวิญญูทัก พร้อมทั้งยกแก้วเป็นเชิงขอชนกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาชักกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจต้องจิบเบียร์เป็นเพื่อนส่วนไอ้เพื่อนผอมชอบกินกับแกล้มมากกว่าเริ่มชวนคุย..เขาเงยหน้าจากแก้วเบียร์มองมัน"เมียมึงยังแสนดีไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้มิล..พวกกูโคตรอิจฉามึงเลยอะ""ยังไง?""ดูดิ..มึงอยากตั้งวงก็ไม่บ่น เป็นอิหมวยเมียกูนะ..บ่นจนบ้านบึ้มละ..คงไม่มีกั
เช้าวันต่อมา..รามิลตื่นสายกว่าปกติ แตกต่างจากลูกสาวคนสวย กับมนุษย์เมีย..ที่เช้านี้ยังคงตื่นมาทำหน้าที่อย่างแข็งขันพอนึกสภาพเพื่อนรักในอดีตทั้งสองคน..ใบหน้าคมคายก็หลุดอดหัวเราะขำไม่ได้..สรุปเมื่อคืนแทบไม่ได้ดื่มกันต่อ..เพราะพาลหัวร้อนจากเกม..ยังดีที่ลูกสาวคนสวยกลับมาเล่นตำแหน่งป่า..ช่วยให้ได้ดาวคืนบ้าง..ทั้งสองคนแทบกราบ..ถึงเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องซีเรียสกับ 'ดาว' ในเกมขนาดนั้น..แต่เขาชอบบรรยากาศ..ที่เถียงกัน..หัวเราะไปด้วยกัน เวลาชนะก็มีเพื่อนร่วมยินดี..มันเป็นความรู้สึกอบอุ่น..ที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก..แต่เขาชอบมันชายหนุ่มจัดแจงพับผ้าห่มเก็บเข้าที่..ก่อนจะหันไปอาบน้ำจัดการตัวเอง.. นาฬิกาบนผนังบอกเวลา อีกสิบห้านาที ใกล้เก้าโมงเช้าพอลงมาชั้นล่าง..คุณภรรยาสุดแสนน่ารักชะเง้อโผล่หน้าจากประตูครัว"ตื่นแล้วเหรอพี่..หิวยังคะ เช้านี้มีข้าวต้มปูของโปรดพี่มิลด้วยนะ"เสียงใสส่งมา...ก่อนยัยตัวกระเปี๊ยกจะจัดแจงยกชามข้าวต้ม พร้อมดันเครื่องปรุงบนโต๊ะมาให้"ขอบคุณค่ะ"ชายหนุ่มทอดเสียงหวานไม่รู้ตัว..ดวงตาคมคู่สวยระยิบระยับ..ใบหน้าจิ้มลิ้มขึ้นสีด้วยความเขินทันที"พี่มิล""ว่าไงแบน"ชายหนุ่มเงยหน้าจากชาม
"พี่มิล..หมายความว่า..พี่เคยทำอะไรพวกนี้?"เสียงแผ่วเบา..เต็มไปด้วยความตื่นเต้น..ดวงตาสีน้ำตาลคู่โต..มองสบดวงตาดำลึก..บุคลิกสุขุม..นุ่มลึก..บางอย่างทำให้เธอเกรง"อื่ม..เพราะหลายๆอย่าง..ที่ทำไป..มันเกิดจากสัณชาตญาณ..การฝึกฝน..ไม่ใช่จู่ๆก็ทำได้"เสียงเข้มแหบพร่า..การที่เขาได้มีโอกาสกลับมาเทรดหุ้น..มัน 'กระตุ้น' ความเคยชินบางอย่าง..ที่ถูกฝังไว้ในกระดูกดำ"เราไปหาอาจารย์หมอดีมั้ย?"ยัยตัวเล็กแนะนำ..บางทีถ้าเขาอยู่ใกล้..สิ่งที่เคยทำทุกวัน..อาจจะทำให้ 'จำ' ระยะเวลาหนึ่งทศวรรษที่ทำหายไปได้"อื่ม..ไว้วันหยุดไปกันนะ"ที่เขา 'เลือก' วันหยุด เพราะอยากหาเงินในวันธรรมดาให้มากกว่านี้..ที่สำคัญเขาอยาก 'คืนเงิน' ที่ยืมเธอไปด้วยอาทิตย์นั้นชายหนุ่มยังคงใช้วิธีเดิมในการหาเงิน..มีครั้งนึง อันธิยามานั่งเฝ้าคนเป็นสามีที่เธอเคยตีตราว่าไม่ได้เรื่อง..แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น 'ซุปเปอร์สามี' ที่ทั้งหล่อ..และพึ่งพิงได้เธอนั่งเท้าคางมองเขา..ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตเยิ้มไปด้วยความรัก..จนพี่ชายข้างบ้านดีดเหม่งน้อยไปนึงทีด้วยความหมั่นไส้..ใบหน้าหล่อเหลายังคงขึ้นสี"เลิกมองพี่แบบนี้ได้แล้วแบน"เสียงดุไม่จริงจัง"ก็พี่มิลอยากหล่อ
ณ ศาลาทรงจีน หลังตึกเป่ยวันนั้นเป็นเสาร์เช้าเด็กหญิงดารินนั่งมองดูบ่อบัวที่กำลังบานสะพรั่ง มีผีเสื้อตัวน้อยบินวนรอบ...ในมือมีจดหมายที่คนเป็นทวดเขียนให้..ตั้งแต่วันที่ได้รับมันมา..เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่ไม่กล้าจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน..ส่วนหนึ่งเธอไม่อยากจะยอมรับว่า หนึ่งในบุคคลที่เธอเคารพรักมากที่สุดในชีวิต..ท่านได้เสียไปแล้วมือน้อยขาวผ่องสั่นเล็กน้อย..เธอสูดหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจแกะซองจดหมายออกมาอ่าน‘ถึง จินเยว่..จินจินน้อยของเหล่ากงวันที่จินจินน้อยได้รับจดหมายฉบับนี้ เหล่ากงคงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..เหล่ากงรู้ว่าจินจินเองก็คงจะเสียใจไม่น้อย แต่เหล่ากงอยากจะบอกจินจินว่าการลาจากอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่ทุกคนล้วนหนีมันไม่พ้น เหมือนที่จินจินเองสูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เหล่ากงก็ยังเชื่ออย่างหนึ่งว่า..เหลนของเหล่ากงเป็นเด็กที่เข้มแข็ง จินจินจะต้องผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนถ้าจะมีเรื่องไหนที่เหล่ากงเสียดายมากที่สุด ก็คงเป็นเพราะเราได้ใช้เวลาด้วยกันน้อยเกินไป มันมีหลายสิ่งที่เหล่ากงอยากเล่าให้หนูฟัง อยากดูการเติบโตของหนู อยากอยู่ถึงวันที่หนูมีคู่ชีวิต มีลูก แต่ไม้ใกล้ฝ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน..กลางทะเลระหว่างหมู่เกาะกับผืนแผ่นดินใหญ่ร่างผอมสูงค่อยๆ จมลงไปในน้ำทะเล มันทั้งมืดลึก และหนาวเหน็บ เสียงพายุพัดรุนแรงค่อยๆ เลือนหายไปจากโสตประสาท จิตใต้สำนึกพยายามบอกตัวเองให้ว่ายขึ้นไปเหนือน้ำให้ได้ ‘เมียกับลูกน้อย’ยังรอเขาอยู่..แต่..ถึงแม้จะว่ายน้ำเก่งตามประสาลูกทะเลมากแค่ไหนก็ตาม.. ณ เวลานี้...ตอนนี้ เรี่ยวแรงกับค่อยๆ หายไป..และพรากลมหายใจของการดิ้นรนครั้งสุดท้ายไปพร้อมกันด้วยรามิลมารู้สึกตัวอีกที ตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นเรียบร้อยแล้ว...ท้องฟ้าดำมืดเมื่อคืนเปลี่ยนเป็นสว่างจ้าฉายแสงสดใส ชายหนุ่มถอนหายใจโล่งอก...โชคดีเขารอดมาได้‘ให้มาตายตอนอายุแค่ยี่สิบสองมันจะใจร้ายไปหน่อยมั้ย!!’ไอ้ต้าวอดีตเดือนเกษตรคิดอย่างอารมณ์ดี แต่พอคิดได้ว่า..เมื่อวานวันเกิดยัยตัวเล็ก..เขากลับบ้านไม่ทัน..แม่เสือตัวจ้อยคงโกรธเขาเป็นแน่ แถมลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่ใช่เขากล่อมนอน..ไม่รู้ว่ายัยหนูน้อยจะยอมนอนมั้ยนะคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นยืน พร้อมสะบัดทรายที่อยู่ตามขากางเกงออกดวงตาคมคู่สวยหันซ้ายแลขวา..สำรวจรอบๆ ไม่รู้ว่าน้ำทะเลพัดเขามาถึงไหน..หมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าเองก็ไม่คุ้นเคยเอาเ
ปิดเทอมฤดูร้อนวนมาอีกครั้ง รอบนี้ครอบครัวเล็กๆ ของอันธิยานัดกันไปเที่ยวทะเลทางใต้ โดยภากรเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดหาที่พัก เรือยอชต์สุดหรู นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนใหม่อยู่ในพุงยัยแบนสะท้านโลก..ตอนชายหนุ่มเห็นผลตรวจครั้งแรก...ความรู้สึกอิ่มเอมฟองฟูขึ้นเต็มหัวใจ..ดวงตาคมมองหน้าท้องแบนราบของไอ้ต้าวตัวเล็ก..เขานึกประหลาดใจเหลือเกินว่าข้างในพุงเล็กๆ นั้นจะมีเด็กน้อยอาศัยอยู่ ขณะเดียวกันเด็กหญิงดารินยิ้มแก้มบานแทบทั้งวัน เธอลากป๊ะป๋ากับม๊ะม๊า ไปหาซื้อเสื้อผ้า..ข้าวของเครื่องใช้..ของเล่นให้น้องน้อยตั้งแต่ยังไม่รู้เพศ ทั้งยังลงมือจัดห้องนอนเล็กให้น้องเอง เพราะห้องเดิมที่คนเป็นแม่ตั้งใจแต่งให้ลูกคนที่สอง กลับยกให้เด็กชายคีรีตัวแสบไปนานแล้ว เด็กหญิงเลือกโทนสีเขียว ซึ่งเป็นสีกลาง ทั้งยังขอห้องด้านล่างที่แต่เดิมเป็นห้องว่างไว้ทำ kid room เพิ่มอีกต่างหากแต่พอทำไปทำมา ก็พึ่งนึกได้...ถ้ามีน้องตอนนี้ เธอกับเด็กน้อยอายุจะห่างเกินหนึ่งรอบ...น้องสุดที่รักของเธอจะเหงา เหมือนที่เธอเคยเหงาในสมัยวัยเยาว์มั้ยนะ? เมื่อสมองของคนเป็นพี่สาวคนโตคิดได้..ใบหน้าสวยหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์..วิธีที่เธอนึกออกคงต้องกดดันให้ป๊ะ
พอผ่านเรื่องราวทั้งหมดผ่านพ้นไป ชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ก็กลับกลายมามีความสุขเหมือนดั่งเก่า เพิ่มเติมคงจะเป็นการหวงแหนช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น..สิ่งที่ดีที่สุดของเรื่องคราวนี้ คือภากรไม่ต้องทำงานหนัก..เขามีความสุขกับการมีเวลาให้กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น..ส่วนใหญ่ชายหนุ่มเลือกจะทำงานที่บ้าน เด็กชายคีรียังคงตามติดเด็กหญิงดารินไม่เปลี่ยน ส่วนเด็กหญิงดารินกลับชอบหนีไปเล่นกับแก๊งพี่ไค พี่ปาลมากกว่า ไม่ว่าจะพูด หรือแกล้งทำตัวใจร้ายไอ้ต้าวเพื่อนชายก็ยังคงติดหนึบราวกับว่ากลัวเธอจะหายไป เล่นเอาจินจินน้อยของเหล่ากงแทบกุมขมับทุกวันในขณะที่คนเป็นแม่กำลังวางแผนกับลูกชายกำมะลอสุดที่รัก ว่าจะไปเรียกร้องพ่อแม่ฝ่ายชายให้มารับผิดชอบ 'หมั้นหมาย' กันไว้ก่อนดีมั้ย? ผู้ชายดีๆ ถ้าไม่รีบจับจองตั้งแต่ต้นๆ เด็กผู้หญิงคนอื่นก็จ้องจะคาบไปกินนะซิ ซึ่งเด็กชายคีรีย่อมเห็นด้วย แววตาสองชั้นดีใจจนปิดไม่มิด แต่คนหนึ่งผู้ใหญ่ คนหนึ่งเด็ก...ยังคิดแผนไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรดี ในส่วนของฝั่งครอบครัวคีรีนั้นไม่ติดปัญหาอะไร เพราะคุณหมอกินรี มักจะตามใจลูกๆ อยู่แล้ว ขณะพี่ไคเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่นทุกเดือน แม่ของเขายังไม่ว่าอ
ทนายประจำบ้านยังคงอ่านพินัยกรรมไปเรื่อยๆ สรุปได้ว่า บ้านรองเองก็ได้บริษัทประกันภัย...ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าใหญ่อันดับสองของตระกูล และถ้าเป็นธุรกิจที่บริหารให้ดีสามารถต่อยอดได้หลายอย่าง ลูกชายคนที่สองมองหน้าคนในครอบครัวด้วยความตกใจไม่แพ้กันส่วนลูกสาวคนสุดท้องได้เงินสดมูลค่าหลายพันล้าน...ชวนให้บรรดาญาติห่างๆ อิจฉาไม่น้อยคฤหาสน์หลังใหญ่มอบให้กับอดิศัยลูกชายคนโต โดยมีหน้าที่ต้องดูแลมารดาจนสิ้นอายุขัย...ส่วนอื่นๆ ในคฤหาสน์ย่อยนั้นถูกเซ็นมอบที่ดินเป็นของลูกๆ หลานๆ นานแล้ว ในขณะที่หลานชายคนโต ที่แต่เดิมคาดว่าจะได้ทรัพย์สมบัติมากที่สุด กับได้เพียงจำนวนหุ้นหลักสิบ ถึงสิบห้าเปอร์เซ็นต์ในธุรกิจต่างๆ กันไป หลายคนส่งรอยยิ้มแสดงความเห็นใจมาให้ แต่ใครจะรู้ว่าภากรดีใจมากแค่...อะไรจะดีเท่ากับการไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ได้ส่วนแบ่งกันเล่า!!!ถ้าจะมีคนรู้ทัน ก็คงมีแต่ลูกสาวคนสวยที่เธอหันมายิ้มมุมปาก พร้อมทั้งยั่กคิ้วให้หนึ่งที แน่ละ...ป๊ะป๋าต้องขอบคุณเธอ เพราะเธอเป็นหนึ่งในคนที่เกลี้ยกล่อมเหล่ากง....ในเครือบริษัทมหาชนนั้น เดิมมีการวางรากฐานที่ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ หรือผู้บริหารโง่เง่า อีโ
คุณวันชายหัวหน้าทนายประจำตระกูลอยู่ในชุดสูทสีเทา บุคลิกเคร่งขรึม..เขาอายุราวๆ ห้าสิบกว่า แต่เดิมเขาคือ เด็กในอุปการะของท่านเจ้าสัวธงชัยนั้นเอง ชายวัยเกษียณขยับแว่นตากลมสีใสเล็กน้อย ก่อนจะเดินมายืนด้านหน้า ในมือมีเอกสารพินัยกรรม..ทุกคนในห้องเงียบพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย"ฮะแฮ่ม...ทุกท่านในตระกูลมากันคบทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ?"ทนายพูดพร้อมกวาดตา เช็กจำนวนคน ที่มีสิทธิ์ในพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้จัดทำไว้ พอเห็นว่าผู้มีสิทธิ์คบตามจำนวน จึงพยักหน้าก่อนจะอ่านเอกสารในมือต่อ"เอาละครับ วันนี้ผมจะมาประกาศพินัยกรรมที่ท่านเจ้าสัวได้ทำไว้ อย่างแรกผมอยากทำความเข้าใจกับทุกคนว่า..นี้คือวัตถุประสงค์ของผู้ตาย และเป็นความตั้งใจแน่วแน่ ผมก็หวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าสัว""...""ถ้าพร้อมแล้ว...ผมขอเริ่มเลยนะครับ""...""ข้าพเจ้า นายธงชัย กิตติวรชัยกุล ในขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้าขอยืนยันว่ามีสติสัมปชัญญะปกติดี โดยเมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้แบ่งทรัพย์สินต่างๆ ของข้าพเจ้าให้บุคคลดังต่อไปนี้ในส่วนของบริษัท..ข้าพเจ้าขอแบ่งแยกบริษัทออกเป็นดังนี้ ธุรกิจในเครือร้านสะดวกซื้อ..หุ้น 60%ที่ข้าพเจ้าถืออย
ช่วงเย็นในระหว่างครอบครัวเล็กๆ กำลังนั่งกระเซ้าเย้าแหย่..ทั้งยังตกลงกันว่าปิดเทอมรอบหน้าจะไปเที่ยวต่างประเทศกันดีมั้ย? รวมถึงเล่าเรื่องระหว่างช่วงเวลาที่ลูกสาวสุดที่รักนอนหลับเป็นตายเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเหมือนจะดี..บรรยากาศอบอุ่นหวนคืนกลับมา..มาวันนี้..สิ่งเล็กๆ เหล่านี้..มันเป็นสิ่งที่คนในบ้านหวงแหนนักหนาแน่ละ..การที่เด็กหญิงฟื้นจากอาการบาดเจ็บ นั้นสมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่แล้วเสียงโทรศัพท์จากมือถือของหัวหน้าครอบครัวกลับพรากบรรยากาศดีๆ ให้จางหายไป 'ท่านเจ้าสัวอาการโคม่า!!!'หน้าห้อง icu ตอนที่ภากรเข็นรถลูกสาวมาถึง..ครอบครัวกิตติวรชัยกุลต่างมายืนออหน้าห้อง..แต่ละคนหน้าตาไม่ดีนัก..คุณอดิศัยนั่งซึม ข้างๆ มีคุณหญิงชญานินนั่งซับน้ำตาพร้อมกุมมืออยู่ด้านข้าง ดาริกาเองพอเห็นพี่สะใภ้ก็รีบวิ่งมาหา..เธอเองก็จวนเจียนจะร้องไห้ส่วนครอบครัวบ้านรอง..ชาญวิทย์เองเดินไปเดินมาด้วยความเคร่งเครียด ไหนจะเครียดเรื่องเงินที่ต้องใช้หมุนในบริษัท มาอาการป่วยของคนเป็นพ่อ ลูกชายลูกสาวทั้งสองก็ยังมีฐานะไม่มั่นคง และถ้าวันนี้ไม่มีท่านเจ้าสัว ครอบครัวเขาคงลำบากกว่าเดิมแน่ ระหว่างที่รออ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้..ใครจะคิดว่าตระกูลที่มั่งคั่ง..หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของประเทศถึงกับเกิดเรื่องราวตามมามากมาย..ถึงขณะที่คนในตระกูลกิตติวรชัยกุลก็คาดไม่ถึงช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ภากรเหนื่อยล้าทั้งกายใจ..ไหนจะลูกสาวที่ออกจากห้องไอซียู มาพักฟื้นของ vvip แต่เวลาผ่านไปเกือบเดือน จวนใกล้เปิดเทอมใหม่ เด็กหญิงก็ยังไม่ฟื้น ส่วนอากงที่ทุกคนในบ้านต่างก็มองว่าท่านมีสุขภาพแข็งแรง..แต่หลังจากที่ท่านได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ โรคหัวใจที่มีแต่เดิมกำเริบ...ทุกวันนี้ท่านเจ้าสัว ผู้เป็นร่มเงาให้กับคนในตระกูลกลับกลายเป็นต้องมาอยู่ในห้องไอซียูแทนภาพร่างผอมเกร็งของชายสูงอายุ เครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง ชายที่เคยโอบอุ้มเลี้ยงดูอุ้มชูเขามาตั้งแต่จำความได้..มาวันนี้ราวกับจะผุพังพร้อมจะจากไปทุกเมื่อถึงอากงจะเข้มงวดมากเพียงใด แต่ความรักที่ชายหนุ่มได้รับ จนเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ก็มาจากคนเป็นปู่แทบทั้งนั้นนอกจากที่ต้องเทียวมาโรงพยาบาล ยังต้องระงับเหตุการณ์ทะเลาะกันของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพราะพอข่าวสารของท่านเจ้าสัวป่วยหลุดออกมา...ขั้วอำนาจการบริหารทั้งฝั่งคุณอดิศัยกับลูกชาย คุณชาญวิทย์ และผู้ถือหุ้นนอกตระกูลก
"เห้ย พี่อัญเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม"น้องสามีละมือจากผักที่กำลังหั่น ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งเข้าไปหาทันที..ยิ่งเมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่แสนจะเข้มแข็ง..เต็มไปด้วยพลังชีวิต..แต่เวลานี้ร่างเล็กบอบบางกับตัวสั่นเทาทั้งยังพยายามกั้นสะอื้น"น้องอาย..เกิดอุบัติเหตุ"น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดปนช็อก หญิงสาวเข้าไปกอดปลอบเหมือนที่ครั้งหนึ่งพี่สะใภ้เคยทำตอนที่เธอเองทุกข์ใจ "เดี๋ยวก่อนนะคะ ใจเย็นๆ นะพี่ แล้วตอนนี้หลานอยู่ที่ไหนคะ คิดในแง่ดีบางทีหลานอาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้" คำพูดของหญิงสาวเรียกสติได้ไม่น้อยบางทีลูกอาจไม่เป็นอะไร เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวแล้วเด็กหญิงบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย มือเล็กตบหน้าตัวเองพยายามเรียกสติ..ไม่...ลูกสาวจะต้องไม่เป็นอะไร เธอลากน้องสามีไปโรงพยาบาลทันทีทางด้านภากร...ชายหนุ่มยังคงวุ่นวายกับคู่ค้าที่ยังตกลงข้อสัญญากันไม่ได้ แต่ถึงคนตรงหน้าจะสำคัญแค่ไหน..เสียงโทรศัพท์ที่เป็นเสียงเรียกเข้าเฉพาะของคนเป็นเมีย ย่อมสำคัญกว่า..ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้ต้าวตัวโตไม่เคยไม่รับโทรศัพท์ แต่ยัยแบนตัวแสบก็ไม่ใข่ผู้หญิงที่ชอบโทรจิกสามี เว้นแต่มีเรื่องสำคัญจ