เมื่อรถที่พิมนั่งมาตลอดไปจอดลงหน้าบ้านของรุ่นพี่
เธอก็ลงจากรถแล้วเดินไปกดกริ่งหน้าบ้านรุ่นพี่ สักพักรุ่นพี่ก็ลงมาเปิดประตูให้เธอ เธอก็ยกมือไหว้อย่างมีมารยาทแล้วเอ่ย " สวัสดีค่ะ รุ่นพี่ พิมขอรบกวนพี่หน่อยนะคะ " รุ่นพี่สาวสองยกมือรับไหว้จากเธอแล้วเอ่ย " ไม่รบกวนเลย เข้ามาเถอะ อีเท่เล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว อะไรที่พี่ช่วยได้พี่ยินดีจ้า " " ขอบคุณค่ะรุ่นพี่ " จากนั้นพิมก็เข้าไปในบ้านของรุ่นพี่ ทางด้านเตชิน เขานั่งอยู่ในรถแล้วเอ่ยถามขึ้น " คุณคัง คุณโทรไปถามพวกเขา ว่ายังไม่พบคุณพิมอีกเหรอ " " ได้ครับ " ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบจากนั้นก็โทรไปหาลูกน้องทันที ทันทีที่ลูกน้องรับสายเขาก็เอ่ยถามขึ้น " เจอคุณพิมหรือยัง " ทางปลายสายเอ่ยตอบมาว่า " ยังครับ พวกเราค้นหาทุกทางเข้าออกหมดแล้วแล้วไม่เจอคุณพิมเลยครับ " ได้ยินดังนั้นผู้ช่วยคังก็วางสาย แล้วโทรไปทางฝั่งสนามบินต่อ พอลูกน้องรับสายเขาก็เอ่ยถามทันทีว่า " ทางพวกคุณเจอตัวคุณพิมหรือยัง " ลูกน้องที่อยู่ปลายสายเอ่ยตอบว่า " ยังครับ พวกเราเฝ้าตรงทางเข้าไม่เห็นคุณพิม ลงจากรถเลยครับ ผมว่าบางทีคุณพิมอาจจะรู้ทันเลยไม่เลือกที่จะออกเดินทางวันนี้ก็ได้ครับ " " อืม พวกคุณเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวตรงนั้นไว้ให้ดี เจอตัวคุณพิมหรือคนที่น่าสงสัยก็ตรวจดูให้ละเอียด อย่าลืมว่าต้องพาคุณพิมกลับมาให้ได้ " " ครับ " ผู้ช่วยคังวางสายไป กำลังจะเอ่ยปากรายงาน เตชินก็เอ่ยขึ้น " ไม่ต้องรายงานแล้ว " แค่ดูหน้าผู้ช่วยคัง ไม่ต้องบอกเขาก็รู้แล้วว่าการตามหาพิมล้มเหลว เตชินนั่งนิ่งด้วยความร้อนใจที่ไม่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็น เขารักพิมคือความจริง เขารักเธอมากที่สุด แต่เขาก็ชอบคนรักของเขาเช่นกัน ให้เสียพิมไปเขาทำไม่ได้ ให้เลือกพิมคนเดียวก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เขาต้องให้เกียรติแฟนสาวของเขาที่อยู่ต่างประเทศ เพราะพ่อของเธอเป็นถึงเจ้าของบริษัทจิวเวอร์รี่แห่งประเทศไทย มีหน้ามีตาในสังคมระดับเดียวกันกับเขา เป็นคนที่รู้จักกันมานานหลายปี เธอเป็นผู้หญิงอ่อนหวาน อ่อนโยนที่คู่ควรและเหมาะสมกับเขาที่สุด ส่วนพิมคือคนที่เขารักมากที่สุด จากนั้นเขาก็พึมพำในใจว่า [ พิมคุณไม่อยากอยู่กับผมขนาดนั้นเลยเหรอ ] ผู้ช่วยคังเห็นคุณชายของเขาเงียบไป เขาจึงเอ่ยถามขึ้น " คุณชายเอายังไงต่อครับ กลุ่มที่สามก็ยังไม่โทรมารายงานอะไรเลย คงจะยังหาคุณพิมไม่เจอแน่เลยครับ " เตชินนั่งคิดอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดที่หาพิมทั้งวันก็ยังหาไม่เจอ [ คุณไปหลบอยู่ไหนกันนะพิม คนตั้งหลายสิบคนถึงยังไม่พบความเคลื่อนไหวของคุณเลย ] จู่ๆผู้ช่วยคังก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงเอ่ยขึ้น " คุณชายไม่ลองแกะรอยคุณพิมจากโทรศัพท์ล่ะครับ " " ใช่ ลืมไปเลยว่าเคยติดตั้งแอปติดตามตัวพิมไว้ในโทรศัพท์พิม หวังว่าเธอคงยังไม่รู้ตัวนะ " เอ่ยจบ เตชินก็ล้วงหาโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น ดีใจจนลืมไปว่าโทรศัพท์ของตัวเองพังแล้ว ผู้ช่วยคังเห็นดังนั้น จึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเจื่อนๆ พร้อมกับเอาถุงพลาสติกที่เก็บชิ้นส่วนโทรศัพท์ของเตชินไว้ขึ้นมาให้เขาดู " โทรศัพท์ของคุณชายอยู่นี่ครับ " เตชินมองโทรศัพท์ตัวเองอย่างอารมณ์เสียแล้วเอ่ยเสียงเข้มด้วยความหงุดหงิดใจ " รีบเอาโทรศัพท์ไปซ่อม แล้วรีบดึงข้อมูลกลับมาให้หมด ส่วนตอนนี้คุณไปซื้อโทรศัพท์ที่จะใช้ชั่วคราวมาให้ผมก่อน " " ครับ " เอ่ยจบผู้ช่วยคังก็ขับรถตรงดิ่งไปยังห้าง แล้วเข้าไปจอดรถในลานจอด จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้าง เดินมุ่งหน้า ตรงไปยังร้านขายโทรศัพท์ ยืนเลือกเครื่องที่ดีที่สุด พอชำระเงินเสร็จเขาก็เดินกลับไปที่รถ แล้วเอาโทรศัพท์ยื่นให้เตชินทันที เตชินรับมาแล้วเปิดเครื่องทันที จากนั้นก็เริ่มทำการป้อนข้อมูลลงในเครื่อง ติดตั้งแอปที่จำเป็นต่างๆเรียบร้อย เขาก็เริ่มทำการค้นหาตำแหน่งของพิมจากในโทรศัพท์อย่างไม่รีรอ พอพบตำแหน่งของพิม เขาก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้ผู้ช่วยคัง เพื่อที่ผู้ช่วยคังจะได้ขับตามไปยังตำแหน่งที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ ผู้ช่วยคังรับโทรศัพท์มา แล้วขับรถออกไปตามตำแหน่งนั้นทันที ผู้ช่วยคังขับรถไปตามแผนที่บนGPS ปลายทางคือปุ่มเล็กๆที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จับสัญญาณโทรศัพท์ของพิมได้ เนื่องจากโทรศัพท์เครื่องเก่าพัง เตชินเลยเปลี่ยนวิธี ตามตัวพิมจากหมายเลขโทรศัพท์แทน ผู้ช่วยคังขับรถไปเรื่อยๆ ตามทิศทางที่GPSนำทาง เมื่อไปถึงตำแหน่งบนโลเคชั่นที่ปักมุกไว้ เขาและเตชินต่างมองไปรอบๆที่ดูว่างเปล่า มีเพียงถังขยะสี่ใบวางเรียงอยู่ข้างทาง แล้วผู้ช่วยคังก็เปิดไฟเลี้ยว เลี้ยวเข้าไปชิดข้างทาง ทางซ้ายมือ เมื่อรถจอดสนิทเตชินก็เปิดประตูลงจากรถ แล้วหยิบเอาโทรศัพท์ ที่กำลังจับตำแหน่งโทรศัพท์มือถือของพิมอยู่มาถือไว้ จากนั้นเขาก็เดินไปบนถนนฟุตบาท เดินตามตำแหน่งที่นำทางเขาไปเจอโทรศัพท์ของพิม อย่างมีความหวังและแอบดีใจที่จะเจอตัวพิมสักที แต่เมื่อไปถึงตำแหน่งสิ้นสุดบนGPS ที่จับตำแหน่งโทรศัพท์ของพิม กลับไร้เงาของพิม ความหวังและความดีใจที่เขามีก่อนหน้านี้ได้แตกสลายไปในทันที เห็นเพียงกลุ่มชายเร่ร่อนที่นอนเรียงรายกันอยู่ข้างทาง และเหลือบไปเห็น ชายเร่ร่อนคนหนึ่งกำลังนอนเล่นโทรศัพท์ของพิมอยู่ เตชินถึงกับขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไปหา จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นในน้ำเสียงปกติ ด้วยสีหน้าเย็นชา " คุณได้โทรศัพท์เครื่องนี้มาได้ยังไง " ชายเร่ร่อนมองเขาอย่างสงสัยด้วยสายตาหวาดระแวง เตชินจึงเอ่ยต่อว่า " ผมไม่ได้มาทำอันตรายคุณ คุณไม่ต้องกลัวหรอก แค่คุณบอกที่มาของโทรศัพท์มาก็พอ " ผู้ช่วยคังเห็นดังนั้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นอย่างเป็นมิตร " พี่ชาย บอกพวกเรามาเถอะนะครับ พอดีพวกเรากำลังตามหาน้องสาวที่หายไปน่ะ มีเพียงโทรศัพท์เครื่องนี้เท่านั้นที่จะเป็นเบาะแสในการตามหาน้องสาวเจอครับ " ชายเร่ร่อนมองผู้ช่วยคังแล้วรู้สึกปลอดภัยสบายใจขึ้น จึงเอ่ยว่า " ผมนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งวัน จนเมื่อตอนบ่าย ก็เห็นรถคันหนึ่งขับผ่านมา จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ทิ้งโทรศัพท์เครื่องนี้ลงมา ผมเลยเดินเข้าไปดู เห็นสภาพโทรศัพท์ยังดีอยู่ไม่ได้แตกอะไร เลยเอามาใช้ครับ " ได้ยินดังนั้นผู้ช่วยคังถึงกับยิ้มไม่ออกแล้ว รอยยิ้มเมื่อกี้ค่อยๆหุบลง มองไปยังเตชินที่ยืนข้างๆด้วยสีหน้าทมึงทึง แต่ในใจเขากลับแอบทึ่งในความรอบคอบของพิมถึงกับพึมพำออกมาในใจ [ คุณพิมนอกจากจะฉลาดแล้ว ยังรอบคอบ รู้ทันไปซะทุกเรื่องจริงๆ แถมยังตัดสินใจเฉียบขาด มีใจที่เด็ดเดี่ยว ปฏิเสธคุณชายอย่างไม่ลังเล ผู้หญิงแบบนี้แหละที่เหมาะสมและคู่ควรกับคุณชายที่สุดแล้ว ] เตชินยืนนิ่งมองไปยังโทรศัพท์ในมือของคนเร่ร่อนอย่างเหม่อลอย เขายังไม่ทันได้สะสางกับอารมณ์โกรธที่มีในใจ เลย ก็ต้องมาเศร้าใจซะแล้ว เมื่อพิมเลือกที่จะตัดทุกเส้นทางในการติดต่อ เพื่อไม่ให้เขาตามตัวเธอเจอ [ พิม คุณฉลาดมาก ไม่คิดว่าคนที่รักเงินอย่างคุณจะทิ้งโทรศัพท์แพงๆไป เพียงเพราะกลัวผมจะตามเจอ นี่คุณอยากตัดขาดจากผมมากขนาดนั้นเลย เหรอพิม ] เตชินพึมพำในใจ ในเมื่อพิมไม่มีโทรศัพท์แล้ว การที่จะตามเธอกลับมาก็ยากขึ้นจากนั้นเตชินก็หันหลังเดินกลับไปที่รถ แล้วเขียนเช็คเงินสดให้คนเร่ร่อนหนึ่งใบเป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นบาท ยื่นให้ผู้ช่วยคังแล้วเอ่ย" คุณเอาไปให้เขา "ผู้ช่วยคังรับเช็คเงินสดมาแล้วเอ่ยตอบรับ" ครับ "จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาคนเร่ร่อนแล้วยื่นเช็คเงินสดให้คนเร่ร่อน แล้วเอ่ย" พี่ชายนี่เป็นเช็คเงินสดที่เจ้านายผมอยากเอาให้พี่ชาย ตอนแทนน้ำใจพี่ที่ให้ข้อมูลแก่เราน่ะ พรุ่งนี้ พี่ชายไปที่ธนาคารนะ แล้วยื่นเช็คเงินสดใบนี้พร้อมกับบัตรประชาชนของพี่ให้พนักงานนะแล้วพนักงานธนาคาร จะเอาเงินสดหนึ่งหมื่นบาทให้พี่ทันทีเลยครับ "ชายเร่ร่อนได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก รับเช็คเงินสดจากมือผู้ช่วยคังแล้วยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ย" ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆครับ "จากนั้นคนเร่ร่อนก็เอ่ยถามต่อว่า" แล้วโทรศัพท์เครื่องนี้ล่ะ "ผู้ช่วยคังยิ้มแล้วเอ่ย" มันเป็นของพี่ชายแล้ว "เอ่ยจบผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินกลับไปที่รถ เปิดประตูเข้าไปนั่งที่คนขับแล้วขับออกไปทันทีก่อนหน้านี้ หลังจากที่พิมยื่นโทรศัพท์ให้คนขับรถดูจุดหมายปลายทางเสร็จแล้วเธอก็ตัดสินใจทิ้งโทรศัพท์ลงไปข้างทางอย่างเสียดาย พร้อมกับพึมพำปลอบตัวเองในใจว่า[ ช่างเหอะ ไม่เป
ณัชชาเห็นดังนั้น ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ แล้วเอ่ย" คุณเป็นอะไรไป เรียกตั้งสองครั้งก็ไม่ได้ยินเลย คิดเรื่องอะไรอยู่ "ผู้ช่วยคังจ้องมองหน้าณัชชาสักพักแล้วพึมพำในใจว่า[ บางที คุณณัชชาอาจจะรู้จักคุณรตี ]ผู้ช่วยคังพึมพำในใจเสร็จเขาก็เอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชารู้จักคุณรตี คนรักของคุณชายหรือเปล่าครับ "" คุณว่าไงนะ คนรักของคุณชาย คุณหมายถึงคนรักของพี่เตชินอย่างงั้นเหรอ "ณัชชาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินจากปากของผู้ช่วยคัง" ครับๆ "ผู้ช่วยคังตอบรับ แล้วลอบสังเกตสีหน้าท่าทางของณัชชา[ นี่พี่เตชินยังคบกับเธออยู่อีกเหรอ มิน่าล่ะ พี่เตชินถึงไม่อยากแต่งงานกับเรา ที่แท้ก็ยังคบกันกับรตีอยู่นี่เอง ]ณัชชายืนนิ่งเงียบพร้อมกับพึมพำในใจ จากนั้นณัชชาก็เอ่ยถามผู้ช่วยคังว่า" คุณรู้จักคุณรตีได้ยังไง พี่เตชินบอกเหรอ "" ครับ คุณชายบอกว่าจะแต่งงานกับคุณรตีและจะจดทะเบียนสมรสกับเธอ แต่คุณพิมดันหนีไปซะก่อน เลยทำให้คุณชายเครียด ที่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสกับคุณรตีได้ สงสารก็แต่คุณพิม ถูกหลอกใช้ ซ้ำยังถูกทำร้ายจิตใจอีก น่าเห็นใจจริงๆ "ณัชชาได้ยินดังนั้นก็ตกใจจึงเอ่ยถามขึ้นอย่า
เตชินเม้มปากแล้วฉีกยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง สบตากับรตีที่นั่งบนวีลแชร์ไฟฟ้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวล" เรากลับบ้านกันเถอะ "" ค่ะ "รตีตอบรับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจากนั้นเตชินก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปยืนข้างหลัง เอ่ยกับคนดูแลรตีว่า" ผมขอเข็นเองนะครับ "คนดูแลรตีหลีกให้เตชิน มือทั้งสองของเตชินก็ยื่นไปจับด้ามจับของวีลแชร์ไฟฟ้า แล้วเข็นรตีออกจากสนามบินไปที่รถทันทีพอมาถึงรถ เตชินก็อุ้มรตีขึ้นมาจากรถเข็นแล้ววางเธอลงบนเบาะรถนุ่มๆอย่างทะนุถนอมจากนั้นตัวเขาและคนดูแลรตีก็เข้าไปนั่งในรถ คนขับรถก็ขับออกจากบริเวณสนามบินทันทีทางด้านพิม พอรุ่นพี่มาบอกเธอว่า ที่สนามบินหรือในละแวกใกล้เคียงไม่มีคนของเตชินมาเฝ้าหรือตามหาตัวเธอแล้ว เธอรู้ได้ทันทีว่าเตชินคงจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาเธอแล้วเพราะหลังจากที่รุ่นพี่มาบอกข่าวดี เธอก็ขอให้รุ่นพี่คอยสังเกตการณ์ให้ ได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ก็ไม่มีคนแปลกหน้าเคลื่อนไหวในละแวกใกล้เคียงกับที่เธออยู่อีกเลยเธอจึงรีบจองตั๋ว แล้วเรียกรถไปที่สนามบินทันทีพอถึงทางแยกไฟแดง รถที่เธอนั่งก็ขับสวนทางกับรถของเตชินที่จอดรอไฟแดงพอดี พอเตชินเห็นเธอที่นั่งในรถที่
จากนั้นก็ดึงมือที่ประกบกันขึ้นมายกมือไหว้แล้วนักเรียนทุกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน" สวัสดีค่ะคุณครู/สวัสดีครับคุณครู "พิมยิ้มอย่างเอ็นดูในความเรียบร้อยของนักเรียนจากนั้นเธอก็เอ่ยแนะนำตัวขึ้น" สวัสดีค่ะนักเรียน วันนี้เป็นคาบเรียนแรกที่เราได้พบกัน ก่อนอื่นครูขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นครูชื่อ พิมผกา หิรัญวัฒนากุล หรือนักเรียนจะเรียกครูว่า ครูพิมก็ได้ค่ะ ครูจบมาจากมหาวิทยาลัย CMRU คณะครุศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ไทย วิชาของครูจะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับศิลปะการแสดงโดยตรงค่ะและครูก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัย CMU ค่ะ "เมื่อพิมเอ่ยแนะนำตัวเสร็จ นักเรียนชายคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วเอ่ยแซว" ครูสวยจังเลยครับ "นักเรียนชายเอ่ยชมทำเอาบรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนานครึกครื้นขึ้นมาทันทีจากนั้นนักเรียนชายอีกคนก็ยกมือแล้วเอ่ยถามขึ้น" ครูมีแฟนยังครับ "พอนักเรียนเอ่ยจบ นักเรียนทุกคนในห้องก็เงียบกริบ รอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ สายตาจดจ่อบนใบหน้างามของครูพิมพิมยิ้มแล้วเอ่ยถามเล่นๆกลับไปว่า" นักเรียนอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ "นักเรียนทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างครึกครื้นว่า" โสดครับ/โสดค่ะ ฮ่าๆๆๆ
หนึ่งเดือนต่อมา....งานแต่งงานของเตชินกับรตี ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการในโรงแรมหรูชื่อดังภายในงานประดับตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามสมฐานะแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาวในงานล้วนมีแต่ผู้ดีไฮโซที่มีชาติตระกูลดังๆบรรยากาศในงานอบอุ่นชื่นมื่นตั้งแต่เช้าจนค่ำ ผ่านพิธีต่างๆมาอย่างราบรื่น เตชินกับรตียิ้มหน้าชื่นมื่น บนเวที แต่แล้วประตูห้องแต่งงานก็ถูกเปิดออกพิมควงแขนป๊อบเดินเข้ามาในงานของเตชินกับรตีด้วยชุดราตรีสีเทาเข้มโทนดำ ซึ่งตัดกับธีมงานแต่งงานคือสีขาว-เทา เธอเดินเข้ามาอย่างสง่างามในทุกท่วงท่าการเดินสายตาทุกคู่จับจ้องบนตัวเธอที่เดินเหยียบเข้ามาบนพรหมของคู่บ่าวสาวแขกเหรื่อในงานต่างมองเธอด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ความรู้สึกแต่ที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันคือ เซอร์ไพรส์มากพ่อกับแม่ของเตชินที่ยืนอยู่บนเวทีถึงกับตกใจอุทานชื่อพิมออกมาเบาๆ" หนูพิม! "เพื่อนของเตชินกับไตรภพถึงกับอึ้งไป ไม่คิดว่าทั้งสองคนจะมาในตอนจบของงานทั้งสองหันมามองกันแล้วเอ่ย" มีเซอร์ไพส์แล้ว ไม่คิดว่าคุณป๊อบจะกลับมาร่วมงานแต่งของเตชินในตอนจบ "ไตระภพเอ่ยด้วยความตื่นเต้นราวกับจะมีละครสนุกๆให้ดูนาวินเอ่ยตอบด
เมื่อกลับไปถึงบ้าน พ่อของรตีก็เอ่ยกับลูกสาวด้วยความโมโหว่า" รตี ลูกตัดใจจากคุณเตชินซะเถอะ พ่อเป็นผู้ชายเหมือนกันพ่อดูออกว่าเขาไม่ได้รักลูกแล้วลูกดูสิตั้งแต่ลูกกลับมาเขามาหาลูกแค่สองครั้งจากนั้นก็อ้างว่าไม่มีเวลาตลอดผู้ชายน่ะ ถ้ารักใครมากๆเขาจะมีเวลาให้คนที่เขารักเสมอแล้วเรื่องวันนี้อีก เขาแต่งงานกับลูกทั้งที่เขายังไม่ได้หย่ากับภรรยาไม่รู้ว่าเขาไปแอบจดทะเบียนสมรสและแต่งงานกันตอนไหน แล้วภรรยาเขาก็บุกมาหยามเกียรติเราถึงในงาน ทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียง ลูกคิดมั้ยว่าคนอื่นจะมองเรายังไง แย่งสามีชาวบ้านแบบนี้เหรอ "รตีไม่เอ่ยตอบอะไร ได้แต่นั่งร้องให้ด้วยความเสียใจ ที่เตชินไม่ยอมเซ็นหย่ากับพิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเมื่อผู้เป็นพ่อมองลูกสาวที่นั่งร้องให้ ก็เริ่มรู้สึกสงสารอารมณ์ค่อยๆเย็นลง จึงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง" วันนี้คุณเตชินแสดงออกต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจนแล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยอะไร ว่าเขารักภรรยาของเขาแค่ไหน ถึงขั้นไม่ยอมไว้หน้าหรือให้เกียรติเราเลยขนาดกลางงานแต่งงานของลูกแท้ๆ เมื่อภรรยาเขาบุกมาเขากลับไม่สนใจลูกเลยเลือกที่จะไม่ยอมอย่ากับภรรยา ถ้าเขารักลูกเขาจะเซ็นหย่าเพ
เตชินได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยออกคำสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเจือร้อนใจ" เดี๋ยว! คุณช่วยดูให้หน่อยว่าไฟลท์บินคืนนี้ออกกี่โมง แล้วคุณก็จองตั๋วให้ผมที ผมจะรีบตามพวกเขาไปเดี๋ยวนี้ "" รับทราบค่ะท่านประธาน "หลังจากนั้น เตชินก็กลับรถ มุ่งหน้าไปยังสนามบินทันทีส่วนณัชชาก็เริ่มเช็คดูตารางเวลาไฟลท์บินของแต่ละสายการบิน เธอมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วพึมพำออกมาอย่างตกใจพร้อมกับใช้สมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว" ตายละ นี่สองทุ่มแล้วเหรอ พี่เตชินจะตามไปทันมั้ยเนี่ย ช่างเหอะในเมื่อคุณพิมออกไปเวลานี้ก็แสดงว่าไฟลท์บินที่คุณพิมจองต้องเป็นไฟลท์บินของ Lion air แน่เลย งั้นก็จองไฟลท์บินเวลา 21:50 ของสายการบินนี้ให้พี่เตชินเลยแล้วกัน หวังว่าจะไปทันนะ "ณัชชาทำการจองตั๋วอะไรเสร็จเรียบร้อยก็โทรไปแจ้งเตชินทันที" วันนี้ เวลานี้ มีเพียงไฟลท์บินของสายการบิน Lion air เท่านั้นที่ออกจากดอนเมืองไปเชียงใหม่เวลา 21:50 - 23:15 ส่วนเรื่องที่พัก ณัชชาจะโทรแจ้งอีกทีค่ะ "ได้ยินดังนั้น เตชินก็วางสายไป รีบขับรถไปยังสนามบินอย่างเร่งด่วนแววตาแน่วแน่จับจ้องไปบนถนนข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาในใจ[ ผมพลาดไปแล้วครั้งหนึ่
พอออกจากสนามบิน พิมก็เดินไปที่รถของตัวเองแล้วเอ่ยกับเตชินอย่างเย็นชาโดยไม่มองหน้าเขา" ปล่อยมือฉันได้แล้ว คุณเรียกรถไปเองแล้วกัน "เตชินมองไปที่รถเธอแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณขับรถเป็นแล้วเหรอ "" ฉันขับรถเป็นมันน่าแปลกตรงไหน "พิมเอ่ยขึ้นอย่างรำคาญเตชินไม่คิดว่าเวลาแค่ปีกว่าจะทำให้เธอเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ทั้งดูโตเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและยังกลายเป็นคนที่เย็นชามากๆอีกด้วยจากนั้นพิมก็หยิบกุญแจรถออกมาจากในกระเป๋า แล้วกดเปิดประตูเตชินจึงเดินไปเปิดประตูรถของเธอแล้วเข้าไปนั่งในรถอย่างสบายใจ พิมรู้สึกโมโหและรำคาญเขามากเธอเดินไปเปิดประตูทางฝั่งเขาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ" คุณเตชิน คุณจะเอายังไง คุณอยากให้ภรรยาของคุณมาฆ่าฉันให้ตายหรือไง คุณอยากให้สังคมตราหน้าว่าฉันแย่งสามีชาวบ้านทั้งที่ฉันไม่ได้ทำเลยอย่างงั้นเหรอหากคุณเห็นใจฉันสักนิดช่วยเซ็นใบหย่าแล้วเลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที ฉันรำคาญ "เตชินได้ยินดังนั้น เขาก็ถึงกับอึ้งไปเลย แววตาแข็งกร้าวเย็นชาสบตากับเขาอย่างเกลียดชังเขาไม่คิดว่าเธอจะมองเขาด้วยแววตาแบบนี้[ นี่เธอเกลียดเราขนาดนี้เลยเหรอ ]จากนั้นสีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นมา เขาลงจาก
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ