" ฉัน...ฉัน "
พิมคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะโต้ตอบเขายังไง แต่เมื่อเธอเห็นรอยลิปสติกบนเสื้อที่หน้าอก กลิ่นน้ำหอมฉุนลอยเข้ามาเตะจมูก เธอก็ทำเดือดดาลขึ้นมาทันที จ้องตาเขาอย่างแน่วแน่ไม่ยอมแพ้แล้วเอ่ยย้อนเสียงกร้าว " แล้วคุณล่ะ ทีคุณยังแอบออกไปมีอะไรกับ ผู้หญิงข้างนอกได้เลย ทำไมฉันจะคุยกับคนอื่นไม่ได้ คุณถือสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน สิทธิ์ในการเป็นสามีเหรอ โนค่ะ คุณทรยศความเป็นสามีภรรยาคุณไม่มีสิทธิ์นั้นอีกแล้ว " เอ่ยจบเธอก็ลงจากเตียงทันที เธอยั่วโทสะเขาขนาดนั้นเธอไม่โง่อยู่ในห้องนานๆให้เตชินจับมายำกินหรอก มีโอกาสเธอก็ชิ่งหนีลงจากเตียงอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางถมึงทึง " คุณจะไปไหน? " เตชินเลยเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบอย่างไม่รีบร้อน แต่น้ำเสียงกลับแฝงพลังอำนาจที่เหนือกว่า จนพิมต้องเอ่ยตอบ แต่เอ่ยตอบเพียงสั้นๆ ด้วยความโกรธเคืองที่มีอยู่เต็มอก " นอนแยกห้อง " " ไม่ได้!!! " เตชินเอ่ยเสียงกร้าว แววตาทรงอำนาจจับจ้องบนตัวพิมอย่างดุดัน พิมหยุดชะงัก แล้วหันมามองเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึงและแววตาดื้อรั้นที่เต็มไปด้วยโกรธ แล้วเอ่ยเสียงกร้าว " ฉันไม่อยากนอนกับคนสกปรกอย่างคุณ ถ้าคุณอยากมีคนนอนด้วย คุณก็ให้พวกเธอมานอนกับคุณที่บ้านเลยสิ " " พิม!!! " เตชินเอ่ยตะคอกชื่อเธอเสียงดัง เขากลั้นอารมณ์ที่ปะทุเดือดจวนจะระเบิดไม่ไหวแล้ว พิมเห็นดังนั้น เธอก็รีบเดินออกจากห้องไปทันทีเพราะในใจเธอรู้สึกกลัวเขาไม่น้อยเลย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอม " ก็แค่คุยไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวกันสักหน่อย ไม่ถือว่าเป็นชู้ คุณสิมีชู้ มักมากในกาม น่านังเกียจ " เธอบ่นงึมงำด้วยความโมโหที่แทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน เตชินเห็นท่าทางดื้อรั้นไม่กลัวใครของเธอเขาไม่รู้จะทำยังไง ถึงจะปราบพยศเธอได้ เขาเลยลงจากเตียงแล้วไปจับเธออุ้มขึ้นมาแบกพาดบนบ่าอย่างเอาแต่ใจ แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ พิมร้องโวยวายขึ้นมาทันที " คุณเตชิน! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ปล่อย ปล่อยฉัน คุณหูหนวกหรือไงหรือว่าคุณบ้าไปแล้ว ปล่อย!!! " พิมดิ้นยังไงก็ไม่หลุด พูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง เธอทำได้แต่ทุบตีหลังเขาเต็มแรง เพื่อระบายความโกรธความไม่พอใจที่มีในใจ เตชินโมโหที่ตัวเองไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย เขาไม่กล้าแม้แต่จะทำให้เธอเจ็บ ไม่อยากจะทำให้เธอเสียใจ ต่อให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแค่ไหนเขาก็ทำได้แค่เอาแต่ใจ ใช้กำลังบังคับเธอให้สงบ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำแล้ว เตชินก็วางเธอลงใต้ฝักบัวแล้วกอดเธอไว้แน่น ให้แผ่นหลังเนียนนุ่มของเธอแนบชิดแผงอกแกร่งและลำตัวของเขา " คุณจะทำบ้าอะไร คุณเตชิน ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว ปล่อย!! " เธอเอ่ยตะคอกด้วยความโมโห แต่เตชินกลับนิ่งเงียบแล้วเปิดน้ำให้ไหลลงบนตัวพวกเขา พิมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เธอโวยวายก็แล้ว ดุด่า ตะคอก ทุบตีก็แล้ว เขากลับทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย นอกจากใช้แรงบังคับกับมีสีหน้าเย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง เธอหลับตาลงอย่างหมดแรง ยืนนิ่งเป็นท่อนไม้ให้เขากอดอยู่อย่างนั้น เตชินที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอใช้ลำแขนอันแข็งแกร่งโอบรัดเธอแน่น ทั้งสองยืนอยู่ใต้ฝักบัวอย่างเงียบๆ เนื้อตัวเปียกปอนไปหมดทั้งตัว ยืนฟังเสียงน้ำที่ไหลออกมาจากฝักบัวท่ามกลางบรรยากาศรอบๆที่เงียบสงบ คล้ายกับกำลังอยู่กับตัวเอง ทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านมา เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง เตชินก็เอ่ยขึ้น " พิม ผมตกหลุมรักคุณไปหมดแล้วทั้งหัวใจ ผมไม่มีอารมณ์กับใครแล้ว นอกจากคุณ " ได้ยินดังนั้น พิมก็ค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง " ที่คุณอารมณ์ไม่ดีกลับมา เป็นเพราะว่าคุณไม่เกิดอารมณ์กามกับผู้หญิงพวกนั้นสินะ " " ไม่ใช่ " เตชินเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเนือยๆ พิมเลยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขุ่น " ไม่ใช่แล้วเพราะอะไร " " เพราะผมรักคุณ " เตชินเอ่ยตอบเสียงอ่อนอย่างแผ่วเบา ในขณะที่ลำแขนแกร่งยังคงโอบกอดคนในอ้อมอกไว้ไม่ยอมคลาย ได้ยินดังนั้นพิมเลยเอ่ยว่า " ไม่ใช่ " เตชินจึงเอ่ยถามขึ้น " ทำไมคุณถึงคิดว่าไม่ใช่ " พิมจึงเอ่ยอธิบายอย่างมีเหตุผล ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย " เพราะคุณต้องการลูกต่างหาก ซึ่งมันไม่ใช่ความรักอย่างที่คุณเข้าใจ แต่เป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีลูกกับคนที่คุณต้องการเท่านั้น ดังนั้นอารมณ์ความรู้สึกของคุณเลยปฏิเสธที่จะเกิดกามารมณ์กับผู้หญิงพวกนั้นไปชั่วคราว " เตชินคิดตามที่เธอพูดแล้วเขาก็เอ่ยว่า " ไม่ใช่ พิม หัวใจผมเต้นแรงกับคุณแค่คนเดียว แล้วผมก็รู้สึกมีความสุขกับคุณแค่คนเดียวเวลาที่มีอะไรกับคุณ " พิมเอ่ยตอบอย่างหน่ายๆด้วยน้ำเสียงเนือยๆ " อืม คุณก็มีความสุขกับทุกคนนั้นแหละแค่ไม่รู้ตัว " " ไม่เลย กับคนอื่นผมแค่ปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นเท่านั้น ไม่เหมือนกับตอนมีอะไรกันกับคุณ ผมทำกับคุณด้วยความรู้สึกปรารถนาที่ออกมาจากใจ ผมรู้สึกมีความสุขมากเวลามีอะไรกับคุณ ขนาดแค่ไหนได้อยู่ใกล้คุณ ผมก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน " เตชินเอ่ยถึงความรู้สึกที่แท้จริงด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงจัง [ ทำไมเราถึงพูดเรื่องอย่างว่ากับเขาได้อย่างไม่กระดากอายเลย บ้า บ้าไปแล้ว เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ] พิมที่เพิ่งได้สติก็ถึงกับพึมพำว่าให้ตัวเองในใจ ที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดเรื่องอย่างว่ากับเขาอยู่ แล้วเธอก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที " คุณปล่อยฉันได้แล้ว ฉันหนาว คุณรีบๆอาบน้ำเถอะ " เตชินงงว่าเธอหนาวได้ยังไง เขาเลยเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง " น้ำก็อุ่นหนิ ทำไมคุณถึงหนาวล่ะ คุณไม่สบายหรือเปล่า " ได้ยินดังนั้นพิมเหวอไปเลย แล้วเธอก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงจืดเจื่อนอย่างตะกุกตะกัก " ไม่...ไม่...ฉัน...ไม่ได้เป็นอะไร แต่เวลาโดนน้ำนานๆ แล้วออกมาข้างนอกจะรู้สึกหนาวเฉยๆน่ะ คุณปล่อยฉันแล้วรีบอาบน้ำเถอะ ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณแล้ว " ได้ยินดังนั้นเตชินก็เชยคางเธอขึ้นมาให้เธอเอียงหน้ามามองเขา แล้วเขาก็ก้มลงประกบริมฝีปาก จูบเธออย่างดูดดื่มและเร่าร้อน ราวกับจะกลืนเธอเข้าไป โดยที่มือใหญ่อีกข้างยังกอดเธอไว้แน่นไม่ยอมห่างกาย สักพักเขาก็ปล่อยเธอ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนที่แฝงไปด้วยความหวงแหน ราวกับเธอเป็นสมบัติล้ำค่า กลัวคนอื่นจะชิงไป " คุณเป็นของผม ผมจะไม่ให้ใครมาแย่งคุณไปได้ทั้งนั้น คุณสัญญากับผมได้มั้ยว่าจะไม่คุยกับเขาอีก ผมไม่อยากกลายเป็นคนหึงโหดจนขาดสติ คุณรับปากผมได้มั้ยพิม " พิมสบตากับเขา เธอไม่รู้ว่าถ้าเธอปฏิเสธจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง เธอจึงเลือกที่จะเอาตัวรอด พยักหน้าให้เขาไปก่อน เตชินเห็นดังนั้นก็คลายมือที่กอดรัดเธอไว้แล้วเอ่ยด้วยความรู้สึกสบายใจ " คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ " แล้วพิมก็เดินออกจากห้องน้ำไป เขามองตามแผ่นหลังของพิมแล้วเอ่ยพึมพำในใจ " ขอโทษนะพิม คุณทำให้ผมต้องเห็นแก่ตัว อยากครอบครองคุณไว้ข้างกายตลอดกาล "เช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่งตัวกำลังจะไปทำงาน เขาก็ไม่ลืมที่จะหันมาถามหาโทรศัพท์จากพิม" พิม โทรศัพท์ผมล่ะ "พิมยิ้มเจื่อนเดินเข้ามาหาเขา แล้วทำเป็นจัดเนคไทให้เขาพอเป็นพิธี แล้วเอ่ยแบบเกรงๆ" เอ่อ...ฉัน...ฉัน..ขอโทษค่ะ เมื่อวานฉันไม่ทันระวังเผลอทำโทรศัพท์ของคุณตกแตกในน้ำ "ได้ยินดังนั้นสีหน้าเตชินเข้มขึ้นมาทันทีแล้วเอ่ยเสียงเข้มด้วยความตกใจ" ว่าไงนะพิม!!เห็นดังนั้น พิมเลยรีบเอ่ยต่ออย่างตะกุกตะกักทันที" แต่...แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ ฉัน...จะ...เอ่อ...จะให้ช่างซ่อมให้ ไม่ก็...ซื้อคืนให้คุณดีมั้ย "จากนั้นเธอก็ทำหน้าหงอย เดินคอตกออกมาจากตรงหน้าของเตชิน แล้วเอ่ยเสียงเศร้า" ฉันก็ไม่ได้อยากหาเรื่องให้ตัวเองเสียเงินหรอกนะ แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว คุณเคยบอกฉันเองไม่ใช่เหรอ ว่าอะไรที่มันเกิดแล้ว มันไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ทำไมคุณต้องมองฉันด้วยสายตาดุแบบนั้นด้วยล่ะ "เห็นพิมเป็นแบบนั้นเตชินก็ปรับสีหน้าให้อ่อนลงแล้วเดินเข้ามากอดพิม แล้วเอ่ย" ผมขอโทษ เมื่อกี้ผมตกใจไปหน่อยเพราะในโทรศัพท์ของผมมีทั้งงานและเบอร์สำคัญมากมาย แต่ไม่เป็นไร ผมจะให้คนมากู้ข้อมูลคืนให้ คุณเอา
พิมเก็บกระเป๋าเสร็จ เธอก็เดินออกจากห้อง เตชินกลับเข้ามาจอดรถ ในลานจอดรถด้วยสีหน้าถมึงทึงป้าใจเห็นเตชินกลับมาก็เดินเข้าไปหาเขาแล้วเอ่ย" คุณชาย ป้ามีเรื่องจะรายงานค่ะ "" ว่ามา "เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันสีหน้าคงความเข้ม เคร่งขรึมไว้ไม่เปลี่ยนป้าใจเห็นดังนั้นก็รีบรายงานทันที" เมื่อวานป้าใจเห็นคุณพิมนั่งเผาเศษกระดาษอยู่หลังบ้านค่ะตอนป้าเข้าไปเจอ คุณพิมบอกว่าเป็นจดหมายเก่าๆที่ไม่ควรเก็บไว้ตอนนั้นป้าไม่ได้คิดหรือเอะใจอะไร ก็นึกว่าเป็นจดหมายจากคนรักเก่าแต่เมื่อป้ากลับมาคิดดูดีๆ ป้ารู้สึกว่ามันมีจุดที่น่าสงสัยแปลกๆค่ะ สิ่งที่คุณพิมเผา อาจจะไม่ใช่จดหมายเก่า อย่างที่คุณพิมบอกเพราะยุคสมัยนี้จดหมายน่าจะไม่มีใครเขาใช้กันแล้วค่ะ เลยอยากนำเรื่องนี้ให้คุณชายลองวิเคราะห์ดูค่ะ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเผาอะไรก็ยิ่งทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขึ้นไปอีก[ คุณถึงขนาดเผามันทิ้งเพื่อปิดบังผมเลยเหรอ ]เตชินพึมพำพร้อมกับกำมือแน่นด้วยความเดือดดาล จากนั้นก็เอ่ย" อืม ผมรู้แล้ว วันนี้ป้าอยากไปไหนก็ไป ผมให้หยุดพักหนึ่งวัน "เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจครั่นคร้ามอย่างมีโทสะต
พิมทั้งโกรธ ทั้งกลัวจนอยากจะฆ่าเขาทิ้งจากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นไปเฉยๆ ทำเอาพิมงงงันไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดจะทำอะไรแต่เมื่อเห็นเขาไปปิดประตูใหญ่แล้วล็อคไว้แน่นทำเอาใจเธอสั่นกลัวขึ้นมาสมองสั่งให้เธอวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที แล้วล็อคประตูแน่นแล้วเอาโต๊ะเก้าอี้มาขวางทับประตูเอาไว้ เตชินที่อยู่ด้านนอกก็เอ่ยขึ้น" พิมคุณหนีไปไม่ได้แล้ว ยอมรับชะตาตัวเองเถอะ มีลูกให้ผม แล้วผมจะให้อิสระคุณ "เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากพิม เขาก็รีบลงไปเอาพวงกุญแจสำรองทันทีพิมเดินไปเปิดหน้าต่างแล้วหยิบเอาเสื้อผ้าของเตชินมาผูก มัดเข้าด้วยกันเป็นสายยาวๆอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางสั่นกลัวเธอพยายามควบคุมสติให้ได้มากที่สุดแล้วเอ่ยพึมพำกับตัวเอง" ไม่หนีวันนี้ วันอื่นจะไม่มีโอกาสหนีแล้ว ฉันขอให้นายกับคนรักของนายอยู่กันอย่างไม่มีความสุข ไม่สมหวังในความรักขอให้ความรักของนายกับคนรัก ขาดสะบั้นหั่นแหลก เหมือนกับที่พวกคุณทำชีวิตฉันพัง จนไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์ที่เก็บไว้มานาน "เธอเอ่ยสาปแช่งด้วยความโกรธแค้นในใจ เพราะนอกจากแช่งพวกเขาแล้ว เธอก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อีกจากนั้นเธอก็โยนผ้าที่ผูกมัดด้วยตัวเ
เมื่อรถที่พิมนั่งมาตลอดไปจอดลงหน้าบ้านของรุ่นพี่ เธอก็ลงจากรถแล้วเดินไปกดกริ่งหน้าบ้านรุ่นพี่สักพักรุ่นพี่ก็ลงมาเปิดประตูให้เธอ เธอก็ยกมือไหว้อย่างมีมารยาทแล้วเอ่ย" สวัสดีค่ะ รุ่นพี่ พิมขอรบกวนพี่หน่อยนะคะ "รุ่นพี่สาวสองยกมือรับไหว้จากเธอแล้วเอ่ย" ไม่รบกวนเลย เข้ามาเถอะ อีเท่เล่าให้พี่ฟังหมดแล้ว อะไรที่พี่ช่วยได้พี่ยินดีจ้า "" ขอบคุณค่ะรุ่นพี่ "จากนั้นพิมก็เข้าไปในบ้านของรุ่นพี่ ทางด้านเตชิน เขานั่งอยู่ในรถแล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณคัง คุณโทรไปถามพวกเขา ว่ายังไม่พบคุณพิมอีกเหรอ "" ได้ครับ "ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบจากนั้นก็โทรไปหาลูกน้องทันที ทันทีที่ลูกน้องรับสายเขาก็เอ่ยถามขึ้น" เจอคุณพิมหรือยัง "ทางปลายสายเอ่ยตอบมาว่า" ยังครับ พวกเราค้นหาทุกทางเข้าออกหมดแล้วแล้วไม่เจอคุณพิมเลยครับ "ได้ยินดังนั้นผู้ช่วยคังก็วางสาย แล้วโทรไปทางฝั่งสนามบินต่อพอลูกน้องรับสายเขาก็เอ่ยถามทันทีว่า" ทางพวกคุณเจอตัวคุณพิมหรือยัง "ลูกน้องที่อยู่ปลายสายเอ่ยตอบว่า" ยังครับ พวกเราเฝ้าตรงทางเข้าไม่เห็นคุณพิมลงจากรถเลยครับ ผมว่าบางทีคุณพิมอาจจะรู้ทันเลยไม่เลือกที่จะออกเดินทางวันนี้ก็ได้ครับ "" อืม พวกคุณเ
จากนั้นเตชินก็หันหลังเดินกลับไปที่รถ แล้วเขียนเช็คเงินสดให้คนเร่ร่อนหนึ่งใบเป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นบาท ยื่นให้ผู้ช่วยคังแล้วเอ่ย" คุณเอาไปให้เขา "ผู้ช่วยคังรับเช็คเงินสดมาแล้วเอ่ยตอบรับ" ครับ "จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาคนเร่ร่อนแล้วยื่นเช็คเงินสดให้คนเร่ร่อน แล้วเอ่ย" พี่ชายนี่เป็นเช็คเงินสดที่เจ้านายผมอยากเอาให้พี่ชาย ตอนแทนน้ำใจพี่ที่ให้ข้อมูลแก่เราน่ะ พรุ่งนี้ พี่ชายไปที่ธนาคารนะ แล้วยื่นเช็คเงินสดใบนี้พร้อมกับบัตรประชาชนของพี่ให้พนักงานนะแล้วพนักงานธนาคาร จะเอาเงินสดหนึ่งหมื่นบาทให้พี่ทันทีเลยครับ "ชายเร่ร่อนได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก รับเช็คเงินสดจากมือผู้ช่วยคังแล้วยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ย" ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆครับ "จากนั้นคนเร่ร่อนก็เอ่ยถามต่อว่า" แล้วโทรศัพท์เครื่องนี้ล่ะ "ผู้ช่วยคังยิ้มแล้วเอ่ย" มันเป็นของพี่ชายแล้ว "เอ่ยจบผู้ช่วยคังก็หันหลังเดินกลับไปที่รถ เปิดประตูเข้าไปนั่งที่คนขับแล้วขับออกไปทันทีก่อนหน้านี้ หลังจากที่พิมยื่นโทรศัพท์ให้คนขับรถดูจุดหมายปลายทางเสร็จแล้วเธอก็ตัดสินใจทิ้งโทรศัพท์ลงไปข้างทางอย่างเสียดาย พร้อมกับพึมพำปลอบตัวเองในใจว่า[ ช่างเหอะ ไม่เป
ณัชชาเห็นดังนั้น ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ แล้วเอ่ย" คุณเป็นอะไรไป เรียกตั้งสองครั้งก็ไม่ได้ยินเลย คิดเรื่องอะไรอยู่ "ผู้ช่วยคังจ้องมองหน้าณัชชาสักพักแล้วพึมพำในใจว่า[ บางที คุณณัชชาอาจจะรู้จักคุณรตี ]ผู้ช่วยคังพึมพำในใจเสร็จเขาก็เอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชารู้จักคุณรตี คนรักของคุณชายหรือเปล่าครับ "" คุณว่าไงนะ คนรักของคุณชาย คุณหมายถึงคนรักของพี่เตชินอย่างงั้นเหรอ "ณัชชาเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินจากปากของผู้ช่วยคัง" ครับๆ "ผู้ช่วยคังตอบรับ แล้วลอบสังเกตสีหน้าท่าทางของณัชชา[ นี่พี่เตชินยังคบกับเธออยู่อีกเหรอ มิน่าล่ะ พี่เตชินถึงไม่อยากแต่งงานกับเรา ที่แท้ก็ยังคบกันกับรตีอยู่นี่เอง ]ณัชชายืนนิ่งเงียบพร้อมกับพึมพำในใจ จากนั้นณัชชาก็เอ่ยถามผู้ช่วยคังว่า" คุณรู้จักคุณรตีได้ยังไง พี่เตชินบอกเหรอ "" ครับ คุณชายบอกว่าจะแต่งงานกับคุณรตีและจะจดทะเบียนสมรสกับเธอ แต่คุณพิมดันหนีไปซะก่อน เลยทำให้คุณชายเครียด ที่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสกับคุณรตีได้ สงสารก็แต่คุณพิม ถูกหลอกใช้ ซ้ำยังถูกทำร้ายจิตใจอีก น่าเห็นใจจริงๆ "ณัชชาได้ยินดังนั้นก็ตกใจจึงเอ่ยถามขึ้นอย่า
เตชินเม้มปากแล้วฉีกยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง สบตากับรตีที่นั่งบนวีลแชร์ไฟฟ้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวล" เรากลับบ้านกันเถอะ "" ค่ะ "รตีตอบรับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลจากนั้นเตชินก็ลุกขึ้น แล้วเดินไปยืนข้างหลัง เอ่ยกับคนดูแลรตีว่า" ผมขอเข็นเองนะครับ "คนดูแลรตีหลีกให้เตชิน มือทั้งสองของเตชินก็ยื่นไปจับด้ามจับของวีลแชร์ไฟฟ้า แล้วเข็นรตีออกจากสนามบินไปที่รถทันทีพอมาถึงรถ เตชินก็อุ้มรตีขึ้นมาจากรถเข็นแล้ววางเธอลงบนเบาะรถนุ่มๆอย่างทะนุถนอมจากนั้นตัวเขาและคนดูแลรตีก็เข้าไปนั่งในรถ คนขับรถก็ขับออกจากบริเวณสนามบินทันทีทางด้านพิม พอรุ่นพี่มาบอกเธอว่า ที่สนามบินหรือในละแวกใกล้เคียงไม่มีคนของเตชินมาเฝ้าหรือตามหาตัวเธอแล้ว เธอรู้ได้ทันทีว่าเตชินคงจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาเธอแล้วเพราะหลังจากที่รุ่นพี่มาบอกข่าวดี เธอก็ขอให้รุ่นพี่คอยสังเกตการณ์ให้ ได้อาทิตย์หนึ่งแล้ว ก็ไม่มีคนแปลกหน้าเคลื่อนไหวในละแวกใกล้เคียงกับที่เธออยู่อีกเลยเธอจึงรีบจองตั๋ว แล้วเรียกรถไปที่สนามบินทันทีพอถึงทางแยกไฟแดง รถที่เธอนั่งก็ขับสวนทางกับรถของเตชินที่จอดรอไฟแดงพอดี พอเตชินเห็นเธอที่นั่งในรถที่
จากนั้นก็ดึงมือที่ประกบกันขึ้นมายกมือไหว้แล้วนักเรียนทุกคนก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน" สวัสดีค่ะคุณครู/สวัสดีครับคุณครู "พิมยิ้มอย่างเอ็นดูในความเรียบร้อยของนักเรียนจากนั้นเธอก็เอ่ยแนะนำตัวขึ้น" สวัสดีค่ะนักเรียน วันนี้เป็นคาบเรียนแรกที่เราได้พบกัน ก่อนอื่นครูขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นครูชื่อ พิมผกา หิรัญวัฒนากุล หรือนักเรียนจะเรียกครูว่า ครูพิมก็ได้ค่ะ ครูจบมาจากมหาวิทยาลัย CMRU คณะครุศาสตร์ สาขานาฏศิลป์ไทย วิชาของครูจะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับศิลปะการแสดงโดยตรงค่ะและครูก็กำลังเรียนต่อปริญญาโทในมหาวิทยาลัย CMU ค่ะ "เมื่อพิมเอ่ยแนะนำตัวเสร็จ นักเรียนชายคนหนึ่งยกมือขึ้นแล้วเอ่ยแซว" ครูสวยจังเลยครับ "นักเรียนชายเอ่ยชมทำเอาบรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนานครึกครื้นขึ้นมาทันทีจากนั้นนักเรียนชายอีกคนก็ยกมือแล้วเอ่ยถามขึ้น" ครูมีแฟนยังครับ "พอนักเรียนเอ่ยจบ นักเรียนทุกคนในห้องก็เงียบกริบ รอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ สายตาจดจ่อบนใบหน้างามของครูพิมพิมยิ้มแล้วเอ่ยถามเล่นๆกลับไปว่า" นักเรียนอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ "นักเรียนทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกันอย่างครึกครื้นว่า" โสดครับ/โสดค่ะ ฮ่าๆๆๆ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ