พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึง พอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น " วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? " เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้อง พิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้า เธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวล เธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดี แต่เขาช่วยอะไรไม่ได้ เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้ เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไง พิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้ เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชิน แต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลย ได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ " เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะ เดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดาย แล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียว จากนั้น มืออีกข้างก็โอบไหล่เธอไว้ แล้วบังคับให้เธอเดินไปข้างหน้าอย่างเอาแต่ใจ ด้วยความที่พิมเป็นผู้หญิงสู้แรงผู้ชายไม่ได้เธอจำใจต้องก้าวไปตามแรงลากถูของเขา เมื่อเข้าไปในห้องเตชินก็ปิดประตูแล้วล็อคประตูแน่น พิมเห็นท่าไม่ดีเธอเริ่มกลัวว่าเขาจะขืนใจเธออีก เธอถอยหลังไปช้าๆ สายตามองเขาอย่างระมัดระวังไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา จากนั้นเธอก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ เพื่อที่จะขังตัวเองในห้องน้ำ จะได้อยู่ห่างกับเขา แต่เขากลับเร็วกว่าเธอ คว้าตัวเธอมากอดไว้แล้วเอ่ยเสียงเย็น " คุณจะหนีไปไหน ทำไม เห็นหน้าสามีแล้วกลัวจนตัวสั่นเลยเหรอ หรือว่าไปทำอะไรผิดมาล่ะ " เธอกลัวเขามากจริงๆแหละ เธอยอมรับ จากนั้นก็เอ่ยเสียงกร้าวด้วยความโมโหอย่างไม่ยอมเหมือนกัน " ฉันทำอะไรผิด? อีกอย่างเราไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน เมื่อไหร่คุณจะเลิกพูดแบบนี้สักที " เตชินเอ่ยด้วยน้ำเสียงคุกคามว่า " เป็นหรือเปล่า เดี๋ยวคุณก็รู้ " พูดจบเขาก็บังคับเธอไปที่เตียง แล้วผลักเธอลงบนเตียง สายตาจับจ้องเธอราวกับนักล่ากำลังต้อนเหยื่ออย่างช้าๆ เธอรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เธอเหลือบมองไปที่กระเป๋าของเธอในตู้เสื้อผ้า สายตาเต็มไปด้วยความหวัง แล้วเธอก็ไปยังขอบเตียงอย่างรวดเร็ว เพื่อไปเอาอุปกรณ์ป้องกันตัว เตชินจับขาเธอไว้แล้วดึงเธอกลับมาด้วยมือเดียว " จะหนีไปไหนอีก วันนี้ไม่ว่าคุณจะพร้อมหรือไม่พร้อม เต็มใจหรือไม่เต็มใจ คุณก็ต้องกายเป็นภรรยาของผมอย่างเต็มตัว " จากนั้นเขาก็ขึ้นคร่อมทับตัวเธอแล้วเอ่ยต่อว่า " ผมจะทำให้คุณจดจำผมไปตลอด จะทำให้คุณรู้ว่าผมคือสามีคุณ และคุณคือภรรยาของผมเป็นผู้หญิงของผมใครก็ห้ามแตะเด็ดขาด " เอ่ยจบ ริมฝีปากอุ่นของเตชิน ก็ประกบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสวยของร่างบางที่อยู่ใต้ร่างอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยพละกำลังลูบไล้ เล้าโลมไปทั่วเรือนร่างของเธอด้วยความเสน่ห์หา แล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อที่ปกปิดทรวดทรงไว้ ทั้งเคล้าคลึง บีบเคล้ง ลูบคลำทรวงอกของเธออย่างพอใจ เธอเกร็งและกลัวจนตัวสั่น เล็บมือที่แทบไม่มีจิกลงบนท่อนแขนของเขาเต็มแรง แต่เตชินเหมือนล่องลอยอยู่ในภวังค์ รับรู้เพียงความรู้สึกนิ่มนิ่มที่กำลังสัมผัส จากนั้นเขาค่อยๆถอนริมฝีปากออก ให้เธอพักหายใจ เสียงหายใจ เสียงหอบเหนื่อย ยั่วยวนคนตัวใหญ่ที่ทับอยู่บนตัวเธอ จนเขายากที่จะควบคุมอารมณ์ปรารถนาที่กำลังปะทุขึ้น แล้วกดริมฝีปากลงไปบดขยี้ริมฝีปากของเธออีกครั้ง เรียวลิ้นรุกล้ำเข้าไปสำรวจความอุ่นร้อนข้างในริมฝีปาก ตักตวงเอาความหวานจากปากเธอ แล้วจับสองมือเธอขึงไว้เหนือศรีษะแน่นด้วยมือเดียวของเขา จูบเธออย่างดูดดื่มเร่าร้อน ดันลิ้นหนาเข้าไปเกี่ยวกระหวัด ดูดดุนปลายลิ้นของเธอ จนร่างของเธออ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เขาถึงถอนริมฝีปากออก แล้วเอ่ยเสียงแหบพร่าข้างหูเธอ จนเธอสัมผัสลมหายใจอุ่นๆของเขา " ทำไม ทนไม่ไหวแล้วเหรอ เพิ่งจะเริ่มเองนะ " เธอมองเขาด้วยแววตาผิดหวัง สิ้นหวังและเสียใจน้ำตาคลอเบ้า แล้วเอ่ย " คุณไม่ได้รักฉัน แล้วคุณมาทำร้ายฉันแบบนี้ทำไม " ได้ยินเธอเอ่ยเสียงแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงกระเส่าเขาอยากทะนุถนอมเธอ สบตากับเธอด้วยแววตาลึกซึ้งแล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบาเจืออ่อนโยน " ถ้าผมบอกว่าผมรักคุณล่ะ คุณจะเชื่อมั้ย " พิมส่ายหน้าเบาๆ น้ำตาไหล่อาบแก้มลงมาช้าๆแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเบาๆ " คุณโกหก ถ้าคุณรักฉัน ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยฉันไปล่ะ คนอย่างคุณปลิ้นปล้อนเชื่อไม่ได้สักอย่าง " " งั้นผมจะทำให้คุณเชื่อ ว่าผมรักคุณเข้าแล้วจริงๆ ตั้งแต่วันนี้ไป เราเป็นของกันและกัน ร่างกายของคุณเป็นของผม ผมจะทิ้งร่อยรอยไว้บนตัวคุณ ให้รู้ว่าผมเป็นผู้ชายของคุณ " แล้วริมฝีปากอวบอิ่มของเธอก็ถูกจู่โจมอีกครั้งอย่างเร่าร้อน เธอพยายามหลบหลีกแต่ก็ไม่เป็นผล เขาจูบเธออย่างดูดดื่มจนหนำใจแล้วค่อยๆถอนริมปีปากออก ริมฝีปากอุ่นทรงเสน่ห์ ลากไล้จูบไปตามซอกคอ แล้วประทับรอยดูดลงบนผิวเนียนละเอียด ดูดดุนไปตามแรงอารมณ์ จนร่างบางร้องประท้วงออกมาอย่างสั่นเทา " พอได้แล้ว " เตชินไม่ยอมหยุดแต่อ่อนโยนลง มือใหญ่ลูบไล้ไปตามเรือนร่าง เลื่อนมาจัดการกับกระดุมเสื้อของเธออย่างเอาแต่ใจ แล้วริมฝีปากอุ่นค่อยๆประทับลงบนหน้าท้องแบนราบ ที่ขาวเนียนละเอียจดุจไข่มุกที่ทั้งหอมและเนียนนุ่มน่าสัมผัส ก่อนที่จะย้ายมาประทับริมฝีปากอุ่นกลับมาจูบหน้าผากเธออย่างนุ่มนวล ลากไล้ไปตามแก้ม แล้วกดย้ำลงบนริมฝีปากเธออีกครั้งอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน พร้อมกับดันตัวเข้าไปในตัวเธออย่างทะนุถนอม ร่างบางหลับตากัดฟันแน่น ปลายนิ้วเรียวสวยจิกแน่นลงบนแขนล่ำกล้ามเป็นมัด อีกข้างจิกลงบนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยพละกำลังอันแข็งแกร่ง ที่ขยับเคลื่อนไหวอยู่บนเรือนร่างเธอ ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นไอแห่งความปรารถนาแห่ง เตชินทำอย่างทะนุถนอม กอดเธอไว้แน่นสลับกับจูบอย่างอ่อนโยน ผ่านไปนาน กว่าจะเสร็จสมอารมณ์หมาย แล้วถอนกายออกจากเธอ เขานอนกอดเรือนที่ร่างเนียนละเอียดของเธอ ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรัก สายตามองไปตามรอยแดง รอยฟกช้ำ ตามซอกคอ ตามไหปลาร้า ลงไปถึงเนินอก อย่างพอใจ แล้วเอ่ยเสียงทุ้มอ่อนโยนระคนเอาใจใส่ " เจ็บมั้ย? " คนในอ้อมแขนไม่ตอบแต่น้ำตาไหลผ่านหางตาอย่างช้าๆ เตชินรู้ว่าเธอร้องให้ เขาจึงขยับเธอเข้ามาแนบชิดกับแผ่นอกของเขาให้มากขึ้นกว่าเดิม แล้วกอดเธอไว้แน่นจูบไปที่ผมเธอเบาๆแล้วเอ่ย " ต่อไปคุณรักษาระยะห่างกับคุณป๊อบหน่อยนะ ผมหึง หวงด้วย ผมไม่ชอบให้คุณใกล้ชิดกับผู้ชายมากเกินไป เข้าใจมั้ย " เอ่ยจบเขาไม่สนใจว่าเธอจะตอบเขาหรือไม่ตอบแค่เขาได้บอกเธอไว้ก็พอแล้ว อย่างอื่นเขาล้วนไม่สนใจในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
เตชินอุ้มพิมขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องไป ป๊อบจึงเดินตามเขาไป แล้วเอ่ยถาม" คุณเตชินจะพาพิมไปโรงพยาบาลใช่มั้ย "เตชินหยุด เดินแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา โดยไม่หันมามองป๊อบ" เธอเป็นภรรยาของผม ผมรู้ว่าควรจะดูแลเธอยังไง ขอบคุณเรื่องวันนี้ เรื่องอื่นคุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง "ด้วยความที่หวงและห่วงพิมมาก ป๊อบจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น ไม่มีทีท่าว่าจะยอม คำพูดแฝงการขู่เล็กน้อย" ก็เพราะเธอเป็นภรรยาคุณ ผมกลัวคุณจะใช้วิธีรักษาแบบคนพวกนี้ ทางที่ดี คุณควรพาเธอไปหาหมอ จะได้รู้ว่าเธอถูกวางยาชนิดไหน ไม่อย่างงั้น ต่อให้เธอเป็นภรรยาคุณ ผมก็ไม่เกรงใจคุณแล้ว "เตชินมองพิมที่ไม่มีเรี่ยวแรงในอ้อมอก ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำเสียงแผ่วเบาเขาคิดว่าคำพูดของป๊อบก็มีเหตุผลพอ ที่เขาสามารถรับฟังได้เขาจึงเดินออกจากห้องไป โดยไม่เอ่ยอะไรป๊อบเดินตามไม่ห่างเพราะเป็นห่วงพิมผู้จัดการร้านตามเตชินมา แล้วเอ่ยถามความเห็นขอคำสั่งอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะเขาเห็นเตชินโกรธจัดจนอัดคน กระทืบจนน่วม จนผู้ถูกกระทำหมดสติไป เพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว มีแผลเต็มหน้าเต็มตัว" เอ่อ คุณเตชินครับ แล้ว แล้วคนพวกนั้นจะให้ทำยังไงต่อครับ "เตชิ้นอุ้มพิมในอ้อมอก แล
พิมฟื้นขึ้นมา แล้วกวาดสาตามองไปรอบๆห้อง ก็รู้ทันทีว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลเธอนั่งนิ่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น นึกถึงสภาพที่ตัวเองวิ่งตามรถของเตชินด้วยความหวาดกลัวก็รู้สึกโกรธเตชินจนไม่อยากให้อภัยแล้วแล้วภาพที่ผู้ชายลูบไล้บนตัวเธอ มองเธอด้วยสายตาหื่นกาม ริมฝีปากน่าขยะแขยงสัมผัสลงบนตัวเธอ ก็ลอยเข้ามาในหัวเธอรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงจนถอดสายน้ำเกลือทิ้งแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อารมณ์อยากจะฆ่าคนอีกใจหนึ่งเธอรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตัวเองเกือบจะถูกข่มขืนเธอเปิดน้ำแล้วถูร่องรอยพวกนั้นออกแรงๆ ตามมือ ตามแขน ซอกคอ ที่ถูกสัมผัส เธอรู้สึกเหมือนมันติดอยู่บนตัวเธอ เธอขยะแขยงจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องให้ด้วยความรังเกียจ เธอถูจนผิวบวมแดง เธอรู้สึกว่าถูเท่าไหร่ก็ถูไม่ออก เธอใช้มือตีตัวเองแล้วกรี๊ดขึ้นเสียงดัง" กรี๊ด!!! "ป๊อบกับเตชินเดินเข้ามาได้ยินพอดี ก็รีบวิ่งเข้ามาดูตามเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นเห็นพิมนั่งในห้องน้ำทั้งถูทั้งตีตัวเองด้วยความรังเกียจและขยะแขยงใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับพึมพำด้วยความโกรธแค้น" ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่ามัน กรี๊ด! "จิตใจพิมที่ห
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ