หลังจากทานข้าวเสร็จ พิมเลือกที่จะไม่ใช้ลิฟท์แต่เดินออกไปทางบันได
เพราะไม่อยากให้ผู้คนรู้ว่าเธอมาหาเตชิน พอเธอเดินลงบันไดไป เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคุยโทรศัพท์ ท่าทางน่าสงสัย เธอจึงเดินเข้าไปใกล้แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวีดีโอ เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นพูดว่า " ตอนนี้ข่าวที่ท่านประธานมีภรรยาสองคนถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลแล้ว ท่านประโกรธจนหย่ากับคุณณัชชา ตอนนี้ข้างกายท่านประธานไม่มีใครแล้วค่ะ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้เหลือแค่รอดูคุณณัชชาลาออกเท่านั้นค่ะ " ประโยคสุดท้ายพิมตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง เธอไม่คิดว่าเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นในบริษัทของ เตชิน จะมีผู้อยู่เบื้องหลังคอยกวนน้ำให้ขุ่น เธออยากจะเห็นโฉมหน้าของผู้หญิงคนนั้น แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่หันมาทางเธอเลย แล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น ทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ตัวรีบเอาผ้ามาปิดหน้าแล้ววิ่งหนีไป พิมเองก็กลัวถูกจับได้เธอรีบวิ่งลงบันได้ไป แทบจะกลิ้งเป็นลูกบอลอยู่แล้ว ทางฝั่งผู้หญิงคนนั้น ปลายสายของเขาเอ่ยถาม เขาจึงตอบไปว่า " มีคนมาเห็น โชคดีที่คลุมหน้าไว้ คุณอย่ากังวลไปเลย ตรงบันได้หนีไฟปกติไม่มีใครใช้ คงจะเป็นแค่พวกพนักงานหรือแม่บ้าน ฉันจะไปสืบดูว่าวันนี้ใครใช้ทางหนีไฟบ้างคงสืบได้ไม่ยาก" พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็ออกไปทางด้านหลังของบริษัท พิมวิ่งลงมาหน้าตาตื่น พอเห็นรถผู้ช่วยคัง เธอก็รีบเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถแล้วเอ่ย " คุณคังรีบออกรถเร็ว " เธอเองก็กลัวถูกตามล่า ที่ไปรู้ไปเห็นอะไรที่ไม่ควรรู้ไม่ควรเห็น ผู้ช่วยคังขับรถออกไปด้วยความงง สักพักพอรถวิ่งออกมาไกลจากบริษัทแล้ว พิมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยถามว่า " คุณพิมเกิดอะไรขึ้นครับทำไมวิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนั้นราวกับวิ่งหนีใครมา " เธอจึงหัวเราะกลบเกลื่อน เอ่ยตอบผู้ช่วยคังไปว่า " เฮ่อๆ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่นึกสนุก อยากออกกำลังกายให้หัวใจสูดฉีดดีขึ้นหน่อยเท่านั้นค่ะ " เธอไม่อยากพัวพันกับเรื่องของคนรวย เพราะเธอไม่อยากซวยเวลาอยู่ไกลบ้าน ผู้ช่วยคังแอบมองเธอผ่านกระจกหลังอย่างเงียบๆเธอเองก็พยายามหลับตานิ่งเช่นกัน เธอนึกภาพแผ่นหลังของผู้หญิงคนนั้น เธอรู้สึกคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน อยู่ๆเธอก็ลืมตาขึ้นแล้วถามหยั่งเชิงดู " คุณคัง ช่วงนี้ที่บริษัท คุณเตชินคงจะยุ่งมากเลยใช่มั้ยคะ สีหน้าเขาดูโทรม ร่างกายดูอ่อนเปลี้ยเพลียแรง " ผู้ช่วยคังถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ย " ครับ ช่วงนี้ที่บริษัทเกิดปัญหาขึ้น คุณชายแทบไม่ได้หลับได้นอนเลย ทานข้าวก็น้อยและยังทานไม่เป็นเวลาอีก มีแค่วันนี้ที่คุณพิมมาทานเป็นเพื่อน คุณชายเลยทานเยอะหน่อย และยังหลับสนิทอีกด้วย ผมคิดว่าช่วงนี้คุณพิมมาทานเป็นเพื่อนคุณชายบ่อยๆก็ดีนะครับ " เธอจึงยิ้มแล้วเอ่ยตอบไปว่า " อ๋อ ค่ะ แล้วคุณณัชชากับคุณเตชิน พวกเขา แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วใช่มั้ย คือ ที่ถามก็เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรแสดงบทบาทไปในทิศทางไหนค่ะ " ผู้ช่วยคังยิ้ม คิดว่าคงเป็นเพราะพิมเกรงใจอำนาจภรรยาหลวง และเป็นคนใส่ใจในทุกรายละเอียดของงาน จึงเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง " เรื่องของคุณณัชชา คุณพิมสบายใจได้เลยครับ เธอกับคุณชายได้หย่ากันแล้ว เพียงแต่คุณชายไม่อยากให้เธอมาเสียเวลาด้วยจึงจ้างคุณมากันเธอออก เพราะคุณชายไม่ได้รักเธอเชิงชู้สาวครับ " พิมพยักหน้าทำท่าทางเข้าใจแล้วเอ่ย " แบบนี้นี่เอง จะว่าไปเกิดเป็นคนรวยก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไปเน้อ ชีวิตต้องเตรียมรับมือกับทุกสิ่งที่เข้ามาอยู่เสมอ ต้องคอยระวังอยู่ตลอดเวลาว่ามีคนกำลังจ้องจะเล่นงานอย่างเงียบๆหรือเปล่า คิดๆแล้ว น่าเหนื่อยใจจริงๆ ฉันคิดว่าบางทีที่บริษัทคุณเตชินมีปัญหาขึ้นมาอีก อาจจะมีคนอยู่เบื้องหลังคอยกวนน้ำให้ขุ่นก็ได้คุณว่ามั้ย " ผู้ช่วยคังคิดวิเคราะห์ตามคำพูดของพิม { ก่อนหน้านี้โครงการใหม่ที่บริษัทก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว แต่หลังจากที่ข่าวของคุณชายถูกเผยแพร่ออกสื่อ ก็สร้างความเสียหายให้ทั้งตัวคุณชายและบริษัท และยังมีคนรู้เรื่องคุณชายมีภรรยาสองคนอีก แสดงว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นคนในบ้านของคุณชายไม่ก็คนในบริษัทที่ใกล้ชิดกับคุณณัชชา } ผู้ช่วยคังรู้สึกขอบคุณพิมมากที่ช่วยชี้ทางให้เขาสืบเรื่องนี้ในวงที่แคบลง สำหรับพิม เธอมั่นใจว่าคนที่เธอเจอเป็นพนักงานในบริษัท เพราะความตกใจในครั้งนี้เธอจึงจำเสียงผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในสมอง เมื่อกลับมาถึงบ้าน พิมก็นั่งดูวีดีโอนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่งคิดอย่างหนักว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้ที่ไหน ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ยังคิดไม่ออก แบตก็เริ่มหมด เธอจึงลุกขึ้นเดินไปล้วงเอาสายชาร์จแบตในกระเป๋า มือไปแตะโดนซองใส่เงิน เธอก็นึกขึ้นมาได้ทันที ว่าผู้หญิงที่เธอรู้สึกเหมือนเคยเจอที่ไหน ก็คือผู้ช่วยของณัชชา เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงพึมพำออกมา " งั้นก็แสดงว่า ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องวุ่นวายทั้งหมด ก็คือ ผู้ช่วยของคุณณัชชาน่ะสิ เราควรจะบอกเรื่องนี้ให้คุณคังรู้มั้ย แต่ถ้าไม่บอกปัญหาที่บริษัทก็จะแก้ไขไม่ได้ " สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะส่งคลิปวีดีโอที่เธอถ่ายไว้ไปให้ผู้ช่วยคัง พร้อมกับระบุข้อความว่า ( ผู้อยู่เบื้องหลังคือผู้ช่วยของคุณณัชชา ) เมื่อได้หลักฐานและข้อมูลทั้งหมด ผู้ช่วยคังก็พาตำรวจเข้าไปจับกุมผู้ช่วยของ ณัชชาที่บริษัททันที เธอสารภาพผิดเพียงคนเดียว โดยที่ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นผู้บงการ เตชินรู้สึกโมโหอย่างมากที่ไม่ได้ข้อมูลผู้อยู่เบื้องหลังเลย เขาจึงหันไปเอ่ยกับผู้ช่วยคังด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า " สืบมาให้ละเอียด " " ครับ " เอ่ยจบเตชินก็เดินออกไป ผู้ช่วยของณัชชาก็ถูกตำรวจคุมตัวไป ส่วนณัชชา เธอยืนนิ่งด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าผู้ช่วยที่อยู่ด้วยกันมาหลายปี ดูเป็นห่วงเป็นใย ให้คำแนะนำ คอยเป็นมือเป็นขาให้จะเป็นเพียงแค่การเสแสร้งแกล้งทำ เพื่อให้เธอตายใจ ตั้งแต่เกิดเรื่อง เธอไม่เคยเอะใจ หรือสงสัยในตัวผู้ช่วยเลยเธอรู้สึกผิดต่อเตชินมาก ที่เลี้ยงงูเห่าไว้ข้างกาย จนกลับมาฉกพวกเขาเองแบบนี้เธอเดินไปที่ห้องของเตชิน ยกมือเคาะประตูเบาๆแล้วเดินเข้าไปในห้องเตชินมองเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเย็นชา ทำให้เธอรู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจแต่ก็ฝืนเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังด้วยความรู้สึกผิด" ฉันขอโทษค่ะ ที่ไม่ระวังคนรอบข้างให้ดี ไว้ใจคนง่ายเกินไป จนทำให้บริษัทเกิดปัญหาใหญ่ แต่คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันจะทำทุกวิถีทาง สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนให้กลับมาร่วมลงทุน ซื้อหุ้นของบริษัทเราอีกครั้งให้ได้ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า" พรุ่งนี้ผมจะจัดแถลงข่าว ผมจะให้โอกาสคุณได้แก้ตัวสักครั้ง ต่อไปจะรับใครเข้ามาทำงานคงรู้นะว่าไม่ควรใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง "" ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว "เตชินรู้ว่าณัชชาเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร จึงเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีใช้เป็นเครื่องมือได้ง่าย แม้เธอจะเก่ง มองผิวเผินแลดูเพรียบพร้อม แต่แท้จริงแล้วณัชชาขาดความเป็นผู้นำหลายจุดมองคนไม่ทะลุปรุโปร่ง ใจอ่อน ขี้สงสาร ชอบใช้ความรู้สึกส่วนตัว และไม่มีความเด็ดขาดจากนั้นเตชินก็เอ่ยต่ออย่างเหนื่อยหน่ายว่า" คุณอ
พิมทำหน้าที่ส่งอาหารเช้าให้เตชินตามปกติ และร่วมทานมื้อเที่ยงตามข้อตกลงในสัญญาเธอเข้าออกบริษัทบ่อยจนพนักงงานต้อนรับเริ่มจำเธอได้และต้อนรับเธออย่างดีแต่ก็ไม่วายที่จะหลุดรอดจากคำซุบซิบนินทาของพนักงานในบริษัทพนักงานจับกลุ่มซุบซิบกัน" นี่ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าท่านประธานจะเปลี่ยนรสนิยมหันมาควงสาวน้อยหน้าใสแล้ว "อีกคนก็เอ่ยขึ้นบ้าง" ฉันได้ยินทางฝ่ายต้อนรับเขาเม้าท์กันว่า เธอมาส่งข้าวเช้าให้ท่านประธานทุกวันเลย บางวันก็มาทานมื้อเที่ยงด้วยกัน "อีกคนดูตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยินแล้วเอ่ย" จริงเหรอ แสดงว่าคนนี้ต้องเป็นคนโปรดของท่านประธานที่ท่านประธานปลื้มมากแน่ๆเลย "อีกคนก็อยากร่วมสนทนาด้วยจึงเอ่ย" ฉันได้ข่าวมาว่า หลายวันก่อนที่เธอไม่มาทานข้าวด้วย ท่านประธานถึงกับต้องออกไปง้อเลย "พนักงานสาวอีกคนก็เอ่ย" แล้วแบบนี้ถ้ารองประธานรู้ จะรู้สึกยังไง พูดก็พูดเถอะ ในฐานะผู้หญิงด้วยกันไม่ใช่ว่าฉันจะมองไม่ออกนะว่า รองประธานดูมีความรู้สึกพิเศษต่อท่านประธาน "อีกคนก็เอ่ยเสริมว่า" นั่นสิ รองประธานอยู่เคียงข้างท่านมาธานมาตลอดแต่เสียดายที่ท่านประธานกลับไม่เห็นเธอเป็นผู้หญิงทั่วไป "พนักงานสาวอีกคนจึงพูด
พิมเอาข้าวไปให้เตชินเสร็จเธอก็เอ่ยว่า" ฉันเอาข้าวมาส่งคุณแล้ว วันนี้ฉันมีธุระต้องออกไปข้างนอก ขอลางานหนึ่งวันนะคะ "เตชินเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วเอ่ย" คุณจะไปไหน ให้ผู้ช่วยคังไปส่งสิ "ได้ยินดังนั้นเธอก็รีบเอ่ยปฏิเสธทันที" ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรียกรถเองได้ ฉันมีนัดกับเพื่อนที่ทำงานสายนี้ด้วยกัน วันนี้เป็นวันหยุดเขาพอดี เลยนัดเจอกันค่ะ "สำหรับเธอแล้ว เธอจะให้คนอื่นมารู้เรื่องส่วนตัวของเธอไม่ได้ และยิ่งไม่ชอบให้คนอื่นมาละลาบละล้วงเรื่องของเธอแม้แต่นิดเดียวเตชินทำท่าเข้าใจแล้วเอ่ย" ผมจะให้คุณลาแค่วันเดียวนะ เย็นนี้กลับมาแล้วมารายงานตัวกับผมด้วย "ได้ยินดังนั้นเธอรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา[ นี่มันแม่บ้านประเภทไหนกัน ต้องรายงานเวลาเข้าเวลาออก นี่มันทหารองครักษ์ชัดๆ ]เธอพึมพำในใจแล้วเอ่ยตอบว่า" ค่ะ เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวค่ะ "เอ่ยจบเธอก็เดินออกไปจากห้องของเตชิน รถแท็กซี่ที่เธอเรียกก็มารอที่หน้าบริษัทเมื่อลงไปถึงหน้าบริษัท เธอก็ขึ้นรถไป เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความดีใจสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข ที่เมื่อคืน อาจารย์ป๊อบทักแชทมาหาเธอว่า( พิม พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย ผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเท
ป๊อบมองตามหลังของพิมด้วยแววตาผิดหวัง เขาไม่อยากให้เธอทำงานนี้เลยเตชินเห็นพิมเปิดประตูลงมาจากรถหรู เขาถึงกับหรี่ตาลง เพ่งมองไปที่รถคันนั้น พิมรีบวิ่งเข้ามาให้ทันเวลาห้านาที เพราะไม่รู้ว่าถ้าเลยห้านาที เตชินจะสรรหาคำใดมาตำหนิเธออีก เธอเป็นคนวิ่งเร็วไม่ถึงห้านาที ก็ถึงหน้าห้องแล้ว เลยยกมือเคาะประตูห้องเขาทันทีเตชินที่อยู่ด้านในเอ่ยเสียงเย็นออกมา" ประตูไม่ได้ล็อค "เธอจึงเปิดประตูเข้าไป เดินไปยืนต่อหน้าเขาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบด้วยสีหน้านิ่งเฉย" ฉันมารายงานตัวตามที่คุณบอกแล้ว ขอตัวค่ะ "พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป แต่ก้าวขายังไม่ถึงสามข้าว เตชินก็หาเรื่องพูดกับเธอเอ่ยถามขึ้นอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม" ใครมาส่งคุณ "" เพื่อนค่ะ "เธอเอ่ยตอบอย่างไวแบบไม่ต้องคิดเตชินเผยอปากแล้วเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเดินเข้ามาหาเธอ" อ้อ เพื่อนคุณเป็นแม่บ้านทีรวยใช้ได้เลยนี่ ขับรถหรูมาส่งซะด้วย "พิมตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะแอบดูอยู่ และไม่รู้ว่ารถของอาจารย์ป๊อบเป็นรถหรูเธอรู้สึกพลาดมากที่พูดออกไปแบบนั้นเธอนิ่งเงียบไป เตชินเห็นดังนั้นจึงเอ่ยต่อว่า" กำลังคิดหาวิธีแก้คำพูดของตัวเองอยู่ล่ะ
พิมนึกแค้นเตชินในใจ ที่ไม่เว้นแม้กระทั่งเธอที่เป็นสาวใช้ จึงโทรไปหาเพื่อนสาว เมื่อเพื่อนสาวรับสาย เธอจึงทำเป็นร้องห่มร้องให้ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสาวฟัง" อีเท่ ฉันถูกผู้ชายปล้ำ ฮือๆๆๆ "เพื่อนสาวของเธอได้ยินดังนั้นก็ร้องขึ้น พร้อมกับเอานิ้วที่กรีดกรายปิดปากอย่างตกใจ" อุ๊บ! "แล้วเอ่ยถาม โดยที่คนฟังแยกไม่ออกว่าเป็นห่วงเธอหรือเปล่า" อีพิม เธอพูดจริงป้ะเนี่ย "" ฉันพูดจริงๆ ใครจะมาล้อเล่นเรื่องพรรณนี้กันล่ะ "เพื่อนสาวจึงถามด้วยความสนใจใคร่รู้ต่อว่า" แล้วผู้ เป็นใคร หล่อมั้ย สูงเท่าไหร่ ผิวสีอะไร อ้วนหรือผอม หน้าที่การงานเป็นยังไง รวยมั้ย ระดับไหน ตอบ! "ได้ยินดังนั้นเธอจึงเอ่ยอย่างหงุดหงิด" อีเท่ นี่แกจะถามอะไรเยอะแยะไปทำไม "เพื่อนสาวของเธอที่นั่งทาเล็บอยู่ก็เอ่ยต่อว่า" ก็ถ้าโปรไฟล์ดี ดีกรีเยี่ยม หน้าตาหล่อ เธอก็ถือซะว่ามันเป็นวันไนท์สแตนด์แล้วกัน แต่ๆๆๆ ถ้ามันไม่หล่อไม่มีดีสักอย่าง ต่อให้มันอยู่ขุมนรกไหนฉันกับอีมี่และอีมิกเกลก็จะไปลากคอมันมาลงโทษแล้วลากมันเข้าคุกให้เธอ "เธอรู้สึกเอือมระอากับเพื่อนสาวของเธอ จนไม่รู้จะพูดยังยังเธอจึงทำงอแงร้องเรียกชื่อเพื่อนสาวเสีย
พิมเข้าไปเช็ดรอยลิปสติกที่เลอะริมฝีปากออก แล้วเดินออกมาเห็นเตชินยืนรอหน้าห้องน้ำ เธอทำตาเขียวใส่เขา แล้วเดินผ่านเขาออกไปเตชินยิ้มอย่างสบายๆ เดินตามเธอออกไป จากนั้นก็หันไปเอ่ยกับผู้ช่วยคังที่อยู่หน้าห้องว่า" ส่งเธอกลับบ้าน "ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยถามขึ้น" วันนี้คุณชายไม่ให้คุณพิมอยู่ทานข้าวด้วยแล้วเหรอครับ "เตชินเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเจือเย็นชา" วันนี้ผมกับณัชชาต้องกลับไปทานข้าวที่คฤหาสน์ ไม่รู้ครั้งนี้ จะมีเรื่องน่าสนใจอะไรเซอร์ไพรส์อีกบ้าง "" ครับ "เอ่ยจบเตชินก็เดินกลับเข้าห้องไป ผู้ช่วยคังก็ไปส่งพิมกลับบ้านเมื่อกลับไปถึงห้องพิมเอาชุดทั้งหมดที่เตรียมไว้ยัดใส่ถุงขยะด้วยความอารมณ์เสียตอนนี้เธอไม่รู้วิธีรับมือกับเตชินแล้ว เธอนั่งเครียดด้วยสีหน้าบึ้งตึงอย่างจนปัญญาเตชินก็จ้องแต่จะจับเธอเป็นนางบำเรอ ชีวิตเหมือนแขวนอยู่บนเชือกเส้นเดียวบนที่สูงๆ ต้องก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังเพื่อให้ตัวเองรอดปลอดภัยช่วงบ่ายเตชินกลับไปทานข้าวที่คฤหาสน์พร้อมกับณัชชาเมื่อทานข้าวเสร็จคุณหญิงจารวีก็เอ่ยขึ้น" เตชิน อีกเดี๋ยวทนายประจำตระกูลจะมาพูดเรื่องพินัยกรรม ลูกกับหนูณัชชาอยู่รอก่อนนะ "
คุณหญิงจารวีเอาก็ยิ้มอย่างมีความหวังเช่นกันที่ลูกชายยอมเห็นด้วยกัณัชชาแบบนี้แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาทำลายความหวังของทุกคนจนแตกเป็นเสี่ยงๆ" แต่จะไม่จดทะเบียนสมรสกับณัชชา ผมไม่ได้รักณัชชา และคนที่ผมรักก็ไม่ใช่ณัชชา คุณแม่อย่ามาคาดหวังจากผมกับณัชชาอีกเลย ผมรักณัชชาแบบพี่น้องรักเหมือนน้องสาวแท้ๆ ผมอยากให้เธอได้พบเจอคนดีๆ ที่รักและดูแลเธอได้ นี่คือความหวังดีของพี่ชายคนหนึ่งที่มีต่อน้องสาว "ได้ยินดังนั้นรอยยิ้มของณัชชาก่อนหน้านี้ค่อยๆหุบลงน้ำตาค่อยๆซึมออกมาจากแววตา ด้วยความผิดหวังและเสียใจเธอรักเขามาตลอด ทุกคนรู้ โลกรู้ จนถูกจับคู่ให้แต่งงานแม้เธอจะรู้ว่าเขาไม่ได้รักเธอ แต่ทุกครั้งที่เขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเธอก็เข้าใจว่าเขามีใจให้เธอ เพียงแต่ไม่กล้าพูดออกมาทุกครั้งที่เธอ เดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ต้องการพบเขา เขาจะมาทันที แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่ารักจะเรียกว่าอะไรแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ชัดเจนเมื่อทุกคำพูดออกจากปากของเขาบอกว่ารักเธอ แต่รักเธอในฐานะน้องสาว ดับความหวังที่จะเป็นภรรยาเขาที่มีเพียงอันน้อยนิดของเธอลงไปทันทีแล้วเตชินก็หันมาพูดกับณัชชาด้วยสีหน้
ตอนเย็น เตชินออกจากบริษัทนั่งรถกลับบ้าน ระหว่างทาง เขามองออกไปนอกหน้าต่าง คิดอะไรเพลินๆ[ หากพิมเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ก็คงดี ผู้ชายในคืนนั้นเป็นใครกันนะ ที่พรากความสาวของเธอไป ]เมื่อคิดถึงผู้ชายของพิมในคืนนั้น เขาไม่เข้าใจว่าพิมไปมีวันไนท์สแตนด์ทำไมเขานั่งวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้อย่างเงียบๆ[ แล้วที่เธอทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว เป็นการเสแสร้งงั้นเหรอ เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ ]เนื่องจากในช่วงเช้าก่อนที่พิมจะมาถึงบริษัทผู้ช่วยคังไปสอบถามจากช่างแต่งหน้า ที่มาแต่งหน้าทำผมให้พิมวันนี้ทำให้ได้เบอร์โทรของเพื่อนพิมที่ชื่อเทเท่มา ผู้ช่วยคังจึงโทรไปถาม" สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าผมเรียนสายอยู่กับคุณเทเท่ใช่มั้ยครับ "เทเท่จึงตอบไปว่า" ใช่ค่ะ "แล้วผู้ช่วยคังก็แนะนำตัว" ผมชื่อคังนะครับ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของท่านประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งประเทศไทยและเป็นเพื่อนร่วมงานกับพิม พอดีทางท่านประธานของเรารับคุณพิมเข้าทำงานเลยต้องการทราบเกี่ยวกับประวัติของคุณพิมให้เลียดเอียดตามกฏของบริษัทครับ "ผู้ช่วยคังเอ่ยอธิบาย จากนั้นก็เริ่มเอ่ยถาม" คุณเทเท่เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของคุณพิมใช่มั้ยครับ "" ใช่ค่ะ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ