แชร์

บทที่ 400

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้ว

จ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง

หลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่า

เขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจ

เป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน

“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”

ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า

“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”

ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง

“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”

ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์

มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพ

แม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่

มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทาน

เพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
จุรี จรรัตน์
รีบกลับมาไวๆ
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
รีบกลับมาอัพเดตตอนต่อไปนะคะ อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะคะไรท์
goodnovel comment avatar
Pakawan Chumrit
กำลังสนุกจบบท อัพรัวๆค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 401

    “เจ้า พวกเจ้ามาได้อย่างไร? จ้านเฉิงอิ้นล่ะ? ข้าได้ยินว่าเขาบาดเจ็บหนักจนหมดสติ”“จ้านเฉิงอิ้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่?”มั่วฝานกับหลูซียืนขึ้นมั่วฝานยิ้มจนมุมปากแทบเบี้ยวเขาทอดถอนใจอีกครั้ง ท่านเทพหน้าตาสวยจริงเชียวเมื่อเทียบกับองค์หญิงในพระราชวัง ท่านเทพมีหน้าตาสวยกว่าทุกคนเขาตอบกลับด้วยความสุภาพเป็นอย่างยิ่ง“ท่านเทพวางใจได้ หมอประจำกองทัพห้ามเลือด พันแผลและป้อนยาทันเวลา…เพียงพักผ่อนราวเดือนกว่าอาการก็จะดีขึ้น!”“เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ามาได้อย่างไร?”มั่วฝานตอบกลับ “พวกข้าไม่รู้เช่นกัน แม่ทัพใหญ่ดึงข้าไว้ จากนั้นก็ปรากฏอยู่ที่นี่เลย”ขณะที่เย่มู่มู่ยังอยากถามไถ่ศึกสงครามช่องเขาเป้าเสีย…ลู่ฉีหยางเห็นเขาสองคนเพิกเฉิยตนอย่างสิ้นเชิงและยังพูดคุยกันอย่างถูกคอ จึงกล่าวขึ้นอย่างโมโหจัด “พอสักที หุบปากให้หมด!”ลู่ฉีหยางตะโกนใส่บอดี้การ์ดหน้าประตู “มีใครอยู่บ้าง มาจับคนแต่งกายเลียนแบบต้นฉบับสองคนนี้ออกไปจัดการหนัก ๆ หน่อย!”“ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกคุณมาจากที่ไหน เมื่อมาทำลายเรื่องของผม จะไม่ให้บทเรียนพวกคุณสักหน่อยก็คง…”ลู่ฉีหยางยังกล่าวไม่จบ บอดี้การ์ดที่นำหน้าเพิ่งเข้ามาใกล้แต่ยังไม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 402

    ไม่กี่คนเหล่านั้นถึงกระทั่งหายใจไม่ทันและก้าวถอยหลังทุกคนเขายืนกลางกลุ่มบอดีการ์ดและกวาดสายตาดำสนิททอดมองแต่ละคนคนที่ยังไม่หมดสติ เขาจะกระทืบกระดูกซี่โครงให้หักจนผู้นั้นไม่สามารถลุกคลานได้ส่วนผู้ที่เพิ่งได้สติ ครั้นเห็นเขาเตะกระดูกซี่โครงคนอื่นก็เอียงคอแกล้งหมดสติหลับไปคน ๆ นี้โหดเหี้ยมเกินไปทั้งที่เป็นแค่ชายหนุ่มไม่โตเต็มวัย ไม่คิดเลยว่าจะลงมือโหดร้ายขนาดนี้มั่วฝานเห็นเย่มู่มู่เป็นห่วงสภาพการต่อสู้ จึงยิ้มแย้มกล่าว “ท่านเทพวางใจได้ หลูซีเติบโตในสนามรบตั้งแต่เด็ก เป็นตัวเลือกจากหนึ่งหมื่นคน ต่อกรกับพวกขี้เมาหยำเปเหล่านี้แม้ใช้มือเดียวก็เอาชนะได้!”เย่มู่มู่มองอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง เป็นเวลาพักใหญ่กว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกครั้งเธอยกนิ้วโป้งให้มั่วฝาน “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”นี่แหล่ะคือหน่วยกล้าตายที่ตระกูลมั่วชุบเลี้ยง!หน่วยกล้าตายในสมัยโบราณ ฆ่าคนโดยไม่ให้ใครมองเห็นได้จริง ๆทักษะสังหารฉับไวเฉียดขาดเยี่ยงนี้ ทุกวันนี้สูญหายไปนานแล้วและหลูซีที่ผ่านการต่อสู้กับผู้คนมานับร้อย ถูกคัดมาจากแต่ละระดับ ถ้าไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่โหดเหี้ยมมากพอ...เขาตายนานแล้ว!ไม่มีชีว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 403

    คุณหญิงลู่เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูล้มลงไปส่วนคนที่ผู้อาวุโสมู่พาเข้ามา มีสองสามคนเป็นตำรวจชุมชนของระแวกนี้เธอจึงร้องไห้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ตัวเย่มู่มู่ มั่วฝานและหลูซีพร้อมกล่าวโทษ…“พวกเขาเป็นคนทุบตีลูกชายฉันจนมีสภาพเป็นแบบนี้ คุณตำรวจ ช่วยจับพวกเขาด้วยค่ะ!”“ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันต้องการให้พวกเขาชดใช้ด้วยชีวิต!”“และยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปพบท่านผู้ว่าฯเมืองกับเลขาธิการผู้ว่าฯเมือง ฉันจะยกเลิกโครงการหนึ่งหมื่นห้าพันล้านที่ลู่ซื่อกรุ๊ปลงทุนให้กับเมืองนี้!”“ถ้าพวกคุณไม่ให้คำอธิบายกับฉัน เรื่องนี้จะไม่มีวันจบ!”ผู้จัดการโรงแรมและสถานีตำรวจ คล้ายว่าได้รับโทรศัพท์จากเบื้องบน จึงรีบเร่งปลอบใจคุณหญิงลู่ที่ใบหน้ายังมีเลือดไหล“คุณหญิงอย่าเพิ่งโมโห เราเป็นสังคมที่มีอารยธรรม ใครฝ่าฝืนกฎหมายย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นอันขาด”“คุณหญิงลู่ เราไปทำแผลที่โรงพยาบาลกันก่อน ถ้าเกิดเป็นรอยแผลเป็นก็คงแย่”พอพูดถึงบาดแผลบนใบหน้า คุณหญิงลู่พลันกรีดร้องอย่างกระวนกระวายเธอชี้หน้าหลูซี “เขาคนนี้ เด็กอันธพาลคนนี้เป็นคนทำร้ายฉัน ทุบตีลูกชายฉันจนหมดสติ พวกคุณรีบจับเขาไว้สิ”หลูซีกอดกระบี่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 404

    ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 405

    “ใช่ เมื่อมีบัตรประชาชน จะไปที่ไหนก็สะดวก สามารถนั่งรถ นั่งเรือ นั่งเครื่องบิน สามารถเดินทางไกลท่องเที่ยวสุดขอบโลก สามารถไปดูทิวทัศน์ที่ต่างประเทศได้…”มั่วฝานตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าลงทะเบียนบ้านแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นคนในโลกของท่านเทพ ฮ่า ๆ ๆ …ข้าจะทำ!”ถ้าจ้านเฉิงอิ้นรู้ว่าเขามีบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านที่เป็นของโลกท่านเทพ ต้องจุกอกตายแน่ครั้นนึกถึงตรงนี้ มั่วฝานก็หัวเราะอย่างหนำใจจะทำบัตรประชาชนต้องถ่ายรูป หลังจากพวกเขาถอดชุดเกราะและเผยชุดเกราะกันกระสุนระดับสูงข้างในออกมาภาพตรงหน้านี้ทำให้ตำรวจผู้มาช่วยถ่ายรูปยังมองตาค้างจึงรีบเรียกหัวหน้าเข้ามา…จวบจน เย่มู่มู่เปิดประวัติการซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนบนพินซีซีให้ดูจึงยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่าสองสามคนนี้อยากเล่นการรบจำลอง จึงได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อความสมจริงมากขึ้นบวกกับมีโทรศัพท์จากข้างบนว่าให้รีบส่งคนกลับไปโดยด่วนพวกเขาทำงานอย่างหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่และลงบันทึกเลขที่การสั่งซื้อของเย่มู่มู่แต่พอถึงเวลาแจ้งอายุ หลูซีกล่าวว่าปีนี้เขาอายุสิบเจ็ดปี แบบอายุลวงก็สิบเจ็ดปีหัวหน้าสถานีเรียกเย่มู่มู่เข้ามาพูดคุย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 406

    หลูซียืนตรงหน้าเย่มู่มู่และพูดกับเธอ “ไม่กี่คนเหล่านั้นเคยผ่านการฝึกต่อสู้!”ผู้อาวุโส่มู่ยิ้มแย้มกล่าว “หนุ่มน้อย สายตาไม่เลวเลยนี่ พวกเขาเคยผ่านการฝึกจริง!”จากนั้น เขาหันมองมวยผมประดับกวานบนศีรษะและจี้หยกมังกรพันประดับทองตรงเอวของมั่วฝาน“เด็กหนุ่มคนนี้ ผมขอดูหยกแขวนของคุณหน่อยได้ไหมครับ…”อ๋อ เย่มู่มู่ยังคิดอยู่ว่าทำไมเขาถึงอยู่รอทั้งที่ท้องฟ้าเริ่มค่ำแล้วที่แท้วัตถุโบราณบนตัวรัฐทายาทน้อยเตะตาเขานั่นเองมั่วฝานเป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าภูมิหลังของผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ธรรมดาเพราะเขาผู้นี้ที่ทำให้พวกเขาออกจากสถานีตำรวจได้อย่างรวดเร็วเขาดึงหยกแขวนออกจากเอวแล้วโยนสะบัดให้ผู้อาวุโสมู่“ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านเมื่อครู่นี้ หยกแขวนชิ้นนี้ถือเป็นรางวัลแก่ท่าน!”เย่มู่มู่ถึงกับกระทืบเท้าอย่างร้อนใจวัตถุโบราณหยกแขวนอันเป็นมรดกสืบทอดกว่าสองพันปี ยกให้คนอื่นเปล่า ๆ อย่างนี้เลยเหรอเขารู้ไหมว่ามีมูลค่าเท่าไหร่?ช่างลูกที่ล้างผลาญเงินพ่อแม่ผู้อาวูโสมู่รับหยกแขวนไว้อย่างดีใจ ครั้นเดินมาถึงใต้เสาไฟข้างถนนก็มองดูอย่างละเอียด เป็นหยกแขวนประดับทองมีมังกรพันรอบ ปากคาบหยกแขวน หยกแขวนมีการ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 407

    สุดท้ายเย่มู่มู่เรียกแกร็บคาร์และส่งพวกเขาไปยังที่จอดรถของโรงแรมระดับห้าดาวหลูซีมองตึกสูงที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างรถยนต์ด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับส่วนรัฐทายาทน้อยเป็นคนเข้ากับคนง่ายและเริ่มสนทนาพูดคุยกับคนขับรถ“ผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านมีใบขับขี่หรือไม่?”คนขับรถเป็นวัยกลางคน เขาหันมามองมั่วฝานหนึ่งทีรูปร่างหน้าตาก็เหมือนคน แต่เหมือนสมองจะมีปัญหา“เด็กหนุ่มคนนี้ ถามอะไรประหลาดจริง ฉันไม่มีใบขับขี่จะกล้ามาขับแกร็บคาร์เหรอ?!”“อ๋อ เช่นนั้นแล้วใบขับขี่ของท่านได้มาอย่างไรหรือ?”“สอบไงล่ะ หาโรงเรียนสอนขับรถและจ่ายเงิน เริ่มสอบตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับกฎจราจร 1…ง่ายมาก ฉันสอบสองเดือนก็ได้ใบขับขี่มาแล้ว!”ดวงตามั่วฝานพลันลุกวาว เขาหันมามองเย่มู่มู่“ท่านเทพ ข้าอยากสอบใบขับขี่”เย่มู่มู่ “…”*พวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมและขับรถกระบะออกจากที่จอดรถเย่มู่มู่ส่งมั่วฝานกับหลูซีไว้ที่ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยและเสื้อผ้ารองเท้ายอดนิยมโดยเฉพาะก่อน ซึ่งอยู่ข้าง ๆ โรงแรมระดับห้าดาวเธอให้พวกเขาหาซื้อเสื้อผ้าก่อน จากนั้นค่อยพากลับไปชำระล้างตัวและมีเสื้อผ้าสับเปลี่ยนที่คฤหาสน์ขนาดของศูน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 408

    “แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 516

    ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 515

    เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 514

    ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 513

    เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 512

    ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 511

    ด่านเจิ้นกวน...อันที่จริงจ้านเฉิงอิ้นหย่อนจดหมายไปสองฉบับฉบับหนึ่งเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ให้ทหารขับรถกลับไปยังด่านเจิ้นกวน ส่งให้หลี่หยวนจงให้เขาอ่านออกมาต่อหน้าทุกคนผ่านการฝึกมาระยะหนึ่ง พวกอู๋ลี่หนึ่งแสนกว่าคน ก็มีท่าทางของทหารประจำการแล้วกลับกันกองกำลังหนึ่งแสนนายไม่ทราบมาจากที่ใดของสวีหวย กลับเกียจคร้านขึ้นเรื่อย ๆเนื่องจากกองกำลังหลักกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่พวกเขาไม่ยอมรับการอบรมของพวกหลี่หยวนจงและเปี้ยนจื่อผิงทว่าให้พวกเขาออกไปจากด่านเจิ้นกวน ออกไปจากสถานที่ที่มีอาหารและน้ำ พวกเขาก็ไม่มีผู้ใดยินดีขณะแจกจ่ายเสบียงทหารในทุกเดือน มาเร็วกว่าใครทั้งสิ้นตามแบบฉบับ ให้ผลประโยชน์เอาหมดให้ทำงาน ขอประทานโทษทำไม่เป็น!มิหนำซ้ำยังไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วยอย่างเช่นวันนี้ หลี่หยวนจงอ่านจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นออกมาก็มีคนต่อต้านทันที รองแม่ทัพนามว่าเว่ยโจวรีบเป็นผู้นำคัดค้านขึ้นมา“พวกเราไปโจมตีเผ่าหมาน...ท่านแม่ทัพกำลังล้อเล่นอยู่หรือ?”“เราใช้ชีวิตกันอยู่ดี ๆ เหตุใดต้องไปรนหาที่ตายด้วย?”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทัพใหญ่ของเผ่าหมานไม่อยู่ในอาณาเขตแคว้นฉี่ หากเข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 510

    เหล่าแม่ทัพทั้งหลายรู้สึกว่าเรื่องนี้เหลวไหลเกินไปอย่างน้อยเขาก็เป็นคนเมืองหลวงบนรถม้าก็ยังมีทหารผ่านศึกต่อให้พวกเขาจะไม่เอาไหนเพียงใด ก็ไม่ถึงขนาดหาทางกลับบ้านตัวเองไม่เจอจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ครอบครัวในเมืองหลวงต้องอพยพก่อน ไม่ต้องพูดถึงมารดาและพี่รองของข้า ทั้งครอบครัวตระกูลเฉิน ครอบครัวของทหารผ่านศึกในเมืองหลวงอีกมากมาย!”“พวกเขาออกรบฆ่าศัตรู ก็เพื่อให้ครอบครัวได้อิ่มท้อง ได้มีชีวิตที่ดี!”“พวกเราไม่ได้ก่อกบฏ ฮ่องเต้น้อยวิกลจริต จะจับพ่อแม่ของพวกเขาไปแขวนคอบนกำแพงเมือง!”เมื่อจ้านเฉิงอิ้นกล่าวจบ เหล่าทหารทั้งหลายก็เงียบงันจริง ฮ่องเต้น้อยสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้!จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องท้อแท้ ได้ติดต่อกับเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงที่ด่านเจิ้นกวนไปแล้ว!”“ทันทีที่กองทัพแคว้นเยี่ยนของพวกเผ่าหมานปรากฏตัวในแคว้นต้าฉี่ เปี้ยนจื่อผิงจะนำทหารห้าหมื่นนาย บุกไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยน จัดการราชวงศ์และขุนนางของพวกเขาให้สิ้น!”“หลี่หยวนจงจะนำทัพบุกโจมตีม่อเป่ย แหล่งกำลังพลและที่อยู่ของราชวงศ์ของพวกเขา แล้วสังหารให้หมดอีกครั้ง!”“หากพวกเผ่าหมานแคว้นเยี่ยนไม่กลับไปป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 509

    จ้านเฉิงอิ้นมองดูกระดาษที่เย่มู่มู่ส่งกลับมา นางไม่เสียดายคำชมแก่หยางชิงเหอย้ำแล้วย้ำอีกว่า การที่พวกเขารั้งตัวหยางชิงเหอไว้ได้นั้น เป็นการได้เปรียบอย่างมหาศาลส่วนเครื่องมือนั้นที่ยาว ๆ ตรงๆ...กลับกลายเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นไม่เข้าใจ!ให้เฉินขุยและเฉินอู่ดู ทั้งสองหน้าแดงก่ำ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ยอมมองภาพวาดนั้นก็แค่ล้อสองล้อ กับเครื่องมือยาว ๆ ตรงๆท่านเทพบอกว่าเป็นอาวุธสังหาร!ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเป็นอาวุธสังหาร!จ้านเฉิงอิ้นนำจดหมายตอบกลับของเย่มู่มู่ให้หยางชิงเหอดูหยางชิงเหอเห็นว่าเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้าน ก็หัวเราะออกมาทันที จนปากแทบจะฉีกถึงหู“ยี่สิบห้าล้าน ฮ่า ๆ ๆ... เงินซื้อบ้านของฉันรวมได้ครึ่งหนึ่งแล้ว!”เหล่าแม่ทัพได้ยินก็พากันอุทานราคาบ้านในโลกของท่านเทพ ช่างสูงลิบลิ่วเสียจริงข้าวสองล้านห้าแสนชั่ง ยังซื้อบ้านไม่ได้สักหลัง!เฉินขุยรู้สึกสงสารนางยิ่งนักก่อนตบอกตัวเองพร้อมกล่าวว่า “แม่นางหยาง ท่านแม่ทัพมีเงิน เดี๋ยวจะให้เครื่องประดับแก่เจ้าสักหน่อย เอาไปเถิด จะได้ครบเงินซื้อบ้าน!”เฉินอู่ก็กล่าวว่า “ข้าก็ยังมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 508

    คำพูดของหยางชิงเหอ ทำให้เหล่าแม่ทัพหันมามองหน้ากันเฉินขุยเบิกตากลมโตด้วยความสงสัย ถามว่า “ร้ายกาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ ถึงจะทำให้แม่ทัพของกองทัพธงเหลืองถอยทัพได้จริง ๆ!”จวงเหลียงรู้สึกสนใจขึ้นมา “แม่นางหยาง เจ้าพูดจริงหรือ?”“ข้าไม่พูดปด แต่ต้องจัดซื้อวัตถุดิบ!”จ้านเฉิงอิ้นเห็นนางมั่นใจถึงเพียงนี้ จึงตอบตกลง “ดี ต้องการอะไร เจ้าจงเขียนลงบนกระดาษเถอะ”เขาเดินไปหยิบกระดาษ ปากกาหมึกซึม จากชั้นหนังสือด้านหลัง มามอบให้หยางชิงเหอ!หยางชิงเหอไปยังห้องประชุมที่อยู่ติดกันในระหว่างที่แม่ทัพปรึกษาหารือกัน เธอก็วาดแบบแปลน และเขียนรายการวัตถุดิบที่ต้องการ ส่งมอบให้จ้านเฉิงอิ้นมีแบบแปลนอยู่หลายแผ่นแต่รายการวัตถุดิบที่ต้องการนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่รู้จักสักอย่าง“นี่...”เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะภาพวาดบนกระดาษนั้นแปลกประหลาดยิ่งนักเขาไม่เคยเห็นเครื่องมือที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนคนอื่น ๆ กรูเข้ามาดู แล้วก็พากันมองซ้ายมองขวาราวกับว่าไม่เห็นอะไรหยางชิงเหอยกมือปิดปากหัวเราะ “ท่านต้องรีบส่งให้ท่านเทพโดยเร็ว ให้นางเตรียมตัว!”“เครื่องมือเช่นนี้ ท่านเทพจะหาซื้อได้ง่ายหรือ?”“ง่ายมาก!

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status