Share

บทที่ 246

Author: มู่โร่ว
มั่วฝานอยากติดตามไป ทว่าถูกเจียงหยวนขวางไว้แล้ว

“รัฐทายาท การเฝ้าสังเกตสถานการณ์ของศัตรู สำคัญกว่าการเข้าสู่สนามรบของท่านนะขอรับ!”

เมื่อมั่วฝานได้ยินเช่นนั้น ครั้งนี้กลับให้ความร่วมมือแล้ว

ไม่ใช่เขาไม่อยากเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรู แต่เขาตระหนักถึงฝีมือของตนดี ดังนั้น ไม่ไปเป็นตัวถ่วงให้พวกเขาดีกว่า

ในค่ายทหารของเผ่าหมาน หลัวซู่กำลังคำรามใส่หลิงเซี่ยวเฟิงว่า “เจ้าบอกว่าจ้านเฉิงอิ้นจะต้องติดกับแน่?”

“ยามนี้เล่า? เขาไม่เชื่อแม้แต่น้อยเลยต่างหาก แถมยังเหลือแผนสำรองไว้ด้วย!”

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า จ้านเฉิงอิ้นมาช่วยเหลือสวีหวย ยังเอาระเบิดจำนวนมากมาด้วย

พลธนูจำนวนนับไม่ถ้วนซุ่มโจมตีพวกเขา ไม่เพียงไม่อาจทำร้ายคน ยังเปิดเผยตำแหน่งที่ซ่อนกองกำลังหลักของพวกเขาอีก

หลัวซู่มองบรรดาทหารที่ถูกระเบิดจนวิ่งหนีไปทั่ว แล้วตะโกนเสียงดัง

“จงหยุดให้ข้าทุกคน…”

หลิงเซี่ยวเฟิงเห็นกองทัพเผ่าหมานไร้วินัย เมื่อเสียงระเบิดดังขึ้นมา หากไม่หมอบลง ก็ล้วนจ้ำอ้าววิ่งหนี

เขารู้สึกผิดหวังอย่างสิ้นเชิง

ยังคิดว่าสามารถอาศัยกองทัพเผ่าหมานในการสังหารจ้านเฉิงอิ้นได้

เป็นเขาหวังมากเกินไปแล้ว

กองทัพที่ขาดระเบียบว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 247

    ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกำลังฆ่าฟันอย่างเมามันกองกำลังกลุ่มหนึ่ง กำลังถอยออกทางด้านหลังของเนินเขาไปอย่างลับ ๆ ไร้ซุ่มเสียงพวกเขามีกันจำนวนมาก ต่างขี่ม้าศึก มิได้วิ่งหนีอลหม่านเหมือนทหารชาวหมานแต่กลับกำลังล่าถอยอย่างมีระเบียบ!มั่วฝานส่งอากาศยานไร้คนขับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อยเขาเห็นชัดแล้ว เป็นคนแคว้นฉีกับคนแคว้นฉู่ชาวฉู่และชาวฉีล้วนเป็นชาวฮั่น ลักษณะหน้าตาไม่เหมือนเผ่าหมาน ต่อให้เป็นยามค่ำคืน ก็แยกแยะได้ง่ายผู้นำกองกำลังที่อยู่ตรงกลาง มั่วฝานมองเพียงครั้งเดียวก็จำได้ทันทีว่าคือหลิงเซี่ยวเฟิง!ทิศที่พวกเขากำลังหนีไป คือประตูฝั่งทิศตะวันตกของด่านเจิ้นกวนพวกเขาคิดจะถือโอกาสที่เผ่าหมานกำลังถ่วงจ้านเฉิงอิ้นไว้ ไปโจมตีประตูฝั่งทิศตะวันตกของด่านเจิ้นกวนที่อยู่ใกล้ที่สุดเจียงหยวนก็กำลังมองภาพจากกล้องสอดแนมเช่นเดียวกัน“หลิงเซี่ยวเฟิงกับฉีซวนเหิง จะลอบโจมตีด่านเจิ้นกวน…”แคว้นฉู่ยังมีกำลังพลอีกสามหมื่นนาย ส่วนแคว้นฉีคลับคล้ายมีหกถึงแปดหมื่นเมื่อรวมกันแล้วก็ประมาณแสนคนแม่ทัพใหญ่แห่งด่านเจิ้นกวนดูเหมือนจะนำทหารมาแค่หกพันนาย แต่แท้ที่จริงแล้วคือสองหมื่นกว่าคนเฉินขุย เฉินอู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 248

    บนร่างมีลูกศรบาง ๆ ดอกหนึ่ง แทงทะลุปีกไปติดอยู่บนร่างของมันแต่ต่อให้ยากลำบากถึงเพียงนั้นมันก็มิได้ตกลงสู่พื้น แต่บินกลับมาเมื่อจวงเหลียงเห็นกระบอกไม้ไผ่เล็ก ๆ ที่ผูกอยู่บนขาของมัน สีหน้าก็ตกใจอย่างรุนแรงทันทีเขารีบถอดกระบอกไม้ไผ่ลงมา แล้วก็ได้เห็นกระดาษข้อความของมั่วฝานจวงเหลียงออกวิ่งอย่างรวดเร็วทันที เขานำกระดาษข้อความไปมอบให้หลินต้าจวิน อู๋ซานหลางและคนอื่น ๆ…ในบรรดาแม่ทัพไม่กี่นาย มีเพียงหลินต้าจวินที่มีประสบการณ์ในการรบสูงอยู่บ้างเขาเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านมาสิบปีแล้วเขาทำการตอบสนองทันที ย้ายทหารไปป้องกันที่ประตูทางทิศตะวันตกประตูเมืองทางทิศเหนือเหลือทหารที่เคยผ่านศึกไว้ประมาณร้อยนาย เพื่อสั่งการให้เหล่าชาวบ้านช่วยกันปกป้องเมืองพวกเขาวิ่งไปตลอดทางจนถึงประตูทางทิศตะวันตกในเวลานี้ กองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉี กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ด้านล่างของประตูตะวันตกคนจำนวนหนึ่งแสนนาย กำลังโจมตีเมืองอย่างดุเดือดพวกเขามิได้ใช้รถกระทุ้งกำแพงเมือง แต่ใช้ท่อนไม้ที่หนาและใหญ่ท่อนหนึ่ง คนจำนวนหลายร้อยคนร่วมกันกระแทกประตูตะวันตกอย่างแรงแม้ประตูเมืองทางทิศตะวันตกจะเป็นประตูเหล็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 249

    จำนวนคนที่จ้านเฉิงอิ้นฆ่า เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วด้านล่างกำแพงเมือง ทหารฉู่ที่ยังมีชีวิต เหลืออยู่ไม่กี่คนแล้วต่อให้หลิงเซี่ยวเฟิงจะทำใจไม่ได้เช่นไร การจากไปก็ทำไม่ได้แล้วเพราะหน่วยดาบม่อเตา ได้ฟันบันไดไม้ไผ่หลายสิบอันนั้นล้มลงแล้วเหลืองเพียงสามอันสุดท้าย ที่เหลือไว้เพื่อให้คนของจ้านเฉิงอิ้นปีนขึ้นกำแพงเมืองได้สะดวก!จ้านเฉิงอิ้นยังพาหน่วยปืนล่าสัตว์กลับมาด้วยทันทีที่มีผู้เป็นภัยกองทัพตระกูลจ้าน ภายใต้แสงไฟสว่างเจิดจ้าบนกำแพงเมือง ก็ราวกับว่าทุกหนึ่งนัดจะมีหนึ่งคนล้มลงไปจ้านเฉิงอิ้นยังนำระเบิดกลับมาอีกด้วยใต้กำแพงเมือง เสียงระเบิดดังขึ้นตรงนั้นทีตรงนี้ทีไม่หยุดหย่อนหลังใช้เวลาไปหนึ่งชั่วยาม กำลังพลของแคว้นฉู่และฉีใต้กำแพงเมือง แทบจะถูกจ้านเฉิงอิ้นล้างบางไปหมดแล้วเมื่อฉีซวนเหิงเห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง ก็ไม่สนใจแม้แต่หน่วยกล้าตายที่ขึ้นไปบนกำแพงเมืองแล้วเขารีบพากองทหารพ่ายศึกชุดสุดท้าย ที่เหลืออยู่ราวหมื่นคนล่าถอยไป หลบลี้หนีหายไปอย่างรวดเร็วเขากลัวแล้ว รักษาชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ!กองทัพแคว้นฉู่ที่เหลืออยู่ย่อมไม่อาจต้านทานการประหัตประหารของจ้านเฉิงอิ้นได้ในไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 250

    ทหารที่นอนอยู่บนพื้น ส่งเสียงตอบรับทันทีล้วนขึ้นม้าอย่างพร้อมเพรียงกันผู้ที่ไม่มีม้า ก็วิ่งไปพร้อมกับกองทัพชาวบ้านที่ยังอายุน้อยอยู่หน่อย ก็หยิบธนูทดกำลังติดตามกองทัพออกจากเมืองไปด้วยจ้านเฉิงอิ้นจึงนำกำลังพลจำนวนสองหมื่นนาย ขี่ม้ากลับมายังจุดที่ทำการต่อสู้กับกองทัพเผ่าหมานอีกครั้งหลังจ้านเฉิงอิ้นจากไป สถานการณ์การรบก็เลวร้ายเป็นอย่างมากเฉินขุยกับเฉินอู่ที่เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ร่วมกันต่อสู้กับหลัวซู่อย่างรู้ใจ ทว่า มิเพียงไม่ได้เปรียบกลับยังถูกฟันจนเกิดบาดแผลไปทั่วทั้งตัวด้วยพวกเขาสวมชุดเกราะกันกระสุนรุ่นใหม่ล่าสุดแต่ดาบของหลัวซู่หนักหน่วง แม้เสื้อกันกระสุนและชุดเกราะจะสามารถป้องกันการเกิดบาดแผลภายนอกได้ แต่เมื่อดาบฟันลงมา ก็ยังคงถูกน้ำหนักอันรุนแรงกระแทกจนซี่โครงหักคนทั้งสองได้รับบาดเจ็บไม่เบาส่วนทหารที่เหลือหมื่นกว่านาย แบ่งเป็นกลุ่มละสามคน ต้านทานเผ่าหมานไว้อย่างยากลำบากจนกระทั่ง จ้านเฉิงอิ้นนำกำลังพลสองหมื่นคนที่เหลืออยู่ในเมือง บุกสังหารกลับมาหลัวซู่จึงรู้ว่า หลิงเซี่ยวเฟิงและฉีซวนเหิง พวกเขาโจมตีเมืองล้มเหลวแล้วไม่เช่นนั้น จ้านเฉิงอิ้นไม่มีทางกลั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 251

    จ้านเฉิงอิ้นมองดูหน้าจอ กำลังคนและม้าของสวีหวยสวมอุปกรณ์เต็มตัว มุ่งหน้ามาอย่างกระตือรือร้นออกหน้าในกองทัพตระกูลจ้านมีทหารบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย ถ้ากลับเข้าเมืองเกรงว่าคงไม่ทันจ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋ว “ยังมีระเบิดอีกเท่าไหร่?”ซ่งตั๋วตอบ “ไม่มีแล้วขอรับ! ตอนระเบิดทหารเผ่าฉู่และฉีสองกองทัพที่ใต้ประตูเมือง ถูกใช้จนหมดแล้วขอรับ!”เขากำลังมองหน่วยหน้าไม้ราชวงศ์ฉินพวกเขาชักคันธนูตลอดทั้งคืน เหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหวนั่งอยู่ที่พื้นทุกคน มีบางคนถึงกระทั่งนอนหลับไปเรียบร้อยหน่วยดาบม่อเตาเหนื่อยล้ายิ่งกว่า ล้วนนอนกองอยู่กับพื้นไม่สนใจนองเลือดในพื้นทรายและศพทหารเผ่าหมานที่นอนเกลื่อนกลาดพวกเขาเหนื่อยมาก เหนื่อยมาก ๆ !ครั้นรถสองคันจอดนิ่ง ทหารยิงธนูทดกำลังบนรถ กระบอกใส่ลูกธนูล้วนว่างเปล่าไม่มีเหลือจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “พยุงผู้บาดเจ็บขึ้นรถแล้วส่งกลับไป!”“คนทั้งหมด สองคนควมม้าหนึ่งตัว คนร่างผอมหน่อยสามคนควบม้าหนึ่งตัว…แล้วกลับเมือง!”มั่วฝานถาม “ทันการณ์หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นส่ายศีรษะ ตอบกลับตามจริง “ไม่ทันการณ์แล้ว!”ทหารที่เตรียมขี่ม้าในตอนแรก หยุดขี่ม้าทั้งหมดทันที!“เช่นนั้นจะทำอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 252

    “วู้ฮู้…”ชาวบ้านนับไม่ถ้วนปรบมือร้องดีใจ!เฉินขุยอยู่ข้างหลังแม่ทัพ ชูลำโพงประกาศเสียงขึ้นสูงพร้อมเปิดซ้ำตลอดทาง“กองทัพตระกูลจ้านชนะแล้ว กองทัพเผ่าฉู่ตายเกลี้ยง กองทัพรเผ่าฉีเผ่นหนี ชนเผ่าหมานวิ่งหนี…”“ด่านเจิ้นกวนของเราเป็นอิสระแล้ว!”“ด่านเจิ้นกวนเป็นอิสระแล้ว!”“แม่ทัพใหญ่องอาจห้าวหาญ!”“แม่ทัพเฉินขุยองอาจห้าวหาญ!”“กองทัพตระกูลจ้านองอาจห้าวหาญ!”พลเมืองนับไม่ถ้วนหัวเราะเสียงดังมีความสุขกลุ่มเด็ก ๆ ดีใจกระโดดโลดเต้น“พวกเราสามารถแผ่ขยายได้แล้ว สามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้แล้ว!”กลุ่มคนสูงวัยต่างคุกเข่า กราบไหว้ต่อสรวงสวรรค์“เทวดาฟ้าสวรรค์ ทรงเปิดตาเสียที ให้แม่ทัพชนะศึกสงคราม ด่านเจิ้นกวนจะไม่ถูกปิดล้อม พวกเราสามารถมีชีวิตรอดและเดินออกไปได้แล้ว!”กลุ่มผู้หญิงใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา หนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นห่วงว่าด่านเจิ้นกวนจะถูกบุกทะลวงกังวลว่าจะถูกชนเผ่าหมานลากไปทำเป็นอาหารเนื้อคนความรู้สึกทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวลเช่นนี้ ในที่สุดก็จบลงเสียที!กลุ่มบุรุษส่งคืนธนูทดกำลังด้วยสองมือเสร็จ พอหันหลังก็ปาดน้ำตาเงียบ ๆ !กลุ่มพลเมืองถึงแม้ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมการรบแต่มี

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 253

    จ้านเฉิงอิ้นสวมเสื้อยาวขาวดุจหิมะ มีลายพิมพ์ต้นไผ่อยู่ตรงหัวไหล่ของเสื้อยาว ใบไผ่ประดับตรงปลายแขนเสื้อ ช่วงเอวเหน็บเครื่องประดับทรงกลมไว้เขาเดินออกจากจวนแม่ทัพ ราวกับท่านชายฟ้าหลังฝน!ตรงทางเข้าประตูจวนแม่ทัพ เขาเดินผ่านพลเมืองสองสามคนทุกคนเคยชินกับแม่ทัพผู้สวมชุดเกราะอย่างวีรบุรุษ น้อยครั้งที่จะเห็นเขาแต่งตัวเช่นนี้คนตรงหน้าคือชายหนุ่มรูปหล่อรวบผมหางม้าสูง ใบหน้าเรียวผอมราวมีดเล่มยาว ดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นแม่ทัพที่สังหารศัตรูในสนามรบมาแล้วจำนวนนับไม่ถ้วนเถียนฉินจูงม้าขาวเดินเข้ามาจ้านเฉิงอิ้นพลิกตัวขึ้นหลังม้าอย่างกระฉับกระเฉงและเริ่มขี่ม้าจากไปพลเมืองข้างนอกจวนแม่ทัพมองยิ้มแย้มดูนั่น ชายหนุ่มจิตใจฮึกเฮิมผู้นั้น คือหนิงกวนโหวผู้กำจัดสองกองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉีและขับไล่ชนเผ่าหมานออกไปจ้านเฉิงอิ้นขี่ม้ามาถึงค่ายทหารพื้นที่ว่างในค่ายทหารถูกวางเต็มไปด้วยโต๊ะเก้าอี้วันนี้ ไม่เพียงแต่เป็นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของกองทัพตระกูลจ้านแต่ยังเป็นงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของชาวเมืองทั่วทั้งเมืองอีกด้วยพลเมืองทั่วทั้งเมืองมาร่วมยินดีทุกคน!ครั้นพ่อครัวไม่เพียงพอ พวกชาวบ้านจึ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 254

    นายทหารหนึ่งในนั้นกลับยกกาน้ำแล้วเริ่มดื่มน้ำเนื่องจากดื่มเร็วและรีบเกินไป น้ำจึงไหลตามมุมปากลงมาที่ลำคอและทำให้คอเสื้อเปียกเขาไม่ประหยัดน้ำแม้แต่น้อย!จวบจนวินาทีนี้ ทุกคนจึงมั่นใจว่าในเมืองด่านเจิ้นกวนมีน้ำ มีเสบียง…นายทหารข้างล่างกำแพงเมือง เผยดวงตาอันแดงก่ำพวกเขาแทบอดไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วแย่งน้ำมาดื่มเองแย่งข้าวสารของพวกเขาแล้วกินเข้าไปเอง!พวกเขาอยากดื่มน้ำ อยากกินเนื้อมากจริง ๆที่ทำเกินไปยิ่งกว่านั้น โต๊ะที่ห่างจากกำแพงเมืองโต๊ะนั้น มีทหารหนึ่งคนถือกะละมังเคลือบเซรามิกไว้อันหนึ่ง ข้างในมีข้าวหุงสุกข้าวหุงสุกเป็นเม็ด ๆ ชัดเจน พวกเขาใช้กะละมังเคลือบเซรามิกที่ใหญ่กว่าหม้อมาใส่ข้าว และราดเต็มไปด้วยเนื้อกับผักเขานั่งยองบนกำแพงเมือง ใช้ตะเกียบหนึ่งคู่ปัดเข้าปากอย่างเต็มกำลังเขากินอย่างรวดเร็วและรีบเร่ง…จนนายทหารข้างล่างที่ทอดมองมา พากันกลืนน้ำลายไม่หยุดถ้าสามารถบินได้ พวกเขาจะบินขึ้นบนกำแพงเมืองและแย่งข้าวหุงสุกกะละมังนั้นมาจากเขาให้จงได้ทหารชั้นผู้น้อยที่เฝ้าเมืองคนนี้ เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อันเนื่องจากจ้านเฉิงอิ้นเดินทางไปกลับเมื่อคืนเขาเหนื่อ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 701

    แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 700

    นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 699

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 698

    อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 697

    “รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 696

    พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 695

    ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 694

    พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status