Share

บทที่ 216

Author: มู่โร่ว
หลังเหอหงจากไป เฉินขุยก็เข้ามาในกระโจม กล่าวกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “วันนี้ มีคนมาจากค่ายทหารของสวีหวยห้าร้อยกว่าคนขอรับ ล้วนเป็นสตรี คนชรา และเด็ก อดทนต่อแสงอาทิตย์แรงกล้า เดิน ๆ หยุด ๆ ตากแดดเป็นวันกว่าจะมาถึงด่านเจิ้นกวน…น่าสงสารมากเลยขอรับ!”

จ้านเฉิงอิ้นถามเขาว่า “จัดหาที่อยู่ให้คนพวกนี้เรียบร้อยหรือยัง?”

“ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ ฮูหยินของข้าทำงานเชื่อถือได้ขอรับ”

จ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า “ทางด้านสวีหวยยังไม่มีทหารมาหรือ?”

เฉินขุยส่ายหัว

เขาก็ประหลาดใจเช่นกัน วันนั้นลำโพงประกาศเสียงก็ประกาศออกไปอย่างชัดเจนแล้ว

แต่ทหารพวกนั้นถึงกับไม่หวั่นไหว!

หรือว่าสวีหวยออกคำสั่งเด็ดขาด ขอเพียงเป็นผู้ทรยศออกจากค่ายทหาร ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกประหารสถานเดียว?

จำนวนทหารของด่านเจิ้นกวนมีน้อย นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาปวดหัวที่สุดมาโดยตลอด

ส่วนการรับทหารเพิ่มจากชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนนั้น ขอเพียงเป็นผู้ที่สามารถเข้าร่วมกับกองทัพได้ ก็ล้วนมากันหมดแล้ว

ทว่าถึงอย่างไรจำนวนก็มีจำกัด

“ชาวฉู่ที่ครั้งก่อนรับมาสองพันคน เวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

คนพวกนี้ มีอู๋ซานหลางเป็นผู้ควบคุมมาอยู่ตลอด

ในตอนที่ลอบโจมตีทัพแคว้นฉู่ยามร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
สุดใจ ใจกล้า
ขาดตอนจร้ากระสับกระส่ายคิดถึงคนที่ด่านกำลังลุ้นเลยนักเขียนสู้ๆนะค๊ะผักผ่อนด้วยล่ะเดี๋ยวจะป่วยไข้ไปพวกเราจะไม่ได้อ่านต่อค่ะ
goodnovel comment avatar
Surirat Yui Chompoo Kampi
งู้ยยยยย....น่ารักมากเลยมู่มู่ เธอคิดถึงแต่ผู้อื่นตลอด จ้านเฉิงอิ้นไม่รักเธอก็ไม่รู้จะไปรักใครที่ไหนแล้วล่ะ และไรท์อย่าลืมดูแลสุขภาพตนเองด้วยนะคะ รักไรท์เสมอค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 217

    จ้านเฉิงอิ้นเรียกตัวมั่วฝาน จวงเหลียง และเจียงหยวนมา…คนทั้งสามกำลังเล่นอากาศยานไร้คนขับขนาดใหญ่อยู่ เล่นอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจยิ่งทดลองขนย้ายน้ำ ขนย้ายอาวุธ และบินไปที่บริเวณใกล้ค่ายทหารของสวีหวยจากนั้นก็เห็นที่ค่ายทหารของสวีหวย มีคนนับพันกำลังออกเดินทางอย่างเอิกเกริกที่มาในครั้งนี้มิได้มีเพียงอิสตรี แต่ยังมีทหารที่เสื้อผ้าเก่าขาดกะรุ่งกะริ่งด้วยมั่วฝานนำข่าวไปบอกจ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นจึงให้เฉินขุยขึ้นม้า พ่วงเกวียนไม้ออกไปรับคนกองทัพตระกูลจ้านขาดแคลนกำลังทหาร ขอเพียงมีคนเต็มใจเข้าร่วมกับกองทัพ เขาล้วนยินดีต้อนรับท่านเทพบอกว่ายุทโธปกรณ์ชุดที่สองกำลังจะถูกส่งมาแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณสามวันครั้งนี้ มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉินห้าพันคัน และปีกลูกธนูอีกหนึ่งล้านห้าแสนชิ้นดาบม่อเตาสามหมื่นเล่ม และชุดเกราะอีกหนึ่งหมื่นห้าพันชุดโล่ห้าพันชิ้น และอาวุธอื่น ๆ เช่น หอก เกอ ง้าว อีกอย่างละหนึ่งพันชิ้นทันทีที่อาวุธชุดนี้มาถึง พวกเขาก็จะสามารถเป็นฝ่ายออกจากเมือง ไปท้าทายกองทัพของแคว้นฉู่และฉีทั้งสองแคว้นได้หลอกล่อศัตรูไปยังบริเวณที่ฝังระเบิดไว้ แล้วจุดระเบิด…แคว้นฉู่และแคว้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 218

    เฟิงหยวนเต๋อกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “อย่างไรกัน เจ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นแม่ทัพใหญ่ ที่อยู่ใต้คนเพียงผู้เดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่นอีกหรือ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่า การที่เจ้าสูญเสียกำลังพลไปถึงแปดหมื่นนาย ทำให้การเตรียมการหลายปีมานี้ของแคว้นฉู่ต้องสูญเปล่าไป?”“เจ้าไม่อยากยอมรับผลจากการพ่ายแพ้ ไม่ต้องการทนรับเพลิงโทสะของฉู่อ๋อง ผลประโยชน์ถูกเจ้ายึดครองไปหมดแล้ว แต่กลับไม่อยากแบกรับความรับผิดชอบ บนโลกใบนี้ จะมีเรื่องดีเช่นนี้ได้อย่างไร!”หลิงเซี่ยวเฟิงยังไม่ได้ขยับ ทว่าย้ายดวงตาจากราชโองการไปที่ใบหน้าได้ใจจนลืมตัวของเฟิงหยวนเต๋อเฟิงหยวนเต๋อหัวเราะเสียงดัง “ไม่เชื่อว่าฉู่อ๋องจะปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้หรือ? เหอะ ในยามที่เจ้าสามารถนำพาผลประโยชน์มาสู่เขา เขาย่อมเห็นเจ้าเป็นขุนนางคนโปรด”“แต่เมื่อเจ้าไร้ประโยชน์แล้ว เขาย่อมรังเกียจว่าเป็นตัวถ่วง!”“จงยอมรับความจริงเสียเถิด!”จากนั้น เขาก็กล่าวกับนายทหารที่อยู่หน้าประตูว่า “หลิงเซี่ยวเฟิงไม่ให้ความร่วมมือกับพระบัญชาของฉู่อ๋อง ปฏิเสธโองการพิพากษา”“ทหาร จับเขามัดเสีย!”ที่หน้าประตูปรากฏรองแม่ทัพสองนายในชุดเกราะขึ้นมา พวกเขามายืนนิ่งอยู่เบื้องหน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 219

    เขาเทน้ำลงจนเต็มขวดนมต่อหน้าชายฉกรรจ์ทั้งหลาย เสร็จแล้วยังดูดไปคำหนึ่ง แล้วทอดถอนใจออกมาอย่างชื่นชมว่า“ไม่ต้องบิดฝาขวดก็สามารถดื่มน้ำได้ ช่างสะดวกจริง ๆ!”“ถึงขวดล้ม ก็ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะหกออกมา ช่างออกแบบได้เลิศล้ำจริง ๆ!”พวกเฉินขุย เฉินอู่ และหลี่หยวนจงและคนทั้งหลาย รู้สึกว่าไม่อาจทนมองเจ้าตัวโง่งมสองตัวนี้อีกต่อไปแล้วไม่ได้การ ต้องรีบแต่งเมียให้พวกมันแล้วช่างน่าขายหน้าเสียเหลือเกิน!ยามที่มั่วฝานอยู่ในเมืองหลวง ก็ชมชอบการเที่ยวคณิกา เขาจึงมองวัตถุประสงค์ของจุกนมออกในครั้งเดียวเขากล่าวกับสองคนนั้นด้วยดวงตาที่แสดงความรังเกียจว่า “นี่เป็นขวดนมที่ใช้ป้อนให้ทารก พวกเจ้าโตขนาดนี้แล้ว ยังจะแย่งจุกนมของเด็กน้อย!”ซี๊ดเหอหงและเฉินจวิ้นหลินสีหน้าแดงก่ำในทันทีเหอหงรีบเทน้ำในขวดลงในชามเปล่า แล้วเก็บขวดนมเข้าไปในกล่องกระดาษเฉินจวิ้นหลินสีหน้าแดงก่ำ ลูบจมูกพลางมองไปทั่ว เพื่อลดความกระดากของตน!เฉินอู่ชื่นชอบชุดของเด็กทารกจนไม่อยากวางมือเสื้อผ้าตัวน้อยช่างน่ารักนัก สัมผัสนุ่มสบาย คุณภาพดีอย่างมากเขาถามจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านแม่ทัพ พวกนี้ล้วนเป็นของที่ท่านเทพมอบให้เหล่าพี่สะใภ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 220

    “ขอเพียงอาวุธชุดนี้มาถึง ท่านแม่ทัพ ข้า เฉินขุยผู้นี้ขอรับคำสั่งออกไปสังหารศัตรูขอรับ!”เหล่าแม่ทัพที่เหลือทั้งหลาย ต่างก็พากันคุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วประสานคำนับ “ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยยินดีนำทัพออกจากเมือง ไปรบกับกองทัพของแคว้นฉู่และฉีทั้งสองแคว้นให้ลือลั่นสักครั้งขอรับ!”“หากไม่อาจขับไล่แคว้นฉู่และแคว้นฉีออกไป แม้นตายก็ไม่ขอเลิกรา!”จ้านเฉิงอิ้นโบกมือ กล่าวกับพวกเขาว่า “ลุกขึ้นมาก่อน เรื่องนี้ไว้ปรึกษากันทีหลัง ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง…”เหล่าแม่ทัพนั่งกลับไปบนเก้าอี้ มองจ้านเฉิงอิ้นด้วยแววตาเจิดจ้าเป็นประกาย“ในตอนที่ผู้บัญชาการทัพแคว้นฉู่หมดสติ ฉู่อ๋องได้ออกสารลับหลายฉบับ เร่งให้เขายกทัพกลับเมือง”“แต่หลิงเซี่ยวเฟิงมิได้กลับไป เขาเพิกเฉยต่อสารลับพวกนั้น”“ฉู่อ๋องเกรี้ยวโกรธอย่างมาก จึงส่งเฟิงหยวนเต๋อ แม่ทัพใหญ่อีกคนหนึ่งมารับช่วงและควบคุมกำลังพลของกองทัพแคว้นฉู่”“ส่วนที่เหลือ…”จ้านเฉิงอิ้นมองไปที่มั่วฝาน แล้วกล่าวกับเหล่าแม่ทัพว่า “พวกเจ้าไปถามมั่วฝานเอา”ทุกคนพร้อมใจกันมองไปที่รัฐทายาทน้อยโดยมิได้นัดหมายทันทีมั่วฝานหยิบแท็บเล็ตออกมา เปิดคลิปที่ถูกถ่ายไว้ได้ออกมา“เฟิงหยวนเต๋อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 221

    สถานการณ์นั้นร้ายแรง เหล่านายทหารต่างมองเจียงหยวนเจียงหยวนพยักหน้า “ใช่ พวกเขาคือหน่วยกล้าตายที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี”เขาอธิบายแก่ทุกคน “พวกเขาเหน็บกระบี่ทุกคน ถ้าเป็นทหารทั่วไป จะพกดาบ เกอ หอก…อาวุธทหารแตกต่างกันไป สวมใส่ชุดเกราะ แบกหน้าไม้กับลูกธนูไว้ที่หลัง”“พวกเขาซ่อนมีดสั้นบริเวณขาและท้อง เหน็บกระบี่ตรงช่วงเอว เสื้อผ้าที่ทุกคนสวมใส่ถักด้วยผ้าไหม ไม่เคยมีการปะ มีบางคนกระทั่งห้อยจี้หยกไว้ตรงคอ”“คนกลุ่มนี้ร่ำรวยมาก พวกเขาไม่ใช่ทหารยากจนที่ต้องทำงานหนักเพื่อจุนเจือครอบครัว แต่เป็นหน่วยกล้าตายภายใต้การบ่มเลี้ยงของผู้มีอำนาจและร่ำรวยมากกว่า!”เหล่าทหารพยักหน้าเจียงหยวนพูดไม่ผิด เพื่อนร่วมอาชีพย่อมเข้าใจเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันแคว้นฉียกหน่วยกล้าตายหนึ่งร้อยคน ให้สวีหวยด้วยเหตุผลใด?จ้านเฉิงอิ้นอธิบายตอบในสิ่งที่ทุกคนสงสัย“สวีหวยรับคนกลุ่มนี้มาไว้ อีกไม่กี่วัน เขาจะนำกองทัพหนึ่งแสนนายเข้าสู่ด่านเจิ้นกวน แทรกหน่วยกล้าตายที่มีทักษะการต่อสู้ขั้นสูงเข้าไปในกองทัพ”“พวกเขาจะช่วยสวีหวยกำจัดคนต่างพวก เข้าควบคุมด่านเจิ้นกวน”“ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนไม่ให้ความร่วมมือ หน่วยกล้าตายกลุ่มนี้จะก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 222

    ศึกคราหน้าหรือไม่ตาย หรือไม่สะเทือนขวัญทั้งสามแคว้นต้าฉี่ไม่มีใครกล้าบุกโจมตีอีก!ถ้าชนะ ในหนึ่งร้อยปีไม่มีใครกล้าลงมือกับแคว้นต้าฉี่ถ้าแพ้ พวกเขาไม่เพียงแต่จะตายกันหมด พลเมืองในเมืองก็ตายด้วยครั้นบ้านเมืองแคว้นต้าฉี่ล่มสลาย ก็จะหายสาบสูญตลอดกาล!ดังนั้น พวกเขาจะพ่ายแพ้ไม่ได้!มั่วฝานพลันยืนขึ้น กล่าวอย่างโมโห “ข้าจะใช้เหยี่ยวส่งสาส์นไปยังไทเฮา กล่าวฟ้องสวีหวยสมคบกับศัตรูทรยศบ้านเมือง ให้ถอดยศตำแหน่งของเขาและไม่อนุญาตให้รับช่วงต่อด่านเจิ้นกวน”“กองกำลังหนึ่งแสนนั่นยกให้จ้านเฉิงอิ้นเป็นผู้บัญชาการ!”ถึงแม้ความคิดมั่วฝานดี แต่ไทเฮายังสำเร็จราชการแทนฮ่องเต้น้อยอยู่หนำซ้ำราชสำนักยังถูกควบคุมโดยเสนาบดีซู ฮ่องเต้น้อยเป็นเสมือนเพียงหุ่นเชิดสาส์นของไทเฮา ถ้าไม่มีการประทับตราแผ่นดินหยก สวีหวยตาแก่เจ้าเล่ห์ผู้นี้อาจไม่ยอมรับครั้นเวลานี้ไม่มีวิธีอื่น ก็ยื้อไว้จนสุดความสามารถไปก่อนมั่วฝานเขียนจดหมายทันที เขาปล่อยเหยี่ยวบินออกไปหนึ่งตัวทุกคนในกระโจมล้วนมีความรู้สึกหนักใจ หากเรื่องราวดำเนินต่อไปเช่นนี้วิกฤตด่านเจิ้นกวนไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการแก้ไข แต่ยังจะเลวร้ายลงอีกด้วยในทุ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 223

    เย่มู่มู่นั่งเบื่อหน่ายมากมายอยู่หน้าประตูโกดังชานเมืองวันนี้ลุงหยางกลับบ้านเกิดไปพักร้อนที่บ้านลูกสาว สองสามวันนี้จะไม่กลับมาถ้ามีของมาส่ง เย่มู่มู่ต้องไปเฝ้าที่โกดังตอนนี้ เย่มู่มู่กำลังรอเจ้าของร้านนำแท็บเล็ต หน้าจอ เครื่องมือไฟฟ้ามาส่งขณะกำลังรู้สึกเบื่อ เธอได้รับโทรศัพท์จากรองผู้อำนวยการจาง“มู่มู่ ผมกับนักวิจัยโบราณคดี พบว่าในถ้วยสิบใบที่คุณบริจาคให้พิพิธภัณฑ์ มีอยู่สองใบที่จ้านเฉิงอิ้นแม่ทัพใหญ่เคยใช้เมื่อยังมีชีวิต”“อะไรนะ จ้านเฉิงอิ้นเคยใช้?”เป็นไปไม่ได้~เธอได้แยกจานกระเบื้องออกเป็นหมวดหมู่ประเภทหมดแล้วมีการเคลือบเงา มีตัวหนังสือตรงก้นถ้วย ล้วนถูกเก็บไว้ชั้นบนสามร้อยสามสิบชิ้นที่เธอปล่อยขาย เป็นถ้วยแจกันสีกากีที่ไม่มีสีอื่นทุกชิ้นพูดตามตรง เธอมองไม่ออกเลยว่ามีความพิเศษอะไรรองผู้อำนวยการจางดีใจมากและกล่าวต่อ “ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแคว้นต้าฉี่ ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้บันทึกอย่างเป็นทางการ สิ่งที่ได้บันทึกไว้มากที่สุดคือเรื่องราวอันกล้าหาญของแม่ทัพหนุ่มจ้านเฉิงอิ้น ดังนั้น พิพิธภัณฑ์จึงจะเปิดแคว้นฉี่รอบพิเศษ โดยแนะนำจ้านเฉิงอิ้นเป็นหลัก…”“คุณ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 224

    “ข้าจะสลักศิลาจารึก สร้างศาลเทพให้ท่าน นำคุณูปการอันเกริกก้องของท่านสลักไว้บนศิลาจารึก”“ไม่ว่าผ่านไปสิบปี ร้อยปี พันปีก็จะมีคนจดจำท่าน”เย่มู่มู่ไม่มีความเห็นกับสิ่งนี้“เรื่องเล็กน้อยที่ข้าทำเหล่านี้ เมื่อเทียบกับเจ้าแล้ว ไม่มีค่าเลย!”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวไม่เห็นด้วย “ไม่จริง สำหรับข้ามีความหมายมาก ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าและเหล่านายทหารคงตายไปนานแล้ว”“เอาเถอะ ตามใจเจ้า ฝั่งของเจ้ามีภาพเหมือนหรือไม่ ถ้าไม่มีถ่ายรูปส่งมาให้ข้าที…”“ถ้าเจ้าไม่ส่งมาให้ พนักงานในพิพิธภัณฑ์จะดาวน์โหลดรูปจากออนไลน์ตามใจชอบ แล้วถือว่าเป็นเจ้า”“ข้างในพิพิธภัณฑ์ มีรูปคนแปลกหน้าแขวนอยู่ใต้ชื่อเจ้า ได้รับความเคารพจากคนรุ่นหลัง”“ถ้าเป็นข้า ข้าไม่สามารถยอมรับได้ หากมีใบหน้าธรรมดาไม่โดดเด่นหรืออัปลักษณ์น่าเกลียดของคนหนึ่งแขวนอยู่ใต้ชื่อข้า”จ้านเฉิงอิ้นตอบจดหมายกลับมา “ขอรับ ท่านเทพรอสักครู่ สาย ๆ ข้าจะถ่ายรูปส่งให้”“อืม ไม่ต้องเร่งรีบ เจ้าว่างแล้วค่อยถ่ายก็ได้”ไม่มีกระดาษข้อความเด้งออกจากแจกันอีกเย่มู่มู่ทำท่าหาวแล้วฟุบหลับไปบนโต๊ะเธอไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่ ท่ามกลางอาการสะลึมสะลือ เธอได้ยินเสียงแ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 682

    เมื่อเห็นเหวินเหลียนเยว่กำลังทำงานอยู่เขาก็เริ่มทำงานบ้าง!อาจเป็นเพราะครอบครัวของเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับการลงทุน หรือได้รับการถ่ายทอดมาในครอบครัว หรือไม่ก็อาจเป็นพรสวรรค์เขาให้เย่มู่มู่ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งก่อนครึ่งหนึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยี อีกส่วนหนึ่งเป็นบริษัทด้านการแพทย์และพลังงานเย่มู่มู่เพิ่งค้นพบว่า ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่บ้านเกิดของเธอจู่ ๆ ก็มีบริษัทหนึ่งผุดขึ้นมา ซึ่งมีธุรกิจทับซ้อนกับกลุ่มฟู่ลี่กรุ๊ปน่าแปลกที่บริษัทนี้ดำเนินกิจการได้ค่อนข้างดีจางเฉินซีกล่าวว่า “รายได้ของบริษัทนี้เพิ่มขึ้นสิบเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจบริษัทนี้เท่าไหร่ ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อหุ้น”“เมื่อรัฐบาลประกาศรายชื่อบริษัทสำคัญด้านพลังงานใหม่ ราคาหุ้นของบริษัทนี้จะพุ่งสูงขึ้น!”เขาแนะนำให้เย่มู่มู่ซื้อหุ้นของบริษัทนี้อย่างต่อเนื่องเย่มู่มู่จึงมอบบัญชีหุ้นให้เขาจัดการโดยตรงช่วงบ่าย พวกเขายังคงทำงานต่อ แต่เธอจำเป็นต้องออกไปข้างนอกสินค้าที่สั่งไว้เมื่อวานมาถึงแล้ว และส่วนหนึ่งถูกขนส่งไปยังโกด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 681

    จางเฉินซีหันกลับไปมองเหวินเหลียนเยว่ พลางยกนิ้วโป้งให้“กล้าทำเรื่องสำคัญขนาดนี้โดยไม่บอกที่บ้านก่อนเนี่ย... เธอมันแน่จริง ๆ”เหวินเหลียนเยว่ยกไหล่ “ก็ไม่นี่คะ ต่อให้พวกเขารู้ ก็ทำอะไรฉันไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมเธอถึงได้มั่นอกมั่นใจขนาดนี้นะ?”“ก็งานนี้ผู้อาวุโสมู่เป็นคนแนะนำให้ฉันเองนี่นา พวกเขาก็เป็นลูกศิษย์เขาทั้งนั้น จะกล้าขัดใจได้ยังไง?”จางเฉินซีได้แต่ตอบกลับอย่างขัดเขินว่า “สุดยอด!”ระหว่างขับรถ จางเฉินซีก็เหลือบมองหลูหมิงเป็นระยะหลูหมิงสวมชุดลำลองธรรมดา ๆ บนเสื้อยังมีโลโก้สามร้อยหกสิบองศา ติดอยู่ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบทั่วไปของรองเท้ายี่ห้อเท่อปู้ดูยังไงชุดนี้ก็ราคาไม่เกินห้าร้อยหยวน“น้องชายคนนี้ชื่ออะไรเหรอ?”หลูหมิงไม่ได้สนใจเขา รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดูเหลาะแหละไม่น่าไว้ใจความประทับใจแรกของเขาที่มีต่อจางเฉินซีจึงไม่ค่อยดีนักเย่มู่มู่แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “เขาชื่อหลูหมิง เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน!”“ว้าว! บอดี้การ์ดเหรอเนี่ย น้องหลูหมิงฝีมือเป็นยังไงบ้าง? ไว้เรามาประลองกันหน่อยไหม ฉันเองก็เคยได้สายดำเทควันโดนะ!”หลูหมิงที่เงียบมาตลอดทาง จู่ ๆ ก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 680

    หลังจากจางเฉินซีเซ็นสัญญาเข้าทำงานแล้ว เลขาที่ผู้อาวุโสมู่แนะนำไว้ก็มาถึงเดิมทีเย่มู่มู่คิดว่า จะเป็นประเภทเดียวกับเวินลี่ เป็นประเภทหญิงสาวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถรอบด้านผู้ที่มาเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้ากลมเล็ก ใส่แว่นตากรอบดำ สวมเสื้อฮู้ดสีขาว ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษานึกไม่ถึงเลยว่าเลขาจะอาศัยอยู่ในประเทศที่สวยงามในแถบยุโรปมาตั้งแต่เด็ก และเติบโตที่นั่นเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยการเมืองและกฎหมายจีนตะวันออก เรียนจบและเข้าทำงานที่สำนักงานกฎหมายชั้นนำ มีใบอนุญาตทนายความความสามารถของเธอสามารถเปิดสำนักงานทนายความได้ด้วยตนเองสาวน้อยคนนี้เป็นคนที่เงียบอย่างมาก หน้าตาน่ารัก และเป็นสาวน้อยที่สวยคนหนึ่งพอพวกเขาเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามเย่มู่มู่ไปเมื่อจางเฉิงซีมาถึงที่หน้ารถของเย่มู่มู่ ก็มองเห็นมายบัคแบบโบราณคันหนึ่ง จึงส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ“ฉันไม่ได้ขับรถสับปะรังเคที่เก่าขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย!”พอเขากล่าวจบ ก็ถูกคุณปู่เขกด้วยไม้เท้าอีกครั้ง“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ต้องขับแล้ว ให้มู่มู่ไป!”“คุณปู่ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่คุณแม่ซื

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 679

    จางเฉินซีร้องออกมาพลางกล่าวว่า “คุณปู่ คุณปู่โดนเธอล้างสมองยังไงกันครับ ถึงกับให้หลานแท้ ๆ ไปเป็นผู้ช่วยให้เธอ!”ผู้อาวุโสจางโกรธเสียจนเอาไม่เท้าไปเคาะที่ศีรษะของหลานชายคนเล็ก“แกเงียบปากไปเลย แกจะรับปากหรือไม่รับปาก?”“งั้นผมต้องรู้ก่อนว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอ!”แน่นอนว่า เขาไม่ได้ไม่ชอบเย่มู่มู่ ผู้เธอเป็นผู้หญิงที่สวย รูปร่างหน้าตาสมบูรณ์แบบมาโดยกำเนิด ไม่เหมือนกับความงามประดิษฐ์ที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้บุคลิกดี สะอาดใสบริสุทธิ์ทำงานเคียงข้างหญิงสาวที่สวยแบบนี้ คงอารมณ์ดีมีความสุขทุกวันแต่ว่า แค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาละทิ้งชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อที่เป็นอยู่ในตอนนี้ผู้อาวุโสจางโขกศีรษะจางเฉินซีอีกครั้ง“แกดูตัวเองซิ วัน ๆ ไม่ทำอะไรสักอย่าง ในบัตรของแกมียอดเงินอยู่เท่าไร?”“แกเป็นคนแต่ทำตัวเหมือนหมาไม่มีผิด เอาแต่รูดบัตรเครดิตของพ่อแม่แก มูลค่าของทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของแกก็ติดลบ”“ลองดูมู่มู่ซิ วันนี้เธอโอนเงินหนึ่งหมื่นล้านไปที่บัญชีกองทุนส่วนบุคคล!”“แกเอาแต่พูดว่าอยากจะเข้าบริษัท อยากจะรับช่วงต่อจากพ่อกับแม่ของแก วัน ๆ เอาแต่คุยโม้โอ้อวด แค่เพื่อนเลว ๆ ของแกพวกนั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 678

    ไม่เช่นนั้นต่อไปพอทั้งสองคนแบ่งปันของดี ๆ กันแล้ว เขาก็คงจะไม่ได้อะไรทั้งนั้น! “เย่เย่ ตอนนี้คุณก็มีผู้จัดการกับมีเลขาแล้ว ขาดก็แต่ผู้ช่วย วางใจเถอะ ผมช่วยคุณเลือกผู้ช่วยเอาไว้แล้วละ!”“ผมให้คน ๆ นั้นเข้ามาแล้ว จะถึงในอีกครึ่งชั่วโมง ต่อจากนี้ไปหากมีเรื่องอะไร คุณให้ผู้ช่วยเป็นคนไปทำก็พอแล้ว!”เย่มู่มู่ “...”“การศึกษา ความสามารถในการทำงาน และประสบการณ์ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนที่พวกเขาแนะนำมา หากคุณไม่พอใจ จะส่งคืนและเปลี่ยนคนก็ได้!”เย่มู่มู่ครุ่นคิด คนของผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสมู่ต่างก็รับเอาไว้ทั้งหมดจึงไม่อาจปฏิบัติต่อผู้อาวุโสจางแตกต่างออกไปได้เธอพยักหน้า “ค่ะ งั้นก็มารายงานตัวได้เลย!”ผู้อาวุโสจางเผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง พลางเหลือบมองไปยังชายชราทั้งสองคนไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประมาณสิบกว่านาที ก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์บินอยู่บนท้องฟ้าเหนือบ้านพักตากอากาศของผู้อาวุโสสวี่เกิดความเคลื่อนไหวขนานใหญ่เมื่อเย่มู่มู่กับผู้อาวุโสทั้งสามคนออกมาดูก็มองเห็นเฮลิคอปเตอร์ลงจอดตรงลานจอดอย่างมั่นคง มีชายหนุ่มรูปงามสวมชุดนักบินคนหนึ่งลงมากจากภายในห้องโดยสารเขาถอดหมวกกันน็อก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 677

    ยังมีสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกไม่กี่อย่าง พวกเขาแบ่งสิ่งของร่วมกันของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งของของแคว้าต้าฉี่ แต่เป็นสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแคว้นไม่กี่แคว้นที่อยู่โดยรอบมีความล้ำค่าและเป็นสิ่งของที่มีคุณค่าทางการศึกษาวิจัยอย่างยิ่งเมื่อวานส่งขวัญขวัญให้ฟรี วันนี้ยังส่งของโบราณหนึ่งกล่องมาถึงหน้าประตูอีกสาวน้อยคนนี้รู้จักทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงใจ จนเป็นที่ชื่นชอบของชายชราทั้งหลายแน่นอนว่า ยอดรวมหลังจากการชำระเงินครั้งสุดท้าย เธอทำเงินได้มากกว่าสองหมื่นกว่าล้านบาทสิ่งของในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ยกตัวอย่างเช่นดาบประจำพระองค์ของฮ่องเต้าแคว้นฉี่ บนโลกนี้มีเพียงดาบประจำพระองค์เล่มนี้เท่านั้นที่มีอายุสองพันหกร้อยกว่าปี บวกกับงานฝีมือตกแต่งที่ประดับประดาด้วยอัญมณีได้อย่างสมบูรณ์แบบหากนำไปประมูล จะต้องมีมูลค่ามากกว่าห้าพันล้านบาทอย่างแน่นอนดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงรู้สึกว่าตนเองทำเงินได้มากแล้วเย่มู่มู่นำเงินหนึ่งหมื่นล้านบาทที่อยู่ในสองหมื่นสามพันล้านบาทให้กับผู้อาวุโสจาง ณ ตรงนั้น เพื่อลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล และให้ผู้อาวุโสจางเป็นผู้ทำการซื้อขายให้กับเธอแน่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 676

    ฝักดาบประดับด้วยอัญมณีล้ำค่า เมื่อดึงฝักดาบออก แสงสีเงินอันเย็นยะเยือกสะท้อนอยู่บนตัวดาบที่ตกแต่งด้วยไหมสีเงิน…ผู้อาวุโสจางอดรนทนไม่ไหว เมื่อหยิบเล่มนี้ดาบขึ้นมาก็มองเห็นด้านบนเขียนเพียงว่า ‘ดาบจงกั๋วกง ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ทรงพระราชทาน’ “ดาบเล่มนี้ฮ่องเต้แคว้นฉู่เป็นผู้ทรงพระราชทาน ฮ่องเต้แคว้นฉู่ทรงพระราชทาน!”“ฮ่าฮ่าฮ่า ได้ เรื่องของคุณผมจะจัดการให้เอง เตรียมเงินเอาไว้ห้าพันล้าน อย่างมากที่สุดครึ่งเดือนผมจะทำให้คุณได้กำไรเป็นเท่าตัว!”เย่มู่มู่ดีใจกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ “ขอบคุณมากค่ะผู้อาวุโสจาง!”ผู้อาวุโสสวี่มองดูดาบด้วยใจที่คันคะเยอ เขาก็อยากได้เหมือนกันนี่นาของที่ดีขนาดนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยจะมีของล้ำค่าอยู่ก้นหีบ ทั้งยังเอาเสื้อคลุมสองตัวมาปิดเอาไว้อีกหลอกลวงกันนี่นาผู้อาวุโสจางหัวเราะพลางกล่าวว่า “เบื้องหลังของเหล่าสวี่แข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก แม้ว่าผมจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็เป็นเพียงนักธุรกิจที่ไร้อำนาจเท่านั้น ไม่เหมือนกันกับเขา”“ก่อนที่จะเกษียณ ตอนที่เขาอยู่ที่กองทัพก็เป็นแบบนี้ ลูก ๆ ของเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในแวดวงธุรกิจ การเมืองแล้วก็การทหาร ทั้งยังเชื่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 675

    ผู้อาวุโสสวี่กับผู้อาวุโสจางรู้ดีว่าทำไมเย่มู่มู่ถึงได้ต้องการขายของเก่าดูเหมือนว่าเธอจะขาดเงินอย่างหนัก ต้องการเงินเป็นจำนวนมากว่ากันตามเหตุผลแล้ว ของโบราณที่เธอขายในช่วงสามเดือนมานี้ มีมูลค่าห้าหมื่นล้านบาทเข้าไปแล้วสาวน้อยเพียงคนเดียว ถึงจะใช้เงินเก่งแค่ไหน แต่จะใช้เงินหลายหมื่นล้านหมดภายในสามเดือนเชียวเหรอ?แต่ว่าเธอดันใช้จ่ายไปแล้ว!และก็ใช้ไปจนหมดแล้วด้วย!นี่ก็เอาของโบราณมาขายอีกหนึ่งกล่องแล้วเธอทำอะไรกันแน่?ถึงได้ใช้เงินเก่งขนาดนี้!ต่อให้ลงทุนในบริษัทไลฟ์ช่วยเหลือเกษตรกร บริษัทก็มีกำไร และกำไรก็ไม่ได้ต่ำด้วย สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองหลวง พวกต่างก็ลงทุนไปแล้ว เงินพวกนี้เพียงพอที่จะครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการเช่าอาคารเธอยังลงทุนในตลาดสินค้าเกษตรของหมู่บ้านและเมืองต่าง ๆ อีกด้วย ไม่กี่ล้านบาทนั่นก็เพียงพอแล้วต่อให้ลงทุนกับหน่วยขนส่ง หน่วยขนส่งใหม่ทั้งหมดบวกกับเงินเดือนและค่าน้ำมัน ห้าสิบกว่าล้านก็นับว่าสูงแล้วเธอทำอะไรกันแน่ชายชราทั้งสามคนต่างก็สงสัยเป็นอย่างมาก!ตอนนี้ เธอเอาของโบราณมาหนึ่งกล่อง บวกกับของขวัญที่ส่งมาเมื่อวานก็ถือว่าได้แสดงความความจริงใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 674

    และหลูซีจะถูกพวกเขาตราหน้าว่ามีภูมิหลังของครอบครัวในระดับที่ต่ำที่สุดแน่นอนว่าหลูซีไม่ถึงขั้นที่จะเกิดเรื่อง ด้วยฝีมือของเขา เย่มู่มู่เป็นห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเกิดเรื่องเสียมากกว่าดังนั้น จึงพยายามที่จะมารับไปส่งเขาเท่าที่จะทำได้และบอกกับนักเรียนคนอื่น ๆ ว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่มี แต่เขาแค่ไม่ยินยอมเท่านั้น!สาวน้อยน่ารักคนนั้นร่ำลาเย่มู่มู่ “พี่สาวลาก่อนค่ะ?”เย่มู่มู่ยิ้มพลางกล่าวว่า “ลาก่อน!”หลังจากที่หลูซีเข้าประตูโรงเรียนไปแล้ว เย่มู่มู่ถึงได้ไปเยี่ยมเยียนผู้อาวุโสสวี่เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของผู้อาวุโสสวี่...ว้าว คฤหาสน์ใหญ่มากจริง ๆ !ที่ดินในเมืองทุกตารางนิ้วล้วนมีราคาสูง คฤหาสน์ที่ใหญ่โตหรูหรา และครอบคลุมพื้นที่เกือบสิบไร่เช่นนี้ ไม่อาจวัดมูลค่าได้ภูเขาที่อยู่ด้านหลังของคฤหาสน์ พื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ ล้วนแต่เป็นของผู้อาวุโสสวี่ทันทีที่รถของเย่มู่มู่ขับเข้าประตู ผู้อาวุโสสวี่กับผู้ช่วยพ่อบ้านก็ออกมาตอนรับพร้อมกันเย่มู่มู่รีบลงมาจากรถสวี่หมิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอ กำลังถือกล่องไม้กล่องหนึ่งด้วยมือทั้งสองข้างลวดลายแกะสลักสไตล์โบราณบนกล่องไม้ ทำให้ดวงตาของผู้อาวุโสสวี่เป็น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status