Share

บทที่ 88

Author: กระจอก
last update Last Updated: 2024-08-05 19:06:33
“อืม ผมก็มีเรื่องจะคุยกับคุณพอดี”

ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างนิ่งเฉย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น โจวเทียนเฟิ่งก็ดีใจมากและรีบบอกที่อยู่ของตึกเฟิ่งให้ฉู่เฉินทราบ จากนั้นจึงกล่าวด้วยความเคารพ “ปรมาจารย์ฉู่ ฉันจะส่งคนไปรับคุณนะคะ”

ฉู่เฉินตอบกลับ และวางสายลง

อีกด้าน ตึกเฟิ่ง

ตึกเฟิ่งเป็นภัตตาคารขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเจียงจง สำนักเฟิ่งเป็นผู้สร้างขึ้นมา สถานที่สำหรับผู้บริโภคชั้นนำที่ผสมผสานด้านอาหาร ที่พัก และความบันเทิง

เพื่อต้อนรับฉู่เฉิน โจวเทียนเฟิ่งตั้งใจจัดงานเลี้ยง ทั้งยังเชิญคนจากต่างประเทศ และเชิญเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดจากทั่วประเทศมาจัดเตรียมอาหารให้เองกับมือ

มองโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร อีกทั้งสายตาที่เลื่อมใสของโจวเทียนเฟิ่ง อู๋กังยอดฝีมือของสำนักเฟิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ สีหน้าดูไม่ดีเป็นอย่างมาก

เขาไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักเฟิ่ง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้มาจีบโจวเทียนเฟิ่งอีกด้วย

ตอนนั้นเป็นเพราะเข้าหลงใหลท่าทีที่ไม่เหมือนใครของโจวเทียนเฟิ่ง ถึงตกหลุมรักเธอ เขาเต็มใจช่วยเหลือโจวเทียนเฟิ่งสร้างสำนักเฟิ่งจนมีในวันนี้ได้

แต่ในสิบปีที่ผ่านมานี้ โจวเทียนเฟิ่งกลับไม่แคร์
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 89

    “ครับ”แม้ว่าอู๋กังจะยอมจำนนต่อหน้า แต่เขาก็แอบเถียงในใจไอ้ฉู่ ฉันก็อยากจะเห็นจริงๆ ว่าแกจะเก่งขนาดไหนกัน!ผ่านไปสักพัก กูจะเปิดโปงต่อหน้าเจ๊เองว่าแกมันเป็นคนหลอกลวง เมื่อคิดได้เช่นนี้อู๋กังก็ส่งเสียงหึออกมาเบาๆ เขาวิ่งเข้าไปในห้องส่วนตัวกวักมือเรียกลูกน้องมาสองคน นำแผนที่ของบ้านใหญ่ตระกูลฉู่มอบให้“ไปรับตามคำสั่งของเจ๊ ไปรับปรมาจารย์ฉู่มา!”ลูกน้องสองคนที่ได้ยินเช่นนั้นรีบรับกระดาษนั่นมา พร้อมกับรับคำสั่งสามสิบนาทีผ่านไป ลูกน้องสำนักเฟิ่งสองคน จากนั้นเขาก็พาฉู่เฉินไปที่ประตูห้องเทียนจือในตึกเทียนเฟิ่ง และแสดงท่าทางแสดงความเคารพ พร้อมกับผายมือเชิญ “ปรมาจารย์ฉู่ เชิญด้านในครับ เจ๊รอคุณอยู่ในนี้นานแล้วครับ”ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย ผลักประตูเข้าไปมองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินแป๊ปหนึ่ง ลูกน้องหนึ่งในนั้นยักคิ้วขึ้นมา เขากระซิบกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ “นี่คือปรมาจารย์ฉู่ที่อายุน้อยนั่นใช่ไหม?”“ฉันว่าเขาดูเด็กกว่าฉันไปสามสี่ปีเลยนะ”เพื่อนที่อยู่ข้างๆ เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ไม่เห็นเหรอว่าเมื่อกี้สีหน้าของพี่อู๋แย่แค่ไหน? ฉันเดาว่าเด็กนี่ลำบากแล้วล่ะ”เมื่อได้ยินคำนี้ทั้งสองคนส

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 90

    อู๋กังอดทนกับฉู่เฉินมานานแล้วตั้งแต่ที่ฉู่เฉินเดินเข้ามา อู๋กังก็ไม่ถูกชะตาฉู่เฉินแล้วโจวเทียนเฟิ่งสละที่นั่งให้เขา มันเป็นเพียงมารยาทเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วตึกเฟิ่งก็คือถิ่นของสำนักเฟิ่งอยู่ดีหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จะไม่มีใครกล้านั่งที่หลักแน่นอน เพราะนั่นมันเป็นสิ่งต้องห้ามในโลกใต้ดินแต่ไอ้เจ้าหน้าจืดนี่มันช่างกล้า นั่งลงไปซะดื้อๆ แบบนั้นเขาอดทนแล้ว ใครใช้ให้โจวเทียนเฟิ่งเอาแต่ปกป้องไอ้หน้าจืดนี่ล่ะ? พอเมื่อพูดถึงซงหู่ ไอ้เจ้านี่มันก็เอาแต่แสร้งทำเป็นอำนาจบาตรใหญ่ พูดออกมาว่าเรื่องเล็กน้อยงั้นเหรอ?คำพูดแบบนี้ไอ้ฉู่มันก็พูดออกมาได้งั้นเหรอ?ในตอนนั้นกำราบซงหู่ พร้อมทั้งนำคนไปทำลายเหมิงหู่ถังกว่าสิบกว่าแห่งก็คืออู๋กังในขณะนั้น อู๋กังมีพลังกำลังภายในระดับพื้นฐานแล้วแต่ถึงอย่างนั้น การต่อสู้อันนองเลือดกับเหมิงหู่ถังก็ยังคงสดใหม่อยู่ในความทรงจำของอู๋กังในตอนที่เข้าสู้กับซงหู่นั้น ร่างกายได้รับบาดเจ็บจากคมมีดหลายจุด สุดท้ายก็เป็นเพียงชัยชนะอันหวุดหวิดไม่ได้เหมือนที่เขาพูดว่าชิวๆ เลยสักนิดผ่านไปก็หลายปีแล้ว ซงหู่พัฒนาไปถึงขั้นไหน แม้แต่อู๋กังก็ยังไม่สามารถเดาได้ที่จ

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 91

    “แต่ถ้าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมแล้วจะว่ายังไงอีก?”ฉึบ!สายตาหลายคู่ภายในห้องหันมาทางฉู่เฉินทันที ขนาดชายฉกรรจ์สี่คนที่เพิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องส่วนตัวก็สังเกตฉู่เฉินด้วยแววตาสงสัย อู๋กังย่อมเป็นยอดฝีมือที่คู่ควรเป็นอันดับหนึ่งในความคิดของพวกเขา ไม่เพียงแต่มีกล้ามเนื้อทั่งทั้งร่างและแข็งแกร่งทรงพลังแล้ว เขายังเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวในสำนักเฟิ่งที่บรรลุถึงกำลังภายในระดับสูง! ตามการแบ่งลำดับของผู้ฝึกยุทธ์ เรียงลำดับจากต่ำไปถึงสูงคือกำลังภายในเริ่มต้น กำลังภายในระดับต่ำ กำลังภายในระดับสูง สุดท้ายถึงเป็นปรมาจารย์! จากการทำความเข้าใจของฉู่เฉิน ปรมาจารย์เทียบได้กับการฝึกปราณชั้นสี่โดยประมาณ แต่ฉู่เฉินทะลวงถึงขั้นฝึกปราณชั้นห้ามานานแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ก็อยู่ในสภาพที่พร้อมจะบดขยี้โดยสิ้นเชิง แล้วเขาจะสนใจการยั่วยุของคนที่มีกำลังภายในระดับสูงได้อย่างไรแต่ความอดทนของฉู่เฉินก็มีขีดจำกัดเช่นกัน อู๋กังยั่วยุติดต่อกันสองครั้ง ฉู่เฉินเห็นแก่หน้าของโจวเทียนเฟิ่งเลยขี้เกียจสนใจเขาแต่ไม่ควรเกินสามครั้ง! ฉู่เฉินค่อย ๆ เชยตาขึ้นมาสังเกตอู๋กังและกล่าวว่า “ยังไงก็ได้ เพี

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 92

    อู๋กังกัดฟันกำหมัดสองข้างแน่น พูดกับโจวเทียนเฟิ่งด้วยสีหน้าไม่เต็มใจว่า “เจ๊! เมื่อกี้ผมแค่ประมาทไปชั่วคราว ถ้าเกิดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง...” “เถียงข้าง ๆ คู ๆ!” นัยน์ตางดงามของโจวเทียนเฟิ่งเบิกกว้าง ตำหนิด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ประมาทไปชั่วคราว? ขนาดฝาถ้วยนายยังรับไม่ได้เลย ต่อให้นายไม่ได้ประมาท นายจะทำอะไรได้อีก?” “ฉันไม่อยากทวนคำพูดเมื่อกี้ซ้ำเป็นรอบที่สองหรอกนะ!” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ อู๋กังก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้ แต่คำพูดของโจวเทียนเฟิ่งมาถึงขนาดนี้แล้ว หากเขายืนกรานต่อไปอีกก็เป็นการต่อต้านโจวเทียนเฟิ่งแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ อู๋กังก็ฝืนข่มกลั้นความโกรธในใจ เดินเข้าไปใกล้ฉู่เฉินแล้วคุกเข่าลงกับพื้นดังตุบก่อนจะกัดฟันกล่าวว่า “ขอโทษด้วยครับ”ฉู่เฉินกวาดตามองอู๋กังเหมือนขี้เกียจจะยุ่งกับเขาแล้วโบกมือเอ่ยว่า “ก็แค่นั้น”จากนั้นเขาก็หันหน้ามองไปทางโจวเทียนเฟิ่งอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “คุณรู้ที่อยู่ของซ่งหู่ไหม?”การจัดการกับซ่งหู สำหรับฉู่เฉินแล้วเป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นสำนักเฟิ่งมีความสำคัญมากต่อฉู่เฉินในเวลานี้ ยาบำรุงปราณจะสามารถเปิดตลาดชั้นสูงได้อย่

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 93

    ถึงอย่างไรการขอความช่วยเหลือแบบนี้ ถ้าเกิดไม่บอกกล่าวล่วงหน้าก็ยากจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ฉู่เฉินเกิดความระแวงได้ “ไม่เป็นไรครับ ถ้าเกิดเขาจัดการซ่งหู่ได้ก็ ผมก็จะได้ไม่ต้องออกแรงเอง” ฉู่เฉินไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เขาพูดกับโจวเทียนเฟิ่งอีกหลายประโยคแล้วก็วางสายโทรศัพท์ หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉู่เฉินก็ศึกษาค่ายกลในวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ต่อเพียงแต่ว่าระดับของเขาในตอนนี้ไม่เพียงพอ ดังนั้นค่ายกลที่สามารถศึกษาได้เลยมีจำกัดอย่างมาก อย่างไรก็ตามเคล็ดวิชาค่ายกลกันเสียงในนั้นกลับทำให้ฉู่เฉินค่อนข้างรู้สึกสนใจ ฉู่เฉินเขียนตัวอักษรโบราณสมัยราชวงศ์ฉินที่ซับซ้อนหลายตัวกลางอากาศตามที่บันทึกไว้ในนั้นแล้วก็สั่งเบา ๆ ว่า “ลุกขึ้น!” ตูม!พริบตานั้นเหมือนกับมีม่านแสงสีขาวระเบิดขึ้นทั่วทั้งห้อง แต่ก็เป็นแค่ชั่วแวบเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฉู่เฉินก็หาเครื่องบันทึกเสียงรุ่นเก่ามาปรับเสียงให้ดังที่สุดแล้วค่อยถอยไปที่ลานบ้านคิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ยินเสียงรอบ ๆ บริเวณเลยแม้แต่น้อย ประสิทธิผลของการกันเสียงดีมากจริง ๆ นอกจากนี้ฉู่เฉินยังค้นพบอย่างปาฏิหาริย์ว่าค่ายกลกันเสียงนี้ไม่เพียงสามารถเสียงได้เท่า

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 94

    จงอาหู่พาฉู่เฉินมาที่ห้องส่วนตัวหรูหราชั้นบนสุดของภัตตาคารตรงข้ามศาลาเจียงซิน เวลานี้โจวเทียนเฟิ่งกับอู๋กังรวมถึงหัวหน้าหลายคนของสำนักเฟิ่งต่างนั่งล้อมวงอยู่ในห้องส่วนตัว เมื่อเห็นฉู่เฉินมาถึง โจวเทียนเฟิ่งก็ลุกขึ้นมาต้อนรับก่อน “ปรมาจารย์ฉู่ เชิญนั่งเลยค่ะ”โจวเทียนเฟิ่งกล่าวจบก็รินน้ำชายื่นให้ฉู่เฉินด้วยตัวเอง คืนนี้โจวเทียนเฟิ่งสวมชุดกี่เพ้าผ่าสูงสีขาวลายดอกไม้แดง ขับเน้นทรวดทรงโค้งเว้าของเธอให้ดูเย้ายวนเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดหยกตรงหน้าอกสองลูกนั้น ดูไปแล้วยิ่งใหญ่อลังการมากขณะที่เธอยกขาขึ้นแล้ววางเท้าลงเผยให้เห็นชายลูกไม้สีชมพูวับ ๆ แวม ๆ ยิ่งสังหารผู้ชายนับไม่ถ้วน แม้แต่ท่อนไม้อย่างฉู่เฉินก็อดมองหลายครั้งไม่ได้แม้ว่าโจวเทียนเฟิ่งอายุเกินสามสิบแล้ว แต่เธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดลักษณะท่าทางเหมือนสาวเซ็กซี่รุ่นใหญ่ ทำให้หยุดปรารถนาไม่ได้ ผู้หญิงที่มีความเป็นผู้ใหญ่และแฝงไปด้วยออร่าของผู้มีอำนาจเช่นนี้ไม่ใช่คนที่พวกสาวสวยเยาว์วัยเหล่านั้นเทียบได้เลยภายใต้การขับเน้นของแสงไฟยามค่ำคืน โจวเทียนเฟิ่งดูงดงามราวกับงานศิลปะชิ้นหนึ่งจริง ๆ “คนแซ่ฉู่ นายมองอะไรน่ะ!”

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 95

    จินเจิ้นหลง!เจ้าของสำนักมวยทั้งสี่แห่งของเจียงจง ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์ระดับปรมาจารย์ที่มีอยู่ไม่กี่คนในเจียงจงด้วยแค่อำนาจกดดันน่าสะพรึงกลัวเฉพาะตัวผู้ฝึกยุทธ์ก็ทำให้ทุกคนในที่แห่งนี้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกกดดันอันน่ากลัวกันหมดแล้ว ด้านหลังเขายังมีลูกศิษย์เยาว์วัยสวมชุดนักดาบตามมาอีกสองคนแค่กลิ่นอายรอบตัวลูกศิษย์สองคนนั้นก็ไม่ด้อยไปกว่าอู๋กังเลยแม้แต่น้อย “คารวะท่านปรมาจารย์จิน!”“คารวะเจ้าสำนักจิน!” หลายคนที่นำโดยอู๋กังรีบลุกขึ้นประสานมือคำนับจินเจิ้นหลง โจวเทียนเฟิ่งก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน เธอเดินเข้าไปต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะผงกศีรษะเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าสำนักจิน ขอบคุณที่ให้เกียรติมานะคะ” จินเจิ้นหลงพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเย่อหยิ่งเย็นชา สายตาทอดมองไปที่ฉู่เฉินโดยไม่ได้ตั้งใจก่อนจะอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้แม้แต่เจ้าสำนักเฟิ่งก็ลุกขึ้นมาต้อนรับด้วยตัวเอง แต่ไอ้เด็กนี่ยังคงนิ่งเหมือนกับภูเขาไท่ซานเนี่ยนะ?“สหายน้อยคนนี้แตกต่างจากคนอื่นจริง ๆ”จินเจิ้นหลงเอ่ยเป็นนัยก่อนจะแค่นหัวเราะ มองฉู่เฉินอย่างละเอียดพลางกล่าว“คนแซ่ฉู่ นายยังกล้าทำตัวกำเริบเสิบ

    Last Updated : 2024-08-05
  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 96

    ฉู่เฉินดื่มน้ำชาหนึ่งอึกแล้วเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “ขอโทษด้วยนะครับ คุณยังไม่คู่ควรพอที่จะรู้ชื่อของท่านอาจารย์”นี่ไม่ใช่ว่าฉู่เฉินตั้งใจดูหมิ่นจินเจิ้นหลง แต่ว่าปรมาจารย์ตัวเล็ก ๆ อย่างเขายังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้นามอันยิ่งใหญ่ของราชันมังกรแห่งแดนเหนือจริง ๆ เพียงแต่ว่าคนรอบข้างกลับไม่คิดเช่นนี้ ในความคิดของพวกเขา ฉู่เฉินรนหาที่ตายเสียแล้วถึงแม้ว่าจินเจิ้นหลงเรียกนายว่าปรมาจารย์ แต่นายคิดว่าตัวเองเป็นปรมาจารย์ระดับเดียวกับเขาจริง ๆ เหรอ? หากนี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายแล้วเป็นอะไร? จินเจิ้นหลงหรี่ตา เขากัดฟันมองฉู่เฉินอย่างละเอียดแล้วกล่าวว่า “เหอะ ถึงแม้คนหนุ่มสาวต้องการแสดงความสามารถ แต่บางครั้งแสดงออกมากเกินกลับทำให้อายุสั้นลงได้นะ”อู๋กังก็แค่นเสียงเย็นเช่นกันแล้วเอ่ยกับฉู่เฉินด้วยสีหน้าดูแคลนว่า “คนแซ่ฉู่ นายรู้ไหมว่าคนที่อยู่ตรงหน้านายคือใคร? เขาคือยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ของเจียงจงเรานะ!” “ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเจ้าสำนักจินไม่อยากลดตัวมาคิดเล็กคิดน้อยกับคนไร้ชื่อเสียงเรียงนามอย่างนาย ตอนนี้หญ้าบนหลุมฝังศพของนายคงสูงสองฟุตไปแล้ว!”“ยังไม่รีบขอโทษเจ้าสำนักจินอีก!” ลูกศิษย์สองค

    Last Updated : 2024-08-05

Latest chapter

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 692

    “พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 691

    “ติ๊ง!”เวลานี้เอง ภายในสนามกีฬาเจียงจง หลี่จวิ้นเฟิงที่กำลังหลับตาพักผ่อนพลันได้ยินเสียงใสกังวานดังขึ้นข้างหูสำเร็จแล้ว!หลี่จวิ้นเฟิงลืมตาขึ้นฉับพลัน ท่าทางดูล้ำลึกจนยากจะคาดเดา เขายกเตาหลอมโอสถบนพื้นขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว แล้วเอ่ยปากพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ยาเทวดาสำเร็จแล้ว สามารถทดสอบผลลัพธ์ได้ทันที!”เมื่อสิ้นเสียงพูด หลี่จวิ้นเฟิงก็เปิดฝาเตาหลอมโอสถ ยาสีดำสามเม็ดกลิ้งจากเตาหลอมโอสถมาที่มือของหลี่จวิ้นเฟิงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็เลือกผู้โชคดีสามคนจากที่นั่งผู้ชมด้านล่างเวที ทั้งสามคนล้วนเป็นผู้สูงวัยอายุเกิดหกสิบปี นอกจากนี้ยังมีคนหนึ่งถือผลตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาล ป่วยเป็นโรคระบบหัวใจหลอดเลือดอย่างรุนแรง ใส่ขดลวดหัวใจไว้ในร่างกายสามอันแล้วหลี่จวิ้นเฟิงส่งยาในมือให้คนผู้นั้นหนึ่งเม็ดทันที แล้วยื่นน้ำแร่ไปให้อีกหนึ่งขวดผู้สูงอายุทั้งสามคนกินยาของหลี่จวิ้นเฟิงลงไปแล้ว อาการป่วยก็ดีขึ้นมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ผู้ป่วยอาการหนักที่สุดคนนั้น จากเดิมที่ถูกลูกชายลูกสาวประคองขึ้นเวที แต่หลังจากกินยาเข้าไปก็ยืดตัวตรง เดินลงจากเวทีด้วยตัวเอง เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนที่ก่อนหน้านี้วิพากษ์วิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 690

    แต่ยาลูกกลอนที่กระถางยาของเขาหลอมออกมาได้ก็สาเหตุมาจากยันต์อักขระเหล่านั้น ราวกับผลิตออกมาจากสายการผลิตไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติหรือคุณภาพของยาที่หลอมสำเสร็จ เทียบไม่ได้กับกระถางยาทองคำม่วงที่อยู่ในมือของฉู่เฉินแม้แต่น้อยหลี่จวิ้นเฟิงอดหัวเราะขำขันออกมาไม่ได้หลังจากเห็นกระถางยาที่ขึ้นสนิมในมือฉู่เฉิน จึงชี้ไปยังกระถางยาทองคำม่วงในมือฉู่เฉินพร้อมกล่าวขึ้น “คนแซ่ฉู่ ไม่ใช่ว่ากะอีแค่กระถางยาที่ดีกว่านี้หน่อยยังซื้อไม่ไหวหรอกนะ”“นี่เก็บสินค้าแผงลอยจากตลาดขยะที่ไหนมา ยังกล้าเอามาหลอมโอสถอีก ไม่กลัวคนกินแล้วตายหรือไง”ฉู่เฉินคร้านจะสนใจเขาเลยหยิบวัตถุดิบยาสองสามชนิดออกมาจากในกองสมุนไพร แล้วใช้มือเดียวบี้บดจนวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นผง จากนั้นจึงโยนผงยาที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ทิ้งไปขณะที่ผงสมุนไพรเข้าสู่กระถางยาทองคำม่วง ฉู่เฉินก็ถ่ายพลังวิญญาณมายังกลางฝ่ามือต่อจากนั้นเปลวไฟสีน้ำเงินเข้มก็ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เฉินราวกับเล่นกลหลี่จวิ้นเฟิงไม่กล่าววาจาใดอีก คว้าวัตถุดิบยาแล้วก็นำวัตถุดิบยาทั้งหมดใส่เข้าไปในกระถางยาเป็นไปตามที่อวี้ลู่คาดการณ์ไว้เลย ในกระบวนการหลอมโอสถทั้งหมด หลี่จวิ้นเฟิง

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 689

    “หรูเยียน ที่ลูกพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้างถ้าเป็นอย่างที่หลิ่วหรูเยียนพูดมาจริง ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าก็หลอกล่อเอาสูตรยาบำรุงปราณมาจากฉู่เฉินในช่วงที่ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ด ฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะได้มียาบำรุงปราณขายด้วยเช่นกันแล้วนี่?คิดเรื่องพวกนี้แล้วหลิ่วชิงเหอก็กลับมานั่งลงที่เดิม จากที่ตอนแรกกะจะลุกขึ้นเตรียมออกจากสนามแข่งขันนี้ไป“จริงแท้แน่นอน หลี่จวิ้นเฟิงบอกกับหนูเองเลยนะ อีกอย่าง ถ้าเขาไม่มั่นใจก็คงไม่เลือกการแข่งขันหลอมโอสถหรอกค่ะ”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางยิ้มชั่วร้ายแม้ฉู่เฉินชนะไปรอบหนึ่งแล้ว ยังไงการแข่งขันรอบสองก็ถือว่าเสมอกันขอแค่หลี่จวิ้นเฟิงชนะการแข่งขันรอบที่สาม ผลก็จะออกมาเสมอกันทุกคนฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จะไม่ขายหน้า และในทางตรงกันข้ามก็ยังได้รับความนิยมและประโยชน์โดยอาศัยการแข่งขันรอบที่สามนี้ด้วย ……อีกด้านหนึ่ง ถังจิ้งจือที่นั่งอยู่ตำแหน่งกรรมการก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป เยาะเย้ยกล่าว “ใช่แล้วยังไงล่ะ หรือว่าการแข่งขันรอบสามนี้ไม่ยอดเยี่ยมน่าชมหรอกเหรอ”“พวกคุณอย่าลืมซะล่ะ สามารถจัดการแข่งขันแพทย์แผนจีนตลอดทั้งปีนี้ได้ก็เพร

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 688

    หลินจื้อหงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาตบโต๊ะกล่าวเสียงดังลั่น“ท่านหลิน ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดคุณ!”ถังจิ้งจือเบะปากกล่าว “การแข่งขันแพทย์แผนจีนคราวก่อนก็จับฉลากได้ผู้ป่วยอาการแตกต่างกัน หรือใครจับได้โรคอาการรุนแรงก็ถือว่าคนนั้นชนะเหรอ?”“กฎก็เขียนชัดเจนอยู่แล้วว่าตัดสินจากการรักษา”“ไม่ใช่ความผิดของคุณหลี่ที่หยิบได้ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก็คงกล่าวได้ว่าคุณหลี่มีคุณธรรมสูงส่งโชคเข้าข้างเขาก็เท่านั้น”“ส่วนฉู่เฉินรักษาคนไข้โรคฝีหนองทั้งร่างนั้นหายได้ก็เป็นวาสนาของคนไข้รายนั้น ไม่ใช่ผลงานของฉู่เฉินฝ่ายเดียว ดังนั้นฉันคิดว่าการแข่งขันนี้ต้องตัดสินเสมอกันเท่านั้น”แม่ง!จางเสวี่ยเหยียนเริ่มเกิดความคิดอยากจะตบปากคน!ฮว่าจิ่วหยางสูดลมหายใจลึก ถึงยังไงพวกเขาไม่กี่คนก็ล้วนเป็นกรรมการ หากมีการทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ขึ้นมาระหว่างกรรมการด้วยกันเอง จะทำให้คนอื่นเห็นวงการแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องตลกฮว่าจิ่วหยางคิดแล้วก็หันหน้าไปกล่าวกับฉู่เฉิน “คุณฉู่ ไม่ทราบว่าคุณยอมรับคำตัดสินของท่านถังนี้หรือไม่” ฉู่เฉินยิ้มเยาะ มองสำรวจหลี่จวิ้นเฟิงและถังจิ้งจือ แล้วพยักหน้ากล่าว “ก็ได้ ถ้าผมไม่ยอมรับ เจ้าสอ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 687

    ยาสร้างกล้ามเนื้อดวงตาคู่งามของอวี้ลู่จดจ้องและจำเม็ดยาสีทองในมือฉู่เฉินได้ในทันทีก็เพราะยาสร้างกล้ามเนื้อในโลกเซียนราคาแพงลิบลิ่ว!ผู้ใดก็ตามที่มียาสร้างกล้ามเนื้อแค่หนึ่งเม็ดก็เท่ากับมีสองชีวิตเชียวและนักหลอมยาที่หลอมยาสร้างกล้ามเนื้อสำเร็จแทบนับนิ้วได้เลยในโลกเซียนด้วยเหตุนี้ยาสร้างกล้ามเนื้อแค่เม็ดเดียวก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นทรัพยากรล้ำค่าในการฝึกบำเพ็ญได้มหาศาลเช่นกันแต่ฉู่เฉินตัวดี กลับนำสิ่งล้ำค่าขนาดนี้ใช้กับหญิงวัยกลางคนเพียงเพื่อรักษาโรคฝีหนองนะหรือ?เสียของดีหมด!ช่างเสียของจริงๆ!ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนในนี้เยอะ อวี้ลู่คงคิดจะพุ่งขึ้นไปตบเจ้าฉู่เฉินสักป๊าบ!นี่มันไม่ใช่การสิ้นเปลืองหรอกหรือ?รู้แต่แรกว่าเจ้ารักษาไม่ได้ก็บอกข้าที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์สิ แค่ไอเซียนก็ทำให้นางฟื้นตัวเป็นปกติเช่นเดิมแล้ว ไยต้องสิ้นเปลืองยาสร้างกล้ามเนื้อไปหนึ่งเม็ดด้วย?ทุกคนประหลาดใจหญิงวัยกลางคนที่ร่างกายเต็มไปด้วยแผลฝีหนองอยู่ๆ ก็หายดีราวปาฏิหาริย์ในเวลานี้เองผิวของเธอซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งดำและหยาบกร้าน กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาใหม่ในขณะนี้ และแม้แต่ผิวหนังชั้นแรกที่อักเสบเป็นพิ

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 686

    เช่นเดียวกันที่ถังจิ้งจือหน้าเปลี่ยนสีไปมาบนเก้าอี้กรรมการผู้ป่วยที่รักษายากโดยแท้จริงแล้วมีเพียงแค่หญิงวัยกลางคนคนเดียวเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันล่วงหน้าจึงเขียนเลขหนึ่งร้อยสิบแปดในกระดาษฉลากทั้งหมดกล่าวได้อีกว่าไม่ว่าฉู่เฉินจะหยิบใบไหนผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม“โกงจริงๆ ด้วย!”“น่าละอายใจจริงๆ คนจากสำนักหมอมีสันดานอย่างนี้เองเรอะ?”ผู้ชมล่างเวทีและชาวเน็ตบนอินเทอร์เน็ตด่าทอหลี่จวิ้นเฟิงกันยกใหญ่ขนาดฟางอวี่เจิ้งก็หันไปมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยสายตาเกลียดชังราวกับมองศัตรูคู่แค้นแม่เอ๊ย ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนสินะ?กล้าเล่นตุกติกต่อหน้าฉัน!ฟางอวี่เจิ้งคิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเจียงไห่ตงทันทีไม่ว่าผลการแข่งขันวันนี้จะออกมายังไง ไอ้สุนัขเฒ่าถังจิ้งจือและสารเลวหลี่จวิ้นเฟิงอย่าได้คิดหนีเลยส่วนฉู่เฉินที่อยู่บนเวทีกลับไม่ได้สนใจรับฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบข้างสักนิด จับชีพจรหญิงวัยกลางคนพลางตกอยู่ในภวังค์ความคิดพูดตามสัตย์จริง การรักษาโรคฝีหนองสำหรับฉู่เฉินไม่ได้ยากเย็นเลยแต่หากรีบรักษาให้หายโดยเร็วคงต้องคิดวิธีที่พิเศษสักหน่อย“ขอน้ำแร่หนึ่งขวดให้ผมได้ไหม?”ฉู่เฉินก

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 685

    เชรด พลังบุญนี้ได้มาง่ายเกินไปแล้วไหม?ฉู่เฉินกะพริบตาแล้วหันไปแย้มยิ้มกล่าวกับกลุ่มฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนเป็นหมอควรกระทำ”หลี่จวิ้นเฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆฟังแล้วก็เยาะเย้ยกล่าว “ไอ้คนแซ่ฉู่ แม่งอย่าขี้คุยโวเลยแก ยังไม่ทันรักษา แกไปรู้ได้ไงว่าแกจะสามารถรักษาฝีบนผิวหนังของผู้ป่วยให้หายได้”“เหอะ วันนี้ฉันจะทำให้เอ็งคุกเข่าโขกหัวให้ฉัน!”หลี่จวิ้นเฟิงพูดจบแล้วก็เดินมายังข้างหน้ากล่องกระดาษ นิ่งไปชั่วครู่แล้วหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านข้าง “ต้องขออภัย ผมคิดว่ากล่องใบนี้ไม่มงคล เปลี่ยนกล่องใหม่ได้ไหม”หืม?ทุกคนจ้องมองหลี่จวิ้นเฟิงด้วยความแปลกใจ แต่ที่เขาเรียกร้องมาก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เปลี่ยนกล่องจับฉลากเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้ไม่นานก็มีคนยกกล่องจับฉลากอีกอันขึ้นมา“ผู้ป่วยลำดับที่สามสิบเจ็ด”เจียงถิงอ่านเลขลำดับพร้อมขมวดคิ้วมองไปทางกล่องที่ถูกเอาไปไว้ตรงขอบเวที ในนั้นต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่แน่นอนเวลาไม่นานก็ได้เห็นผู้ป่วยที่ติดแผ่นแปะบรรเทาหวัดที่หน้าผากหายใจทีไอทีก้าวเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว“นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! คุณฉู่รักษาโร

  • ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห   บทที่ 684

    โรคที่เธอเป็นอยู่ เธอรู้ดีว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ในเวลา ณ ตอนนี้งั้นก็หมายถึงฉู่เฉินต้องแพ้พนันอย่างแน่นอน แล้วยังต้องคุกเข่าโคกศีรษะให้คนแซ่หลี่อีกคิดได้ดังนั้น หญิงวัยกลางคนรีบเก็บข้อมือกลับมาแล้วลุกขึ้นกล่าว “คุณหมอ น้ำใจของคุณฉันรับด้วยใจได้ แต่...ฉันไม่อยากเป็นให้คุณลำบาก” “อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาขุดหลุมดักรอให้คุณกระโดดลงไป คุณอย่าได้รักษาฉันอีกเลย”ได้ยินคำพูดของหญิงวัยกลางคนแล้ว บรรดาผู้ชมนับหมื่นก็พากันพยักหน้าใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผู้ป่วยผิวหนังพุพองทั้งร่างจะไปรักษาให้หายทันทีในการแข่งขันนี้ได้ยังไงกันว่าก็ว่าเถอะ ขนาดฟางอวี่เจิ้งยังออกมายืนกรานตั้งข้อสงสัยเลย ขอแค่ฉู่เฉินพยักหน้า แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนหัวข้อการแข่งขันก็ยังสามารถเปลี่ยนผู้ป่วยคนใหม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ กดบ่าของหญิงวัยกลางคนให้เธอนั่งลง และเอามือไพล่หลังข้างเดียว กล่าวเนิบๆว่า “ถ้าเพื่อชัยชนะ ที่จริงผมจะเปลี่ยนคนไข้ก็ได้ หรือเปลี่ยนหัวข้อก็ได้” “แต่คนเป็นหมอต้องมีเมตตา” “ถ้าที่ผมพูดไม่ผิดละก็ คุณได้ฝากความหวังครั้งสุดท้ายกับการแข่งขันแพทย์แผนจีนครั้งนี้แล้ว ถ้าผมปฏิเสธที่จะรักษาคุณเ

DMCA.com Protection Status