เมื่อเห็นว่าไฟรถของฉู่เฉินไปไกลแล้ว จางม่านที่มีสีหน้าหม่นหมองหันมามองหลัวจื้อหย่งด้วยท่าทางน่าสงสาร“ฮึ! คุณรอความตายเถอะ!”หลัวจื้อหย่งแค่นเสียงด้วยความโกรธกระฟัดกระเฟียด และกล่าวกับบอดีการ์ดทั้งกลุ่มว่า “พวกเรากลับ! แม่เอ๊ย ซวยจริงๆ!”หลัวจื้อหย่งเดินกลับและคบคิดคำนวณในใจว่าอยู่ต่อในเมืองเจียงจงไม่ได้อีกแล้วจริงๆ ไม่แน่อาจไปล่วงเกินฉู่เฉินเพราะใครคนไหนเข้าสักวันก็ได้เงินมากมายในบัญชีธนาคารของเขายังไม่ได้ใช้เงินเลย ไม่อยากตายก่อนวัยอันควรหรอกนะหลัวจื้อหย่งเพิ่งจะนั่งในรถ จางม่านและผู้จัดการก็ตามมาอย่างรวดเร็ว“ประธานหลัว คุณรอก่อนค่ะ!”จางม่านดึงประตูรถเปิดกว้างแล้วเข้าไปนั่งในรถทันทีโดยไม่ให้โต้แย้งใดๆหลัวจื้อหย่งกล่าวพร้อมกลอกตาใส่จางม่านด้วยสีหน้าอมทุกข์ “เธอมาหาฉันก็ไร้ประโยชน์ ฉันล่วงเกินคุณฉู่ไม่ได้!”หลัวจื้อหย่งชี้ไปที่แขนเสื้ออันว่างเปล่าของตัวเองขณะพูดขึ้นว่า “รู้ไหมว่าทำไมแขนฉันข้างนี้ถึงหายไป?”ซี้ดๆ!จางม่านเพิ่งจะสังเกตว่าแขนเสื้อข้างขวาของหลัวจื้อหย่งว่างเปล่า ทำเอาเธอตกใจจนโง่งมไปทันที!หรือเมื่อกี้ฉู่เฉินหักแขนข้างหนึ่งของหลัวจื้อหย่ง?เป็นไปไม่ได้หรอ
อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่กำลังเดินทางกลับ กู้รั่วเสวี่ยก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “คนที่จางม่านเรียกว่าคนนั้นเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตในวงการบันเทิงใช่ไหมคะ?”“ทำไมท่าทางเขาดูหวาดกลัวพี่ขนาดนั้นล่ะคะ?”เมื่อกี้เธอมองผ่านกระจกรถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฉู่เฉินยืนกอดอกตลอดเวลา ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังปะทะคารมกันนั้น เขาก็สามารถทำให้จางม่านคุกเข่าอ้อนวอนได้“ก่อนหน้านี้เคยเจอมาก่อนครับ ประธานหลัวเป็นคนที่มีจิตใจดีครับ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์หลัวจื้อหย่งจิตใจดี?กู้รั่วเสวี่ยมองฉู่เฉินด้วยสายตาไม่พอใจ เพราะคำพูดของฉู่เฉินทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่สักคำเดียวส่วนเรื่องรายละเอียดที่มากกว่านี้ เธอก็ไม่อยากจะถามให้มากความ ขอเพียงแค่การถ่ายโฆษณาพรุ่งนี้ถ่ายได้ตามปกติก็โอเคแล้วฉู่เฉินที่พึ่งถึงหน้าประตูห้องทำงานของซินฉู่ฟาร์มาติคอล หลิ่วหรูเยียนก็ต่อสายเข้ามาหาเขาฉู่เฉินขมวดคิ้ว แล้วรับสาย “มีเรื่องอะไรรับพูดมา”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ปลายสาย ก็พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ฉู่เฉิน นายอยู่ที่ไหน ขอร้องละนายช่วยมาดูแม่ของฉันหน่อย เธอ... เธอเหมือนจะไม่ไหวแล้ว”อะไรนะ?ฉู่เฉินขมวดคิ้ว
ฉู่เฉินรับหุ่นกระดาษมาจากมือของป้าอู๋ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้นี่มันไม่ใช่หุ่นกระดาษธรรมดา หุ่นกระดาษนี่พึ่งอยู่ในมือฉู่เฉินได้ไม่นาน ก็มีควันสีดำโพยพุ่งขึ้นมาจากหุ่นกระดาษนี่!กลิ่นอายนี้ฉู่เฉินคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยล่ะ มันคือกลิ่นศพเน่า!หลังจากนั้นฉู่เฉินก็ตรวจจ้ำศพบนร่างของหลิ่วชิงเหออย่างละเอียด แสยะยิ้มออกมาแล้วเอ่ยว่า “เธอน่าจะโดนพิษศพ ถ้าฉันเดาไม่ผิด เมื่อวานตอนเย็นเธอกินเนื้อวัวใช่ไหม?”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็เหลือบมองไปที่ต้นขาด้านในของหลิ่วชิงเหอที่เริ่มรอยฟกซ้ำเมื่อโดนพิษศพแล้วสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดก็คือเนื้อวัว โดยเฉพาะในร่างกายของหลิ่วชิงเหอมียาที่สกัดจากของเหลวจากร่างกายของฉู่เฉิน สองสิ่งนี้ยิ่งจะทำให้อาการป่วยของหลิ่วชิงเหอยิ่งรุนแรงมากขึ้น“ใช่ ช่วงนี้แม่ของฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่ ดังนั้นจึงกินได้แค่เนื้อวัว หรือว่าเกี่ยวกับเนื้อวัวนี่เหรอ?”ฉู่เฉินหัวเราะออกมาเบาๆ “แน่นอนสิ ที่จริงไม่เพียงแค่แม่เธอที่โดนพิษศพนะ แต่พวกเธอโดนพิษศพทั้งสองคนเลย”“เพียงแต่ว่าพิษศพบนร่างของพวกเธอยังไม่ทันออกฤทธิ์เท่านั้นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะกินเนื้อวัวเข้าไป บวกกับสารพิษในต
ทำยังไงดี?หรือว่าจะให้เธอเป็นเหมือนหวังเสี่ยวลี่ที่เอาแต่เชื่อฟังคำสั่งของฉู่เฉินเมื่อคิดว่าตัวเองจะเป็นเหมือนหลิ่วชิงเหอ ร่างกายเน่าเปื่อยตาย หลิ่วหรูเยียนก็ไม่สามารถข่มความหวาดกลัวของเธอได้“ฉู่เฉินไม่ว่านายจะมีเงื่อนไขอะไร ฉันรับปากหมดเลย ขอร้องนายละ ช่วยรักษาพิษศพบนร่างของพวกฉันได้ไหม?”หลิ่วหรูเยียนลนลานบางทีที่หวังเสี่ยวลี่พูดก็อาจจะถูก แม้ว่าจะต้องตกอยู่อำนาจของฉู่เฉิน แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไปถึงแม้ว่าจะไม่ชอบ แต่อย่างน้อยก็สามารถปกป้องชีวิตของพวกเธอสองแม่ลูกเอาไว้ได้ฉู่เฉินถึงจะพอใจแล้วพยักหน้าพูดว่า “นี่สิถึงจะถูก แต่ว่าในตอนนี้เธอจะต้องพูดความจริงกับฉัน ในช่วงที่ผ่านมานี้เธอและหลิ่วชิงเหอไปคลุกคลีกับใครมาบ้าง?”ฉู่เฉินมองไปที่หุ่นกระดาษในมือ เขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าคนที่ลงมือจะต้องเป็นสำนักอวี้ซือแน่นอน!แต่สำนักอวี้ซือไม่มีทางที่จะลงมือกับหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกเพียงเพราะมีปัญหาระหว่างฉู่เฉินแน่นอน มันจะต้องมีสาเหตุอื่นอยู่อีกเป็นแน่ในตอนนี้ ฉู่เฉินได้แต่สงสัยว่าหลิ่วชิงเหอรู้เรื่องที่พ่อแม่ของเขาหายตัวไปเป็นอย่างดี แต่กลับไม่ยอมพูดออกมาว่าคนร้ายที่
ป้าอู๋กลืนน้ำลาย แววตาเต็มไปด้วยความโหยหามองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉิน แล้วพยักหน้าเบาที่จริงเธออยากจะรับแทนหลิ่วหรูเยียนด้วยซ้ำ ก็เพราะที่ตรงนั้นของเธอมันไม่ได้รับการรดน้ำมาเป็นเวลานานแล้วแต่ทำไงได้ตั้งแต่ที่ฉู่เฉินก้าวเดินเข้ามา เขาก็ไม่ได้ชายตามองเธอด้วยซ้ำพูดตามตรง เธอคิดถึงช่วงเวลาที่ถูกร่างกายของฉู่เฉินทับเอาไว้ ความรู้สึกแบบนั้นทำให้เธอปล่อยวางไม่ได้จริงๆเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเดินจากไปไกลแล้ว ป้าอู๋ถึงยกมือขึ้นมาคลึงหน้าอกอันอวบอั๋นของตัวเองด้วยความไม่พอใจตึงมาก!ความรู้สึกที่อยากมากๆ แต่กลับไม่สามารถแสดงออกมาได้ มันอึดอัดจริงๆ นะ!อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินมองหลิ่วหรูเยียนที่กำลังเดินบิดสะโพกเข้ามาในห้องนอน และกำลังจะเปลื้องผ้าออก เขาก็ชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้า “ชุดนี้ไม่ดี เปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง”หลิ่วหรูเยียนอึ้งไปสักพัก เธอมองบนฉู่เฉินไปทีหนึ่ง “ชุดเครื่องแบบ หรือถุงน่องซีทรูสีดำกับรองเท้าส้นสูง?”ระหว่างที่พูด หลิ่วหรูเยียนก็เปิดตู้เสื้อผ้าไปด้วยอย่าพูดเป็นเล่นไป ในตู้เสื้อผ้าของหลิ่วหรูเยียนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเต็มไปด้วยสไตล์บริสุทธิ์เย้ายวน และยังมีลุคสาวมั่น ฉู่เฉินม
“ฮ่าๆ... คุณฉู่ก็พูดไป”หยางเทียนหลงดึงกางเกงขึ้นไปด้วย พร้อมโบกมือให้กับเลขาแล้วพูดว่า “ออกไปก่อนๆ !”เลขาหัวยุ่งเหยิง รีบติดกระดุมเสื้ออย่างรีบร้อน พร้อมทั้งดึงกระโปรงที่ถูกถกไปอยู่ตรงเอวขึ้นมา เธอวิ่งออกไปจากห้องทำงานของหยางเทียนหลงด้วยใบหน้าแดงก่ำหยางเทียนหลงก็ยิ้มยิงฟัน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มดื่มชาให้ฉู่เฉิน หลังจากนั้นเขาถึงพูดขึ้นมาอย่างเอาอกเอาใจว่า “คุณฉู่ยุ่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าวันนี้มีลมอะไรพัดให้คุณมาหาผมกันครับเนี่ย?” ฉู่เฉินดื่มชาลงไปหนึ่งคำหนึ่ง แล้วพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ ว่า “คุณรู้จักคนที่ชื่อเกาเซิ่งอี้ไหมครับ?”เกาเซิ่งอี้เหรอ?หยางเทียนหลงขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาว่า “คุณฉู่ คนแซ่เกาทำให้คุณฉู่โกรธเหรอครับ?”ฉู่เฉินพยักหน้าแล้วพูดขึ้นมา “ถือว่าใช่แหละ คนนี้เป็นใครกันแน่? เขาเกี่ยวข้องกับหอการค้าตะวันออกใหญ่ยังไง?”เมื่อได้ยินคำนี้ หยางเทียนหลงก็ขมวดคิ้วแล้วกล่าวขึ้นมา “คุณฉู่ครับ พูดตามความจริง คนแซ่เกานี่ผมรู้จักเขาเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งเองครับ”“ได้ยินมาว่า เกาเซิ่งอี้และหอการค้าทั้งสามของมณฑลร่วมมือกันสร้างหอการค้าตะวันออกใหญ่ขึ้นมา แต่ว่าหอการค้าตะวันออกใหญ่ไม่น่
ถ้าฉู่เฉินวางแผนจะจัดการหอการค้าตะวันออกใหญ่ ถ้าอย่างนั้นหยางเทียนหลงก็จะใช้โอกาสนี้แก้แค้น!“ได้ครับ เตรียมตัวไว้ก่อนเถอะครับ”พูดจบ ฉู่เฉินก็เดินออกไปจากห้องทำงานของหยางเทียนหลง……อีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนไม่โทรไปหาก็ไม่มีอะไรแย่ แต่ทันทีที่สายนี้โทรเข้ามาก็ทำเอาหลิ่วหรูเยียนตกใจจนเหงื่อไหลพลั่กตั้งแต่สามวันก่อนที่หลิ่วหรูเยียนอาการป่วยกำเริบ ตระกูลฉีและตระกูลโจวแห่งหอการค้าตะวันออกใหญ่มักจะมาหาผู้ถือหุ้นที่บริษัทอย่างใกล้ชิดอีกทั้งช่วงไม่กี่วันนี้ ไม่รู้ว่ามีข่าวฉาวมากมายของหลิ่วชิงเหอสองแม่ลูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่รวมทั้งยังมีคนนำเรื่องที่ยอดการขายของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ดีโทษว่าเป็นความผิดของหลิ่วชิงเหออีกด้วยอีกทั้งยังมีผู้ถือหุ้นหลายรายที่กำลังวางแผนจะปลดหลิ่วชิงเหอและหลิ่วหรูเยียนในการประชุมสองวันหลังจากนี้อย่างลับๆ ล่อ“เสี่ยวลี่ ข่าวสำคัญขนาดนี้ ทำไมเธอไม่แจ้งให้ฉันให้ฉันทราบ”หลิ่วหรูเยียนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ผู้จัดการหลิ่ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากบอกคุณนะคะ แต่ฉันกับคุณต้าหลิงจื่อล้วนได้รับคำข่มขู่จากบุคคลนิรนาม วันนั้นตอนบ่ายคุณต้าหลิงจื่อก็เกิดอุบัต
คำพูดของหลิ่วหรูเยียนแทงใจดำของป้าอู๋ ทำให้ป้าอู๋ใบหน้าค่อยๆ แดงระเรื่อพูดตามตรงนะ วันนี้ตอนบ่ายป้าอู๋อดทนขั้นสุดเลยล่ะโดยเฉพาะในขณะที่หลิ่วหรูเยียนกำลังทำศึกอยู่ เสียงเสพสุขของเธอก็ดังผ่านเข้ามาในหู ยิ่งทำให้จิตใจของป้าอู๋เหมือนมีไฟแผดเผา เธออิจฉาสุดๆ ไปเลย!ป้าอู๋ประสบการณ์เหลือล้น เธอสงสัยแค่เล็กน้อย หลังจากนั้นสีหน้าของเธอก็กลับมาเป็นปกติ “คุณหนูคะ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง ถึง... ฉันโหยหาผู้ชาย ฉันก็คงไม่โหยหาฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นหรอกค่ะ”“ฉะ... ฉันก็พูดเพื่อพวกเรานั่นแหละค่ะ คุณลองคิดดูสิคะ ฉู่ซื่อกรุ๊ปแต่เดิมเป็นมรดกของพ่อแม่ฉู่เฉินไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่น เขาจะมองดูให้คนอื่นมาแย่งไปงั้นเหรอคะ?”“อีกอย่าง ณ ตอนนี้ผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างแตกออกเป็นส่วนๆ ไปตั้งนานแล้ว ใครจะยอมช่วยเหลือพวกเราอย่างเต็มใจเหมือนฉู่เฉินล่ะคะ?”เมื่อได้ยินป้าอู่พูดแบบนี้ หลิ่วหรูเยียนก็พยักหน้าเห็นด้วย“เหมือนที่เขาพูดกันว่านานๆ ไปเดี๋ยวก็รักกัน เขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคุณหนูและตัวเขา เขาไม่มีทางมองดูเฉยๆ แล้วไม่ช่วยเหลือหรอกค่ะ”ป้าอู๋เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมีท่าทีที่อ่อนลง เธอก็รีบอาศัยจังหวะ
“แดนมังกรของพวกเรามีคำพูดที่ว่า สิ่งที่หูได้ยินอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง สิ่งที่ตาเห็นต่างหากจึงจะเป็นเรื่องจริง”กล่าวแล้วฉู่เฉินก็ยกตะเกียบอันหนึ่งจากโต๊ะแล้วสะบัดมือจนตะเกียบพุ่งทะลุกำแพงห้องข้าง ๆ ทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นจูงมือลีน่ามายังข้างผนังกำแพง แล้วชี้ไปยังรูบนกำแพงพร้อมยิ้มบางกล่าว “ได้เห็นก็จะรู้เอง”ลีน่าประหลาดใจกับทักษะของฉู่เฉินในขณะเดียวกันกับมองผ่านรูเล็ก ๆ นั้นโดยไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นได้ เมื่อมองแวบแรกแม้แต่ลีน่าก็สับสนอย่างสิ้นเชิงในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าเพราะอะไรถึงได้เสนอความต้องการแบบนั้นกับบริกรเมื่อสักครู่นี้ไปต่อให้ลีน่าอยู่กับแรนด์มาสองปีแล้วก็ยังไม่เคยเห็นแรนด์ที่บ้าคลั่งปลดปล่อยถี่อย่างลืมตัวลืมตนขนาดนั้นมาก่อน มองเป็นเวลาสิบวินาทีแล้วลีน่าก็หันหน้ามามองฉู่เฉิน จากนั้นยิ้มร้ายกล่าว “คุณฉู่ คุณทำแบบนี้กับเขา ไม่กลัวว่าหลังจากนี้เขาจะ…”ฉู่เฉินได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ถึงกับเงยหน้าหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่ “วางใจได้เลย รอฤทธิ์ยาหมดลง เขาก็จะจำอะไรไม่ได้…”ในขณะที่กล่าวฉู่เฉินก็จดจ้องริมฝีปากเซ็กซี่นั้นของลีน่า แล้วกดบ่าของลีน่าอย่างเบามือ
สีหน้าของแรนด์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อหลังยาควบคุมสตรีสองเม็ดนั้นลงท้อง ไม่ถึงสองนาที แม้แต่ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด“เฮือก…เฮือก…”เมื่อเห็นต่อหน้าต่อตาว่าแรนด์หอบหายใจหนักยกใหญ่ ลีน่าก็เริ่มกลัวขึ้นมาเช่นกัน จึงโน้มตัวไปกล่าวข้างหูฉู่เฉินอย่างระมัดระวังว่า “คุณฉู่ สามีของฉันเขา…เขาคงจะไม่ถูกยาพิษหรอกใช่ไหม?”ดูยังไงแรนด์ในตอนนี้ก็ดูไม่ปกติสุด ๆดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งตรง ๆ ราวกับปลาตาย มองแล้วก็น่ากลัวจริง ๆฉู่เฉินชำเลืองมองแรนด์แล้วยิ้มอ่อนกล่าว “ไม่เป็นไร เขากำลังอุ่นติด”อะไรนะ?“อุ่นติด?”ลีน่ารู้สึกว่าสมองเธอเหมือนใช้การไม่ได้ขึ้นมาบ้างเล็กน้อยในทันใด คนเป็น ๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่เครื่องจักร อุ่นเครื่องบ้าบออะไรกันน่ะ“เพียะ!”ฉู่เฉินปรมมือเบา ๆ ในไม่นานบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวก็ผลักประตูเข้ามา“คุณผู้ชายท่านนั้นไม่ทราบว่าต้องการอะไรหรือเปล่าคะ?”ฉู่เฉินชำเลืองมองบริกรสาวสวยในชุดกระต่ายสาวนั้นแล้วยิ้มร้าย “เปิดห้องข้าง ๆ อีกหนึ่งห้อง แล้วช่วยคุณผู้ชายท่านนี้หาผู้หญิงมีอายุมาเป็นเพื่อนกินอาหารด้วยนะครับ”ฉู่เฉินใช้นิ้วชี้ไปยังแรนด์ในขณะพูดบริกรได้
ในขณะกล่าวลีน่าก็โยนสเต๊กในมือของเธอลงบนจานโดยตรง ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำด้วย คุณก็คิดหาวิธีเรื่องสัญญาเอาเองแล้วกัน”กล่าวจบเธอก็ออกจากห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สบอารมณ์แรนด์อึ้งอยู่ที่เดิมสักพักหรือว่าเขาจะเข้าใจผิดไปจริง ๆ?เมื่อนึกได้ว่าเมื่อกี้ลีน่าช่วยเขาพูดตลอดเวลา แรนด์ก็เกิดความรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกถึงแม้ลีน่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน แต่ในช่วงระยะเวลาสองปีมานี้ก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรมาก่อน……อีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำก็ชนเข้ากับลีน่า“ทำไมคุณฉู่เร็วขนาดนี้คะ?”ลีน่าชำเลืองมองฉู่เฉิน และกล่าวแบบสื่อความหมายอื่นฉู่เฉินล้างมือพร้อมยิ้มบาง ๆ กล่าว “คุณนายแรนด์ คุณคงจะไม่ได้คิดกินต่อหน้าต่อตาคุณแรนด์ใช่ไหมครับ?”ได้ยินดังนั้นลีน่าก็อึ้งไปก่อนตอนแรก จากนั้นก็หลุดหัวเราะออกมายื่นแขนหยกเรียวยาวโอบรอบคอฉู่เฉิน จากนั้นกัดริมฝีปากเบา ๆ กล่าว “คุณฉู่ ที่จริงฉันมาเพื่อขอร้องให้คุณช่วยค่ะ”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพยักหน้าเอ่ย “ช่วยอะไรเหรอ?”“คุณฉู่ ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่เพียงเก่งในการศึกษาพัฒนาตัวยาใหม่ ๆ แต่ยังมีทักษะทางการแพทย์ที่ดีอีกด้วย สาม
แรนด์เป็นคนเลือกห้องส่วนตัวนี้ด้วยความตั้งใจคัดสรรมาอย่างดีทันทีที่เข้าประตูมาก็จะเห็นเป็นห้องรับรองขนาดหลายร้อยตารางเมตร และที่ด้านหลังของห้องยังมีฉากกระจกบานหนึ่งซึ่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลรินจากทางด้านหลังแน่นอนว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังฉากกระจกน่าจะเป็นสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำ และยังมีห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มีไฟสีชมพูอยู่ทางด้านข้างบริกรสาวสวยสวมบิกินี่ถุงน่องสีดำขาเรียวยาวต่างสไตล์หลายคนยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มแล้วเมื่อเห็นฉู่เฉิน แรนด์ก็ฝืนฉีกยิ้มพร้อมลุกขึ้นและกล่าว “คุณฉู่ เชิญนั่งครับ”ฉู่เฉินกวาดสายตามองขาเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำด้านข้างแล้วก็โบกมือกล่าว “ให้พวกเขาออกไปกันก่อนเถอะ เรื่องคุยธุระสำคัญกว่า”แรนด์ตะลึงไปเล็กน้อย ตามประสบการณ์ของเขา การรับรองแบบนี้ฉู่เฉินไม่น่าจะไม่ชอบนี่นาแต่เห็นท่าทีแน่วแน่ของฉู่เฉินแล้ว เขาก็โบกมือให้บริกรสาวสวยเหล่านั้น หลังจากนั้นทั้งสามก็นั่งล้อมโต๊ะ แรนด์จึงส่งสายตาให้ลีน่า ลีน่ารับรู้อย่างรู้ใจกันได้ในทันที จึงรินแอลกอฮอล์ให้ฉู่เฉินพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มบางเบาขึ้นว่า “คุณฉู่ เพื่อเป็นการคลี่คลายความเข้าใจผิดเมื่อสักครู่ของพว
ราวกับลีน่าได้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน เก็บมือที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างกลับมาแล้วยืนตัวตรงทันที จากนั้นสางผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเมื่อประตูห้องเปิดออก ต้าหลิงจื่อที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็โผล่หน้าออกมาชนเข้ากับลีน่าที่อยู่หน้าประตูเข้าอย่างจัง“ว้าย!”ต้าหลิงจื่อตกใจเป็นอย่างมากจึงรีบติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าและกล่าว “คุณ…คุณนายลีน่า คุณ…คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”ลีน่ายิ้มอย่างมีเสน่ห์ “ฉันรอพวกคุณเกือบจะสองชั่วโมงแล้วล่ะ”กล่าวเสร็จไม่รอต้าหลิงจื่อตอบสนองใด ๆ ลีน่าก็ผลักประตูเข้าไปข้างในฉู่เฉินได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังก็เก็บกางเกงบ็อกเซอร์ขึ้นมาโดยไม่ลนลาน แล้วหันหลังใส่มันช้า ๆ จากนั้นหยิบบุหรี่หนึ่งในขึ้นมาจุดและกล่าวพร้อมชำเลืองมองลีน่า “มีธุระเหรอ?”ลีน่ามองสำรวจกล้ามเนื้อทั้งร่างกายของฉู่เฉินด้วยใบหน้าแดงก่ำและยิ้มน้อยกล่าว “คุณฉู่ สามีฉันคิดว่าการร่วมธุรกิจระหว่างพวกเรายังสามารถเจรจากันอีกได้ค่ะ”“เงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนได้ อีกทั้งสภาพแวดล้อมในห้องทำงานก็เคร่งเครียดเกินไป เขาจึงจองห้องอาหารส่วนตัวที่ภัตตาคารไห่เฟิงไว้แล้ว หวังว่าคุณฉู่จะให้เกียรติมาร่
เมื่อเห็นว่ารอบนี้ลีน่าเอาจริง แรนด์จึงเริ่มร้อนใจและคว้าข้อมือของลีน่าไว้พร้อมเอ่ยขึ้นว่า “ลีน่า ความรู้สึกที่ยาวนานขนาดนั้นของพวกเรา…”ความรู้สึก?ลีน่าอยากจะขำให้ท้องแข็งตายเมื่อได้ยินคำนี้ ตอบพร้อมกลอกตาใส่แรนด์ด้วยสีหน้ารังเกียจ “คุณป่วยหนักอยู่นะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันสนใจในทรัพย์สมบัติของคุณ คุณคิดว่าฉันจะมาคบคุณเหรอ?”“คุณทั้งแก่และขี้เหร่ หลงใหลระยะสั้นๆ ทำมาพูดเรื่องความรู้สึกรักชอบ ช่างน่าเสียความรู้สึกจริง ๆ โอเคไหม?”ไม่เสแสร้งแล้ว เปิดใจทั้งหมดใบหน้าชราของแรนด์อมทุกข์จนราวกับจะมีน้ำตาหยดลงมา แต่ก็ไม่มีปัญญา ใครให้ผู้หญิงคนนี้ชำนาญในด้านนั้นกันล่ะหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ แล้วแรนด์ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหาจึงกัดฟันพูดขึ้นว่า “คุณ…คุณโทรไปเรียกเขามาสิ ผมเป็นเจ้าภาพเอง ให้ไปกินข้าวและพูดคุยกันที่ภัตตาคารไห่เฟิง”แรนด์ไม่อาจยอมได้ แต่ก็พ่ายแพ้ในการพูดคุยแล้ว สิ่งที่เขาสูญเสียนั้นมากเกินไปแล้วจริง ๆไม่เพียงถูกคนจากฝ่ายทหารตามไล่ฆ่า แถมผู้หญิงข้างกายเขาก็จะจากเขาไปไกลอีกถ้าเป็นแค่ผู้หญิงทั่วไปก็ช่างเถอะปัญหาคือขาทั้งสองข้างของลีน่าแรงดีมาก แล้วยังหนีบเก่งอีกสิ่งที
วินาทีต่อมา เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบแหวกชุดทำงานออก แล้วแกะกระดุมตรงหน้าอกออกสองเม็ด ก่อนจะก้มหน้ามองหน้าอกทั้งสองข้างจากนั้นก็เห็นว่ารอยแผลตกสะเก็ดหลุดออกหมดแล้ว ผิวที่เกิดใหม่เรียบเนียนราวกับของใหม่ทำให้ต้าหลิงจื่อตะลึงงัน ฉู่เฉินมองลูกแพร์ขนาดใหญ่สองลูกที่ส่องประกายแวววาวก็ตกตะลึงไปเช่นกัน“ว้าย” ผ่านไปพักใหญ่ ต้าหลิงจื่อถึงค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนตักของฉู่เฉิน แถมยังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างกึ่งโป๊กึ่งมิดชิด เธอรู้สึกเขินอายมากทันที ก่อนจะรีบยืนตัวตรง เอามือดึงกางเกงที่แทบจะถกมาถึงต้นขา“คะ...คุณชายฉู่ ขะ...ขอโทษด้วยค่ะ เมื่อกี้ฉัน...”ยังไม่ทันที่ต้าหลิงจื่อจะพูดจบ ปากขนาดใหญ่ก็ปิดริมฝีปากแดงของเธอกลิ่นอายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของชายชาตรีถาโถมใส่หน้า ต้าหลิงจื่อสิ้นฤทธิ์ในพริบตา เธอไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโดนแขนที่ทรงพลังโอวเอวไว้ ราวกับเขื่อนที่พังทลาย ไม่อาจควบคุมได้เลย“แควก!” ฉู่เฉินฉีกถุงน่องของต้าหลิงจื่อออกทันที ก่อนจะพลิกมือกดต้าหลิงจื่อลงบนโต๊ะทำงาน“คุณชายฉู่ บะ...เบาหน่อยค่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนี้
แม้แต่ต้าหลิงจื่อที่ยืนอยู่ทางด้านข้างก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่ฉู่เฉินทำตอนที่หลิ่วหรูเยียนกับหลิ่วชิงเหอแม่ลูกเจรจาความร่วมมือกับคนอื่น เธอก็อยู่ด้วย แต่ว่าสามปีมานี้ เธอยังไม่เคยเห็นการเจรจาความร่วมมือแบบนี้มาก่อนเลยมิน่าล่ะหลิ่วหรูเยียนถึงบอกให้ฉู่เฉินมาเจรจา บารมีบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน ชั่วขณะหนึ่ง ภาพลักษณ์ของฉู่เฉินในใจของต้าหลิงจื่อคล้ายกับยิ่งใหญ่ขึ้นไม่น้อย“ฮึ คุณฉู่ นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของคุณก็ได้ ในเมื่อคุณไม่เห็นค่า งั้นพวกเราก็ขอตัวแล้ว” แรนด์กระแทกถ้วยกาแฟในมือลงบนโต๊ะอย่างหนักหน่วงดังปัง จากนั้นก็ลุกขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะดึงลีน่าขึ้นมาแล้วหันกายเดินจากไป “เอ๊ะ...”เมื่อเห็นสามีภรรยาแรนด์เดินจากไปแล้วจริงๆ ต้าหลิงจื่อกำลังคิดจะเรียกพวกเขาให้หยุด แต่โดนฉู่เฉินยื่นมือมาขวางไว้“คุณฉู่...”“ให้พวกเขาไสหัวไป”เสียงของฉู่เฉินไม่ดังไม่เบา แต่สามีภรรยาแรนด์กลับได้ยินชัดเจน “คุณ...”แรนด์หันหน้ามาถลึงตาใส่ฉู่เฉินด้วยความแค้นใจ คำว่าไสหัวไปครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ให้แม้กระทั่งทางลงกับเขาเลยจริง ๆในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปก็ไม่ได้แล้วดูท่าข้อมู
หน้าอกใหญ่สองลูกนั้นราวกับอาวุธสังหารที่สั่นไหวเล็กน้อยไปตามลมหายใจ เหมือนจะดันเสื้อเชิ้ตสีเบจบนตัวเธอให้ปริได้ทุกเมื่อ ส่วนเรียวขาใหญ่ยาวงดงามที่แข็งแรงและไม่เสียทรงสองข้างเปล่งประกายสีทองแดงแวววาวจากการอาบแดดบนชายหาดแม้ว่าผิวจะไม่ขาวเนียน ทว่าตั้งแต่หัวจรดเท้าให้ความรู้สึกงดงามสุขภาพดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนนั้น แค่มองก็ทำให้คนเกิดความคิดหุนหันอยากจะถูกเธออมไว้ในปากนัยน์ตาโตสีฟ้า ประกอบกับขนตาเรียวยาว แค่กะพริบตาเหลือบมองกลับมาก็เปี่ยมไปด้วยความเสน่หานี่แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผลผลิตจากอำนาจของเงินตราเมื่อเห็นฉู่เฉิน สามีภรรยาคู่นี้ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นเป็นสาวสวยชาวตะวันตกคนนั้นที่ยิ้มให้ฉู่เฉินก่อนแล้วพูดว่า “คุณน่าจะเป็นคุณฉู่เฉินสินะ?” สาวสวยชาวตะวันตกพูดพลางส่ายเรียวขางามแข็งแรงอยู่บนรองเท้าสายรัดส้นเข็ม เดินเข้ามาหาฉู่เฉิน ก่อนจะยื่นมือไปจับมือกับฉู่เฉิน “ผมคือฉู่เฉิน ไม่ทราบว่าพวกคุณคือ?”ฉู่เฉินจับมือเรียวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของสาวสวยชาวตะวันตกอย่างเป็นมิตรมาก สายตากวาดมองหน้าอกของเธอแวบหนึ่ง ร่องอกนั้นสามารถซุกคนทั้งเป็นเข้าไปได้เลย