“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
อู่เย่าปังมองหลูไคหมิงที่ก้มหน้าก้มตา แล้วรีบเอาตัวมุดเข้าไปอยู่ใต้กระโปรงของหลิ่วชิงเหอ อู่เย่าปังถึงกับตกใจจนเลือดแทบจับตัวนั่นเป็นถึงที่พักพิงและเสาหลักที่สำคัญของเขา ตอนนี้แม้แต่หลูไคซานก็ถูกฉู่เฉินกำราบจนอยู่หมัดแล้ว เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?เมื่อคิดได้ เขาก็ไม่รอให้ฉู่เฉินเรียกเขา อู่เย่าปังรีบเข้าไปดึงอู่จวิ้นเจี๋ย เขารีบเดินตรงดิ่งไปข้างหน้าฉู่เฉินและสองแม่ลูกตระกูลหลิ่ว ตามด้วยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุ้บ“คุณฉู่ ผมผิดไปแล้ว ประธานหลิ่ว ผู้จัดการหลิ่ว ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ก่อนหน้านี้พวกเรามันตาถั่วเอง เงินกู้ธนาคารก้อนนั้นพวกผมไม่เอาแล้วครับ ขอร้องท่านผู้สูงส่งปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ”อู่เย่าปังสองพ่อลูกพูดจบ ก็โขกหัวลงกับพื้นดังลั่นเหมือนกับไก่กำลังจิกอาหารตอนนี้หลูไคซานเกลียดสองพ่อลูกเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา ตระกูลหลูต้องมาประสบความลำบากแบบนี้?ถ้าไม่ใช่เพราะออกหน้าให้พวกเขา เขาจะเผลอไปล่วงเกินคนที่สูงส่งแบบฉู่เฉินได้ยังไง?ตอนนี้เขาอยากจะให้ฉู่เฉินโยนสองคนพ่อลูกนี่ออกลงไปข้างล่างตึกใจจะขาดฉู่เฉินมองสองพ่อลูกที่กำลังโขกหัวอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะออกมาอย่างนิ่งๆ “ผู
แม้แต่ตระกูลหลูก็ยังถูกโทรศัพท์แค่ไม่กี่สายจากฉู่เฉินทำให้พังพินาศไปแล้ว แม้ว่าตระกูลของเขาจะเป็นตระกูลใหญ่และมีฐานะ แต่ใครจะกล้าเทียบกับตระกูลหลูล่ะ?แม้แต่หลูไคหมิงก็ถูกจัดการจนสงบเสงี่ยมไปเลย พวกเขาจะกล้าทำตัวแบบนั้นได้ยังไง?“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก รอให้ฉันเลี้ยงข้าวตรุษจีนเหรอ?”ฉู่เฉินถีบเข้าไปที่ก้นของพวกลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าอย่างจังเมื่อได้ยินคำนี้ พวกเขาก็เหมือนได้รับการให้อภัย หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบแยกย้ายวิ่งออกไปข้างนอก ฉู่เฉินขมวดคิ้ว พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “หยุด!”ซี้ด!เท้าของพวกเขาก้าวออกไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็เหมือนหยุดกลางอากาศ“นำตัวสองคนนั้นออกไปด้วย”“ครับๆๆ !”พวกเขารีบหันหลังกลับมา ยกตัวคนที่ฉู่เฉินตบจนหมดสติ แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องประชุม“คุณฉู่ ผมว่าตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เจียงเหวินป๋อก็พูดขึ้นมาอย่างรู้สถานการณ์“อืม ไปเถอะ”ฉู่เฉินโบกมือให้เจียงเหวินป๋อ เจียงเหวินป๋อถึงโบกมือให้กับเหล่าตำรวจที่กำลังยืนอึ้งอยู่บริเวณนั้น “แยกย้าย! ใครเอาเรื่องวันนี้ออกไปเผยแพร่ ฉันจะจัดการให้หมด!”ก่
ตึง!หลิ่วชิงเหอพึ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน ฉู่เฉินก็ปิดประตูห้อง“แก...”เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินกำลังเดินมาทางตัวเอง หลิ่วชิงเหอก็ย่อตัวลงด้วยสัญชาตญาณทำไงได้ ท่าทางของเธอดูคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยล่ะอีกทั้งผ่านการวันเวลามานับครั้งไม่ถ้วน เธอก็รู้จักรสนิยมของฉู่เฉินเป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะยอมรับฉู่เฉินแล้ว กระทั่งที่ว่าให้เขาเป็นที่พึ่งพิงของพวกเธอสองแม่ลูก เธอไม่มีอะไรจะต้องต่อต้านแล้วถ้าจะให้ยอมรับอย่างจำใจ สู้เธอเลือกสนุกเองดีกว่า“เธอจะทำอะไร?”ฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วชิงเหอจู่ๆ ก็นั่งยองลงต่อหน้าและกำลังยื่นมือมาปลดเข็มขัดของเขา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้ว พร้อมทั้งแย่งเข็มเข็ดมา แล้วใส่เข้าไปอีกครั้ง“พึ่บ!”ฉู่เฉินนำซองจดหมายโยนลงบนโต๊ะทำงาน พูดกับหลิ่วชิงเหอว่า “รถในรูปเธอน่าจะรู้จักใช่ไหม?”หลิ่วชิงเหอลุกขึ้นมาอย่างงงๆ แล้วเดินมายังข้างหน้าโต๊ะทำงาน หยิบซองจดหมายขึ้นมาเมื่อเธอเห็นรูปภาพที่ถูกเทออกมาจากข้างใน ม่านตาของเธอก็หดลง สีหน้าของเธอซีดลงทันที เงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ “รูปพวกนี้แกไปได้มาจากไหน?”ในรูปเป็นรถตู้สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ในที่รกร้างกลางป่า ประตูรถเปิดกว้า
“แต่ว่าตั้งแต่วันนั้น พวกเขาก็หายตัวไปในกลีบเมฆ ไม่พบเจออีกเลย”นี่มัน...หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินจี้ถามจนพูดตะกุกตะกักเธออยากจะบอกจริงๆ ว่าพ่อมแม่ของฉู่เฉินไม่ได้ไปเมืองเอกของมณฑลเพียงเพราะคำพูดของเธอ แต่เป็นคำพูดของคนอื่นเพียงแต่ว่าคำพูดพวกนี้ เธอไม่กล้าพูดออกไปเพียงแค่พูดชื่อของคนนั้นออกไป ทุกสิ่งที่เธอมีอยู่ตอนนี้ หรือแม้แต่สิ่งที่ฉู่เฉินกำลังมีอยู่ตอนนี้อาจจะหายไปในพริบตา“ฉู่เฉิน ถ้าแกอยากจะรู้ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น งั้นแกก็ไปสืบเอาเอง ถ้าแกหาเบาะแสอะไรไม่เจอ แม้ว่าฉันจะบอกทุกอย่างกับแกไป แล้วแกจะทำอะไรพวกเขาได้?”หลิ่วชิงเหอพูดปลอบและพยายามเกลี้ยกล่อมฉู่เฉินกระตุกคิ้ว หรี่ตาจ้องมองไปที่หลิ่วชิงเหอแล้วพูดขึ้นมาว่า “เรื่องในตอนนั้นฉันต้องสืบเองแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าให้ฉันรู้ล่ะว่าเธอมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่”เมื่อเผชิญกับสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาตของฉู่เฉิน หลิ่วชิงเหอก็กลัวจนเซถอยไปหลายก้าว“ฉู่เฉิน ฉันบอกไปแล้วนะว่าฉันสามารถสาบานกับฟ้าดินเลยก็ได้ ฉันไม่มีส่วนรู้เห็นจริงๆ เรื่องในตอนนั้นมันซับซ้อนกว่าที่แกคิดไว้มาก ฉั
“แม่ จะมาอาบน้ำด้วยกันไหม? น้ำร้อนกำลังดีเลย”ในคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว หลิ่วหรูเยียนเปลือยเปล่านั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำลังพูดกับหลิ่วชิงเหอที่สวมชุดนอนลายลูกไม้อยู่หน้าประตู“จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ลูกอาบก่อนเลย” หลิ่วชิงเหอรับโทรศัพท์ หันไปตอบลูกจากนั้นเดินออกจากห้องน้ำหลิ่วหรูเยียนหันไปมองฉู่เฉินในถังยาข้างๆ ที่โผล่ให้เห็นแค่ศีรษะ“มองอะไร! ถ้ายังมองอีก ฉันจะควักลูกตาแกออกมาให้หมากิน!” หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นจากอ่างน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโสเธอไม่ได้ปกปิดร่างกายขาวนวลราวหิมะและหน้าอกที่ใหญ่โตของตัวเองแม้แต่น้อย ยืนโชว์ให้ฉู่เฉินเห็นกับตา“เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนสะบัดฝ่ามือตบลงที่แผลเป็นบนใบหน้าของฉู่เฉิน “ยังกล้ามองอีก! ไอ้ขันที เดี๋ยวฉันจะควักตาสุนัขของแกออกมาเลยนี่!”ฉู่เฉินขบฟันแน่น จ้องมองหญิงสาวงดงามที่อยู่ตรงหน้า พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “หลิ่วหรูเยียน ต้องมีสักวันที่ฉันเหยียบพวกเธอสองแม่ลูกให้จมดิน! และชิงทุกอย่างที่เป็นของตระกูลฉู่ฉันคืนมา!”“แกกำลังฝันอะไรอยู่? แกก็เป็นแค่สมุนไพรมนุษย์ให้ฉันกับแม่ แขนขาก็ถูกตีหักไปหมดแล้ว ยังจะเอาอะไรมาชิงกลับไปอีก?”หลิ่วหรูเยียนหัวเราะด้วยคว
ฉู่เฉินสลบไปนานมาก เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเหมือนฝันประหลาดเป็นเวลายาวนานในความฝัน เขากลายร่างเป็นราชันมังกรแห่งแดนเหนือ ทำสงครามทั้งเก้าสวรรค์สิบพิภพ ล้มสำนักนิกายใหญ่ต่างๆ ภายในวันเดียว รวมทั้งสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งลัทธิศักดิ์สิทธิ์ด้วย...“โอ๊ย ปวดหัวจัง...” ฉู่เฉินร้องอย่างเจ็บปวด เขาลืมตาขึ้นถึงพบว่าตัวเองยังอยู่ในหลุม บาดแผลและความเจ็บปวดตรงแขนขาและบนร่างทำให้เขารู้สึกว่าอยู่ห่างจากความตายไม่ไกลแล้ว “เจ้าหนู ข้าได้มอบวิชาเก้าผันกลืนสวรรค์ วิชานี้ครอบคลุมทุกแขนง ทั้งวิชาแพทย์แห่งต้าหลัว ตำราลับวรยุทธ์โบราณ วิชาหยินหยางห้าธาตุ วิชาลึกลับฮวงจุ้ย วิชาหลอมโอสถและสร้างอาวุธวิชาเหล่านี้ข้ามอบให้เจ้าหมดแล้ว...” “เจ้าหนู จำเอาไว้! รอเจ้าฝึกฝนถึงระดับเก้าชั้นฟ้า เจ้าต้องไปนอนกับสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่หยิ่งยโสคนนั้นแทนข้าให้ได้!”ข้างหูของเขายังมีเสียงสะท้อนของมังกรฟ้าที่เรียกตัวเองว่าเป็นราชามังกรแห่งแดนเหนือที่เขาเห็นในฝันก่อนหน้านี้ วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์หรือ?ฉู่เฉินย้อนกลับมาครุ่นคิดเล็กน้อย ทันใดนั้นข้อมูลมหาศาลก็พรั่งพรูเข้ามาในสมองของเขาวิชาลับบำเพ็ญคู่ เพิ่มคว
“แต่ว่าตั้งแต่วันนั้น พวกเขาก็หายตัวไปในกลีบเมฆ ไม่พบเจออีกเลย”นี่มัน...หลิ่วชิงเหอถูกฉู่เฉินจี้ถามจนพูดตะกุกตะกักเธออยากจะบอกจริงๆ ว่าพ่อมแม่ของฉู่เฉินไม่ได้ไปเมืองเอกของมณฑลเพียงเพราะคำพูดของเธอ แต่เป็นคำพูดของคนอื่นเพียงแต่ว่าคำพูดพวกนี้ เธอไม่กล้าพูดออกไปเพียงแค่พูดชื่อของคนนั้นออกไป ทุกสิ่งที่เธอมีอยู่ตอนนี้ หรือแม้แต่สิ่งที่ฉู่เฉินกำลังมีอยู่ตอนนี้อาจจะหายไปในพริบตา“ฉู่เฉิน ถ้าแกอยากจะรู้ว่าในตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น งั้นแกก็ไปสืบเอาเอง ถ้าแกหาเบาะแสอะไรไม่เจอ แม้ว่าฉันจะบอกทุกอย่างกับแกไป แล้วแกจะทำอะไรพวกเขาได้?”หลิ่วชิงเหอพูดปลอบและพยายามเกลี้ยกล่อมฉู่เฉินกระตุกคิ้ว หรี่ตาจ้องมองไปที่หลิ่วชิงเหอแล้วพูดขึ้นมาว่า “เรื่องในตอนนั้นฉันต้องสืบเองแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าให้ฉันรู้ล่ะว่าเธอมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่”เมื่อเผชิญกับสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอาฆาตของฉู่เฉิน หลิ่วชิงเหอก็กลัวจนเซถอยไปหลายก้าว“ฉู่เฉิน ฉันบอกไปแล้วนะว่าฉันสามารถสาบานกับฟ้าดินเลยก็ได้ ฉันไม่มีส่วนรู้เห็นจริงๆ เรื่องในตอนนั้นมันซับซ้อนกว่าที่แกคิดไว้มาก ฉั
ตึง!หลิ่วชิงเหอพึ่งเดินเข้ามาในห้องทำงาน ฉู่เฉินก็ปิดประตูห้อง“แก...”เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินกำลังเดินมาทางตัวเอง หลิ่วชิงเหอก็ย่อตัวลงด้วยสัญชาตญาณทำไงได้ ท่าทางของเธอดูคุ้นเคยเป็นอย่างดีเลยล่ะอีกทั้งผ่านการวันเวลามานับครั้งไม่ถ้วน เธอก็รู้จักรสนิยมของฉู่เฉินเป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะยอมรับฉู่เฉินแล้ว กระทั่งที่ว่าให้เขาเป็นที่พึ่งพิงของพวกเธอสองแม่ลูก เธอไม่มีอะไรจะต้องต่อต้านแล้วถ้าจะให้ยอมรับอย่างจำใจ สู้เธอเลือกสนุกเองดีกว่า“เธอจะทำอะไร?”ฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วชิงเหอจู่ๆ ก็นั่งยองลงต่อหน้าและกำลังยื่นมือมาปลดเข็มขัดของเขา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้ว พร้อมทั้งแย่งเข็มเข็ดมา แล้วใส่เข้าไปอีกครั้ง“พึ่บ!”ฉู่เฉินนำซองจดหมายโยนลงบนโต๊ะทำงาน พูดกับหลิ่วชิงเหอว่า “รถในรูปเธอน่าจะรู้จักใช่ไหม?”หลิ่วชิงเหอลุกขึ้นมาอย่างงงๆ แล้วเดินมายังข้างหน้าโต๊ะทำงาน หยิบซองจดหมายขึ้นมาเมื่อเธอเห็นรูปภาพที่ถูกเทออกมาจากข้างใน ม่านตาของเธอก็หดลง สีหน้าของเธอซีดลงทันที เงยหน้ามองฉู่เฉินด้วยความประหลาดใจ “รูปพวกนี้แกไปได้มาจากไหน?”ในรูปเป็นรถตู้สีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ในที่รกร้างกลางป่า ประตูรถเปิดกว้า
แม้แต่ตระกูลหลูก็ยังถูกโทรศัพท์แค่ไม่กี่สายจากฉู่เฉินทำให้พังพินาศไปแล้ว แม้ว่าตระกูลของเขาจะเป็นตระกูลใหญ่และมีฐานะ แต่ใครจะกล้าเทียบกับตระกูลหลูล่ะ?แม้แต่หลูไคหมิงก็ถูกจัดการจนสงบเสงี่ยมไปเลย พวกเขาจะกล้าทำตัวแบบนั้นได้ยังไง?“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก รอให้ฉันเลี้ยงข้าวตรุษจีนเหรอ?”ฉู่เฉินถีบเข้าไปที่ก้นของพวกลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าอย่างจังเมื่อได้ยินคำนี้ พวกเขาก็เหมือนได้รับการให้อภัย หลังจากนั้นพวกเขาก็รีบแยกย้ายวิ่งออกไปข้างนอก ฉู่เฉินขมวดคิ้ว พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “หยุด!”ซี้ด!เท้าของพวกเขาก้าวออกไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็เหมือนหยุดกลางอากาศ“นำตัวสองคนนั้นออกไปด้วย”“ครับๆๆ !”พวกเขารีบหันหลังกลับมา ยกตัวคนที่ฉู่เฉินตบจนหมดสติ แล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องประชุม“คุณฉู่ ผมว่าตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เจียงเหวินป๋อก็พูดขึ้นมาอย่างรู้สถานการณ์“อืม ไปเถอะ”ฉู่เฉินโบกมือให้เจียงเหวินป๋อ เจียงเหวินป๋อถึงโบกมือให้กับเหล่าตำรวจที่กำลังยืนอึ้งอยู่บริเวณนั้น “แยกย้าย! ใครเอาเรื่องวันนี้ออกไปเผยแพร่ ฉันจะจัดการให้หมด!”ก่
อู่เย่าปังมองหลูไคหมิงที่ก้มหน้าก้มตา แล้วรีบเอาตัวมุดเข้าไปอยู่ใต้กระโปรงของหลิ่วชิงเหอ อู่เย่าปังถึงกับตกใจจนเลือดแทบจับตัวนั่นเป็นถึงที่พักพิงและเสาหลักที่สำคัญของเขา ตอนนี้แม้แต่หลูไคซานก็ถูกฉู่เฉินกำราบจนอยู่หมัดแล้ว เขาจะทำอะไรได้ล่ะ?เมื่อคิดได้ เขาก็ไม่รอให้ฉู่เฉินเรียกเขา อู่เย่าปังรีบเข้าไปดึงอู่จวิ้นเจี๋ย เขารีบเดินตรงดิ่งไปข้างหน้าฉู่เฉินและสองแม่ลูกตระกูลหลิ่ว ตามด้วยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังตุ้บ“คุณฉู่ ผมผิดไปแล้ว ประธานหลิ่ว ผู้จัดการหลิ่ว ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ก่อนหน้านี้พวกเรามันตาถั่วเอง เงินกู้ธนาคารก้อนนั้นพวกผมไม่เอาแล้วครับ ขอร้องท่านผู้สูงส่งปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ”อู่เย่าปังสองพ่อลูกพูดจบ ก็โขกหัวลงกับพื้นดังลั่นเหมือนกับไก่กำลังจิกอาหารตอนนี้หลูไคซานเกลียดสองพ่อลูกเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา ตระกูลหลูต้องมาประสบความลำบากแบบนี้?ถ้าไม่ใช่เพราะออกหน้าให้พวกเขา เขาจะเผลอไปล่วงเกินคนที่สูงส่งแบบฉู่เฉินได้ยังไง?ตอนนี้เขาอยากจะให้ฉู่เฉินโยนสองคนพ่อลูกนี่ออกลงไปข้างล่างตึกใจจะขาดฉู่เฉินมองสองพ่อลูกที่กำลังโขกหัวอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะออกมาอย่างนิ่งๆ “ผู
เวลานี้เอง หลิ่วหรูเยียนที่เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสั้นสำหรับทำงานก็ผลักประตูเข้ามา และได้เห็นฉากที่หลูไคหมิงโขกศีรษะให้ฉู่เฉินพอดี เธอยืนมองจนตะลึงนั่นคือหลูไคหมิงผู้นำรุ่นที่สองของตระกูลหลูที่ทุกคนในเมืองเจียงจงสั่นผวาเหมือนเห็นเสือเห็นหมาป่าเชียวนะนี่… นี่มีเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิ่วชิงเหอไม่สามารถซ่อนความตกใจในใจได้ และไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นหรือความกลัวกันแน่ที่ทำให้ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดจนก้อนกลมทั้งสองข้างบนหน้าอกสั่นสะเทือนตามไปด้วย“คุณฉู่…”เพียะ!หลูไคหมิงเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดปาก ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบเข้าที่ใบหน้าของเขาจนเกิดเสียงดังตบจนหลูไคหมิงหน้าหันชนขอบเก้าอี้ด้านข้างเลือดไหลพุ่งขึ้นมาทันทีแต่หลูไคหมิงในเวลานี้กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ผายลมก็ยังไม่กล้า และยิ่งไม่กล้าร้องว่าเจ็บออกมาต่อหน้าฉู่เฉิน“ตระกูลหลูคุณเจ๋งไม่ใช่เหรอ?”“ผู้หญิงของฉัน ผมบทจะตบก็ตบ? ใครแม่งให้ความกล้าคุณมาวะ!”ฉู่เฉินในขณะนี้ดูแตกต่างไปเมื่อกี้ราวกับเป็นคนละคน ความเย็นชาอำมหิตปรากฏในดวงตาจ้องมองหลูไคหมิงจนเขารู้สึกขนลุก ถึงขั้นที่ไม่กล้าเงยหน้าสบตาฉู่เฉิน“
“คุณฉู่”เมื่อหลูไคหมิงเห็นฉู่เฉินก้มหน้ากดเบอร์โทรอีกก็หวาดกลัวจนตัวสั่น เกือบเผลอคุกเข่าให้ฉู่เฉินต่อหน้าทุกคนแล้ว“ฉันจำได้ว่าตระกูลหลูของพวกแกเหมือนจะมีกิจการสถานบันเทิงไม่น้อย ในเมื่อรากเหง้าก็ไม่มีแล้ว อย่าเก็บไว้อีกเลย เปลืองพลังงานเปล่าๆ ฉันจะช่วยแกให้มีชีวิตที่ราบเรียบเอง”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็กดเบอร์โทรหาจางหลง“คุณฉู่ คุณหาผมเหรอครับ?”น้ำเสียงจางหลงมีความเคารพนอบน้อมสุดขีดในช่วงก่อนหน้านี้พรรคมังกรหาญได้กลับตัวกลับใจและชำระล้างตัวเองอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นกองกำลังใต้ดินเพียงกลุ่มเดียวที่ทำแต่สิ่งดีๆในมณฑลเจียงแห่งนี้และเขายังพบว่ากำไรจากการเก็บสมุนไพรวัตถุดิบยาให้ฉู่เฉินยังสร้างรายได้ให้มากกว่าธุรกิจสีเทาเหล่านั้นมากจริงๆเหตุผลหนึ่งคือฉู่เฉินให้ราคาส่วนต่างสูงมากพอ ทั้งยังหลังจากที่ยาบำรุงปราณผลิตออกมาแล้วก็จะเพิ่มกำไรให้เพิ่มอีกร้อยละห้ามีบางครั้งที่รายได้เข้าบัญชีมากกว่าห้าสิบล้าน จางหลงมีความสุขมากจนยิ้มไม่หุบแล้วถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีธุรกิจที่ดีขนาดนี้ ใครมันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎหมายกัน?พูดจริงๆ คือ พวกที่คลุกคลีกับวงการใต้ดินอย่างจางหลงก็คิดจะปกป้องเมียและลูก
เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่าฉู่เฉินไม่เพียงแต่ช่วยท่านเฉียวเท่านั้น แต่ยังช่วยท่านหลง และให้ข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งแก่แก๊งมังกรฉู่เฉินในตอนนี้ เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากท่านหลงและถานเฟยไปแล้ว เฉียวเทียนฉี่จะไปทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆเสียที่ไหน?แตะต้องฉู่เฉิน ไม่ใช่แค่ท่านหลงฝั่งเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด่านนายท่านใหญ่เฉียวที่เขาผ่านไปไม่ได้“ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็แค่รู้สึกว่านิสัยของคนตระกูลหลูมีปัญหาก็เท่านั้น ผมได้ยินมาว่าผู้ว่าการเฉียวสนิทกับตระกูลหลูมาก แต่อย่าติดร่างแหไปกับตระกูลหลูเด็ดขาดนะครับ”คำพูดของฉู่เฉินดังขึ้น เฉียวเทียนฉี่จากทางปลายสายก็ตกสู่ห้วงแห่งความคิดในทันทีคำพูดนี้ฟังแล้วเหมือนกำลังพูดถึงนิสัยของตระกูลหลู แต่ในความเป็นจริงกลับกำลังเตือนเฉียวเทียนฉี่ว่าตระกูลหลูกำลังโชคร้ายครั้งใหญ่แล้วถึงยังไงฉู่เฉินในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก มีสายใยแน่นแฟ้นกับสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรหรือจะบอกว่า แก๊งมังกรเตรียมจะจัดการตระกูลหลูแล้ว?เฉียวเทียนฉี่คิดถึงความเป็นไปได้ในจุดนี้ก็สูดลมหายใจเข้าโดยไม่รู้ตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ตรัสรู้เจตนาของฉู่เฉินจึงรีบกล่า
ได้! นี่คุณพูดเองนะ หวังว่าอีกเดี๋ยวคุณยังคงหยิ่งยโสได้เหมือนตอนนี้!”ฉู่เฉินพูดพร้อมกดเบอร์โทรศัพท์โทรหาหยางเทียนหลงทันทีไม่นานก็มีคนรับสาย เสียงนอบน้อมของหยางเทียนหลงดังขึ้นจากปลายสาย “คุณฉู่ ผมหยางเทียนหลง ไม่ทราบคุณต้องการให้รับใช้อะไรครับ?”หยางเทียนหลงขณะนี้เชื่องเหมือนแมวตัวหนึ่งโดยสิ้นเชิงเรื่องที่ลูกชายของเขาตาย หยางเทียนหลงจะไปกล้าคิดเล็กคิดน้อยได้ที่ไหนอีก?เมืองหลงเฉิงล้วนสยบอยู่ใต้เท้าของฉู่เฉินทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าได้สาบานและจงรักภักดีต่อฉู่เฉิน แค่มีใจคิดคดทรยศเพียงเล็กน้อย คนของตระกูลหยางจะต้องถูกจำกัดสลายกลายเป็นเถ้าถ่านชั่วพริบตา“รีบยุติการค้าความร่วมมือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลหลูเดี๋ยวนี้”ฉู่เฉินกล่าวราบเรียบหลูไคหมิงฟังแล้วก็คิ้วกระตุกโดยไม่ทราบสาเหตุฉู่เฉินมีอิทธิพลถึงขั้นนั้นเชียวหรือขนาดหยางเทียนหลงที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองเจียงจงยังเคารพนอบน้อมต่อฉู่เฉิน ทั้งยังฟังคำสั่งอีกด้วย?ในช่วงที่หลูไคหมิงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงของหยางเทียนหลงจากปลายสายตอบกลับมาว่า “ครับ! ภายในห้านาที ตระกูลหยางจะตัดขาดความร่วมมือทางการค้าทั้งหมดก
“กล้าพูดอีกคำเดียว ตาย!”สายตาฉู่เฉินโหดเหี้ยม จ้องเขม็งอู่เย่าปังพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ผมพูดไปแล้ว วันนี้ต่อให้เง็กเซียนฮ่องเต้มา พวกคุณสองพ่อลูกไม่ให้ตอบตามที่ผมพอใจละก็ ใครก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่ได้เลย”อู่เย่าปังสับสนมึนงงสุดๆทำไมฉู่เฉินมันกล้าขนาดนี้ ตบหน้าเขาต่อหน้าคุณหลูก็ช่างมันเถอะ ยังกล้าข่มขู่เขาได้ขนาดนี้อีก?ทำเหมือนคุณหลูเป็นอากาศธาตุไปแล้วจริงเหรอ?ขณะนี้สีหน้าหลูไคหมิงขรึมขึ้นมาทันที จ้องเขม็งฉู่เฉินพร้อมกล่าว “คุณฉู่ ผมเห็นแก่ที่คุณเคยช่วยพูดกับผู้ว่าการเฉียวให้ตระกูลหลูถึงไม่เอาความกับคุณ”“แต่มาทำร้ายสุนัขของผมต่อหน้าผมคุณเห็นตระกูลหลูสามารถรังแกได้ง่ายๆ อย่างนั้นจริงๆเหรอะ?!”ได้ยินคำพูดนี้แล้วฉู่เฉินก็อดขำขึ้นมาไม่ได้ กวาดตามองหลูไคหมิงแวบหนึ่ง “รังแกตระกูลหลูคุณ? เป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ คุณคิดว่าคุณคู่ควรให้ผมลงมือรังแกคุณเองเหรอะ?”“ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งก็คือรังแก?”ฉู่เฉินพูดถึงตรงนี้แล้วก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “หลูไคหมิง ผมให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย คิดให้ดี เรื่องในวันนี้จะจัดการยังไงกันแน่”ได้ยินคำนี้แล้วแม้แต่เจียงเหวินป๋อก็เริ่มสับสนขึ้นมา นี่ฉู่เฉินกำลังพู