“ฮ่าๆๆ!”พวกอันธพาลต่างพากันหัวเราะ ทำเอาถังเจียวเจียวโกรธจนหน้าซีดเซียว ด่าขึ้นมาว่า “แก พวกแกมันหน้าไม่อาย!”“คนสวย จะบอกความจริงให้พวกเธอนะ ที่นี่แจ้งความไปก็ไม่มีประโยชน์ หากไม่อยากทำให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ ก็เชื่อฟังแล้วไปแช่ออนเซ็นกับพี่เป้าของพวกเราซะดีๆ”“พี่เป้าของพวกเราเป็นคนใจกว้าง ขอเพียงแค่พวกเธอทำให้พอใจ กระเป๋าแบรนด์เนมเอย อยากได้อะไรก็จะได้”หัวทองหนึ่งในนั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ“ถุย! ใครอยากได้กระเป๋าจากเขากัน! ไสหัวไปนะ!”กู้รั่วเสวี่ยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ทว่าอันธพาลพวกนั้นกลับไม่ยอมหลีกทางให้ ไม่พอยังก้าวมาข้างหน้าอีกหลายก้าว สิ่งนี้ทำให้กู้รั่วเสวี่ยต้องถอยกลับไปสองสามก้าว จนโซซัดโซเซเกือบจะล้มลงยังดีที่ฉู่เฉินโอบเอวเล็กของกู้รั่วเสวี่ยไว้ทัน หลังจากนั้นเขาก็ไปบังข้างหน้าสองสาวเอาไว้ พูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันให้เวลาพวกแกสิบวินาที หายไปจากหน้าฉันเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นละก็ผลลัพธ์ที่ตามมาพวกแกก็รับผิดชอบเองนะ!”“อะไรนะ? ไอ้หนุ่มแกพูดอีกรอบสิ?”หัวทองเอียงหัว ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถึงขนาดยืนมือ ใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าอกพ
“ได้! ไอ้เวร แกอย่าได้เสียใจทีหลังล่ะ!”หลินเป้าตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือด ควักโทรศัพท์ออกมา กดสายไปยังเบอร์หนึ่ง“ฮัลโหล พี่หู่ นี่ผมเองอาเป้า ผมกับพวกลูกน้องถูกคนทำร้ายอยู่ที่คลับน้ำพุร้อนอวี้หลง พี่รีบพาคนมาหน่อยครับ”ด้านปลายสายจงอาหู่เพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของโจวเทียนเฟิ่ง ขึ้นรถก็กดรับสาย ใบหน้าของเขาเข้มขึ้น ใบหน้าดำมืด กล่าวอย่าไม่พอใจว่า “แกว่าอะไรนะ? แกโดนทำร้ายงั้นเหรอ? แกไม่ได้บอกว่าแกเป็นคนของสำนักเฟิ่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นคนของจงอาหู่เหรอ?”“บอกแล้วครับพี่หู่ แต่ว่าฝั่งตรงข้ามมันกำแหงมากครับ มันไม่เห็นสำนักเฟิ่งกับพี่อยู่ในสายตาเลย” หลินเป้าถลึงตาใส่ฉู่เฉินพร้อมกับพูดไปด้วย“แม่งเอ๊ย! ได้ ฉันรับรู้แล้ว รออีกสักพักเดี๋ยวฉันก็จะถึงแล้ว!” จงอาหู่พูดด้วยความโมโห วางสายไป เรียกเหล่าลูกน้อง เหยียบคันเร่งบึ่งไปยังคลับน้ำพุร้อนอวี้หลงภายในล็อบบีน้ำพุร้อนอวี้หลงหลินเป้าจ้องไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่เยาะเย้ยที่น่ากลัวที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา และตะโกนว่า “ไอ้น้อง ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่รอดแน่! รอให้พี่หู่ของพวกฉันมาถึงเถอะ แกได้เจอดีแน่!”“ถ้าเข้าใจสถานการณ์แล้วก็รีบคุกเข่ากราบขอโท
เสียงนี้ทำไมมันดูคุ้นหูแบบนี้นะ?อีกทั้งมองไปยังคนตรงหน้าที่หันมาอย่างช้าๆ รูปร่างนั่น ใบหน้าด้านข้างนั่น ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้นตาเมื่อถึงตอนที่ฉู่เฉินหันใบหน้าทั้งหมดมาที่พวกเขา จงอาหู่กลับตกตะลึงจนตัวสั่น สีหน้าซีดเซียว!“คุ คุณฉู่?!”จงอาหู่กลัวจนฉี่เล็ดเขาคิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะเป็นฉู่เฉิน!“จงอาหู่ นายจะจัดการฉันเหรอ?” ฉู่เฉินถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มจงอาหู่กลัวจนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ รีบวิ่งเข้าไป โค้งคำนับยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณฉู่ คุณก็พูดไป ผมไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ครับ” ทางด้านหลินเป้าและคนอื่นอึ้งไปหมดเกิดอะไรขึ้น?ทำไมพี่หู่ถึงก้มหัวให้กับไอ้เด็กนั่น อีกอย่างดูๆ ไปเหมือนเขาจะกลัวมากๆ ด้วย“พี่หู่ พี่ทำอะไรน่ะ? ไอ้นี่แหละที่มันทำร้ายพวกเรา พี่รีบจัดการสั่งสอนพวกมันแทนพวกเราเร็ว” หลินเป้าตะโกนขึ้นมาจงอาหู่ได้ยินดังนั้น ก็หันร่างมา ก้าวเดินมา ถีบเข้าไปอย่างแรง หลินเป้าถูกเตะห่างออกไปสามหรือสี่เมตรด้วยเสียงปัง ล้มลงกับพื้นอย่างแรง และตะโกนด้วยความโกรธว่า “อวดดี! สั่งสอนคุณฉู่งั้นเหรอ? พวกแกไปเอาความกล้ามาจากไหน!”“ถึงพี่ใหญ่จะอยู่ที่นี่ เมื่อ
“พี่ฉู่เฉิน ชุดของฉันชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ?” กู้รั่วเสวี่ยจงใจเดินเข้าไปหาฉู่เฉิน หมุนตัว เผยให้เห็นแผ่นหลังที่ไร้ที่ติ และบั้นท้ายอมชมพูที่โค้งงอนความเด้งและความโค้งของบั้นท้ายนั้น มันช่างน่าทึ่งจริงๆผิวก็ขาวราวกับหิมะ“ฟู่...”ฉู่เฉินถอนหายใจเอาลมร้อนออกมา ร่างกายร้อนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แย่แล้วล่ะ!วิชาเก้าผันกลืนสวรรค์โคจรอัตโนมัติแล้ว“พี่ฉู่เฉิน พี่เป็นอะไรคะ? หน้าทำไมแดงขนาดนี้...”กู้รั่วเสวี่ยเห็นว่าสีหน้าของฉู่เฉินไม่สู้ดี ก็รีบถามขึ้นมาอย่างกังวล ยืนมือออกไปลูบเข้าที่หน้าของฉู่เฉิน ร้อนจนน่าตกใจ“พี่ฉู่เฉิน พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ พี่อย่าแกล้งฉันสิคะ? เป็นเพราะน้ำร้อนเกินไปเหรอคะ ฉันเติมน้ำเย็นให้พี่เพิ่มนะ” กู้รั่วเสวี่ยกังวลเป็นอย่างมาก รีบหันหลังไปปราณหยางในร่างกายของฉู่เฉินพุ่งกระฉูด จำเป็นต้องปลดปล่อยออกมาให้เร็วที่สุด เมื่อเห็นว่ากู้รั่วเสวี่ยกำลังจะออกไป เขาก็คว้าไหล่ของเธอไว้ คว้าเธอมาไว้ในอ้อมอก พูดขึ้นมาว่า “ผมต้องการให้คุณช่วย”“หา? ชะ ช่วยอย่างไรคะ?”กู้รั่วเสวี่ยราวกับกระต่ายน้อยที่ทำให้ตกใจ หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าสบสายตาฉู่เฉินเพราะว่าสายตาของเ
คำพูดของจินเอ้าเทียนสิ้นสุดลง ชายร่างกำยำห้าหรือหกคนในชุดฝึกวิชาก้าวมาข้างหน้า เพียงแค่ยื่นมือไปก็สามารถจับคอเสื้อของฉู่เฉินไว้ได้ฉู่เฉินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ยักคิ้วให้จินเอ้าเทียนแล้วพูดว่า “พวกแกเป็นใคร?”จินเอ้าเทียนพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวง แววตายั่วยุมองไปยังฉู่เฉิน แล้วขยับนิ้วพูดอย่างกำแหงว่า “ฉันเป็นใคร แกไม่ต้องรู้หรอก จัดการมัน!”เมื่อสิ้นเสียงนั้น ชายร่างกำยำสองคนก็พุ่งเข้าไปขวางฉู่เฉินไว้ข้างหลังส่วนชายสามคนที่เหลือก็ก้าวไปข้างหน้า ยืนสามมุมล้อมฉู่เฉินไว้โดยรอบ“ไอ้นี่ อย่าพล่ามให้มันมาก ยอมให้จับซะดีๆ แกจะได้เจ็บน้อยหน่อย!”หัวหน้าเป็นชายที่ซึ่งมีใบหน้าที่ดูแข็งแรง เหยียดฝ่ามือออกเหมือนพัดใบไม้ธูปฤาษี และกำลังจะคว้าแขนของชูเฉินไว้ข้างๆ เขามีชายใบหน้าดำแดง ในมือถือมีดสั้นไว้ในมือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเยือกเย็นนั้นพุ่งเข้ามา หลังจากจับฉู่เฉินได้แล้ว เขาก็ตัดเอ็นมือและขาออกด้วยมีด“ปัง!”ก่อนที่หัวหน้าจะคว้าแขนของฉู่เฉิน เขาก็ได้ยินเสียงอู้อี้ดังออกมาวินาทีต่อมา ชายร่างกายสูงใหญ่กำยำสองเมตร น้ำหนักกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัม ก็ถลาออกมา!ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหั
เมื่อคำพูดนี้ได้เอ่ยออกไป จินเอ้าเทียนก็อดไม่ได้ที่จะโมโห จะหักมือทั้งสองข้างของเขางั้นเหรอ?ไอ้คนไร้ประโยชน์ฉู่เฉิน มันเอาความมั่นใจมาจากไหน!“แกไปตายซะ!”เมื่อคำพูดนี้จบลง จินเอ้าเทียนยังฝ่ามือขึ้นมา พุ่งตรงไปที่ส่วนศีรษะของฉู่เฉิน!ขอเพียงแค่หมัดนี้ต่อยโดน แม้ว่าศีรษะของฉู่เฉินจะไม่แบะออกมา แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต!ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้าง ตามองไปที่ฝ่ามือของจินเอ้าเทียนที่ห่างจากส่วนศีรษะเขาไม่ถึงสามนิ้ว เขายกมือขึ้นมาทันทีปัง!หลังจากนั้นก็มีเสียงดังตามขึ้นมา ร่างร่างหนึ่งมีเลือดกระจายออกมา พร้อมกระเด็นไปข้างหลัง!ตึ่ง!จินเอ้าเทียนหล่นลงบนพื้นอย่างแรง เขามองไปที่ฉู่เฉินอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองฝ่ามือเมื่อครู่ เขาเหมือนกับการซัดขุนเขา แขนของเขาสั่น และเขาก็หมดสติไปช็อก!หวาดกลัว!นี่จะเป็นคนไร้ประโยชน์ได้อย่างไร?นี่มันปรมาจารย์ยุทธ์ชัดๆ !หลิ่วหรูเยียนนังเลว กล้าหลอกฉันเหรอ!แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจ แต่จินเอ้าเทียนจะมาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะ!ฉู่เฉินไม่รีรอให้เขาลุกขึ้นมาจากพื้น ฉู่เฉินยกเท้าขึ้นมาเหยียบที่หน้าอกของเขา พละกำลังเฉกเช่นภูผา ทันทีที่ถ
“มันจะเป็นใครได้อีกล่ะคะ มันก็ต้องเป็นฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์นั่นไงคะ!”เมื่อพูดถึงตอนนี้ ในดวงตาของหลิ่วหรูเยียนก็ฉายแววตาเกลียดชังออกมาเมื่อนึกถึงฉู่เฉินคนไร้ประโยชน์นั่น บังอาจให้เธอคุกเข่าโขกหัวขอโทษ ในใจของหลิ่วหรูเยียนเต็มไปด้วยความโกรธอย่างไรก็ตามหลังจากดูเวลาแล้ว ฉู่เฉินก็น่าจะไม่รอดแล้วล่ะ น่าจะโดนคุณจินหักมือเท้าใช่ไหม?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อารมณ์ของหลิ่วหรูเยียนก็ดีขึ้นมาเยอะ“ลูกบอกว่าฉู่เฉินเปิดบริษัทเหรอ? เป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไรล่ะ?”หลิ่วชิงเหออดไม่ได้กับคำพูดที่ฉู่เฉินพูดตอนนั้น หรือว่าไอ้เลวนั่นมันคิดจะแก้แค้นพวกเธอสองแม่ลูกกันนะ?“เป็นบริษัทยาค่ะ ชื่อบริษัทคือซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล คนไร้ประโยชน์แบบมันน่ะเหรอ อยากจะเลียนแบบคนอื่นเปิดบริษัทเหรอ? หนูเกรงว่าแม้แต่ทุนจดทะเบียนก็จะไม่พอนะสิคะ”หลิ่วหรูเยียนสีหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยกิจการของตระกูลฉู่ทั้งหมด ล้วนแต่อยู่ในมือของเธอและหลิ่วชิงเหอ ฉู่เฉินไม่มีเงิน แม้แต่ค่าดำเนินการก็อาจจะต้องไปหามาอย่างยากลำบาก“ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล...”หลิ่วชิงเหอสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น คิ้วทั้งสองข้างของเธอขมวดเข้าหากัน จริงๆ ด้วย!ฉู่เฉิ
ขอเพียงแค่พิษของหรูเยียนหายไปจนหมด หลังจากนั้นจะกลายเป็นเวลาตายของไอ้เลวนี่!หลิ่วชิงเหอแอบวางแผนในใจ แม้จะสูญเสียทุกสิ่งไปก็ตาม เธอก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญ หั่นไอ้เลวนี้เป็นชิ้นๆ ซะ!ฉู่เฉินที่อยู่ปลายสายก็สามารถจินตนาการท่าทางเกรี้ยวกราดของหลิ่วชิงเหอได้เขาพูดด้วยสีหน้าติดตลกเล็กน้อย “ง่ายนิดเดียว ก็เงื่อนไขที่ฉันบอกไปไง”ฉู่เฉินหัวเราะออกมาเล็กน้อย“แก... ฉันเป็นแม่บุญธรรมของแกนะ!”หลิ่วชิงเหอกัดริมฝีปากไว้แน่น“เธอไม่ใช่แม่บุญธรรมของฉัน ในเมื่อยังคิดไม่ได้ งั้นก็อย่าโทรมาหาฉัน”พูดเสร็จ ฉู่เฉินก็วางสาย“เดี๋ยว!”หลิ่วชิงเหอตะโกนออกมา เล็บจิกลึกเข้าไปในเนื้อ เลือดหยดลงตามข้อมือของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน หลิ่วชิงเหอก็ปริปากพูดออกมาอย่างยากลำบากว่า “ได้! ฉันรับปากแก!”“ได้ ไปรอฉันที่บ้าน”ฉู่เฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย วางสาย รีบไปยังคฤหาสน์ของตระกูลหลิ่วเมื่อฟังสัญญาณไม่ว่างทางโทรศัพท์ หลิ่วชิงเหอหายใจเข้าลึก ๆ และสั่งด้วยเสียงเย็นชา “ป้าอู๋ พยุงหรูเยียนไปที่โซฟา”“ค่ะ!”ป้าอู๋เห็นว่าสีหน้าของหลิ่วชิงเหอดูไม่ดี ก็ไม่กล้าที่จะปริปากถาม พยุงหลิ่วหรูเยียนไปที่โซฟา พร้อมกับซ่อนตัว
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี