ฉู่เฉินสะบัดกุญแจมือบนข้อมือพลางพูดว่า “คุณถาน คุณคงไม่ให้ผมไปช่วยท่านหลงแบบนี้หรอกใช่ไหม?”ถานเฟยเห็นแบบนั้นก็ถลึงตาใส่สมาชิกแก๊งมังกรเหล่านั้นแล้วเอ่ยว่า “พวกแกแม่งโง่กันหรือไง? ยังไม่รีบปลดกุญแจมืออีก!” สมาชิกแก๊งมังกรเหล่านั้นอึ้งไปก่อน จากนั้นก็พากันมองไปทางเสิ่นเหว่ยอีกครั้งเสิ่นเหว่ยที่ตอนนี้เลือดอาบเต็มตัวเต็มหน้า อยู่ในสภาพย่ำแย่เกินจะทนมองเมื่อเห็นพวกลูกน้องคนสนิทของตัวเองพากันมองมาที่ตน เสิ่นเหว่ยก็ร้อนใจจนสบถออกมา ชี้ไปที่ฉู่เฉินพลางพูดว่า “ยังไม่รีบปลดกุญแจมือให้คุณฉู่อีก!” พวกเขาถึงค่อยรีบมาหาฉู่เฉินแล้วปลดกุญแจมือของฉู่เฉินออก“เพียะ!”ชั่วพริบตาที่เพิ่งปลดกุญแจมือให้ฉู่เฉิน ฉู่เฉินก็สะบัดมือตบหน้าชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ จนเกิดเสียงดังกังวาน “คุณฉู่ นี่คุณ...” ฉู่เฉินสะบัดมือแล้วเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี้ผมพนันกับเขาว่าผมจะต้องออกไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอน ถ้าชนะพนันก็จะตบหนึ่งฉาด”ชายวัยกลางคนผู้นั้น ความจริงแล้วก็คือหัวหน้าทีมของแก๊งมังกรที่พาตัวฉู่เฉินกลับมาจากที่ตึกเถิงหลงการตบฉาดนี้เขาทนรับไว้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมเอามาก ๆ เขาเดิ
ถานเฟยรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่พักใหญ่!เนื่องจากตราสัญลักษณ์ดาวหกแฉกนั้นก็คือตราของสำนักว่านเซี๋ยแก๊งมังกรทำงานยุ่งมาตลอดหนึ่งปีเต็มเพื่อตามรอยสำนักว่านเซี๋ย แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถจับตัวแม้กระทั่งพยานที่รอดตายมาได้สักคนเดิมทีเขาหวังว่าฉู่เฉินจะทิ้งเบาะแสสักเล็กน้อยให้ทางแก๊งมังกรได้ แต่น่าเสียดายที่พยานเพียงหนึ่งเดียวได้ตายไปแล้ว ปัง!ฉู่เฉินเตะประตูห้องนั่งเล่นจนกระเด็นทันที ทำให้พวกหลี่เจี้ยนกั๋วที่กำลังนั่งหารือกันในห้องโถงว่าจะหงายไพ่กับตระกูลกู้อย่างไรดีถึงกับตกใจจนสะดุ้ง “แกเป็นใคร!”หลี่เจี้ยนกั๋วอึ้งไปก่อน จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้นมา ชี้หน้าฉู่เฉินพร้อมกับด่าทออย่างเกรี้ยวกราด “กู้รั่วเสวี่ยอยู่ที่ไหน?”ฉู่เฉินไม่ตอบแต่ถามกลับ เขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง เดินไปหาพวกหลี่เจี้ยนกั๋วหืม?หลี่เจี้ยนกั๋วขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอย่างละเอียดพลางพูดว่า “แกคือคนที่ตระกูลกู้ส่งมาเหรอ?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา หลี่เจี้ยนกั๋วพลันรู้สึกว่าพูดเกินความจำเป็นไปหน่อยอีกฝ่ายไม่มีทางเป็นคนของตระกูลกู้ได้เลย จนถึงตอนนี้ตระกูลหลี่ยังไม่ได้แจ้งให้ตระกูลกู้ทราบเรื่องที่กู้รั่วเสวี่ยโดนลัก
แต่ถึงแม้จะพูดถึงการกระทำของฉู่เฉินจะดูจะบุ่มบ่ามไปบ้าง แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยกู้รั่วเสวี่ยเมื่อคิดแบบนี้ ความประทับใจที่เหลิ่งหนิงซวงมีต่อฉู่เฉินกลับดีขึ้นมาอีกเล็กน้อยคนที่ไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพลกล้ายืดอกเผชิญหน้าอย่างฉู่เฉิน ตอนนี้มีให้เห็นไม่มากแล้วเหลิ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของฉู่เฉินเดินไกลออกไป แววตาก็สับสนขึ้นมาเล็กน้อยไม่นานนัก ฉู่เฉินก็ตามหลี่เจี้ยนจวินมาถึงทางเข้าถ้ำหลังเขา“คุณฉู่ คุณหนูกู้...เธอ เธออยู่ด้านในนี้ครับ”หลี่เจี้ยนจวินพูดพลางสะบัดมือกดไปที่กลไกเสียงสะเทือนดังมาจากประตูว่านจิน ประตูหินหนาถึงหนึ่งเมตรค่อย ๆ เปิดออกฉู่เฉินมองเห็นจากไกล ๆ ตอนนี้กู้รั่วเสวี่ยกำลังถูกมัดอยู่บนเสาหิน แถมยังมีบาดแผลที่ถูกแส้หนังฟาดอยู่หลายแห่งตามตัว จึงสาวเท้าพุ่งเข้าไปในถ้ำโดยไม่ทันคิดอะไรมากขณะที่ฉู่เฉินพุ่งเข้าไปในถ้ำ ใบหน้าของหลี่เจี้ยนจวินก็เผยรอยยิ้มเย็นชาอันน่าสะพรึงออกมาไม่รอให้ฉู่เฉินได้ช่วยกู้รั่วเสวี่ย หลี่เจี้ยนจวินก็กดไปที่กลไกอีกครั้ง!โครม!ฉู่เฉินเพิ่งไปถึงตรงหน้ากู้รั่วเสวี่ย ประตูว่านจินด้านหลังก็ตกลงมาอีกครั้ง!โครม!ฝุ่นลอยขโมง ทั่วทั้งถ้ำปิ
ทันใดนั้นภายในถ้ำก็ช่างงดงามหาใดเทียบ ร่างเงาสอดประสานเสียงอ่อนละมุน……ถานเฟยกับเหลิ่งหนิงซวงที่ด้านนอกถ้ำร้อนใจราวกับไฟสุมอกนานแล้วพวกเขาเห็นกับตาว่าฉู่เฉินกับหลี่เจี้ยนจวินเดินไปถึงหน้าถ้ำแล้ว แต่ชั่วพริบตาก็ไม่เห็นฉู่เฉินแล้ว แม้แต่เงาของหลี่เจี้ยนจวินก็ไม่เห็นด้วย“เป็นไปไม่ได้! พวกเขาต้องอยู่แถวนี้แน่นอน!”เหลิ่งหนิงซวงเปิดไฟฉายมองหารอบ ๆ พลางตะโกนเรียกชื่อของฉู่เฉินอย่างร้อนใจถานเฟยส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูด “ไม่มีประโยชน์ เป็นไปได้มากว่าที่นี่จะมีกลไกลที่ตระกูลหลี่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ คุณฉู่น่าจะตกอยู่ในกับดักของกลไกไปแล้ว!”ถานเฟยพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมา ต่อสายไปที่สำนักงานใหญ่แก๊งมังกรแห่งเมืองหมอตู สั่งกับแก๊งมังกรทางนั้นว่า ให้ส่งคนมาช่วยเหลือทันที! ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องตามหาฉู่เฉินให้เจอโดยเร็วที่สุด!ทางด้านแก๊งมังกรโอบล้อมทั้งอวิ๋นเชวี่ยวิลล่า ระหว่างที่ตามหาฉู่เฉินไปทั่ว หลี่เจี้ยนจวินก็หนีกลับตระกูลหลี่ผ่านทางลับอีกทาง“พ่อ...เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พี่ใหญ่กับพี่รองถูกฆ่าแล้ว!”หลี่เจี้ยนจวินสับขาวิ่งไปที่ห้องโถง พลางตะโกนอย่างหืดหอบหลี่
เมื่อหลี่หงถูและคนของบ้านตระกูลหลี่รีบกลับไปที่อวิ๋นเชวี่ยวิลล่า สมาชิกแก๊งมังกรจำนวนมากก็ปิดล้อมอวิ๋นเชวี่ยวิลล่าไว้หมดแล้ว“พ่อ น่าจะเป็นคนของแก๊งมังกร”หลี่เจี้ยนจวินหันไปมองหลี่หงถูที่เบาะหลังเมื่อมองอย่างละเอียดไปยังสมาชิกแก๊งมังกรสองคนที่เฝ้าอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตู หลี่หงถูก็พูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเจรจากับพวกเขาเอง”พูดจบ หลี่หงถูก็ผลักประตูรถออกไปและเดินลงมาจากรถ ปี้คุนก็เดินตามหลังหลี่หงถูด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแก๊งมังกรเป็นศัตรูตัวฉกาจของสำนักว่านเซี๋ยถ้าไม่ถูกเพ่งเล็งจากแก๊งมังกร คิดเหรอว่ารองเจ้าสำนักว่านเซี๋ยที่ทรงเกียรติอย่างเขาจะมาหลบๆ ซ่อนๆ อย่างนี้วันนี้เรียกได้ว่าศัตรูมาพบกัน ต่างฝ่ายต่างโกรธจนเลือดขึ้นหน้าตราบใดที่หลี่หงถูออกคําสั่ง ปี้คุนก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าสมาชิกของแก๊งมังกรทั้งหมด“หยุด! ที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้าม ใครก็ผ่านไปไม่ได้!”หนึ่งในสมาชิกแก๊งมังกรก้าวไปข้างหน้าและขัดขวางไม่ให้หลี่หงถูไปโดยตรง“แกแม่งตาบอดเหรอ นี่คือนายท่านใหญ่หลี่ แกกล้าขวางเหรอ! ให้หัวหน้าเสิ่นของพวกแกออกมาพูด!”บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังหลี่หงถู ก้าวไ
หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลี่หงถูมั่นใจว่าจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำระดับสูงในแก๊งมังกรของเขา เพื่อให้ถานเฟยยอมจํานนแต่โดยดีอย่าคิดว่าตระกูลหลี่มีขอบเขตอิทธิพลของอยู่แต่ในเมืองหมอตู ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลี่หงถูได้ซื้อตัวหัวหน้าระดับสูงของแก๊งมังกรจํานวนมาก เพื่อช่วยสำนักว่านเซี๋ยในการหลีกเลี่ยงการตามล่าจากแก๊งมังกรนี่คือเหตุผลที่ทำไมเครือข่ายข่าวสารของแก๊งมังกรทั่วแดนมังกรถึงคว้าน้ำเหลวหลายครั้ง ไม่สามารถกําจัดสำนักว่านเซี๋ยสำนักว่านเซี๋ยได้สักที“หัวหน้าใหญ่แก๊งมังกร ถานเฟย!”ทันทีที่คําพูดนี้ออกมา หลี่หงถูก็ตกตะลึงอยู่กับเดิมหัวหน้าใหญ่แก๊งมังกรเป็นบุคคลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากท่านหลงผู้บัญชาการสูงสุด แม้แต่หัวหน้าระดับสูงที่มีมิตรภาพกับตระกูลหลี่ล้วนเป็นลูกน้องของถานเฟยไม่ต้องพูดถึงบังคับให้ถานเฟยยอมจํานนเลย ถ้าถานเฟยรู้ว่าใครเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่บ้าง ก็อาจจะติดร่างแหไปด้วย อีกทั้งสายที่ตระกูลหลี่เลี้ยงไว้ในแก๊งมังกรตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็จะถูกถอนรากถอนโคนจนหมดไปด้วย“ท่านหลี่...”ปี้คุนเผยใบหน้าอาฆาต ก้าวไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูหลี่หงถูครู่หนึ่ง“ไม่!”หลี่หง
ตอนนี้เอง กู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ภายในถ้ำก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา สายตาพร่ามัวมองทางฉู่เฉินแล้วพูดขึ้นมาว่า “ทำไมเมื่อกี้ฉันถึงรู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม หลังจากนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกเย็นขึ้นมาทันทีล่ะคะ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มบางๆ อุ้มกู้รั่วเสวี่ยขึ้นมา “ก็ผมช่วยคุณถอนพิษยังไงล่ะครับ”อะไรนะ?กู้รั่วเสวี่ยมองไปที่ฉู่เฉินด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา “ใคร... ใครถอนพิษให้คนอื่นแบบนี้กันเล่า?”วิธีถอนพิษของฉู่เฉินมันจะพิเศษไปแล้วมั้งอีกอย่างทำเรื่องอย่างว่าสามารถถอนพิษได้จริงๆ เหรอ?ในระหว่างที่สับสนอยู่นั้น กู้รั่วเสวี่ยก็เหลือบมองไปที่แผลบนร่างกายของเธออย่างอดไม่ได้จริงด้วย รอยที่โดนแส้หนังฟาดเมื่อกี้ก็แทบจะไม่เห็นแล้วอีกทั้งผิวกายทั่วทั้งร่างของเธอก็กระจ่างใสขึ้นมาถึงขนาดที่ว่าจุดสำคัญๆ ก็อ่อนนุ่มราวกับเด็กแรกเกิด“นะ... นี่มันเป็นไปได้ยังไงคะ พี่... พี่ทำได้อย่างไรคะ?”กู้รั่วเสวี่ยไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองตอนที่หลี่เจี้ยนกั๋วใช้แส้หนังตีเธอ เขาบอกเธอว่าน้ำเย็นที่แช่อยู่ในแส้มีสารหนูซึ่งเป็นพิษร้ายแรง ซึ่งจะถึงแก่ชีวิตได้หากโดนบาดแผลของเธอกระทั่งที่ว่าตอนที่เธอได้เจอฉู่เฉินอีกครั้ง กู้
พูดจบฉู่เฉินก็พยุงกู้รั่วเสวี่ยไปที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมกับถานเฟยและคนอื่นๆหลี่หงถูมองแผ่นหลังของฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่เดินออกไปไกล เขาก็ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ กัดฟันกรอดพูดขึ้นมาอย่างเบาๆ ว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่นั่นไว้ชีวิตฉันงั้นเหรอ? หึ! อีกไม่นานหรอก ฉันจะควักหัวใจของแกออกมาเพื่อเซ่นไหว้ให้ลูกชายที่ตายไปของฉัน!”ปี้คุนก้าวไปข้างหน้า พูดกับหลี่หงถู “เรื่องนี้คงจะไม่ง่ายแบบนั้น อายุยังน้อยแบบนี้ก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสร้างรากฐานแล้ว”อะไรนะ?หลี่หงถูมองไปที่ปี้คุนด้วยความตกตะลึงปี้คุนพยักหน้าเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็ยิ้มเย็นๆ แล้วพูดว่า “เพียงแต่ว่าเขาพึ่งทะลวงระดับสร้างรากฐาน รอให้เรื่องนี้เงียบลงก่อน เดี๋ยวผมจะไปเด็ดหัวมันกลับมาให้ท่านหลี่เองครับ”“ได้!”หลี่หงถูได้ยินประโยคนั้น ใบหน้าของเขาก็ปรีดีขึ้นมา……อีกด้านหนึ่ง เฮลิคอปเตอร์ก็ค่อยๆ บินขึ้นไปบนอากาศ เหลิ่งหนิงซวงและคนอื่นๆ ก็โบกมือลาถานเฟยและฉู่เฉินหลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้บินขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน เมื่อกี้คุณบอกว่าท่านหลงโดนลอบสังหาร เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนอดหน้ามืดไม่ได้ แทบจะเป็นลมคาที่นี่ไม่อาจใช้คำว่ามากเกินไปมาบรรยายฉู่เฉินได้แล้ว ปรมาจารย์ฝืนข่มกลั้นโทสะในใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ว่า “คุณฉู่ คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องของคุณมันมากเกินไปเลยหรือไง?”“ฆ่าคนก็แค่เอาหัวโขกพื้น คะ...คุณเห็นวังเทียนเจี้ยนของผมรังแกง่ายจริง ๆ เหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน กวาดตามองปรมารจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “รังแกคุณแล้วยังไง? เอาของตามใบรายการนี้มา แล้วผมจะหันกายจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย”“ถ้าคุณกล้าพูดคำว่าไม่สักคำละก็ ผมก็มีวิธีทำให้วังเทียนเจี้ยนของคุณหายวับไปกับตา” ข่มขู่ ข่มขู่กันอย่างโจ่งแจ้ง“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกเหิมเกริมไปแล้ว...” ไม่รอให้ศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เอ่ยปาก ปรมารจารย์ว่านเจี้ยนก็รีบยกมือห้ามเอ่ยว่า “หุบปากให้หมด!” หลังจากผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลานี้ปรมารจารย์ว่านเจี้ยรไม่สงสัยความสามารถของฉู่เฉินเลยสักนิดเดียวอย่างแย่ที่สุด ฉู่เฉินก็สามารถลากวังเทียนเจี้ยนให้ตายตกตามกันได้ต้องรีบไล่ตัวซวยคนนี้ออกไปโดยเร็วที่สุดถุงจะถูกเมื่อคิดได้ดังนั้น ปรมาจ
ไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่มีทางกระโดดจากสาวใช้ธรรมดา ๆ กลายเป็นสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นแปดภายในระยะเวลาห้าปีสั้น ๆ หรอก แต่ว่าฉู่เฉินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?เมื่อเห็นหลิงเสวี่ยตะลึงจนพูดไม่ออก ฉู่เฉินก็แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ดูท่าจะตรงตามที่ผมเดาไว้จริง ๆ ปรมาจารย์คนดีของคุณอยากเลี้ยงคุณจนสมบูรณ์แล้วค่อยดูดกลืนคุณจนแห้งไงละ” เมื่อหลิงเสวี่ยได้ยินคำพูดนี้ พลันร้อนใจขึ้น ถลึงตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ฉู่เฉิน ห้ามคุณพูดจาเหลวไหลนะ”ถึงแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะเห็นเธอเป็นของชิ้นหนึ่ง มอบเธอให้ฉู่เฉิน แต่ว่าสำนักเคยมีบุญคุณกับเธอจริง ๆ“พูดจาเหลวไหล? กลัวว่าคุณโดนคนอื่นขายแล้ว ยังช่วยเขานับเงินด้วยละมั้ง?”ฉู่เฉินหัวเราะหยัน จากนั้นก็อธิบายวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังสั้น ๆ และบอกเรื่องคุณสมบัติร่างกายพิเศษอย่างร่างธาตุสวรรค์บริสุทธิ์ว่ามีประโยชน์มากเท่าไหร่ต่อผู้ฝึกวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังตามความเป็นจริง หลังจากฟังคำพูดนี้ของฉู่เฉินจบก็ทำลายสามมุมมองของหลิงเสวี่ยอย่างแท้จริง “เป็นไปไม่ได้ ต้องไม่ใช่ความจริงแน่นอน ท่านปรมาจารย์มักจะสอนพวกเราว่าผู้บำเพ็ญเพียนต้องทำ
ถึงแม้ว่าในใจของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้ฉู่เฉินจูงมือหลิงเสวี่ยเดินเข้าไปในเรือนเจ้าสำนักที่เขาอาศัยอยู่ ในตอนที่ฉู่เฉินปิดประตูห้องจนสนิท พวกศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนต่างก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและไม่ยินยอมออกมาจบแล้ว!เทพธิดาในใจของพวกเขา น้องศิษย์เล็กที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา โดนไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินย่ำยีแบบนี้แล้วเมื่อผลักประตูเดินเข้าไปในห้องนอนด้านใน ฉู่เฉินก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ไอ้แก่ตายยากอย่างปรมาจารย์ว่านเจี้ยนคนนี้เสพสุขเก่งจริง ๆ บนเตียงหยกน้ำแข็งมีอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ครบครัน นอกจากนี้ยังมีหมอนรองเอวโดยเฉพาะอีกด้วยไอ้เชี่ยนี่ เฒ่าหัวงูถึงจะเป็นคนตัณหากลับ จริง ๆ เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องปรมาจารย์ว่านเจี้ยน หลิงเสวี่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้พลางกล่าวว่า “ทำไมในห้องของปรมาจารย์ถึงจะมีหมอนสองใบล่ะ อีกอย่าง ทำไมหมอนใบนี้ดูไปแล้ว ไม่ค่อยเหมือนเลย?” หลิงเสวี่ยพูดพลางเอื้อมมือจะไปหยิบหมอนรองเอวใบนั้นขึ้นมา แต่โดนฉู่เฉินขวางไว้ทันที“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองว่าหมอนใบนี้เอาไว้ใช้ทำอะไร เข้ามาสิ”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็ดึงหลิงเสวี่ยให้นั่งลงข้างเตียง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกว่านโซ่วเซียนเวิงก็ถอนหายใจติดต่อกันด้วยสีหน้าเสียดายในตอนนี้เอง แผ่นกระดาษสีขาวที่เขียนตำรับยาสร้างกล้ามเนื้อพลันลอยมาจากในวังเทียนเจี้ยน“ผู้อาวุโสทั้งหลาย ขอบคุณครับ”วินาทีต่อมา เสียงของฉู่เฉินดังออกมาจากห้องโถงใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนพวกว่านโซ่วเซียนเวิงรับสูตรยาที่ฉู่เฉินส่งมา ก่อนจะมองไปทางตำหนักหลักของวังเทียนเจี้ยนอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง“พวกเราไปกันเถอะ”ว่านโซ่วเซียนเวิงคัดลอกสูตรยาไว้หนึ่งชุด แล้วก็พาลูกศิษย์แห่งสำนักว่านเซียนหันกายเดินจากไป“เหอะ ๆ... ไอ้หนูมีน้ำใจแล้ว ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณเธอแล้ว ไว้พบกันใหม่”ผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็คว้าสูตรยามาเช่นกันก่อนจะคัดลอกทันที จากนั้นเขาก็หันกายพาหลินเจี้ยนเฟิงลอยจากไปไม่นานนัก ผู้คนที่มามุงดูความคึกคักรอบนอกวังเทียนเจี้ยนก็ทยอยกันแยกย้ายไปหมดฉู่เฉินมองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนที่หน้าแดงก่ำดูอับอายอย่างยิ่งยวด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าใครใกล้ตายนะ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองฉู่เฉินพลางกัดฟันกรอด แม้ว่าตอนนี้ภัยคุกคามของวังเทียนเจี้ยนจะถูกขจัดไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่กล้าแตะต้องฉู่เฉ
เวลานี้เอง ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่ชิงเฟิงจะโกรธจริง ๆนอกจากนี้ ประตูใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนโดนทำลาย วันหน้าสถานะของวังเทียนเจี้ยนในหมู่สำนักรอบนอกภูเขาหลางจวีซวีย่อมลดลงไปอีกขั้นอย่างแน่นอแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนในตอนนี้จะร้องทุกข์มิรู้วาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเลยสักนิดเดียวเวลานี้จื่อเยว่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ต้องชื่นชมความโชคดีของฉู่เฉินเช่นกันถึงแม้ความสามารถของเขาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาศัยสติปัญญาและแผนการเรียกยอดคนอย่างลู่ชิงเฟิงออกมายืนอยู่ฝ่ายเขาได้นับว่าผ่านด่านยากตรงหน้าได้ชั่วคราวแล้วจริง ๆ “ศิษย์พี่หญิง ฉู่เฉินคงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับลู่ชิงเฟิงใช่ไหม?”หลิงรั่วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา“เกี่ยวข้องกับลู่ชิงเฟิง? ไม่มีทางหรอก!”จื่อเยว่หัวเราะหยันพลางส่ายศีรษะลู่ชิงเฟิงนั้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวังเต๋าคุนหลุน ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าสำนัก แต่ในวังเต๋าคุนหลุน นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ปลีกวิเวกไม่ออกมาเหล่านั้นแล้ว เขาก็เป็นตัวแทนพลังรบสูงสุดเลยก็ว่าได้แม้ว่าฉู่เฉินเพียงแค่รู้จักลู่ชิงเฟิงเท่านั้น แ
มันอยู่เหนือระดับที่พวกเขาสามารถประมาณค่าได้ไปแล้ว!นักพรตแห่งน้ำไฟผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเมื่อกี้ ตอนนี้ก็เหงื่อเย็นแตกพลั่ก ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธแม้แต่คำเดียวเมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็เปลี่ยนไปทันที มองสำรวจฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เจ้าหนู ดูเหมือนว่าการคำนวณของมนุษย์จะสู้การคำนวณของสวรรค์ไม่ได้จริงๆ คุณคงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยใช่ไหมล่ะ”“ยังกล้าให้ฉันมอบศิษย์ไปอุ่นเตียงให้แกอีกเหรอ? หึ!”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “ฉันแนะนำให้แกรีบส่งหยกโลหิตกิเลนมา แล้วฆ่าตัวตายรชดใช้ความผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่งั้น...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ในดวงตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ระเบิดรังสีอำมหิตออกมาสองสายสถานการณ์พลิกผันเร็วเกินไป จนกระทั่งหลิงเสวี่ยยังไม่ได้สติ แต่ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่เปลี่ยนสีหน้าเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?ฉู่เฉินหรี่ตาลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณแน่ใจเหรอ?”“หึ เจ้าหนู ใกล้ตายแล้ว อย่าดิ้นรนไปให้เปลืองแรงเลย!”ขณะกล่าว ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ชักกระบี่ออกมาทันที กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งระดับควบแ