ทันใดนั้นภายในถ้ำก็ช่างงดงามหาใดเทียบ ร่างเงาสอดประสานเสียงอ่อนละมุน……ถานเฟยกับเหลิ่งหนิงซวงที่ด้านนอกถ้ำร้อนใจราวกับไฟสุมอกนานแล้วพวกเขาเห็นกับตาว่าฉู่เฉินกับหลี่เจี้ยนจวินเดินไปถึงหน้าถ้ำแล้ว แต่ชั่วพริบตาก็ไม่เห็นฉู่เฉินแล้ว แม้แต่เงาของหลี่เจี้ยนจวินก็ไม่เห็นด้วย“เป็นไปไม่ได้! พวกเขาต้องอยู่แถวนี้แน่นอน!”เหลิ่งหนิงซวงเปิดไฟฉายมองหารอบ ๆ พลางตะโกนเรียกชื่อของฉู่เฉินอย่างร้อนใจถานเฟยส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับพูด “ไม่มีประโยชน์ เป็นไปได้มากว่าที่นี่จะมีกลไกลที่ตระกูลหลี่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ คุณฉู่น่าจะตกอยู่ในกับดักของกลไกไปแล้ว!”ถานเฟยพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมา ต่อสายไปที่สำนักงานใหญ่แก๊งมังกรแห่งเมืองหมอตู สั่งกับแก๊งมังกรทางนั้นว่า ให้ส่งคนมาช่วยเหลือทันที! ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ต้องตามหาฉู่เฉินให้เจอโดยเร็วที่สุด!ทางด้านแก๊งมังกรโอบล้อมทั้งอวิ๋นเชวี่ยวิลล่า ระหว่างที่ตามหาฉู่เฉินไปทั่ว หลี่เจี้ยนจวินก็หนีกลับตระกูลหลี่ผ่านทางลับอีกทาง“พ่อ...เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้ว พี่ใหญ่กับพี่รองถูกฆ่าแล้ว!”หลี่เจี้ยนจวินสับขาวิ่งไปที่ห้องโถง พลางตะโกนอย่างหืดหอบหลี่
เมื่อหลี่หงถูและคนของบ้านตระกูลหลี่รีบกลับไปที่อวิ๋นเชวี่ยวิลล่า สมาชิกแก๊งมังกรจำนวนมากก็ปิดล้อมอวิ๋นเชวี่ยวิลล่าไว้หมดแล้ว“พ่อ น่าจะเป็นคนของแก๊งมังกร”หลี่เจี้ยนจวินหันไปมองหลี่หงถูที่เบาะหลังเมื่อมองอย่างละเอียดไปยังสมาชิกแก๊งมังกรสองคนที่เฝ้าอยู่ไม่ไกลจากหน้าประตู หลี่หงถูก็พูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเจรจากับพวกเขาเอง”พูดจบ หลี่หงถูก็ผลักประตูรถออกไปและเดินลงมาจากรถ ปี้คุนก็เดินตามหลังหลี่หงถูด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแก๊งมังกรเป็นศัตรูตัวฉกาจของสำนักว่านเซี๋ยถ้าไม่ถูกเพ่งเล็งจากแก๊งมังกร คิดเหรอว่ารองเจ้าสำนักว่านเซี๋ยที่ทรงเกียรติอย่างเขาจะมาหลบๆ ซ่อนๆ อย่างนี้วันนี้เรียกได้ว่าศัตรูมาพบกัน ต่างฝ่ายต่างโกรธจนเลือดขึ้นหน้าตราบใดที่หลี่หงถูออกคําสั่ง ปี้คุนก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าสมาชิกของแก๊งมังกรทั้งหมด“หยุด! ที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้าม ใครก็ผ่านไปไม่ได้!”หนึ่งในสมาชิกแก๊งมังกรก้าวไปข้างหน้าและขัดขวางไม่ให้หลี่หงถูไปโดยตรง“แกแม่งตาบอดเหรอ นี่คือนายท่านใหญ่หลี่ แกกล้าขวางเหรอ! ให้หัวหน้าเสิ่นของพวกแกออกมาพูด!”บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังหลี่หงถู ก้าวไ
หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลี่หงถูมั่นใจว่าจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำระดับสูงในแก๊งมังกรของเขา เพื่อให้ถานเฟยยอมจํานนแต่โดยดีอย่าคิดว่าตระกูลหลี่มีขอบเขตอิทธิพลของอยู่แต่ในเมืองหมอตู ทว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลี่หงถูได้ซื้อตัวหัวหน้าระดับสูงของแก๊งมังกรจํานวนมาก เพื่อช่วยสำนักว่านเซี๋ยในการหลีกเลี่ยงการตามล่าจากแก๊งมังกรนี่คือเหตุผลที่ทำไมเครือข่ายข่าวสารของแก๊งมังกรทั่วแดนมังกรถึงคว้าน้ำเหลวหลายครั้ง ไม่สามารถกําจัดสำนักว่านเซี๋ยสำนักว่านเซี๋ยได้สักที“หัวหน้าใหญ่แก๊งมังกร ถานเฟย!”ทันทีที่คําพูดนี้ออกมา หลี่หงถูก็ตกตะลึงอยู่กับเดิมหัวหน้าใหญ่แก๊งมังกรเป็นบุคคลที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากท่านหลงผู้บัญชาการสูงสุด แม้แต่หัวหน้าระดับสูงที่มีมิตรภาพกับตระกูลหลี่ล้วนเป็นลูกน้องของถานเฟยไม่ต้องพูดถึงบังคับให้ถานเฟยยอมจํานนเลย ถ้าถานเฟยรู้ว่าใครเกี่ยวข้องกับตระกูลหลี่บ้าง ก็อาจจะติดร่างแหไปด้วย อีกทั้งสายที่ตระกูลหลี่เลี้ยงไว้ในแก๊งมังกรตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็จะถูกถอนรากถอนโคนจนหมดไปด้วย“ท่านหลี่...”ปี้คุนเผยใบหน้าอาฆาต ก้าวไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูหลี่หงถูครู่หนึ่ง“ไม่!”หลี่หง
ตอนนี้เอง กู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ภายในถ้ำก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา สายตาพร่ามัวมองทางฉู่เฉินแล้วพูดขึ้นมาว่า “ทำไมเมื่อกี้ฉันถึงรู้สึกว่าร่างกายร้อนรุ่ม หลังจากนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกเย็นขึ้นมาทันทีล่ะคะ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มบางๆ อุ้มกู้รั่วเสวี่ยขึ้นมา “ก็ผมช่วยคุณถอนพิษยังไงล่ะครับ”อะไรนะ?กู้รั่วเสวี่ยมองไปที่ฉู่เฉินด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา “ใคร... ใครถอนพิษให้คนอื่นแบบนี้กันเล่า?”วิธีถอนพิษของฉู่เฉินมันจะพิเศษไปแล้วมั้งอีกอย่างทำเรื่องอย่างว่าสามารถถอนพิษได้จริงๆ เหรอ?ในระหว่างที่สับสนอยู่นั้น กู้รั่วเสวี่ยก็เหลือบมองไปที่แผลบนร่างกายของเธออย่างอดไม่ได้จริงด้วย รอยที่โดนแส้หนังฟาดเมื่อกี้ก็แทบจะไม่เห็นแล้วอีกทั้งผิวกายทั่วทั้งร่างของเธอก็กระจ่างใสขึ้นมาถึงขนาดที่ว่าจุดสำคัญๆ ก็อ่อนนุ่มราวกับเด็กแรกเกิด“นะ... นี่มันเป็นไปได้ยังไงคะ พี่... พี่ทำได้อย่างไรคะ?”กู้รั่วเสวี่ยไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองตอนที่หลี่เจี้ยนกั๋วใช้แส้หนังตีเธอ เขาบอกเธอว่าน้ำเย็นที่แช่อยู่ในแส้มีสารหนูซึ่งเป็นพิษร้ายแรง ซึ่งจะถึงแก่ชีวิตได้หากโดนบาดแผลของเธอกระทั่งที่ว่าตอนที่เธอได้เจอฉู่เฉินอีกครั้ง กู้
พูดจบฉู่เฉินก็พยุงกู้รั่วเสวี่ยไปที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมกับถานเฟยและคนอื่นๆหลี่หงถูมองแผ่นหลังของฉู่เฉินและกู้รั่วเสวี่ยที่เดินออกไปไกล เขาก็ส่งเสียงไม่พอใจในลำคอ กัดฟันกรอดพูดขึ้นมาอย่างเบาๆ ว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่นั่นไว้ชีวิตฉันงั้นเหรอ? หึ! อีกไม่นานหรอก ฉันจะควักหัวใจของแกออกมาเพื่อเซ่นไหว้ให้ลูกชายที่ตายไปของฉัน!”ปี้คุนก้าวไปข้างหน้า พูดกับหลี่หงถู “เรื่องนี้คงจะไม่ง่ายแบบนั้น อายุยังน้อยแบบนี้ก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสร้างรากฐานแล้ว”อะไรนะ?หลี่หงถูมองไปที่ปี้คุนด้วยความตกตะลึงปี้คุนพยักหน้าเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็ยิ้มเย็นๆ แล้วพูดว่า “เพียงแต่ว่าเขาพึ่งทะลวงระดับสร้างรากฐาน รอให้เรื่องนี้เงียบลงก่อน เดี๋ยวผมจะไปเด็ดหัวมันกลับมาให้ท่านหลี่เองครับ”“ได้!”หลี่หงถูได้ยินประโยคนั้น ใบหน้าของเขาก็ปรีดีขึ้นมา……อีกด้านหนึ่ง เฮลิคอปเตอร์ก็ค่อยๆ บินขึ้นไปบนอากาศ เหลิ่งหนิงซวงและคนอื่นๆ ก็โบกมือลาถานเฟยและฉู่เฉินหลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ได้บินขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าใหญ่ถาน เมื่อกี้คุณบอกว่าท่านหลงโดนลอบสังหาร เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ครับ
ในตอนที่ฉู่เฉินและถานเฟยเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก็มีคนอยู่เต็มไปหมดแม้ว่าคนมากมายกำลังยื้อชีวิตท่านหลงอยู่นั้น แต่ก็ทำได้เพียงแค่ยื้อลมหายใจที่รวยรินมากๆ ของท่านหลงเอาไว้“ทุกคนหลบหน่อย!”ถานเฟยก็พยายามดันฝ่าฝูงชนเข้าไป พร้อมทั้งพาฉู่เฉินมายังตรงหน้าท่านหลงแพทย์เจ้าของไข้เงยหน้าขึ้นมามองฉู่เฉิน พร้อมทั้งสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยอย่างหนัก “ตอนนี้ปัญหาที่หนักที่สุดของท่านหลงก็คือ หัวใจของท่านถูกกระสุนเจาะทะลุแล้ว”“ตอนนี้เขามีชีวิตอยู่ได้เพราะการถ่ายเลือดจำนวนมาก และเนื่องจากมีเลือดคั่งในช่องอกเป็นจำนวนมาก ทางเราจึงไม่สามารถทำการเย็บหัวใจได้”หมอเจ้าของไข้อธิบายอาการไปด้วย พร้อมทั้งสังเกตการเปลี่ยนแปลงสีหน้าท่าทางของฉู่เฉินไปด้วยแต่ฉู่เฉินกลับไม่เหลียวแลหมอเจ้าของไข้เลย เขามาตรงหน้าท่านหลง และทำการตรวจสอบชีพจรของท่านหลงอย่างละเอียดสถานการณ์เป็นเหมือนที่เขาบอกไม่กี่วันก่อนหน้านี้จริงๆ ชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้าย!นี่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของท่านหลงเลยก็ได้หลังจากนั้นฉู่เฉินก็เปิดไปตรงกระเป๋าเสื้อของท่านหลง มองไปที่บาดแผล เขาขมวดคิ้วแล้วหยิบเข็มเงินสองเล่มออกมา แบ่งฝังไปที่
ฉู่เฉินมองไปที่กระถางยาในมือของถานเฟย ดวงตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมา!กระถางยานี้แม้ว่าจะสนิทเกรอะกรัง ดูเก่าจนหมดสภาพ แต่ในความจริงแล้วกลับเป็นสมบัติล้ำค่า!คราบเกรอะกรังสีเขียวนั่นไม่ใช่สนิม แต่เป็นคราบยา!ฉู่เฉินยื่นมือเข้าไปรับกระถางยาในมือของถานเฟย แล้วถือขึ้นมาใกล้จมูกสูดดมกลิ่นเบาๆข้างในมีกลิ่นหอมของยาจริงๆ ด้วย!เพียงแต่ว่าตัวอักษรรอบๆ กระถางยาได้ถูกสนิมบดบังไปหมดแล้ว ดูไม่ออกว่าเขียนอะไรแต่ฉู่เฉินมั่นใจได้แน่นอนว่า กระถางยาที่ถานเฟยนำมาให้ดีกว่ากระถางยาที่อยู่ในมือเขาเป็นร้อยเท่าอาจจะเห็นผลลัพธ์อย่างเกินคาดเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินสักพักมอง สักพักยกขึ้นมาดม ทันใดนั้นถานเฟยก็รู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก!ในฐานทัพมีแค่สิ่งนี้สิ่งเดียวที่ดูเหมือนกระถางยา ถ้าใช้ไม่ได้ แล้วต้องไปซื้อตอนนี้ก็หาซื้อไม่ได้ “คุณฉู่ครับ ถ้าใช้ไม่ได้จริงๆ คุณใช้ถู ๆ ไถ ๆ ไปก่อนนะครับ กระถางยาอันนี้พวกเราได้มาจากห้องใต้ดินของสำนักว่านเซี๋ย อาจจะเก่าไปบ้าง แต่ในตอนนี้หาซื้อไม่ได้จริงๆ ครับ”ถานเฟยร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมาตอนนี้ชีวิตของท่านหลงพร้อมจะจากไปทุกเมื่อ“ไม่เพียงแค่ใช้ได้นะ แต
สามารถพูดได้ว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากกระถางยา ฉู่เฉินคงไม่สามารถหลอมยาสร้างกล้ามเนื้อสำเร็จ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงด่านเคราะห์โอสถทองคำดูแล้วกระถางยาใบนี้ต้องเป็นสุดยอดของล้ำค่าแน่นอน!เพียงแต่ว่าร่องรอยตัวอักษรข้างบนนั้นมองเห็นไม่ชัด แม้แต่ฉู่เฉินเองก็ไม่สามารถรู้ความเป็นมาของมันได้ไม่มีเวลามาให้เขาคิดมากมาย ฉู่เฉินก็เก็บกระถางยาอย่างระมัดระวัง พร้อมทั้งนำยาสร้างกล้ามเนื้อทั้งสองเม็ดใส่เข้าไปในขวดเซรามิก นำเม็ดที่เหลือสุดท้ายถือไว้ในมือ รีบเดินไปที่ห้องฉุกเฉินขณะนั้นเองก็เป็นท้องฟ้าก็สว่างไสวถานเฟยยังคงเดินไปมาอยู่ในห้องฉุกเฉิน ข้างๆ เขามีหมอเจ้าของไข้ดูเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่างกับถานเฟยอยู่เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินกลับมาแล้ว หมอเจ้าของไข้ก็รีบปิดปากทันที ในตอนที่ฉู่เฉินผลักประตูเข้ามา คิ้วที่ขมวดมุ่นของถานเฟยก็ค่อยๆ คลายออก“คุณฉู่ เป็นยังไงบ้างครับ?”ถานเฟยถามขึ้นมาอย่างรีบเร่ง“นำยาเม็ดทองคำนี่ให้ท่านหลงกินซะ!”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินแบมือออก ยาลูกกลอนสีทองนั้นส่องแสงสว่างสีทองออกมา ถานเฟยเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับชะงักไปเลยทันที“ครับ!”ถานเฟยขานรับ พร้อมทั้งหยิบยาทองคำนั้นมา
ความจริงแล้ว สิ่งที่สวีปินพูดก็เป็นเรื่องจริง ในสถานการณ์ตอนนั้น ใครจะกล้าพูดคำว่า “ไม่” กันล่ะ? เขาเชื่อว่าฉู่เฉินจะลงมือโดยไม่ลังเลแน่นอนส่วนเรื่องการชำระบัญชีกับหอการค้ากิเลน นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอีกอย่าง กฎหมายไม่อาจลงโทษฝูงชนได้!หอการค้าตะวันออกใหญ่ทั้งหมด แค่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมก็มีมากกว่าร้อยคนแล้ว หอการค้ากิเลนคงไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หรอกใช่ไหม?“โอ้? หมายความว่าตอนที่เกาเซิ่งอี้ถูกฆ่า คุณก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเองงั้นเหรอ?”หลิงเสวี่ยขมวดคิ้ว ดวงตาค่อยๆ เย็นชาลง พร้อมตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเย็น“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เห็น วันนั้นทุกคนที่ไปร่วมงานฉลองครบรอบต่างก็เห็นกันหมด แต่จะทำอะไรได้ล่ะครับ? พวกเราเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา จะไปช่วยคุณเกาได้ยังไง...”สวีปินกล่าวแก้ตัวด้วยสีหน้าเศร้าโศก“งั้นฉันจะถามคุณ ใครเป็นคนฆ่าเกาเซิ่งอี้?”หลิงเสวี่ยลุกขึ้นช้าๆ มือหยกเรียวกดลงบนไหล่ของสวีปินเบาๆทันใดนั้น ความเย็นเยือกถึงกระดูกก็กลืนร่างของสวีปินไปจนหมด“คะ...คือชายคนหนึ่งชื่อฉู่เฉิน และดูเหมือนว่าบนตัวของฉู่เฉินจะมีหยกโลหิตกิเลนที่คุณเกาตามหาอยู่ด้วยครับ”สวีปิ
"ทำไม ฆ่าเกาเซิ่งอี้แค่คนเดียว ก็ทำให้คุณกลัวขนาดนี้เลยเหรอ? คุณอย่าลืมสิว่าตอนนี้คุณก็เป็นเจ้านิกายแห่งสำนักอวี้ซือเหมือนกัน"ฉู่เฉินมองข่งเลี่ยงที่ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษพลางกล่าวขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เฉิน ข่งเลี่ยงก็รีบปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก กลืนน้ำลายอึกแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความระมัดระวังว่า "คุณฉู่ แม้ว่าเกาเซิ่งอี้จะเป็นแค่เบี้ยตัวเล็ก ๆ แต่...""แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับหยกโลหิตกิเลน งั้นก็ถือเป็นเรื่องใหญ่แล้ว""ช่วงนี้มียอดฝีมือจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่มณฑลเจียง ส่วนมากล้วนมาเพราะเรื่องนี้ คุณฉู่ควรเตรียมตัวรับมือไว้แต่เนิ่น ๆ จะดีกว่านะครับ"ข่งเลี่ยงรู้ดีว่าฉู่เฉินยังมีไพ่ตายอย่างอวี้ลู่อยู่ มีผู้แข็งแกร่งระดับเทวะคอยคุ้มกัน อีกฝ่ายก็ยากจะทำอะไรฉู่เฉินได้ในเวลาอันสั้นแม้แต่ราชสีห์ก็ยังมีเวลาพักผ่อนถ้าอีกฝ่ายหาจังหวะได้ เกรงว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทวะ ก็อาจช่วยฉู่เฉินไม่ทันฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า“อืม ตอนนี้สำนักอวี้ซือยังเหลือศิษย์อยู่เท่าไหร่? อยู่ระดับไหน? ”ข่งเลี่ยงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตอบฉู่เฉินว่า “สำนักอวี้ซือเดิมทีก็เป็นเพียงสำนักเล็ก ๆ หลังจ
……ผ่านไปสิบนาทีฉู่เฉินก็เดินเข้าไปในห้องบุปผาข้างหน้าลานบ้านหยางเทียนหลงรีบวางถ้วยชาลงแล้วลุกขึ้นกำมือประสานคารวะกล่าว “หยางเทียนหลงคารวะคุณฉู่ครับ”ฉู่เฉินโบกมือกล่าว “เชิญนั่งตามสบาย ใช่แล้ว แกเป็นบ้าอะไรตั้งแต่เช้าตรู่?”อึก…หยางเทียนหลงยิ้มไม่เป็นธรรมชาติกล่าว “คุณฉู่ เช้าวันนี้ผมได้รับข่าวว่ามีคนต้องการแบนซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลในวงการการค้าทั่วทั้งมณฑลครับ”“และยังทิ้งท้ายว่า ใครกล้าร่วมธุรกิจกับซินฉู่ฟาร์มาซูติคอล จะทำให้ล้มละลายภายในหนึ่งเดือน”พูดถึงตรงนี้แล้วหยางเทียนหลงก็พูดตามที่ครุ่นคิด “ช่วงนี้คุณฉู่คงไม่ได้ไปล่วงเกินใครไว้หรอกนะ?”ที่สำคัญคือฝั่งนั้นกล้าทิ้งคำพูดบ้าดีเดือดออกมาในวงการการค้าทั่วทั้งมณฑลเจียงแบบนี้ คงมีอำนาจที่ไม่ธรรมดาแน่“หอการค้ากิเลน”ฉู่เฉินกล่าวเสียงราบเรียบตามที่หยางเทียนหลงพูดมาแบบนี้ ฉู่เฉินก็ยืนยันได้แล้วว่าหอการค้ากิเลนที่เป็นคนแบนยาบำรุงปราณและซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลอย่างแน่นอนมั่นใจมากเลยว่าหลังจากข่าวการเสียชีวิตของเกาเซิ่งอี้ถูกปล่อยออกมาก็ได้มีคนหลุดรอดกลับไปแจ้งข่าวหอการค้ากิเลนหรือพูดได้ว่าเป็นกองกำลังผู้อยู่เบื้องหลังได้จับตาม
“ค่ะ”หลิ่วชิงเหอไม่กล้าต่อต้าน และยิ่งไม่กล้าขัดขืนใด ๆ ชีวิตของคนธรรมดาก็เหมือนกับแมลงที่ไม่มีค่าควรเอ่ยถึงสำหรับสำนักใหญ่อย่างวังจื่อเซียวเธอไม่สงสัยสักนิดเลยว่าถ้าเธอไม่เชื่อฟังคำพูดหลิงรั่ว เธอและหลิ่วหรูเยียนคงจะถูกยันต์โลหิตวิญญาณทำร้ายจนเลือดนองเละเป็นโจ๊กภายในชั่วพริบตาอย่างแน่นอน“ยังไม่รีบไปอีก!”หลิงรั่วถลึงตาใส่หลิ่วชิงเหอและตวาดเสียงเย็นชาหลิ่วชิงเหอรีบพยักหน้าแล้วเดินไปยังป้ายรถเมล์ริมถนนหลักอย่างรวดเร็ว……อีกด้านหนึ่ง เช้าตรู่ฉู่เฉินไปที่พักของอวี้ลู่กำลังเก็บตัวบำเพ็ญโดยเฉพาะสถานการณ์สองวันมานี้ของอวี้ลู่ไม่ค่อยดีอย่างเห็นได้ชัดและก็ไม่รู้ว่ายัยนั่นเป็นยังไงบ้าง จิตใจปั่นป่วน ถึงขั้นที่ฉู่เฉินเด็ดลูกท้อก็ยังไม่โกรธสักนิดนี่ทำเอาฉู่เฉินค่อนข้างแปลกใจแต่ ฉู่เฉินที่ระมัดระวังก็แค่จับโดนหน้าอกเอง ไม่ได้ทำขั้นต่อไปสักหน่อยแต่แค่นี้ก็ทำเอาอินซู่ซู่ตกใจเป็นอย่างมาก“นาย…นายท่าน ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้เด็ดขาดนะ สองสามวันนี้ท่านผู้อาวุโส…ท่านผู้อาวุโสเริ่มแปลกไป”อินซู่ซู่เดินไปข้างหน้าภูเขาอีกทางกับฉู่เฉินแล้วกระซิบกล่าว“โอะ? ลองพูดมาสิ หลายวันมานี้เธอ
“เหลืออีกไม่ถึงสามเดือนก็จะถึงวันที่สิบยอดขุนพลดินแดนมังกรแย่งชิงตำแหน่งสี่ขุนพลเทพพิทักษ์ชาติ ถ้าศิษย์น้องไม่ได้ยาโลหิตวิญญาณเพิ่มระดับพลังแล้วละก็ ทันทีที่ตกรอบ แผนที่ท่านอาจารย์ผู้เฒ่าวางไว้คงจะแพ้หมดรูปแน่”คิ้วสวยน่ามองของจื่อเยว่ขมวดเล็กน้อย มองไปยังหลิ่วชิงเหอที่กำลังตกใจจนตัวสั่น “เธอมีวิธีทำให้คนที่ฉู่เฉินคนนั้นมอบเลือดบริสุทธิ์มาให้สักหน่อยไหม?”อะไรนะ?หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าอย่างแรงราวกับกลองคลื่น พร้อมกล่าววิงวอน “ท่านประมุข ขอร้องคุณอย่าได้บังคับฉันเลย คุณไม่ทราบช่วงเวลาก่อนหน้านี้พวกเราสองแม่ลูกต้องประสบกับการล้างแค้นยังไงจากฉู่เฉิน”“ฉันยอมรับว่าสามปีมานี้ฉันผิดต่อเขา แต่…แต่เขาไม่ควรปู้ยี่ปู้ยำพวกเราสองแม่ลูกอย่างนั้น”“ท่านประมุข อย่าว่าแต่ให้เขามอบเลือดบริสุทธิ์ให้เลย แค่เขามีปัญหาเล็กน้อยก็จะทำกับพวกเราสองแม่ลูก…”หลิ่วชิงเหอพูดแค่นี้แล้วก็ยังบีบน้ำตาออกมาสองหยด“เหอะ!”หลิงรั่วทำเสียงฮึดฮัดและกล่าวกับจื่อเยว่ “ศิษย์พี่ใหญ่ ฉันจะลงเขาไปคุยกับคนแซ่ฉู่นั่นเอง ถ้าเขาหัวแข็ง ฉันจะใช้ยันต์โลหิตวิญญาณทำให้เขาอ้อนวอนขอตายก็ตายไม่ได้เอง!”“ดูสิว่าเขาจะกล้าไ
หญิงสาวยื่นมือแกะผ้าปิดตาหลิ่วชิงเหอ และกล่าวอย่างเย็นชา “ท่านประมุขรอคุณอยู่ที่ตำหนักใหญ่”กล่าวเสร็จก็ใช้นิ้วไปยังตำหนักมโหฬารที่อยู่เหนือขั้นบันไดหลายร้อยขั้น“ค่ะ ฉันจะไปพบท่านประมุขเดี๋ยวนี้ค่ะ”หลิ่วชิงเหอในเวลานี้ จะไปมีท่าทางสูงส่งเหมือนช่วงปกติได้ที่ไหนล่ะ?แม้ว่าวังจื่อเซียวจะมีลูกศิษย์ไม่ถึงร้อยคน แต่ขนาดเกาเซิ่งอี้ที่อยู่เบื้องหลังหอการค้ากิเลนยังหวั่นเกรงด้วยเหตุนี้จึงเดาไม่ยากเลยว่าวังจื่อเซียวนั้นน่าสะพรึงแค่ไหน!หลิ่วชิงเหอใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการเดินขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นนี้ได้ ปาดเหงื่อแล้วเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ของวังจื่อเซียว ขณะนี้บนตำแหน่งหลักบนสุดของห้องโถงในตำหนักนี้มีหญิงสาวที่งดงามมีผิวราวกับน้ำแข็งและมีใบหน้าที่เย็นชาเมื่อพิจารณาจากอายุแล้วประมาณยี่สิบห้ายี่สิบหกเท่านั้น ใบหน้างามนั้นราวกับนางฟ้านางสวรรค์ในดินแดนเทพเซียนผมสีดำยาวสลวยของเธอห้อยลงมาถึงเอวราวกับน้ำตก ดวงตาของเธอลึกล้ำและกระจ่างราวกับดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน และรูปลักษณ์ใบหน้าของเธอแลดูน่าเกรงขามชุดกระโปรงสีขาวราวหิมะ เผยให้เห็นผิวเนียนบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นท่านประมุขวังจื่อเซีย
“วางใจได้ค่ะ หนูคิดว่าฉู่เฉินไม่ได้สนใจหอการค้าตะวันออกใหญ่เลยสักนิด หนูเดาว่า เป็นไปได้สูงว่าเขาคงจะทำการยุบหอการค้าตะวันออกใหญ่ไปตั้งแต่แรกแล้วถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแซ่เจียงคนนั้นละก็นะ”หลิ่วหรูเยียนนึกย้อนถึงฉากที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน และกล่าวตามสิ่งที่คิดไว้หลิ่วชิงเหอได้ยินแล้วก็เงียบไปก็จริง มียาบำรุงปราณและยาบำรุงสวรรค์ในมือ ฉู่เฉินยังต้องการหอการค้าตะวันออกใหญ่ไปทำไม?ไม่จำเป็นเลยสักนิด“ก็ได้ เรื่องอะไรก็ตามลูกก็ระมัดระวังหน่อยแล้วกัน ใช่แล้ว ลูกวางแผนจะย้ายเข้าเฉียนหลงวิลล่าเมื่อไหร่? ฉู่เฉินมีท่าทีอะไรไหม?”หลิ่วชิงเหอถามต่อ“เขาไม่สนใจเฉียนหลงวิลล่าหรอกค่ะ มอบเฉียนหลงวิลล่าให้พวกเราทันทีแบบไม่คิดด้วยซ้ำ พรุ่งนี้เช้าหนูจะย้ายเข้าไป คฤหาสน์ตระกูลฉู่เล็กเกินไปจริง ๆ ”หลิ่วหรูเยียนขยับเล็บที่เพิ่งไปทำมาใหม่เล่น และเปลี่ยนเรื่องถามไถ่ “ทางนั้นเป็นยังไงบ้างคะแม่ ยังราบรื่นไหม?”“เฮ้อ”หลิ่วชิงเหอถอนหายใจเบา ๆ และกล่าวอย่างกังวลใจ “ยังรอเข้าพบอยู่เลยจ้ะ พรุ่งนี้ละมั้ง อาจจะได้ผลลัพธ์ ถึงตอนนั้นแม่ค่อยโทรหาลูกนะ”กล่าวจบหลิ่วชิงเหอก็วางสายไป……ในเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห
ที่จริงแล้วดินแดนลึกลับก็คือคนในโลกแห่งการบำเพ็ญเซียน วิชาที่ใช้โดยทั่วไปก็คือวิชาพรางตาป้องกันคนภายนอกสอดแนมโดยทั่วไปถ้ามองจากภายนอกอาจจะเห็นเป็นเนินเล็ก ๆ แต่ถ้าเข้าไปข้างในนั้นได้ก็จะพบว่าภายในมีจักรวาลฟ้าดินอีกแห่ง พื้นที่กว้างใหญ่ ยอดภูเขาตั้งซ้อนสลับกันแต่ตามที่เซียวถิงฮั่นกล่าวมา นั่นก็เท่ากับสิ่งที่เรียกว่าสี่ยอดขุนเขาศักดิ์สิทธิ์อะไรนั่นก็ใช้วิธีพรางตาแบบเดียวกันมีแต่จะใช้คาถาหรือวิชาลับพิเศษจึงจะสามารถเข้าไปในสี่ยอดขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงได้คนธรรมดา ต่อให้ใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัยที่สุดก็ไม่มีทางหาทางเจอฉู่เฉินพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกับเซียวถิงฮั่นไม่กี่ประโยคแล้ว สองพ่อลูกเซียวถิงฮั่นก็ลุกขึ้นขอตัวลา……อีกทางด้านหนึ่ง จุดที่ลึกสุดของภูเขาหลางจวีซวี บนยอดเขาสูงตระหง่านมีวิหารมากมายในขณะนี้เอง ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ในวิหารหลักของวังเทียนเจียน ซึ่งกำลังมองแผ่นหยกที่แตกหักในมือของเขาด้วยสีหน้าเศร้าหมองอย่างยิ่ง จิตสังหารพลุ่งพล่านอยู่ในดวงตาของเขา“ท่านปรมาจารย์ เกาเซิ่งอี้เสียชีวิตแล้ว ต้องรีบส่งคนไปตระกูลฉู่ที่เมืองเจียงจงเพื่อตามหาหยกโลหิตกิเ
เซียวถิงฮั่นกล่าวพร้อมประสานมือคารวะฉู่เฉินจากนั้นเซียวจี้เซียนรีบนำโสมแก่ร้อยปีสามต้นยื่นให้ตรงหน้าฉู่เฉินเห็นโสมสามต้นแล้วฉู่เฉินก็ฉีกยิ้มบาง ๆ กล่าว “ผู้อาวุโสเซียว เป็นไปตามที่คุณพูด ผมกับตระกูลเซียวคุณไม่ได้มีความแค้นอะไร ดังนั้นเรื่องของเซียวจี้กวางก็ถือจบกันไปแล้วกัน”“แต่ว่า ผมมีหนึ่งเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย”ได้ยินแล้วเซียวถิงฮั่นก็รีบกล่าวพร้อมมือประสาน “คุณฉู่ มีคำถามอะไรถามมาได้เลยครับ ถ้าผมรู้ผมจะตอบทุกอย่างเลยครับ”ฉู่เฉินครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วขมวดคิ้วเอ่ยถาม “ผู้อาวุโสเซียว ในปีนั้นตกลงแล้วเกาเซิ่งอี้ได้รับคำสั่งมาจากใครให้ไปลักพาตัวพ่อแม่ของผมกันแน่?”เซียวถิงฮั่นได้ยินแล้วก็ส่ายหน้าขมวดคิ้วแน่นพร้อมตอบ “คุณฉู่ ขอบอกตามตรงโดยไม่ปกปิดนะ ตระกูลเซียวของเราเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ ไม่ค่อยได้ติดต่อคนจากโลกแห่งการหยั่งรู้สักเท่าไหร่”“ผมก็รู้แค่ว่าเรื่องในปีนั้นเกาเซิ่งอี้ได้รับคำสั่งจากสำนักใหญ่สำนักหนึ่งที่อยู่ภูเขาหลางจวีซวี แต่เป็นใครนั้นผมก็ไม่สามารถล้วงลึกได้ และไม่กล้าสืบต่อ”พูดถึงตรงนี้แล้วเซียวถิงฮั่นก็หยุดไป จากนั้นพูดต่อ “ผมมีคำพูดจะเตือน ในเมื่อเรื่องในปีนั