“ปรมาจารย์ขู่ไห่ คุณต้องช่วยตระกูลถังของเรานะครับ” ถังจิ้งจือร้อนใจปรมาจารย์ขู่ไห่กระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบว่า “ง่ายมาก แค่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูรูปนี้ออกไปก็พอ อีกเดี๋ยวผมแค่ทำพิธีให้คุณก็สิ้นเรื่องแล้ว”“ครับๆๆ ขอบคุณปรมาจารย์ขู่ไห่มาก” ถังจิ้งจือประสานหมัดขอบคุณเป็นการใหญ่ถังเจียวเจียวชำเลืองมองฉู่เฉินอย่างทะนงตัว “ไอ้น้อง ได้ยินหรือยัง? หาต้นเหตุเจอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้แกช่วยเลยสักนิด!”“ตอนนี้แกรีบถอดกางเกง แล้วไปคุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านของฉัน ให้ฉันเหยียบไอ้นั่นของแกให้แหลกซะเถอะ!”ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ ก่อนพูดว่า “งั้นเหรอ? หาต้นเหตุเจอแล้วจริงๆ เหรอ?”“เหลวไหล!”ปรมาจารย์ขู่ไห่ขมวดคิ้ว ก่อนจะตำหนิอย่างไม่พอใจ “เจ้าหนู บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดจาส่งเดช!”ฉู่เฉินส่ายหน้า ก่อนยิ้มหยัน “ดูท่า ปรมาจารย์ขู่ไห่ที่เลื่องลือกันนักหนาก็เป็นแค่คนมีความสามารถครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่สมกับชื่อเสียงสักนิด”“ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอูสักหน่อย!”สิ้นประโยคของฉู่เฉิน บรรยากาศในห้องรับแขกกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาทันทีปรมาจารย์ขู่ไห่สีหน้าโกรธขึ้ง ตบโต๊ะพร้อมกับตะคอกเสีย
ปรมาจารย์ขู่ไห่ตบโต๊ะด้วยความโมโห “เหลวไหล! ลานบ้านอะไรกัน แกพูดจาเพ้อเจ้อซะมากกว่า! ปัญหาเกิดจากรูปปั้นกวนอูรูปนี้แท้ๆ แค่อัญเชิญรูปปั้นออกไป ปัญหาของตระกูลถังต้องแก้ไขได้แน่!”ฉู่เฉินยิ้มเย็น เขามองปรมาจารย์ขู่ไห่ด้วยหางตา ก่อนจะเอ่ยอย่างดูแคลนว่า “ที่บอกว่าความสามารถของคุณไม่สมชื่อเสียง ยังถือว่าชมเกินไปซะด้วยซ้ำ”“ปรมาจารย์ขู่ไห่ ผมขอถามคุณหน่อย บ้านหลังนี้เป็นฮวงจุ้ยลักษณะไหน?” ฉู่เฉินถามปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะในลำคอ ก่อนตอบว่า “เจ้าหนู แกยังคิดจะทดสอบฉันอีกเหรอะ? งั้นแกคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ ฉันเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการฮวงจุ้ยหยินหยางมาห้าสิบปีแล้ว”“ที่นี่มีลักษณะฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุก”ฉู่เฉินพยักหน้า ก่อนจะยิ้มหยันว่า “ตาเฒ่าอย่างคุณ ยังนับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง”“แก!” ปรมาจารย์ขู่ไห่โมโหจนผมตั้งฉู่เฉินถามต่ออีกว่า “งั้นผมขอถามคุณ ฮวงจุ้ยแบบหอยเฒ่าคายมุก กลัวอะไรที่สุด?”ปรมาจารย์ขู่ไห่ตอบออกไปโดยไม่คิด “ย่อมต้องเป็นไอโลหิตพิฆาต ทันทีที่แปดเปื้อนไอโลหิตพิฆาต ฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุกก็จะแว้งกัด สถานเบาทรัพย์สินเสียหาย ผู้คนดูถูก สถานหนัก บ้านแตกสาแหรกขาด สมาชิกในครอบครัวล้มหายตา
ฉู่เฉินพูดจบก็หมุนตัว พากู้รั่วเสวี่ยออกไปทันที“สามหาว! แกว่ายังไงนะ? อยากตายรึไง?!”ถังเจียวเจียวเดือดดาลขณะที่กำลังจะก้าวขาออกจากประตู ฉู่เฉินพูดทิ้งท้ายโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง “ท่านถัง ขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอู”“อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป ไม่เพียงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพวกคุณ แต่ยังทำให้หนักขึ้นไปอีก!”“ทันทีที่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป บ้านหลังนี้จะไร้ซึ่งพลังของมันคอยกดข่มพลังร้าย ไอโลหิตพิฆาตในที่แห่งนี้จะยิ่งรุนแรง ถึงตอนนั้น ตระกูลถังของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน!”“และคนแรกที่จะถูกพลังด้านลบแว้งกัด ก็คือหลานสาวของคุณ!”“เธอจะถูกวิญญาณร้ายในที่แห่งนี้เข้าสิง ทำให้มีพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ และวิญญาณร้ายนั่น ยังเป็นวิญญาณผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอีกด้วย หากไม่จัดการให้ดี ความบริสุทธิ์ของหลานสาวคุณก็จะถูกทำลายทันที”“ดูแลตัวเองด้วยก็แล้วกัน!”พูดจบ ฉู่เฉินก้าวเท้าออกจากบ้านตระกูลถังเลยด้านหลัง ถังเจียวเจียวด่าทออย่างเกรี้ยวกราด“สารเลว! แกว่ายังไงนะ? คอยดูเถอะฉันจะเหยียบไอ้นั่นของแกให้เละ!”ถังเจียวเจียวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
กึก!ถังจิ้งจือสะดุดกึก นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่เฉินขึ้นมาได้“ปรมาจารย์ขู่ไห่ นี่มันยังไงกันแน่ครับ? คุณพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าหากย้ายรูปปั้นกวนอูออกไปก็จะไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ถังจิ้งจือถามเสียงขรึมปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าเปลี่ยนสี ยังคงพูดติดอ่าง “คือว่า เรื่องนั้น...”“เหอะ! ปรมาจารย์ขู่ไห่ วันนี้หากตระกูลถังของผมเกิดปัญหาอะไรขึ้น! คุณก็อย่าคิดจะไปไหน!” ถังจิ้งจือพูดอย่างเดือดดาล ขณะเดียวกัน มีบอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้ามาคอยจับตาดูปรมาจารย์ขู่ไห่ไว้จากนั้น ถังจิ้งจือก็เดินออกจากตัวบ้าน ก่อนสั่งการว่า “ออกรถ! ไปหาปรมาจารย์ฉู่!”ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน รถของถังจิ้งจือก็ขับมาจอดหน้าบ้านของเขา“ปรมาจารย์ฉู่ ปรมาจารย์ฉู่ครับ!”ถังจิ้งจือรีบลงจากรถ ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้านฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกู้รั่วเสวี่ย พอเห็นถังจิ้งจือที่อยู่หน้าบ้าน ก็พูดอย่างไม่พอใจ “ผู้นำตระกูลถัง คุณมาได้ยังไง?”ถังจิ้งจือรีบก้าวเข้ามา ก่อนจะประสานหมัดขอโทษ “ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมเลอะเลือนเอง ดันหลงเชื่อขู่ไห่ ปรมาจารย์ฉู่ได้โปรดช่วยหลานสา
ปรมาจารย์ขู่ไห่มาถึงลานบ้าน มองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถากถางว่า “ไอ้หนู อย่ามัวทำเป็นวางมาดอยู่เลย ในลานบ้านนี้มีปัญหาอะไรที่ไหนกัน?”ฉู่เฉินยิ้ม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าใจร้อนสิ ตาแก่ อีกเดี๋ยวได้ถูกฉีกหน้ายกใหญ่แน่!”“ฮ่าๆๆ! ฉีกหน้าฉัน? แกฝันไปเถอะ!” ปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะอย่างดูถูก“งั้นเหรอ? งั้นปรมาจารย์ขู่ไห่กล้าเดิมพันกับผมไหมล่ะ?” ฉู่เฉินเอียงคอยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปรมาจารย์ขู่ไห่อายุมากขนาดนี้แล้ว มีหรือจะทนการดูหมิ่นและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากฉู่เฉินได้ เขาหน้าแดงก่ำ ตะคอกเสียงดัง “ทำไมจะไม่กล้า? วันนี้ถ้าแกหาต้นเหตุของปัญหาเจอในลานบ้านแห่งนี้ได้ ฉันคนนี้จะปิดเขา ไม่รับดูฮวงจุ้ยให้ใครอีกชั่วชีวิต!”“นอกจากนี้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกแกว่าอาจารย์ฉู่!”“แต่ถ้าแกไม่เจออะไรเลย ไอ้หนู แกต้องคุกเข่าแล้วก็โขกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยครั้ง!”“ไม่มีปัญหา” ฉู่เฉินยิ้มตอบกู้รั่วเสวี่ยยืนปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจากที่อยู่ด้วยกันมา เธอเริ่มรู้จักฉู่เฉินมากขึ้นอีกนิดแล้วถ้าฉู่เฉินพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขามีความมั่นใจเต็มร้อย และขุดหลุมรอปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินยกมือชี้ไป
“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
คำพูดนี้แทบจะเหมือนเชื้อเชิญตรงๆ แล้วผู้ชายทั่วไป คงไม่มีใครทนการยั่วยวนของผู้จัดการร้านคนนี้ได้อย่างไรเสีย เธอก็ไม่ได้หน้าตาขี้เหร่เลย ทรวดทรงองค์เอวนับว่าร้อนแรง โดยเฉพาะยิ่งเธอแต่งตัวเซ็กซี่อย่างนี้ จึงทำให้รู้สึกได้ถึงแรงยั่วยวนเกินต้านทางนั้น ถานเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปาก น้ำตาแทบจะร่วงลงมาแล้วเธอรู้ว่าตัวเองถูกแย่งบิลซะแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้คนอื่นเขาเป็นถึงผู้จัดการร้านนี่นาบิลนี้ ค่าคอมมิชชั่นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ได้ตั้งหนึ่งแสนห้าหมื่นกว่าเชียวนะ!แต่เพื่อเงินหนึ่งแสนห้าหมื่น จะยอมเสียหม้อข้าวอย่างหอสมบัติไปก็ไม่คุ้มค่าเพราะอย่างไร พอคนที่บ้านหรือพวกญาติสนิทมิตรสหายได้ยินว่าเธอได้มาทำงานที่หอสมบัติ ต่างก็ภูมิใจแทนเธอกันสุดๆงานที่หอสมบัติได้เงินเดือนสามสี่หมื่น ปีหนึ่งก็ได้สี่ห้าแสนกว่าบาทเชียวนะ!ภายใต้ความจนใจ ถานเชี่ยนเชี่ยนทำได้แค่ปาดน้ำตาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน ก่อนจะหันตัวเดินไปอีกทางแต่ฉู่เฉินกลับเลือกที่จะมองข้ามผู้จัดการร้าน และหันไปตะโกนเรียกถานเชี่ยนเชี่ยน “คุณอย่าเพิ่งไป มานี่ก่อนครับ”ถานเชี่ยนเชี่ยนอึ้ง เธอหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆผู้จัดการร้านเองก็อึ้งเช่น