“ฮ่าๆๆ ตลกน่า! มีปัญหาอะไรที่ปรมาจารย์คนนี้จัดการไม่ได้อีกเหรอ?”เวลานี้เอง เสียงชราของคนผู้หนึ่งดังมาจากทางประตู ชายชราที่ผมขาวเต็มหัว ใส่ชุดนักพรตสีเทา มือถือแส้หางม้า ท่าทางเหมือนผู้มีคุณธรรมสูงส่งเดินเข้ามาถังเจียวเจียวรีบลุกขึ้น เดินไปต้อนรับอย่างเคารพนบนอบ “ปรมาจารย์ขู่ไห่ คุณมาสักที เชิญนั่งก่อนค่ะ”“อืม” ปรมาจารย์ขู่ไห่รับคำ ก่อนจะนั่งลงอย่างเป็นธรรมชาติ“คุณปู่ ท่านนี้ก็คือปรมาจารย์ขู่ไห่ค่ะ” ถังเจียวเจียวยืดอกแนะนำอย่างภาคภูมิเพื่อเชิญปรมาจารย์ขู่ไห่ผู้นี้มา เธอต้องทุ่มเทเงินและคนไปไม่น้อยถังจิ้งจือเองก็รีบก้าวเข้าไปประสานหมัดทักทาย “ผมถังจิ้งจือครับ ขอคารวะปรมาจารย์ขู่ไห่”ปรมาจารย์ขู่ไห่พยักหน้าน้อยๆ เขาสะบัดแส้หางม้าในมือ พลางยกมืออีกข้างขึ้นมาลูบหนวดขณะรับคำท่าทางสูงส่งไร้เทียมทานฉู่เฉินยักคิ้วมองเขา พบว่าปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ รอบกายมีพลังวิญญาณกระจายอยู่จางๆ“เจ้าหนู เมื่อกี้เธอบอกว่าปัญหาของตระกูลถังฉันแก้ไขไม่ได้ มีแค่เธอที่แก้ไขได้งั้นเหรอ?”ปรมาจารย์ขู่ไห่ขมวดคิ้ว ก่อนจะตวัดสายตาเย็นชามองมาทางฉู่เฉินถังจิ้งจือเห็นท่าไม่ดี รีบลุกขึ้นแก้ไ
“ปรมาจารย์ขู่ไห่ คุณต้องช่วยตระกูลถังของเรานะครับ” ถังจิ้งจือร้อนใจปรมาจารย์ขู่ไห่กระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบว่า “ง่ายมาก แค่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูรูปนี้ออกไปก็พอ อีกเดี๋ยวผมแค่ทำพิธีให้คุณก็สิ้นเรื่องแล้ว”“ครับๆๆ ขอบคุณปรมาจารย์ขู่ไห่มาก” ถังจิ้งจือประสานหมัดขอบคุณเป็นการใหญ่ถังเจียวเจียวชำเลืองมองฉู่เฉินอย่างทะนงตัว “ไอ้น้อง ได้ยินหรือยัง? หาต้นเหตุเจอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้แกช่วยเลยสักนิด!”“ตอนนี้แกรีบถอดกางเกง แล้วไปคุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านของฉัน ให้ฉันเหยียบไอ้นั่นของแกให้แหลกซะเถอะ!”ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ ก่อนพูดว่า “งั้นเหรอ? หาต้นเหตุเจอแล้วจริงๆ เหรอ?”“เหลวไหล!”ปรมาจารย์ขู่ไห่ขมวดคิ้ว ก่อนจะตำหนิอย่างไม่พอใจ “เจ้าหนู บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดจาส่งเดช!”ฉู่เฉินส่ายหน้า ก่อนยิ้มหยัน “ดูท่า ปรมาจารย์ขู่ไห่ที่เลื่องลือกันนักหนาก็เป็นแค่คนมีความสามารถครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่สมกับชื่อเสียงสักนิด”“ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอูสักหน่อย!”สิ้นประโยคของฉู่เฉิน บรรยากาศในห้องรับแขกกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาทันทีปรมาจารย์ขู่ไห่สีหน้าโกรธขึ้ง ตบโต๊ะพร้อมกับตะคอกเสีย
ปรมาจารย์ขู่ไห่ตบโต๊ะด้วยความโมโห “เหลวไหล! ลานบ้านอะไรกัน แกพูดจาเพ้อเจ้อซะมากกว่า! ปัญหาเกิดจากรูปปั้นกวนอูรูปนี้แท้ๆ แค่อัญเชิญรูปปั้นออกไป ปัญหาของตระกูลถังต้องแก้ไขได้แน่!”ฉู่เฉินยิ้มเย็น เขามองปรมาจารย์ขู่ไห่ด้วยหางตา ก่อนจะเอ่ยอย่างดูแคลนว่า “ที่บอกว่าความสามารถของคุณไม่สมชื่อเสียง ยังถือว่าชมเกินไปซะด้วยซ้ำ”“ปรมาจารย์ขู่ไห่ ผมขอถามคุณหน่อย บ้านหลังนี้เป็นฮวงจุ้ยลักษณะไหน?” ฉู่เฉินถามปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะในลำคอ ก่อนตอบว่า “เจ้าหนู แกยังคิดจะทดสอบฉันอีกเหรอะ? งั้นแกคงต้องผิดหวังแล้วล่ะ ฉันเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการฮวงจุ้ยหยินหยางมาห้าสิบปีแล้ว”“ที่นี่มีลักษณะฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุก”ฉู่เฉินพยักหน้า ก่อนจะยิ้มหยันว่า “ตาเฒ่าอย่างคุณ ยังนับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง”“แก!” ปรมาจารย์ขู่ไห่โมโหจนผมตั้งฉู่เฉินถามต่ออีกว่า “งั้นผมขอถามคุณ ฮวงจุ้ยแบบหอยเฒ่าคายมุก กลัวอะไรที่สุด?”ปรมาจารย์ขู่ไห่ตอบออกไปโดยไม่คิด “ย่อมต้องเป็นไอโลหิตพิฆาต ทันทีที่แปดเปื้อนไอโลหิตพิฆาต ฮวงจุ้ยหอยเฒ่าคายมุกก็จะแว้งกัด สถานเบาทรัพย์สินเสียหาย ผู้คนดูถูก สถานหนัก บ้านแตกสาแหรกขาด สมาชิกในครอบครัวล้มหายตา
ฉู่เฉินพูดจบก็หมุนตัว พากู้รั่วเสวี่ยออกไปทันที“สามหาว! แกว่ายังไงนะ? อยากตายรึไง?!”ถังเจียวเจียวเดือดดาลขณะที่กำลังจะก้าวขาออกจากประตู ฉู่เฉินพูดทิ้งท้ายโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง “ท่านถัง ขอเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย ปัญหาของตระกูลถังไม่ได้เกิดจากรูปปั้นกวนอู”“อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป ไม่เพียงไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพวกคุณ แต่ยังทำให้หนักขึ้นไปอีก!”“ทันทีที่อัญเชิญรูปปั้นกวนอูออกไป บ้านหลังนี้จะไร้ซึ่งพลังของมันคอยกดข่มพลังร้าย ไอโลหิตพิฆาตในที่แห่งนี้จะยิ่งรุนแรง ถึงตอนนั้น ตระกูลถังของคุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน!”“และคนแรกที่จะถูกพลังด้านลบแว้งกัด ก็คือหลานสาวของคุณ!”“เธอจะถูกวิญญาณร้ายในที่แห่งนี้เข้าสิง ทำให้มีพฤติกรรมบ้าๆ บอๆ และวิญญาณร้ายนั่น ยังเป็นวิญญาณผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอีกด้วย หากไม่จัดการให้ดี ความบริสุทธิ์ของหลานสาวคุณก็จะถูกทำลายทันที”“ดูแลตัวเองด้วยก็แล้วกัน!”พูดจบ ฉู่เฉินก้าวเท้าออกจากบ้านตระกูลถังเลยด้านหลัง ถังเจียวเจียวด่าทออย่างเกรี้ยวกราด“สารเลว! แกว่ายังไงนะ? คอยดูเถอะฉันจะเหยียบไอ้นั่นของแกให้เละ!”ถังเจียวเจียวโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
กึก!ถังจิ้งจือสะดุดกึก นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่เฉินขึ้นมาได้“ปรมาจารย์ขู่ไห่ นี่มันยังไงกันแน่ครับ? คุณพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่าหากย้ายรูปปั้นกวนอูออกไปก็จะไม่มีปัญหาแล้วไม่ใช่เหรอ?” ถังจิ้งจือถามเสียงขรึมปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าเปลี่ยนสี ยังคงพูดติดอ่าง “คือว่า เรื่องนั้น...”“เหอะ! ปรมาจารย์ขู่ไห่ วันนี้หากตระกูลถังของผมเกิดปัญหาอะไรขึ้น! คุณก็อย่าคิดจะไปไหน!” ถังจิ้งจือพูดอย่างเดือดดาล ขณะเดียวกัน มีบอดี้การ์ดหลายคนวิ่งเข้ามาคอยจับตาดูปรมาจารย์ขู่ไห่ไว้จากนั้น ถังจิ้งจือก็เดินออกจากตัวบ้าน ก่อนสั่งการว่า “ออกรถ! ไปหาปรมาจารย์ฉู่!”ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เฉินเพิ่งมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ได้ไม่นาน รถของถังจิ้งจือก็ขับมาจอดหน้าบ้านของเขา“ปรมาจารย์ฉู่ ปรมาจารย์ฉู่ครับ!”ถังจิ้งจือรีบลงจากรถ ยืนตะโกนอยู่หน้าบ้านฉู่เฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกู้รั่วเสวี่ย พอเห็นถังจิ้งจือที่อยู่หน้าบ้าน ก็พูดอย่างไม่พอใจ “ผู้นำตระกูลถัง คุณมาได้ยังไง?”ถังจิ้งจือรีบก้าวเข้ามา ก่อนจะประสานหมัดขอโทษ “ปรมาจารย์ฉู่ ก่อนหน้านี้ผมเลอะเลือนเอง ดันหลงเชื่อขู่ไห่ ปรมาจารย์ฉู่ได้โปรดช่วยหลานสา
ปรมาจารย์ขู่ไห่มาถึงลานบ้าน มองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถากถางว่า “ไอ้หนู อย่ามัวทำเป็นวางมาดอยู่เลย ในลานบ้านนี้มีปัญหาอะไรที่ไหนกัน?”ฉู่เฉินยิ้ม ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “อย่าใจร้อนสิ ตาแก่ อีกเดี๋ยวได้ถูกฉีกหน้ายกใหญ่แน่!”“ฮ่าๆๆ! ฉีกหน้าฉัน? แกฝันไปเถอะ!” ปรมาจารย์ขู่ไห่หัวเราะอย่างดูถูก“งั้นเหรอ? งั้นปรมาจารย์ขู่ไห่กล้าเดิมพันกับผมไหมล่ะ?” ฉู่เฉินเอียงคอยิ้มๆ สายตาเจ้าเล่ห์ปรมาจารย์ขู่ไห่อายุมากขนาดนี้แล้ว มีหรือจะทนการดูหมิ่นและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากฉู่เฉินได้ เขาหน้าแดงก่ำ ตะคอกเสียงดัง “ทำไมจะไม่กล้า? วันนี้ถ้าแกหาต้นเหตุของปัญหาเจอในลานบ้านแห่งนี้ได้ ฉันคนนี้จะปิดเขา ไม่รับดูฮวงจุ้ยให้ใครอีกชั่วชีวิต!”“นอกจากนี้ ฉันจะคุกเข่าและเรียกแกว่าอาจารย์ฉู่!”“แต่ถ้าแกไม่เจออะไรเลย ไอ้หนู แกต้องคุกเข่าแล้วก็โขกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยครั้ง!”“ไม่มีปัญหา” ฉู่เฉินยิ้มตอบกู้รั่วเสวี่ยยืนปิดปากกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจากที่อยู่ด้วยกันมา เธอเริ่มรู้จักฉู่เฉินมากขึ้นอีกนิดแล้วถ้าฉู่เฉินพูดอย่างนี้ แสดงว่าเขามีความมั่นใจเต็มร้อย และขุดหลุมรอปรมาจารย์ขู่ไห่คนนี้ไว้เรียบร้อยแล้วฉู่เฉินยกมือชี้ไป
“ขู่ไห่ คุณแก่แล้ว”ปรมาจารย์ขู่ไห่หน้าแดงก่ำ เขาละอายใจและอึดอัดใจมา “ปรมาจารย์ฉู่ ผมแก่แล้วจริงๆ ความสามารถสู้คุณไม่ได้”“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะปิดเขา”ว่าแล้วปรมาจารย์ขู่ไห่กัดฟัน ก่อนจะคุกเข่าลงบนพื้น โขกหัวพร้อมกับกล่าวว่า “ผมขู่ไห่ ไม่ใช่คนผิดสัจจะ วันนี้ ขอกราบคุณเป็นอาจารย์!”เหตุการณ์นี้ทำให้ถังจิ้งจือตกตะลึงอย่างมากปรมาจารย์ขู่ไห่คุกเข่าเรียกฉู่เฉินว่าอาจารย์จริงๆฉู่เฉินยิ้มน้อยๆ “ลุกขึ้นมาเถอะ”ปรมาจารย์ขู่ไห่ลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนเอ่ยว่า “อาจารย์ฉู่อยู่เหนือกว่า นับแต่นี้ไป วงการฮวงจุ้ยของเมืองเจียงจง อาจารย์ฉู่นับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุด”“เอาล่ะ ผมไม่ได้สนใจฮวงจุ้ยอะไรพวกนั้น” ฉู่เฉินโบกมือปรมาจารย์ขู่ไห่ยืนอยู่ด้านหนึ่งด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน“หลังจากนี้ เรื่องการขจัดอาถรรพ์มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของคุณแล้วกัน” ฉู่เฉินเอ่ยขู่ไห่รีบรับคำ “ครับๆๆ”จากนั้น ขู่ไห่หาพู่กัน หมึก และผ้ายันต์สีเหลืองมา ก่อนจะวาดยันต์ผนึกวิญญาณติดไว้บนผ้าห่อศพผืนนั้นไอโลหิตrพิฆาตที่แผ่อยู่รอบๆ ผ้าห่อศพผืนนั้นพลันหายไปในพริบตาขู่ไห่หยิบผ้าห่อศพผืนนั้นขึ้นมากับมือตัวเอ
“สตรีศักดิ์สิทธิ์ เป็นอะไรไปหรือ?”หญิงสาวเบี่ยงตัว ขณะที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนต้วนหลงไห่ ประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ของเมืองเจียงจงหญิงสาวขมวดเรียวคิ้วงามเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “เปล่า ไปกันเถอะ”ก่อนจะไป หญิงสาวมองหอสมบัติด้วยสายตาเย็นยะเยือกเวลานี้ ฉู่เฉินเดินเข้าไปข้างในหอสมบัติ พอเข้าไป เขาก็ต้องตกตะลึงไปทันทีหอสมบัติแห่งนี้ สมแล้วที่เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนและซื้อขายของเก่าโบราณที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเจียงจงของโบราณในที่แห่งนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน หลากหลายละลานตาแต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่มีราคาหลายล้าน!“คุณคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?” ในขณะที่ฉู่เฉินกำลังยืนอึ้ง พนักงานหญิงในชุดสูทสีแดงตัวเล็กกับกระโปรงรัดสะโพกคนหนึ่ง เดินประสานมือไว้ใต้หน้าอกอันน่าภาคภูมิใจเข้ามาอย่างเป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มเรียวขายาวๆ คู่นั้นสวมใส่ถุงน่องสีดำบางๆนี่สิมืออาชีพ! ต้อนรับแขกทุกคนด้วยความจริงใจและรอยยิ้ม“มีกระถางหลอมยาอายุสามร้อยปีขึ้นไปไหมครับ?” ฉู่เฉินถามพนักงานหญิงมองพิจารณาฉู่เฉินเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบว่า “มีค่ะ เชิญตามฉันมาทางนี้ได้เลยค่ะ”ถานเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งมาทำงา
“ฉันก็เลยรีบสิ่งออกมาโทรหาคุณ แต่ว่า...แต่ว่าโดนลูกน้องคนหนึ่งของเขาได้ยินเข้าก็เลยแย่งโทรศัพท์ของฉันไป ถะ...แถมยังคิดจะลวนลามฉันด้วย...”อะไรนะ?!ฉู่เฉินหรี่ตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “คนที่พยายามลวนลามพี่เมื่อกี้อยู่ที่ไหนครับ?”“แล้วคุณชายใหญ่อู่อะไรนั่นอยู่ที่ไหนครับ?” ต้าหลิงจื่อรีบพูดว่า “อยู่ในห้องประชุมชั้นสิบสาม คุณตามฉันค่ะ” ต้าหลิงจื่อพูดพลางรีบจับมือฉู่เฉินไว้ ก่อนจะวิ่งไปทางชั้นสิบสามเพิ่งจะเลี้ยวผ่านมุมบันไดก็มีเสียงทะเลาะวิวาทดังมาจากทางห้องประชุม “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว ผมแนะนำว่าทางที่ดีคุณควรรู้จักปรับตัวไปตามสถานการณ์หน่อยนะครับ เงินก้อนนี้ธนาคารของเราสามารถเร่งทวงได้ และก็ชะลอได้ แต่เท่าที่ผมรู้มา สถานการณ์ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในตอนนี้ เกรงว่าเวลานี้ของปีหน้าก็คงเอาเงินสองพันห้าร้อยล้านออกมาไม่ได้แล้วละมั้ง?”“อันที่จริงข้อเสนอของผมก็ไม่ได้เกินไปเลยสักนิด ขอเพียงคุณนอนกับผมแค่คืนเดียว แล้วให้ประธานหลิ่วอยู่เป็นเพื่อนพ่อของผมให้ดี เงินบริษัทพวกคุณแค่นี้จะถือเป็นอะไรได้ ให้พวกคุณก็ไม่เป็นไร”“หนึ่งเดือนได้สองพันห้าร้อยล้าน ร่างกายของคุณมีค่ามากเลยนะ” หลังจากเสียงพ
“นี่พอไหวอยู่”ดวงหน้าเล็กของอวี้ลู่ยิ้มแย้มด้วยความดีใจ ก่อนจะผลักแขนของฉู่เฉินที่ขวางอยู่ตรงหน้าอกออก แล้วหยิบกระดาษปากกาขึ้นมาเขียนสูตรยาก่อนยื่นให้กับฉู่เฉิน “นี่คือสูตรโอสถสุคนธ์ มีเฉพาะในเหยา...เอ่อสำนักศักดิ์สิทธิ์ของเรา”“ไม่เพียงสามารถขจัดกลิ่นคาวเลือดบนตัวเขา ยังสามารถเปิดสติปัญญาเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ ถ้ากินไปนาน ๆ ก็ได้ผลดีอย่างน่าทึ่งด้วย”โอ้โห!อวี้ลู่ยังคงเป็นโฉมงามหนึ่งยิ้มล่มบ้านเมืองจริง ๆฉู่เฉินมองจนเคลิ้มไปเล็กน้อย แทบจะอดไม่ไหว อวี้ลู่ยิ้มอย่างงดงาม ทำให้ชูเฉินมองจนเคลิ้ม เกือบจะเผลอจับเธอให้โผเข้าใส่อ้อมอก “เจ้ามองอะไรน่ะ?”วินาทีต่อมา อวี้ลู่เองก็สังเกตเห็นสายตาที่ดูผิดปกติของฉู่เฉินแล้วเช่นกัน เธอจึงรีบใช้แขนบังหน้าอกขาวเนียนไว้แล้วมองฉู่เฉินอย่างระแวดระวัง “ไม่มีอะไรครับ ตอนเช้าอากาศเย็น ผมกลัวพี่จะเป็นหวัด”ฉู่เฉินยิ้มเจ้าเล่ห์พลางหอมแก้มของอวี้ลู่ทีหนึ่ง“เจ้าทำอะไร!”อวี้ลู่ลุกพรวดขึ้นมา ดวงตางามเปล่งประกายความเย็นชา!“พี่จะดุขนาดนี้ทำไม? นี่เป็นธรรมเนียมสากลไม่รู้เหรอ?”ฉู่เฉินพูดพลางค้นโทรศัพท์มือถือหาคลิปวิดีโอออกมาหลายอันแล้วพูดว่า “ไม่เ
“เปล่าครับ หัวหน้าใหญ่ถานดูเอาเองเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวจบก็ถ่ายรูปส่งให้ถานเฟยชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ถานเฟยก็อึ้งเซ่อซ่าไปแล้วศีรษะที่อยู่บนพื้นยังกินไม่เสร็จนั้น เขามองแวบเดียวก็จำได้ว่าเป็นปี้คุน เพียงแต่ว่าปี้คุนในตอนนี้ดูน่าเวทนาเล็กน้อย ทั่วทั้งร่างเหลือเพียงเศษเนื้อไม่กี่ชิ้นเท่านั้น “โอเคครับ ขอบคุณคุณฉู่นะครับ ถ้าเกิดกวาดล้างสำนักว่านเซี๋ยแล้ว ผมจะรายงานกับทางเบื้องบนขอความดีความชอบให้คุณฉู่แน่นอนครับ” ถานเฟยกล่าวจบก็วางสายโทรศัพท์ ฉู่เฉินกวาดตามองผีดิบเลือดคลั่งที่ยังคงกินอาหารอยู่ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งในรถดวงหน้าเล็กของกู้รั่วเสวี่ยซีดเผือด เอาเสื้อปิดหน้าอกไว้ มองฉู่เฉินพลางกล่าวว่า “มะ...ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมคะ?” ฉู่เฉินฉีกยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีอะไรแล้ว น้องชายกินข้าวน่ะ พวกเราเองก็อย่าอยู่ว่าง ๆ เลย”“หา?” กู้รั่วเสวี่ยยังไม่ทันมองไปนอกหน้าต่างรถ ก็ถูกฉู่เฉินกดไว้ใต้ร่าง.....เมื่อฉู่เฉินกลับถึงบ้านเก่าของตระกูลฉู่ ก็เป็นเวลาเช้าวันถัดมาแล้วกู้รั่วเสวี่ยประคองร่างกายที่เหนื่อยล้าส่งฉู่เฉินที่หน้าประตูบ้านเก่าของตระกูลฉู่ ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเหมือนกับหนีไปเธอ
“พอแค่นี้เหรอ”ฉู่เฉินแสยะยิ้ม ย่อตัวลงมา มองปี้คุนที่มีเลือดเต็มตัวอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ผมจำได้ว่าเมื่อกี้คุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่นา ผมชอบท่าทางหัวแข็งดื้อรั้นของคุณนะ” ปี้คุนรู้สึกข่มขื่นใจ ถ้ารู้แต่แรกแล้วว่าฉู่เฉินยังมีไม้เด็ดที่สุดยอดขนาดนี้อยู่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงไม่ถ่อสังขารมาส่งตัวเองให้ถึงที่ตายหรอก“ผมถามคุณว่าตอนนี้คนของสำนักว่านเซี๋ยซ่อนตัวอยู่ที่ไหน?” สีหน้าของฉู่เฉินพลันเย็นชาขึ้นมา จ้องมองปี้คุนด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยจิตสังหารเขาไม่มีวันลืมภาพถ่ายพวกนั้นที่ถานเฟยให้เขาดูบนเฮลิคอปเตอร์ฉู่เฉินปล่อยหลี่ว์เจิ้งหยาง เป็นเพราะว่าฉู่เฉินขี้เกียจจะสนใจตัวตลกแบบนั้น มันเหมือนเขาบดขยี้ตัวเรือด ไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อยแต่ปี้คุนไม่ใช่แบบนั้น!ในเมื่อหลี่ว์เจิ้งหยางเรียกเจ้าสำนักปี้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นได้อย่างยิ่งว่าปี้คุนก็คือเจ้าสำนักว่านเซี๋ยถึงอย่างไรเขาน่าจะรู้ที่ซ่อนตัวพวกคนของสำนักว่านเซี๋ยที่เหลืออยู่เป็นอย่างดี“พี่ฉู่ ผมไม่รู้จริง ๆ นับตั้งแต่ที่โดนคนของแก๊งมังกรจับตามองครั้งก่อนก็แทบจะกวาดล้างสำนักว่านเซี๋ย พวกเราก็หนีไปกันค
เมื่อสิ้นเสียงคำพูด สีหน้าของปี้คุนเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ก่อนจะสะบัดฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง ทันทีที่ลมบนฝ่ามือของเขาถูกผลักออกไป พื้นที่รอบๆ ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง“โครม!”วินาทีถัดมา สองฝ่ามือปะทะกัน เกิดคลื่นพลังสีขาวที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แผ่กระจายออกไปในอากาศอย่างรุนแรงทว่า สิ่งที่ปี้คุนจินตนาการไว้ว่าร่างของชายร่างซูบผอมถูกกระแทกจนกระเด็นไปไกลกลับไม่เกิดขึ้น ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าฝ่ามือของตัวเองเหมือนตบลงบนภูเขาหิน แข็งจนถูกแรงสะท้อนทำให้เซถอยไปหลายก้าว ซี้ดๆ !ปี้คุนถึงกับหน้าถอดสีด้วยความตกตะลึง! “ฟู่!”แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัวได้ ฝ่ามือผอมแห้งที่ดำคล้ำก็ตบลงมาอีกครั้งเมื่อเห็นดังนั้น ฉู่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหมุนตัวกลับมาพร้อมไขว้มือไว้ด้านหลัง เดินก้าวเข้าหาหลี่ว์เจิ้งหยางทีละก้าว“หืม?”ในตอนนี้หลี่เจิ้งหยางเองก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ดูเหมือนว่าปี้คุนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายผอมแห้งคนนั้นเลยสักนิด กลับเป็นฝ่ายที่ถูกกดดันเสียเอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เพียะ!ยังไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรออก ฝ่ามือของฉู่เฉินก็ฟาดเข้ามาเสียแล้
“ไม่ต้องกลัวนะ มีผมอยู่นี่ทั้งคน เดี๋ยวคุณคอยอยู่ในรถไว้ อย่าหนีไปไหนไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”พูดจบฉู่เฉินก็หยิบกางเกงตัวใหญ่ขึ้นมาใส่ ก่อนจะเปิดประตูรถและกระโดดลงไปเขามองปี้คุนที่ใบหน้าอึมครึม และมองไปยังหลี่ว์เจิ้งหยางที่ดูเหมือนจะหน้าแดงผิดปกติ เจ้าหมอนี่น่าจะไปกินอะไรที่ไม่ควรกินมา ดูจากสีหน้าแล้วอีกไม่นานคงมีต้นไม้สักต้นต้องโชคร้ายอีกแล้ว“อะไรกัน ยังไม่พอใจกับเข็มฝนลูกแพร์ที่เจอครั้งที่แล้วเหรอ?”ขณะพูดฉู่เฉินมองไปรอบๆ และชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ในระยะไกล ก่อนจะหันไปพูดกับหลี่ว์เจิ้งหยาง “ความสุขของคุณอยู่ตรงนั้น”“ความสุขบ้าอะไร!”หลี่ว์เจิ้งหยางกัดฟันกรอด ก่อนจะดึงกระบี่ยาวออกจากหลังเสียงดังเคร้งแต่ปี้คุนเคยบอกเขาว่าฉู่เฉินตอนนี้เป็นยอดฝีมือในระยะสร้างรากฐานขั้นหนึ่งแล้ว หลี่ว์เจิ้งหยางก็ไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะทุ่มพลังทั้งหมดออกไปดังนั้นเขาจึงแค่ถือกระบี่ยาวไว้ในมือและเดินวนรอบๆ ฉู่เฉินไม่กล้าเข้าไปโจมตีฉู่เฉินมองเขาด้วยสายตาดูถูก ก่อนจะหันไปมองปี้คุน และขมวดคิ้วถามว่า “ตระกูลหลี่จากเมืองหมอตูส่งคุณมาใช่ไหม?”ปี้คุนส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ก่อนจะยืนไขว้มือไว้ด
โดยเฉพาะชุดซีทรูแขนสั้นนั้นที่พลิ้วตามการเคลื่อนไหวของเธอ ให้ความรู้สึกวับ ๆ แวม ๆ ยั่วยวนมากจริงๆ“นี่มันเรื่องเข้าใจผิดนะครับ คุณหนูเกาก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธออยากจะขอความช่วยเหลือจากผม”ฉู่เฉินพูดไปด้วย ใช้หลังมือสัมผัสที่ขาที่เนียนนุ่มและสวยของกู้รั่วเสวี่ยไปด้วย พอไม่มีถุงน่องซีทรูสีดำแล้ว ความรู้สึกไม่เหมือนกันจริงๆช่วงนี้ผิวของกู้รั่วเสวี่ยดีขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นเพราะร่างของเขามีประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงผิว“หึ ใครจะไปรู้ว่าช่วยไปช่วยมาอาจจะไปช่วยบนเตียงก็ได้!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็ปัดมือใหญ่ของฉู่เฉินออกไป หลังจากนั้นเธอก็สตาร์ตรถมุ่งหน้าไปยังเจียงจง“มีเหตุผล ฮวงจุ้ยบนเตียงดีถึงจะต่อได้เรื่อย ๆ ยังไงละครับ”ฉู่เฉินยิ้มอย่างร้ายกาจแล้วพูดขึ้นมา“อะไรนะคะ?”กู้รั่วเสวี่ยสูดหายใจเข้าลึกๆ นี่มันเป็นการเตรียมตัวขึ้นเตียงดีๆ นี่เอง“หึ! ช่วยนักใช่ไหม!”ระหว่างที่พูด กู้รั่วเสวี่ยก็จอดรถที่ข้างทางทางด่วน หลังจากนั้นก็พลิกตัวขึ้นคร่อมบนร่างฉู่เฉินจากนั้นกู้รั่วเสวี่ยก็ร้อนแรงไม่หยุดหย่อน ทำเอาฉู่เฉินนั่งตัวตรงโดยอัตโนมัติ เขาหัวเราะอย่างเขินอาย “ลูกสาวตระกูลมหาเศ
“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว กู้รั่วเสวี่ยยังนั่งดูอยู่ข้างๆ อยู่เลย ลูกสาวของเขาตัวจะติดฉู่เฉินอยู่แล้ว นี่มันใช้ได้ที่ไหน!“เอ่อ... ผู้ว่าการพูดก่อนเลยครับ ผม... ไม่สะดวก...”ฉู่เฉินกลืนน้ำลาย เขาที่อยู่ห่างจากเกาอวี้หลิงตั้งไกลก็สามารถมองเห็นร่องขาวลึกของเกาอวี้หลิงได้โดยเฉพาะก้อนกลมที่อวบอิ่มนั่น แค่มองก็รู้แล้วว่านุ่มมากๆ ยั่วเขาต่อหน้าเกาหมิงหลายแบบนี้มันจะดีเหรอ?ที่สำคัญคือสีหน้าของกู้รั่วเสวี่ยเห็นได้ชัดว่าไม่ปกติแล้วด้านหนึ่งมีกลิ่นหอมพัดมากระทบหน้า อีกด้านหนึ่งคือความเย็นยะเยือกที่แผ่เข้ามา ฉู่เฉินรับมือไหวจริงๆ“มีอะไรที่ไม่สะดวกกัน พวกคุณ... ระหว่างพวกคุณ...”“อ่ะแฮ่ม!”เกาหมิงหลายยอมใจลูกสาวของตัวเองจริงๆเขากระแอมออกมาดังๆ อีกครั้ง หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่ฉู่เฉินกำราบผีดิบเลือดคลั่งได้ให้ฟังอีกครั้ง“ว้าว!”เกาอวี้หลิงเมื่อฟังจบ แววตาที่เคารพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อมือเล็กๆ ทั้งสองของเธอประสานกันที่หน้าอก ความอิ่มเอิบทั้งสองข้างยิ่งดูโดดเด่น กลมกลึง และใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกู้รั่วเสวี่ยเหลือบมองฉู่เฉิน เมื่อเห็นว่าสายตาของเขาแทบจะหลุดไปตร
เธอไม่ด่าออกไปนั่นก็ถือว่ามีมารยาทมากพอแล้วกู้รั่วเสวี่ยตอนนี้ก็ใบหน้าขาวซีดเธอมองไปที่ลูกน้องของฉู่เฉินคนนั้น เขาก็ทำอะไรไม่คิดนี่บ้านของผู้ว่าการเชียวนะ คิดจะทุบก็ทุบเลยได้ยังไง เขาเอาความกล้ามาจากไหน?พูดจริงๆ นะ เมื่อเห็นภาพเล่านี้ฉู่เฉินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันทีถ้าเขาลงมือเองแม้ว่าจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็คงไม่ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้มุมปากของเกาหมิงหลายก็กระตุกเล็กน้อย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอึดอัดเขาไม่ได้เสียดายกระถางต้นไม้นั้นหรอก แต่เขาเสียดายอาหาร และซุปต่างๆ ที่หกเต็มพื้น“วันนี้คุณจะต้องให้คำตอบกับฉัน!”เกาอวี้หลิงเห็นว่าชายหนุ่มร้างซูบผอมยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างงงงวย ราวกับว่าไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เธอยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น ยื่นมือเข้าไปคว้าคอเสื้อของผีดิบเลือดคลั่งไว้ ไม่ว่าเธอจะขยับเขาแรงแค่ไหนก็ตาม ฝ่ายตรงเขาก็เหมือนไม่ได้สติ ยืนแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แม้แต่มองเธอก็ยังไม่มองเลยท่าทางแบบนี้ของเขามันยิ่งทำให้เธอโมโหทำให้เกาอวี้หลิงโกรธจนจะบ้าคลั่งอยู่แล้วถึงว่าจะไม่ขอโทษ เกาอวี้หลิงก็จะไม่โกรธขนาดนี้ฉู่เฉินสีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้นมาอ