สายตาของฉู่เฉินกวาดมองผ่านเรือนร่างอันงดงามพวกนั้น แม้ผู้หญิงพวกนี้จะตัวสูงหุ่นดี แต่เมื่อเทียบขนาดหน้าอกกับปี้เวย แทบจะเหมือนบ้านเล็กเจอบ้านใหญ่!เรียกได้ว่าคนละชั้นกันเลยทีเดียว!อีกอย่าง เรียวขาคู่นั้นของปี้เวย ไม่เพียงแต่ยาว แต่ทั้งเรียวและขาวเนียน ที่สำคัญคือเท้าเล็กๆ คู่นั้นก็น่าดึงดูดมากเช่นกัน“คนที่อยู่ในห้องนี้ เลือกได้หมดเลยเหรอครับ?”ฉู่เฉินถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย“แน่นอน วันนี้คุณเป็นแขกคนสำคัญนี่ครับ”หลิวฉางเจียงพยักหน้าโดยไม่คิดมาก“คุณ!”ฉู่เฉินชี้พร้อมกับพูดออกไปชั่วพริบตา ทั่วทั้งห้องเงียบกริบไปทันที!ไม่ใช่แค่ผู้จัดการกับสาวสวยสิบกว่าคนที่ตะลึงค้าง แม้แต่หลิวฉางเจียงกับปี้เวยก็อึ้งเหมือนกันคนที่ฉู่เฉินชี้ ก็คือปี้เวย!แม่งเอ๊ย!หลิวฉางเจียงสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนกำลังเล่นงิ้วเปลี่ยนหน้า“ผมว่าแล้วคุณฉู่เป็นหนุ่มคนมีความสามารถ สายตาไม่เลว เวยเวย เธอไปดูแลคุณฉู่ก่อนเถอะ”หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หลิวฉางเจียงถึงได้ฝืนฉีกยิ้ม พลางตบหน้าตักของปี้เวย“เหอะ!”ปี้เวยทำปากจู๋ ทำเสียงกระเง้ากระงอด หน้าตาเหมือนไม่เต็มใจที่จริงเธอดีใจจนแทบอยากลุกขึ้นมาเต้
ผ่านไปไม่นาน จงอาหู่พาชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ถือท่อเหล็กยี่สิบกว่าคนมาถึงหน้าห้องหมายเลขแปดพอมองเข้าไปในหน้าต่างทรงหกเหลี่ยม จงอาหู่จำฉู่เฉินได้ตั้งแต่แวบแรก“ซี้ด!”จงอาหู่หดหัวด้วยความตกใจ โชคดีที่ไม่ได้บุกเข้าไปทันที ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่จังหวะที่ฉู่เฉินชนแก้วกับปี้เวย บังเอิญเหลือบเห็นจงอาหู่ที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดี พอสายตาสบประสานกัน จงอาหู่มีเหรอจะกล้ารบกวน เขารีบโบกมือสั่งลูกน้องข้างหลังให้ถอยออกไปจากนั้นเขาก็เปิดประตูเดินเข้าไปเวลานี้ หลิวฉางเจียงกำลังประคองลูกท้อลูกใหญ่สองลูกกัดแทะเล่นอยู่ตรงนั้น พอเห็นประตูห้องถูกคนแปลกหน้าเปิดเข้ามา หมายจะระเบิดโทสะ กลับเห็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนมีคนยืนอยู่หน้าประตูจำนวนมากอารมณ์เดือดดาลที่กำลังจะระเบิดออกมา ถูกกลืนกลับเข้าไปในคออีกครั้งจงอาหู่ไม่สนใจหลิวฉางเจียงแม้แต่น้อย เขาเดินฉีกยิ้มไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน “คุณฉู่ มาได้ยังไงครับเนี่ย? มาเที่ยวผับของเราเองทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ ผมจะได้ออกไปต้อนรับเอง”ฉู่เฉินกวาดมองจงอาหู่แวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วตบโซฟาข้างตัวเอง “อาหู่เองเหรอ นั่งสิ”จงอาหู่มีเหรอจะกล้าปฏิเสธ?หลังจากรินเหล้าให้ฉู่เฉิน
ปี้เวยรับบัตรเครดิตไป ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินกลับไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน ดวงหน้าเรียวแดงระเรื่อ ลมหายใจกระชั้นชิด “คุณฉู่ คุณอยากจะหยั่งความลึกของฉันไม่ใช่เหรอคะ?”“อืม”ฉู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็วางแก้วเบียร์ลง และเดินตามปี้เวยออกไปจากห้องเงียบๆกลางวันแสกๆ ทั้งซิงฮุยมีแต่โต๊ะของฉู่เฉิน ห้องอื่นๆ ล้วนว่างหมดปี้เวยดึงแขนของฉู่เฉิน ลากเขาเข้าไปในห้องข้างๆ ที่มืดสนิทห้องหนึ่ง จากนั้นก็คว้ามือของฉู่เฉิน ถลกกระโปรงขึ้นอย่างรอไม่ไหวอีกต่อไป พลางพูดเสียงกระเส่าว่า “คนอื่นเขาจะอาบน้ำให้คุณ”เชี่ย!แม่สาวคนนี้ใจร้อนจริงๆ!นี่เก็บกดมานานแค่ไหนแล้ว ถึงได้ชุ่มแฉะได้ขนาดนี้“บีตบ็อกซ์ที่คุณพูดถึงเมื่อกี้ล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มอย่างมั่นใจ มองปี้เวยที่หายใจไม่เป็นจังหวะปี้เวยหยักยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเย้ายวน แค่ดีดมือเล็กๆ ข้างนั้นนิดเดียว เข็มขัดของฉู่เฉินก็ถูกปลดออกทันทีโอ้โฮ!ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?ถึงแม้ปี้เวยจะเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว แต่ก็ยังคงอึ้งกับฉู่เฉินอยู่ดีซี้ด!ฉู่เฉินเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เขาหลับตาและครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดินด้
เซี่ยฉีฉีมองเสื้อผ้าที่เหมือนเชือกระโยงระยางก้อนหนึ่ง ดวงหน้าเล็กๆ นั่นแดงแปร๊ดไปทั้งดวง เธอรีบเบี่ยงหน้าไปอีกข้าง ไม่กล้าแม้แต่จะมองนานท่าทางเขินอายของเซี่ยฉีฉี ทำให้ดวงตาของเฉินหย่งเป็นประกายขึ้นมา เขาจ้องเซี่ยฉีฉีอย่างเร่าร้อน พลางถามว่า “ฉีฉี นี่… นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกของเธอหรอกนะ?”เสียงของเฉินหย่งฟังดูสั่นเทาเล็กน้อยเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะได้ลิ้มลองของสดใหม่ด้วย“พี่หย่ง คือ… ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม?”เซี่ยฉีฉีถูกสายตาร้อนแรงเหมือนไฟของเฉินหย่งจับจ้อง หน้าของเธอก็ยิ่งแดงแปร๊ดกว่าเดิม เธอผลักเฉินหย่งที่โน้มตัวเข้ามา ก่อนจะพูดอย่างแตกตื่น“ได้สิ!”เฉินหย่งหัวเราะเสียงดัง ยกแก้วเบียร์ขึ้นมา “แต่เธอต้องดื่มเบียร์แก้วนี้ก่อน ไม่งั้น พี่จะนั่งดูเธอฉี่ในห้องนี้แหละ”เซี่ยฉีฉีสัมผัสได้ถึงลมหายใจหนักหน่วงของเฉินหย่ง เธอตกใจรีบแย่งแก้วเบียร์ในมือเขาไปกระดกครึ่งแก้วในคราวเดียว จากนั้นก็รีบวางแก้วเบียร์ และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเหมือนหนีตายท่อนขาเรียวสวยของเซี่ยฉีฉี และขอบลูกไม้ที่โผล่ออกมาให้เห็นวับๆ แวมๆ นั่น ทำให้เฉินหย่งเหงื่อชุ่มเต็มฝ่ามือพอคิดว่าใกล้จะได้ครอบครองเรือนร
เธอต้องนอนกับจางหย่ง หรือหวังหย่งอีกหรือไม่?ชีวิตของเธอต้องมาพังลงแบบนี้งั้นเหรอ?ในตอนนี้เอง เสียงของเฉินหย่งดังขึ้นที่หน้าห้องน้ำ “ที่รักจ๋า เปิดประตูหน่อยเร็ว พี่อยากดูเธอฉี่”เซี่ยฉีฉีได้ยินคำพูดลามกไร้ยางอายก็รู้สึกอยากจะอาเจียน!แต่เฉินหย่งไม่ใช่คนธรรมดา แค่ลูกน้องของเขาก็มีหลายสิบคนแล้ว อีกอย่าง เมื่อกี้ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้อง หน้าประตูก็มีลูกน้องของเขายืนเฝ้าอย่างแน่นหนาด้วยถ้าคิดจะกลับออกไปอย่างปลอดภัย คงต้องเกลี้ยกล่อมเฉินหย่งให้ได้ก่อน!นึกมาถึงตรงนี้ เซี่ยฉีฉีรีบวางสาย เธอสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักว่า “พี่หย่ง ประจำเดือนฉันมา วันนี้คงนอนกับพี่ไม่ได้แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันอื่นได้หรือเปล่า?”เซี่ยฉีฉีเปิดประตู จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเฉินหยงหัวเราะในลำคอ กวาดมองชักโครกแวบหนึ่ง ก่อนหันมาจ้องสะโพกอันผึ่งผายของเซี่ยฉีฉี เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะอันเย็นชาว่า “ฉีฉี ถึงต้องฝ่าไฟแดง วันนี้เธอก็ต้องเสร็จพี่อยู่ดี!”“อีกอย่าง เธอไม่รู้สึกว่าเบียร์ที่กินเข้าไปเมื่อกี้ มีอะไรผิดปกติบ้างเหรอ?”พูดมาถึงตรงนี้ เฉินหยงล้วงห่อกระดาษสีขาวห่อหนึ่งออกมาจากกระเป๋
โครม!สิ่งที่ตอบกลับเขา มีเพียงหน้าแข้งของฉู่เฉินที่ฟาดเข้ามา!“อั๊ก… อ๊าก… แม่งเอ๊ย! เด็กๆ! ใครอยู่ข้างนอก! เข้ามาฆ่ามัน!”นาทีนี้ เฉินหย่งราวกับได้ยินเสียงไข่แตกการเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตของเขา คงเป็นช่วงเวลานี้ที่ตัวอยู่ในห้อง แต่ไข่บินออกไปไกลแสนไกลแล้วเฉินหย่งในตอนนี้ เข้าสู่อารามบ้าคลั่งสุดขีดไปแล้วไม่ว่าฉู่เฉินเป็นใคร เขาจะต้องฆ่าฉู่เฉินให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้ไข่ที่บินหายไปของเขา“โครม!”สิ้นเสียงตะโกนออกคำสั่งของฉู่เฉิน ชายฉกรรจ์ถือมีดอีโต้สิบกว่าคนก็วิ่งเข้าในห้อง พวกเขาตวัดมีดใส่แผ่นหลังของฉู่เฉินทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงพลั่ก โครม เคร้ง พลั่กๆ!ฉู่เฉินไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง เขาใช้วิชาเทพมังกรสะบัดหางจัดการพวกนั้นจนหมดสติเฉินหย่งตะลึงค้างไปทันที!วันนี้ลูกน้องที่เขาพามา มีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น เพราะเขากลัวจะมีคนมาขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของเขาแต่ไม่คิดไม่ฝัน มือมีดฝีมือดีสิบกว่าคนกลับถูกฉู่เฉินโจมตีจนหมดสติภายในครั้งเดียว“แก… แกเป็นใครวะ? ฉันจะบอกแกให้นะ ฉัน… ฉันเป็นคนของพรรคมังกรหาญ ละ… ลูกพี่ฉันคือท่านหลงเชียวนะโว้ย!”เฉินหย่งข่มขู่ พลางกุมเป้าและถอยหลังไปอ
ฉู่เฉินที่ตอนแรกอุ้มเซี่ยฉีฉีลุกขึ้นยืนแล้ว ตอนนี้กลับค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาการกอดจูบอันเร่าร้อน ทำให้ฤทธิ์ยาในตัวของเซี่ยฉีฉีทำงานอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง ขาสองข้างยันอยู่บนโซฟา แต่ร่างกายกลับขยับขึ้นขยับลงไม่หยุดดวงหน้าเล็กๆ แดงแปร๊ดไปจนถึงลำคอลูกท้อขนาดใหญ่ตรงหน้าอกนั่นสั่นสะเทือนไปตามการเคลื่อนไหวอันรุนแรงของเธอฉู่เฉินสูดหายใจลึกๆ พยายามดึงตัวเองออกมาจากสัมผัสอันนุ่มนิ่มของหน้าอกเซี่ยฉีฉี จากนั้นก็สกัดจุดชีพจรของเธอแต่พริบตาต่อมา แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังต้องสูดหายใจด้วยความตะลึงเซี่ยฉีฉีในตอนนี้เหมือนกระถางไฟที่ถูกจุด ไม่ว่าฉู่เฉินจะใช้วิธีไหนในการดับไฟของเธอ แต่ผลสุดท้ายก็มีเพียงอย่างเดียวเส้นเลือดในร่างของเซี่ยฉีฉีก็จะแตก จนทำให้ถึงแก่ความตาย!เฉินหย่งไอ้สารเลวนั่น!ถึงขั้นใช้ยาแรงขนาดนั้นกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง!“ให้ฉันเถอะ… ฉัน… ฉันอยาก!”เซี่ยฉีฉีแววตาหยาดเยิ้ม คว้ามือของฉู่เฉินน้ำยังคงชุ่มแฉะอย่างต่อเนื่อง แต่พริบตาต่อมา ฉู่เฉินตะลึง ทำไมถึงรู้สึกเย็นๆ ล่ะ?ขณะกำลังสงสัย ฉู่เฉินก้มมองแวบหนึ่งซี้ด!นี่มันน้ำค้างหยกตันชิงนี่นา
ลูกน้องคนนั้นได้ยินคำกล่าวก็รีบไปหลบข้าง ๆ สาวน้อยคนนี้ก็มากับฉู่เฉิน เขาล่วงเกินไม่ไหวปี้เวยกับลูกน้องคนนี้ดึงดันยืนอยู่ตรงหน้าประตูฟังเพลงทิเบตที่ราบสูงอยู่เป็นชั่วโมง จนกระทั่งโซฟาภายในห้องกระแทกผนังอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายจนส่งเสียงดังลั่นตามมาด้วยเสียงร้องที่สูงกังวานของเซี่ยฉีฉี ในที่สุดก็วาดเครื่องหมายจบประโยคได้อย่างสมบูรณ์“เผด็จการมากเหลือเกิน มีพลังความเป็นชายมากเกินไปแล้ว!”ปี้เวยเลียริมฝีปากแดงเพลิง มองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉู่เฉิน แววตาเต็มไปด้วยความหลงใหลมีเพียงผู้ชายแบบนี้เท่านั้นถึงคู่ควรจะประลองกับเธอ.....บนโซฟาในห้องส่วนตัว เซี่ยฉีฉีกางแขนอย่างไร้เรี่ยวแรง โอบกอดฉู่เฉินที่กำลังทะลวงขีดจำกัดเข้าไปในอ้อมแขนอันกว้างใหญ่ ในขณะที่หยาดเหงื่อหอม ๆ ไหลลงมาจากใบหน้าของฉู่เฉิน ภายในร่างกายของฉู่เฉินพลันส่งเสียงดังแกรก ๆพลังวิญญาณอันรุนแรงพุ่งทะลวงเส้นลมปราณตูและเส้นลมปราณเริ่นของฉู่เฉินทันที ก่อนจะโคจรไปทั่วทั้งร่าง!จากนั้นความรู้สึกผ่อนคลายสดชื่นก็ถาโถมเข้าในสมอง ความสามารถในการรับรู้ของฉู่เฉินเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าแล้ว! เซลล์ทั้งหมดในร่างกายพยายาม
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ