เซี่ยฉีฉีแสบจมูก น้ำตาคลอเบ้าแล้ว ต้องรู้ไว้ว่าเธอมอบครั้งแรกของตัวเองให้ฉู่เฉินไปแล้วถ้าเกิดบอกว่าฉู่เฉินมีแฟนแล้ว เช่นนั้นเธอไม่กลายเป็นมือที่สามหรอกเหรอ?เธอยอมปล่อยฉู่เฉินไป ไม่ให้ตัวเองกลายเป็นมือที่สามไร้ยางอาย“ฉีฉี เธอเข้าใจผิดแล้ว คุณปี้เป็นภรรยาของประธานเจียง ตอนที่พวกเราอยู่ข้างล่างเมื่อกี้ ภรรยาของตาลุงหัวล้านคนนั้นไง” ฉู่เฉินอธิบายพลางยิ้มจนดวงตาโค้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยฉีฉีก็อดมองไปทางปี้เวยอย่างตกใจไม่ได้ ประธานเจียงคนนั้น อย่างน้อยก็เป็นพ่อของปี้เวยได้แล้วมั้ง? ความต่างของอายุทั้งสองคนแทบจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปี้เวยนอนกับผู้ชายแบบนั้นโดยไม่รู้สึกขยะแขยงได้อย่างไร? “ฮึ! ไม่สนคุณแล้ว!” ปี้เวยโกรธจนกระทืบเท้า ก่อนจะหันตัววิ่งกลับไปยังห้องส่วนตัวของหลิวฉางเจียง เซี่ยฉีฉีมองแผ่นหลังของปี้เวยแวบหนึ่งแล้วอดเอ่ยด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ฉู่เฉิน นะ...นายทำบ่อปลาของเธอพังเหรอ? ต้องจ่ายเงินคืนเยอะมากเลยใช่หรือเปล่า?” พรวด!ฉู่เฉินแทบจะกระอักเลือดเก่าออกมา บ่อปลานี้ไม่ใช่บ่อปลาอันนั้นนะแต่ไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายให้เซี่ยฉีฉีฟัง ทำได้เพียงหาเหตุผลไปเรื่อย ก
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดออก จางหลงก้าวเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าทะมึนเขามองไปยังเฉินหย่งที่ขดตัวอยู่ในมุมกำแพงก่อน จากนั้นสายตาเย็นชาก็ทอดมองมาทางของเซี่ยอ้ายกั๋ว ผ่านไปพักใหญ่ จางหลงถึงค่อยเดินมาใกล้ฉู่เฉิน แล้วเอ่ยด้วยความเคารพมากยิ่งขึ้นว่า “คุณฉู่ ผมตรวจสอบเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้วครับ นี่เป็นคลิปกล้องวงจรปิดตอนนั้น รบกวนคุณฉู่ช่วยดูด้วยครับ”จางหลงยื่นข้อมูลคลิปวิดีโอมายังเบื้องหน้าฉู่เฉินขณะที่พูด ซี้ด!เซี่ยอ้ายกั๋วเห็นดังนั้น หัวใจก็อดกระตุกขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยพลางพยายามดิ้นรนก่อนตายว่า “ผมไม่สนว่าพวกคุณมาจากไหน แต่พี่หย่งเป็นคนของท่านหลงเชียวนะ!” “ผมเองก็กินข้าวร่วมโต๊ะกับท่านหลงเป็นประจำ ถ้าเกิดรู้จักทิศทางลม ทางที่ดีพวกคุณปล่อยพวกเราไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดท่านหลงรู้ว่าพวกคุณกล้าแตะผมกับพี่หยง เขาจะต้องถลกหนังของพวกคุณแน่!” เรื่องมาถึงขั้นนี้ เซี่ยอ้ายกั๋วรู้ว่าไม่มีทางบ่ายเบี่ยงได้แล้ว เขาจึงไม่แสร้งทำตัวน่าสงสารอีกต่อไป แต่ว่ายกเรื่องท่านหลงออกมาแทนมองไปทั่วทั้งเจียงจง ใครกล้าไม่ไว้หน้าท่านหลงบ้าง?ไม่แน่ว่าบางทีฉู่เฉินรู้ว่าเขากับท่านหลงมีส
ฉู่เฉินหันหน้าไปมองเซี่ยฉีฉี จากนั้นก็เบนสายตาไปที่เซี่ยอ้ายกั๋วอีกครั้งตุบ!เซี่ยอ้ายกั๋วคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่เฉินอย่างแข็งทื่อ พูดอ้อนวอนอย่างขมขื่นว่า “คุณฉู่ ผะ...ผมเป็นพ่อของฉีฉีนะ ขอร้องละครับ คุณเมตตาด้วยเถอะ”“ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่รบกวนพวกฉีฉีสองแม่ลูกอีก คุณก็ถือว่าผมเป็นแค่ผายลม ปล่อยผมไปเถอะครับ” หลังจากที่ใคร่ครวญอยู่เนิ่นนาน ฉู่เฉินถึงค่อยหันหน้าไปมองเซี่ยฉีฉีแล้วเอ่ยว่า “ฉีฉี เธอว่ายังไง?” ชั่วขณะหนึ่ง เซี่ยฉีฉีเองก็รู้สึกลำบากใจนิดหน่อย ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สุดท้ายเซี่ยอ้ายกั๋วยังคงเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ เรื่องปิตุฆาต เธอทำไม่ได้เด็ดขาดเมื่อคิดได้ดังนี้ เซี่ยฉีฉีก็เม้มปากเล็ก ๆ พูดกับฉู่เฉินด้วยเสียงแผ่งเบาราวกับยุงว่า “ถะ...ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อของฉัน...”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ถอนหายใจยาว พูดกับเซี่ยอ้ายกั๋วว่า “เซี่ยอ้ายกั๋ว คุณโชคดีมากที่ให้กำเนิดลูกสาวดี ๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้ต่อให้คุณมีสิบชีวิตก็ต้องตายอยู่ดี”“ครับ ๆๆ ขอบคุณคุณฉู่มากครับ ขอบคุณคุณฉู่ที่เมตตา!”เซี่ยอ้ายกั๋วโขกศีรษะติดต่อกันด้วยความตื่นเต้น “ปัง!” ฉู่เฉินยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาข
จัดซื้อวัตถุดิบสำหรับทำยา?จางหลงดีใจอย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ ด้วยเส้นสายของเขา การหาร้านวัตถุดิบสำหรับทำยามือหนึ่งสักหลาย ๆ เจ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย นอกจากนี้อัตรากำไรในนี้ยังมากกว่าการพนันเสียอีกเรื่องสำคัญที่สุดคือนี่เป็นช่องทางที่คุณฉู่มอบให้ มองในระยะยาวแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน พอคิดได้ดังนั้น จางหลงก็เอ่ยขอบคุณเป็นอย่างยิ่งว่า “ขอบคุณคุณฉู่มากครับ คุณโปรดวางใจ ผมจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ไม่ทำให้คุณฉู่ผิดหวังแน่นอน!” ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “อืม เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เชื่อว่าท่านหลงคงไม่มีปัญหาแน่นอน ไว้กลับไปแล้วคุณไปประสานงานกับโจวเทียนเฟิ่งดูนะครับ” “ได้ ๆๆ จัดการตามที่คุณฉู่ว่ามาเลย ถ้าเกิดไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไม่รบกวนคุณฉู่แล้วครับ” จางหลงพูดพลางลอบปรายตามองเซี่ยฉีฉี เขายังรู้จักกาลเทศะอยู่ จะรั้นอยู่ต่อไม่ยอมไปไม่ได้เป็นอันขาด นั่นไม่กลายเป็นก้างขวางคอหรือไง? “อืม คุณไปทำธุระเถอะครับ” ฉู่เฉินโบกมือไล่จางหลงออกไป จากนั้นเขาก็พาเซี่ยฉีฉีกลับไปที่ห้องส่วนตัวของหลิวฉางเจียง เวลานี้ หลิวฉางเจียงถูกมอมจนเมาเต็มที่แล้ว สาวงามหลายสิบคนก็ถูกปี้เวยไล
“ฉู่เฉิน ทำให้นายขำแล้ว แต่ว่าบริษัทนี้ของฉันมีศักยภาพมาก เป็นยังไงบ้าง อยากร่วมหุ้นไหม?”เซี่ยฉีฉีรินน้ำให้ฉู่เฉินพลางพูดแก้หน้าให้ตัวเอง “ลงทุนห้าร้อยล้านก่อนละกัน แต่ว่าไม่ใช่การลงทุนนะ แต่เป็นการซื้อควบรวมบริษัทของเธอเข้าสู่ซินฉู่กรุ๊ป บริษัทยังอยู่ในความรับผิดชอบของเธอ เพียงแต่ว่าต่อไปต้องทำงานเพื่อซินฉู่กรุ๊ปเท่านั้น” ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง อะไรนะ?เซี่ยฉีฉีตกตะลึงเล็กน้อย ความสุขมาอย่างกะทันหันเกินไปแล้วมั้งฉู่เฉินไม่ถามอะไรเลย อาศัยเพียงคำพูดลอย ๆ เมื่อกี้ของเธอก็ลงเงินห้าร้อยล้านแล้ว? หรือว่าขะ...เขารวยขนาดนี้เชียวเหรอ?อย่าเห็นว่าพวกจางหลงเคารพนอบน้อมฉู่เฉินมาก แต่นั่นเป็นความต้องการในการเข้าสังคม บางทีฉู่เฉินอาจจะจับจุดอ่อนของพวกเขาไว้ก็ได้ไม่ถือว่าเป็นความสามารถของตัวฉู่เฉินอย่างแน่นอน! แต่ตอนนี้เซี่ยฉีฉีคิดว่าเธอมองตื้นลึกหนาบางของฉู่เฉินไม่ออกแล้ว ถึงแม้เธอรู้ข้อดีข้อเสียของฉู่เฉินแล้วก็ตาม“พยายามเปลี่ยนทำเลที่ทำงานให้ใกล้ใจกลางเมืองมากขึ้น พนักงานก็น้อยเกินไป ต่อไปปริมาณธุรกิจของซินฉู่กรุ๊ปจะมีเยอะมาก ๆ นอกจากนี้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ต้องมีคนดูแลโ
ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ฉู่เฉินก็มองจนใจลอย! เรียวขางามที่เกลี้ยงเกลาดั่งหยกคู่นั้นดูขาวนวลขึ้นเล็กน้อยภายใต้แสงจันทร์ ชุดเดรสชีฟองยาวแทบจะโปร่งใสที่ปกปิดไว้เพียงครึ่งเดียวยิ่งเพิ่มความรู้สึกเลือนรางหน้าอกอวบอิ่มเต่งตึงเบื้องหน้าคู่นั้นเผยให้เห็นเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่นูนขึ้นมาเป็นรูปทรงครึ่งวงกลมสองลูกและร่องอกที่ขาวเนียนทำให้ผู้คนอดจินตนาการโลดแล่นไม่ได้ องคาพยพทั้งห้าอันประณีตงดงาม คิ้วตาล้วนเฉิดฉันราวกับเซียน“แม่เจ้า นั่นใช่พี่นางฟ้าหรือเปล่า?”“ฉันตาฝาดไปแล้วใช่หรือเปล่า เทพธิดาลงมาที่บ้านฉันแล้วเหรอ?”แม้แต่ชาวบ้านหลายคนที่อยู่รอบข้างก็ถูกภาพตรงหน้านี้ดึงดูดสายตาโดยสิ้นเชิงอึก! ฉู่เฉินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ติดต่อกัน ฝืนข่มกลั้นความหวั่นไหวในใจ นี่มันท่านผู้อาวุโสลัทธิศักดิ์สิทธิ์ที่เจอบนเทียนเฟิ่งวิลลาเมื่อครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ?อาจเป็นเพราะครั้งก่อนอยู่ภายใต้สถานการณ์เร่งด่วน เขาเลยไม่ได้สนใจสาวงามเลิศล้ำผู้นี้แต่ตอนนี้ เมื่อดูให้ละเอียด ฉู่เฉินพลันรู้สึกว่าสาวงามที่อยู่รอบตัวทั้งหมดดูจืดชืดไปเลย เมื่อเปรียบเทียบกับสาวงามตรงหน้านี้ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ปุถุช
ฉู่เฉินอดพลั้งปากออกมาไม่ได้ แม้ว่านี่เป็นยาชั้นกลางระดับดำ แต่การใช้งานกลับไม่แพร่หลายนัก ตามบันทึกที่สืบทอดกันมาของมังกรเฒ่า ยาชนิดนี้มักใช้โดยบรรดาผู้หญิงในแดนเซียนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานานเพื่อระงับเพลิงชั่วร้ายในร่างกายแม้บอกว่าผู้หญิงที่บำเพ็ญเพียรทุกคนจะใสสะอาดบริสุทธิ์ดั่งหยก แต่สุดท้ายก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี ตราบใดที่เป็นมนุษย์ก็มีเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา โดยเฉพาะชายหญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว หากข่มกลั้นความปรารถนาเป็นเวลานาน ยากจะหลีกเลี่ยงสักวันที่จะระเบิดออกมา เมื่อระเบิดออกมาหมด มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะธาตุไฟเข้าแทรกดังนั้นถึงได้มีคนตั้งใจคิดค้นยาชนิดนี้ออกมา หรือว่า...ฉู่เฉินกวาดตามองอวี้ลู่ที่สวมชุดเรียบง่าย จากนั้นถึงค่อยสังเกตเห็นว่ามีบนลำคอเนียนของเธอมีหยาดเหงื่อเป็นประกายอยู่หลายหยด แต่โดยทั่วไปแล้วยอดฝีมือระดับทารกวิญญาณทุกคนจะไม่มีของเหลวในร่างกายไหลออกมา ยิ่งไม่มีทางหลั่งเหงื่อ นอกเสียจากว่าจิตใจจะเกิดความปรารถนา เพลิงชั่วร้ายเกิดขึ้นข้างใน ถึงได้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น“เจ้ารู้ว่านี่คือยาเก้าตะวันหรือ?” อวี้ลู่มองฉู่เฉินอย่างประหลาดใจแกมยินดี
“กล้าเกี่ยวก้อยไหม?” เมื่อได้ยินคำพูดที่มาอย่างกะทันหันของฉู่เฉิน อวี้ลู่ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นก็อดปิดหน้ายิ้มหวานขึ้นมาไม่ได้ หมอน้อยคนนี้น่ารักเกินไปแล้วจริง ยังอยากเกี่ยวก้อยกับเธออีก?ไม่ใช่เด็กแล้วนะ “ได้!”อวี้ลู่พูดพลางยื่นนิ้วก้อยเรียวบางออกมา ฉู่เฉินก็ยื่นนิ้วก้อยออกมาเช่นกัน ก่อนจะเกี่ยวก้อยกับมือเนียนบอบบางของอวี้ลู่ทันทีที่สัมผัสก็มีความเย็นลื่นสายหนึ่งส่งเข้ามามือเล็ก ๆ ข้างนั้นเย็นเล็กน้อยเหมือนหยก สัมผัสที่มือดีมากจริง ๆมิน่าล่ะในมรดกของมังกรเฒ่าถึงบรรยายว่ากายาหยกเซียนสวรรค์เป็นกระถางที่หาได้ยากยิ่งถึงขนาดยังบอกว่าถ้าได้ร่วมสังวาสกัน ไม่เพียงเพิ่มพลังขึ้นมาก ยังสามารถเพลิดเพลินกับความสุขของชีวิตมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ซี้ด!มังกรเฒ่าไม่ได้หลอกฉันจริง ๆ ด้วยฉู่เฉินคิดได้ดังนั้นก็ปล่อยมือเล็ก ๆ ของอวี้ลู่อย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจนิดหน่อยว่า “การหลอมยาไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าคุณต้องช่วยหาสมุนไพรนี้ อาศัยแค่แหล่งข่าวของผม น่าจะต้องรอจนทะเลกลายเป็นท้องนาเลย” อวี้ลู่พยักหน้าหนัก ๆ แม้แต่ในแดนเซียน สมุนไพรนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะพบเจอได้บ่อย เนื่องจากเงื่อ
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี