โครม!สิ่งที่ตอบกลับเขา มีเพียงหน้าแข้งของฉู่เฉินที่ฟาดเข้ามา!“อั๊ก… อ๊าก… แม่งเอ๊ย! เด็กๆ! ใครอยู่ข้างนอก! เข้ามาฆ่ามัน!”นาทีนี้ เฉินหย่งราวกับได้ยินเสียงไข่แตกการเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตของเขา คงเป็นช่วงเวลานี้ที่ตัวอยู่ในห้อง แต่ไข่บินออกไปไกลแสนไกลแล้วเฉินหย่งในตอนนี้ เข้าสู่อารามบ้าคลั่งสุดขีดไปแล้วไม่ว่าฉู่เฉินเป็นใคร เขาจะต้องฆ่าฉู่เฉินให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้ไข่ที่บินหายไปของเขา“โครม!”สิ้นเสียงตะโกนออกคำสั่งของฉู่เฉิน ชายฉกรรจ์ถือมีดอีโต้สิบกว่าคนก็วิ่งเข้าในห้อง พวกเขาตวัดมีดใส่แผ่นหลังของฉู่เฉินทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงพลั่ก โครม เคร้ง พลั่กๆ!ฉู่เฉินไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง เขาใช้วิชาเทพมังกรสะบัดหางจัดการพวกนั้นจนหมดสติเฉินหย่งตะลึงค้างไปทันที!วันนี้ลูกน้องที่เขาพามา มีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น เพราะเขากลัวจะมีคนมาขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของเขาแต่ไม่คิดไม่ฝัน มือมีดฝีมือดีสิบกว่าคนกลับถูกฉู่เฉินโจมตีจนหมดสติภายในครั้งเดียว“แก… แกเป็นใครวะ? ฉันจะบอกแกให้นะ ฉัน… ฉันเป็นคนของพรรคมังกรหาญ ละ… ลูกพี่ฉันคือท่านหลงเชียวนะโว้ย!”เฉินหย่งข่มขู่ พลางกุมเป้าและถอยหลังไปอ
ฉู่เฉินที่ตอนแรกอุ้มเซี่ยฉีฉีลุกขึ้นยืนแล้ว ตอนนี้กลับค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาการกอดจูบอันเร่าร้อน ทำให้ฤทธิ์ยาในตัวของเซี่ยฉีฉีทำงานอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง ขาสองข้างยันอยู่บนโซฟา แต่ร่างกายกลับขยับขึ้นขยับลงไม่หยุดดวงหน้าเล็กๆ แดงแปร๊ดไปจนถึงลำคอลูกท้อขนาดใหญ่ตรงหน้าอกนั่นสั่นสะเทือนไปตามการเคลื่อนไหวอันรุนแรงของเธอฉู่เฉินสูดหายใจลึกๆ พยายามดึงตัวเองออกมาจากสัมผัสอันนุ่มนิ่มของหน้าอกเซี่ยฉีฉี จากนั้นก็สกัดจุดชีพจรของเธอแต่พริบตาต่อมา แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังต้องสูดหายใจด้วยความตะลึงเซี่ยฉีฉีในตอนนี้เหมือนกระถางไฟที่ถูกจุด ไม่ว่าฉู่เฉินจะใช้วิธีไหนในการดับไฟของเธอ แต่ผลสุดท้ายก็มีเพียงอย่างเดียวเส้นเลือดในร่างของเซี่ยฉีฉีก็จะแตก จนทำให้ถึงแก่ความตาย!เฉินหย่งไอ้สารเลวนั่น!ถึงขั้นใช้ยาแรงขนาดนั้นกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง!“ให้ฉันเถอะ… ฉัน… ฉันอยาก!”เซี่ยฉีฉีแววตาหยาดเยิ้ม คว้ามือของฉู่เฉินน้ำยังคงชุ่มแฉะอย่างต่อเนื่อง แต่พริบตาต่อมา ฉู่เฉินตะลึง ทำไมถึงรู้สึกเย็นๆ ล่ะ?ขณะกำลังสงสัย ฉู่เฉินก้มมองแวบหนึ่งซี้ด!นี่มันน้ำค้างหยกตันชิงนี่นา
ลูกน้องคนนั้นได้ยินคำกล่าวก็รีบไปหลบข้าง ๆ สาวน้อยคนนี้ก็มากับฉู่เฉิน เขาล่วงเกินไม่ไหวปี้เวยกับลูกน้องคนนี้ดึงดันยืนอยู่ตรงหน้าประตูฟังเพลงทิเบตที่ราบสูงอยู่เป็นชั่วโมง จนกระทั่งโซฟาภายในห้องกระแทกผนังอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายจนส่งเสียงดังลั่นตามมาด้วยเสียงร้องที่สูงกังวานของเซี่ยฉีฉี ในที่สุดก็วาดเครื่องหมายจบประโยคได้อย่างสมบูรณ์“เผด็จการมากเหลือเกิน มีพลังความเป็นชายมากเกินไปแล้ว!”ปี้เวยเลียริมฝีปากแดงเพลิง มองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉู่เฉิน แววตาเต็มไปด้วยความหลงใหลมีเพียงผู้ชายแบบนี้เท่านั้นถึงคู่ควรจะประลองกับเธอ.....บนโซฟาในห้องส่วนตัว เซี่ยฉีฉีกางแขนอย่างไร้เรี่ยวแรง โอบกอดฉู่เฉินที่กำลังทะลวงขีดจำกัดเข้าไปในอ้อมแขนอันกว้างใหญ่ ในขณะที่หยาดเหงื่อหอม ๆ ไหลลงมาจากใบหน้าของฉู่เฉิน ภายในร่างกายของฉู่เฉินพลันส่งเสียงดังแกรก ๆพลังวิญญาณอันรุนแรงพุ่งทะลวงเส้นลมปราณตูและเส้นลมปราณเริ่นของฉู่เฉินทันที ก่อนจะโคจรไปทั่วทั้งร่าง!จากนั้นความรู้สึกผ่อนคลายสดชื่นก็ถาโถมเข้าในสมอง ความสามารถในการรับรู้ของฉู่เฉินเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าแล้ว! เซลล์ทั้งหมดในร่างกายพยายาม
เซี่ยฉีฉีแสบจมูก น้ำตาคลอเบ้าแล้ว ต้องรู้ไว้ว่าเธอมอบครั้งแรกของตัวเองให้ฉู่เฉินไปแล้วถ้าเกิดบอกว่าฉู่เฉินมีแฟนแล้ว เช่นนั้นเธอไม่กลายเป็นมือที่สามหรอกเหรอ?เธอยอมปล่อยฉู่เฉินไป ไม่ให้ตัวเองกลายเป็นมือที่สามไร้ยางอาย“ฉีฉี เธอเข้าใจผิดแล้ว คุณปี้เป็นภรรยาของประธานเจียง ตอนที่พวกเราอยู่ข้างล่างเมื่อกี้ ภรรยาของตาลุงหัวล้านคนนั้นไง” ฉู่เฉินอธิบายพลางยิ้มจนดวงตาโค้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยฉีฉีก็อดมองไปทางปี้เวยอย่างตกใจไม่ได้ ประธานเจียงคนนั้น อย่างน้อยก็เป็นพ่อของปี้เวยได้แล้วมั้ง? ความต่างของอายุทั้งสองคนแทบจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปี้เวยนอนกับผู้ชายแบบนั้นโดยไม่รู้สึกขยะแขยงได้อย่างไร? “ฮึ! ไม่สนคุณแล้ว!” ปี้เวยโกรธจนกระทืบเท้า ก่อนจะหันตัววิ่งกลับไปยังห้องส่วนตัวของหลิวฉางเจียง เซี่ยฉีฉีมองแผ่นหลังของปี้เวยแวบหนึ่งแล้วอดเอ่ยด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ฉู่เฉิน นะ...นายทำบ่อปลาของเธอพังเหรอ? ต้องจ่ายเงินคืนเยอะมากเลยใช่หรือเปล่า?” พรวด!ฉู่เฉินแทบจะกระอักเลือดเก่าออกมา บ่อปลานี้ไม่ใช่บ่อปลาอันนั้นนะแต่ไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายให้เซี่ยฉีฉีฟัง ทำได้เพียงหาเหตุผลไปเรื่อย ก
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ประตูห้องก็เปิดออก จางหลงก้าวเข้ามาในห้องทำงานด้วยสีหน้าทะมึนเขามองไปยังเฉินหย่งที่ขดตัวอยู่ในมุมกำแพงก่อน จากนั้นสายตาเย็นชาก็ทอดมองมาทางของเซี่ยอ้ายกั๋ว ผ่านไปพักใหญ่ จางหลงถึงค่อยเดินมาใกล้ฉู่เฉิน แล้วเอ่ยด้วยความเคารพมากยิ่งขึ้นว่า “คุณฉู่ ผมตรวจสอบเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้วครับ นี่เป็นคลิปกล้องวงจรปิดตอนนั้น รบกวนคุณฉู่ช่วยดูด้วยครับ”จางหลงยื่นข้อมูลคลิปวิดีโอมายังเบื้องหน้าฉู่เฉินขณะที่พูด ซี้ด!เซี่ยอ้ายกั๋วเห็นดังนั้น หัวใจก็อดกระตุกขึ้นมาไม่ได้ เอ่ยพลางพยายามดิ้นรนก่อนตายว่า “ผมไม่สนว่าพวกคุณมาจากไหน แต่พี่หย่งเป็นคนของท่านหลงเชียวนะ!” “ผมเองก็กินข้าวร่วมโต๊ะกับท่านหลงเป็นประจำ ถ้าเกิดรู้จักทิศทางลม ทางที่ดีพวกคุณปล่อยพวกเราไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดท่านหลงรู้ว่าพวกคุณกล้าแตะผมกับพี่หยง เขาจะต้องถลกหนังของพวกคุณแน่!” เรื่องมาถึงขั้นนี้ เซี่ยอ้ายกั๋วรู้ว่าไม่มีทางบ่ายเบี่ยงได้แล้ว เขาจึงไม่แสร้งทำตัวน่าสงสารอีกต่อไป แต่ว่ายกเรื่องท่านหลงออกมาแทนมองไปทั่วทั้งเจียงจง ใครกล้าไม่ไว้หน้าท่านหลงบ้าง?ไม่แน่ว่าบางทีฉู่เฉินรู้ว่าเขากับท่านหลงมีส
ฉู่เฉินหันหน้าไปมองเซี่ยฉีฉี จากนั้นก็เบนสายตาไปที่เซี่ยอ้ายกั๋วอีกครั้งตุบ!เซี่ยอ้ายกั๋วคุกเข่าลงตรงหน้าฉู่เฉินอย่างแข็งทื่อ พูดอ้อนวอนอย่างขมขื่นว่า “คุณฉู่ ผะ...ผมเป็นพ่อของฉีฉีนะ ขอร้องละครับ คุณเมตตาด้วยเถอะ”“ผมรับรองว่าต่อไปจะไม่รบกวนพวกฉีฉีสองแม่ลูกอีก คุณก็ถือว่าผมเป็นแค่ผายลม ปล่อยผมไปเถอะครับ” หลังจากที่ใคร่ครวญอยู่เนิ่นนาน ฉู่เฉินถึงค่อยหันหน้าไปมองเซี่ยฉีฉีแล้วเอ่ยว่า “ฉีฉี เธอว่ายังไง?” ชั่วขณะหนึ่ง เซี่ยฉีฉีเองก็รู้สึกลำบากใจนิดหน่อย ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สุดท้ายเซี่ยอ้ายกั๋วยังคงเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ เรื่องปิตุฆาต เธอทำไม่ได้เด็ดขาดเมื่อคิดได้ดังนี้ เซี่ยฉีฉีก็เม้มปากเล็ก ๆ พูดกับฉู่เฉินด้วยเสียงแผ่งเบาราวกับยุงว่า “ถะ...ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นพ่อของฉัน...”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉู่เฉินก็ถอนหายใจยาว พูดกับเซี่ยอ้ายกั๋วว่า “เซี่ยอ้ายกั๋ว คุณโชคดีมากที่ให้กำเนิดลูกสาวดี ๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้ต่อให้คุณมีสิบชีวิตก็ต้องตายอยู่ดี”“ครับ ๆๆ ขอบคุณคุณฉู่มากครับ ขอบคุณคุณฉู่ที่เมตตา!”เซี่ยอ้ายกั๋วโขกศีรษะติดต่อกันด้วยความตื่นเต้น “ปัง!” ฉู่เฉินยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาข
จัดซื้อวัตถุดิบสำหรับทำยา?จางหลงดีใจอย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ ด้วยเส้นสายของเขา การหาร้านวัตถุดิบสำหรับทำยามือหนึ่งสักหลาย ๆ เจ้าไม่ใช่เรื่องยากเลย นอกจากนี้อัตรากำไรในนี้ยังมากกว่าการพนันเสียอีกเรื่องสำคัญที่สุดคือนี่เป็นช่องทางที่คุณฉู่มอบให้ มองในระยะยาวแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน พอคิดได้ดังนั้น จางหลงก็เอ่ยขอบคุณเป็นอย่างยิ่งว่า “ขอบคุณคุณฉู่มากครับ คุณโปรดวางใจ ผมจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ไม่ทำให้คุณฉู่ผิดหวังแน่นอน!” ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “อืม เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เชื่อว่าท่านหลงคงไม่มีปัญหาแน่นอน ไว้กลับไปแล้วคุณไปประสานงานกับโจวเทียนเฟิ่งดูนะครับ” “ได้ ๆๆ จัดการตามที่คุณฉู่ว่ามาเลย ถ้าเกิดไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไม่รบกวนคุณฉู่แล้วครับ” จางหลงพูดพลางลอบปรายตามองเซี่ยฉีฉี เขายังรู้จักกาลเทศะอยู่ จะรั้นอยู่ต่อไม่ยอมไปไม่ได้เป็นอันขาด นั่นไม่กลายเป็นก้างขวางคอหรือไง? “อืม คุณไปทำธุระเถอะครับ” ฉู่เฉินโบกมือไล่จางหลงออกไป จากนั้นเขาก็พาเซี่ยฉีฉีกลับไปที่ห้องส่วนตัวของหลิวฉางเจียง เวลานี้ หลิวฉางเจียงถูกมอมจนเมาเต็มที่แล้ว สาวงามหลายสิบคนก็ถูกปี้เวยไล
“ฉู่เฉิน ทำให้นายขำแล้ว แต่ว่าบริษัทนี้ของฉันมีศักยภาพมาก เป็นยังไงบ้าง อยากร่วมหุ้นไหม?”เซี่ยฉีฉีรินน้ำให้ฉู่เฉินพลางพูดแก้หน้าให้ตัวเอง “ลงทุนห้าร้อยล้านก่อนละกัน แต่ว่าไม่ใช่การลงทุนนะ แต่เป็นการซื้อควบรวมบริษัทของเธอเข้าสู่ซินฉู่กรุ๊ป บริษัทยังอยู่ในความรับผิดชอบของเธอ เพียงแต่ว่าต่อไปต้องทำงานเพื่อซินฉู่กรุ๊ปเท่านั้น” ฉู่เฉินเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง อะไรนะ?เซี่ยฉีฉีตกตะลึงเล็กน้อย ความสุขมาอย่างกะทันหันเกินไปแล้วมั้งฉู่เฉินไม่ถามอะไรเลย อาศัยเพียงคำพูดลอย ๆ เมื่อกี้ของเธอก็ลงเงินห้าร้อยล้านแล้ว? หรือว่าขะ...เขารวยขนาดนี้เชียวเหรอ?อย่าเห็นว่าพวกจางหลงเคารพนอบน้อมฉู่เฉินมาก แต่นั่นเป็นความต้องการในการเข้าสังคม บางทีฉู่เฉินอาจจะจับจุดอ่อนของพวกเขาไว้ก็ได้ไม่ถือว่าเป็นความสามารถของตัวฉู่เฉินอย่างแน่นอน! แต่ตอนนี้เซี่ยฉีฉีคิดว่าเธอมองตื้นลึกหนาบางของฉู่เฉินไม่ออกแล้ว ถึงแม้เธอรู้ข้อดีข้อเสียของฉู่เฉินแล้วก็ตาม“พยายามเปลี่ยนทำเลที่ทำงานให้ใกล้ใจกลางเมืองมากขึ้น พนักงานก็น้อยเกินไป ต่อไปปริมาณธุรกิจของซินฉู่กรุ๊ปจะมีเยอะมาก ๆ นอกจากนี้การโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็ต้องมีคนดูแลโ
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนอดหน้ามืดไม่ได้ แทบจะเป็นลมคาที่นี่ไม่อาจใช้คำว่ามากเกินไปมาบรรยายฉู่เฉินได้แล้ว ปรมาจารย์ฝืนข่มกลั้นโทสะในใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มฝืน ๆ ว่า “คุณฉู่ คุณไม่คิดว่าข้อเรียกร้องของคุณมันมากเกินไปเลยหรือไง?”“ฆ่าคนก็แค่เอาหัวโขกพื้น คะ...คุณเห็นวังเทียนเจี้ยนของผมรังแกง่ายจริง ๆ เหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน กวาดตามองปรมารจารย์ว่านเจี้ยนแวบหนึ่งแล้วพูดว่า “รังแกคุณแล้วยังไง? เอาของตามใบรายการนี้มา แล้วผมจะหันกายจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย”“ถ้าคุณกล้าพูดคำว่าไม่สักคำละก็ ผมก็มีวิธีทำให้วังเทียนเจี้ยนของคุณหายวับไปกับตา” ข่มขู่ ข่มขู่กันอย่างโจ่งแจ้ง“ไอ้คนแซ่ฉู่ แกเหิมเกริมไปแล้ว...” ไม่รอให้ศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่เอ่ยปาก ปรมารจารย์ว่านเจี้ยนก็รีบยกมือห้ามเอ่ยว่า “หุบปากให้หมด!” หลังจากผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลานี้ปรมารจารย์ว่านเจี้ยรไม่สงสัยความสามารถของฉู่เฉินเลยสักนิดเดียวอย่างแย่ที่สุด ฉู่เฉินก็สามารถลากวังเทียนเจี้ยนให้ตายตกตามกันได้ต้องรีบไล่ตัวซวยคนนี้ออกไปโดยเร็วที่สุดถุงจะถูกเมื่อคิดได้ดังนั้น ปรมาจ
ไม่อย่างนั้น เธอก็คงไม่มีทางกระโดดจากสาวใช้ธรรมดา ๆ กลายเป็นสุดยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นแปดภายในระยะเวลาห้าปีสั้น ๆ หรอก แต่ว่าฉู่เฉินรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?เมื่อเห็นหลิงเสวี่ยตะลึงจนพูดไม่ออก ฉู่เฉินก็แหงนหน้าหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “ดูท่าจะตรงตามที่ผมเดาไว้จริง ๆ ปรมาจารย์คนดีของคุณอยากเลี้ยงคุณจนสมบูรณ์แล้วค่อยดูดกลืนคุณจนแห้งไงละ” เมื่อหลิงเสวี่ยได้ยินคำพูดนี้ พลันร้อนใจขึ้น ถลึงตามองฉู่เฉินอย่างเย็นชาและกล่าว “ฉู่เฉิน ห้ามคุณพูดจาเหลวไหลนะ”ถึงแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะเห็นเธอเป็นของชิ้นหนึ่ง มอบเธอให้ฉู่เฉิน แต่ว่าสำนักเคยมีบุญคุณกับเธอจริง ๆ“พูดจาเหลวไหล? กลัวว่าคุณโดนคนอื่นขายแล้ว ยังช่วยเขานับเงินด้วยละมั้ง?”ฉู่เฉินหัวเราะหยัน จากนั้นก็อธิบายวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังสั้น ๆ และบอกเรื่องคุณสมบัติร่างกายพิเศษอย่างร่างธาตุสวรรค์บริสุทธิ์ว่ามีประโยชน์มากเท่าไหร่ต่อผู้ฝึกวิชาบำเพ็ญคู่ให้ฟังตามความเป็นจริง หลังจากฟังคำพูดนี้ของฉู่เฉินจบก็ทำลายสามมุมมองของหลิงเสวี่ยอย่างแท้จริง “เป็นไปไม่ได้ ต้องไม่ใช่ความจริงแน่นอน ท่านปรมาจารย์มักจะสอนพวกเราว่าผู้บำเพ็ญเพียนต้องทำ
ถึงแม้ว่าในใจของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนจะไม่เต็มใจอย่างยิ่ง แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้ฉู่เฉินจูงมือหลิงเสวี่ยเดินเข้าไปในเรือนเจ้าสำนักที่เขาอาศัยอยู่ ในตอนที่ฉู่เฉินปิดประตูห้องจนสนิท พวกศิษย์ของวังเทียนเจี้ยนต่างก็เผยสีหน้าเจ็บปวดและไม่ยินยอมออกมาจบแล้ว!เทพธิดาในใจของพวกเขา น้องศิษย์เล็กที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา โดนไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินย่ำยีแบบนี้แล้วเมื่อผลักประตูเดินเข้าไปในห้องนอนด้านใน ฉู่เฉินก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ไอ้แก่ตายยากอย่างปรมาจารย์ว่านเจี้ยนคนนี้เสพสุขเก่งจริง ๆ บนเตียงหยกน้ำแข็งมีอุปกรณ์ของเล่นต่าง ๆ ครบครัน นอกจากนี้ยังมีหมอนรองเอวโดยเฉพาะอีกด้วยไอ้เชี่ยนี่ เฒ่าหัวงูถึงจะเป็นคนตัณหากลับ จริง ๆ เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องปรมาจารย์ว่านเจี้ยน หลิงเสวี่ยก็อดขมวดคิ้วไม่ได้พลางกล่าวว่า “ทำไมในห้องของปรมาจารย์ถึงจะมีหมอนสองใบล่ะ อีกอย่าง ทำไมหมอนใบนี้ดูไปแล้ว ไม่ค่อยเหมือนเลย?” หลิงเสวี่ยพูดพลางเอื้อมมือจะไปหยิบหมอนรองเอวใบนั้นขึ้นมา แต่โดนฉู่เฉินขวางไว้ทันที“อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เองว่าหมอนใบนี้เอาไว้ใช้ทำอะไร เข้ามาสิ”ระหว่างที่พูด ฉู่เฉินก็ดึงหลิงเสวี่ยให้นั่งลงข้างเตียง
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ พวกว่านโซ่วเซียนเวิงก็ถอนหายใจติดต่อกันด้วยสีหน้าเสียดายในตอนนี้เอง แผ่นกระดาษสีขาวที่เขียนตำรับยาสร้างกล้ามเนื้อพลันลอยมาจากในวังเทียนเจี้ยน“ผู้อาวุโสทั้งหลาย ขอบคุณครับ”วินาทีต่อมา เสียงของฉู่เฉินดังออกมาจากห้องโถงใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนพวกว่านโซ่วเซียนเวิงรับสูตรยาที่ฉู่เฉินส่งมา ก่อนจะมองไปทางตำหนักหลักของวังเทียนเจี้ยนอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง“พวกเราไปกันเถอะ”ว่านโซ่วเซียนเวิงคัดลอกสูตรยาไว้หนึ่งชุด แล้วก็พาลูกศิษย์แห่งสำนักว่านเซียนหันกายเดินจากไป“เหอะ ๆ... ไอ้หนูมีน้ำใจแล้ว ถือว่าฉันติดหนี้บุญคุณเธอแล้ว ไว้พบกันใหม่”ผู้เฒ่าเทียนเสวียนก็คว้าสูตรยามาเช่นกันก่อนจะคัดลอกทันที จากนั้นเขาก็หันกายพาหลินเจี้ยนเฟิงลอยจากไปไม่นานนัก ผู้คนที่มามุงดูความคึกคักรอบนอกวังเทียนเจี้ยนก็ทยอยกันแยกย้ายไปหมดฉู่เฉินมองปรมาจารย์ว่านเจี้ยนที่หน้าแดงก่ำดูอับอายอย่างยิ่งยวด ก่อนจะหัวเราะหยันแล้วพูดว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าใครใกล้ตายนะ?”ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนมองฉู่เฉินพลางกัดฟันกรอด แม้ว่าตอนนี้ภัยคุกคามของวังเทียนเจี้ยนจะถูกขจัดไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่กล้าแตะต้องฉู่เฉ
เวลานี้เอง ทุกคนในเหตุการณ์ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่ชิงเฟิงจะโกรธจริง ๆนอกจากนี้ ประตูใหญ่ของวังเทียนเจี้ยนโดนทำลาย วันหน้าสถานะของวังเทียนเจี้ยนในหมู่สำนักรอบนอกภูเขาหลางจวีซวีย่อมลดลงไปอีกขั้นอย่างแน่นอแม้ว่าปรมาจารย์ว่านเจี้ยนในตอนนี้จะร้องทุกข์มิรู้วาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงสีหน้าไม่พอใจเลยสักนิดเดียวเวลานี้จื่อเยว่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ต้องชื่นชมความโชคดีของฉู่เฉินเช่นกันถึงแม้ความสามารถของเขาจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่อาศัยสติปัญญาและแผนการเรียกยอดคนอย่างลู่ชิงเฟิงออกมายืนอยู่ฝ่ายเขาได้นับว่าผ่านด่านยากตรงหน้าได้ชั่วคราวแล้วจริง ๆ “ศิษย์พี่หญิง ฉู่เฉินคงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับลู่ชิงเฟิงใช่ไหม?”หลิงรั่วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา“เกี่ยวข้องกับลู่ชิงเฟิง? ไม่มีทางหรอก!”จื่อเยว่หัวเราะหยันพลางส่ายศีรษะลู่ชิงเฟิงนั้นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของวังเต๋าคุนหลุน ถึงแม้จะไม่ใช่เจ้าสำนัก แต่ในวังเต๋าคุนหลุน นอกจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ปลีกวิเวกไม่ออกมาเหล่านั้นแล้ว เขาก็เป็นตัวแทนพลังรบสูงสุดเลยก็ว่าได้แม้ว่าฉู่เฉินเพียงแค่รู้จักลู่ชิงเฟิงเท่านั้น แ
มันอยู่เหนือระดับที่พวกเขาสามารถประมาณค่าได้ไปแล้ว!นักพรตแห่งน้ำไฟผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเมื่อกี้ ตอนนี้ก็เหงื่อเย็นแตกพลั่ก ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธแม้แต่คำเดียวเมื่อเห็นฉากนี้ สีหน้าของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็เปลี่ยนไปทันที มองสำรวจฉู่เฉินด้วยรอยยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เจ้าหนู ดูเหมือนว่าการคำนวณของมนุษย์จะสู้การคำนวณของสวรรค์ไม่ได้จริงๆ คุณคงไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยใช่ไหมล่ะ”“ยังกล้าให้ฉันมอบศิษย์ไปอุ่นเตียงให้แกอีกเหรอ? หึ!”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “ฉันแนะนำให้แกรีบส่งหยกโลหิตกิเลนมา แล้วฆ่าตัวตายรชดใช้ความผิดต่อหน้าฉันซะ ไม่งั้น...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ในดวงตาของปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ระเบิดรังสีอำมหิตออกมาสองสายสถานการณ์พลิกผันเร็วเกินไป จนกระทั่งหลิงเสวี่ยยังไม่ได้สติ แต่ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนไม่เปลี่ยนสีหน้าเร็วเกินไปหน่อยเหรอ?ฉู่เฉินหรี่ตาลงและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “คุณแน่ใจเหรอ?”“หึ เจ้าหนู ใกล้ตายแล้ว อย่าดิ้นรนไปให้เปลืองแรงเลย!”ขณะกล่าว ปรมาจารย์ว่านเจี้ยนก็ชักกระบี่ออกมาทันที กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งระดับควบแ