ผ่านไปไม่นาน จงอาหู่พาชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ถือท่อเหล็กยี่สิบกว่าคนมาถึงหน้าห้องหมายเลขแปดพอมองเข้าไปในหน้าต่างทรงหกเหลี่ยม จงอาหู่จำฉู่เฉินได้ตั้งแต่แวบแรก“ซี้ด!”จงอาหู่หดหัวด้วยความตกใจ โชคดีที่ไม่ได้บุกเข้าไปทันที ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่จังหวะที่ฉู่เฉินชนแก้วกับปี้เวย บังเอิญเหลือบเห็นจงอาหู่ที่ยืนอยู่หน้าประตูพอดี พอสายตาสบประสานกัน จงอาหู่มีเหรอจะกล้ารบกวน เขารีบโบกมือสั่งลูกน้องข้างหลังให้ถอยออกไปจากนั้นเขาก็เปิดประตูเดินเข้าไปเวลานี้ หลิวฉางเจียงกำลังประคองลูกท้อลูกใหญ่สองลูกกัดแทะเล่นอยู่ตรงนั้น พอเห็นประตูห้องถูกคนแปลกหน้าเปิดเข้ามา หมายจะระเบิดโทสะ กลับเห็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนมีคนยืนอยู่หน้าประตูจำนวนมากอารมณ์เดือดดาลที่กำลังจะระเบิดออกมา ถูกกลืนกลับเข้าไปในคออีกครั้งจงอาหู่ไม่สนใจหลิวฉางเจียงแม้แต่น้อย เขาเดินฉีกยิ้มไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน “คุณฉู่ มาได้ยังไงครับเนี่ย? มาเที่ยวผับของเราเองทำไมไม่บอกก่อนล่ะครับ ผมจะได้ออกไปต้อนรับเอง”ฉู่เฉินกวาดมองจงอาหู่แวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มแล้วตบโซฟาข้างตัวเอง “อาหู่เองเหรอ นั่งสิ”จงอาหู่มีเหรอจะกล้าปฏิเสธ?หลังจากรินเหล้าให้ฉู่เฉิน
ปี้เวยรับบัตรเครดิตไป ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินกลับไปหยุดยืนต่อหน้าฉู่เฉิน ดวงหน้าเรียวแดงระเรื่อ ลมหายใจกระชั้นชิด “คุณฉู่ คุณอยากจะหยั่งความลึกของฉันไม่ใช่เหรอคะ?”“อืม”ฉู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็วางแก้วเบียร์ลง และเดินตามปี้เวยออกไปจากห้องเงียบๆกลางวันแสกๆ ทั้งซิงฮุยมีแต่โต๊ะของฉู่เฉิน ห้องอื่นๆ ล้วนว่างหมดปี้เวยดึงแขนของฉู่เฉิน ลากเขาเข้าไปในห้องข้างๆ ที่มืดสนิทห้องหนึ่ง จากนั้นก็คว้ามือของฉู่เฉิน ถลกกระโปรงขึ้นอย่างรอไม่ไหวอีกต่อไป พลางพูดเสียงกระเส่าว่า “คนอื่นเขาจะอาบน้ำให้คุณ”เชี่ย!แม่สาวคนนี้ใจร้อนจริงๆ!นี่เก็บกดมานานแค่ไหนแล้ว ถึงได้ชุ่มแฉะได้ขนาดนี้“บีตบ็อกซ์ที่คุณพูดถึงเมื่อกี้ล่ะ?”ฉู่เฉินยิ้มอย่างมั่นใจ มองปี้เวยที่หายใจไม่เป็นจังหวะปี้เวยหยักยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มเย้ายวน แค่ดีดมือเล็กๆ ข้างนั้นนิดเดียว เข็มขัดของฉู่เฉินก็ถูกปลดออกทันทีโอ้โฮ!ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้?ถึงแม้ปี้เวยจะเตรียมใจไว้แต่แรกแล้ว แต่ก็ยังคงอึ้งกับฉู่เฉินอยู่ดีซี้ด!ฉู่เฉินเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เขาหลับตาและครุ่นคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังมาจากทางเดินด้
เซี่ยฉีฉีมองเสื้อผ้าที่เหมือนเชือกระโยงระยางก้อนหนึ่ง ดวงหน้าเล็กๆ นั่นแดงแปร๊ดไปทั้งดวง เธอรีบเบี่ยงหน้าไปอีกข้าง ไม่กล้าแม้แต่จะมองนานท่าทางเขินอายของเซี่ยฉีฉี ทำให้ดวงตาของเฉินหย่งเป็นประกายขึ้นมา เขาจ้องเซี่ยฉีฉีอย่างเร่าร้อน พลางถามว่า “ฉีฉี นี่… นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกของเธอหรอกนะ?”เสียงของเฉินหย่งฟังดูสั่นเทาเล็กน้อยเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตัวเองจะได้ลิ้มลองของสดใหม่ด้วย“พี่หย่ง คือ… ฉันขอไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม?”เซี่ยฉีฉีถูกสายตาร้อนแรงเหมือนไฟของเฉินหย่งจับจ้อง หน้าของเธอก็ยิ่งแดงแปร๊ดกว่าเดิม เธอผลักเฉินหย่งที่โน้มตัวเข้ามา ก่อนจะพูดอย่างแตกตื่น“ได้สิ!”เฉินหย่งหัวเราะเสียงดัง ยกแก้วเบียร์ขึ้นมา “แต่เธอต้องดื่มเบียร์แก้วนี้ก่อน ไม่งั้น พี่จะนั่งดูเธอฉี่ในห้องนี้แหละ”เซี่ยฉีฉีสัมผัสได้ถึงลมหายใจหนักหน่วงของเฉินหย่ง เธอตกใจรีบแย่งแก้วเบียร์ในมือเขาไปกระดกครึ่งแก้วในคราวเดียว จากนั้นก็รีบวางแก้วเบียร์ และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเหมือนหนีตายท่อนขาเรียวสวยของเซี่ยฉีฉี และขอบลูกไม้ที่โผล่ออกมาให้เห็นวับๆ แวมๆ นั่น ทำให้เฉินหย่งเหงื่อชุ่มเต็มฝ่ามือพอคิดว่าใกล้จะได้ครอบครองเรือนร
เธอต้องนอนกับจางหย่ง หรือหวังหย่งอีกหรือไม่?ชีวิตของเธอต้องมาพังลงแบบนี้งั้นเหรอ?ในตอนนี้เอง เสียงของเฉินหย่งดังขึ้นที่หน้าห้องน้ำ “ที่รักจ๋า เปิดประตูหน่อยเร็ว พี่อยากดูเธอฉี่”เซี่ยฉีฉีได้ยินคำพูดลามกไร้ยางอายก็รู้สึกอยากจะอาเจียน!แต่เฉินหย่งไม่ใช่คนธรรมดา แค่ลูกน้องของเขาก็มีหลายสิบคนแล้ว อีกอย่าง เมื่อกี้ตอนที่เธอเดินเข้ามาในห้อง หน้าประตูก็มีลูกน้องของเขายืนเฝ้าอย่างแน่นหนาด้วยถ้าคิดจะกลับออกไปอย่างปลอดภัย คงต้องเกลี้ยกล่อมเฉินหย่งให้ได้ก่อน!นึกมาถึงตรงนี้ เซี่ยฉีฉีรีบวางสาย เธอสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกักว่า “พี่หย่ง ประจำเดือนฉันมา วันนี้คงนอนกับพี่ไม่ได้แล้ว”“เปลี่ยนเป็นวันอื่นได้หรือเปล่า?”เซี่ยฉีฉีเปิดประตู จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำเฉินหยงหัวเราะในลำคอ กวาดมองชักโครกแวบหนึ่ง ก่อนหันมาจ้องสะโพกอันผึ่งผายของเซี่ยฉีฉี เขาพูดกลั้วเสียงหัวเราะอันเย็นชาว่า “ฉีฉี ถึงต้องฝ่าไฟแดง วันนี้เธอก็ต้องเสร็จพี่อยู่ดี!”“อีกอย่าง เธอไม่รู้สึกว่าเบียร์ที่กินเข้าไปเมื่อกี้ มีอะไรผิดปกติบ้างเหรอ?”พูดมาถึงตรงนี้ เฉินหยงล้วงห่อกระดาษสีขาวห่อหนึ่งออกมาจากกระเป๋
โครม!สิ่งที่ตอบกลับเขา มีเพียงหน้าแข้งของฉู่เฉินที่ฟาดเข้ามา!“อั๊ก… อ๊าก… แม่งเอ๊ย! เด็กๆ! ใครอยู่ข้างนอก! เข้ามาฆ่ามัน!”นาทีนี้ เฉินหย่งราวกับได้ยินเสียงไข่แตกการเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตของเขา คงเป็นช่วงเวลานี้ที่ตัวอยู่ในห้อง แต่ไข่บินออกไปไกลแสนไกลแล้วเฉินหย่งในตอนนี้ เข้าสู่อารามบ้าคลั่งสุดขีดไปแล้วไม่ว่าฉู่เฉินเป็นใคร เขาจะต้องฆ่าฉู่เฉินให้ได้ เพื่อแก้แค้นให้ไข่ที่บินหายไปของเขา“โครม!”สิ้นเสียงตะโกนออกคำสั่งของฉู่เฉิน ชายฉกรรจ์ถือมีดอีโต้สิบกว่าคนก็วิ่งเข้าในห้อง พวกเขาตวัดมีดใส่แผ่นหลังของฉู่เฉินทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงพลั่ก โครม เคร้ง พลั่กๆ!ฉู่เฉินไม่แม้แต่จะหันหลังไปมอง เขาใช้วิชาเทพมังกรสะบัดหางจัดการพวกนั้นจนหมดสติเฉินหย่งตะลึงค้างไปทันที!วันนี้ลูกน้องที่เขาพามา มีแต่ยอดฝีมือทั้งนั้น เพราะเขากลัวจะมีคนมาขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของเขาแต่ไม่คิดไม่ฝัน มือมีดฝีมือดีสิบกว่าคนกลับถูกฉู่เฉินโจมตีจนหมดสติภายในครั้งเดียว“แก… แกเป็นใครวะ? ฉันจะบอกแกให้นะ ฉัน… ฉันเป็นคนของพรรคมังกรหาญ ละ… ลูกพี่ฉันคือท่านหลงเชียวนะโว้ย!”เฉินหย่งข่มขู่ พลางกุมเป้าและถอยหลังไปอ
ฉู่เฉินที่ตอนแรกอุ้มเซี่ยฉีฉีลุกขึ้นยืนแล้ว ตอนนี้กลับค่อยๆ วางเธอลงบนโซฟาการกอดจูบอันเร่าร้อน ทำให้ฤทธิ์ยาในตัวของเซี่ยฉีฉีทำงานอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่อาจควบคุมตัวเอง ขาสองข้างยันอยู่บนโซฟา แต่ร่างกายกลับขยับขึ้นขยับลงไม่หยุดดวงหน้าเล็กๆ แดงแปร๊ดไปจนถึงลำคอลูกท้อขนาดใหญ่ตรงหน้าอกนั่นสั่นสะเทือนไปตามการเคลื่อนไหวอันรุนแรงของเธอฉู่เฉินสูดหายใจลึกๆ พยายามดึงตัวเองออกมาจากสัมผัสอันนุ่มนิ่มของหน้าอกเซี่ยฉีฉี จากนั้นก็สกัดจุดชีพจรของเธอแต่พริบตาต่อมา แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังต้องสูดหายใจด้วยความตะลึงเซี่ยฉีฉีในตอนนี้เหมือนกระถางไฟที่ถูกจุด ไม่ว่าฉู่เฉินจะใช้วิธีไหนในการดับไฟของเธอ แต่ผลสุดท้ายก็มีเพียงอย่างเดียวเส้นเลือดในร่างของเซี่ยฉีฉีก็จะแตก จนทำให้ถึงแก่ความตาย!เฉินหย่งไอ้สารเลวนั่น!ถึงขั้นใช้ยาแรงขนาดนั้นกับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง!“ให้ฉันเถอะ… ฉัน… ฉันอยาก!”เซี่ยฉีฉีแววตาหยาดเยิ้ม คว้ามือของฉู่เฉินน้ำยังคงชุ่มแฉะอย่างต่อเนื่อง แต่พริบตาต่อมา ฉู่เฉินตะลึง ทำไมถึงรู้สึกเย็นๆ ล่ะ?ขณะกำลังสงสัย ฉู่เฉินก้มมองแวบหนึ่งซี้ด!นี่มันน้ำค้างหยกตันชิงนี่นา
ลูกน้องคนนั้นได้ยินคำกล่าวก็รีบไปหลบข้าง ๆ สาวน้อยคนนี้ก็มากับฉู่เฉิน เขาล่วงเกินไม่ไหวปี้เวยกับลูกน้องคนนี้ดึงดันยืนอยู่ตรงหน้าประตูฟังเพลงทิเบตที่ราบสูงอยู่เป็นชั่วโมง จนกระทั่งโซฟาภายในห้องกระแทกผนังอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายจนส่งเสียงดังลั่นตามมาด้วยเสียงร้องที่สูงกังวานของเซี่ยฉีฉี ในที่สุดก็วาดเครื่องหมายจบประโยคได้อย่างสมบูรณ์“เผด็จการมากเหลือเกิน มีพลังความเป็นชายมากเกินไปแล้ว!”ปี้เวยเลียริมฝีปากแดงเพลิง มองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉู่เฉิน แววตาเต็มไปด้วยความหลงใหลมีเพียงผู้ชายแบบนี้เท่านั้นถึงคู่ควรจะประลองกับเธอ.....บนโซฟาในห้องส่วนตัว เซี่ยฉีฉีกางแขนอย่างไร้เรี่ยวแรง โอบกอดฉู่เฉินที่กำลังทะลวงขีดจำกัดเข้าไปในอ้อมแขนอันกว้างใหญ่ ในขณะที่หยาดเหงื่อหอม ๆ ไหลลงมาจากใบหน้าของฉู่เฉิน ภายในร่างกายของฉู่เฉินพลันส่งเสียงดังแกรก ๆพลังวิญญาณอันรุนแรงพุ่งทะลวงเส้นลมปราณตูและเส้นลมปราณเริ่นของฉู่เฉินทันที ก่อนจะโคจรไปทั่วทั้งร่าง!จากนั้นความรู้สึกผ่อนคลายสดชื่นก็ถาโถมเข้าในสมอง ความสามารถในการรับรู้ของฉู่เฉินเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าแล้ว! เซลล์ทั้งหมดในร่างกายพยายาม
เซี่ยฉีฉีแสบจมูก น้ำตาคลอเบ้าแล้ว ต้องรู้ไว้ว่าเธอมอบครั้งแรกของตัวเองให้ฉู่เฉินไปแล้วถ้าเกิดบอกว่าฉู่เฉินมีแฟนแล้ว เช่นนั้นเธอไม่กลายเป็นมือที่สามหรอกเหรอ?เธอยอมปล่อยฉู่เฉินไป ไม่ให้ตัวเองกลายเป็นมือที่สามไร้ยางอาย“ฉีฉี เธอเข้าใจผิดแล้ว คุณปี้เป็นภรรยาของประธานเจียง ตอนที่พวกเราอยู่ข้างล่างเมื่อกี้ ภรรยาของตาลุงหัวล้านคนนั้นไง” ฉู่เฉินอธิบายพลางยิ้มจนดวงตาโค้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซี่ยฉีฉีก็อดมองไปทางปี้เวยอย่างตกใจไม่ได้ ประธานเจียงคนนั้น อย่างน้อยก็เป็นพ่อของปี้เวยได้แล้วมั้ง? ความต่างของอายุทั้งสองคนแทบจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปี้เวยนอนกับผู้ชายแบบนั้นโดยไม่รู้สึกขยะแขยงได้อย่างไร? “ฮึ! ไม่สนคุณแล้ว!” ปี้เวยโกรธจนกระทืบเท้า ก่อนจะหันตัววิ่งกลับไปยังห้องส่วนตัวของหลิวฉางเจียง เซี่ยฉีฉีมองแผ่นหลังของปี้เวยแวบหนึ่งแล้วอดเอ่ยด้วยความอยากรู้ไม่ได้ “ฉู่เฉิน นะ...นายทำบ่อปลาของเธอพังเหรอ? ต้องจ่ายเงินคืนเยอะมากเลยใช่หรือเปล่า?” พรวด!ฉู่เฉินแทบจะกระอักเลือดเก่าออกมา บ่อปลานี้ไม่ใช่บ่อปลาอันนั้นนะแต่ไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายให้เซี่ยฉีฉีฟัง ทำได้เพียงหาเหตุผลไปเรื่อย ก
บางทีสักวันหนึ่ง เธออาจจะสามารถเหยียบผู้ชายเฮงซวยพวกนี้ให้จมดินได้ในตอนนี้ คนที่ตกใจมากที่สุดก็ยังเป็นฉีอวี่ไท่ ความจริงแล้ว ฉีอวี่ไท่เป็นคนเดียวในรุ่นที่สองของตระกูลฉีที่มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเคยกราบอาจารย์เก่ง ๆ หลายคนตอนที่ตระกูลฉีมาพึ่งพิงเกาเซิ่งอี้ เขาก็มีพลังระดับปรมาจารย์แล้ว และหลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหลายปี ประกอบกับทรัพยากรจำนวนมากที่เกาเซิ่งอี้มอบให้ เขาจึงประสบความสำเร็จเหมือนในวันนี้แต่ฉู่เฉินกลับสามารถใช้ลูกเตะเดียวทำลายพลังของเขา สะเทือนอวัยวะภายในร่างของเขาจนเละอย่างน้อยสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ฉู่เฉินต้องเป็นยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานอย่างแน่นอนในความทรงจำของเขา ตระกูลฉู่แห่งเจียงจง ไม่มีพื้นฐานด้านการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย และในช่วงเวลาสามปีที่พ่อแม่ของฉู่เฉินหายสาบสูญไป ฉู่เฉินก็อยู่ในสภาพ เกือบตายตลอดเวลาอย่าว่าแต่การฝึกวรยุทธ์หรือบำเพ็ญพรตเลย แม้แต่การลุกขึ้นยืนและเดิน สำหรับฉู่เฉินแล้ว นี่เป็นเพียงความฝันที่ไม่สามารถเป็นความจริงได้ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่เดือน ทำไมฉู่เฉินถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?เมื่อครู่เขาได้ทำการยืนยันหล
ทันทีที่ฉีอวี่ไท่ซัดฝ่ามือลงไป ก็เห็นเพียงกลิ่นอายสีดำปรากฏขึ้นมาในฝ่ามือของเขาถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ มองออกได้ในทันทีว่าฝ่ามือของเขาก็คือฝ่ามือเมฆาพิษของสำนักว่านเซี๋ยนั่นเอง!หลายคนต่างรู้สึกตกใจในตอนแรก แต่หลังจากนั้น สีหน้าของพวกเขาก็ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติแม้ว่าสำนักว่านเซี๋ยจะถูกแก๊งมังกรทำลาย ลูกศิษย์ของสำนักต้องแยกย้ายหนีไปคนละทิศละทางแล้ว แต่การถ่ายทอดวิชาของสำนัก กลับไม่ได้แบ่งแยกระหว่าง ความดีและความชั่วยิ่งไปกว่านั้น ฉีอวี่ไท่ยังคงเป็นคนของเกาเซิ่งอี้ พวกเขาจึงยิ่งไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากแต่ถ้าฝ่ามือนี้ถูกซัดลงบนร่างกายของฉู่เฉิน อย่าว่าแต่เขาที่เป็นแค่คนธรรมดาเลย ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญพรตก็จะรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกหนอนนับหมื่นตัวกัดกินหัวใจ จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่!อีกอย่างความเจ็บปวดนี้จะตามหลอกหลอนฉู่เฉินไปตลอด จนกระทั่งหนึ่งถึงสองเดือนหลังจากนั้น ความเจ็บปวดนี้จะหยุดลงเมื่อฉู่เฉินตายจากพิษที่แผ่กระจายไปทั่วร่างถึงแม้ว่าฉีอวี่ไท่จะมีเจตนาร้าย แต่ในสายตาของถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ กลับมองว่าคนอย่างฉู่เฉินที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงควรได้รับการลงโทษไม่อย่างนั้น ทุกคนก็จ
ต้องรู้ไว้ว่า หอการค้ากิเลนที่อยู่เบื้องหลังเขาคือองค์กรที่มีอิทธิพลมหาศาล ครอบครองอำนาจกว่าครึ่งหนึ่งของวงการบำเพ็ญพรต!ต่อให้ฉู่เฉินมีกองทัพคอยหนุนหลัง แต่กองทัพคงไม่สามารถคุ้มกันเขาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกใช่ไหม?ในตอนนี้ หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินถึงกับชะงักไป เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าฉู่เฉินจะกล้าท้าทายถึงขนาดนี้!เขาคิดจริง ๆ เหรอว่าเกาเซิ่งอี้เป็นแค่ขยะไร้ค่าระดับเดียวกับฉีเฮ่อเซวียน?“นี่พ่อหนุ่ม อย่าพูดจาโอหังเกินไปนัก อย่าว่าแต่แกเลย แม้แต่บรรดาปรมาจารย์และตระกูลผู้บำเพ็ญพรตแห่งเจียงจง ก็ไม่มีใครกล้าอวดดีแบบนี้!”ใบหน้าของเสิ่นเจี้ยนเฟิงเย็นชา เขากล่าวตักเตือนเสียงแข็งกร้าวฉู่เฉินได้ยินดังนั้น ก็เผยสีหน้าดูแคลนเล็กน้อยก่อนกล่าวขึ้น“ทำไม คนเยอะแล้วคิดว่าจะเหนือกว่าหรือไง?”ถังเทียนอวี่แสยะยิ้มเหี้ยม ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น เส้นผมยาวพลิ้วไหวราวกับมีลมพัด ใบหน้าของเขาแฝงไปด้วยความทระนง “เจ้าหนู รู้ไหมว่าแกกำลังท้าทายใครอยู่?”“ถึงแม้ว่าแกจะมีเส้นสายในกองทัพ ก็ปกป้องแกไม่ได้หรอก!”ฉู่เฉินมองถังเทียนอวี่อย่างเหยียดหยาม ก่อนจะยิ้มเยาะ“คนอย่างผมฉู่เฉินไม่ต้องการใ
เนื่องจากก่อนที่ฉู่เฉินจะลงจากรถ เขาได้ใช้ยันต์ปิดลมปราณ ซ่อนพลังปราณทั่วร่างของตัวเองเอาไว้ดังนั้น เมื่อมองจากระยะไกล ฉู่เฉินจึงดูไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาทั่วไป“คนนี้น่ะเหรอ ที่นายบอกว่าฝีมือไม่ธรรมดา?”เกาเซิ่งอี้เหลือบมองฉีอวี่ไท่ด้วยสีหน้าเย้ยหยันนี่มัน...ใบหน้าอาวุโสของฉีอวี่ไท่แดงก่ำ ก่อนจะหัวเราะเจื่อน ๆ “อาจเป็นเพราะลูกน้องของผมไม่เคยเจอของจริง เห็นพวกนักเลงข้างถนนตีกันก็คงคิดว่าเป็นยอดฝีมือไปแล้ว”ถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ ยิ่งแสดงเบะปากอย่างไม่แยแสพวกเขาถึงขั้นรู้สึกว่า ให้เตรียมการใหญ่โตขนาดนี้เพื่อจัดการกับคนไร้ค่าเพียงคนเดียว นี่ถือเป็นการใช้มีดฆ่าวัวมาฆ่าไก่เสียจริงเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินและหลิ่วหรูเยียนเดินเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่แล้ว เกาเซิ่งอี้ก็ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนกล่าวขึ้น“สมแล้วที่เป็นคนของตระกูลฉู่ ช่างกล้าหาญเกินคาด”“ตัวคนเดียวยังกล้ามาตามนัดอีก”ทันทีที่เกาเซิ่งอี้พูดจบ ถังเทียนอวี่และคนอื่น ๆ ก็เลิกซ่อนพลังปราณที่น่าสะพรึงกลัวของตัวเองอีกต่อไป ทันใดนั้นเอง คลื่นพลังมหาศาลก็พุ่งเข้าไปข่มฉู่เฉินพร้อมกันหลิ่วหรูเยียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หนักอึ้งราวภูเขาท
ชายหนุ่มที่เพิ่งปรากฏตัวคือถังเทียนอวี่ ยอดอัจฉริยะรุ่นเยาว์แห่งตระกูลถังในอวิ๋นเฉิง“นั่นคือยอดอัจฉริยะถังเทียนอวี่แห่งตระกูลถังใช่ไหม? เขาเองก็มาที่นี่เหรอ?”“ใช่ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อห้าปีก่อน ผู้ชายคนนั้นได้เข้าร่วมสำนักบำเพ็ญพรตชื่อดังทางตะวันตกเฉียงใต้ และยังได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ของสำนักอีกด้วย”ขณะที่ผู้คนรอบข้างกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันไม่หยุด เกาเซิ่งอี้ก็เดินออกมาต้อนรับด้วยตนเองพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะยื่นมือออกไปหาอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร“ฮ่า ๆ ๆต้องขอบคุณคุณชายถังที่ให้เกียรติมาร่วมงาน”“สมกับเป็นยอดอัจฉริยะของตระกูลถังแห่งอวิ๋นเฉิงจริง ๆ ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่สี่ แค่รัศมีที่แผ่กระจายออกมาก็กดดันพวกเราได้แล้ว”ถังเทียนอวี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจับมือกับเกาเซิ่งอี้ แล้วตอบกลับ“ลุงเกาชมเกินไปแล้ว”ในขณะนั้นเอง รถหรูอีกคันก็แล่นมาจอดอย่างช้า ๆ จากนั้น ผู้อาวุโสในชุดขาวเรียบง่ายก็ก้าวลงจากรถพวกเขาเห็นว่าบนมือทั้งสองของผู้อาวุโสเต็มไปด้วยร่องรอยจากการฝึกฝน และทั่วทั้งร่างแผ่พลังอันน่าสะพรึงกลัวของผู้แข็งแกร่งระดับแนวหน้า“ซี้ด ๆ! นั่น…นั่นมันจางจิ่งหลง ผู้นำตระกูลจาง
อีกด้านหนึ่ง ในห้องทำงานของประธานฉู่ซื่อกรุ๊ปหลิ่วหรูเยียนกำลังตั้งอกตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ราวกับผึ้งงานที่กำลังเก็บน้ำหวานแต่ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้หลิ่วหรูเยียนตกใจสะดุ้งจนตัวโยน เธอรีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยฉู่เฉินติดกระดุมกางเกง และกลับไปนั่งลงบนโซฟา พลางยกมือฟาดเบา ๆ ลงบนสะโพกกลมกลึงของหลิ่วหรูเยียน “พักนี้ เธอพัฒนาขึ้นเยอะเลยนะ”“อ๊ะ…”หลิ่วหรูเยียนหน้าแดงขึ้นมาทันทีหลังจากถูกฉู่เฉินตี เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน“เข้ามา”ทันทีที่เสียงของหลิ่วหรูเยียนดังขึ้น ต้าหลิงจื่อก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถือการ์ดเชิญสีทองใบหนึ่ง“ประธานหลิ่ว นี่เป็นคำเชิญที่หอการค้าตะวันออกใหญ่ให้คนนำมาให้ค่ะ คนที่นำมาให้ยังเน้นย้ำเป็นพิเศษอีกว่า อยากให้คุณฉู่มาเข้าร่วมงานด้วย”ขณะที่พูด ต้าหลิงจื่อก็ยื่นการ์ดเชิญไปให้ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนการ์ดเชิญจากหอการค้าตะวันออกใหญ่?หลิ่วหรูเยียนอดไม่ได้ที่จะรับการ์ดเชิญมาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะกวาดตามอง ข้อความในการ์ดเชิญเรียบง่ายมาก เป็นการเชิญสองแม่ลูกตระกูลหลิ่
หากกองทัพเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้จริงๆ คงจะเป็นปัญหาใหญ่แน่“ออกไปเถอะ”ฉีอวี่ไท่โบกมือกับฟางเหว่ย ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังเฉียนหลงวิลล่าอย่างไม่รอช้าขณะเดียวกัน ในห้องใต้ดินของเฉียนหลงวิลล่า เกาเซิ่งอี้กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงหยก รอบตัวเขาถูกปกคลุมด้วยไอหมอกจาง ๆ ชั้นหนึ่งที่เหมือนจะเห็นแต่ก็ไม่เห็นพลังปราณอันแข็งแกร่งระดับสร้างรากฐานขั้นที่สามแผ่ซ่านออกจากร่างเกาเซิ่งอี้ภายนอก เขาเป็นเพียงแค่นักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว เกาเซิ่งอี้ก็มาจากตระกูลเกาซึ่งเป็นตระกูลผู้บำเพ็ญพรตอันดับหนึ่งแห่งหลิ่งหนานเช่นกันห้าปีก่อน เขาก็บรรลุพลังที่น่าสะพรึงระดับสร้างรากฐานขั้นที่สามแล้ว นี่เป็นครั้งที่สิบแล้วที่เขาพยายามทะลวงระดับสร้างรากฐานขั้นที่สี่ แต่ในช่วงเวลาสำคัญนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นสนั่น ทำให้เกาเซิ่งอี้เกือบธาตุไฟเข้าแทรกโครม!เกาเซิ่งอี้ลืมดวงตาแดงก่ำขึ้นพึ่บ ควันฝุ่นฟุ้งอยู่โดยรอบ“ใคร! ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าใครก็อย่ารบกวนเวลาฉันฝึกตน?!”เมื่อได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธของเกาเซิ่งอี้ ฉีอวี่ไท่ที่อยู่ด้านนอกประตูก็ถึงก
“คุณคงไม่ได้บ้าหรอกใช่ไหม?”ฉู่เฉินกลอกตามองเซียวเสวี่ยอิ๋ง ก่อนจะตอบกลับไปด้วยอารมณ์โมโห“ฉู่เฉิน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ คุณใช้ประโยชน์จากกองทหารรักษาการณ์อยู่ชัดๆ”ดวงตาคู่สวยเจือน้ำค้างแข็งของเซียวเสวี่ยอิ๋งจ้องฉู่เฉินอย่างเย็นชาเธอเห็นภาพเมื่อครู่นี้ชัดเจน ฉู่เฉินบอกให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดโฮ่วส่งคนมาที่ฉู่ซื่อกรุ๊ปเพื่อเซ็นสัญญา เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้วเขาจะยืมมือของกองทหารรักษาการณ์จัดการกำจัดฉีเฮ่อเซวียนและคนอื่น ๆเขากล้าวางแผนถึงกองทหารรักษาการณ์ ฉู่เฉินใจกล้าเกินไปแล้วมั้ง“โปรดระวังคำพูดของคุณด้วย พวกเราร่วมมือกันต่างหาก แล้วคุณรู้ไหมว่าการร่วมมือกันคืออะไร? มันคือการที่ทุกฝ่ายเอาผลประโยชน์ของตัวเอง มีปัญหาอะไรเหรอ?”ฉู่เฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “คุณ…?”ใบหน้าเล็กของเซียวเสวี่ยอิ๋งโกรธจนขาวซีด เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีกแม้แต่คำเดียว“คุณอะไรล่ะ? สัญญาก็อยู่บนโต๊ะ ถ้าคุณไม่เซ็น ก็ไปได้แล้ว”ฉู่เฉินไม่อยากเสียเวลาเถียงกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ถ้าไม่เห็นแก่สภาพร่างกายที่พิเศษของเธอ ฉู่เฉินคงไล่เธอออกไปตั้งนานแล้วเซียวเสวี่ยอิ๋งโกรธฉู่เฉินจน
ฉู่เฉินจะไปมีคอนเนคชั่นคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้ยังไง?“ผู้นำหลู สำนักงานพาณิชย์ของพวกเราก็ปฏิบัติตามกฎเช่นกันนะ อีกทั้งคุณชายฉีก็ถือครองหุ้นฉู่ซื่อกรุ๊ปถึงหกส่วน ดังนั้นพวกเราจึง…”ในช่วงระหว่างที่หลิวจื้อซินพยายามพูดพลิกลิ้น เซียวเสวี่ยอิ๋งก็เอามือไพล่หลังก้าวเข้ามาตูม!ลำพังเพียงกลิ่นอายเฉพาะตัวของทหารก็ทำให้หลิวจื้อซินตกใจจนกลืนคำพูดหลังจากนั้นจนหมดสิ้น“ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยในตัวพวกคุณว่ากำลังร่วมมือบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างกองทัพกับฉู่ซื่อกรุ๊ป และคุกคามความมั่นคงของชาติ”กล่าวเสร็จเซียวเสวี่ยอิ๋งเอาเอกสารตบโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังเมื่อเห็นคำว่าลับที่สุดบนซองเอกสารที่มีตราประทับสีแดงของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทหารรักษาการณ์เมืองเจียงจงแล้ว ไม่เพียงแค่ฉีเฮ่อเซวียนคนเดียวที่ตะลึงสุดขีด แม้แต่หลิวจื้อซินก็อ่อนแรงฟุบลงไปกองที่พื้นเขาถูกใส่ความถ้ารู้ว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปยังมีความสัมพันธ์ในการร่วมงานกับทางกองทัพ ให้ความกล้าเขามาใช้มากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าทำถึงขนาดนี้หรอก“ท่าน...ท่านผู้นำ พวกเรา…พวกเราถูกใส่”ฟางเหว่ยและผู้ถือหุ้นทั้งหมดต่างตกใจจนคุกเข่าวิงวอนบนพื้นการข