ปรมาจารย์ยุทธ์มาแล้ว!พวกจางไห่หยางดีใจมาก ลูกสมุนที่อยู่ด้านหนึ่งชี้ไปทางประตูใหญ่ และพูดอย่างลิงโลดว่า “คุณชายจาง ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เขามาด้วยตัวเองเลยครับ”จางไห่หยางมองตามนิ้วมือของคนคนนั้น เห็นเพียงชายชราผมขาวคนหนึ่งสวมชุดฝึกยุทธ์สีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวถึงกลางหลัง ท่าทางสง่างาม ยืนในท่าเอามือไพล่หลัง เขากำลังเดินมาทางนี้โดยมีลูกศิษย์รายล้อมอยู่รอบๆพอเห็นปรมาจารย์ยุทธ์โจวมา จางไห่หยางกลับมามีความมั่นใจขึ้นหลายส่วนแม้อยู่ห่างกว่าหนึ่งร้อยเมตร คำพูดของฉู่เฉินกลับไม่อาจรอดพ้นหูของปรมาจารย์ยุทธ์โจวได้มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวยังจงใจสำแดงวิชาขจรเสียงพันลี้อีกด้วย!ปรมาจารย์ยุทธ์ก็ยังเป็นปรมาจารย์ยุทธ์วันยังค่ำ แม้แต่ฉากเปิดตัวก็ยังต้องเว่อร์วังอลังการอย่างนี้!จางไห่หยางที่มีที่พึ่งตวัดสายตามองฉู่เฉินอย่างดูแคลน เขาดึงเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง จากนั้นก็ชำเลืองมองฉู่เฉินด้วยหางตาแววตาของเขาเหมือนกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่คิดว่าฉันจะเชิญปรมาจารย์โจวมาได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? จะบอกอะไรให้ นี่แหละอำนาจของเงิน ต่อหน้าตระกูลจางของฉัน ถึงแกจะเป็นมังกรก็ย
ในเวลานี้เอง เสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธดังกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าผ่าทุกคนในห้องต่างก็สะท้านสะเทือนจนหน้ามืดตาลาย!วิชาราชสีห์เมฆาสายฟ้าคำราม!วิชาที่ทำให้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวมีชื่อเสียง!ทุกคนในห้องสีหน้าพลันเปลี่ยน แม้แต่จางไห่หยางก็ยังต้องลุกขึ้นยืนตัวตรงอย่างนอบน้อม!เห็นเพียงชายชราผมขาวคนนั้นเหยียดยืนหลังตรง เอามือสองข้างไพล่หลัง ท่าทางผึ่งผายอยู่ตรงหน้าประตูโจวฉีหลิน หัวหน้าปรมาจารย์ยุทธ์แห่งเมืองเจียงจง หรือที่ผู้คนขนานนามว่าราชสีห์เมฆาสายฟ้า!เซี่ยฉีฉีเห็นโจวฉีหลินปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องก็แตกตื่น เธอกุมแขนของฉู่เฉิน และมองหน้าเขาด้วยร่างกายอันสั่นเทาถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น วันนี้เธอไม่น่าเรียกฉู่เฉินออกมาเลย แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอะไรก็สายไปแล้ว!จางไห่หยางยิ้มเย็นพลางตวัดสายตามองฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มและพูดกับโจวฉีหลินว่า “ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เมื่อกี้ไอ้หมอนี่แหละครับที่พูดจาอวดดี!”โจวฉีหลินแววตาเย็นชา จ้องพิจารณาเงาหลังของฉู่เฉิน ก่อนจะพยักหน้าหยิ่งผยอง ก่อนเอ่ยว่า “ผมได้ยินหมดแล้ว คนหนุ่มสาวบางคน มักไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”“คิดว่าตัวเองฝึกยุทธ์แค่สองส
ได้ยินเสียงคำรามอย่างเดือดดาลของโจวฉีหลินที่ดังมาจากข้างหลัง จางไห่หยางตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะเกิดอะไรขึ้น?เหมือนปรมาจารย์ยุทธ์โจวกำลังด่าเขาอยู่?ในเวลานี้เอง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็หันไปมองที่ประตูแม้แต่เซี่ยฉีฉีเองก็หันไปมองโจวฉีหลินด้วยสายตาสงสัยซี้ด!ครั้นเห็นโจวฉีหลินที่คุกเข่าหลังเหยียดตรงอยู่บนพื้น แทบทุกคนต่างพากันสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อเซี่ยฉีฉีก็ยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองเมื่อวานฉู่เฉินหักขาของเจิ้นหู่ก็จริง แต่เจิ้นหู่ไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์นี่นา เขาเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งของจางหลงเท่านั้นและที่เมื่อวานฉู่เฉินไม่เกรงกลัวอะไร ก็เหมือนจะเป็นเพราะสนิทกับจางหลงแต่ตอนนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ยุทธ์เชียวนะ แต่โจวฉีหลินกลับคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉิน?ส่วนจางไห่หยางที่เห็นภาพนั้นได้อึ้งตาค้างไปแล้วนี่มันอะไรกัน?ทำไมโจวฉีหลินถึงได้คุกเข่าให้ฉู่เฉิน?โจวฉีหลินหันไปเห็นสายตาแปลกๆ ของจางไห่หยาง แทบอยากจะตบเขาให้ตายในฝ่ามือเดียว!มีเรื่องกับใครไม่ว่า แต่ดันมีเรื่องกับฉู่เฉิน?แต่แกจะมีเรื่องก็มีเรื่องไปสิวะ ทำไมต้องเรียกฉันมาด้วย?เขาอายุเกิน
“นี่น่ะเหรอที่พึ่งของแก? แกถามเขาสิ ว่ากล้าพูดอะไรแทนแกสักคำไหม?”ฉู่เฉินชี้หน้าโจวฉีหลิน ก่อนจะหันไปมองจางไห่หยางด้วยสายตาเยาะเย้ยวินาทีนี้ จางไห่หยางมีหรือจะกล้าอวดดีอีก?เขามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวเขาจะพูดอะไรได้อีก?แม้แต่ปรมาจารย์ยุทธ์ก็คุกเข่าแล้ว เขายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีกเหรอ?“เพี๊ยะ!”ฉู่เฉินตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของจางไห่หยาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษฉีฉี!”จางไห่หยางหันหน้าไปอีกทาง คายฟันที่ถูกตบจนหลุดออกมาสองซี่ เขาอดทนต่อความเจ็บปวด เดินมาหยุดต่อหน้าเซี่ยฉีฉี ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ขะ…ขอโทษ”“เพี๊ยะ!”พูดจบ ฝ่ามือของฉู่เฉินตวัดออกมาอีกครั้ง“ขอโทษต้องจริงใจ รู้หรือยังว่าผิดเรื่องอะไร?”สายตาของฉู่เฉินเย็นเยียบ แววตาเต็มไปด้วยอายสังหาร!“ฉีฉี ขอโทษ เมื่อกี้ผมไม่ควรด่าคุณ ยิ่งไม่ควรคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงของผมอย่างหน้าไม่อาย ทุกอย่างเป็นผมที่คิดเองเออเอง ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่กล้ารบกวนคุณอีกแน่นอน คุณปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”จางไห่หยางฉีกยิ้มขมขื่นขณะพูด ไม่เพียงเท่านั้นยังโค้งตัวให้เซี่ยฉีฉีอีกหลายครั้งด้วยเซี่ยฉีฉีมึนง
“คุณชายจาง คุณชายจาง…”หลังจากฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีเดินลับตาไป พวกลูกสมุนของจางไห่หยางถึงค่อยพุ่งตัวเข้ามาตบหน้าอกตบหลังอยู่นาน กว่าจางไห่หยางจะได้สติ“อ๊าก…เชี่ย… เชี่ยเอ๊ย เจ็บฉิบหาย…”จางไห่หยางที่เพิ่งฟื้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“คุณชายจาง ไม่เป็นไรใช่ไหม…”พวกลูกสมุนต่างทำอะไรไม่ถูกสภาพของจางไห่หยางตอนนี้ค่อนข้างน่าอนาถ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ขาสองข้างก็หักหมด ถึงขั้นที่กระดูกโผล่ออกมาข้างนอก สภาพสยดสยองจนไม่กล้ามอง“เชี่ยแม่ง! แกว่าฉันดูไม่เป็นไรหรือเปล่าล่ะ แม่งรีบโทรหาโรงบาลสิโว้ย ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”จางไห่หยางด่ากราดไม่ยั้งไอ้พวกหน้าโง่ไร้สมอง ไม่เห็นเหรอว่าขาเขาหักหมดแล้ว?ยังมีหน้ามาถามว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า?“ครับๆๆ ผมจะโทรเดี๋ยวนี้ โทรเดี๋ยวนี้เลย!”ลูกสมุนคนนั้นรีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรศัพท์หาโรงพยาบาลทันที……ในอีกด้านหนึ่ง โจวฉีหลินที่นั่งอยู่ในรถสั่งคนขับรถด้วยสีหน้าลนลาน “เร็วเข้า…กลับมณฑล บอกคนที่บ้านว่ารีบเก็บข้าวของ เราต้องออกจากเมืองเจียงจงคืนนี้เลย”ได้ยินอย่างนั้น พวกลูกศิษย์ของโจวฉีหลินพูดอย่างไม่เข้าใจ “อาจารย์ นี่อาจารย์
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนกำลังแช่ตัวอยู่ในห้องอาบน้ำ หยดน้ำสาดกระเซ็น ทรวงอกเอิบอิ่มคู่นั้นโผล่พ้นผิวน้ำวับๆ แวมๆ ตามจังหวะคลื่นน้ำขณะที่ในใจกำลังคิดคำนวณว่าจะทำอย่างไรให้ฉู่เฉินขายหน้าในการแข่งขันแพทย์แผนจีน จู่ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นหลี่จวิ้นเฟิงโทรศัพท์มา หลิ่วหรูจึงรับสายอย่างเบื่อหน่ายถ้าไม่ใช่เพราะยังต้องพึ่งพาเขาในการแข่งขันแพทย์แผนจีน หลิ่วหรูเยียนไม่อยากสนใจหลี่จวิ้นเฟิงด้วยซ้ำ“คุณหลี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”หลิ่วหรูเยียนข่มกลั้นความเกลียดชังที่มีต่อหลี่จวิ้นเฟิง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“คุณหลิ่ว ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรกัน?”“คุณหลิ่วคงยังไม่รู้สินะครับ ไอ้แซ่ฉู่นั่นหักขาทั้งสองข้างของลูกชายประธานจางซื่อกรุ๊ป!”“ตอนนี้จางปินสั่งให้คนติดต่อกรมตำรวจไปแล้ว เดาว่าคงอีกไม่นาน ฉู่เฉินต้องได้ใช้ชีวิตที่เหลือเน่าตายในคุกแน่ๆ”หลี่จวิ้นเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา“จริงเหรอคะ?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ เธอลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำ ทำให้เรือนร่างอันงดงามสมบูรณ์แบบเปลื
อีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีที่เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็จับมือกันค่อย ๆ เดินลงบันไดจากหอเซียงไช่บนชั้นสี่ของภัตตาคารเทียนเฟิ่ง เซี่ยฉีฉีถูกฉู่เฉินจูงมือเล็ก ๆ ไว้ ดวงหน้างามแดงก่ำ ราวกับมีกวางน้อยวิ่งพล่านอยู่ในอก เธอโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายขนาดนี้ “ฉะ...ฉู่เฉิน ตะ...ตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?” ขณะที่เซี่ยฉีฉีถามคำถามนี้ออกมา หัวใจก็กระดอนขึ้นมาถึงลำคอถึงอย่างไรฉู่เฉินในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมมากเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ออกจากตระกูลฉู่แล้ว อย่าว่าแต่เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเลย ดูเหมือนว่าเขายังสนิทสนมกับผู้จัดการภัตตาคารแห่งนี้มากด้วยบวกกับท่าทีของจางหลงที่เคารพนอบน้อมฉู่เฉินก็ดูออกไม่ยากว่าฉู่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนไร้ค่าอย่างที่เล่าลือกันเลย ตรงกันข้ามเขาเป็นผู้มีอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีสาว ๆ ตามจีบฉู่เฉินเลย?“อุ้ย ถ้าเกิดฉู่เฉินมีแฟนแล้วจะทำยังไงดี?” เซี่ยฉีฉีเพิ่งเอ่ยถามออกมาก็เริ่มนึกเสียใจแล้ว“ตอนนี้ยังไม่มี”ฉู่เฉินเอ่ยพลางยิ้มมองไปทางเซ
เวลานี้หลินชือหย่าสังเกตเห็นฉู่เฉินแล้วเช่นกันเลยคลี่ยิ้มออกมาทันที รอยยิ้มนี้เพียงพอที่จะล่มชาติบ้านเมืองได้เลย ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ทอดมองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาอิจฉาริษยาในตอนนี้เอง สาวสวยทั้งหมดในร้านอาหารแทบจะสูญเสียความสดใสในพริบตา ถูกหลินชือหย่าบดขยี้จนย่อยยับโดยสิ้นเชิง! “คุณฉู่ พวกเราไปกันเถอะค่ะ” ดวงหน้างามของหลินชือหย่าแดงระเรื่อ เธอจับมือของฉู่เฉินไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อยเมื่อเห็นฉู่เฉินถูกสาวสวยสุดยอดขนาดนี้ลากตัวไป เสียงถอนหายใจและเสียงก่นด่าดังมาจากรอบด้านทันที“เชี่ย ฉันหล่อกว่าไอ้หมอนั่นตั้งเยอะ ทำไมฉันไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ?” “แม่งเอ๊ย ผู้หญิงสมัยนี้ตาบอดกันหมดแล้วหรือไง? ฉันหล่อเหลาสง่างามขนาดนี้กลับถูกสาวสวยเมินไปเลย!” “ฉันขอให้หมอนั่นออกไปแล้วโดนรถชน แม่งเอ๊ย คงใช้โชคทั้งชีวิตไปแน่ ๆ ถึงจีบสาวสวยน่ารักขนาดนี้ได้!”เสียงด่าทอของผู้คนด้านหลัง ฉู่เฉินกลับฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ความรู้สึกที่หน้าอกอวบอิ่มนุ่มนิ่มของหลินชือหย่าแนบชิดกับแขนนั้นยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายจริง ๆ“คุณฉู่คะ เพื่อนสนิทคนนั้นของฉันมีนิสัยแปลก ๆ นิดหน่อย เมื่อก่อนแค่ไม่ช
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ
ไม่มีเงินเหรอ?สามคำนี้ไม่ใช่แค่กำลังเพียงดูถูกดูแคลนหลิวจิ่งหง แต่เป็นดูถูกดูแคลนคนตระกูลหลิว!“โอเคค่ะ”พิธีกรสาวสวยคว้าเครื่องโพสจากพนักงานข้างๆ เธอสั่นหน้าอกใหญ่และบั้นท้ายของเธอ แล้วเดินไปหาฉู่เฉินด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุภาพบุรุษที่มีอนาคตเหมือนฉู่เฉินไม่ใช่จะพบเจอได้ในทุกวันแม้ว่าจะมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูล แต่คนจำนวนไม่น้อยมาเพราะอยากหลับนอนกับพิธีกรสาวสวยต่างหากแต่คนเหล่านั้นถ้าไม่ใช่ตาแก่หัวงูที่อายุอานามสี่ห้าสิบ ก็เป็นพวกลูกหลานเศรษฐีที่เอาแต่พึ่งพาครอบครัว ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเองแต่ฉู่เฉินเขาเป็นคนประสบความสำเร็จมีเงินมหาศาลคนแรกของตระกูล นั่นแหละคือข้อแตกต่างของพวกเขาสมมุติว่าสามารถสนิทสนมกับฉู่เฉินได้มากกว่านี้ หาสถานที่ที่ไม่มีใคร แสดงเทคนิคการใช้ปากของเธอ หรือว่าคิดท่าทางใหม่ๆ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ แล้ว“หยุด!”หลิวจิ่งหงโกรธจนหน้าเขียวแม่งเอ๊ย ในมณฑลนี้มีใครกว่าบอกว่าตระกูลหลิวไม่มีเงินบ้าง?นี่แทบจะเหมือนด่าตระกูลหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย!“คุณชายหลิว คุณยังมีเงินเหลืออยู่ไหมครับ?ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มยียวนกวนประสาท “แ
เขาใช้เงินกว่าร้อยกว่าล้านไปกับประมูลดอกไม้และของเก่าต่างๆในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่า แน่นอนว่าการเสนอราคาก็จะดุเดือดเป็นธรรมดา โดยเฉพาะฉู่เฉินที่เสนอราคาให้สูงลิบลิ่ว แม้ว่าจะใช้เงินประมูลไปร้อยกว่าล้านก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถครอบครองสิ่งนั้นได้แต่เขาก็ครุ่นคิดอีกครั้ง ฉู่เฉินมันก็แค่ไอ้แมงดา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เฉินจะท้าทายเขาขนาดนี้!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวจิ่งหงก็ชูป้ายขึ้นมาทันที “สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน!”คำพูดนี้ออกไป เหล่าสาธารณชนที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างพากันสูดลมหายใจเหน็บหนาว ราคาเริ่มต้นที่ห้าร้อยล้าน หลิวจิ่งหงเสนอราคาไปสองพันห้าร้อยล้าน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นเสนอราคาแข่งกับเขาสักพักสายตาของทุกคนก็หันไปมองฉู่เฉินนัยน์ตางดงามของพิธีกรก็มองไปทางฉู่เฉินเช่นกันหากได้รับราคาประมูลยิ่งสูง ส่วนแบ่งที่เธอจะได้ก็จะยิ่งเยอะเข้าไปอีก แม้ว่าฉู่เฉินจะทำเพื่อความสนุก แต่เธอก็ได้รับประโยชน์มาไม่น้อยเช่นกันฉู่เฉินปอกส้มเป็นชิ้นแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นหยิบป้ายประมูลขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “ห้าพันล้านบาทถ้วน”ซี้ดๆ !ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันจับจ้องฉู่เฉินอย่างตะล
“เจ้ารู้จักกระถางเก้าดาราด้วยหรือ?”อวี้ลู่มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่ประหลาดใจกระถางเก้าดาราเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่โลกเซียนเอง และยังเป็นของวิเศษสำคัญที่ใช้จัดเตรียมค่ายกลเก้าดาราสังหารอีกด้วยพลังของค่ายกลเก้าดาราสังหารแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปราณของแต่ละบุคคลอีกด้วย เช่นเดียวกับฉู่เฉินตอนนี้ หากเขาสร้างค่ายกลเก้าดาราสังหารขึ้นมา เขาก็สามารถฆ่าคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาได้ทันทีแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกว่าเขาสองระดับ เขาก็สามารถทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน หากจำนวนของฝ่ายตรงข้ามไม่มากเกินไป เขาก็สามารถฆ่าได้ตามใจ“แปลกใจเหรอครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มนิ่งๆ ให้กับอวี่ลู่ วิชาของมังกรเฒ่าครอบคลุมทุกสิ่งจะไม่มีได้อย่างไร?แม้ว่ากระถางเก้าดาราจะไม่ได้มีประโยชน์กับฉู่เฉินในตอนนี้มากนัก แต่ในภายภาคหน้าเขาจะต้องได้ใช้แน่นอน เพราะอย่างไรฉู่เฉินก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะไปทำให้ผู้มีอิทธิพลคนไหนไม่พอใจหรือไม่และคนที่อยู่ข้างกายเขาจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเสมอค่ายกลเก้าดาราสังหารเป็นตัวเลือกที่ไม่แย่“ต่อไปคือสินค้าประมูลชิ้นแรกของวันนี้ นั่นคือภาพวาดราชาสวรรค์ประทานโอร
หลินชือหย่าพยักหน้าแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อย “ฉู่เฉิน เมื่อกี้คุณล่วงเกินหลิวจิ่งหงไปแล้ว ฉันเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณจริง ๆ”ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่อยู่ชั้นหนึ่งเป็นเพียงการตบหน้าหลิวจิ่งหงด้วยคำพูด เช่นนั้นเมื่อกี้ ฉู่เฉินก็แตะขีดจำกัดล่างของตระกูลหลิวแล้ว ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าฉู่เฉินเตะแรงแค่ไหน แต่ดูจากสภาพของหลิวจิ่งหง เกรงว่าอสุจิของรุ่นถัดไปคงจะไหลจนแห้งเหือดหมดแล้ว ฐานะของตระกูลหลิวในเมืองเอกของมณฑลไม่ใช่แค่อาศัยความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเท่านั้น ได้ยินว่าตระกูลหลิวยังเป็นลูกศิษย์นอกสำนักอะไรสักแห่งด้วยเมื่อหลายปีก่อน หลิวฮ่าวฮุยบิดาของหลิวจิ่งหงก็อาศัยพลังยุทธ์บดขยี้โลกใต้ดินแทบจะทั่วทั้งเมืองเอกของมณฑล ถึงได้สร้างอาณาเขตธุรกิจของตระกูลหลิวในปัจจุบันถ้าตระกูลหลิวพุ่งเป้ามาที่ฉู่เฉิน ผลที่ตามมานั้นไม่กล้าจินตนาการจริง ๆ“ไม่เป็นไร ตระกูลหลิวแล้วยังไง ตราบใดที่พวกเขากล้ามา ผมก็กล้าฝังมัน!” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “จำไว้นะ คุณเป็นผู้หญิงของฉู่เฉิน ในโลกนี้ ใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้ทั้งนั้น”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉิน หลินชือหย่าอดไม่ได้ที่จ