ฉู่เฉินหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ปรมาจารย์ยุทธ์?เฮ้อ เดี๋ยวนี้ปรมาจารย์ยุทธ์เกลื่อนกลาดขนาดนี้แล้วเหรอ?“ได้ แกโทรได้ตามสบาย แต่ฉันขอบอกแกไว้ให้ชัดๆ ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษเซี่ยฉีฉี ถึงเง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!”พูดจบ ฉู่เฉินก็ดึงเก้าอี้มานั่งขวางจังก้าอยู่หน้าประตูเห็นฉู่เฉินปิดทางเข้าออกห้องส่วนตัว พวกลูกสมุนของจางไห่หยางตกใจจนแทบฉี่ราดถึงแม้พวกเขาไม่ได้ผ่านโลกมามากมาย แต่พวกเขายังหวาดกลัวฝ่ามือเมื่อกี้ของฉู่เฉินไม่หายความรู้สึกอย่างนั้น เหมือนใช้ท่อนไม้ฟาดใส่ท่อนเหล็ก ฉู่เฉินไม่เพียงไม่เป็นอะไร พวกเขากลับเจ็บจนแขนชาไปหมดคนอย่างนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!ตระกูลจางมีสายสัมพันธ์กับปรมาจารย์ยุทธ์อยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือคนอื่นเขาจะไว้หน้าจางไห่หยางที่เป็นรุ่นลูกของตระกูลจางหรือเปล่าถ้าเชิญปรมาจารย์ยุทธ์มาไม่สำเร็จ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะมีจุดจบยังไง ดีไม่ดี แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งไว้ที่นี่ด้วย“เหอะ! ไอ้หนู แกรอฉันก่อนเถอะ!”จางไห่หยางพูดจบก็ค้นเบอร์โทรศัพท์และโทรศัพท์ออกทันทีรออยู่นาน กว่าอีกฝ่ายจะรับสายจางไห่หยางร้องคร่ำครวญทันทีที่อีกฝ่ายร
ปรมาจารย์ยุทธ์มาแล้ว!พวกจางไห่หยางดีใจมาก ลูกสมุนที่อยู่ด้านหนึ่งชี้ไปทางประตูใหญ่ และพูดอย่างลิงโลดว่า “คุณชายจาง ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เขามาด้วยตัวเองเลยครับ”จางไห่หยางมองตามนิ้วมือของคนคนนั้น เห็นเพียงชายชราผมขาวคนหนึ่งสวมชุดฝึกยุทธ์สีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวถึงกลางหลัง ท่าทางสง่างาม ยืนในท่าเอามือไพล่หลัง เขากำลังเดินมาทางนี้โดยมีลูกศิษย์รายล้อมอยู่รอบๆพอเห็นปรมาจารย์ยุทธ์โจวมา จางไห่หยางกลับมามีความมั่นใจขึ้นหลายส่วนแม้อยู่ห่างกว่าหนึ่งร้อยเมตร คำพูดของฉู่เฉินกลับไม่อาจรอดพ้นหูของปรมาจารย์ยุทธ์โจวได้มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวยังจงใจสำแดงวิชาขจรเสียงพันลี้อีกด้วย!ปรมาจารย์ยุทธ์ก็ยังเป็นปรมาจารย์ยุทธ์วันยังค่ำ แม้แต่ฉากเปิดตัวก็ยังต้องเว่อร์วังอลังการอย่างนี้!จางไห่หยางที่มีที่พึ่งตวัดสายตามองฉู่เฉินอย่างดูแคลน เขาดึงเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง จากนั้นก็ชำเลืองมองฉู่เฉินด้วยหางตาแววตาของเขาเหมือนกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่คิดว่าฉันจะเชิญปรมาจารย์โจวมาได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? จะบอกอะไรให้ นี่แหละอำนาจของเงิน ต่อหน้าตระกูลจางของฉัน ถึงแกจะเป็นมังกรก็ย
ในเวลานี้เอง เสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธดังกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าผ่าทุกคนในห้องต่างก็สะท้านสะเทือนจนหน้ามืดตาลาย!วิชาราชสีห์เมฆาสายฟ้าคำราม!วิชาที่ทำให้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวมีชื่อเสียง!ทุกคนในห้องสีหน้าพลันเปลี่ยน แม้แต่จางไห่หยางก็ยังต้องลุกขึ้นยืนตัวตรงอย่างนอบน้อม!เห็นเพียงชายชราผมขาวคนนั้นเหยียดยืนหลังตรง เอามือสองข้างไพล่หลัง ท่าทางผึ่งผายอยู่ตรงหน้าประตูโจวฉีหลิน หัวหน้าปรมาจารย์ยุทธ์แห่งเมืองเจียงจง หรือที่ผู้คนขนานนามว่าราชสีห์เมฆาสายฟ้า!เซี่ยฉีฉีเห็นโจวฉีหลินปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องก็แตกตื่น เธอกุมแขนของฉู่เฉิน และมองหน้าเขาด้วยร่างกายอันสั่นเทาถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น วันนี้เธอไม่น่าเรียกฉู่เฉินออกมาเลย แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอะไรก็สายไปแล้ว!จางไห่หยางยิ้มเย็นพลางตวัดสายตามองฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มและพูดกับโจวฉีหลินว่า “ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เมื่อกี้ไอ้หมอนี่แหละครับที่พูดจาอวดดี!”โจวฉีหลินแววตาเย็นชา จ้องพิจารณาเงาหลังของฉู่เฉิน ก่อนจะพยักหน้าหยิ่งผยอง ก่อนเอ่ยว่า “ผมได้ยินหมดแล้ว คนหนุ่มสาวบางคน มักไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”“คิดว่าตัวเองฝึกยุทธ์แค่สองส
ได้ยินเสียงคำรามอย่างเดือดดาลของโจวฉีหลินที่ดังมาจากข้างหลัง จางไห่หยางตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะเกิดอะไรขึ้น?เหมือนปรมาจารย์ยุทธ์โจวกำลังด่าเขาอยู่?ในเวลานี้เอง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็หันไปมองที่ประตูแม้แต่เซี่ยฉีฉีเองก็หันไปมองโจวฉีหลินด้วยสายตาสงสัยซี้ด!ครั้นเห็นโจวฉีหลินที่คุกเข่าหลังเหยียดตรงอยู่บนพื้น แทบทุกคนต่างพากันสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อเซี่ยฉีฉีก็ยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองเมื่อวานฉู่เฉินหักขาของเจิ้นหู่ก็จริง แต่เจิ้นหู่ไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์นี่นา เขาเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งของจางหลงเท่านั้นและที่เมื่อวานฉู่เฉินไม่เกรงกลัวอะไร ก็เหมือนจะเป็นเพราะสนิทกับจางหลงแต่ตอนนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ยุทธ์เชียวนะ แต่โจวฉีหลินกลับคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉิน?ส่วนจางไห่หยางที่เห็นภาพนั้นได้อึ้งตาค้างไปแล้วนี่มันอะไรกัน?ทำไมโจวฉีหลินถึงได้คุกเข่าให้ฉู่เฉิน?โจวฉีหลินหันไปเห็นสายตาแปลกๆ ของจางไห่หยาง แทบอยากจะตบเขาให้ตายในฝ่ามือเดียว!มีเรื่องกับใครไม่ว่า แต่ดันมีเรื่องกับฉู่เฉิน?แต่แกจะมีเรื่องก็มีเรื่องไปสิวะ ทำไมต้องเรียกฉันมาด้วย?เขาอายุเกิน
“นี่น่ะเหรอที่พึ่งของแก? แกถามเขาสิ ว่ากล้าพูดอะไรแทนแกสักคำไหม?”ฉู่เฉินชี้หน้าโจวฉีหลิน ก่อนจะหันไปมองจางไห่หยางด้วยสายตาเยาะเย้ยวินาทีนี้ จางไห่หยางมีหรือจะกล้าอวดดีอีก?เขามองฉู่เฉินอย่างอึ้งๆ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียวเขาจะพูดอะไรได้อีก?แม้แต่ปรมาจารย์ยุทธ์ก็คุกเข่าแล้ว เขายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีกเหรอ?“เพี๊ยะ!”ฉู่เฉินตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของจางไห่หยาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษฉีฉี!”จางไห่หยางหันหน้าไปอีกทาง คายฟันที่ถูกตบจนหลุดออกมาสองซี่ เขาอดทนต่อความเจ็บปวด เดินมาหยุดต่อหน้าเซี่ยฉีฉี ก่อนจะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “ขะ…ขอโทษ”“เพี๊ยะ!”พูดจบ ฝ่ามือของฉู่เฉินตวัดออกมาอีกครั้ง“ขอโทษต้องจริงใจ รู้หรือยังว่าผิดเรื่องอะไร?”สายตาของฉู่เฉินเย็นเยียบ แววตาเต็มไปด้วยอายสังหาร!“ฉีฉี ขอโทษ เมื่อกี้ผมไม่ควรด่าคุณ ยิ่งไม่ควรคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงของผมอย่างหน้าไม่อาย ทุกอย่างเป็นผมที่คิดเองเออเอง ผมรับประกันว่าต่อไปจะไม่กล้ารบกวนคุณอีกแน่นอน คุณปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ”จางไห่หยางฉีกยิ้มขมขื่นขณะพูด ไม่เพียงเท่านั้นยังโค้งตัวให้เซี่ยฉีฉีอีกหลายครั้งด้วยเซี่ยฉีฉีมึนง
“คุณชายจาง คุณชายจาง…”หลังจากฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีเดินลับตาไป พวกลูกสมุนของจางไห่หยางถึงค่อยพุ่งตัวเข้ามาตบหน้าอกตบหลังอยู่นาน กว่าจางไห่หยางจะได้สติ“อ๊าก…เชี่ย… เชี่ยเอ๊ย เจ็บฉิบหาย…”จางไห่หยางที่เพิ่งฟื้นส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือด“คุณชายจาง ไม่เป็นไรใช่ไหม…”พวกลูกสมุนต่างทำอะไรไม่ถูกสภาพของจางไห่หยางตอนนี้ค่อนข้างน่าอนาถ ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด ขาสองข้างก็หักหมด ถึงขั้นที่กระดูกโผล่ออกมาข้างนอก สภาพสยดสยองจนไม่กล้ามอง“เชี่ยแม่ง! แกว่าฉันดูไม่เป็นไรหรือเปล่าล่ะ แม่งรีบโทรหาโรงบาลสิโว้ย ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว!”จางไห่หยางด่ากราดไม่ยั้งไอ้พวกหน้าโง่ไร้สมอง ไม่เห็นเหรอว่าขาเขาหักหมดแล้ว?ยังมีหน้ามาถามว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า?“ครับๆๆ ผมจะโทรเดี๋ยวนี้ โทรเดี๋ยวนี้เลย!”ลูกสมุนคนนั้นรีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรศัพท์หาโรงพยาบาลทันที……ในอีกด้านหนึ่ง โจวฉีหลินที่นั่งอยู่ในรถสั่งคนขับรถด้วยสีหน้าลนลาน “เร็วเข้า…กลับมณฑล บอกคนที่บ้านว่ารีบเก็บข้าวของ เราต้องออกจากเมืองเจียงจงคืนนี้เลย”ได้ยินอย่างนั้น พวกลูกศิษย์ของโจวฉีหลินพูดอย่างไม่เข้าใจ “อาจารย์ นี่อาจารย์
เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนกำลังแช่ตัวอยู่ในห้องอาบน้ำ หยดน้ำสาดกระเซ็น ทรวงอกเอิบอิ่มคู่นั้นโผล่พ้นผิวน้ำวับๆ แวมๆ ตามจังหวะคลื่นน้ำขณะที่ในใจกำลังคิดคำนวณว่าจะทำอย่างไรให้ฉู่เฉินขายหน้าในการแข่งขันแพทย์แผนจีน จู่ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นหลี่จวิ้นเฟิงโทรศัพท์มา หลิ่วหรูจึงรับสายอย่างเบื่อหน่ายถ้าไม่ใช่เพราะยังต้องพึ่งพาเขาในการแข่งขันแพทย์แผนจีน หลิ่วหรูเยียนไม่อยากสนใจหลี่จวิ้นเฟิงด้วยซ้ำ“คุณหลี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”หลิ่วหรูเยียนข่มกลั้นความเกลียดชังที่มีต่อหลี่จวิ้นเฟิง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“คุณหลิ่ว ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรกัน?”“คุณหลิ่วคงยังไม่รู้สินะครับ ไอ้แซ่ฉู่นั่นหักขาทั้งสองข้างของลูกชายประธานจางซื่อกรุ๊ป!”“ตอนนี้จางปินสั่งให้คนติดต่อกรมตำรวจไปแล้ว เดาว่าคงอีกไม่นาน ฉู่เฉินต้องได้ใช้ชีวิตที่เหลือเน่าตายในคุกแน่ๆ”หลี่จวิ้นเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา“จริงเหรอคะ?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ เธอลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำ ทำให้เรือนร่างอันงดงามสมบูรณ์แบบเปลื
อีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีที่เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็จับมือกันค่อย ๆ เดินลงบันไดจากหอเซียงไช่บนชั้นสี่ของภัตตาคารเทียนเฟิ่ง เซี่ยฉีฉีถูกฉู่เฉินจูงมือเล็ก ๆ ไว้ ดวงหน้างามแดงก่ำ ราวกับมีกวางน้อยวิ่งพล่านอยู่ในอก เธอโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายขนาดนี้ “ฉะ...ฉู่เฉิน ตะ...ตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?” ขณะที่เซี่ยฉีฉีถามคำถามนี้ออกมา หัวใจก็กระดอนขึ้นมาถึงลำคอถึงอย่างไรฉู่เฉินในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมมากเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ออกจากตระกูลฉู่แล้ว อย่าว่าแต่เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเลย ดูเหมือนว่าเขายังสนิทสนมกับผู้จัดการภัตตาคารแห่งนี้มากด้วยบวกกับท่าทีของจางหลงที่เคารพนอบน้อมฉู่เฉินก็ดูออกไม่ยากว่าฉู่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนไร้ค่าอย่างที่เล่าลือกันเลย ตรงกันข้ามเขาเป็นผู้มีอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีสาว ๆ ตามจีบฉู่เฉินเลย?“อุ้ย ถ้าเกิดฉู่เฉินมีแฟนแล้วจะทำยังไงดี?” เซี่ยฉีฉีเพิ่งเอ่ยถามออกมาก็เริ่มนึกเสียใจแล้ว“ตอนนี้ยังไม่มี”ฉู่เฉินเอ่ยพลางยิ้มมองไปทางเซ
“อีกอย่างก็คือฝีมือของคุณ ครั้งหน้าถ้าจะปลอมตัวเป็นมืออาชีพแบบนี้อีก ทางที่ดีควรเรียนรู้ให้มาก ๆ ก่อนนะ อย่าให้แข็งกระด้างเหมือนนวดศพ คนที่มีประสบการณ์นิดหน่อย เห็นแวบเดียวก็ดูคุณออกแล้ว”ฉู่เฉินทำหน้ายิ้มหยันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับเสี่ยวหนาน ความหวาดกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจบนใบหน้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่าครั่นคร้ามตามการวิเคราะห์ทีละขั้นของฉู่เฉิน!“เดิมทีอยากให้คุณไปอย่างไร้ความทรมานโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายมากที่คุณไม่รู้จักถนอมเอง” สิ้นเสียงพูด เสี่ยวหนานพลันชักมีดสั้นสองเล่มออกมาจากด้านหลัง ร่างกายอ้อนแอ้นฉับไวราวกับอสรพิษ แทงตรงไปที่ลำคอของฉู่เฉิน! “ฝึกฝนสิบปีถึงจะได้ร่วมเรือข้ามฟาก ร้อยปีถึงได้ร่วมนวดน้ำมัน คุณลงมืออำมหิตขนาดนี้ คนที่บ้านคุณรู้บ้างหรือเปล่า?”ฉู่เฉินรีบหลบการโจมตีถึงแก่ชีวิตของเสี่ยวหนาน จากนั้นก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ป๊าบ! ฉู่เฉินจับข้อมือของเธอได้แล้วชัด ๆ แต่น้ำมันในมือลื่นมากเกินไป ไม่เพียงทำให้เสี่ยวหนานสลัดหลุดได้ทันที นอกจากนี้ยังแทงมีดสั้นใส่ ท้องน้อยของฉู่เฉินหนึ่งที ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้น
เสี่ยวหนานเพิ่งจะมาอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน กลิ่นหอมประหลาดนั้นพลันรุนแรงขึ้นสุดขีดฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานโดยไม่แสดงอารมณ์ ก่อนจะพูดกับหญิงวัยกลางคนว่า “อืม เอาเธอละกัน ให้คนอื่นออกไปให้หมดเถอะ” หญิงวัยกลางคนเข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ก่อนออกจากห้อง เธอยังตั้งใจช่วยฉู่เฉินปิดประตูห้องให้เรียบร้อย ฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าฝีมือของคุณไม่เลวเอามาก ๆ?”เสี่ยวหนานหลุบตาลงต่ำ ไม่ออกความเห็น ท่าทางเหมือนเขินอายสุดขีดฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนอนคว่ำอยู่บนเตียงนวดแล้วพูดว่า “คุณเริ่มได้เลย”เสี่ยวหนานถึงค่อยเบิกตาขึ้นมา นัยน์ตาส่องประกายคู่นั้นเปล่งรัศมีเย็นเยียบออกมาราง ๆหลังจากที่จ้องมองฉู่เฉินสิบกว่าวินาที เสี่ยวหนานถึงค่อยหยิบน้ำมันนวดหลังจากทางด้านข้าง ก่อนจะเลิกเสื้อของฉู่เฉินขึ้นแล้วราดน้ำมันบนแผ่นหลังของฉู่เฉิน“คุณผู้ชายคะ กล้ามเนื้อที่หลังของคุณแน่นมากเลยนะคะ”เสี่ยวหนานนวดน้ำมันให้ฉู่เฉินพลางเอ่ยเสียงหวานฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าผิวบนหลังของคุณจะดีหรือเปล่า?”“อุ๊ย คุณนี่ร้ายจังเลยนะคะ คิดจะถอดเสื้อผ้าคนอื่นอยู่นั่นแ
“ว้าย...”โจวเทียนเฟิ่งร้องอุทาน รีบใช้ผ้าขนหนูบังดวงหน้าเล็ก ๆ ไว้ ทว่าวินาทีต่อมา เธอก็โดนฉู่เฉินผลักลงบนเตียง .....รุ่งเช้าฉู่เฉินนอนหลับยาวจนตะวันสายโด่งขณะที่กำลังกินอาหารเช้า ฟางอวี่เจิ้งก็โทรศัพท์เข้ามา“คุณฉู่ ตอนนี้คุณสะดวกไหมครับ?” อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ฟางอวี่เจิ้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม “สะดวกครับ คุณส่งตำแหน่งมาให้ผมเลยก็พอ แล้วผมจะไปหาคุณ”ฉู่เฉินกินข้าวไปด้วย พูดไปด้วย“ได้ครับ”ฟางอวี่เจิ้งตอบรับแล้วก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานก็มีข้อความแชร์ตำแหน่งถูกส่งมาที่โทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินพอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉู่เฉินก็พลอดรักกับโจวเทียนเฟิ่งสักพักแล้วค่อยออกจากเทียนเฟิ่งวิลล่า ขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านนวดอวิ๋นไท่เพิ่งจะจอดรถเสร็จ ฟางอวี่เจิ้งก็ก้าวลงมาจากรถเก๋งสีขาวที่อยู่ทางด้านหน้า “คุณฉู่ ร้านนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดในเจียงจงแน่นอนครับ”ฟางอวี่เจิ้งพูดพลางมีท่าทางเหมือนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วนิดหน่อยฉู่เฉินกวาดตามองฟางอวี่เจิ้งแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ประธานฟาง ร่างกายคุณไหวเหรอครับ?”“เอ่อ...ยังพอไหวนะครับ...”ฟางอวี่เจิ้งทำหน้ายิ้มแย้มพลางพาฉู่เฉิ
การเริงรักนี้ทำให้โจวเทียนเฟิ่งดื่มด่ำเต็มอิ่มจริง ๆพูดตามตรง ฉู่เฉินไม่ได้มาเยี่ยมเยียนเธอเกือบหนึ่งเดือนแล้วแม้ว่าในจะคิดถึงมากและร้อนรนมาก แต่เธอรู้สถานะของเธอที่อยู่ข้างกายฉู่เฉินดี อย่างมากสุดก็เป็นได้แต่หนึ่งในคนรักมากมายของเขาเท่านั้นด้วยเหตุนี้ เธอเลยได้แต่อดกลั้นแล้วอดกลั้นอีกวันนี้ก็ถือว่าได้พบเจอสายฝนหลังจากที่แห้งแล้งมาเนิ่นนาน“คุณมันเจ้าตัวป่วน ทำไมขนาดประตูก็ยังไม่ปิด ถ้าเกิดคนมาเห็นเข้าจะทำยังไง”จนกระทั่งเสร็จกิจแล้ว โจวเทียนเฟิ่งถึงค่อยสังเกตเห็นว่าประตูห้องหนังสือเปิดอ้ามาตลอด ถ้าอย่างนั้นคนอื่นคงจะได้ยินเสียงเมื่อกี้ของเธอหมดแล้วใช่หรือเปล่า? โจวเทียนเฟิ่งพูดพลางจะไปปิดประตู ฉู่เฉินกลับอุ้มเอวของเธอขึ้นมาจากด้านหลัง“อ๊าย คุณนี่มันร้ายชะมัด รีบปล่อยฉันลงเลยนะ” ฉู่เฉินหัวเราะหึ ๆ ไฉนเลยจะสนใจการดิ้นรนของเธอ เขาเดินไม่กี่ก้าวก็อุ้มโจวเทียนเฟิ่งเข้าไปในห้องน้ำในขณะที่ฉู่เฉินเตรียมตัวจะแสดงพลังกระตือรือร้นอีกครั้ง โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือพลันดังขึ้นมาจากนั้นก็เห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ฉู่เฉินกดตัดสายทันที แต่ฉู่เฉินยังไม่ทันโน้มตัวลงไป โทรศัพท์ก็ด
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ