เวลานี้ หลิ่วหรูเยียนกำลังแช่ตัวอยู่ในห้องอาบน้ำ หยดน้ำสาดกระเซ็น ทรวงอกเอิบอิ่มคู่นั้นโผล่พ้นผิวน้ำวับๆ แวมๆ ตามจังหวะคลื่นน้ำขณะที่ในใจกำลังคิดคำนวณว่าจะทำอย่างไรให้ฉู่เฉินขายหน้าในการแข่งขันแพทย์แผนจีน จู่ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือก็ดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นหลี่จวิ้นเฟิงโทรศัพท์มา หลิ่วหรูจึงรับสายอย่างเบื่อหน่ายถ้าไม่ใช่เพราะยังต้องพึ่งพาเขาในการแข่งขันแพทย์แผนจีน หลิ่วหรูเยียนไม่อยากสนใจหลี่จวิ้นเฟิงด้วยซ้ำ“คุณหลี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”หลิ่วหรูเยียนข่มกลั้นความเกลียดชังที่มีต่อหลี่จวิ้นเฟิง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“คุณหลิ่ว ผมมีข่าวดีจะบอกคุณ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ข่าวดี? ข่าวดีอะไรกัน?”“คุณหลิ่วคงยังไม่รู้สินะครับ ไอ้แซ่ฉู่นั่นหักขาทั้งสองข้างของลูกชายประธานจางซื่อกรุ๊ป!”“ตอนนี้จางปินสั่งให้คนติดต่อกรมตำรวจไปแล้ว เดาว่าคงอีกไม่นาน ฉู่เฉินต้องได้ใช้ชีวิตที่เหลือเน่าตายในคุกแน่ๆ”หลี่จวิ้นเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา“จริงเหรอคะ?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินก็อดตื่นเต้นดีใจไม่ได้ เธอลุกขึ้นยืนในอ่างอาบน้ำ ทำให้เรือนร่างอันงดงามสมบูรณ์แบบเปลื
อีกทางด้านหนึ่ง ฉู่เฉินกับเซี่ยฉีฉีที่เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็จับมือกันค่อย ๆ เดินลงบันไดจากหอเซียงไช่บนชั้นสี่ของภัตตาคารเทียนเฟิ่ง เซี่ยฉีฉีถูกฉู่เฉินจูงมือเล็ก ๆ ไว้ ดวงหน้างามแดงก่ำ ราวกับมีกวางน้อยวิ่งพล่านอยู่ในอก เธอโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชายขนาดนี้ “ฉะ...ฉู่เฉิน ตะ...ตอนนี้นายมีแฟนหรือยัง?” ขณะที่เซี่ยฉีฉีถามคำถามนี้ออกมา หัวใจก็กระดอนขึ้นมาถึงลำคอถึงอย่างไรฉู่เฉินในตอนนี้ก็ยอดเยี่ยมมากเกินไปจริง ๆ หลังจากที่ออกจากตระกูลฉู่แล้ว อย่าว่าแต่เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเลย ดูเหมือนว่าเขายังสนิทสนมกับผู้จัดการภัตตาคารแห่งนี้มากด้วยบวกกับท่าทีของจางหลงที่เคารพนอบน้อมฉู่เฉินก็ดูออกไม่ยากว่าฉู่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนไร้ค่าอย่างที่เล่าลือกันเลย ตรงกันข้ามเขาเป็นผู้มีอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือฉู่เฉินยังหนุ่มยังแน่นและหล่อเหลาขนาดนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีสาว ๆ ตามจีบฉู่เฉินเลย?“อุ้ย ถ้าเกิดฉู่เฉินมีแฟนแล้วจะทำยังไงดี?” เซี่ยฉีฉีเพิ่งเอ่ยถามออกมาก็เริ่มนึกเสียใจแล้ว“ตอนนี้ยังไม่มี”ฉู่เฉินเอ่ยพลางยิ้มมองไปทางเซ
เวลานี้หลินชือหย่าสังเกตเห็นฉู่เฉินแล้วเช่นกันเลยคลี่ยิ้มออกมาทันที รอยยิ้มนี้เพียงพอที่จะล่มชาติบ้านเมืองได้เลย ทำให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ทอดมองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาอิจฉาริษยาในตอนนี้เอง สาวสวยทั้งหมดในร้านอาหารแทบจะสูญเสียความสดใสในพริบตา ถูกหลินชือหย่าบดขยี้จนย่อยยับโดยสิ้นเชิง! “คุณฉู่ พวกเราไปกันเถอะค่ะ” ดวงหน้างามของหลินชือหย่าแดงระเรื่อ เธอจับมือของฉู่เฉินไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อยเมื่อเห็นฉู่เฉินถูกสาวสวยสุดยอดขนาดนี้ลากตัวไป เสียงถอนหายใจและเสียงก่นด่าดังมาจากรอบด้านทันที“เชี่ย ฉันหล่อกว่าไอ้หมอนั่นตั้งเยอะ ทำไมฉันไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ?” “แม่งเอ๊ย ผู้หญิงสมัยนี้ตาบอดกันหมดแล้วหรือไง? ฉันหล่อเหลาสง่างามขนาดนี้กลับถูกสาวสวยเมินไปเลย!” “ฉันขอให้หมอนั่นออกไปแล้วโดนรถชน แม่งเอ๊ย คงใช้โชคทั้งชีวิตไปแน่ ๆ ถึงจีบสาวสวยน่ารักขนาดนี้ได้!”เสียงด่าทอของผู้คนด้านหลัง ฉู่เฉินกลับฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ความรู้สึกที่หน้าอกอวบอิ่มนุ่มนิ่มของหลินชือหย่าแนบชิดกับแขนนั้นยอดเยี่ยมเกินคำบรรยายจริง ๆ“คุณฉู่คะ เพื่อนสนิทคนนั้นของฉันมีนิสัยแปลก ๆ นิดหน่อย เมื่อก่อนแค่ไม่ช
“มองพอแล้ว”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มร้ายว่า “แต่ก็ยังมองไม่พอ” ในขณะที่พูด ฉู่เฉินค่อย ๆ เลื่อนสายตาลงมา ก่อนจะเหลือบเห็นความขาวนวลและความกลมกลึงจากในร่องของผ้าเช็ดตัวเมื่อสังเกตเห็นสายตารุกรานของฉู่เฉิน ดวงหน้าเล็กของหญิงสาวก็เย็นชาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถลึงตามองฉู่เฉินอย่างดุดันแล้วพูดพลางชี้ไปที่หน้าประตูโดยไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อยว่า “ไสหัวไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” “นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ มีสิทธิ์อะไรมาไล่ผม?” ฉู่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางจ้องมองสาวสวยหน้าสดตรงหน้าอย่างมีเหตุผลรองรับเต็มที่ “คุณ...” สาวสวยหน้าสดดูอัดอั้นตันใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็จัดการฉู่เฉินไม่ได้เลยถึงอย่างไรเธอพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมา ด้านในแทบจะเปลือยเปล่าหมด หากขยับตัวมากเกินไปเล็กน้อยก็จะโป๊หมดเลย! “อย่าเพิ่งรีบโกรธ คุณคือเจียงรั่วเหยียนใช่ไหม?” สายตาของฉู่เฉินค่อย ๆ เลื่อนจากต้นขาของสาวสวยหน้าสดไปที่หน้าอก ผ้าเช็ดตัวทั้งผืนพันรอบอกอวบอิ่มของเธอไว้ไม่อยู่ แค่คำว่าใหญ่คำเดียวจะพอบรรยายได้อย่างไร?“คุณรู้ชื่อของฉันได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าคำพูดประโยคนี้ของฉู่เฉินทำให้เธอเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจ
เจียงรั่วเหยียนสูดลมหายใจลึก สุดท้ายถึงค่อยฝืนพยักหน้า หลังจากที่พูดทักทายกับหลินชือหย่าไม่กี่ประโยค เจียงรั่วเหยียนถึงค่อยวางสายแล้วพูดว่า “คุณเป็นหมอจริง ๆ เหรอคะ?”“จริงแท้แน่นอน”ฉู่เฉินเอ่ยด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เจียงรั่วเหยียนเม้มริมฝีปากแล้วขมวดคิ้วพูดว่า “ฉันไม่สนว่าคุณเป็นหมอจริง ๆ หรือเปล่า แต่ถ้าคุณกล้าพูดเรื่องเมื่อกี้ออกไป ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด!” “อีกอย่างฉันให้เวลาคุณมากสุดสามนาที หลังจากตรวจเสร็จแล้วรีบไปให้พ้นจากตรงหน้าฉันซะ ฉันไม่อยากเห็นคุณอีก!”ฉู่เฉินเลิกคิ้ว ยัยนี่แสบเป็นพริกขี้หนูเลย! ดูท่าเขายังคงเข้าใจความหมายของหลินชือหย่าผิดไปที่เรียกว่ารังเกียจผู้ชายไม่ใช่อายที่จะปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายเลย เธอแค่บ้าคลั่งเท่านั้น“ผมต้องจับชีพจรคุณก่อน” ฉู่เฉินก้าวมาข้างหน้าแล้วยื่นมือไปคว้าข้อมือของเจียงรั่วเหยียน“ห้ามแตะฉันนะ!”เจียงรั่วเหยียนรีบถอยหลังก้าวหนึ่ง เอามือสองข้างไขว้หลังไว้ การกระทำนี้ทำให้หน้าอกของเธอพลันแอ่นไปข้างหน้าแล้วชนเข้ากับหน้าอกของฉู่เฉินพอดี ชั่วพริบตานั้นดวงหน้าเล็ก ๆ ของเจียงรั่วเหยียนแข็งทื่อ ฉู่เฉินกลับยิ้มฝืดเฝื่อนก
เมื่อได้ยินเสียงตวาดอย่างรุนแรงนี้ ฉู่เฉินกับหลินชือหย่าต่างมองไปทางหน้าประตูพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายจากนั้นก็เห็นชายหนุ่มสวมชุดเครื่องแบบมังกรเขียวและรองเท้าบู๊ตทหารผลักประตูเดินเข้ามาในห้องรับแขกภายใต้การติดตามของบอดี้การ์ดหลายคน รอบตัวชายหนุ่มแผ่รัศมีน่าเกรงขามของผู้ที่อยู่เหนือกว่า นัยน์ตาเย็นชาจ้องเขม็งไปยังฉู่เฉินที่กำลังจับชีพจรให้เจียงรั่วเหยียน หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก็พากันมองไปทางฉู่เฉินด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นกัน ขณะเดียวกันมือของพวกเขาล้วนคลำไปทางด้านหลังเอวพร้อมกัน “พี่เจียงหย่วน พี่มาได้ยังไงคะ? วันนี้พี่เข้าไปทำงานที่แก๊งมังกรไม่ใช่เหรอคะ?” หลินชือหย่าเข้ามาหาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะควงแขนของชายหนุ่มแล้วเอ่ยถาม ชายหนุ่มคือเจียงหย่วน พี่ชายแท้ ๆ ของเจียงรั่วเหยียน หัวหน้าแก๊งมังกรแห่งเจียงจงนับตั้งแต่ที่เจียงรั่วเหยียนออกจากโรงพยาบาล เธอก็อาศัยอยู่กับหลินชือหย่ามาตลอด ไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว เขาผ่านทางมาพอดีเลยถือโอกาสแวะมาเยี่ยม แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกเขาเห็นฉากเมื่อครู่นี้ เจียงหย่วนรู้จักน้องสาวของตัวเองดีกว่าใคร แค่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล เจียงรั่ว
“ถ้าเกิดพี่เป็นห่วงเสี่ยวเหยียนจริง ๆ ทำไมถึงให้คุณฉู่ตรวจดูให้เธอไม่ได้ละคะ? ถ้าเกิดคุณฉู่รักษาโรคของเสี่ยวเหยียนได้จริง ๆ เสี่ยวเหยียนอาจจะพลาดโอกาสหายป่วยไม่ใช่หรือไงคะ?”เจียงหย่วนหัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่ง มองฉู่เฉินอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่ไม่ได้พูดในฐานะพี่ชายนะ แต่เธอเคยเห็นแพทย์แผนจีนคนไหนอายุน้อยเหมือนอย่างเขาบ้าง?” “โรคของรั่วเหยียน ขนาดผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนในประเทศหลายคนก็หมดปัญญาสู้ เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเขาจะรักษาหายได้เหรอ?”“คำพูดนี้ เธอถามตัวเขาเองสิว่าเชื่อไหม?”เจียงหย่วนเห็นนักต้มตุ๋มแบบฉู่เฉินมาเยอะแล้ว คนอายุน้อยถ้าไม่ได้ปลอมตัวเป็นอาจารย์ด้านฮวงจุ้ยก็ปลอมตัวเป็นหมอเทวดาหลอกเอาเงินหลอกล่วงละเมิดทางเพศไปทั่ว สาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาพวกนั้นถูกนักต้มตุ๋มพวกนี้ย่ำยีแล้วก็กระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตายกันเกลื่อนกลาด“พี่เจียงหย่วน ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะคะ นอกจากนี้คุณฉู่ก็รักษาโรคของฉันจนหายด้วย” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจียงหย่วนก็ขมวดคิ้วมองหลินชือหย่าแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่จำได้ว่าเดือนที่แล้วเธอเพิ่งไปตรวจสุขภาพกับรั่วเหยียนนี่นา?”“ใ
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็ตกตะลึงไม่ใช่เพราะว่าฉู่เฉินพูดถูกเรื่องที่เจียงรั่วเหยียนป่วยจนเข้าโรงพยาบาลเมื่อสามวันก่อนแต่เป็นอาการป่วยทางใจของเธอ!เรื่องนั้นผ่านมาห้าปีเต็มแล้ว แม้แต่คนข้างกายก็พูดถึงผู้ชายที่ทำให้เจียงรั่วเหยียนเจ็บปวดใจเจียนตายน้อยมากอันที่จริงตอนนั้นเจียงรั่วเหยียนเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น ๆ เคยใฝ่ฝันถึงความรักอันหวานชื่น และเธอได้ตกหลุมรักรุ่นพี่คนหนึ่งในเวลานั้น ทว่าต่อมาเจียงรั่วเหยียนบังเอิญพบว่ารุ่นพี่คนนั้นมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในช่วงมหาวิทยาลัย ถึงขนาดที่พวกเขาสองคนยังฉวยโอกาสตอนที่เจียงรั่วเหยียนกลับบ้านช่วงวันหยุดทำเครื่องนอนของเจียงรั่วเหยียนเปรอะเปื้อนด้วย เจียงรั่วเหยียนที่ล่วงรู้เรื่องทั้งหมดก็ตบหน้าเพื่อนสนิทคนนั้นไปสองฉาดทันที แถมยังเรียกเจียงหย่วนให้มาเล่นงานรุ่นพี่คนนั้นอย่างหนักอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ครั้งนั้น เจียงรั่วเหยียนก็เกิดความรังเกียจผู้ชายอยู่ในใจ พูดให้ถูกต้องคือเธอไม่ได้เป็นโรคเกลียดผู้ชาย แต่เพราะว่ายังไม่ได้คลี่คลายปมในใจ อุปนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงขนาดที่เส้นเลือดหัวใจอุดตันเพราะความโกรธแค้นที่
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ
ไม่มีเงินเหรอ?สามคำนี้ไม่ใช่แค่กำลังเพียงดูถูกดูแคลนหลิวจิ่งหง แต่เป็นดูถูกดูแคลนคนตระกูลหลิว!“โอเคค่ะ”พิธีกรสาวสวยคว้าเครื่องโพสจากพนักงานข้างๆ เธอสั่นหน้าอกใหญ่และบั้นท้ายของเธอ แล้วเดินไปหาฉู่เฉินด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุภาพบุรุษที่มีอนาคตเหมือนฉู่เฉินไม่ใช่จะพบเจอได้ในทุกวันแม้ว่าจะมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูล แต่คนจำนวนไม่น้อยมาเพราะอยากหลับนอนกับพิธีกรสาวสวยต่างหากแต่คนเหล่านั้นถ้าไม่ใช่ตาแก่หัวงูที่อายุอานามสี่ห้าสิบ ก็เป็นพวกลูกหลานเศรษฐีที่เอาแต่พึ่งพาครอบครัว ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเองแต่ฉู่เฉินเขาเป็นคนประสบความสำเร็จมีเงินมหาศาลคนแรกของตระกูล นั่นแหละคือข้อแตกต่างของพวกเขาสมมุติว่าสามารถสนิทสนมกับฉู่เฉินได้มากกว่านี้ หาสถานที่ที่ไม่มีใคร แสดงเทคนิคการใช้ปากของเธอ หรือว่าคิดท่าทางใหม่ๆ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ แล้ว“หยุด!”หลิวจิ่งหงโกรธจนหน้าเขียวแม่งเอ๊ย ในมณฑลนี้มีใครกว่าบอกว่าตระกูลหลิวไม่มีเงินบ้าง?นี่แทบจะเหมือนด่าตระกูลหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย!“คุณชายหลิว คุณยังมีเงินเหลืออยู่ไหมครับ?ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มยียวนกวนประสาท “แ
เขาใช้เงินกว่าร้อยกว่าล้านไปกับประมูลดอกไม้และของเก่าต่างๆในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่า แน่นอนว่าการเสนอราคาก็จะดุเดือดเป็นธรรมดา โดยเฉพาะฉู่เฉินที่เสนอราคาให้สูงลิบลิ่ว แม้ว่าจะใช้เงินประมูลไปร้อยกว่าล้านก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถครอบครองสิ่งนั้นได้แต่เขาก็ครุ่นคิดอีกครั้ง ฉู่เฉินมันก็แค่ไอ้แมงดา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เฉินจะท้าทายเขาขนาดนี้!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวจิ่งหงก็ชูป้ายขึ้นมาทันที “สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน!”คำพูดนี้ออกไป เหล่าสาธารณชนที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างพากันสูดลมหายใจเหน็บหนาว ราคาเริ่มต้นที่ห้าร้อยล้าน หลิวจิ่งหงเสนอราคาไปสองพันห้าร้อยล้าน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นเสนอราคาแข่งกับเขาสักพักสายตาของทุกคนก็หันไปมองฉู่เฉินนัยน์ตางดงามของพิธีกรก็มองไปทางฉู่เฉินเช่นกันหากได้รับราคาประมูลยิ่งสูง ส่วนแบ่งที่เธอจะได้ก็จะยิ่งเยอะเข้าไปอีก แม้ว่าฉู่เฉินจะทำเพื่อความสนุก แต่เธอก็ได้รับประโยชน์มาไม่น้อยเช่นกันฉู่เฉินปอกส้มเป็นชิ้นแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นหยิบป้ายประมูลขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “ห้าพันล้านบาทถ้วน”ซี้ดๆ !ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันจับจ้องฉู่เฉินอย่างตะล
“เจ้ารู้จักกระถางเก้าดาราด้วยหรือ?”อวี้ลู่มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่ประหลาดใจกระถางเก้าดาราเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่โลกเซียนเอง และยังเป็นของวิเศษสำคัญที่ใช้จัดเตรียมค่ายกลเก้าดาราสังหารอีกด้วยพลังของค่ายกลเก้าดาราสังหารแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปราณของแต่ละบุคคลอีกด้วย เช่นเดียวกับฉู่เฉินตอนนี้ หากเขาสร้างค่ายกลเก้าดาราสังหารขึ้นมา เขาก็สามารถฆ่าคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาได้ทันทีแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกว่าเขาสองระดับ เขาก็สามารถทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน หากจำนวนของฝ่ายตรงข้ามไม่มากเกินไป เขาก็สามารถฆ่าได้ตามใจ“แปลกใจเหรอครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มนิ่งๆ ให้กับอวี่ลู่ วิชาของมังกรเฒ่าครอบคลุมทุกสิ่งจะไม่มีได้อย่างไร?แม้ว่ากระถางเก้าดาราจะไม่ได้มีประโยชน์กับฉู่เฉินในตอนนี้มากนัก แต่ในภายภาคหน้าเขาจะต้องได้ใช้แน่นอน เพราะอย่างไรฉู่เฉินก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะไปทำให้ผู้มีอิทธิพลคนไหนไม่พอใจหรือไม่และคนที่อยู่ข้างกายเขาจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเสมอค่ายกลเก้าดาราสังหารเป็นตัวเลือกที่ไม่แย่“ต่อไปคือสินค้าประมูลชิ้นแรกของวันนี้ นั่นคือภาพวาดราชาสวรรค์ประทานโอร
หลินชือหย่าพยักหน้าแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อย “ฉู่เฉิน เมื่อกี้คุณล่วงเกินหลิวจิ่งหงไปแล้ว ฉันเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณจริง ๆ”ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่อยู่ชั้นหนึ่งเป็นเพียงการตบหน้าหลิวจิ่งหงด้วยคำพูด เช่นนั้นเมื่อกี้ ฉู่เฉินก็แตะขีดจำกัดล่างของตระกูลหลิวแล้ว ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าฉู่เฉินเตะแรงแค่ไหน แต่ดูจากสภาพของหลิวจิ่งหง เกรงว่าอสุจิของรุ่นถัดไปคงจะไหลจนแห้งเหือดหมดแล้ว ฐานะของตระกูลหลิวในเมืองเอกของมณฑลไม่ใช่แค่อาศัยความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเท่านั้น ได้ยินว่าตระกูลหลิวยังเป็นลูกศิษย์นอกสำนักอะไรสักแห่งด้วยเมื่อหลายปีก่อน หลิวฮ่าวฮุยบิดาของหลิวจิ่งหงก็อาศัยพลังยุทธ์บดขยี้โลกใต้ดินแทบจะทั่วทั้งเมืองเอกของมณฑล ถึงได้สร้างอาณาเขตธุรกิจของตระกูลหลิวในปัจจุบันถ้าตระกูลหลิวพุ่งเป้ามาที่ฉู่เฉิน ผลที่ตามมานั้นไม่กล้าจินตนาการจริง ๆ“ไม่เป็นไร ตระกูลหลิวแล้วยังไง ตราบใดที่พวกเขากล้ามา ผมก็กล้าฝังมัน!” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “จำไว้นะ คุณเป็นผู้หญิงของฉู่เฉิน ในโลกนี้ ใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้ทั้งนั้น”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉิน หลินชือหย่าอดไม่ได้ที่จ