“ถ้าเกิดพี่เป็นห่วงเสี่ยวเหยียนจริง ๆ ทำไมถึงให้คุณฉู่ตรวจดูให้เธอไม่ได้ละคะ? ถ้าเกิดคุณฉู่รักษาโรคของเสี่ยวเหยียนได้จริง ๆ เสี่ยวเหยียนอาจจะพลาดโอกาสหายป่วยไม่ใช่หรือไงคะ?”เจียงหย่วนหัวเราะเบา ๆ ทีหนึ่ง มองฉู่เฉินอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่ไม่ได้พูดในฐานะพี่ชายนะ แต่เธอเคยเห็นแพทย์แผนจีนคนไหนอายุน้อยเหมือนอย่างเขาบ้าง?” “โรคของรั่วเหยียน ขนาดผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนจีนในประเทศหลายคนก็หมดปัญญาสู้ เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเขาจะรักษาหายได้เหรอ?”“คำพูดนี้ เธอถามตัวเขาเองสิว่าเชื่อไหม?”เจียงหย่วนเห็นนักต้มตุ๋มแบบฉู่เฉินมาเยอะแล้ว คนอายุน้อยถ้าไม่ได้ปลอมตัวเป็นอาจารย์ด้านฮวงจุ้ยก็ปลอมตัวเป็นหมอเทวดาหลอกเอาเงินหลอกล่วงละเมิดทางเพศไปทั่ว สาวบริสุทธิ์ไร้เดียงสาพวกนั้นถูกนักต้มตุ๋มพวกนี้ย่ำยีแล้วก็กระโดดลงแม่น้ำฆ่าตัวตายกันเกลื่อนกลาด“พี่เจียงหย่วน ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะคะ นอกจากนี้คุณฉู่ก็รักษาโรคของฉันจนหายด้วย” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจียงหย่วนก็ขมวดคิ้วมองหลินชือหย่าแล้วพูดว่า “เสียวหย่า พี่จำได้ว่าเดือนที่แล้วเธอเพิ่งไปตรวจสุขภาพกับรั่วเหยียนนี่นา?”“ใ
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็ตกตะลึงไม่ใช่เพราะว่าฉู่เฉินพูดถูกเรื่องที่เจียงรั่วเหยียนป่วยจนเข้าโรงพยาบาลเมื่อสามวันก่อนแต่เป็นอาการป่วยทางใจของเธอ!เรื่องนั้นผ่านมาห้าปีเต็มแล้ว แม้แต่คนข้างกายก็พูดถึงผู้ชายที่ทำให้เจียงรั่วเหยียนเจ็บปวดใจเจียนตายน้อยมากอันที่จริงตอนนั้นเจียงรั่วเหยียนเหมือนกับเด็กสาวคนอื่น ๆ เคยใฝ่ฝันถึงความรักอันหวานชื่น และเธอได้ตกหลุมรักรุ่นพี่คนหนึ่งในเวลานั้น ทว่าต่อมาเจียงรั่วเหยียนบังเอิญพบว่ารุ่นพี่คนนั้นมีความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอในช่วงมหาวิทยาลัย ถึงขนาดที่พวกเขาสองคนยังฉวยโอกาสตอนที่เจียงรั่วเหยียนกลับบ้านช่วงวันหยุดทำเครื่องนอนของเจียงรั่วเหยียนเปรอะเปื้อนด้วย เจียงรั่วเหยียนที่ล่วงรู้เรื่องทั้งหมดก็ตบหน้าเพื่อนสนิทคนนั้นไปสองฉาดทันที แถมยังเรียกเจียงหย่วนให้มาเล่นงานรุ่นพี่คนนั้นอย่างหนักอย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ครั้งนั้น เจียงรั่วเหยียนก็เกิดความรังเกียจผู้ชายอยู่ในใจ พูดให้ถูกต้องคือเธอไม่ได้เป็นโรคเกลียดผู้ชาย แต่เพราะว่ายังไม่ได้คลี่คลายปมในใจ อุปนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ถึงขนาดที่เส้นเลือดหัวใจอุดตันเพราะความโกรธแค้นที่
เมื่อเธอเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหลังคือฉู่เฉิน ขาสองข้างพลันอ่อนยวบ นัยน์ตาเบิกโตเล็กน้อย เหงื่อเย็น ๆ ไหลซึมออกมาจนหลังเสื้อของเธอเปียกชุ่มทันที “ทำไม ยังไม่ยอมตัดใจอยากหาโอกาสฆ่าฉันอีกเหรอ? ฉู่เฉินหรี่ตาสองข้างเล็กน้อย มองเรือนร่างอ่อนช้อยงดงามของกุหลาบเพลิงอย่างละเอียด สะโพกอวบอิ่มถูกฉู่เฉินจับไว้แน่น“ไม่...คุณฉู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ถึงคุณจะให้ฉันยืมอีกสิบความกล้า ฉันก็ไม่กล้าเด็ดขาด ฉะ...ฉันได้รับคำสั่งให้มาพบลูกค้าคนหนึ่ง ฉันสาบานต่อฟ้าเลย!” กุหลาบเพลิงกลัวแล้วจริง ๆ หลังจากที่เสียท่าให้ฉู่เฉินครั้งก่อน จนถึงตอนนี้เธอยังคงเจ็บเหมือนถูกฉีกทึ้งก็ไม่ปาน“สาบานต่อฟ้า? ฉันไม่เชื่อคำสาบานของเธอหรอก”ฉู่เฉินพูดพลางยื่นมือไปลูบคลำที่เอวของกุหลาบเพลิงแล้วดึงมีดบัตเตอร์ฟลายเล่มนั้นออกมาถือเล่นไว้ในมือทันที“คุณฉู่ งั้นต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อฉันคะ?” กุหลาบเพลิงแทบจะควักหัวใจของตัวเองออกมาให้ฉู่เฉินดู เธออยากพิสูจน์ตัวเองมากจริง ๆ นะ“ถอดออก!” ฉู่เฉินกวาดมองไปบนแผ่นหลังที่ขาวนวลงดงามดั่งหยกของกุหลาบเพลิงด้วยสายตาเย็นชา“หา? มะ...ไม่เอานะ ฉะ...ฉัน...”กุหลาบเพลิงยังไม่ทันพูดจ
พนักงานสาวสวยหลายคนเพิ่งจะมีสีหน้าผ่อนคลายก็สูดลมหายใจเย็นยะเยือกในพริบตา“เข้าไปดู!” พนักงานสาวสวยรุ่นใหญ่เดินเข้าไปใกล้ฉากกั้นห้องลองเสื้อด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเอาหูแนบกับประตู ฟังเสียงข้างในอย่างระมัดระวังตอนแรกลูกค้าชายหญิงในร้านไม่ได้สนใจความผิดปกติทางฝั่งห้องลองเสื้อเลย แต่เมื่อพนักงานสาวสวยเหล่านี้พากันเข้าไปล้อม หลายคนก็มองไปทางห้องลองเสื้อเช่นกันบรรดาชายวัยกลางคนที่มาซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนแฟนหรือภรรยาได้ยินเสียงจากด้านใน พวกเขาก็มองหน้ากันแวบหนึ่งสายตานั้นบ่งบอกทุกสิ่งทุกอย่างแล้วใครแม่งกล้าขนาดนี้ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากคลิปวิดีโอร้านยูนิโคล่เพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่เองนะ?มาอีกแล้วเหรอ?! ลูกค้าชายหลายคนพากันรวมตัวเข้ามาด้วยท่าทีเหมือนศึกษาเรียนรู้ เมื่อเห็นว่าควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว พนักงานสาวสวยอายุค่อนข้างมากก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ก่อนจะรีบเคาะประตูห้องลองเสื้อ “คะ...ใครน่ะ!”เสียงเลือนรางดังออกมาจากในห้องลองเสื้อตามเสียงเคาะประตูอย่างรีบเร่งซี้ด! ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่บรรดาพนักงานสาวสวยก็สัมผัสได้ถึงดวงตาที่เหมือนพยัคฆ์เหมื
“รั่วเหยียน!”เจียงหย่วนที่ได้ยินเสียงผิดปกติหันหน้าไปมอง ก่อนจะเห็นเจียงรั่วเหยียนเอามือสองข้างกุมลำคอเนียนสวย ลมหายใจเปลี่ยนเป็นถี่กระชั้นและยากลำบาก ดวงหน้าเล็กเขียวม่วงจนดำคล้ำแล้ว “แย่แล้ว!”เจียงหย่วนรีบพุ่งปราดเข้าไปหาเจียงรั่วเหยียน แต่วินาทีต่อมา เจียงรั่วเหยียนพลันตาเหลือก หมดสติไปทันที“รั่วเหยียน!” “ลูก!” เจียงไห่ตงรีบวิ่งมาเช่นกัน เขายื่นมือไปสัมผัสลมหายใจทางจมูกของเจียงรั่วเหยียนแล้วอดสูดลมหายใจเย็นยะเยือกไม่ได้ ครั้งนี้อาการป่วยของเจียงรั่วเหยียนรุนแรงกว่าครั้งก่อนมากอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้แม้แต่ลมหายใจทางจมูกก็อ่อนแรงมากแล้ว“ผมจะโทรเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้” เจียงหย่วนรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา เขายังไม่ทันกดหมายเลขโทรออก เจียงไห่ตงก็ส่ายหน้าติดต่อกันแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์ ตอนที่รั่วเหยียนออกจากโรงพยาบาลครั้งก่อน หมอเจ้าของไข้บอกแล้วว่าถ้าเกิดอาการขึ้นอีก แม้แต่พวกเขาก็ปัญญาแล้วเหมือนกัน” พูดถึงตรงนี้ เจียงไห่ตงรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วค้นหาหมายเลขของฮว่าจิ่วหยาง ก่อนจะโทรศัพท์ไปหาทันทีผ่านไปเนิ่นนานถึงค่อยมีเสียงของฮว่าจิ่วหยางดังมาจากปลายสายว่า “ท่านอธิบ
ให้พยายามสุดความสามารถสักครั้งดูหมายความว่าอย่างไร?เจียงไห่ตงมองไปอย่างที่ฮว่าจิ่วหยาง “ท่านฮว่าแม้แต่ท่านก็ไม่มีความมั่นใจงั้นเหรอครับ?”ฮว่าจิ่วหยางพูดขึ้นมาด้วยเสียงเคร่งขรึม “ประธานเจียง พูดตามความจริง อาการป่วยของคุณหนูแปลกประหลาดเกินไป ผมไม่เคยพบโรคแบบนี้มาก่อนเลย”“หากแค่เธอตื่นขึ้นมา บางทีใครก็ตามที่ฝึกฝนการแพทย์มานานกว่าสิบปีก็สามารถทำได้ แต่ว่าหากต้องการรักษาชีพจรของเธอไว้ แม้แต่ผมก็เกินความสามารถ”อะไรนะ?!เมื่อได้ยินประโยคนั้น เจียงไห่ตงสองคนพ่อลูกต่างตกตะลึงเกินความสามารถงั้นเหรอ?อย่างนั้นก็หมายความว่า แม้แต่ท่านฮว่าก็ช่วยเขาไม่ได้งั้นเหรอ?หรือว่า... หรือว่ารั่วเหยียน...เมื่อนึกถึงตอนนี้ เจียงไห่ตงกลั้นน้ำตาจากการสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก พูดกับฮว่าจิ่วหยางว่า “ท่านฮว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ขอให้คุณพยายามอย่างสุดกำลังนะครับ ชีวิตของลูกสาวคนเล็กผมฝากไว้ในมือท่านฮว่านะครับ”ฮว่าจิ่วหยางพยักหน้าอย่างรุนแรง “โอเค ผมจะพยายามให้ถึงที่สุด ผมจะเขียนใบสั่งยาให้แล้วทำตามที่ผมบอก นำยาไปต้มหลังจากนั้นก็ให้คุณหนูกิน จะเป็นหรือตายก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วล่ะ”พูดจบ ฮว่าจิ่วหยางก็ร
อีกอย่างหมอไร้ความสามารถในเจียงจงพวกนั้น ก็ล้วนแต่ถูกเจียงไห่ตงเชิญมาวินิจฉัยดูแล้ว แม้แต่สาเหตุโรคของเจียงรั่วเหยียนก็ไม่สามารถวินิจฉัยออกมาได้ เป็นไปได้อย่างไรที่ใครสักคนจะโดดเด่นถึงขนาดที่ฮว่าจิ่วหยางยังสู้ไม่ได้?“ท่านฮว่าพูดจริงเหรอครับ? ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านผู้คนนั้นตอนนี้อยู่ที่ใดผมจะได้รีบส่งคน... ไม่สิ ผมจะไปหาเขาด้วยตัวผมเอง!”เจียงไห่ตงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง“คนผู้นี้มีชื่อว่าฉู่เฉิน ก่อนหน้านี้ได้มีคลิปที่เขารักษาโรคมะเร็งเผยแพร่ไปทั่วในอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นผมก็อยู่ในสถานการณ์จริง เห็นปาฏิหาริย์นี้ด้วยตาของตัวเอง”ฮว่าจิ่วหยางพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอะไรนะ?ฉู่เฉินงั้นเหรอ?เมื่อได้ยินชื่อนี้ เจียงไห่ตงก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้แม้ว่าคลิปนั้นเขาจะเคยเห็นมาก่อนแล้ว แต่ว่ามันบ้ามากที่จะรักษามะเร็งเต้านมได้ภายในเวลาเพียงชั่วโมงกว่า ตีเจียงไห่ตงให้ตายเขาก็ไม่เชื่อหรอกอีกทั้งยังมีข่าวลืออีกว่าฉู่เฉินเป็นคนหลอกลวงแต่เจียงหย่วนที่อยู่ข้างๆ กับตัวสั่นไปหมด ถามขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะครับ? เขาชื่อฉู่เฉินเหรอครับ?”ฮว่าจิ่วหยางพยักห
อีกด้านหนึ่ง ร้านกาแฟที่ห่างจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ไม่กี่สิบเมตรหลิ่วหรูเยียนสวมเสื้อเกาะอกและกระโปรงเอวสูง เธอชมวิวสวยข้างนอกหน้าต่างไปด้วย ดื่มกาแฟไปด้วยดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งจ้องมองไปที่รถตำรวจที่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เป็นครั้งคราวและแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจของเธอขอเพียงแค่ฉู่เฉินกลับมาจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขาก็จะถูกพาขึ้นรถตำรวจไป ขอเพียงแค่จางปินไม่ปล่อยเขาไป ไม่ว่าฉู่เฉินจะพูดปากเปียกปากแฉะ ก็ยากจะแก้ต่างเมื่อถึงตอนนั้นฉู่เฉินยังจะเข้าร่วมงานการแข่งขันแพทย์แผนจีนอะไรอีกด้วยความโหดเหี้ยมของจางปิน คาดว่าชีวิตที่เหลือของฉู่เฉินคงจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกแล้วล่ะ!ขณะเดียวกันในรถตำรวจ ตำรวจหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งสวมเครื่องแบบรัดแน่นบนหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ คลายกระดุมเม็ดที่สามที่อยู่ใต้ปกเสื้อ และพัดตัวเองด้วยมุมเสื้อหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันศีรษะและมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจหญิงอีกคนที่นั่งข้างๆ เธอ ซึ่งมีอายุราวๆ สามสิบปี มีดาวสองดวงอยู่บนไหล่ของเธอ และเธอยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม “พี่เจวียน คนแซ่ฉู่นั่นหัวนอนปลายเท้าเป็นมาอย่างไรคะ ทำไมต้องให้พี่จับเขาด้วยตัวเองด้ว
ลูกศิษย์สองคนร่างระเบิดติดๆ กันสองคน หลิวจิ่งหงกับเฉียนเจียวเจียวสะดุดล้มลงไปนั่งบนพื้นด้วยความตกใจอะไรที่เรียกว่าแข็งแกร่ง?นี่สิที่เรียกว่าแข็งแกร่งอย่างแท้จริงเงื้อมือก็ฆ่าคนได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดมากแม้แต่คำเดียวสิ่งสำคัญคือ ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของอวี้ลู่สงบนิ่งมาก เหมือนกำลังบี้แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น หน้าไม่เปลี่ยนสีเลยแม้แต่น้อย“ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ ส่วนจะอยู่หรือจะรอด เจ้ายังคงต้องต่อสู้ด้วยตัวเจ้าเอง”อวี้ลู่เอามือไพล่หลัง เหินกลางอากาศด้วยใบหน้าแต้มรอยยิ้มน้อยๆ เงาร่างของเธอห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เพียงไม่กี่วินาที ก็เห็นเพียงจุดสีขาวเล็กๆ จุดเดียว“เหอะ วางอุบายกับสตรีศักดิ์สิทธิ์? อย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าพบเจอกับความลำบากสักหน่อยก็แล้วกัน!”อวี้ลู่ที่เหินตัวออกไปไกลแล้วใช้วิชาขจรเสียงพันลี้ส่งเสียงที่หวานใสดุจระฆังเงินเข้าสู่โสตประสาทของฉู่เฉิน เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจของเธอเกินไปแล้ว!เดิมทีเธอคิดจะสังหารพวกหลี่ว์เจิ้งหยางให้หมด แต่เมื่อกี้คำพูดของฉู่เฉินทำให้เธอเปลี่ยนใจโดยสิ้นเชิงในเมื่อเจ้ากล้าหาเรื่อง เช่นนั้นข้าก็จะปล่อยให้ผู้ฝึกปราณขั้นแปดสั่งสอน
เดิมพัน?อวี้ลู่ทำเหมือนรอบข้างไม่มีใคร เธอถามฉู่เฉินอย่างสงสัยว่า “ถ้าหากข้าไม่กลับมาช่วยเจ้า เจ้าจะทำเช่นไร?”ฉู่เฉินส่ายหน้าตอบว่า “ตายแน่นอน”สามรุมหนึ่ง หนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นยอดฝีมือฝึกปราณขั้นแปดถึงสามคน ถึงแม้ฉู่เฉินจะได้รับถ่ายทอดวิชามาจากมังกรเฒ่า แต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้นแน่นอน“เจ้า…”อวี้ลู่ไม่อยากเชื่อหูตัวเองฉู่เฉินรู้ทั้งรู้ว่าต้องตาย ยังกล้าหาเรื่องหลิวจิ่งหงกับหลี่ว์เจิ้งหยางอีก?เขาเอาความกล้ามาจากที่ใด เอาความมั่นใจมาจากไหน?“ผมทำไมล่ะ? สิ่งสำคัญคือพี่กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินยิ้มกว้างอวี้ลู่หมดคำจะพูด นี่เขากำลังเอาชีวิตมาล้อเล่นนะ“เจ้า… เจ้าไม่กลัวข้าไปแล้วไม่กลับมาหรือ?”ฉู่เฉินได้ยินก็ส่ายหน้า “พี่ยังไม่ได้ยาเก้าตะวัน ดอกอัสนีก็อยู่กับผม แม่น้ำก็ยังไม่ได้ข้าม ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะรื้อสะพาน”ดี!อวี้ลู่กำหมัดแน่นไม่นึกว่าเขาจะคำนวณถูกหมดทุกอย่างถูกหมอตัวน้อยอายุแค่ยี่สิบกว่าคนหนึ่งวางอุบายเสียจนหมดท่าเธอเป็นถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเชียวนะ!มีอายุมาพันปี กลับถูกฉู่เฉินกำไว้เสียอยู่หมัดหลี่ว์เจิ้งหยางกับหลิวจิ่งหงมองหน้าฉู่เฉ
แต่เอานี่สิจะแย่เอา ไม่มีอะไรเลยสักอย่างถ้าเขาเริ่มต่อสู้ขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยา เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าสถานการณ์นั้นจะเป็นอย่างไรปัญหาคือตอนนี้ไอ้ฉู่เฉินนั่นมันมัวทำอะไรอยู่?ไม่ถึงห้าโมงเย็นงานประมูลก็จบลงแล้ว นี่มันจะเจ็ดโมงเย็นแล้วทำไมยังไม่เห็นเงาของเขาอีกในขณะที่ทุกคนกำลังกังวลอยู่นั้น รถเบนซ์จีคลาสสีดำขับมาจากทางในเมืองด้วยความเร็ว“นั่นมันนี่!”หลี่ว์เจิ้งหยางชี้ด้วยนิ้วแหลมคมมุ่งเป้าไปที่รถของฉู่เฉิน“ตู้ม!”จู่ๆ ก้อนหินขนาดใหญ่ก็กลิ้งลงมาจากเนินเขาใกล้ๆ ปิดกั้นเส้นทางของฉู่เฉินได้ทันเวลาพอดีฉู่เฉินรีบเหยียบเบรกทันที รอยเบรกลากยาวไปกว่าสิบกว่าเมตรรถถึงจะสามารถหยุดลงได้“ไอ้หนู ลงรถมาเถอะ วันนี้นายไม่รอดแล้ว!”หลี่ว์เจิ้งหยางเอาสองมือไพล่หลังไว้ เขาค่อยๆ เดินออกมาจากข้างหลังก้อนหินขนาดใหญ่นั้นในขณะเดียวกัน หลิวจิ่งหงและผู้เชี่ยวชาญฝึกปราณระดับแปดทั้งสองคนก็ค่อยๆ เดินออกมาจากต้นไม้ โดยเดินล้อมเขา ทำให้ฉู่เฉินไปไหนไม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาผลักประตูรถแล้วกระโดดลงมา มองซ้ายมองขวา พร้อมพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดว่า “อืม เลือกสถานที่ได้ไม่เลวเลย ภ
อ๊ะ!บริเวณรอบๆ มืดสนิท ทำเอาสาวน้อยตกใจจนกรีดร้องออกมา เธอใช้ทั้งสองมือปิดหูเอาไว้ เธอเหยียบรองเท้าส้นสูงรีบวิ่งออกไปราวกับบินแต่เมื่อวิ่งออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ชนเข้ากับร่างอันร้อนรุ่มลูกแพร์ขาวเนียนลูกใหญ่ที่ไม่มีอะไรปกคลุมนั้นเกือบถูกเธอกัดเข้าอย่างไม่ตั้งใจอีกทั้งเธอยังเหมือนกับชนเข้ากับมือของผู้ชายในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทเช่นนี้ เธอเกิดอาการตื่นตระหนกและวิ่งไปทางตรงข้ามโดยไม่คิดแควก!มีเสียงดังแหลมดังขึ้น และชุดสูทที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ก็ถูกตะขอเกี่ยวจนขาดโชคดีที่เธอหลบทัน ถึงไม่ได้ถูกเกี่ยวจนได้รับบาดเจ็บแต่ร่างกายของเธอกลับรู้สึกหนาวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าทั้งชุดของเธอถูกตะขอเกี่ยวขาดทั้งชุด“พี่ลี่...”เด็กสาวตกใจกลัวและถอยหนีโดยเรียกชื่อพิธีกรขณะที่เธอถอยหนี อย่างไรก็ตาม เสียงของเธอเบาเกินไปและถูกกลบด้วยเสียงครวญครางของพิธีกรสาวสวยขณะที่เธอยังคงถอยหลัง สะโพกที่อวบอิ่มของเธอบังเอิญไปชนเข้ากับร่างกายที่กำลังขยับเขยื้อนอยู่ เธอเอื้อมมือออกไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะ!”เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเป็นก้นอวบๆ เนียนๆ ของพิธีกรสาวสวยเด็กสาวรีบชักมือกลับมาแต่
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ