อีกอย่างหมอไร้ความสามารถในเจียงจงพวกนั้น ก็ล้วนแต่ถูกเจียงไห่ตงเชิญมาวินิจฉัยดูแล้ว แม้แต่สาเหตุโรคของเจียงรั่วเหยียนก็ไม่สามารถวินิจฉัยออกมาได้ เป็นไปได้อย่างไรที่ใครสักคนจะโดดเด่นถึงขนาดที่ฮว่าจิ่วหยางยังสู้ไม่ได้?“ท่านฮว่าพูดจริงเหรอครับ? ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านผู้คนนั้นตอนนี้อยู่ที่ใดผมจะได้รีบส่งคน... ไม่สิ ผมจะไปหาเขาด้วยตัวผมเอง!”เจียงไห่ตงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง“คนผู้นี้มีชื่อว่าฉู่เฉิน ก่อนหน้านี้ได้มีคลิปที่เขารักษาโรคมะเร็งเผยแพร่ไปทั่วในอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นผมก็อยู่ในสถานการณ์จริง เห็นปาฏิหาริย์นี้ด้วยตาของตัวเอง”ฮว่าจิ่วหยางพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอะไรนะ?ฉู่เฉินงั้นเหรอ?เมื่อได้ยินชื่อนี้ เจียงไห่ตงก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้แม้ว่าคลิปนั้นเขาจะเคยเห็นมาก่อนแล้ว แต่ว่ามันบ้ามากที่จะรักษามะเร็งเต้านมได้ภายในเวลาเพียงชั่วโมงกว่า ตีเจียงไห่ตงให้ตายเขาก็ไม่เชื่อหรอกอีกทั้งยังมีข่าวลืออีกว่าฉู่เฉินเป็นคนหลอกลวงแต่เจียงหย่วนที่อยู่ข้างๆ กับตัวสั่นไปหมด ถามขึ้นมาอย่างตกใจว่า “ท่านพูดว่าอะไรนะครับ? เขาชื่อฉู่เฉินเหรอครับ?”ฮว่าจิ่วหยางพยักห
อีกด้านหนึ่ง ร้านกาแฟที่ห่างจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ไม่กี่สิบเมตรหลิ่วหรูเยียนสวมเสื้อเกาะอกและกระโปรงเอวสูง เธอชมวิวสวยข้างนอกหน้าต่างไปด้วย ดื่มกาแฟไปด้วยดวงตาที่สวยงามคู่หนึ่งจ้องมองไปที่รถตำรวจที่จอดอยู่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เป็นครั้งคราวและแอบเยาะเย้ยอยู่ในใจของเธอขอเพียงแค่ฉู่เฉินกลับมาจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ เขาก็จะถูกพาขึ้นรถตำรวจไป ขอเพียงแค่จางปินไม่ปล่อยเขาไป ไม่ว่าฉู่เฉินจะพูดปากเปียกปากแฉะ ก็ยากจะแก้ต่างเมื่อถึงตอนนั้นฉู่เฉินยังจะเข้าร่วมงานการแข่งขันแพทย์แผนจีนอะไรอีกด้วยความโหดเหี้ยมของจางปิน คาดว่าชีวิตที่เหลือของฉู่เฉินคงจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกแล้วล่ะ!ขณะเดียวกันในรถตำรวจ ตำรวจหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งสวมเครื่องแบบรัดแน่นบนหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ คลายกระดุมเม็ดที่สามที่อยู่ใต้ปกเสื้อ และพัดตัวเองด้วยมุมเสื้อหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันศีรษะและมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจหญิงอีกคนที่นั่งข้างๆ เธอ ซึ่งมีอายุราวๆ สามสิบปี มีดาวสองดวงอยู่บนไหล่ของเธอ และเธอยังคงมีเสน่ห์เหมือนเดิม “พี่เจวียน คนแซ่ฉู่นั่นหัวนอนปลายเท้าเป็นมาอย่างไรคะ ทำไมต้องให้พี่จับเขาด้วยตัวเองด้ว
“วันนี้อย่าบอกว่าพวกคุณมาเลย แม้ว่าคนของกรมตำรวจมาทั้งหมดก็อย่าได้คิดจะนำตัวนายท่านไป!”ระหว่างที่พูดอินซู่ซู่ก็ยื่นมือไปหยิบกระบี่สั้นออกมา“หืม?”จ้าวเจวียนมองไปที่อินซู่ซู่ด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง มองไปที่กระบี่สั้นในมือของเธอ หัวเราะขึ้นมาอย่างจองหอง “คุณกล้าชักกระบี่ออกมาต่อกรกับตำรวจงั้นเหรอ? รู้ไหมว่าโทษของการทำร้ายตำรวจคืออะไร?”เมื่อประโยคนี้ออกไป ฉู่เฉินก็ดึงอินซู่ซู่ไปข้างหลังเขา พูดกับเธอว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ กลับเข้าไปฝึกวิชาซะ”“นายท่าน แต่พวกเธอ...”หึ!โจวน่าส่งเสียงหึออกมา “ฉู่เฉินหากยังกล้าขัดขืนอีก พวกเรามีเหตุผลในการยิงพวกคุณข้อหาขัดขืนการจับกุมนะ!” เมื่อประโยคนี้สิ้นสุดลง โจวน่าก็หยิบปืนพกขึ้นมาทันที นำปากกระบอกปืนสีดำเล็งไปที่ฉู่เฉินฉู่เฉินหัวเราะออกมาอย่างเฉยชา สายตาของเขากวาดมองไปยังยอดหยกคู่ที่เกือบจะโผล่ออกมาของโจวน่า เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “อย่าหุนหันพลันแล่นไปสิครับ แม้ว่าพวกคุณจะมาจับผม อย่างน้อยพวกคุณก็ต้องมีหมายจับมาหรือเปล่าครับ?”“เบิกตาของคุณดู ดูให้ดีๆ !”จ้าวเจวียนดึงหมายจับที่อยู่ตรงหน้าอกของเธอยับยู่ยี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแจ็ก
อินซู่ซู่เมื่อเห็นว่าฉู่เฉินถูกนำตัวไปกับตา เธอก็เริ่มตื่นตระหนกแม้ว่าฉู่เฉินจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอก็รีบออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลฉู่และรีบมุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีตอนนี้คนที่จะช่วยเหลือฉู่เฉินได้ก็เห็นจะมีแต่โจวเทียนเฟิ่งแล้วมั้ง?เธอหวังเพียงแค่ว่าในตอนหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้โจวเทียนเฟิ่งคงจะไม่ยืนดูเฉยๆ จึงจะดีหลิ่วหรูเยียนที่ถูกผลักล้มลงกับพื้น มองดูฉู่เฉินที่เดินจากไปไกล ก็โมโหจนกระทืบเท้า!ฉู่เฉินมันกล้าดีอย่างไร!จนถึงตอนนี้แล้วเขายังกล้าทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้กับเธออีก มันสมควรตายจริงๆ !“แม้ว่าจางปินจะปล่อยแกไป แต่ฉันไม่มีทางปล่อยแกไปแน่!”หลิ่วหรูเยียนตะโกนไปทางรถที่ขับออกไปไกลอย่างสุดเสียงจ้าวเจวียนที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ ก็มองฉู่เฉินผ่านกระจกหลัง “จนถึงตอนนี้แล้ว แกยังมีอารมณ์มาทะเลาะกันอีกเหรอ? ดูท่าแกคงไม่รู้จริงๆ สินะว่าอยู่กับตายเป็นอย่างไร”ฉู่เฉินเม้มริมฝีปากของเขา “ผมใช่ว่าอยากจะว่าคุณนะ แต่คุณจะต้องชดใช้แสนสาหัสกับสิ่งที่คุณทำวันนี้อย่างแน่นอน”“บางคน บางเรื่อง ไม่ได้ง่ายแบบที่คุณคิดหรอกนะ”พูดเสร็จฉู่เฉินไม่อยากจะสนใจจ้าวเจวียนอีกต่อไป เขาจึงเอ
ดวงตาที่สดใสและโต พร้อมด้วยรอยหัวเราะที่ชัดเจนและมองเห็นได้สองรอยใต้เบ้าตาใต้จมูกอันบอบบางราวกับหยกของเธอที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เริ่มไหลลงมาเล็กน้อย มีริมฝีปากสีแดงสดน่ามองสองข้าง เผยให้เห็นฟันที่ขาวราวกับหยกอีกทั้งเธอยังจัดอยู่ในรูปร่างอวบเล็กน้อยไม่เพียงแต่เจ้าเนื้อ ทั้งยังใหญ่ในที่ควรจะใหญ่ งอนในที่ที่ควรจะงอนขาเปลือยที่ยาวและสง่างามใต้โต๊ะแม้จะไม่ได้ประดับประดาอะไรแต่ก็ดูสวยงามตามฉบับสำหรับโจวน่าที่อยู่ข้างๆ เธอก็ไม่ได้แพ้หลิ่วหรูเยียนเลย โดยเฉพาะบั้นท้ายที่โค้งงอนนั้น เพียงแค่มองเธอแค่ครั้งเดียวก็สามารถกระตุ้นความต้องการของผู้ชายได้เลยแม้หน้าอกจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าจ้าวเจวียน แต่มันก็ถือว่าใหญ่พอสมควรถ้าวัดด้วยสายตาแล้วอย่างน้อยก็ต้องสามสิบหกอี!เพียงแต่ว่าขาสวยเล็กราวยาวคู่นั้น ใครก็ตามที่แต่งงานกับความงามอันน่าหลงใหลเช่นนี้ก็คงได้เสพสุขอย่างหนำใจไปตลอดชีวิตเลยล่ะ“ทำให้เขาได้สติก่อน”ดวงตาของฉู่เฉินเต็มไปด้วยการคุกคามขณะที่เขาจ้องมองทั้งสองคน เขากลับไม่ได้ตอบอะไร จ้าวเจวียนได้หมดความอดทนแล้ว เธอเหลือบมองโจวน่าที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นว่าโจวน่าหยิบกระดาษที่พรินต์ออ
ในตอนนั้นเอง โจวเทียนเฟิ่งที่กำลังอยู่ในห้องอาบน้ำของวิลล่า แช่น้ำด้วยกลีบดอกไม้ นมสีขาวขุ่นกระเพื่อมเล็กน้อยในอ่างอาบน้ำ ในขณะที่มือเรียวเล็กของเธอค่อยๆ ยกมันขึ้น นมในอ่างอาบน้ำก็ไหลลงมาที่คอของเธอ และตกลงบนยอดหยกสูงของเธอนี่เป็นวิธีการดูแลผิวที่โจวเทียนเฟิ่งชอบที่สุดในหลายปีที่ผ่านมานี้ เธออายุสามสิบกว่าแล้ว และด้วยการอาศัยเทคนิคลับนี้ที่เธอสามารถทำให้ผิวของเธอขาวและเรียบเนียนได้ไม่ด้อยกว่าเด็กสาวในขณะที่โจวเทียนเฟิ่งกำลังเพลิดเพลินกับแสงแดดและอาบน้ำนมอยู่นั้น ข้างนอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูอย่างร้อนรนดังขึ้นมา“อาเจ๊ แย่แล้วล่ะ เกิดเรื่องแล้วครับ!”ข้างนอกประตูมีเสียงของจงอาหู่ที่ดูร้อนรนดังขึ้นมาหืม?โจวเทียนเฟิ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดกับจงอาหู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามรบกวนตอนฉันอาบน้ำ? ยังไม่รีบกลับไปอีก!”“แต่ว่า...”ไม่รอให้จงอาหู่พูดจบ โจวเทียนเฟิ่งก็ตัดบทขึ้นมาอย่างรำคาญ “แต่ว่าอะไร! ต่อให้ฟ้าถล่มก็ต้องรอให้ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วค่อยพูด ออกไปซะ!” จงอาหู่จิปาก หันหน้าไปมองอินซู่ซู่ที่สีหน้าวิตกกังวล“เจ้าสำนักเฟิ่ง นายท่านถูกคนของกรม
...“ท่านหลงแย่แล้วล่ะครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คนของสำนักเฟิ่งเคลื่อนไหวแล้วครับ!”คนที่เข้ามารายงานรีบร้อนวิ่งเข้ามาในห้องของจางหลงอย่างกระวนกระวาย เช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาอะไรนะ?จางหลงขมวดคิ้ว สูบซิการ์ พูดขึ้นมาอย่างกลัดกลุ้มใจ “โจวเทียนเฟิ่งนางพวกนั้นบ้าไปแล้วเหรอ? เธอไม่กลัวถูกกรมตำรวจไปหาที่บ้านหรืออย่างไร?”จิ!พูดถึงตรงนี้จางหลงก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมา พูดกับคนที่มารายงานว่า “ไป ไปถามมาให้แน่ชัด สำนักเฟิ่งจะมาไม้ไหน...”“ท่านหลง!”ไม่รอให้จางหลงพูดจบ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว หอบหายใจพูดว่า “เกิดเรื่องแล้วครับ ผู้มีพระคุณของท่านถูกปีศาจโลหิตของเขตซีเฉิงจับกุมไปครับ!”อะไรนะ!จางหลงได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็เผยให้เห็นความอาฆาต!กล้ายุ่งกับฉู่เฉิน นั่นก็หมายถึงกล้าต่อกรกับจางหลง!ในเจียงจงนี้เขาได้ประกาศไปทั่วแล้วว่าฉู่เฉินเป็นผู้มีพระคุณของเขา ใครกล้าแตะต้องฉู่เฉินก็เท่ากับว่าแตะต้องจางหลงเหมือนกัน!“ให้คุณไป๋มากับฉัน แล้วไปพบเจียงเหวินป๋อจากเขตซีเฉิงด้วยกัน!”เมื่อพูดจบ จางหลงก็เรียกลูกน้องที่มารายงานเรื่องไว้ หรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “แจ้งลูก
“เสียงข้างในนั่นมันอะไรกัน?”หนึ่งในตำรวจมองไปยังทางเดินห้องสอบปากคำด้วยความสงสัย“เป็นไปได้สูงว่าพี่เจวียนน่าจะใช้วิธีพิเศษในการสอบปากคำหรือเปล่า อาชญากรครั้งก่อนก็เป็นตัวอย่างแล้วนี่”ตำรวจอายุราวๆ สามสิบกวาดสายตามองไปข้างในแวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารในมือของตัวเอง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้นำเรื่องนั้นมาใส่ใจเลยสักนิด อีกทั้งยังไม่ได้ตรวจสอบดูความผิดปกติตรงนั้นด้วย“พี่หลี่ ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่ไม่ปกติ แต่มันก็ไม่ควรเป็นเสียงแบบนี้ไหมครับ?”ตามมาด้วยเสียงจากทางเดินที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆ แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มยังสังเกตถึงความผิดปกติเรื่องแบบนี้ ไม่เคยกินหมูก็จะไม่เคยเห็นหมูวิ่งงั้นเหรอ?อย่างน้อยก็คงต้องเคยดูหนังเพศศึกษาบ้างใช่ไหม?“นายคงยังไม่รู้สินะว่าอาญชากรครั้งก่อนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมสารภาพ นายรู้ไหมว่าพี่เจวียนให้เขาปริปากสารภาพอย่างไร?”คนที่ชื่อหลี่เกอตบเข้าที่ไหล่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มนั้นแล้วยิ้ม“ไม่... ไม่รู้ครับ...”เจ้าหน้าที่ตำรวจมองไปที่ห้องสอบปากคำอย่างไม่สบายใจ เขาไม่ได้กังวลจ้าวเจวียน แต่เขากังวลโจวน่าแฟนสาวของเขาเขา
“อีกอย่างก็คือฝีมือของคุณ ครั้งหน้าถ้าจะปลอมตัวเป็นมืออาชีพแบบนี้อีก ทางที่ดีควรเรียนรู้ให้มาก ๆ ก่อนนะ อย่าให้แข็งกระด้างเหมือนนวดศพ คนที่มีประสบการณ์นิดหน่อย เห็นแวบเดียวก็ดูคุณออกแล้ว”ฉู่เฉินทำหน้ายิ้มหยันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับเสี่ยวหนาน ความหวาดกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจบนใบหน้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่าครั่นคร้ามตามการวิเคราะห์ทีละขั้นของฉู่เฉิน!“เดิมทีอยากให้คุณไปอย่างไร้ความทรมานโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายมากที่คุณไม่รู้จักถนอมเอง” สิ้นเสียงพูด เสี่ยวหนานพลันชักมีดสั้นสองเล่มออกมาจากด้านหลัง ร่างกายอ้อนแอ้นฉับไวราวกับอสรพิษ แทงตรงไปที่ลำคอของฉู่เฉิน! “ฝึกฝนสิบปีถึงจะได้ร่วมเรือข้ามฟาก ร้อยปีถึงได้ร่วมนวดน้ำมัน คุณลงมืออำมหิตขนาดนี้ คนที่บ้านคุณรู้บ้างหรือเปล่า?”ฉู่เฉินรีบหลบการโจมตีถึงแก่ชีวิตของเสี่ยวหนาน จากนั้นก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ป๊าบ! ฉู่เฉินจับข้อมือของเธอได้แล้วชัด ๆ แต่น้ำมันในมือลื่นมากเกินไป ไม่เพียงทำให้เสี่ยวหนานสลัดหลุดได้ทันที นอกจากนี้ยังแทงมีดสั้นใส่ ท้องน้อยของฉู่เฉินหนึ่งที ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้น
เสี่ยวหนานเพิ่งจะมาอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน กลิ่นหอมประหลาดนั้นพลันรุนแรงขึ้นสุดขีดฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานโดยไม่แสดงอารมณ์ ก่อนจะพูดกับหญิงวัยกลางคนว่า “อืม เอาเธอละกัน ให้คนอื่นออกไปให้หมดเถอะ” หญิงวัยกลางคนเข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ก่อนออกจากห้อง เธอยังตั้งใจช่วยฉู่เฉินปิดประตูห้องให้เรียบร้อย ฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าฝีมือของคุณไม่เลวเอามาก ๆ?”เสี่ยวหนานหลุบตาลงต่ำ ไม่ออกความเห็น ท่าทางเหมือนเขินอายสุดขีดฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนอนคว่ำอยู่บนเตียงนวดแล้วพูดว่า “คุณเริ่มได้เลย”เสี่ยวหนานถึงค่อยเบิกตาขึ้นมา นัยน์ตาส่องประกายคู่นั้นเปล่งรัศมีเย็นเยียบออกมาราง ๆหลังจากที่จ้องมองฉู่เฉินสิบกว่าวินาที เสี่ยวหนานถึงค่อยหยิบน้ำมันนวดหลังจากทางด้านข้าง ก่อนจะเลิกเสื้อของฉู่เฉินขึ้นแล้วราดน้ำมันบนแผ่นหลังของฉู่เฉิน“คุณผู้ชายคะ กล้ามเนื้อที่หลังของคุณแน่นมากเลยนะคะ”เสี่ยวหนานนวดน้ำมันให้ฉู่เฉินพลางเอ่ยเสียงหวานฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าผิวบนหลังของคุณจะดีหรือเปล่า?”“อุ๊ย คุณนี่ร้ายจังเลยนะคะ คิดจะถอดเสื้อผ้าคนอื่นอยู่นั่นแ
“ว้าย...”โจวเทียนเฟิ่งร้องอุทาน รีบใช้ผ้าขนหนูบังดวงหน้าเล็ก ๆ ไว้ ทว่าวินาทีต่อมา เธอก็โดนฉู่เฉินผลักลงบนเตียง .....รุ่งเช้าฉู่เฉินนอนหลับยาวจนตะวันสายโด่งขณะที่กำลังกินอาหารเช้า ฟางอวี่เจิ้งก็โทรศัพท์เข้ามา“คุณฉู่ ตอนนี้คุณสะดวกไหมครับ?” อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ฟางอวี่เจิ้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม “สะดวกครับ คุณส่งตำแหน่งมาให้ผมเลยก็พอ แล้วผมจะไปหาคุณ”ฉู่เฉินกินข้าวไปด้วย พูดไปด้วย“ได้ครับ”ฟางอวี่เจิ้งตอบรับแล้วก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานก็มีข้อความแชร์ตำแหน่งถูกส่งมาที่โทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินพอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉู่เฉินก็พลอดรักกับโจวเทียนเฟิ่งสักพักแล้วค่อยออกจากเทียนเฟิ่งวิลล่า ขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านนวดอวิ๋นไท่เพิ่งจะจอดรถเสร็จ ฟางอวี่เจิ้งก็ก้าวลงมาจากรถเก๋งสีขาวที่อยู่ทางด้านหน้า “คุณฉู่ ร้านนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดในเจียงจงแน่นอนครับ”ฟางอวี่เจิ้งพูดพลางมีท่าทางเหมือนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วนิดหน่อยฉู่เฉินกวาดตามองฟางอวี่เจิ้งแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ประธานฟาง ร่างกายคุณไหวเหรอครับ?”“เอ่อ...ยังพอไหวนะครับ...”ฟางอวี่เจิ้งทำหน้ายิ้มแย้มพลางพาฉู่เฉิ
การเริงรักนี้ทำให้โจวเทียนเฟิ่งดื่มด่ำเต็มอิ่มจริง ๆพูดตามตรง ฉู่เฉินไม่ได้มาเยี่ยมเยียนเธอเกือบหนึ่งเดือนแล้วแม้ว่าในจะคิดถึงมากและร้อนรนมาก แต่เธอรู้สถานะของเธอที่อยู่ข้างกายฉู่เฉินดี อย่างมากสุดก็เป็นได้แต่หนึ่งในคนรักมากมายของเขาเท่านั้นด้วยเหตุนี้ เธอเลยได้แต่อดกลั้นแล้วอดกลั้นอีกวันนี้ก็ถือว่าได้พบเจอสายฝนหลังจากที่แห้งแล้งมาเนิ่นนาน“คุณมันเจ้าตัวป่วน ทำไมขนาดประตูก็ยังไม่ปิด ถ้าเกิดคนมาเห็นเข้าจะทำยังไง”จนกระทั่งเสร็จกิจแล้ว โจวเทียนเฟิ่งถึงค่อยสังเกตเห็นว่าประตูห้องหนังสือเปิดอ้ามาตลอด ถ้าอย่างนั้นคนอื่นคงจะได้ยินเสียงเมื่อกี้ของเธอหมดแล้วใช่หรือเปล่า? โจวเทียนเฟิ่งพูดพลางจะไปปิดประตู ฉู่เฉินกลับอุ้มเอวของเธอขึ้นมาจากด้านหลัง“อ๊าย คุณนี่มันร้ายชะมัด รีบปล่อยฉันลงเลยนะ” ฉู่เฉินหัวเราะหึ ๆ ไฉนเลยจะสนใจการดิ้นรนของเธอ เขาเดินไม่กี่ก้าวก็อุ้มโจวเทียนเฟิ่งเข้าไปในห้องน้ำในขณะที่ฉู่เฉินเตรียมตัวจะแสดงพลังกระตือรือร้นอีกครั้ง โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือพลันดังขึ้นมาจากนั้นก็เห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ฉู่เฉินกดตัดสายทันที แต่ฉู่เฉินยังไม่ทันโน้มตัวลงไป โทรศัพท์ก็ด
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ