เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในล็อบบี้ชั้นหนึ่งรีบออกจากกรมเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นโจวเทียนเฟิ่งยืนอยู่หน้าประตูนั้นก็ต่างพากันถอยหลังกลับไปอย่าทำให้โมโห!ทำให้โมโหไม่ได้เด็ดขาด!อย่าคิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ในโลกใต้ดินเธอขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุด!แค่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งจะกล้าไปยั่วโมโหคนแบบเธอได้อย่างไร?“พี่เฟิ่ง ผม... เดี๋ยวผมจะไปแจ้งให้นะครับ พี่รอสักครู่”หลี่เกอเอามือกุมรอยฝ่ามือนั้นไว้ หันหน้าแล้ววิ่งไปทางห้องทำงานอธิบดีชั้นสาม……ในตอนนั้นเอง เจียงเหวินป๋อสีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเดินตรงไปยังห้องทำงาน ในตอนที่เขาค้นพบความผิดปกตินั้น เขาก็อยากจะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแต่เมื่อเขาลองสังเกตการณ์ดูการเคลื่อนไหวรอบๆ แล้ว เขาก็สิ้นหวังอย่างถึงขีดสุดแม้แต่หูโข่วสถานที่ที่ห่างไกลแบบนี้ก็เต็มไปด้วยคนของสำนักเฟิ่ง แต่ละคนดุดันน่าเกรงขาม ในมือล้วนแต่ถือมีดไว้ หากเขาออกไปอาจจะโดนหั่นเป็นชิ้นๆ ก็ได้ใช่ไหม?เมื่อถึงตอนนั้น โจวเทียนเฟิ่งก็หาลูกน้องคนสองคนมารับผิด แบบนั้นเขาก็ไม่ได้ตายฟรีเหรอ?เฮ้อ!เจียงเหวินป๋อขยี้บุหรี่ที่เขาพึ่ง
“ข้างในนั้นมันเสียงอะไรกัน? หรือว่านอกจากคุณฉู่แล้วยังมีคนอื่นที่ถูกจับกุมมาอีกเหรอ?”โจวเทียนเฟิ่งรีบหันหน้าไปมองอินซู่ซู่ถ้าแฟนของฉู่เฉินหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขาถูกนำตัวเข้าไปในห้องสอบปากคำด้วย เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นในตอนนี้ โจวเทียนเฟิ่งคงจะชักจูงผู้คนให้รีบเข้าไปถลกหนังของเจียงเหวินป๋อทั้งเป็น!เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะโจวเทียนเฟิ่งที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องคิดก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าเสียงร้องนั่นหมายถึงอะไร!“ไม่... ไม่มีนะคะ มีแค่นายท่านที่ถูกจับขึ้นรถตำรวจไปนะคะ”อินซู่ซู่แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเทียนเฟิ่งถึงได้ร้อนรนเช่นนี้ แต่เธอก็ตอบกลับไปอย่างแผ่วเบาเมื่อได้ยินดังนั้น โจวเทียนเฟิ่งถึงได้สบายใจขึ้นมา หันหน้าไปทางเจียงเหวินป๋อพูดขึ้นมาว่า “เจียงเหวินป๋อ ฉันให้เวลานายคิดแค่หนึ่งนาทีว่าจะปล่อยเขาหรือไม่!”เจียงเหวินป๋อวางมือไว้ด้านหลังแล้วมองไปที่โจวเทียนเฟิ่ง “เจ้าสำนักเฟิ่งแม้ว่าสำนักเฟิ่งจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีทางใหญ่ไปกว่ากฎหมายบ้านเมืองใช่ไหมครับ? อย่าคิดว่าผมเจียงป๋อเหวินกลัวคุณ!”“ผมจะบอกความจริงอะไรให้คุณอย่างหนึ่ง
“จางหลง คุณจะทำอะไร? คุณยังต้องการให้คนของคุณลอบสังหารตำรวจเหรอ?”หากจะบอกว่าเจียงเหวินป๋อไม่กลัวนั่นก็คงจะเป็นการโกหก!ไป๋ชางที่อยู่ข้างหลังจางหลงเป็นถือเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!แม้ว่าจะมีตำรวจถือปืนหลายสิบคนอยู่รอบๆ แต่ต่อหน้าปรมาจารย์แล้ว ปืนที่อยู่ในมือพวกเขานั้นก็ไม่ต่างจากของเล่นมากมายนักหากไป๋ชางลงมือ เจียงเหวินป๋อต้องตายอย่างแน่นอน!“ไม่กล้าครับ!”จางหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากอธิบดีเจียงไม่ให้เกียรติผมจางหลง ผมก็ไม่จำเป็นต้องออมมือ!”ซี้ดๆ!ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันสูดหายใจแรง จางหลงกำลังวางแผนกบฏหรือเปล่า?ต่อหน้าปรมาจารย์ตำรวจในห้องโถงก็ต่างพากันก้าวถอยหลังไป พวกเขากลัวว่าจะต้องมาตายแทนเจียงเหวินป๋อ“หยุดนะ!”ขณะที่ไป๋ชางกำลังเตรียมจะลงมือ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากนอกประตู!“ปังๆๆ !”ตามมาด้วยเสียงปืนสามนัดทุกคนในห้องโถงพากันมองออกไปข้างนอกประตูชายหนุ่มสวมชุดมังกรสีฟ้าและรองเท้าบู๊ททหารปรากฏตัวขึ้น เดินอย่างสง่างามและบนใบหน้าของเขาดูเต็มไปด้วยความมีอำนาจข้างหลังของเขายังมีกลุ่มชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับเขาตามห
ครั้งนี้สวี่จวินตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงที่โจวน่าส่งเสียงร้องออกมา!อีกทั้งเขาและเธอคบกันมาเกือบจะสามเดือนแล้ว แม้แต่มือของเธอเขาก็ยังไม่เคยได้จับ วันนี้กลับได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังออกมาจากห้องสอบปากคำ เขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป หันร่างไปแล้ววิ่งไปยังห้องสอบปากคำที่อยู่สุดทางเดินยิ่งเข้าใกล้ประตูเหล็กสีดำสนิทนั้นเท่าไหร่ เสียงของโจวน่าก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสวี่จวินหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ“น่าน่า!”สวี่จวินเอาตัวแนบกับประตูเหล็ก ตะโกนเข้าไปข้างในห้องสอบปากคำแต่ไม่มีเสียงตอบรับเขาเลย!นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ใบหน้าของสวี่จวินแนบชิดไปกับประตูเหล็ก เขาแทบอยากจะมุดหัวเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดให้มันรู้กันไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ประตูเหล็กหนามาก นอกจากความเย็นเฉียบแล้ว ก็มีเพียงเสียงที่ดังมาจากข้างในห้องสอบปากคำดวงตาของสวี่จวินแดงไปหมด เขามั่นใจแล้วว่าเสียงที่เขาได้ยินตั้งแต่แรกเป็นเสียงของโจวน่า!ขณะนั้นเองสวี่จวินดูเหมือนเป็นคนเลี้ยงสัตว์ที่บริสุทธิ์ และในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม!“นังแพศยาพวกนี้! ฉ
ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่สุดทางเข้าห้องโถงขณะนี้ เจียงเหวินป๋อรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถือหนังสือ 'เหตุผลหมื่นข้อ' ไว้ในใจ โดยมีเสียงของจ้าวเจวียนเมื่อกี้ดังก้องอยู่ในใจของเขา เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืมไม่ได้การแล้ว!เจียงเหวินป๋อที่แต่เดิมจะกลับไปยังห้องทำงาน จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้าลง หันร่างเดินไปทางห้องสอบปากคำได้ยินเสียงฝีเท้าที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที ฉู่เฉินก็แสยะยิ้มร้ายออกมา “อธิบดีเจียงกำลังแอบฟังอยู่หน้าประตู คุณไม่กลัวว่าเขาจะได้ยินเหรอ?”จ้าวเจวียนในตอนนี้จะมีเวลาไปสนใจอธิบดีเจียงได้อีกล่ะ?“อย่างนั้นก็ให้เขาฟังให้ดีๆ! ใครใช้ให้เขาไร้น้ำยากันล่ะ!”นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ในเมื่อเธอก็คนเหมือนกันแม่งเอ๊ย!จ้าวเจวียนชักจะทำตามอำเภอใจเกินไปแล้วนะ หน้าไม่อายจริงๆ!เจียงเหวินป๋อที่เอาหูแนบกับประตูเหล็กเพื่อแอบฟัง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็นูนให้เห็นอย่างชัดเจน!ผู้หญิงที่พูดประโยคนั้นข้างใน ถ้าไม่ใช้จ้าวเจวียนแล้วจะเป็นใครได้?!นังสารเลวนี่ กล้าดีอย่างไร!กล้าพูดออกมาว่าเขาไร้น้ำยาได้อย่างไร?!โมโห!เจียงเหวินป๋อตอนนี้อยากจะบุกเข้าไปฆ่าชายหญิงสารเลวคู่นี้ให้รู้แล้
“พ่อ เมื่อครู่สถานการณ์ค่อนข้างจะฉุกละหุก ผมเลยไม่มีเวลามาอธิบายอย่างละเอียดให้พ่อฟัง!”เจียงหย่วนรีบอธิบายให้เจียงไห่ตงที่อยู่ปลายสาย “เรื่องเป็นแบบนี้ครับ ตอนที่ผมรีบไปหาคุณฉู่ คุณฉู่ถูกคนของเขตซีเฉิงพาตัวไปแล้ว!”“ดังนั้นผมจึงพาคนมาช่วยเหลือคุณฉู่ แต่ว่า... เจียงเหวินป๋อไอ้สารเลวนั่นมันไม่ยอมปล่อยตัว เขายังเล่นกลอุบายทรมานและขู่กรรโชกคำสารภาพต่อหน้าแก๊งมังกรของเราอีกด้วยครับ!”พูดจบเจียงหย่วนถือหูโทรศัพท์ไปทางทิศทางของทางเดินแล้วพูดกับเจียงไห่ตงว่า “ไม่เชื่อพ่อลองฟังดูสิครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ถูกทรมานนั้นเป็นใคร แต่ผมพูดได้เลยว่าต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอนครับ!”เจียงไห่ตงไม่มีเวลาฟังเสียงร้องคร่ำครวญจากการถูกลงโทษอะไรหรอกนะ เขารีบพูดกับเจียงหย่วนที่อยู่ปลายสายว่า “ฉันเข้าใจแล้ว แกอย่าใจร้อนไป เดี๋ยวฉันจะโทรหาเจียงเหวินป๋อเดี๋ยวนี้!” พูดเสร็จ เจียงไห่ตงก็ตัดสายทิ้งทันทีผ่านไปไม่นาน ตรงสุดทางเดินก็มีเสียงสายเรียกเข้าของเจียงเหวินป๋อดังขึ้นมาทำเอาเจียงเหวินป๋อที่กำลังจดจ่อกับการฟังเสียงตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน เกือบหัวใจวายในตอนนั้นเลย!เขาตั้งสติอยู่พักหนึ่ง เจี
ในที่สุดเจียงไห่ตงก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไป และตะโกนเสียงดังใส่คนขับที่อยู่ประตูหน้า “ใครก็ได้ ออกรถ! ฉันจะไปดูที่กรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยตัวเอง เจียงเหวินป๋อยังเคารพผู้อำนวยการใหญ่แบบฉันอยู่ไหม?ในระหว่างที่เขาพูดนั้น คนขับรถก็รีบนำขับรถที่เจียงไห่ตงนั่งอยู่ออกไปทางหน้าประตูเจียงไห่ตงมุ่งหน้าไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยความโมโห อีกด้านหนึ่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากเจียงจงก็รวมพลกันแล้ว!ขณะเดียวกัน กรมตำรวจทั้งเมืองระดมกำลังเกือบเต็มที่เพื่อสอบสวนเหตุการณ์การทำร้ายและการบาดเจ็บของฉู่เฉินเดิมทีคดีแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย อีกอย่างคนที่หักขาทั้งสองข้างของจางไห่หยางไม่ใช่ฉู่เฉินแต่อย่างใด แต่เป็นโจวฉีหลินดังนั้นไม่นานก็มีคนส่งรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงในขณะที่เจียงเหวินป๋อร้อนรนรอผลการสอบสวนเหมือนมดไต่หม้อร้อนนั้น สวี่จวินก็วิ่งเข้ามาที่ห้องทำงานของเจียงเหวินป๋อด้วยความรวดเร็ว “อธิบดีเจียง แย่แล้วล่ะครับ อธิบดีเจียงมาด้วยตัวเองครับ!” อะไรนะ?!เจียงเหวินป๋อได้ยินดังนั้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งร่าง!ไม่ต้องถามเขาต้องมาเพื่อฉู่เฉินแน่ๆ !เชี่ยเ
อีกด้านของประตูเหล็ก ประตูเหล็กหนาสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ากำลังโต้ตอบเจียงเหวินป๋อเหมือนประตูทั้งบานจะพังเมื่อไรก็ได้!เมื่อเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ตำรวจในเขตจำนวนไม่น้อยต่างพากันล้อมเอาไว้“ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”“พี่สะใภ้... เธอไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรใช่ไหมครับ?”“แฟนของผมโจวน่าก็อยู่ข้างใน ทุกคนรีบหาวิธีช่วยคนออกมาเถอะครับ!”เมื่อเห็นว่าประตูเหล็กหนานั่นสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนก็ต่างพากันกระวนกระวายตำรวจหลายนายหยิบปืนพกขึ้นมา ยิงเข้าไปที่ประตูเหล็กแต่กระสุนพุ่งเข้าไปบนประตูเหล็ก หลายไว้เพียงแค่รอยสีขาวๆ เท่านั้นทุกคนต่างพากันคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ประเหล็กบานนั้นก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อนแต่อย่างใดเมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงไห่ตงก็รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่ามีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับฉู่เฉิน?“เจียงหย่วน เร็วเข้า เปิดประตูเหล็กนั้นออก!”ตอนนี้เจียงไห่ตงแค่ต้องการแน่ใจว่าฉู่เฉินปลอดภัยดี ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่สามารถสนใจได้หมด“บุกเข้าไป เปิดประตูออก!”เจียงหย่วนก็ร้อนใจตะคอกออกมาเสียงดังปังๆๆ !สมาชิกทั้งสี่คนของแก๊งมังกรใช้พละกำลังทั้งหม
“อีกอย่างก็คือฝีมือของคุณ ครั้งหน้าถ้าจะปลอมตัวเป็นมืออาชีพแบบนี้อีก ทางที่ดีควรเรียนรู้ให้มาก ๆ ก่อนนะ อย่าให้แข็งกระด้างเหมือนนวดศพ คนที่มีประสบการณ์นิดหน่อย เห็นแวบเดียวก็ดูคุณออกแล้ว”ฉู่เฉินทำหน้ายิ้มหยันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับเสี่ยวหนาน ความหวาดกลัวและความน้อยเนื้อต่ำใจบนใบหน้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่าครั่นคร้ามตามการวิเคราะห์ทีละขั้นของฉู่เฉิน!“เดิมทีอยากให้คุณไปอย่างไร้ความทรมานโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายมากที่คุณไม่รู้จักถนอมเอง” สิ้นเสียงพูด เสี่ยวหนานพลันชักมีดสั้นสองเล่มออกมาจากด้านหลัง ร่างกายอ้อนแอ้นฉับไวราวกับอสรพิษ แทงตรงไปที่ลำคอของฉู่เฉิน! “ฝึกฝนสิบปีถึงจะได้ร่วมเรือข้ามฟาก ร้อยปีถึงได้ร่วมนวดน้ำมัน คุณลงมืออำมหิตขนาดนี้ คนที่บ้านคุณรู้บ้างหรือเปล่า?”ฉู่เฉินรีบหลบการโจมตีถึงแก่ชีวิตของเสี่ยวหนาน จากนั้นก็ยื่นมือไปคว้าข้อมือของเธอไว้ป๊าบ! ฉู่เฉินจับข้อมือของเธอได้แล้วชัด ๆ แต่น้ำมันในมือลื่นมากเกินไป ไม่เพียงทำให้เสี่ยวหนานสลัดหลุดได้ทันที นอกจากนี้ยังแทงมีดสั้นใส่ ท้องน้อยของฉู่เฉินหนึ่งที ฉู่เฉินรีบกระโดดขึ้น
เสี่ยวหนานเพิ่งจะมาอยู่ตรงหน้าฉู่เฉิน กลิ่นหอมประหลาดนั้นพลันรุนแรงขึ้นสุดขีดฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานโดยไม่แสดงอารมณ์ ก่อนจะพูดกับหญิงวัยกลางคนว่า “อืม เอาเธอละกัน ให้คนอื่นออกไปให้หมดเถอะ” หญิงวัยกลางคนเข้าใจทันที แล้วโบกมือให้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ก่อนออกจากห้อง เธอยังตั้งใจช่วยฉู่เฉินปิดประตูห้องให้เรียบร้อย ฉู่เฉินมองเสี่ยวหนานอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ได้ยินว่าฝีมือของคุณไม่เลวเอามาก ๆ?”เสี่ยวหนานหลุบตาลงต่ำ ไม่ออกความเห็น ท่าทางเหมือนเขินอายสุดขีดฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะนอนคว่ำอยู่บนเตียงนวดแล้วพูดว่า “คุณเริ่มได้เลย”เสี่ยวหนานถึงค่อยเบิกตาขึ้นมา นัยน์ตาส่องประกายคู่นั้นเปล่งรัศมีเย็นเยียบออกมาราง ๆหลังจากที่จ้องมองฉู่เฉินสิบกว่าวินาที เสี่ยวหนานถึงค่อยหยิบน้ำมันนวดหลังจากทางด้านข้าง ก่อนจะเลิกเสื้อของฉู่เฉินขึ้นแล้วราดน้ำมันบนแผ่นหลังของฉู่เฉิน“คุณผู้ชายคะ กล้ามเนื้อที่หลังของคุณแน่นมากเลยนะคะ”เสี่ยวหนานนวดน้ำมันให้ฉู่เฉินพลางเอ่ยเสียงหวานฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่รู้ว่าผิวบนหลังของคุณจะดีหรือเปล่า?”“อุ๊ย คุณนี่ร้ายจังเลยนะคะ คิดจะถอดเสื้อผ้าคนอื่นอยู่นั่นแ
“ว้าย...”โจวเทียนเฟิ่งร้องอุทาน รีบใช้ผ้าขนหนูบังดวงหน้าเล็ก ๆ ไว้ ทว่าวินาทีต่อมา เธอก็โดนฉู่เฉินผลักลงบนเตียง .....รุ่งเช้าฉู่เฉินนอนหลับยาวจนตะวันสายโด่งขณะที่กำลังกินอาหารเช้า ฟางอวี่เจิ้งก็โทรศัพท์เข้ามา“คุณฉู่ ตอนนี้คุณสะดวกไหมครับ?” อีกฟากหนึ่งของโทรศัพท์ ฟางอวี่เจิ้งเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคารพนอบน้อม “สะดวกครับ คุณส่งตำแหน่งมาให้ผมเลยก็พอ แล้วผมจะไปหาคุณ”ฉู่เฉินกินข้าวไปด้วย พูดไปด้วย“ได้ครับ”ฟางอวี่เจิ้งตอบรับแล้วก็วางสายโทรศัพท์ ไม่นานก็มีข้อความแชร์ตำแหน่งถูกส่งมาที่โทรศัพท์มือถือของฉู่เฉินพอกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ฉู่เฉินก็พลอดรักกับโจวเทียนเฟิ่งสักพักแล้วค่อยออกจากเทียนเฟิ่งวิลล่า ขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านนวดอวิ๋นไท่เพิ่งจะจอดรถเสร็จ ฟางอวี่เจิ้งก็ก้าวลงมาจากรถเก๋งสีขาวที่อยู่ทางด้านหน้า “คุณฉู่ ร้านนี้เป็นร้านที่ดีที่สุดในเจียงจงแน่นอนครับ”ฟางอวี่เจิ้งพูดพลางมีท่าทางเหมือนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้วนิดหน่อยฉู่เฉินกวาดตามองฟางอวี่เจิ้งแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ประธานฟาง ร่างกายคุณไหวเหรอครับ?”“เอ่อ...ยังพอไหวนะครับ...”ฟางอวี่เจิ้งทำหน้ายิ้มแย้มพลางพาฉู่เฉิ
การเริงรักนี้ทำให้โจวเทียนเฟิ่งดื่มด่ำเต็มอิ่มจริง ๆพูดตามตรง ฉู่เฉินไม่ได้มาเยี่ยมเยียนเธอเกือบหนึ่งเดือนแล้วแม้ว่าในจะคิดถึงมากและร้อนรนมาก แต่เธอรู้สถานะของเธอที่อยู่ข้างกายฉู่เฉินดี อย่างมากสุดก็เป็นได้แต่หนึ่งในคนรักมากมายของเขาเท่านั้นด้วยเหตุนี้ เธอเลยได้แต่อดกลั้นแล้วอดกลั้นอีกวันนี้ก็ถือว่าได้พบเจอสายฝนหลังจากที่แห้งแล้งมาเนิ่นนาน“คุณมันเจ้าตัวป่วน ทำไมขนาดประตูก็ยังไม่ปิด ถ้าเกิดคนมาเห็นเข้าจะทำยังไง”จนกระทั่งเสร็จกิจแล้ว โจวเทียนเฟิ่งถึงค่อยสังเกตเห็นว่าประตูห้องหนังสือเปิดอ้ามาตลอด ถ้าอย่างนั้นคนอื่นคงจะได้ยินเสียงเมื่อกี้ของเธอหมดแล้วใช่หรือเปล่า? โจวเทียนเฟิ่งพูดพลางจะไปปิดประตู ฉู่เฉินกลับอุ้มเอวของเธอขึ้นมาจากด้านหลัง“อ๊าย คุณนี่มันร้ายชะมัด รีบปล่อยฉันลงเลยนะ” ฉู่เฉินหัวเราะหึ ๆ ไฉนเลยจะสนใจการดิ้นรนของเธอ เขาเดินไม่กี่ก้าวก็อุ้มโจวเทียนเฟิ่งเข้าไปในห้องน้ำในขณะที่ฉู่เฉินเตรียมตัวจะแสดงพลังกระตือรือร้นอีกครั้ง โทรศัพท์ที่อยู่ข้างมือพลันดังขึ้นมาจากนั้นก็เห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย ฉู่เฉินกดตัดสายทันที แต่ฉู่เฉินยังไม่ทันโน้มตัวลงไป โทรศัพท์ก็ด
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ