เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนในล็อบบี้ชั้นหนึ่งรีบออกจากกรมเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นโจวเทียนเฟิ่งยืนอยู่หน้าประตูนั้นก็ต่างพากันถอยหลังกลับไปอย่าทำให้โมโห!ทำให้โมโหไม่ได้เด็ดขาด!อย่าคิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ในโลกใต้ดินเธอขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมที่สุด!แค่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งจะกล้าไปยั่วโมโหคนแบบเธอได้อย่างไร?“พี่เฟิ่ง ผม... เดี๋ยวผมจะไปแจ้งให้นะครับ พี่รอสักครู่”หลี่เกอเอามือกุมรอยฝ่ามือนั้นไว้ หันหน้าแล้ววิ่งไปทางห้องทำงานอธิบดีชั้นสาม……ในตอนนั้นเอง เจียงเหวินป๋อสีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเดินตรงไปยังห้องทำงาน ในตอนที่เขาค้นพบความผิดปกตินั้น เขาก็อยากจะพาตัวเองออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดแต่เมื่อเขาลองสังเกตการณ์ดูการเคลื่อนไหวรอบๆ แล้ว เขาก็สิ้นหวังอย่างถึงขีดสุดแม้แต่หูโข่วสถานที่ที่ห่างไกลแบบนี้ก็เต็มไปด้วยคนของสำนักเฟิ่ง แต่ละคนดุดันน่าเกรงขาม ในมือล้วนแต่ถือมีดไว้ หากเขาออกไปอาจจะโดนหั่นเป็นชิ้นๆ ก็ได้ใช่ไหม?เมื่อถึงตอนนั้น โจวเทียนเฟิ่งก็หาลูกน้องคนสองคนมารับผิด แบบนั้นเขาก็ไม่ได้ตายฟรีเหรอ?เฮ้อ!เจียงเหวินป๋อขยี้บุหรี่ที่เขาพึ่ง
“ข้างในนั้นมันเสียงอะไรกัน? หรือว่านอกจากคุณฉู่แล้วยังมีคนอื่นที่ถูกจับกุมมาอีกเหรอ?”โจวเทียนเฟิ่งรีบหันหน้าไปมองอินซู่ซู่ถ้าแฟนของฉู่เฉินหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขาถูกนำตัวเข้าไปในห้องสอบปากคำด้วย เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นในตอนนี้ โจวเทียนเฟิ่งคงจะชักจูงผู้คนให้รีบเข้าไปถลกหนังของเจียงเหวินป๋อทั้งเป็น!เป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะโจวเทียนเฟิ่งที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องคิดก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าเสียงร้องนั่นหมายถึงอะไร!“ไม่... ไม่มีนะคะ มีแค่นายท่านที่ถูกจับขึ้นรถตำรวจไปนะคะ”อินซู่ซู่แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเทียนเฟิ่งถึงได้ร้อนรนเช่นนี้ แต่เธอก็ตอบกลับไปอย่างแผ่วเบาเมื่อได้ยินดังนั้น โจวเทียนเฟิ่งถึงได้สบายใจขึ้นมา หันหน้าไปทางเจียงเหวินป๋อพูดขึ้นมาว่า “เจียงเหวินป๋อ ฉันให้เวลานายคิดแค่หนึ่งนาทีว่าจะปล่อยเขาหรือไม่!”เจียงเหวินป๋อวางมือไว้ด้านหลังแล้วมองไปที่โจวเทียนเฟิ่ง “เจ้าสำนักเฟิ่งแม้ว่าสำนักเฟิ่งจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่มีทางใหญ่ไปกว่ากฎหมายบ้านเมืองใช่ไหมครับ? อย่าคิดว่าผมเจียงป๋อเหวินกลัวคุณ!”“ผมจะบอกความจริงอะไรให้คุณอย่างหนึ่ง
“จางหลง คุณจะทำอะไร? คุณยังต้องการให้คนของคุณลอบสังหารตำรวจเหรอ?”หากจะบอกว่าเจียงเหวินป๋อไม่กลัวนั่นก็คงจะเป็นการโกหก!ไป๋ชางที่อยู่ข้างหลังจางหลงเป็นถือเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!แม้ว่าจะมีตำรวจถือปืนหลายสิบคนอยู่รอบๆ แต่ต่อหน้าปรมาจารย์แล้ว ปืนที่อยู่ในมือพวกเขานั้นก็ไม่ต่างจากของเล่นมากมายนักหากไป๋ชางลงมือ เจียงเหวินป๋อต้องตายอย่างแน่นอน!“ไม่กล้าครับ!”จางหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากอธิบดีเจียงไม่ให้เกียรติผมจางหลง ผมก็ไม่จำเป็นต้องออมมือ!”ซี้ดๆ!ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันสูดหายใจแรง จางหลงกำลังวางแผนกบฏหรือเปล่า?ต่อหน้าปรมาจารย์ตำรวจในห้องโถงก็ต่างพากันก้าวถอยหลังไป พวกเขากลัวว่าจะต้องมาตายแทนเจียงเหวินป๋อ“หยุดนะ!”ขณะที่ไป๋ชางกำลังเตรียมจะลงมือ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากนอกประตู!“ปังๆๆ !”ตามมาด้วยเสียงปืนสามนัดทุกคนในห้องโถงพากันมองออกไปข้างนอกประตูชายหนุ่มสวมชุดมังกรสีฟ้าและรองเท้าบู๊ททหารปรากฏตัวขึ้น เดินอย่างสง่างามและบนใบหน้าของเขาดูเต็มไปด้วยความมีอำนาจข้างหลังของเขายังมีกลุ่มชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับเขาตามห
ครั้งนี้สวี่จวินตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงที่โจวน่าส่งเสียงร้องออกมา!อีกทั้งเขาและเธอคบกันมาเกือบจะสามเดือนแล้ว แม้แต่มือของเธอเขาก็ยังไม่เคยได้จับ วันนี้กลับได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังออกมาจากห้องสอบปากคำ เขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป หันร่างไปแล้ววิ่งไปยังห้องสอบปากคำที่อยู่สุดทางเดินยิ่งเข้าใกล้ประตูเหล็กสีดำสนิทนั้นเท่าไหร่ เสียงของโจวน่าก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสวี่จวินหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ“น่าน่า!”สวี่จวินเอาตัวแนบกับประตูเหล็ก ตะโกนเข้าไปข้างในห้องสอบปากคำแต่ไม่มีเสียงตอบรับเขาเลย!นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ใบหน้าของสวี่จวินแนบชิดไปกับประตูเหล็ก เขาแทบอยากจะมุดหัวเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดให้มันรู้กันไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ประตูเหล็กหนามาก นอกจากความเย็นเฉียบแล้ว ก็มีเพียงเสียงที่ดังมาจากข้างในห้องสอบปากคำดวงตาของสวี่จวินแดงไปหมด เขามั่นใจแล้วว่าเสียงที่เขาได้ยินตั้งแต่แรกเป็นเสียงของโจวน่า!ขณะนั้นเองสวี่จวินดูเหมือนเป็นคนเลี้ยงสัตว์ที่บริสุทธิ์ และในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม!“นังแพศยาพวกนี้! ฉ
ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่สุดทางเข้าห้องโถงขณะนี้ เจียงเหวินป๋อรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถือหนังสือ 'เหตุผลหมื่นข้อ' ไว้ในใจ โดยมีเสียงของจ้าวเจวียนเมื่อกี้ดังก้องอยู่ในใจของเขา เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืมไม่ได้การแล้ว!เจียงเหวินป๋อที่แต่เดิมจะกลับไปยังห้องทำงาน จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้าลง หันร่างเดินไปทางห้องสอบปากคำได้ยินเสียงฝีเท้าที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที ฉู่เฉินก็แสยะยิ้มร้ายออกมา “อธิบดีเจียงกำลังแอบฟังอยู่หน้าประตู คุณไม่กลัวว่าเขาจะได้ยินเหรอ?”จ้าวเจวียนในตอนนี้จะมีเวลาไปสนใจอธิบดีเจียงได้อีกล่ะ?“อย่างนั้นก็ให้เขาฟังให้ดีๆ! ใครใช้ให้เขาไร้น้ำยากันล่ะ!”นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ในเมื่อเธอก็คนเหมือนกันแม่งเอ๊ย!จ้าวเจวียนชักจะทำตามอำเภอใจเกินไปแล้วนะ หน้าไม่อายจริงๆ!เจียงเหวินป๋อที่เอาหูแนบกับประตูเหล็กเพื่อแอบฟัง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็นูนให้เห็นอย่างชัดเจน!ผู้หญิงที่พูดประโยคนั้นข้างใน ถ้าไม่ใช้จ้าวเจวียนแล้วจะเป็นใครได้?!นังสารเลวนี่ กล้าดีอย่างไร!กล้าพูดออกมาว่าเขาไร้น้ำยาได้อย่างไร?!โมโห!เจียงเหวินป๋อตอนนี้อยากจะบุกเข้าไปฆ่าชายหญิงสารเลวคู่นี้ให้รู้แล้
“พ่อ เมื่อครู่สถานการณ์ค่อนข้างจะฉุกละหุก ผมเลยไม่มีเวลามาอธิบายอย่างละเอียดให้พ่อฟัง!”เจียงหย่วนรีบอธิบายให้เจียงไห่ตงที่อยู่ปลายสาย “เรื่องเป็นแบบนี้ครับ ตอนที่ผมรีบไปหาคุณฉู่ คุณฉู่ถูกคนของเขตซีเฉิงพาตัวไปแล้ว!”“ดังนั้นผมจึงพาคนมาช่วยเหลือคุณฉู่ แต่ว่า... เจียงเหวินป๋อไอ้สารเลวนั่นมันไม่ยอมปล่อยตัว เขายังเล่นกลอุบายทรมานและขู่กรรโชกคำสารภาพต่อหน้าแก๊งมังกรของเราอีกด้วยครับ!”พูดจบเจียงหย่วนถือหูโทรศัพท์ไปทางทิศทางของทางเดินแล้วพูดกับเจียงไห่ตงว่า “ไม่เชื่อพ่อลองฟังดูสิครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ถูกทรมานนั้นเป็นใคร แต่ผมพูดได้เลยว่าต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอนครับ!”เจียงไห่ตงไม่มีเวลาฟังเสียงร้องคร่ำครวญจากการถูกลงโทษอะไรหรอกนะ เขารีบพูดกับเจียงหย่วนที่อยู่ปลายสายว่า “ฉันเข้าใจแล้ว แกอย่าใจร้อนไป เดี๋ยวฉันจะโทรหาเจียงเหวินป๋อเดี๋ยวนี้!” พูดเสร็จ เจียงไห่ตงก็ตัดสายทิ้งทันทีผ่านไปไม่นาน ตรงสุดทางเดินก็มีเสียงสายเรียกเข้าของเจียงเหวินป๋อดังขึ้นมาทำเอาเจียงเหวินป๋อที่กำลังจดจ่อกับการฟังเสียงตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน เกือบหัวใจวายในตอนนั้นเลย!เขาตั้งสติอยู่พักหนึ่ง เจี
ในที่สุดเจียงไห่ตงก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไป และตะโกนเสียงดังใส่คนขับที่อยู่ประตูหน้า “ใครก็ได้ ออกรถ! ฉันจะไปดูที่กรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยตัวเอง เจียงเหวินป๋อยังเคารพผู้อำนวยการใหญ่แบบฉันอยู่ไหม?ในระหว่างที่เขาพูดนั้น คนขับรถก็รีบนำขับรถที่เจียงไห่ตงนั่งอยู่ออกไปทางหน้าประตูเจียงไห่ตงมุ่งหน้าไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยความโมโห อีกด้านหนึ่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากเจียงจงก็รวมพลกันแล้ว!ขณะเดียวกัน กรมตำรวจทั้งเมืองระดมกำลังเกือบเต็มที่เพื่อสอบสวนเหตุการณ์การทำร้ายและการบาดเจ็บของฉู่เฉินเดิมทีคดีแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย อีกอย่างคนที่หักขาทั้งสองข้างของจางไห่หยางไม่ใช่ฉู่เฉินแต่อย่างใด แต่เป็นโจวฉีหลินดังนั้นไม่นานก็มีคนส่งรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงในขณะที่เจียงเหวินป๋อร้อนรนรอผลการสอบสวนเหมือนมดไต่หม้อร้อนนั้น สวี่จวินก็วิ่งเข้ามาที่ห้องทำงานของเจียงเหวินป๋อด้วยความรวดเร็ว “อธิบดีเจียง แย่แล้วล่ะครับ อธิบดีเจียงมาด้วยตัวเองครับ!” อะไรนะ?!เจียงเหวินป๋อได้ยินดังนั้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งร่าง!ไม่ต้องถามเขาต้องมาเพื่อฉู่เฉินแน่ๆ !เชี่ยเ
อีกด้านของประตูเหล็ก ประตูเหล็กหนาสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ากำลังโต้ตอบเจียงเหวินป๋อเหมือนประตูทั้งบานจะพังเมื่อไรก็ได้!เมื่อเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ตำรวจในเขตจำนวนไม่น้อยต่างพากันล้อมเอาไว้“ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”“พี่สะใภ้... เธอไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรใช่ไหมครับ?”“แฟนของผมโจวน่าก็อยู่ข้างใน ทุกคนรีบหาวิธีช่วยคนออกมาเถอะครับ!”เมื่อเห็นว่าประตูเหล็กหนานั่นสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนก็ต่างพากันกระวนกระวายตำรวจหลายนายหยิบปืนพกขึ้นมา ยิงเข้าไปที่ประตูเหล็กแต่กระสุนพุ่งเข้าไปบนประตูเหล็ก หลายไว้เพียงแค่รอยสีขาวๆ เท่านั้นทุกคนต่างพากันคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ประเหล็กบานนั้นก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อนแต่อย่างใดเมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงไห่ตงก็รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่ามีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับฉู่เฉิน?“เจียงหย่วน เร็วเข้า เปิดประตูเหล็กนั้นออก!”ตอนนี้เจียงไห่ตงแค่ต้องการแน่ใจว่าฉู่เฉินปลอดภัยดี ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่สามารถสนใจได้หมด“บุกเข้าไป เปิดประตูออก!”เจียงหย่วนก็ร้อนใจตะคอกออกมาเสียงดังปังๆๆ !สมาชิกทั้งสี่คนของแก๊งมังกรใช้พละกำลังทั้งหม
ลูกศิษย์สองคนร่างระเบิดติดๆ กันสองคน หลิวจิ่งหงกับเฉียนเจียวเจียวสะดุดล้มลงไปนั่งบนพื้นด้วยความตกใจอะไรที่เรียกว่าแข็งแกร่ง?นี่สิที่เรียกว่าแข็งแกร่งอย่างแท้จริงเงื้อมือก็ฆ่าคนได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดมากแม้แต่คำเดียวสิ่งสำคัญคือ ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของอวี้ลู่สงบนิ่งมาก เหมือนกำลังบี้แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น หน้าไม่เปลี่ยนสีเลยแม้แต่น้อย“ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ ส่วนจะอยู่หรือจะรอด เจ้ายังคงต้องต่อสู้ด้วยตัวเจ้าเอง”อวี้ลู่เอามือไพล่หลัง เหินกลางอากาศด้วยใบหน้าแต้มรอยยิ้มน้อยๆ เงาร่างของเธอห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เพียงไม่กี่วินาที ก็เห็นเพียงจุดสีขาวเล็กๆ จุดเดียว“เหอะ วางอุบายกับสตรีศักดิ์สิทธิ์? อย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าพบเจอกับความลำบากสักหน่อยก็แล้วกัน!”อวี้ลู่ที่เหินตัวออกไปไกลแล้วใช้วิชาขจรเสียงพันลี้ส่งเสียงที่หวานใสดุจระฆังเงินเข้าสู่โสตประสาทของฉู่เฉิน เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจของเธอเกินไปแล้ว!เดิมทีเธอคิดจะสังหารพวกหลี่ว์เจิ้งหยางให้หมด แต่เมื่อกี้คำพูดของฉู่เฉินทำให้เธอเปลี่ยนใจโดยสิ้นเชิงในเมื่อเจ้ากล้าหาเรื่อง เช่นนั้นข้าก็จะปล่อยให้ผู้ฝึกปราณขั้นแปดสั่งสอน
เดิมพัน?อวี้ลู่ทำเหมือนรอบข้างไม่มีใคร เธอถามฉู่เฉินอย่างสงสัยว่า “ถ้าหากข้าไม่กลับมาช่วยเจ้า เจ้าจะทำเช่นไร?”ฉู่เฉินส่ายหน้าตอบว่า “ตายแน่นอน”สามรุมหนึ่ง หนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นยอดฝีมือฝึกปราณขั้นแปดถึงสามคน ถึงแม้ฉู่เฉินจะได้รับถ่ายทอดวิชามาจากมังกรเฒ่า แต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนั้นแน่นอน“เจ้า…”อวี้ลู่ไม่อยากเชื่อหูตัวเองฉู่เฉินรู้ทั้งรู้ว่าต้องตาย ยังกล้าหาเรื่องหลิวจิ่งหงกับหลี่ว์เจิ้งหยางอีก?เขาเอาความกล้ามาจากที่ใด เอาความมั่นใจมาจากไหน?“ผมทำไมล่ะ? สิ่งสำคัญคือพี่กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินยิ้มกว้างอวี้ลู่หมดคำจะพูด นี่เขากำลังเอาชีวิตมาล้อเล่นนะ“เจ้า… เจ้าไม่กลัวข้าไปแล้วไม่กลับมาหรือ?”ฉู่เฉินได้ยินก็ส่ายหน้า “พี่ยังไม่ได้ยาเก้าตะวัน ดอกอัสนีก็อยู่กับผม แม่น้ำก็ยังไม่ได้ข้าม ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะรื้อสะพาน”ดี!อวี้ลู่กำหมัดแน่นไม่นึกว่าเขาจะคำนวณถูกหมดทุกอย่างถูกหมอตัวน้อยอายุแค่ยี่สิบกว่าคนหนึ่งวางอุบายเสียจนหมดท่าเธอเป็นถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเชียวนะ!มีอายุมาพันปี กลับถูกฉู่เฉินกำไว้เสียอยู่หมัดหลี่ว์เจิ้งหยางกับหลิวจิ่งหงมองหน้าฉู่เฉ
แต่เอานี่สิจะแย่เอา ไม่มีอะไรเลยสักอย่างถ้าเขาเริ่มต่อสู้ขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยา เขาก็ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าสถานการณ์นั้นจะเป็นอย่างไรปัญหาคือตอนนี้ไอ้ฉู่เฉินนั่นมันมัวทำอะไรอยู่?ไม่ถึงห้าโมงเย็นงานประมูลก็จบลงแล้ว นี่มันจะเจ็ดโมงเย็นแล้วทำไมยังไม่เห็นเงาของเขาอีกในขณะที่ทุกคนกำลังกังวลอยู่นั้น รถเบนซ์จีคลาสสีดำขับมาจากทางในเมืองด้วยความเร็ว“นั่นมันนี่!”หลี่ว์เจิ้งหยางชี้ด้วยนิ้วแหลมคมมุ่งเป้าไปที่รถของฉู่เฉิน“ตู้ม!”จู่ๆ ก้อนหินขนาดใหญ่ก็กลิ้งลงมาจากเนินเขาใกล้ๆ ปิดกั้นเส้นทางของฉู่เฉินได้ทันเวลาพอดีฉู่เฉินรีบเหยียบเบรกทันที รอยเบรกลากยาวไปกว่าสิบกว่าเมตรรถถึงจะสามารถหยุดลงได้“ไอ้หนู ลงรถมาเถอะ วันนี้นายไม่รอดแล้ว!”หลี่ว์เจิ้งหยางเอาสองมือไพล่หลังไว้ เขาค่อยๆ เดินออกมาจากข้างหลังก้อนหินขนาดใหญ่นั้นในขณะเดียวกัน หลิวจิ่งหงและผู้เชี่ยวชาญฝึกปราณระดับแปดทั้งสองคนก็ค่อยๆ เดินออกมาจากต้นไม้ โดยเดินล้อมเขา ทำให้ฉู่เฉินไปไหนไม่ได้ฉู่เฉินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาผลักประตูรถแล้วกระโดดลงมา มองซ้ายมองขวา พร้อมพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดว่า “อืม เลือกสถานที่ได้ไม่เลวเลย ภ
อ๊ะ!บริเวณรอบๆ มืดสนิท ทำเอาสาวน้อยตกใจจนกรีดร้องออกมา เธอใช้ทั้งสองมือปิดหูเอาไว้ เธอเหยียบรองเท้าส้นสูงรีบวิ่งออกไปราวกับบินแต่เมื่อวิ่งออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ชนเข้ากับร่างอันร้อนรุ่มลูกแพร์ขาวเนียนลูกใหญ่ที่ไม่มีอะไรปกคลุมนั้นเกือบถูกเธอกัดเข้าอย่างไม่ตั้งใจอีกทั้งเธอยังเหมือนกับชนเข้ากับมือของผู้ชายในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทเช่นนี้ เธอเกิดอาการตื่นตระหนกและวิ่งไปทางตรงข้ามโดยไม่คิดแควก!มีเสียงดังแหลมดังขึ้น และชุดสูทที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ก็ถูกตะขอเกี่ยวจนขาดโชคดีที่เธอหลบทัน ถึงไม่ได้ถูกเกี่ยวจนได้รับบาดเจ็บแต่ร่างกายของเธอกลับรู้สึกหนาวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าทั้งชุดของเธอถูกตะขอเกี่ยวขาดทั้งชุด“พี่ลี่...”เด็กสาวตกใจกลัวและถอยหนีโดยเรียกชื่อพิธีกรขณะที่เธอถอยหนี อย่างไรก็ตาม เสียงของเธอเบาเกินไปและถูกกลบด้วยเสียงครวญครางของพิธีกรสาวสวยขณะที่เธอยังคงถอยหลัง สะโพกที่อวบอิ่มของเธอบังเอิญไปชนเข้ากับร่างกายที่กำลังขยับเขยื้อนอยู่ เธอเอื้อมมือออกไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว“อ๊ะ!”เธอรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเป็นก้นอวบๆ เนียนๆ ของพิธีกรสาวสวยเด็กสาวรีบชักมือกลับมาแต่
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ