“จางหลง คุณจะทำอะไร? คุณยังต้องการให้คนของคุณลอบสังหารตำรวจเหรอ?”หากจะบอกว่าเจียงเหวินป๋อไม่กลัวนั่นก็คงจะเป็นการโกหก!ไป๋ชางที่อยู่ข้างหลังจางหลงเป็นถือเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!แม้ว่าจะมีตำรวจถือปืนหลายสิบคนอยู่รอบๆ แต่ต่อหน้าปรมาจารย์แล้ว ปืนที่อยู่ในมือพวกเขานั้นก็ไม่ต่างจากของเล่นมากมายนักหากไป๋ชางลงมือ เจียงเหวินป๋อต้องตายอย่างแน่นอน!“ไม่กล้าครับ!”จางหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากอธิบดีเจียงไม่ให้เกียรติผมจางหลง ผมก็ไม่จำเป็นต้องออมมือ!”ซี้ดๆ!ตำรวจที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันสูดหายใจแรง จางหลงกำลังวางแผนกบฏหรือเปล่า?ต่อหน้าปรมาจารย์ตำรวจในห้องโถงก็ต่างพากันก้าวถอยหลังไป พวกเขากลัวว่าจะต้องมาตายแทนเจียงเหวินป๋อ“หยุดนะ!”ขณะที่ไป๋ชางกำลังเตรียมจะลงมือ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากนอกประตู!“ปังๆๆ !”ตามมาด้วยเสียงปืนสามนัดทุกคนในห้องโถงพากันมองออกไปข้างนอกประตูชายหนุ่มสวมชุดมังกรสีฟ้าและรองเท้าบู๊ททหารปรากฏตัวขึ้น เดินอย่างสง่างามและบนใบหน้าของเขาดูเต็มไปด้วยความมีอำนาจข้างหลังของเขายังมีกลุ่มชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับเขาตามห
ครั้งนี้สวี่จวินตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก หนึ่งในเสียงนั้นเป็นเสียงที่โจวน่าส่งเสียงร้องออกมา!อีกทั้งเขาและเธอคบกันมาเกือบจะสามเดือนแล้ว แม้แต่มือของเธอเขาก็ยังไม่เคยได้จับ วันนี้กลับได้ยินเสียงครวญครางของเธอดังออกมาจากห้องสอบปากคำ เขาไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป หันร่างไปแล้ววิ่งไปยังห้องสอบปากคำที่อยู่สุดทางเดินยิ่งเข้าใกล้ประตูเหล็กสีดำสนิทนั้นเท่าไหร่ เสียงของโจวน่าก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสวี่จวินหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบ“น่าน่า!”สวี่จวินเอาตัวแนบกับประตูเหล็ก ตะโกนเข้าไปข้างในห้องสอบปากคำแต่ไม่มีเสียงตอบรับเขาเลย!นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ใบหน้าของสวี่จวินแนบชิดไปกับประตูเหล็ก เขาแทบอยากจะมุดหัวเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดให้มันรู้กันไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ประตูเหล็กหนามาก นอกจากความเย็นเฉียบแล้ว ก็มีเพียงเสียงที่ดังมาจากข้างในห้องสอบปากคำดวงตาของสวี่จวินแดงไปหมด เขามั่นใจแล้วว่าเสียงที่เขาได้ยินตั้งแต่แรกเป็นเสียงของโจวน่า!ขณะนั้นเองสวี่จวินดูเหมือนเป็นคนเลี้ยงสัตว์ที่บริสุทธิ์ และในทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่ม!“นังแพศยาพวกนี้! ฉ
ชั่วขณะหนึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่สุดทางเข้าห้องโถงขณะนี้ เจียงเหวินป๋อรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถือหนังสือ 'เหตุผลหมื่นข้อ' ไว้ในใจ โดยมีเสียงของจ้าวเจวียนเมื่อกี้ดังก้องอยู่ในใจของเขา เป็นเสียงที่เขาจะไม่มีวันลืมไม่ได้การแล้ว!เจียงเหวินป๋อที่แต่เดิมจะกลับไปยังห้องทำงาน จู่ๆ เขาก็หยุดฝีเท้าลง หันร่างเดินไปทางห้องสอบปากคำได้ยินเสียงฝีเท้าที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที ฉู่เฉินก็แสยะยิ้มร้ายออกมา “อธิบดีเจียงกำลังแอบฟังอยู่หน้าประตู คุณไม่กลัวว่าเขาจะได้ยินเหรอ?”จ้าวเจวียนในตอนนี้จะมีเวลาไปสนใจอธิบดีเจียงได้อีกล่ะ?“อย่างนั้นก็ให้เขาฟังให้ดีๆ! ใครใช้ให้เขาไร้น้ำยากันล่ะ!”นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ในเมื่อเธอก็คนเหมือนกันแม่งเอ๊ย!จ้าวเจวียนชักจะทำตามอำเภอใจเกินไปแล้วนะ หน้าไม่อายจริงๆ!เจียงเหวินป๋อที่เอาหูแนบกับประตูเหล็กเพื่อแอบฟัง เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็นูนให้เห็นอย่างชัดเจน!ผู้หญิงที่พูดประโยคนั้นข้างใน ถ้าไม่ใช้จ้าวเจวียนแล้วจะเป็นใครได้?!นังสารเลวนี่ กล้าดีอย่างไร!กล้าพูดออกมาว่าเขาไร้น้ำยาได้อย่างไร?!โมโห!เจียงเหวินป๋อตอนนี้อยากจะบุกเข้าไปฆ่าชายหญิงสารเลวคู่นี้ให้รู้แล้
“พ่อ เมื่อครู่สถานการณ์ค่อนข้างจะฉุกละหุก ผมเลยไม่มีเวลามาอธิบายอย่างละเอียดให้พ่อฟัง!”เจียงหย่วนรีบอธิบายให้เจียงไห่ตงที่อยู่ปลายสาย “เรื่องเป็นแบบนี้ครับ ตอนที่ผมรีบไปหาคุณฉู่ คุณฉู่ถูกคนของเขตซีเฉิงพาตัวไปแล้ว!”“ดังนั้นผมจึงพาคนมาช่วยเหลือคุณฉู่ แต่ว่า... เจียงเหวินป๋อไอ้สารเลวนั่นมันไม่ยอมปล่อยตัว เขายังเล่นกลอุบายทรมานและขู่กรรโชกคำสารภาพต่อหน้าแก๊งมังกรของเราอีกด้วยครับ!”พูดจบเจียงหย่วนถือหูโทรศัพท์ไปทางทิศทางของทางเดินแล้วพูดกับเจียงไห่ตงว่า “ไม่เชื่อพ่อลองฟังดูสิครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ถูกทรมานนั้นเป็นใคร แต่ผมพูดได้เลยว่าต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอนครับ!”เจียงไห่ตงไม่มีเวลาฟังเสียงร้องคร่ำครวญจากการถูกลงโทษอะไรหรอกนะ เขารีบพูดกับเจียงหย่วนที่อยู่ปลายสายว่า “ฉันเข้าใจแล้ว แกอย่าใจร้อนไป เดี๋ยวฉันจะโทรหาเจียงเหวินป๋อเดี๋ยวนี้!” พูดเสร็จ เจียงไห่ตงก็ตัดสายทิ้งทันทีผ่านไปไม่นาน ตรงสุดทางเดินก็มีเสียงสายเรียกเข้าของเจียงเหวินป๋อดังขึ้นมาทำเอาเจียงเหวินป๋อที่กำลังจดจ่อกับการฟังเสียงตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน เกือบหัวใจวายในตอนนั้นเลย!เขาตั้งสติอยู่พักหนึ่ง เจี
ในที่สุดเจียงไห่ตงก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไป และตะโกนเสียงดังใส่คนขับที่อยู่ประตูหน้า “ใครก็ได้ ออกรถ! ฉันจะไปดูที่กรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยตัวเอง เจียงเหวินป๋อยังเคารพผู้อำนวยการใหญ่แบบฉันอยู่ไหม?ในระหว่างที่เขาพูดนั้น คนขับรถก็รีบนำขับรถที่เจียงไห่ตงนั่งอยู่ออกไปทางหน้าประตูเจียงไห่ตงมุ่งหน้าไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงด้วยความโมโห อีกด้านหนึ่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากเจียงจงก็รวมพลกันแล้ว!ขณะเดียวกัน กรมตำรวจทั้งเมืองระดมกำลังเกือบเต็มที่เพื่อสอบสวนเหตุการณ์การทำร้ายและการบาดเจ็บของฉู่เฉินเดิมทีคดีแบบนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย อีกอย่างคนที่หักขาทั้งสองข้างของจางไห่หยางไม่ใช่ฉู่เฉินแต่อย่างใด แต่เป็นโจวฉีหลินดังนั้นไม่นานก็มีคนส่งรายงานโดยละเอียดเกี่ยวกับคดีนี้ไปยังกรมตำรวจเขตซีเฉิงในขณะที่เจียงเหวินป๋อร้อนรนรอผลการสอบสวนเหมือนมดไต่หม้อร้อนนั้น สวี่จวินก็วิ่งเข้ามาที่ห้องทำงานของเจียงเหวินป๋อด้วยความรวดเร็ว “อธิบดีเจียง แย่แล้วล่ะครับ อธิบดีเจียงมาด้วยตัวเองครับ!” อะไรนะ?!เจียงเหวินป๋อได้ยินดังนั้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งร่าง!ไม่ต้องถามเขาต้องมาเพื่อฉู่เฉินแน่ๆ !เชี่ยเ
อีกด้านของประตูเหล็ก ประตูเหล็กหนาสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่ากำลังโต้ตอบเจียงเหวินป๋อเหมือนประตูทั้งบานจะพังเมื่อไรก็ได้!เมื่อเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ตำรวจในเขตจำนวนไม่น้อยต่างพากันล้อมเอาไว้“ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”“พี่สะใภ้... เธอไม่ได้เกิดอุบัติเหตุอะไรใช่ไหมครับ?”“แฟนของผมโจวน่าก็อยู่ข้างใน ทุกคนรีบหาวิธีช่วยคนออกมาเถอะครับ!”เมื่อเห็นว่าประตูเหล็กหนานั่นสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนก็ต่างพากันกระวนกระวายตำรวจหลายนายหยิบปืนพกขึ้นมา ยิงเข้าไปที่ประตูเหล็กแต่กระสุนพุ่งเข้าไปบนประตูเหล็ก หลายไว้เพียงแค่รอยสีขาวๆ เท่านั้นทุกคนต่างพากันคิดหาวิธีต่างๆ นานา แต่ประเหล็กบานนั้นก็ยังไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อนแต่อย่างใดเมื่อเห็นสิ่งนี้ เจียงไห่ตงก็รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่ามีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับฉู่เฉิน?“เจียงหย่วน เร็วเข้า เปิดประตูเหล็กนั้นออก!”ตอนนี้เจียงไห่ตงแค่ต้องการแน่ใจว่าฉู่เฉินปลอดภัยดี ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาไม่สามารถสนใจได้หมด“บุกเข้าไป เปิดประตูออก!”เจียงหย่วนก็ร้อนใจตะคอกออกมาเสียงดังปังๆๆ !สมาชิกทั้งสี่คนของแก๊งมังกรใช้พละกำลังทั้งหม
ทันใดนั้นเองจางหลงเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างฉิบหาย!สุดยอดไปเลย!“คุณฉู่ คุณโอเคไหมครับ?”เจียงไห่ตงรีบรุดเข้าไปข้างหน้า จับมือของฉู่เฉิน แสดงคำขอโทษด้วยความรู้สึกผิด “ต้องโทษผมที่จัดการลูกน้องไม่เคร่งครัดพอ จึงทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเช่นนี้ขึ้น”ฉู่เฉินเหลือบมองเจียงหย่วนที่อยู่ข้างหลังเจียงไห่ตง เขาก็รู้สถานะของเจียงไห่ตงทันที หัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “อธิบดีเจียงพูดเกินไปครับ ก็แค่การเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้นเอง ผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรครับ”เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวเทียนเฟิ่งก็รีบเบียดฝูงชนเข้าไป เพื่อมองฉู่เฉินอย่างละเอียดอยู่หลายครั้ง เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จึงก็ร้องไห้ด้วยความดีใจพูดว่า “คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ แต่ว่าคุณออกมาได้อย่างไรคะ?”นี่เป็นสิ่งที่โจวเทียนเฟิ่งสงสัยมากที่สุดปีศาจโลหิตเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทรมานที่มีชื่อเสียง ขอเพียงแค่ถูกเธอนำพาเข้าห้องสอบปากคำก็ถูกตีจนร่างกายบอบช้ำไปหมดไม่ใช่เหรอ?ทำไมฉู่เฉินถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?“วิชากระบอง!”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาแค่ไม่กี่คำ ก็สามารถปลุกความหวาดระแวงได้มหาศาล“คุณฉู่ก่อนหน้านี้
“เธอมันสำส่อน!”เจียงเหวินป๋อสติขาดสะบั้น เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที จับผมของจ้าวเจวียนที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ และยกมือขึ้นตบเธอ“เอาสิ! คุณตบฉันสิ!”จ้าวเจวียนเงยหน้าขึ้น หัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมกับมองไปที่เจียงเหวินป๋อ “นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คุณจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ? เป็นถึงผู้ชายความใจกว้างสักนิดก็ไม่มี!”อะไรนะ?!นี่แม่งยังไม่ใช่เรื่องใหญ่งั้นเหรอ?!เจียงเหวินป๋อโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ภรรยาตัวเองถูกคนอื่นเอาไปหลับนอนไม่พอยังหลับนอนกับเขาต่อหน้าคนมากมายอีกด้วย นี่ยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกเหรอ?!“ทางที่ดีคุณเอามือของคุณลงซะ คุณอย่าลืมนะ อธิบดีเจียงพูดแล้วว่าจะพักงานคุณ ไม่ได้บอกว่าจะพักงานฉันสักหน่อย!”ประโยคนี้ของจ้าวเจวียนกล่าวออกไป เจียงเหวินป๋อก็เหมือนถูกน้ำเย็นสาดเข้ามาที่หน้า เขานั่งลงไปบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรงเมื่อมองดูร่างกายอันเย้ายวนของจ้าวเจวียนที่ยังคงมีกลิ่นเหงื่อของชายอื่นอยู่ เจียงเหวินป๋อก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้เขาคว้าแขนจ้าวเจวียนอย่างแรง กดเธอลงบนโซฟา!ภาพนี้เคยเกิดขึ้นในห้องทำงานเมื่อห้าปีก่อน เพียงแต่ตอนนั้นจ้าวเจวียนดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
ฉู่เฉินจะไปมีคอนเนคชั่นคนใหญ่คนโตขนาดนี้ได้ยังไง?“ผู้นำหลู สำนักงานพาณิชย์ของพวกเราก็ปฏิบัติตามกฎเช่นกันนะ อีกทั้งคุณชายฉีก็ถือครองหุ้นฉู่ซื่อกรุ๊ปถึงหกส่วน ดังนั้นพวกเราจึง…”ในช่วงระหว่างที่หลิวจื้อซินพยายามพูดพลิกลิ้น เซียวเสวี่ยอิ๋งก็เอามือไพล่หลังก้าวเข้ามาตูม!ลำพังเพียงกลิ่นอายเฉพาะตัวของทหารก็ทำให้หลิวจื้อซินตกใจจนกลืนคำพูดหลังจากนั้นจนหมดสิ้น“ตอนนี้ฉันมีเหตุผลที่จะสงสัยในตัวพวกคุณว่ากำลังร่วมมือบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างกองทัพกับฉู่ซื่อกรุ๊ป และคุกคามความมั่นคงของชาติ”กล่าวเสร็จเซียวเสวี่ยอิ๋งเอาเอกสารตบโต๊ะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังเมื่อเห็นคำว่าลับที่สุดบนซองเอกสารที่มีตราประทับสีแดงของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทหารรักษาการณ์เมืองเจียงจงแล้ว ไม่เพียงแค่ฉีเฮ่อเซวียนคนเดียวที่ตะลึงสุดขีด แม้แต่หลิวจื้อซินก็อ่อนแรงฟุบลงไปกองที่พื้นเขาถูกใส่ความถ้ารู้ว่าฉู่ซื่อกรุ๊ปยังมีความสัมพันธ์ในการร่วมงานกับทางกองทัพ ให้ความกล้าเขามาใช้มากแค่ไหนเขาก็ไม่กล้าทำถึงขนาดนี้หรอก“ท่าน...ท่านผู้นำ พวกเรา…พวกเราถูกใส่”ฟางเหว่ยและผู้ถือหุ้นทั้งหมดต่างตกใจจนคุกเข่าวิงวอนบนพื้นการข
บรรดาผู้ถือหุ้นที่เมื่อกี้ยังดูเหตุการณ์อยู่ก็คาดเดาล่วงหน้าได้ว่าหลิ่วหรูเยียนและฉู่เฉินจะถึงทางตันแน่ในเวลานี้แต่ละคนต่างออกหน้ามาทีละคนโดยมีฟางเหว่ยเป็นผู้นำหลัก“ท่านผู้นำหญิง ก็คือไอ้คนแซ่ฉู่ไม่เพียงทำร้ายต้วนเคอจนสลบ แถมยังทำร้ายผู้อำนวยการหลิวจนบาดเจ็บสาหัส ไอ้เด็กเวรนี่สมควรจะถูกยิงตายคาที่”“ใช่แล้ว ผมก็เห็นเหมือนกัน ต้วนเคอเขาก็แค่ให้นังเลวหลิ่วหรูเยียนเซ็นชื่อ ใครจะไปรู้ว่า ฉู่เฉินไม่พูดอะไรก็ลงมือทำร้ายคนทันที”“ใช่ครับ ไม่เห็นกฎหมายบ้านเมืองอยู่ในสายตาบ้างเลย คนแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้นะครับ”ผู้ถือหุ้นที่ก่อนหน้าที่ยังอยู่ฝั่งฉู่เฉินต่างทยอยกล่าวโทษฉู่เฉินขึ้นมาในเวลานี้หลิ่วหรูเยียนรู้สึกสิ้นหวังทันทีเมื่อได้ยินเสียงกล่าวโทษของผู้คนรอบข้างถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าตระกูลฉีเรียกคนจากฝ่ายทหารมา เธอจะต่อต้านไปทำไม?“ฉู่เฉิน นายไม่รู้หรือว่านายทำลายพวกเราสองแม่ลูก!”ในขณะพูดหลิ่วหรูเยียนน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาราวกับไข่มุกที่ขาดออกจากสร้อยเสียแรงที่เธอเชื่อใจฉู่เฉินขนาดนั้น แต่ผลลัพธ์เป็นไงล่ะ?ก็เพราะฉู่เฉินก่อเรื่องจนยุ่งเหยิงวุ่นวายครั้งนี้ไม่ใช่แค่มอบบริษัทไปแล้วจะจบง
“ในฐานะที่นายเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์ พูดคำว่านังสารเลวสินะ มา วันนี้ถ้านายไม่อธิบายกับฉันอย่างชัดเจน ว่าอะไรถึงเรียกว่านังสารเลว เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่านายให้ตาย”สิ้นเสียงฉู่เฉินก็ชกเข้าที่ท้องน้อยของหลิวจื้อซินผลัวะ!พลังแกร่งขุมหนึ่งทะลุร่างอวบอ้วนของหลิวจื้อซินจนกระแทกเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังเขาลำพังแค่พลังแกร่งขุมเดียวก็ทำให้เก้าอี้ตัวนั้นกลายเป็นขี้เลื่อยปลิวว่อนกลางอากาศเลยทีเดียว“ต่อต้านแล้ว…ต่อต้านแล้ว เร็ว…รีบโทรแจ้งความกรมตำรวจ!”หลิวจื้อซินในเวลานี้ ทั้งปาก จมูก หูมีแต่เลือดไหลราวกับเหงื่อไหลไคลย้อยตอนนี้เขาไม่สนหน้าตาอะไรแล้ว จิตใจคิดแต่จะรอให้คนของกรมตำรวจรีบมาถึงแล้วจัดการฉู่เฉินให้ตายซะ……เวลานี้เอง รถตำรวจสิบกว่าคันและรถทหารสองคันได้มาจอดที่หน้าอาคารฉู่ซื่อกรุ๊ปแทบจะในเวลาเดียวกันหลูติ้งไห่และเซียวเสวี่ยอิ๋งที่ผลักประตูรถลงมามองสบตากันแล้วก็ตะลึงทันที“ผู้นำหลู?”“ผู้นำเซียว?”ทั้งสองจับมือกันโดยมีสีหน้าประหลาดใจ เซียวเสวี่ยอิ๋งมองตำรวจกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของหลูติ้งไห่แล้วก็ขมวดคิ้วกล่าว “ผู้นำหลู นี่คุณ…”เธอได้รับคำสั่งจากโฮ่วเจี้ยนอิง
ฉีเฮ่อเซวียนชำเลืองมองฉู่เฉิน แล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะร่าอย่างกะทันหันแล้วกล่าว “ไอ้หนุ่ม นายดีใจเร็วเกินไปไหม? นายคิดว่าทำร้ายต้วนเคอแล้วนายจะไม่เป็นอะไรหรือ?”กล่าวเสร็จฉีเฮ่อเซวียนก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนตบบ่าฉู่เฉินและกล่าว “ไอ้หนุ่ม เรื่องสนุกมันต่อจากนี้”ไม่ทันขาดคำก็มีเสียงเท้าวุ่นวายดังขึ้นจากในทางเดินฉีเฮ่อเซวียนฉีกยิ้มกล่าว “นายลองเดาดูว่าใครมา?”ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วยิ้มกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ไม่ว่าเป็นใคร อย่าคิดจะได้ฉู่ซื่อกรุ๊ปไป”“ใช่เหรอ?”ฉู่เฉินกล่าวจบก็มีเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้นวินาทีต่อมา ประตูห้องประชุมก็เปิดออกโดยชายวัยกลางคนสวมเสื้อลำลองเดินพุงพลุ้ยเข้ามาด้วยท่าทางที่หยิ่งผยองด้านหลังเขามีชายหนุ่มในชุดเครื่องแบบประมาณหกคนเดินตามมาด้วยเมื่อเห็นชายวัยกลางคนแล้ว หลิ่วหรูเยียนถึงกับตกใจหน้าซีดในทันที ชายวัยกลางคนคนนั้นก็คือหลิวจื้อซินซึ่งเป็นผู้อำนวยการกรมพาณิชย์ของเมืองเจียงจงเหตุการณ์เริ่มร้ายแรงแล้วสิแบบนี้“ฉู่เฉิน แย่แล้ว เป็นเรื่องแล้วรอบนี้”หลิ่วหรูเยียนจับแขนของฉู่เฉินไว้และกระซิบกล่าวหน้าซีดฉู่เฉินยิ้มให้หลิ่วหรูเยียน
“ฉัน…”หลิ่วหรูเยียนหน้าซีด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดสินะเธอกำปากกาเซ็นเอกสารในมือแน่น พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปทางฉู่เฉินฉู่เฉินควานหาบุหรี่ขึ้นมาจุดแล้วพ่นควันออกมาเป็นวงกลม ควันนั้นจึงลอยไปปะทะหน้าฟางเหว่ย จนฟางเหว่ยไอแค่กๆ“เมื่อกี้นายพูดไม่ใช่หรือไงว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องประชุมน่ะ!” ฟางเหว่ยกล่าวด้วยความไม่พอใจ“ฉันนี่แหละคนกำหนดกฎ นายมาพูดเรื่องกฎกับฉันเหรอะ? นายมีคุณสมบัตินั้นไหม?”ฉู่เฉินเหลือบมองฟางเหว่ยอย่างดูแคลน จากนั้นก้าวไปที่หน้าโต๊ะแล้วหยิบกองเอกสารหนาปึกขึ้นมาโปรยราวกับดอกไม้จนกระจายไปทั่ว“นายทำอะไรน่ะ! เก็บเอกสารขึ้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ต้วนเคอเห็นฉู่เฉินโปรยหนังสือสัญญาโอนหุ้นที่เขาเอาออกมาลงพื้นแล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างซึ่งเปี่ยมไปด้วยอำนาจฉู่เฉินยิ้มเยาะแล้วก้าวไปหาและพูดอย่างเฉยเมยกับต้วนเคอ “เรื่องไหนยังไงก็ต้องมีเหตุผลกันบ้างสิ ต่อให้ผู้ถือหุ้นโอนหุ้นให้คนแซ่ฉีแล้ว พวกเราก็มีสิทธิ์ไม่มอบบริษัทให้เหมือนกัน”“อย่างมากก็แค่ชดใช้เงินให้ก็เท่านั้น ในฐานะที่นายเป็นหัวหน้ากรมพาณิชย์ ไม่เข้าใจหลักเหตุผลข้อนี้หรือไง?”ต้วนเคอหัวเรา
“ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว การประชุมบอร์ดผู้บริหารสามารถเริ่มได้ยังคะ? พวกผู้ถือหุ้นเริ่มจะทนรอไม่ไหวแล้วค่ะ”เวลานี้เองเสมียนของฉู่ซื่อกรุ๊ปก้าวเข้ามายังห้องทำงานของผู้จัดการใหญ่อย่างเร่งรีบ และกล่าวกับหลิ่วหรูเยียน“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ให้พวกเขารออีกหนึ่งนาที”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจบแล้วหันหน้ามามองฉู่เฉิน“ได้ค่ะ”เสมียนตอบรับแล้วรีบเดินออกจากห้องทำงานอย่างรวดเร็ว“ฉู่เฉิน…”หลิ่วหรูเยียนไม่ทันกล่าว ฉู่เฉินก็ยกมือกล่าวตัดบท “หลิ่วชิงเหอล่ะ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้หลิ่วชิงเหอคงไม่ได้ให้เธอมาคนเดียวใช่ไหม?”หลิ่วหรูเยียนได้ยินแล้วหน้าซีดเล็กน้อย กล่าวด้วยท่าทางที่ไม่เป็นธรรมชาติ “เอ่อ แม่ฉันมีเรื่องสำคัญมาก เมื่อคืนวานก็ออกจากเจียงจงไปแล้ว”“น่าจะวันมะรืนถึงจะกลับมา ดังนั้นเรื่องของบริษัท นายช่วยฉันได้ไหม?”ฉู่เฉินฟังแล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อย จ้องหลิ่วหรูเยียนที่เริ่มลนลานสักพัก จึงพยักหน้ากล่าว “ไปกันเถอะ ต่อให้หลบยังไงก็หลบไม่พ้นเหมือนสำนวนจีนที่ว่าลูกสะใภ้ขี้เหร่ยังไงก็ต้องเจอพ่อแม่สามี”กล่าวจบ ฉู่เฉินก็จูงข้อมือของหลิ่วหรูเยียนและเดินไปยังห้องประชุมปัง!ฉู่เฉินผลักประตูห้องประชุมอย่างแรง
……ในตอนที่ฉู่เฉินและต้วนหลิงเวยออกจากห้องอาบน้ำอีกครั้งก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้าแล้วดูเหมือนว่าเนื่องจากการเพิ่มระดับพลังสองขั้นรวดแล้ว ใบหน้าเล็กที่แสนจะแดงก่ำของต้วนหลิงเวยนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขมองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่ายังมีเวลาห่างจากการประชุมบอร์ดผู้บริหารของฉู่ซื่อกรุ๊ปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ฉู่เฉินจึงกินข้าวเช้าหนึ่งคำอย่างลวก ๆ จากนั้นรีบเดินออกจากประตูวิลล่าจนมาถึงประตูใหญ่ของวิลล่าเฟิ่งหมิง ก็เห็นเจ้าทึ่มซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เงยหน้ามองดูพระอาทิตย์บนท้องฟ้าแสงสว่างจ้าฉู่เฉินขมวดคิ้วคิดว่าไม่ค่อยเข้ากับเสื้อชุดนี้สักเท่าไหร่ จึงเข้าไปนั่งในรถแล้วสั่งให้ต้วนหลิงเวยไปซื้อชุดยามรักษาความปลอดภัยกลับมาเปลี่ยนให้เจ้าทึ่มเห็นประตูใหญ่ก็ต้องทำให้สมกับได้เห็นประตูใหญ่หน่อยสิฉู่เฉินสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับจนมาถึงอาคารสำนักงานใหญ่ของฉู่ซื่อกรุ๊ปในเวลาไม่นานต้าหลิงจื่อกำลังยืนรออยู่ที่ประตูทางเข้าด้วยความร้อนใจก็เห็นฉู่เฉินเปิดประตูรถลงมา จึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับด้วยรองเท้าส้นสูงแม้ว่าขาสวยงามของต้าหลิงจื่อจะดูหนาไปเล็กน้อย แต่ถุงน่องสีเนื้อใต้ชุดกระโปรงทำงานสั้นนั้นก็ทำให้คนร
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าวิชาของมังกรเฒ่าช่างยอดเยี่ยมจริง ๆด้วยวิชาบำเพ็ญคู่บวกกับการแช่โอสถ ทำให้ฉู่เฉินรู้สึกถึงพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นานก็บรรลุจุดวิกฤติในการเลื่อนขั้นนั้นได้อีกครั้งตูม!พลังวิญญาณทำลายพันธนาการ รอบกายฉู่เฉินเกิดแสงเรืองรองสีทองเคลือบหนึ่งชั้นภายในห้องอาบน้ำสว่างจ้าไปด้วยแสงสีทองแม้แต่เงาร่างเสมือนมังกรภายในกายของฉู่เฉินก็เปลี่ยนแปลงจนเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัดของน้ำที่กระเซ็นส่วนต้วนหลิงเสวี่ยที่นอนราบข้างอ่างอาบน้ำ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกระทบอย่างต่อเนื่องจากด้านหลังจนพลังวิญญาณภายในร่างกายก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดหย่อนต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ในที่สุดเธอก็ทะลวงจนเลื่อนขั้นได้อีกครั้ง ระดับพลังหยุดอยู่ที่ระดับฝึกปราณชั้นแปดและในชั่วพริบตาที่ต้วนหลิงเสวี่ยกำลังเลื่อนขั้นพลังได้นั้นเอง ฉู่เฉินก็ทำลายพันธนาการจนทะลวงเลื่อนสู่ระดับระดับสร้างรากฐานขั้นสี่เลื่อนขั้นระดับพลังได้ติดต่อกับสามขั้นรวดเดียวแบบนี้ ต่อให้เป็นฉู่เฉินก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว ขณะที่ปราณและเลือดภายในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ทำเอา
ก๊อก!ในเวลาที่ฉู่เฉินเงยหน้าขึ้น ใต้โต๊ะก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง!เซียวเฟิงก้มหน้ามองไปยังใต้โต๊ะด้วยความแปลกใจ หลิ่วหรูเยียนเก็บมือกลับมาในช่วงเวลาเดียวกับที่เซียวเฟิงก้มตัวมอง แต่เพราะเหตุนี้เมื่อมองจากมุมของเซียวเฟิงก็ทำให้เขาตะลึงมากเวลาฉู่เฉินกินข้าว ตรงนั้นห้าวหาญได้ขนาดนี้เชียว?หลิ่วหรูเยียนฉวยโอกาสนี้วางตะเกียบและถ้วยชามลง จากนั้นลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มกล่าวกับทุกคนว่า “พวกคุณกินกันก่อนได้เลยค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องรีบกลับแล้วค่ะ”ฮะ?ฉู่เฉินรีบเงยหน้าหันขวับไปมองหลิ่วหรูเยียนแกล้งฉันเกินครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ฉันเกือบจะถูกเปิดโปงใต้โต๊ะแล้ว แต่เธอบอกจะไปก็ไปเนี่ยนะ?“ขอบคุณการรักษาด้วยสปาของคุณฉู่นะคะ บ๊ายบาย”หลิ่วหรูเยียนยังไม่ลืมโบกมือลาฉู่เฉินที่หน้าแดงก่ำอยู่ จากนั้นขาเรียวงามนั้นก็เดินส่ายสะโพกสวยไปมาแล้วหายไปจากสายตาของฉู่เฉินเมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนลุกจากที่นั่งแล้ว ต้วนหลิงเวยก็ไม่พลาดโอกาสเข้ามาแทนที่จึงได้นั่งข้างฉู่เฉิน ดวงตางามคู่นั้นชำเลืองมองใต้โต๊ะเป็นระยะ ๆอาจเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ดวงตาคู่งามของเธอนั้นระยิบระยับมีเสน่ห์เวลาไม่นาน