ในเวลานี้เอง โทรศัพท์จากเซี่ยฉีฉีดังขึ้นฉู่เฉินหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย เสียงอ่อนหวานของเซี่ยฉีฉีดังมาจากปลายสาย “ฉู่เฉิน ว่างไหม? ช่วงนี้ในเมืองเจียงจงมีร้านอาหารส่วนตัวเปิดใหม่ ถ้าไม่มีธุระอะไร ไปกินข้าวกับฉันหน่อยได้ไหม?”ปลายสาย เสียงของเซี่ยฉีฉีสะท้อนแววเขินอายอย่างชัดเจน เห็นได้ว่าเธอยังคงอยู่ในภวังค์หลังจากที่แยกกับฉู่เฉินเมื่อวาน“ได้ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปรับ”ฉู่เฉินพยักหน้าทันที“ฉันไปรับคุณดีกว่า รอฉันอยู่นั่นแหละ สิบนาทีก็ถึงแล้ว”พูดจบ เซี่ยฉีฉีก็วางสายไปผ่านไปไม่นาน หน้าประตูบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ก็มีเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นฉู่เฉินเก็บกวาดเล็กน้อย จากนั้นก็กำชับอินซู่ซู่ว่า “จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ห้ามสู้กับคนอื่นง่ายๆ ต้องรอฉันกลับมาก่อน เข้าใจไหม?”อินซู่ซู่ได้รับบทเรียนจากหลี่เต้าผิงและกุหลาบเพลิง รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองยังอ่อนหัดเกินไป ไม่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยฉู่เฉินแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จึงได้แต่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “อืม นายท่านวางใจได้ ฉันจะไม่วู่วามอีกแล้ว”ฉู่เฉินถึงได้ผลักประตูและเดินออกไปอย่างวางใจเวลานี้ เซี่ยฉีฉียืนพิงประตูรถโคโรลล่าอยู่ เธอยกมือเสย
ขณะที่เวลานี้ เซี่ยฉีฉีเองก็สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้ออันกำยำบนตัวของฉู่เฉินด้วยเช่นกันครั้นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเพศชายลอยเข้ามาในโพรงจมูก หัวใจของเซี่ยฉีฉีเต้นเร็วจนเหมือนจะกระเด็นออกมาเวลานี้ ปากเล็กๆ ของเธออยู่ห่างจากปลายจมูกของฉู่เฉินไม่ถึงหนึ่งนิ้ว และท่าของพวกเขาในตอนนี้ก็ล่อแหลมสุดๆแค่ฉู่เฉินขยับปากเล็กน้อย เขาก็จะสัมผัสโดนกลีบปากที่ทาลิปของเธอแล้วฉู่เฉินสัมผัสได้ถึงความเนียนเด้งและนุ่มลื่นจากผิวของเซี่ยฉีฉี จังหวะลมหายใจเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงผ่านไปสิบกว่าวินาที กว่าเซี่ยฉีฉีจะได้สติกลับมาจากเหตุสะเทือนขวัญเมื่อครู่ เธอหลุบตาต่ำเล็กน้อย ดวงตางามจับจ้องไปที่กลีบปากของฉู่เฉินที่กำลังหอบหายใจหนักๆ ดวงหน้าเรียวงามแดงแปร๊ดจนเหมือนจะมีเลือดหยดออกมาเซี่ยฉีฉีในตอนนี้ งดงามน่าหลงใหลดุจแสงอาทิตย์ยามสายัณห์“ฉู่เฉิน นะ…นายพกอาวุธอะไรมารึเปล่า? เหมือนมีอะไรทิ่มเอวฉันอยู่…”เซี่ยฉีฉีจ้องฉู่เฉินตาไม่กะพริบ“อะแฮ่ม!”ฉู่เฉินหน้าแดงกับคำถามของเธอ เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากปัญหาคือเขาไม่ได้ตั้งใจ แต่สาวงามที่อยู่ตรงหน้ากลับน่าเย้ายวนจนเกินต้านนี่นาถ้าสาวสวยอยู่ตรงหน้า แต
“บริษัทยาเหรอ? งั้นถ้าบริษัทนายอยากทำโลโก้ ฉันช่วยได้นะ บริษัทของเราเชี่ยวชาญเรื่องนี้ อีกอย่างบริษัทใหญ่หลายที่ในมณฑลก็เป็นลูกค้าเก่าของเรา”“ด้านความน่าเชื่อถือและความสวยงาม นายไว้ใจได้เลย”เซี่ยฉีฉีเอ่ยพลางหยิบมือถือขึ้นมา ก่อนจะโชว์โลโก้ที่บันทึกเก็บไว้กว่าหนึ่งร้อยรูปให้ฉู่เฉินดูต้องยอมรับว่า วิสัยทัศน์ด้านความงามของเซี่ยฉีฉีเรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงมากทีเดียวหนำซ้ำมีหลายโลโก้ที่ไม่ว่าจะดูจากด้านแนวคิดการออกแบบ หรือสไตล์การออกแบบ ล้วนไม่แพ้แบรนด์ระดับนานาชาติ!“อืม แน่นอนอยู่แล้ว พอดีเลย เดี๋ยวอีกช่วงหนึ่งบริษัทของเราต้องนำเสนอยาตัวใหม่ ถึงตอนนั้นมอบหมายงานนี้ให้บริษัทของเธอก็แล้วกัน”ฉู่เฉินยิ้มบอกตอนนี้ยาบำรุงปราณยังขายแค่ในตลาดออฟไลน์ ถ้าเป็นที่รู้จักกันในตลาดเมื่อไร เขาก็จำเป็นต้องออกแบบโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้ามอบหมายเรื่องนี้ให้เซี่ยฉีฉี ฉู่เฉินเองก็ค่อนข้างวางใจทีเดียวในตอนนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์ของเซี่ยฉีฉีก็ดังขึ้น ฉู่เฉินกวาดสายตาไปที่หน้าจอ เป็นหมายเลขที่ถูกบันทึกไว้ว่า ‘คุณชายจาง’“ฉีฉี โทรศัพท์เธอน่ะ”ฉู่เฉินยื่นโทรศัพท์ให้ฉู่เฉินโดยไม่พูดอะไรพอเห็นชื่อที
“จางไห่หยาง คุณจะทำอะไร!”เซี่ยฉีฉีเห็นลูกน้องอันธพาลสิบกว่าคนนั้นถือท่อนไม้บ้าง มีดปอกผลไม้บ้าง เธอลุกขึ้นด้วยความตกใจ ก่อนจะดึงฉู่เฉินไปหลบข้างหลัง“ทำอะไรงั้นเหรอ?”จางไห่หยางตวัดสายตาไปที่ฉู่เฉินซึ่งยังคงจิบชาอย่างสงบนิ่งดุจภูเขาไท่ซาน ก่อนจะยิ้มชั่วร้ายและบอกว่า “นางแพศยาเซี่ยฉีฉี ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าเธอ แต่เธอกลับไม่เห็นค่ามัน!”“ไสหัวออกไป!”พูดจบ จางไห่หยางก็เอื้อมมือมาจะดึงเซี่ยฉีฉีแต่มือของเขายังไม่ทันสัมผัสโดนแขนของเซี่ยฉีฉี เสียงอันเยือกเย็นก็ดังมาจากข้างหลังของเซี่ยฉีฉีก่อน“ไว้หน้าแล้วใช่ไหม?”“หมาหมู่รุมเห่าหอน ตอนแรกก็ไม่อยากใส่ใจ แต่นี่คิดจะใช้กำลังกันด้วย? ใจกล้ามาจากไหน!”พูดจบ จางไห่หยางยังไม่ทันตั้งตัว จู่ๆ ฉู่เฉินก็ลุกขึ้น สะบัดฝ่ามือใส่หน้าของจางไห่หยางอย่างแรงเพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือปะทะเข้ากับกกหูดังก้องไปทั่วทั้งห้องจางไห่หยางหน้าอันไปอีกทาง ร่างของเขากระเด็นออกไปไกลถึงสองเมตรกว่า ก่อนที่หัวจะกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงส่งผลให้หัวแตกเลือดไหลอาบหน้า“คุณชายจาง ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”ลูกน้องสองคนรีบวิ่งเข้าไปประคองจางไห่หยางขึ้นมา“ไอ้เด็กเปรต แกอยากต
ฉู่เฉินหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ปรมาจารย์ยุทธ์?เฮ้อ เดี๋ยวนี้ปรมาจารย์ยุทธ์เกลื่อนกลาดขนาดนี้แล้วเหรอ?“ได้ แกโทรได้ตามสบาย แต่ฉันขอบอกแกไว้ให้ชัดๆ ตรงนี้เลยนะ ว่าถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษเซี่ยฉีฉี ถึงเง็กเซียนฮ่องเต้มาก็ช่วยอะไรแกไม่ได้!”พูดจบ ฉู่เฉินก็ดึงเก้าอี้มานั่งขวางจังก้าอยู่หน้าประตูเห็นฉู่เฉินปิดทางเข้าออกห้องส่วนตัว พวกลูกสมุนของจางไห่หยางตกใจจนแทบฉี่ราดถึงแม้พวกเขาไม่ได้ผ่านโลกมามากมาย แต่พวกเขายังหวาดกลัวฝ่ามือเมื่อกี้ของฉู่เฉินไม่หายความรู้สึกอย่างนั้น เหมือนใช้ท่อนไม้ฟาดใส่ท่อนเหล็ก ฉู่เฉินไม่เพียงไม่เป็นอะไร พวกเขากลับเจ็บจนแขนชาไปหมดคนอย่างนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน!ตระกูลจางมีสายสัมพันธ์กับปรมาจารย์ยุทธ์อยู่จริงๆ แต่ปัญหาคือคนอื่นเขาจะไว้หน้าจางไห่หยางที่เป็นรุ่นลูกของตระกูลจางหรือเปล่าถ้าเชิญปรมาจารย์ยุทธ์มาไม่สำเร็จ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าจะมีจุดจบยังไง ดีไม่ดี แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องเอาชีวิตน้อยๆ มาทิ้งไว้ที่นี่ด้วย“เหอะ! ไอ้หนู แกรอฉันก่อนเถอะ!”จางไห่หยางพูดจบก็ค้นเบอร์โทรศัพท์และโทรศัพท์ออกทันทีรออยู่นาน กว่าอีกฝ่ายจะรับสายจางไห่หยางร้องคร่ำครวญทันทีที่อีกฝ่ายร
ปรมาจารย์ยุทธ์มาแล้ว!พวกจางไห่หยางดีใจมาก ลูกสมุนที่อยู่ด้านหนึ่งชี้ไปทางประตูใหญ่ และพูดอย่างลิงโลดว่า “คุณชายจาง ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เขามาด้วยตัวเองเลยครับ”จางไห่หยางมองตามนิ้วมือของคนคนนั้น เห็นเพียงชายชราผมขาวคนหนึ่งสวมชุดฝึกยุทธ์สีขาวบริสุทธิ์ ผมยาวถึงกลางหลัง ท่าทางสง่างาม ยืนในท่าเอามือไพล่หลัง เขากำลังเดินมาทางนี้โดยมีลูกศิษย์รายล้อมอยู่รอบๆพอเห็นปรมาจารย์ยุทธ์โจวมา จางไห่หยางกลับมามีความมั่นใจขึ้นหลายส่วนแม้อยู่ห่างกว่าหนึ่งร้อยเมตร คำพูดของฉู่เฉินกลับไม่อาจรอดพ้นหูของปรมาจารย์ยุทธ์โจวได้มิหนำซ้ำ เมื่อกี้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวยังจงใจสำแดงวิชาขจรเสียงพันลี้อีกด้วย!ปรมาจารย์ยุทธ์ก็ยังเป็นปรมาจารย์ยุทธ์วันยังค่ำ แม้แต่ฉากเปิดตัวก็ยังต้องเว่อร์วังอลังการอย่างนี้!จางไห่หยางที่มีที่พึ่งตวัดสายตามองฉู่เฉินอย่างดูแคลน เขาดึงเก้าอี้มานั่งไขว่ห้าง จากนั้นก็ชำเลืองมองฉู่เฉินด้วยหางตาแววตาของเขาเหมือนกำลังมองเจ้าโง่คนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเลย“ไอ้แซ่ฉู่ แกคงไม่คิดว่าฉันจะเชิญปรมาจารย์โจวมาได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ? จะบอกอะไรให้ นี่แหละอำนาจของเงิน ต่อหน้าตระกูลจางของฉัน ถึงแกจะเป็นมังกรก็ย
ในเวลานี้เอง เสียงคำรามด้วยความเกรี้ยวโกรธดังกัมปนาทราวกับเสียงฟ้าผ่าทุกคนในห้องต่างก็สะท้านสะเทือนจนหน้ามืดตาลาย!วิชาราชสีห์เมฆาสายฟ้าคำราม!วิชาที่ทำให้ปรมาจารย์ยุทธ์โจวมีชื่อเสียง!ทุกคนในห้องสีหน้าพลันเปลี่ยน แม้แต่จางไห่หยางก็ยังต้องลุกขึ้นยืนตัวตรงอย่างนอบน้อม!เห็นเพียงชายชราผมขาวคนนั้นเหยียดยืนหลังตรง เอามือสองข้างไพล่หลัง ท่าทางผึ่งผายอยู่ตรงหน้าประตูโจวฉีหลิน หัวหน้าปรมาจารย์ยุทธ์แห่งเมืองเจียงจง หรือที่ผู้คนขนานนามว่าราชสีห์เมฆาสายฟ้า!เซี่ยฉีฉีเห็นโจวฉีหลินปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องก็แตกตื่น เธอกุมแขนของฉู่เฉิน และมองหน้าเขาด้วยร่างกายอันสั่นเทาถ้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น วันนี้เธอไม่น่าเรียกฉู่เฉินออกมาเลย แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอะไรก็สายไปแล้ว!จางไห่หยางยิ้มเย็นพลางตวัดสายตามองฉู่เฉิน ก่อนจะหันไปฉีกยิ้มและพูดกับโจวฉีหลินว่า “ปรมาจารย์ยุทธ์โจว เมื่อกี้ไอ้หมอนี่แหละครับที่พูดจาอวดดี!”โจวฉีหลินแววตาเย็นชา จ้องพิจารณาเงาหลังของฉู่เฉิน ก่อนจะพยักหน้าหยิ่งผยอง ก่อนเอ่ยว่า “ผมได้ยินหมดแล้ว คนหนุ่มสาวบางคน มักไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”“คิดว่าตัวเองฝึกยุทธ์แค่สองส
ได้ยินเสียงคำรามอย่างเดือดดาลของโจวฉีหลินที่ดังมาจากข้างหลัง จางไห่หยางตัวแข็งทื่อ สมองว่างเปล่าไปชั่วขณะเกิดอะไรขึ้น?เหมือนปรมาจารย์ยุทธ์โจวกำลังด่าเขาอยู่?ในเวลานี้เอง ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็หันไปมองที่ประตูแม้แต่เซี่ยฉีฉีเองก็หันไปมองโจวฉีหลินด้วยสายตาสงสัยซี้ด!ครั้นเห็นโจวฉีหลินที่คุกเข่าหลังเหยียดตรงอยู่บนพื้น แทบทุกคนต่างพากันสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อเซี่ยฉีฉีก็ยังแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองเมื่อวานฉู่เฉินหักขาของเจิ้นหู่ก็จริง แต่เจิ้นหู่ไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์นี่นา เขาเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งของจางหลงเท่านั้นและที่เมื่อวานฉู่เฉินไม่เกรงกลัวอะไร ก็เหมือนจะเป็นเพราะสนิทกับจางหลงแต่ตอนนี้ เขากำลังเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ยุทธ์เชียวนะ แต่โจวฉีหลินกลับคุกเข่าต่อหน้าฉู่เฉิน?ส่วนจางไห่หยางที่เห็นภาพนั้นได้อึ้งตาค้างไปแล้วนี่มันอะไรกัน?ทำไมโจวฉีหลินถึงได้คุกเข่าให้ฉู่เฉิน?โจวฉีหลินหันไปเห็นสายตาแปลกๆ ของจางไห่หยาง แทบอยากจะตบเขาให้ตายในฝ่ามือเดียว!มีเรื่องกับใครไม่ว่า แต่ดันมีเรื่องกับฉู่เฉิน?แต่แกจะมีเรื่องก็มีเรื่องไปสิวะ ทำไมต้องเรียกฉันมาด้วย?เขาอายุเกิน
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ