รอยช้ำบนหน้าผากของอินซู่ซู่ ก็คงจะเกิดจากกระบวนท่านี้ของเธอเหมือนกันสินะ“จะทดลองใช้งานไม่ใช่เหรอ? หลบทำไมล่ะ”หญิงชุดแดงยิ้มหวาน ทว่าไอสังหารในดวงตากลับยิ่งเข้มขึ้น ฉู่เฉินยังไม่ทันตอบโต้ เธอก็พุ่งสังหารเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้าฉู่เฉินหรี่ตา ยกนิ้วมือขึ้นมาแตะกลางอากาศ บึ้ม!เพียงนิ้วเดียวก็ทำให้หญิงชุดแดงถอยหลังไปไกลหลายก้าว ขณะที่หญิงชุดแดงฝีเท้าซวนเซ กระดุมตรงรอยแหวกบนกระโปรงกี่เพ้าก็กระเด้งหลุดออกไปถึงสองเม็ดชั่ววินาทีนั้น เรียวขายาวงามสองข้าง และเอวคอดบางปรากฏสู่สายตาในทันใดสายลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกาย ทำให้หญิงชุดแดงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยอยู่ รอยยิ้มหวานหยดย้อยพลันหุบลง สีหน้าขึ้งเคียดและอับอายเข้ามาแทนที่แต่การที่เขาสามารถทำให้เธอถอยหลังได้เพียงใช้นิ้วเดียว นั่นแสดงว่าข้อมูลที่สมาคมจันทราโลหิตให้เธอมามีความผิดพลาดฉู่เฉินไม่ใช่ปรมาจารย์ยุทธ์แต่อย่างใด แต่เป็นยอดฝีมือที่เหนือกว่าขั้นมหาปรมาจารย์ยุทธ์ซะอีกดูท่าเธอคงประมาทเกินไป ไม่น่ารีบลงมือโดยไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนเลยในเมื่อแหวกหญ้าให้งูตื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไม่อย่างนั้น ถ้าถูกฉู่เฉินโจมตีบาดเ
“เหอะ!”หญิงชุดแดงตวัดมองมีดผีเสื้อด้วยแววตาไม่ยี่หระ ก่อนจะหันหน้าเรียวงามไปทางอื่น ท่าทางเหมือนไม่กลัวตายอย่างไรอย่างนั้นก็แค่ตาย อย่าคิดว่าฉู่เฉินจะได้ข้อมูลอะไรจากปากเธอไปแม้แต่นิดเดียวในฐานะนักฆ่าระดับเอสเอส เธอยังพอมีจิตสำนึกในอาชีพอยู่บ้างหนำซ้ำ นับตั้งแต่วันที่เธอเริ่มเดินเส้นทางนี้ เธอก็เคยคิดไว้แล้วว่าตัวเองอาจต้องมีจุดจบแบบนี้ ก็แค่ขึ้นอยู่กับเวลาว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเองเพียงแต่การที่ต้องตายด้วยน้ำมือของฉู่เฉิน เป็นเรื่องที่เธอเจ็บใจจริงๆถ้าไม่ใช่เพราะข้อมูลผิดพลาด บวกกับเธอประมาทศัตรูเกินไป ฉู่เฉินคงตายไปแล้ว!“ฉันขอเตือนเธอให้สารภาพมาซะดีกว่า ไม่งั้นเธอจะได้ตายด้วยวิธีการที่หอมหวานเชียวล่ะ ฉันคิดว่าเธอเข้าใจดีว่าฉันหมายถึงอะไร”พูดจบ ฉู่เฉินก็เลื่อนมีดผีเสื้อที่จ่อลำคอยาวระหงลงไปด้านล่างช้าๆ ก่อนจะหยุดอยู่บนภูเขาสองลูกตรงหน้าอกของเธอ“แคว่ก!”ปลายมีดแหลมคมกรีดกี่เพ้าของหญิงชุดแดง เผยให้เห็นขอบชุดชั้นในลูกไม้สีแดงที่อยู่ด้านใน“แกจะทำอะไร!”หญิงชุดแดงเริ่มลนลานอย่างเห็นได้ชัดแต่จนใจที่ฉู่เฉินสกัดจุดลมปราณของเธอไว้ ตอนนี้แม้จะอยากฆ่าตัวตาย แต่แค่จะยกแขน
ในสมองของเธอมีเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ ‘เธอต้องการผู้ชาย!’เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของฉู่เฉิน หญิงชุดแดงที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืนไปนานแล้ว เธอสารภาพเรื่องของหลิ่วชิงเหอกับเรื่องสมาคมจันทราโลหิตออกมาทั้งหมดกระทั่งได้ยินคำบอกเล่าของหญิงชุดแดง ฉู่เฉินจึงค่อยดันตัวเธอลงด้านล่างอย่างพึงพอใจหลังจากการต่อสู้กันดุเดือดผ่านไป รอยแดงเรื่อบนแก้มของหญิงชุดแดงก็ค่อยๆ จางไป สติสัมปชัญญะก็ค่อยๆ กลับมาเช่นกัน“ฉู่เฉิน!”หญิงชุดแดงจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง พลางกัดฟันจ้องหน้าฉู่เฉินอย่างเคียดแค้นถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ตอนนี้ร่างกายของฉู่เฉินคงพรุนไปนานแล้ว“เมื่อกี้ไม่มีใครบังคับให้เธอทำอย่างนั้นซักหน่อย อีกอย่างเธอก็โดดเด่นกว่าคนอื่นมากนะ มีไม่กี่คนที่จะทำได้ดีขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรก”ฉู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะหันตัวเดินไปทางบ้านใหญ่ตระกูลฉู่หญิงชุดแดงจ้องเงาหลังของฉู่เฉิน เธอกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ“คอยดูเถอะ ฉันจะฆ่าแกให้ได้!”ได้ยินเสียงคำรามต่ำจากหญิงชุดแดงที่อยู่ข้างหลัง ฉู่เฉินเพียงยิ้มจางๆ “ฉันยินดีรับใช้เสมอ แต่ครั้งหน้าใส่ชุดเซ็กซี่กว่านี้หน่อยล่ะ กี่เพ้าสีนี้ไม่เ
“อะแฮ่ม!”ฉู่เฉินกระแอมเบาๆ “เธอยังเด็ก เรื่องหลายอย่างยังไม่ต้องถามมาก”“คนอื่นเขาไม่เด็กแล้วนะ”อินซู่ซู่เชิดหน้าอกขึ้นอย่างไม่ยอมรับ แต่วินาทีถัดมา เธอนึกถึงเรื่องที่หญิงชุดแดงว่าเธอว่าหน้าอกเล็ก จึงกระทืบเท้าอย่างเจ็บใจฉู่เฉินเปลี่ยนใส่เสื้อผ้าสะอาด สาวเท้าออกจากประตู ก่อนไป เขาวางค่ายกลซ่อนเร้นไว้รอบๆ บ้านใหญ่ตระกูลเฉิน เผื่อตอนที่เขาไม่อยู่บ้าน กุหลาบเพลิงจะได้ไม่ย้อนกลับมาโจมตีอีกเมื่อเสียงสตาร์ตรถยนต์ดังกระหึ่ม ฉู่เฉินก็ขับรถเบนซ์จีคลาสคันนั้นของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว……เวลานี้ ณ สวนดอกไม้ด้านหลังคฤหาสน์ตระกูลหลิ่วหลิ่วชิงเหอใส่ชุดเดรสสีชมพูเข้ารูปเปิดหัวไหล่ เธอกำลังสาวเท้ายาวๆ เดินกลับไปกลับมาอยู่ในสวนดอกไม้ตั้งแต่ที่สมาคมจันทราโลหิตรับใบเสร็จสังหารฉู่เฉินไป เธอก็อดกระสับกระส่ายไม่ได้“เกิดอะไรขึ้น? นี่หรือฉันกำลังเป็นห่วงไอ้เดรัจฉานฉู่เฉินนั่น? เป็นไปไม่ได้!”หลิ่วชิงเหอปฏิเสธความคิดนี้ทันทีเธอแทบอยากจะฆ่าฉู่เฉินด้วยมือตัวเอง จะเป็นห่วงเขาได้อย่างไร?ในขณะที่หลิ่วชิงเหอกำลังความคิดสับสนวุ่นวาย ป้าอู๋ก็วิ่งเข้ามาในสวนดอกไม้ ก่อนพูดด้วยสีหน้าย่ำแ
เพี๊ยะ!ฉู่เฉินไม่เปิดโอกาสให้หลิ่วชิงเหอโต้แย้ง เขาตวัดฝ่ามือใส่แก้มของเธอเสียงดังฟังชัด“ไอ้เดรัจฉาน แกกล้าตบฉันเหรอ ไม่แกก็ฉันต้องตายกันไปข้าง!”ผมยาวๆ ของหลิ่วชิงเหอสยายยุ่งอยู่บนหัวไหล่ของเธอ ก่อนจะพุ่งตัวใส่ฉู่เฉินฉู่เฉินตวัดสายตามองหลิ่วชิงเหอ ก่อนจะยิ้มเย็น คว้าข้อมือของหลิ่วชิงเหอ จากนั้นก็บังคับให้เธอหันหลัง“จะสู้ตายกับฉันเหรอ? มั่นใจว่ามีปัญญา?”ฉู่เฉินพูดจบก็จับร่างของหลิ่วชิงเหอตรึงกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างหน้าหลิ่วชิงเหอถูกหลิ่วชิงเหอตรึงร่างไว้แน่น ได้แต่กัดฟันและหันหน้าไปพูดกับฉู่เฉินที่อยู่ข้างหลังว่า “ไอ้เดรัจฉาน แกจะทำอะไร! ที่นี่บ้านฉันนะ!”“บ้านของเธอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ควรเป็นตระกูลฉู่ต่างหาก!”ขณะเอ่ย ฉู่เฉินกระชากชุดเดรสของหลิ่วชิงเหอเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดัง ก่อนที่แผ่นหลังเนียนขาวดุจหยกของหลิ่วชิงเหอจะปรากฏอยู่ต่อหน้าของฉู่เฉิน“ไอ้สารเลว แกปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”หลิ่วชิงเหอตะโกนกรีดร้องสุดกำลังแต่ไม่ว่าเธอจะขัดขืนสักแค่ไหน ร่างกายที่ถูกฉู่เฉินตรึงติดกับต้นไม้ก็ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อยฉู่เฉินเชยชมเรือนร่างที่เต็มไปด้วยกลิ
ฉู่เฉินยิ้มเย็นขณะสาวเท้าเข้าไป กระชากผมของหลิ่วชิงเหอ จับร่างเธอขึงติดกับกระจกใสบานใหญ่“เธออยากให้ฉันตายมากไม่ใช่เหรอ? ฉันขอเตือนให้เธอดูเวลาตอนนี้ให้ดีๆ!”หลิ่วชิงเหอส่ายหน้า พลางออกแรงดันฉู่เฉินออกไป พร้อมกับด่าสาดเสียเทเสียไปด้วย “ไอ้ฉู่เฉิน! ไอ้เดรัจฉาน แกอย่าคิดจะแตะต้อง…”เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงพูดก็เงียบหายไปในทันที!พอเห็นเข็มนาฬิกาชี้ไปที่สามโมงตรง หลิ่วชิงเหอรีบอ้อนวอนทันที “ฉู่เฉิน ฉันขอร้องแกได้ไหม? อีกไม่นานหรูเยียนก็จะกลับมาแล้ว”“ให้ฉันได้รักษาศักดิ์ศรีความเป็นแม่คนไว้หน่อยเถอะ ได้ไหม?”ฉู่เฉินเพียงยิ้มอย่างเย็นชาเป็นคำตอบให้หลิ่วชิงเหอ“เต๊ง เต๊ง เต๊ง!”เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาสามครั้งดังขึ้นจากห้องรับแขก หัวใจของหลิ่วชิงเหอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม……ในอีกด้านหนึ่ง หลิ่วหรูเยียนเพิ่งจะจบการประชุมช่วงบ่ายของวันนี้ เธอบิดขี้เกียจพร้อมกับหาวกว้างๆ ชุดทำงานสีดำบนตัวถูกเบียดจนเป็นทรงนูนเว้าไปตามการเคลื่อนไหวของเธอหลังจากเก็บกวาดเล็กน้อย หลิ่วหรูเยียนหันไปพูดกับเลขาว่า “หาคนขับส่งฉันกลับบ้านด้วย ฉันเหนื่อยแล้ว”วันนี้เธอยุ่งอยู่ทั้งวัน รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวตอนนี้เ
หลิ่วหรูเยียนได้ยินอย่างนั้น เธอกลับไม่ได้ตกใจเท่าหลิ่วชิงเหอยังไงซะวีดิโอที่ฉู่เฉินรักษาหลินรั่วเวยจนหายก็ได้แพร่ไปทั่วโซเชียลแล้ว แม้จะใช้เส้นสายขนาดไหนก็ไม่สามารถลบชื่อฉู่เฉินออกจากการแข่งขันได้แต่ทว่า ของปลอมไม่มีวันเป็นของจริงได้อยู่แล้ว“เขาก็แค่เข้ารอบแรก ไม่ได้ชนะได้รางวัลซักหน่อย คนที่บริษัทของเราส่งไปต่างหากที่เป็นม้ามืดคว้ารางวัลในครั้งนี้ได้”หลิ่วหรูเยียนพูดอย่างมั่นอกมั่นใจเธอได้ส่งคนไปสืบเรื่องของหลี่จวิ้นเฟิงอย่างลับๆ แล้ว ศิษย์ผู้มีพรสวรรค์จากยอดเขาที่เจ็ดแห่งสำนักหมอเซียน ถึงแม้อายุน้อย แต่ทักษะด้านการแพทย์ไม่ได้ด้อยกว่าฮว่าจิ่วหยางมากนักคนแบบนี้ใช่คนที่จอมลวงโลกอย่างฉู่เฉินเทียบได้เสียที่ไหน?“หลี่จวิ้นเฟิงอะไรนั่นเก่งขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?”หลิ่วชิงเหอยังคงมีท่าทีสงสัยต่อเรื่องนี้เธอเคยเห็นความสามารถด้านการแพทย์ของฉู่เฉินมากับตา หนำซ้ำ วีดิโอที่เขารักษาหลินรั่วเวยเธอก็ดูมาไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วด้วยไม่ใช่การแสดงอย่างแน่นอนหลิ่วชิงเหอส่งคนไปสืบเรื่องอาการป่วยของหลินรั่วเวยอย่างลับๆ ทุกอย่างเป็นความจริง อีกอย่าง อาการป่วยของหลินรั่วเวยก็หายแล้วจริงๆ“แม
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์จากเซี่ยฉีฉีดังขึ้นฉู่เฉินหยิบมือถือขึ้นมากดรับสาย เสียงอ่อนหวานของเซี่ยฉีฉีดังมาจากปลายสาย “ฉู่เฉิน ว่างไหม? ช่วงนี้ในเมืองเจียงจงมีร้านอาหารส่วนตัวเปิดใหม่ ถ้าไม่มีธุระอะไร ไปกินข้าวกับฉันหน่อยได้ไหม?”ปลายสาย เสียงของเซี่ยฉีฉีสะท้อนแววเขินอายอย่างชัดเจน เห็นได้ว่าเธอยังคงอยู่ในภวังค์หลังจากที่แยกกับฉู่เฉินเมื่อวาน“ได้ คุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปรับ”ฉู่เฉินพยักหน้าทันที“ฉันไปรับคุณดีกว่า รอฉันอยู่นั่นแหละ สิบนาทีก็ถึงแล้ว”พูดจบ เซี่ยฉีฉีก็วางสายไปผ่านไปไม่นาน หน้าประตูบ้านใหญ่ตระกูลฉู่ก็มีเสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นฉู่เฉินเก็บกวาดเล็กน้อย จากนั้นก็กำชับอินซู่ซู่ว่า “จำไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ห้ามสู้กับคนอื่นง่ายๆ ต้องรอฉันกลับมาก่อน เข้าใจไหม?”อินซู่ซู่ได้รับบทเรียนจากหลี่เต้าผิงและกุหลาบเพลิง รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองยังอ่อนหัดเกินไป ไม่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยฉู่เฉินแก้ปัญหาต่างๆ ได้ จึงได้แต่พยักหน้าอย่างหนักแน่น “อืม นายท่านวางใจได้ ฉันจะไม่วู่วามอีกแล้ว”ฉู่เฉินถึงได้ผลักประตูและเดินออกไปอย่างวางใจเวลานี้ เซี่ยฉีฉียืนพิงประตูรถโคโรลล่าอยู่ เธอยกมือเสย
เหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง พิธีกรสาวสวยรีบยกมือข้างหนึ่งยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้ ในขณะที่ผมตรงหน้าผากของเธอสะบัดอย่างแรง ม่านบนเวทีก็สั่นไหวเป็นจังหวะเช่นกัน“ต่อไปของเชิญทุกท่าน...”“อ๊า!”“เชิญทุกท่าน...”“อือ...”สาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่หน้าเวทีก็งงงวย นี่... นี่มันเสียงอะไรกัน?ไม่เพียงแต่เธอจะตกตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ชมทุกคนก็ตกตะลึงเช่นกันม่านสั่นอย่างรุนแรง และเห็นร่างเลือนรางของคนสองคนยืนอยู่ด้านหลังม่านดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นระยะๆนี่มันเรื่องอะไรกัน?ขณะที่ทุกคนกำลังมองหน้ากันเพื่อพยายามหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีเสียงปังดังขึ้นมือของพิธีกรเด็กสาวอีกคนกดสวิตช์ไฟโพรเจกเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ และลำแสงก็ส่องออกมาโดยตรงจากด้านหลังของฉู่เฉินและพิธีกรสาวสวยวินาทีต่อมา เงาอันสั่นไหวสองร่างปรากฏขึ้นบนม่านตรงกลางเวที“ฉิบหาย!”“นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรเนี่ย?”“นะ... นี่มันรายการพิเศษเหรอ?”แทบจะทุกคนตกตะลึงกับฉากบนม่านเด็กสาวบนเวทีก็เกิดอาการตื่นตระหนกและรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อปิดไฟโพรเจกเตอร์แต่เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เขาก็พบว่าพิธีกรสาวสวยหลับตาปี๋ เธอใช้มือเล็กๆ ข้าง
ยาเม็ดอยู่ในมือ หลิวจิ่งหงราวกับว่าเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมาได้ ยกมือเล็กๆ ของเฉียนเจียวเจียวขึ้นมา หันหน้าไปจูบปากเล็กของเธอหืม?หลิวจิ่งหงรู้สึกถึงความผิดปกติ ถามขึ้นมาด้วยความอึดอัดใจ “ปากของคุณทำไมทั้งร้อนทั้งเค็มแบบนี้?”เฉียนเจียวเจียวถูกถามแบบนี้ก็ใจสั่น เธอกลืนน้ำลายลงไป “เอ๋? ฉัน... เมื่อกี้ฉันเพิ่งไปดื่มน้ำผึ้งมาค่ะ น่าจะเป็นเพราะ... เพราะน้ำผึ้งนะคะ?”หลิวจิ่งหงพยักหน้า ไม่ได้สงสัยอะไรอีก หลังจากนั้นเขาก็หันหลังดึงเฉียนเจียวเจียว และหลี่ว์เจิ้งหยางและคนอื่นๆ ออกไปจากงานประมูลของประมูลอีกไม่กี่ชิ้นที่เหลือ ฉู่เฉินก็ไม่มีอารมณ์ดูอีกต่อไป เขาและอวี้ลู่เดินออกมาจากงานประมูลพร้อมกันหลินชือหย่าก็เดินมาจากข้างหลังเวที เดินเข้ามาในห้องโถง ในขณะที่เธอต้องการขึ้นไปแสดงความรักกับฉู่เฉิน สักพักเลขาก็วิ่งมาอย่างรวดเร็วแล้วกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของหลินชือหย่า“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”พูดจบ หลินชือหย่าก็รีบเดินตามฉู่เฉินไป “ฉู่เฉิน ฉันต้องกลับไปที่บริษัทก่อนนะคะ มีประชุมสำคัญน่ะค่ะ ฉันจะต้องขัดขวางไม่ให้หลินฟางเจิ้งได้เปิดการประชุม ดังนั้นคงจะไปเป็
เมื่อเห็นหญิงสาวในชุดขาวที่คอยติดตามฉู่เฉินมาโดยตลอด เฉียนเจียวเจียวก็กลัวและรีบเอามือปิดหน้าสีชมพูของเธอไว้ครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็วิ่งหนีไปอย่างเร็วที่สุดจะเป็นชู้ใครก็ต้องรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวบ้างแม้ว่าเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรก แต่เธอก็มีอันดับสูงกว่าเฉียนเจียวเจียวอย่างแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เมื่อเฉียนเจียวเจียววิ่งออกไปไกลแล้ว อวี้ลู่ก็ขมวดคิ้วแน่นพร้อมถามขึ้นมาว่า “พวกเจ้า... เมื่อกี้พวกเจ้าทำอะไรกัน?”หืม?นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เฉินถูกเธอถามจนตอบไม่ถูกคำถามนี้เขาจะตอบอย่างไรดี?นั่นไม่ใช่เพราะอวี้ลู่ไร้เดียงสา แม้ว่าเธอจะเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อายุกว่าพันปี แต่เธอไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเมื่อเปรียบเทียบสิ่งที่หลากหลายในโลกมนุษย์แล้ว โลกเซียนนั่นจืดชืดกว่ามากแม้ว่ามังกรเฒ่าจะหลับนอนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การหลับนอนปกติ ส่วนเรื่องการใช้ปากแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนอวี้ลู่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งวันเอาแต่ขลุกตัวอยู่ที่เหยาฉือตั้งใจบำเพ็ญเพียร แน่นอนว่าเธอไม่เข้าใจเรื่องพรรค์นี้“เอ่อ... เธอปากแห้งน่ะครับ ผมช่วยเติมความชุ่มชื้น”ฉู่เฉินพู
ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เฉียนเจียวเจียวกลับฉี่ราดไม่ใช่เพราะดื่มน้ำมากเกินไป แต่เพราะถูกหลิวจิ่งหงลูบไล้จนหน้าอกจะเป็นมันเงาอยู่แล้วปรากฏว่าหลิวจิ่งหง ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเจ้าชู้ แต่ไม่เคยลงมือทำอะไรจริงจังเลยใครมันจะไปรับได้?เธอแฉะไปหมดแล้ว หากยังไม่ไปห้องน้ำเธอคงจะรักษาหน้าไม่อยู่แน่นอนเฉียนเจียวเจียวควบเท้าไป ไม่แม้แต่จะทักทายหลิวจิ่งหง แต่ฉู่เฉินก็สังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้“เอาล่ะทุกคน เราอย่าไปทำให้คุณชายหลิวลำบากใจเลยครับ เขาจนมากพอแล้ว รูดบัตรเถอะครับ”หลังจากนั้นฉู่เฉินก็รูดบัตรหนึ่งหมื่นห้าพันล้านภายใต้การจับจ้องของทุกคน หลินชือหย่าคลั่งไคล้ฉู่เฉินมากๆ นอกจากราคาประมูลครั้งสุดท้ายของกระถางเก้าดารา ฉู่เฉินก็ไม่ได้จ่ายเงินสักแดงเดียว อีกทั้งเขายังช่วยตระกูลหลินทำเงินมหาศาลนี่มันเร็วกว่าการพิมพ์ธนบัตรเสียอีก“ขอโทษด้วยครับ ผมดื่มน้ำเยอะไปหน่อย ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”รูดบัตรเสร็จ ฉู่เฉินก็ปลีกตัวออกมาจากฝูงชน เขาลูบลูกแพร์ของพิธีกรสาวสวย เขาถึงจะเดินมาทางห้องน้ำด้วยความมั่นอกมั่นใจพิธีกรสาวถึงกับมึนงงเมื่อกี้... เมื่อกี้สุดหล่อผู้ร่ำรวยเหมือนจะจับหน้าอ
ฮ่าๆๆ...ทุกคนต่างพากันหัวเราะลั่นอีกครั้งไอ้กระจอก!“หนึ่งหมื่นสามพันล้านบาทถ้วน...”เสียงของหลิวจิ่งหงสั่นเครือขณะที่น้ำกระเซ็นลงมา และตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไม่สัมผัสมาก่อนอย่างแท้จริง! “ติ้ดๆ จำนวนเงินของท่านไม่เพียงพอ”เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือน หลิวจิ่งหงก็รู้ทันทีว่าเงินในบัตรของเขาเหลือแค่ห้าร้อยล้านเท่านั้นฉิบหาย!ไม่มีเงินแล้ว!“ว๊า คุณชายหลิวไม่มีเงินแล้วจริงๆ เหรอเนี่ย? หากรู้ก่อนว่าตระกูลหลิวจนขนาดนี้ ผมคงจะไม่ล้อเล่นกับคุณชายหลิวแบบนี้ เงินแค่ไม่กี่พันล้านบาทก็จ่ายไม่ไหว มันน่าผิดหวังจริงๆ นะครับเนี่ย”ฉู่เฉินพยักหน้ารัวๆ พร้อมทั้งถอนหายใจหลิวจิ่งหงโกรธจนกล้ามเนื้อจนเนื้อของเขาเต็มไปด้วยโทสะ การเงินของเขาจะแพ้ให้กับไอ้แมงดาฉู่เฉินนั่นได้อย่างไร?“ขอเวลาฉันสองนาที!”พูดจบ หลิวจิ่งหงก็ต่อสายโทรศัพท์ออกไปหลังจากการแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ หลิวจิ่งหงดูเหมือนว่าจะกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งและตะโกนเสียงดังว่า “รูดบัตร!”ตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือน หนึ่งหมื่นสามพันล้านก็ถูกรูดออกไปในขณะนั้นเอง หลินชือหย่าที่อยู่ด้านล่างก็เกือบจะหัวเราะลั่นออกมานี่เป็นงานประ
ไม่มีเงินเหรอ?สามคำนี้ไม่ใช่แค่กำลังเพียงดูถูกดูแคลนหลิวจิ่งหง แต่เป็นดูถูกดูแคลนคนตระกูลหลิว!“โอเคค่ะ”พิธีกรสาวสวยคว้าเครื่องโพสจากพนักงานข้างๆ เธอสั่นหน้าอกใหญ่และบั้นท้ายของเธอ แล้วเดินไปหาฉู่เฉินด้วยสีหน้าตื่นเต้นสุภาพบุรุษที่มีอนาคตเหมือนฉู่เฉินไม่ใช่จะพบเจอได้ในทุกวันแม้ว่าจะมาเพื่อเข้าร่วมงานประมูล แต่คนจำนวนไม่น้อยมาเพราะอยากหลับนอนกับพิธีกรสาวสวยต่างหากแต่คนเหล่านั้นถ้าไม่ใช่ตาแก่หัวงูที่อายุอานามสี่ห้าสิบ ก็เป็นพวกลูกหลานเศรษฐีที่เอาแต่พึ่งพาครอบครัว ไม่ได้ประสบความสำเร็จด้วยตัวเองแต่ฉู่เฉินเขาเป็นคนประสบความสำเร็จมีเงินมหาศาลคนแรกของตระกูล นั่นแหละคือข้อแตกต่างของพวกเขาสมมุติว่าสามารถสนิทสนมกับฉู่เฉินได้มากกว่านี้ หาสถานที่ที่ไม่มีใคร แสดงเทคนิคการใช้ปากของเธอ หรือว่าคิดท่าทางใหม่ๆ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ แล้ว“หยุด!”หลิวจิ่งหงโกรธจนหน้าเขียวแม่งเอ๊ย ในมณฑลนี้มีใครกว่าบอกว่าตระกูลหลิวไม่มีเงินบ้าง?นี่แทบจะเหมือนด่าตระกูลหลิวต่อหน้าต่อตาพวกเขาเลย!“คุณชายหลิว คุณยังมีเงินเหลืออยู่ไหมครับ?ฉู่เฉินพูดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มยียวนกวนประสาท “แ
เขาใช้เงินกว่าร้อยกว่าล้านไปกับประมูลดอกไม้และของเก่าต่างๆในเมื่อเป็นสมบัติล้ำค่า แน่นอนว่าการเสนอราคาก็จะดุเดือดเป็นธรรมดา โดยเฉพาะฉู่เฉินที่เสนอราคาให้สูงลิบลิ่ว แม้ว่าจะใช้เงินประมูลไปร้อยกว่าล้านก็ไม่รับประกันว่าจะสามารถครอบครองสิ่งนั้นได้แต่เขาก็ครุ่นคิดอีกครั้ง ฉู่เฉินมันก็แค่ไอ้แมงดา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าฉู่เฉินจะท้าทายเขาขนาดนี้!เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวจิ่งหงก็ชูป้ายขึ้นมาทันที “สองพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน!”คำพูดนี้ออกไป เหล่าสาธารณชนที่อยู่ข้างล่างเวทีต่างพากันสูดลมหายใจเหน็บหนาว ราคาเริ่มต้นที่ห้าร้อยล้าน หลิวจิ่งหงเสนอราคาไปสองพันห้าร้อยล้าน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นเสนอราคาแข่งกับเขาสักพักสายตาของทุกคนก็หันไปมองฉู่เฉินนัยน์ตางดงามของพิธีกรก็มองไปทางฉู่เฉินเช่นกันหากได้รับราคาประมูลยิ่งสูง ส่วนแบ่งที่เธอจะได้ก็จะยิ่งเยอะเข้าไปอีก แม้ว่าฉู่เฉินจะทำเพื่อความสนุก แต่เธอก็ได้รับประโยชน์มาไม่น้อยเช่นกันฉู่เฉินปอกส้มเป็นชิ้นแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นหยิบป้ายประมูลขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า “ห้าพันล้านบาทถ้วน”ซี้ดๆ !ทุกคนที่อยู่ในงานต่างพากันจับจ้องฉู่เฉินอย่างตะล
“เจ้ารู้จักกระถางเก้าดาราด้วยหรือ?”อวี้ลู่มองไปที่ฉู่เฉินด้วยสายตาที่ประหลาดใจกระถางเก้าดาราเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่โลกเซียนเอง และยังเป็นของวิเศษสำคัญที่ใช้จัดเตรียมค่ายกลเก้าดาราสังหารอีกด้วยพลังของค่ายกลเก้าดาราสังหารแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปราณของแต่ละบุคคลอีกด้วย เช่นเดียวกับฉู่เฉินตอนนี้ หากเขาสร้างค่ายกลเก้าดาราสังหารขึ้นมา เขาก็สามารถฆ่าคนที่อยู่ระดับเดียวกับเขาได้ทันทีแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญที่เก่งกว่าเขาสองระดับ เขาก็สามารถทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน หากจำนวนของฝ่ายตรงข้ามไม่มากเกินไป เขาก็สามารถฆ่าได้ตามใจ“แปลกใจเหรอครับ?”ฉู่เฉินคลี่ยิ้มนิ่งๆ ให้กับอวี่ลู่ วิชาของมังกรเฒ่าครอบคลุมทุกสิ่งจะไม่มีได้อย่างไร?แม้ว่ากระถางเก้าดาราจะไม่ได้มีประโยชน์กับฉู่เฉินในตอนนี้มากนัก แต่ในภายภาคหน้าเขาจะต้องได้ใช้แน่นอน เพราะอย่างไรฉู่เฉินก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าเขาจะไปทำให้ผู้มีอิทธิพลคนไหนไม่พอใจหรือไม่และคนที่อยู่ข้างกายเขาจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเสมอค่ายกลเก้าดาราสังหารเป็นตัวเลือกที่ไม่แย่“ต่อไปคือสินค้าประมูลชิ้นแรกของวันนี้ นั่นคือภาพวาดราชาสวรรค์ประทานโอร
หลินชือหย่าพยักหน้าแรง ๆ แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อย “ฉู่เฉิน เมื่อกี้คุณล่วงเกินหลิวจิ่งหงไปแล้ว ฉันเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับคุณจริง ๆ”ถ้าเกิดบอกว่าตอนที่อยู่ชั้นหนึ่งเป็นเพียงการตบหน้าหลิวจิ่งหงด้วยคำพูด เช่นนั้นเมื่อกี้ ฉู่เฉินก็แตะขีดจำกัดล่างของตระกูลหลิวแล้ว ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าฉู่เฉินเตะแรงแค่ไหน แต่ดูจากสภาพของหลิวจิ่งหง เกรงว่าอสุจิของรุ่นถัดไปคงจะไหลจนแห้งเหือดหมดแล้ว ฐานะของตระกูลหลิวในเมืองเอกของมณฑลไม่ใช่แค่อาศัยความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเท่านั้น ได้ยินว่าตระกูลหลิวยังเป็นลูกศิษย์นอกสำนักอะไรสักแห่งด้วยเมื่อหลายปีก่อน หลิวฮ่าวฮุยบิดาของหลิวจิ่งหงก็อาศัยพลังยุทธ์บดขยี้โลกใต้ดินแทบจะทั่วทั้งเมืองเอกของมณฑล ถึงได้สร้างอาณาเขตธุรกิจของตระกูลหลิวในปัจจุบันถ้าตระกูลหลิวพุ่งเป้ามาที่ฉู่เฉิน ผลที่ตามมานั้นไม่กล้าจินตนาการจริง ๆ“ไม่เป็นไร ตระกูลหลิวแล้วยังไง ตราบใดที่พวกเขากล้ามา ผมก็กล้าฝังมัน!” ฉู่เฉินหัวเราะหยัน เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “จำไว้นะ คุณเป็นผู้หญิงของฉู่เฉิน ในโลกนี้ ใครก็ทำร้ายคุณไม่ได้ทั้งนั้น”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของฉู่เฉิน หลินชือหย่าอดไม่ได้ที่จ