ฉู่เฉินยิ้มอย่างเยือกเย็น ในใจมีแต่ไฟร้อนรุ่ม “เพียะ” เสียงนี้ เขาตบบั้นท้ายของหลิ่วชิงเหออย่างแรง“อ๊ะ...” หลิ่วชิงเหอร่างกายสั่นไปหมดตอนนี้เธอไม่เข้าใจเลยว่าฉู่เฉินลงโทษหรือตอบสนองเธอกันแน่เธอเกลียดฉู่เฉิน เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตาย!แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะให้ฉู่เฉินทำแบบนี้กับเธอต่อไปอีก“พอแล้ว! มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ตอนนี้ลูกกลับห้องตัวเองไปทบทวนให้ดี พรุ่งนี้เช้าแม่จะไปตรวจจดหมายทบทวนของลูก!” หลิ่วชิงเหอพูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม ใบหน้าแดงระเรื่อ ยั่วยวนคนเป็นอย่างมาก“แม่...”เสียงกระทืบเท้าของหลิ่วหรูเยียนดังเข้ามาจากข้างนอก ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้แม่ตัวเองถึงได้ดุแบบนี้ทั้งยังยืนกรานให้เธอกลับห้องตัวเอง“กลับไป!” หลิ่วชิงเหอตะคอกด้วยความโมโหหลิ่วหรูเยียนตกใจ รีบปล่อยมือออกจากกลอนประตู พึมพำขึ้นมาว่า “รู้แล้วค่ะ หนูจะกลับไปตอนนี้แหละค่ะ”หลังจากพูดอย่างนั้นหลิ่วหรูเยียนก็พึมพำ หันหลังและจากไป แต่หลังจากเดินไปได้สองก้าว เธอก็มองไปที่ประตูอย่างสงสัยพร้อมกับพึมพำอีกครั้งว่า “แปลก เสียงจากในห้อง มันแปลกๆ... ทำไมมันถึงเสียงเหมือนกับ...”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกตัวขึ
ฉู่เฉินแค่นหัวเราะ สายตาจ้องหลิ่วหรูเยียนอย่างกำเริบเสิบสาน จ้องมอง รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอรูปร่างอวบอัดตั้งตรง ผิวพรรณขาวละเอียดสูงโปร่งหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสายตาของฉู่เฉิน ก็รู้สึกขยะแขยงราวกับโดนแมลงสาบไต่ไปทั่วทั้งตัวแต่เธอไม่เขินอายหรือตื่นเต้นเลยสักนิด ในทางกลับกันยังเดินเข้าไปหาฉู่เฉินอย่างอวดดีและกล้าหาญยิ่งกว่าเดิม ไม่สนใจเสื้อคลุมอาบน้ำที่อ้าออกเลยสักนิด มือสองข้างกอดอก ยิ่งทำให้หน้าอกอันอวบอัดให้ใหญ่โตยิ่งกว่าเดิม กล่าวอย่างเหยียดหยาม“มองอะไร? สวะ!”“แกคิดว่าคืนนี้แกช่วยฉันเอาไว้ ฉันจะตอบแทนบุญคุณของแกอย่างซาบซึ้งใจอย่างนั้นเหรอ?”“ฉู่เฉิน แกคิดมากเกินไปแล้ว!”“คืนนี้ ความอัปยศที่แกทำกับฉัน ฉันจะจำเอาไว้ในหัวใจ!”“ตอนนี้ แกรีบคุกเข่าลงไป โคกหัวให้ฉันหนึ่งร้อยที ฉันจะปล่อยให้แกไสหัวไป!”“ไม่อย่างนั้น ฉันจะเตะขาแกให้หัก!”ในมุมมองของหลิ่วหรูเยียน ฉู่เฉินหมอนี่ก็คือคนชั่วชั่วมิเสื่อมคลายจะต้องเป็นเพราะข้างนอกไม่มีที่ซุกหัวนอน ถึงได้แอบบุกเข้ามาผลรากฎว่า ถูกตนเองจับได้คาหนังคาเขา“เหอะ ๆ หลิ่วหรูเยียน เธอนี่มันอวดดีมากเลยนะ”ฉู่เฉินสองมือล้วง
“ตอนนี้ลูกน่าจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแม่ถึงได้ขวางลูกเอาไว้แล้วใช่ไหม” หลิ่วชิงเหอกล่าวเสียงเย็นชาหลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้ว เบะปากกล่าว “ถึงอย่างนั้นแล้วจะยังไง ต่อให้ป้าอู๋ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน พวกเราก็ยังสามารถหาคนที่เก่งกว่ามาจัดการมันได้อยู่ดีนี่คะ!”“ไอ้หมอนี่ ภายในระยะไม่กี่วัน ก็เก่งกาจขึ้นขนาดนี้ บนตัวจะต้องมีความลับอะไรแน่!”“หนูกล้ารับรองเลยว่า จะต้องเป็นเพราะกายาโอสถสวรรค์นั้นของมันแน่ ถึงสามารถทำให้มันเร่งฝึกวรยุทธ์ได้หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างคาดเดาหลิ่วชิงเหอครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าว “ไม่ว่าจะยังไง ต่อไป หากเจอฉู่เฉิน ลูกก็ต้องเลี่ยง ๆ หน่อย ไอ้หมอนี่ ร้ายกาจกว่าที่ลูกคิด...”“แม่กังวลว่า เขาจะเป็นผลเสียกับลูก”ตอนที่พูดประโยคนี้ ภายในหัวสมองของหลิ่วชิงเหอมีภาพร่วมรักกับฉู่เฉินที่ในห้องนอนเมื่อครู่นี้ปรากฏขึ้นโดยไม่รู้ตัวอัปยศ!น่าอัปยศมาก!น่าโมโห!น่าโมโหที่สุด!น่ารังเกียจ ตนกำลังคิดอะไรอยู่?หลิ่วชิงเหอตกใจ คิดไม่ถึงว่าตนยังจะหวนคิดถึงภาพและความรู้สึกของการฟาดฟันอันน่าเร้าใจกับฉู่เฉินเมื่อครู่นี้อยู่อีก“แม่ กลัวอะไร หนูมีเพื่อนอยู่หลายคน เป็นตระกูลผู้ฝึกยุทธ์แห่ง
“ต่อให้ต้องพลิกสวรรค์เก้าชั้นฟ้าสิบชั้นโลก ข้าก็จะต้องเลาะเอ็นมังกร ทำลายจิตวิญญาณของเจ้าให้ดับสูญ!”หญิงสาวเอ่ยปากพูด แรงอาฆาตพลุ่งพล่าน!ในเวลาเดียวกัน นางก็ขมวดคิ้วทันที สัมผัสกลิ่นอายบริเวณรอบ ๆ กล่าวอย่างประหลาดใจ “เอ๊ะ? สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามกนั่นแล้วแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้หายไปเสียได้...”“หรือว่า เขาเข้าสิงร่างงั้นเหรอ?”“ฮึ! มังกรลามก เจ้าคิดว่าเข้าสิงร่างแล้ว ข้าจะตามหาตัวเจ้าไม่เจออย่างนั้นหรือ?”หญิงสาวที่รูปโฉมราวกับนางฟ้า เย็นชาขึ้นภายในพริบตา“ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”หญิงสาวเอ่ยปากกล่าวอย่างเย็นยะเยือก เสียงปานกระดิ่งฮ่าวเทียน สั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ!นี่คือพลังจิตส่งเสียงอย่างหนึ่ง ผู้ที่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณจะไม่ได้ยินผลสุดท้าย หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง บริเวณรอบ ๆ ก็เงียบสงัด“หือ? ผู้บำเพ็ญเต๋าของที่แห่งนี้ ระดับต่ำถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ไม่มีแม้กระทั่งผู้บำเพ็ญระดับทารกวิญญาณเชียวหรือ?” หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยปากกล่าวต่อไป “ผู้บำเพ็ญระดับควบแก่นแท้ ณ ที่นี้ จงรีบมาหาข้า!”ว่างเปล่า เงียบสงัดหญิ
“คิดไม่ถึงเลย ๆ ข้าซ่งชิงอวิ๋นบำเพ็ญมาตลอดทั้งชีวิต จะได้รับความเป็นอมตะ ในช่วงบั้นปลายชีวิตเช่นนี้” ในใจของซ่งชิงอวิ๋นปลื้มปีติ กลับไปที่สำนักชิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งประกาศปิดสำนัก ปิดสำนักทันที!ในเวลาเดียวกันสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือที่ลงมายังโลกมนุษย์ ได้เดินทางเข้าสู่เมืองเจียงจงแล้ว ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นไม่น้อยพวกอันธพาลสองสามคนกำลังวิพากษ์วิจารณ์นาง“ไอ้เหี้ย! สวยฉิบหายเลยเว้ย! นี่มันนักคอสเพลย์เทพเซียนอะไรกันวะ?”“ไอ้สัตว์! ทั้งรูปร่าง นม เอว ขา ผิวพรรณ พี่ ๆ ว่าเป็นยังไง?”เด็กหนุ่มทั้งหลายคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เข้าใจกันความหมายของกันและกันทันที ขวางสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือเอาไว้“คนสวย ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ทันทีที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากพูด สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือยกมือโบก โครม ๆ ๆ เด็กหนุ่มทั้งหลายลอยกระเด็นออกไปทันที ตกลงบนพื้น อาเจียนออกมาเป็นเลือด หมดสติ“ไอ้ลามก! ตายซะ!”สตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือกล่าวเสียงเย็นชา สาวเท้าเดินจากไปจากนั้น ดวงตาของนางเบิกกว้าง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมังกรลามก ภายในชั่วพริบตา ทันทีร่างกะพริบ ก็หายตัวไปจากถนนในเวลาเดียวกัน ฉู่เฉ
“หมอเทวดาฉู่?” ไป๋หลิงเผยอปากเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ รีบโทรศัพท์หากู้รั่วเสวี่ย “คุณหนู ฉันเจอกับหมอเทวดาฉู่ฉู่เฉินที่กรมพาณิชย์และอุตสาหกรรมด้วยค่ะ ดูท่าทาง เหมือนว่าเขาจะจดทะเบียนบริษัท”“จดทะเบียนบริษัท?”ปลายสายทางด้านนั้น สวมชุดนอนบางเบานอนอยู่บนเตียง หลังจากที่กู้รั่วเสวี่ยที่กำลังนอนเผยขาขาวดุจหิมะที่เรียวยาวได้ยิน ก็ลุกขึ้นนั่งทันที กล่าวถาม “เธอแน่ใจไหม?”“แน่ใจค่ะ เมื่อครู่นี้ฉันแอบมองแวบหนึ่ง ชื่อว่าซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลค่ะ” เลขาสาวตอบเมื่อกู้รั่วเสวี่ยได้ยินดังนั้น ก็กล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันรู้แล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”“ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลใช่ไหม?”“เธอรีบเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลย ขอเพียงแค่บริษัทจดทะเบียนสำเร็จ ใช้ชื่อของฉัน ลงทุนในหุ้นห้าร้อยล้าน! ไม่ ห้าพันล้าน!”“ฉันอยากจะช่วยฉู่เฉินทำให้ซินฉู่ฟาร์มาซูติคอลกลายเป็นบริษัททางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเจียงจง!”“เข้าใจแล้วค่ะคุณหนู” เลขาสาวพยักหน้าแล้วกดวางสายกู้รั่วเสวี่ยเองก็ลุกขึ้นอย่างรีบร้อน ทันทีที่เปิดตู้เสื้อผ้า ก็เห็นเสื้อผ้าที่เรียงรายละลานตา จับคางขาวมน ครุ่นคิดว่าจะใส่ชุดไหนดี‘ชุดนี้ไม่เลว สะอาดบริสุทธิ์ ฉู่เฉ
อินซู่ซู่ตกตะลึงไปทันที กัดริมฝีปากแดง พยักหน้ากล่าวเสียงอ่อย “ได้...”“เรียกนายท่านให้ฟังหน่อยสิ” ฉู่เฉินกล่าวพร้อมรอยยิ้มอินซู่ซู่ลังเลเล็กน้อย กัดริมฝีปาก แก้มแดงก่ำ กล่าว “นายท่าน”“อืม ไปกันเถอะ ไปที่โรงแรม” ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบเฉยอินซู่ซู่ตกตะลึง สีหน้าตื่นเต้นอะไรนะ?โรงแรม...เขาคิดจะทำอะไร?ภายใต้ความลังเลเล็กน้อย อินซู่ซู่สีหน้าทั้งเขินอายทั้งโกรธ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่เพียงกัดฟัน จำต้องเดินตามฉู่เฉินออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำในไม่ช้า ทั้งสองคนก็มาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้น เปิดห้องเช็กอิน ทุกอย่างเสร็จอย่างรวดเร็วเข้าไปในโรงแรมแล้ว อินซู่ซู่สีหน้าแดงก่ำ เหมือนกับแอปเปิลที่สุกจัด ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลยสักนิด“มัวยืนอยู่ทำไม? ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน” ฉู่เฉินกล่าว หันหลังแล้วเดินเข้าห้องน้ำอินซู่ซู่ตกตะลึง ร่างกายสั่นระริก ร่างกายเกร็งไปหมดถอดแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงงั้นเหรอ?เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เขาอยากจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธออินซู่ซู่คิดหนักเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอโตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมาเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่นม
กู้รั่วเสวี่ยวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาหา ถอดแว่นกันแดด โอบแขนของฉู่เฉิน นำหน้าอกที่อวบอิ่มเบียดเข้ากับแขนของเขา กล่าวพร้อมรอยยิ้มหวาน “คิดถึงคุณ ไม่ได้เหรอคะ?”ฉู่เฉินเขินอายเล็กน้อย กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “พอแล้วครับ มาหาผมมีธุระอะไรครับ?”“ได้ข่าวว่าคุณเปิดบริษัทเหรอคะ?” กู้รั่วเสวี่ยเข้าเรื่องทันทีฉู่เฉินกล่าว “ข่าวสารของคุณไวจังเลยนะครับ”“ฉันลงทุนหุ้นให้คุณเป็นยังไงคะ? สักห้าร้อยล้าน” กู้รั่วเสวี่ยถาม“ห้าร้อยล้าน?” ฉู่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย ย้อนถาม “เพราะอะไร?”“ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร นั่นก็เป็นเพราะฉันเชื่อคุณยังไงล่ะคะ บริษัททางการแพทย์ที่หมอเทวดาฉู่เปิด จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งวงการการแพทย์เมืองเจียงจงแน่นอน กลายเป็นยักษ์ใหญ่ ลงทุนหุ้นตอนนี้ ต่อไปจะต้องได้กำไรงามแน่” กู้รั่วเสวี่ยกล่าวพร้อมกับยิ้มหวานฉู่เฉินยิ้ม ถาม “คุณไม่กังวลว่าจะขาดทุนเลยเหรอ?”กู้รั่วเสวี่ยส่ายหน้า “ขาดทุนก็ขาดทุนไปสิคะ ฉันไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินสักหน่อย”เมื่อฉู่เฉินได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกจนปัญญานี่ก็คือคุณหนูของตระกูลกู้สินะ ห้าร้อยล้าน จะขาดทุนก็ช่าง“ตามใจคุณเลยครับ” ฉู่เฉินกล่าวมีคนลงทุนถือเป
......อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่จิงจิงย้ายเครื่องออกกำลังกายที่ตนจัดเตรียมไว้อย่างดีออกมา ขณะเดียวกันก็หยิบรองเท้าบาเลนเซียกาคู่ใหม่สองคู่จากลิ้นชักเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ทำไมฉู่เฉินยังไม่มาสักที?เธอร้อนใจมากจริงๆเวลาเป็นเงินเป็นทอง เวลาคือชีวิตสิ่งสำคัญก็คือบ่ายวันนี้สามีของเธอจะมารับเธอไปร่วมงานเลี้ยงของตระกูลอีกด้วยรอไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง หลี่จิงจิงรีบร้อนจนรอไม่ไหว สุดท้ายจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาฉู่เฉินผ่านไปเกือบครึ่งนาที ฉู่เฉินถึงจะรับสาย แต่ในวินาทีถัดมา หลี่จิงจิงก็ได้ยินเสียงหอบหายใจคุ้นเคย และเสียงการปะทะที่รุนแรงคงไม่ใช่มั้ง?ร่างของหลี่จิงจิงแทบจะกลายเป็นหิน เพื่อการพบกันครั้งนี้ เธออุตส่าห์ตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาแล้วหลายวัน แต่กลับถูกลีน่าชิงตัดหน้าไปก่อน?“รอผมอยู่ในออฟฟิศ อีกเดี๋ยวก็ถึง”ฉู่เฉินพูดจบ โดยไม่รอให้หลี่จิงจิงเอ่ยปาก ก็ตัดสายโทรศัพท์ไปขณะที่หลี่จิงจิงรออย่างกระวนกระวายใจ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเปิดออก และฉู่เฉินก็ผลักประตูก้าวเข้ามา“คุณก็กล้าเกินไปแล้ว ในห้องผู้ป่วยก็..
ฉึก!ขณะที่ลีน่ากำลังส่ายก้นอวบอิ่มและโพสท่าเย้ายวน ทันใดนั้นฉู่เฉินก็ดึงเข็มเงินออกมา แทงเข้าที่ภายในจุดฝังเข็มกลางยอดศีรษะของแรนด์แรนด์เพียงรู้สึกว่าเลือดลมทั้งหมดในร่างกาย ราวกับจะพุ่งไปที่ยอดศีรษะพร้อมๆ กันในทันที และสมองที่มึนงงก็เปลี่ยนเป็นตื่นตัวขึ้นไม่น้อยบางทีอาจเป็นเพราะเลือดลมสูบฉีด แรนด์เพียงรู้สึกว่าปากและลิ้นแห้งผาก ภายในปากราวกับว่ามีไฟลุกโชนอยู่“ลีน่า…”เดิมที แรนด์คิดจะขอให้ลีน่าช่วยเทน้ำให้เขาสักแก้ว แต่เมื่อหันศีรษะไป กลับเห็นก้นกลมกลึงและอวบอิ่มของลีน่า ทันใดนั้นก็สับสนไปหมด“โอ้ พระเจ้า คุณ...คุณกำลังทำอะไรอยู่!”ในวินาทีถัดมา ดวงตาของแรนด์ก็แดงก่ำเขาเกือบจะพิการแล้ว ลีน่าหญิงโสมมนี่ ถึงกับถกชายกระโปรงขึ้นและส่ายก้นงั้นเหรอ?อ๊าย?!เมื่อได้ยินเสียงของแรนด์ ลีน่าก็ตกใจเหมือนกันไม่ใช่ว่าเพิ่งวางยาชาทั้งตัวมางั้นเหรอ?ทำไมถึงฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ล่ะ?ไม่มีเวลาคิดมาก ลีน่ารีบร้อนดึงชายกระโปรงลง หันกลับมาแล้วกล่าวกับแรนด์ว่า “เอ่อ... ฉัน... ฉันรู้สึกร้อนนิดหน่อย จึงคลายร้อนสักหน่อยน่ะ”เมื่อเห็นเข็มเงินแทงลงบนไปที่จุดไป่ฮุ่ยบนยอดศีรษะของแรนด์ ลีน่าจึงเหล
เมื่อถูกสองก้อนเนื้ออ่อนนุ่มถูไปไถมาบนแขน ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตีสะโพกอวบของหลี่จิงจิงหนึ่งครั้ง“แหมๆ ชั่วร้ายจังเลย ไปดูคนไข้ก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะไปรอคุณอยู่ที่ออฟฟิศนะ”พูดถึงตอนนี้ หลี่จิงจิงจึงกัดริมฝีปากสีแดงโดยไม่รู้ตัวอย่างอดใจไม่ไหว ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย ยิ่งเต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ผลิ“ไปเถอะ ไปดูคนไข้กัน”ฉู่เฉินโอบรอบเอวของหลี่จิงจิง แล้วเดินไปยังตึกผู้ป่วยในเมื่อมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยพิเศษชั้นห้า พบว่าหน้าประตูรายล้อมไปด้วยแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลประชาชน“ทุกคนหลีกทางหน่อยค่ะ”ทันทีที่เสียงของหลี่จิงจิงดังขึ้น เหล่าแพทย์พยาบาลต่างพากันถอยออกไปด้านหนึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญอาวุโสสวมแว่นกรอบดำวัยประมาณห้าสิบกว่าปี เขาใช้คีมคีบส่วนนั้นที่เฉาใกล้ตายของแรนด์ ก่อนจะถอนหายใจและกล่าวว่า “จากประสบการณ์ทางการแพทย์กว่าสามสิบปีของผม ทางที่ดีที่สุดคือการตัดออกครับ”“ไม่งั้น เนื้อเยื่อที่ตายแล้วอาจลุกลามไปทั่ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้”แรนด์ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เมื่อได้ยินคำพูดนี้ถึงกับหมดอาลัยตายอยากแม้แต่ตัวเขาเองก็รู้สึกสับสน ตอนกินข้าวกับฉู่เฉินยังดีๆ อ
ฉู่เฉินฝืนใจกล่าวว่า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติผู้ว่าการเฉียวแล้วกัน”“เฮ้อ น้องฉู่ เกรงใจกันเกินไปแล้ว เรียกพี่ใหญ่สิ บอกนายกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกพี่!”เฉียวเทียนฉี่วางสายด้วยความโล่งอกฉู่เฉินเพิ่งเดินกลับมาที่ห้องโถงหน้า โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าหลี่จิงจิงโทรมา ฉู่เฉินก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ขุนพลเทียนเฟิ่งท่านนี้ นี่คือสืบลำดับวงศ์ตระกูลของตนมาจนหมดแล้วสินะ?แม้แต่ความสัมพันธ์ของหลี่จิงจิงล้วนงัดมาใช้แล้ว!“ผมตอบรับคำเชิญผู้ว่าการเฉียวแล้ว คืนนี้จะไปร่วมงานเลี้ยง”ฉู่เฉินรับสายด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดหลี่จิงจิงที่ปลายสายเงียบไปถึงสามวินาที ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณฉู่ คุณพูดเรื่องอะไรคะ? ฉันไม่เข้าใจเลย?”ฉู่เฉินก็กล่าวด้วยความสับสน “คุณไม่ได้โทรมาเชิญผมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับอะไรนั่นเหรอ?”“ไม่ใช่นะคะ! ฉันตั้งใจโทรมาขอความช่วยเหลือจากคุณต่างหาก”หลี่จิงจิงกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน“เกิดอะไรขึ้น? พูดเถอะครับ”ฉู่เฉินกล่าวไปพลาง ดื่มชาหนึ่งอึกไปพลาง“คุณฉู่ เราเพิ่งรับคนไข้เข้ามา อาการวิกฤตอย่างมาก ด้วยระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลเรา เกรงว่า… เกรงว่าจะท
งานเลี้ยง?ฉู่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “คงไม่ใช่งานเลี้ยงของหอการค้ากิเลนอีกใช่ไหม? ถ้าใช่ล่ะก็ งั้นก็ช่างเถอะ”ในเมื่อทุกคนเปิดไพ่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาพูดจาเกรงใจกันให้มากความอีก ใช้พลังพูดแทนก็พอ“หอการค้ากิเลน? ไม่ใช่หรอก ฉู่เฉิน แกเข้าใจผิดแล้ว เป็น... งานเลี้ยงต้อนรับของขุนพลเทียนเฟิ่ง เมื่อถึงเวลา ผู้มีชื่อเสียงมากมายในเจียงจง แม้กระทั่งเจ้าเมืองต่างจะมาร่วมงานเหมือนกัน”“ฉันคิดว่า… ถ้าสามารถผูกมิตรกับขุนพลเทียนเฟิ่งได้ ก็น่าจะเป็นการข่มขวัญหอการค้ากิเลนได้ด้วย แกคิดว่าอย่างไร?”ฉู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะแกร่งก็ต้องแกร่งให้ได้ด้วยตัวเอง การผูกมิตรกับเธอจะให้อะไรฉันได้บ้าง? โทษทีนะ ฉันไม่สนใจ”พูดจบ ฉู่เฉินก็ตัดสายโทรศัพท์ทันที......ขณะนั้น บนทางด่วนข้ามมณฑล หลิ่วชิงเหอมองโทรศัพท์ที่สายไม่ว่าง มองไปซ่งหนิงซวงด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แล้วกล่าวว่า “ท่านขุนพลคะ ฉู่เฉินเขา...”ซ่งหนิงซวงแค่นเสียงเบาหนึงเสียง ฉู่เฉินคนนี้ช่างบ้าบิ่นไร้ขอบเขตจริงๆเมื่อกี้บทสนทนาระหว่างหลิ่วชิงเหอกับฉู่เฉิน เธอได้ยินอย่างชัดเจนทั้งหมดถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้คง
การหลอมยาวิญญาณเซียนนั้น ไม่ใช่ว่ามีสูตรยาและวัตถุดิบยาแล้วจะทำได้ นั่นต้องอาศัยนักหลอมยาชั้นยอดเท่านั้นแม้แต่ในเก้าสวรรค์สิบพิภพ คนที่สามารถหลอมยาพลังวิญญาณนี้ออกมาได้มีน้อยจนนับนิ้วได้ ไม่อย่างนั้นยาวิญญาณเซียนก็คงไม่เป็นที่ต้องการมากขนาดนั้น“เจ้าพูดจริงหรือ?”อวี้ลู่มีสีหน้าจริงจัง กล่าวย้ำถามกับฉู่เฉินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉู่เฉินพยักหน้าหนักแน่นก่อนตอบว่า “แน่นอน ก็แค่ยาวิญญาณเซียนเม็ดเล็กๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องเล็กน้อย”เมื่อเห็นฉู่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ อวี้ลู่ก็อดจ้องเขาด้วยความสงสัยไม่ได้เมื่อเห็นว่าสายตาของอวี้ลู่ราวกับจะมองทะลุตัวเอง ฉู่เฉินจึงกล่าวด้วยความสงสัย “พี่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นทำไม?”ดวงตาคู่สวยของอวี้ลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยขึ้น “ยามนี้ข้าสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาจากโลกมนุษย์จริงหรือไม่? เท่าที่ข้ารู้มา ในโลกมนุษย์ไม่มีบันทึกของยาวิญญาณเซียน แล้วเจ้ารู้สูตรยาได้อย่างไร?”“อีกอย่าง เจ้าคงไม่เคยหลอมยาวิญญาณเซียนมาก่อน แล้วเหตุใดจึงมั่นใจนักว่าจะสามารถหลอมยาได้สำเร็จ?”“หรือว่า ภายในร่างกายของเจ้ายังมีอีกดวงวิญญาณหนึ่งอาศัย
“ข้า…”อวี้ลู่ยกมือเล็กขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงการตบครั้งก่อนที่เกือบทำให้ตนต้องจบชีวิตไป ในที่สุดก็ยอมแพ้แล้วฉู่เฉินใช้วิธีเดิมที่ทำเมื่อกี้นี้ หลังจากทำซ้ำหลายครั้ง มังกรคำรามหดตัวลงจนเหลือขนาดแค่หนึ่งนิ้วจากนั้นฉู่เฉินก็เรียนรู้วิธีของอวี้ลู่เพื่อให้มังกรคำรามกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังจากผ่านไปหลายครั้ง ในที่สุดฉู่เฉินก็สามารถควบคุมได้อย่างอิสระแล้วอินซู่ซู่ที่อยู่ข้างๆ มองตาค้าง ที่แท้แล้วนายท่านก็เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?“นาย... นายท่าน ฉันก็อยากได้ของวิเศษแบบนี้บ้างค่ะ”อินซู่ซู่อดไม่ได้ที่จะพูดออกไปฉู่เฉินยังไม่ทันจะพูดอะไร อวี้ลู่ก็หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเห็นเขาดูร่ำรวยถึงเพียงนั้นเลยหรือ? ทั้งตัวเขาก็มีแค่ของวิเศษระดับต่ำที่สุดเพียงชิ้นเดียว”ในฐานะที่เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์เหยาฉือ ของวิเศษระดับเหลืองนั้นไม่เข้าตาอวี้ลู่เลยแม้แต่น้อย ถ้าโยนลงไปบนพื้น อวี้ลู่ก็คร้านจะก้มลงไปเก็บฉู่เฉินเหลือบมองอวี้ลู่ ก่อนจะมุ่ยปากกล่าวว่า “ถ้าพี่รวยมากนัก ก็เอาของมาแบ่งให้ทุกคนบ้างสิ?”อวี้ลู่ขมวดคิ้ว มองฉู่เฉินอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าฝึกวิชาของสำนักใดมา? คงไม่
ในห้องหลอมอาวุธของวิลล่าเฟิ่งหมิง ฉู่เฉินกำลังตั้งใจหลอมกระบี่วิญญาณชิงหลงเมื่อกระบี่วิญญาณชิงหลงถูกหลอมรวม ในที่สุดกระบี่เล่มนั้นในมือของฉู่เฉินก็พัฒนาไปเป็นของวิเศษระดับเหลือง“ตูม!”มังกรตัวเล็กหนึ่งตัวเลื้อยอยู่บนตัวกระบี่สีครามฉู่เฉินถ่ายพลังวิญญาณเข้าตัวกระบี่ ทันใดนั้นปราณมังกรเพลิงก็ระเบิดออกไปไกลถึงสิบเมตรไม่เพียงเท่านี้ ของวิเศษระดับเหลืองนี้ยังเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณกับฉู่เฉิน ไม่ว่าจะเป็นคมกระบี่หรือการใช้ ล้วนคล่องแคล่วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแม้แค่การฟันธรรมดาๆ เพียงครั้งเดียว ก็สามารถเพิ่มผลลัพธ์ได้มากกว่าสิบเท่าฉู่เฉินประเมินกระบี่ยาวในมือแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องหลอมอาวุธมายังพื้นที่โล่งกว้างหลังภูเขา จากนั้นฉู่เฉินจึงฟันกระบี่ออกไปอย่างรุนแรงตูม!ในพริบตาเดียวพื้นดินก็แยกออกเป็นร่องยาวขนาดยี่สิบกว่าเมตรและลึกลงไปมากกว่าหนึ่งเมตรและในขณะที่ฉู่เฉินฟันกระบี่นั้น ราวกับมีมังกรคำรามดังสะเทือนทั่วทุกทิศทาง“มังกรคำราม?”แม้แต่ฉู่เฉินก็ยังรู้สึกตกใจเล็กน้อย!สามารถกล่าวได้ว่าเมื่อกี้ฉู่เฉินใช้พลังเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์ท
กล่าวเสร็จหานอวี้ก็หันกายเดินไปทางหลังจวน เพิ่งจะถึงประตูก็หยุดฝีเท้าอย่างกะทันหัน แล้วหันกลับมากล่าวกับซ่งหนิงซวงว่า “ใช่แล้ว ศิษย์น้องเจ็ด ใบรับรองอะไรนั้นรีบส่งมาให้ฉันได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการเข้า ๆ ออก ๆ จะสะดุดตาเกินไป”ซ่งหนิงซวงได้ยินแล้วก็ยิ้มยิงฟัน และเอาเล่มเล็ก ๆ สีฟ้าออกมายื่นให้หานอวี้พร้อมกล่าว “นี่เป็นใบรับรองแพทย์ส่วนตัวของฉัน รับไปสิ ศิษย์พี่ไม่เพียงเข้าออกจวนขุนพลได้อย่างสะดวก สถาบันทางการแพทย์ใหญ่ ๆ แต่ละแห่งก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน”“ไม่เลวเลยทีเดียว”หานอวี้รับเอกสารมา และกล่าวพร้อมโบกมือให้ซ่งหนิงซวง “เดินทางระวังด้วยล่ะ ฉันได้ยินว่าตอนนี้คนจากวังเทียนเจี้ยนก็อยู่ที่มณฑลเจียงเช่นกัน ไม่มีเรื่องได้ก็อย่ามีเรื่องจะดีที่สุด”กล่าวเสร็จหานอวี้ก็รีบเดินไปยังด้านในที่พักซ่งหนิงซวงมองแผ่นหลังของหานอวี้อย่างเนิ่นนานแล้วจึงกวักมือเรียกทหารหญิงคนหนึ่งมาและกล่าว “ให้หลิ่วชิงเหอรีบมาถึงและรอที่ห้องโถงรับรองจวนขุนพล บ่ายวันนี้ร่วมเดินทางกลับไปยังเจียงจงพร้อมกับฉัน”“รับทราบค่ะ!”ทหารหญิงขานรับแล้วรีบวิ่งออกไปจากจวนขุนพลซ่งหนิงซวงก็กลับเข้าห้องของตัวเอง เปลี